บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

Share : facebook share line share.png twitter share messenger share

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย



สวัสดีค่ะใครสนใจประวัติศาสตร์ มวยไทย ( Muay Thai ) บ้างคะกว่าจะมาเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) ในทุกวันนี้ต้องย่อมมีครู หรือ ผู้ฝึกสอนเผยแพร่วิชา วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ บุคคลสำคัญของ มวยไทย ( Muay Thai ) กันค่ะ

 

 

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย ในประวัติศาสตร์

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยกรุงศรีอยุธยา

สมัยกรุงศรีอยุธยา เริ่มประมาณ พ.ศ.1988 - 2310 ระยะเวลา 417 ปี บางสมัย ก็มีศึกกับ ประเทศใกล้เคียง เช่น พม่า และเขมร ดังนั้นชายหนุ่ม สมัยกรุงศรีอยุธยา จึงต้องฝึกฝน ความชำนาญ ในการต่อสู้ ด้วยอาวุธ และ ศิลปะป้องกันตัว ด้วยมือเปล่า โดยมีครูผู้เชี่ยวชาญ ทางการต่อสู้ เป็นผู้สอน การฝึกเริ่มจากในวัง ไปสู่ประชาชน สำนักดาบพุทธไทสวรรค์ เป็นสำนักดาบ ที่มีชื่อเสียงสมัยอยุธยา มีผู้นิยมไปเรียนมาก ซึ่งในการฝึก จะใช้อาวุธจำลอง คือ ดาบหวายเรียกว่า กระบี่กระบอง นอกจากนี้ยังต้องฝึก การต่อสู้ป้องกันตัว ด้วยมือเปล่า เรียกว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ควบคู่กันไปด้วย ในสมัยนี้ วัดยังคงเป็น สถานที่ให้ความรู้ ทั้งวิชาสามัญ และ วิชาปฏิบัติ ในเชิงอาวุธ ควบคู่กับ มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วย และ บุคคลสำคัญ ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในยุคสมัยนี้ก็คือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ( พระเจ้าเสือ ) นั่นเองค่ะ

 

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ( พระเจ้าเสือ ) กษัตริย์แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

สมัยอยุธยา สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ โปรดการชก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นอย่างมาก เคยทรงปลอมพระองค์ มาชกมวยกับชาวบ้าน และ ชนะนัก มวยไทย ( Muay Thai ) ฝีมือดี ของเมือง วิเศษไชยชาญ อีกทั้งชนะ นักมวย เอกถึง 3 คน เมื่อพระมหากษัตริย์ โปรดการชก มวยไทย ( Muay Thai ) เช่นนี้ ทำให้มีการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) กันอย่างแพร่หลาย ในราชสำนัก ขยายไปสู่บ้าน และวัด โดยเฉพาะวัด ถือเป็นแหล่ง ประสิทธิ์ประสาท วิชา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นอย่างดี รวมถึงขยายวงกว้าง ไปสู่สามัญชนมาก แม้ท่านจะทรงสวรรคต แต่ มวยไทย ( Muay Thai ) ตำรับพระเจ้าเสือ อันแข็งแกร่งยังได้รับ การถ่ายทอด ให้คนรุ่นหลัง ได้เรียนรู้ ฝึกฝน จนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งวันเสด็จขึ้น เสวยราชสมบัติ ของ พระเจ้าเสือ คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็น วัน มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วย

 

 

มวยไทย ( Muay Thai ) สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

หลังจาก พ่ายแพ้ แก่พม่า เป็นครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 มีนักมวย ที่ขึ้นชื่อ สองคน ได้แก่ นายขนมต้ม และ นายทองดีฟันขาว หรือ พระยาพิชัยดาบหัก นั่นเอง

 

นายขนมต้ม ยอดนักสู้ ผู้เชิดชูเชิง มวยไทย ( Muay Thai ) ให้เป็นที่ประจักษ์ แก่ชาวต่างชาติ

ในตอนเด็กนั้น ๆ นายขนมต้ม เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในวัด ด้วยสาเหตุที่ว่าพ่อ และแม่ ถูกพม่าสังหาร จนถึงแก่ชีวิต ทั้งสองคน จนเมื่อพม่าตี กรุงศรีอยุธยา นายขนมต้ม กลายเป็นหนึ่ง ในเชลยศึก ที่ถูกกวาดต้อน ไปยัง ประเทศพม่า กษัตริย์แห่งพม่า ได้ทรงจัดงานสมโภช เจดีย์ชเวดากอง และทรงโปรด ให้มีการแข่งขัน ชกมวยระหว่าง ชาวสยาม และ ชาวพม่า สุกี้พะนายกองคัด นายขนมต้ม ขึ้นชก และสามารถชกชนะ นักมวยพม่าถึง 10 คนโดยมิยอมถอย แม้แต่ก้าวเดียว จนพระเจ้ามังระปูบำเหน็จ แต่งตั้งให้เป็นข้ารับใช้ ในกรุงอังวะแต่ นายขนมต้ม ปฏิเสธ และขอให้ปลดปล่อยตน และเชลยคนไทยทั้งหมด เป็นอิสระ เพื่อกลับบ้านเกิด พระเจ้ามังระ ยอมทำตามความประสงค์ ให้ทุกคน ได้กลับมายัง บ้านเกิด ก็คือแผ่นดินไทย ที่มีกรุงธนบุรี เป็นราชธานีนั่นเอง เหตุการณ์ที่ นายขนมต้ม สามารถเอาชนะ นักมวยพม่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2317 นั้น ทำให้ได้มีการกำหนด ให้วันดังกล่าว เป็น วัน มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วย

 

 

นายทองดีฟันขาว นัก มวยไทย ( Muay Thai ) สู่นักรบของชาติ ผู้พลิกปรากฏการณ์ มวยแห่งชาติ

นายทองดีฟันขาว คืออีกหนึ่งครู มวยไทย ( Muay Thai ) สำคัญแห่งประวัติศาสตร์ เดิมชื่อ จ้อย เป็นเด็กชายที่มีนิสัยกล้าหาญ อดทน ชอบชก  มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นชีวิตจิตใจ ต่อมาได้ศึกษา วิชาหมัดมวย กับครูเที่ยงที่บ้านท่าเสา แต่เพราะไม่เคี้ยวหมากพลู เหมือนคนสมัย นั้นครูเที่ยงจึงเรียกว่า นายทองดีฟันขาว  นายทองดีเดินทาง ไปเรียนการต่อสู้ จากหลาย ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) มวยจีน หรือเชิงดาบ จนความสามารถเลื่องลือ ภายหลังถวายตัว เป็นทหารคนสนิท ของพระเจ้ากรุงธนบุรี และได้รับสมญานามว่า พระยาพิชัย

 

นายทองดีฟันขาว หรือ พระยาพิชัยดาบหัก ได้สร้างมรดก อันควรแก่การยกย่อง สืบทอดมาถึงปัจจุบัน นอกจากจะเป็นเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ความรักชาติแล้ว ยังสร้าง มวยพระยาพิชัย ที่มีจุดเด่นคือ เป็นทั้งมวยอ่อน และมวยแข็ง รุก - รับ ตามแต่สถานการณ์ การออกไม้จะรวดเร็ว รุนแรง เผด็จศึกอย่างรวดเร็ว เมื่อมีโอกาส สามารถ ปกป้อง ตนเอง รู้วิธีรับก่อนรุก เรียนแก้ก่อนผูก เรียนรู้ จุดอ่อน จุดแข็ง ของตนเอง และ คู่ต่อสู้อีกด้วย

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์



บทความที่น่าสนใจ

ลดน้ำหนักด้วย มวยไทย
การวางท่าร่างกาย แบบ มวยไทย เพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้