บทความ


การเล่น กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับเราอย่างไร?

การเล่น กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับเราอย่างไร?

การเล่น หรือการฝึก กีฬามวยไทย ในปัจจุบัน ที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ต่างก็ให้ความสนใจ และเป็นอีกทางเลือก ในการออกกำลังกายที่ดี ดังนั้นการเล่น กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับเราอย่างไร?

การเล่น กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับเราอย่างไร?

สำหรับ การเล่น กีฬามวยไทย ถือเป็น ศิลปะการต่อสู้ ในรูปแบบหนึ่ง ที่ถือได้ว่าเป็น กีฬาประจำชาติ ของไทย และมี ต้นกำเนิด มาจาก ประเทศไทย  โดยมีชื่อเสียง และโด่งดัง ไปทั่วโลก เป็นอย่างมาก และมี ค่ายมวย ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่ได้ เปิดคลาสสอน ให้กับ ชาวต่างชาติ ที่ร่วมไปถึง ชาวไทย ที่ให้ความสนใจ ที่อยากจะ เข้ามาฝึกฝน วิชาการต่อสู้ สำหรับคนไทย ที่เป็นที่จุดประกาย ให้ชื่อเสียง ของ มวยไทย ( Muay Thai ) หรือกีฬามวยไทย ได้เป็นที่รู้จัก และน่าจับตามอง นั่นก็คือ จา พนม ที่เป็นนักแสดงใน ภาพยนตร์เรื่ององค์บาก ที่ทำให้ กีฬามวยไทย เป็นกีฬา ที่ใคร ๆ ต่างก็อยากจะ ทำความรู้จัก กับ ศิลปะการต่อสู้ ครั้งนี้ ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจาก จะเป็น กีฬาการต่อสู้ ที่ได้สร้าง ความแข็งแกร่ง ให้กับ ร่างกาย ได้ใช้ทุกส่วน ของร่างกาย กันแล้ว ก็ยังเป็นอีก หนึ่งอาวุธ ที่ใช้ หมัด, เท้า, เข่า, และศอก อีกทั้งยังมี ส่วนช่วยในด้าน การฝึกฝนจิตใจ ที่ดี อีกด้วย ฉะนั้น มาดูกันว่า การเล่น กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับเราอย่างไร?

 

1. กีฬามวยไทย ช่วยในการ ฝึกสมอง การออกอาวุธ ของผู้เล่น ที่ได้ ฝึกมวยไทย ในแต่ละครั้ง  ร่างกายของเรา ก็จะมี การทำงาน ที่ให้สอดคล้องกัน ระหว่างกล้ามเนื้อ ที่ใช้ออกอาวุธ และสมอง ที่มีการทำงานอย่างสัมพันธ์กัน การฝึกมวยไทย จึงเป็นการช่วยฝึกสมอง ได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของ การเลือกใช้อวัยวะ ในการ ออกอาวุธ เพื่อต่อสู้ หรือตอบโต้ ไปยัง คู่ต่อสู้ ของเรา

2. มวยไทย ช่วยในการ ลดความเครียด การเล่น กีฬามวยไทย จะทำให้เกิด ความสนุก ในการเล่นได้ หากยิ่งเล่น มากเท่าไหร่ ร่างกาย ของเรา ก็จะยิ่ง หลั่งฮอร์โมน เอนโดรฟีน ( Endorphin ) ที่จะทำให้ ผู้ที่ฝึกมวยไทย นั้นมี ความสุข มากยิ่งขึ้น และยังช่วย ในเรื่องของการ ลดความเครียด ลงได้ รวมไปถึง ยังช่วยทำให้ ร่างกาย ของเรา ไม่แก่ก่อนวัย อีกด้วย

3. กีฬามวยไทย ช่วยในการ ป้องกันตัวเอง และผู้อื่น โดยในยุคนี้ ภัยทางสังคม ที่มีอันตราย มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ผู้คน ที่ใช้ชีวิตกันอยู่ ในสังคม ภายนอกบ้าน อาจจะเจอกับ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ที่เกิดจากผู้คน ที่อยู่ร่วมกัน ในสังคมได้ และการ ฝึกมวยไทย ก็จะทำให้ ผู้ที่ฝึกนั้น มีทักษะ ในการต่อสู้ เพื่อ ป้องกันตัวเอง จากภัยในสังคม ได้ดี มากขึ้น เพราะอาจเกิดขึ้น กับตนเองได้ หรือ รวมไปถึง หากเกิดเหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิด กับคนรอบ ๆ ข้าง เราก็จะ สามารถใช้ ศิลปะในการต่อสู้ จากการ ฝึกฝน กีฬามวยไทย กันได้

4. กีฬามวยไทย ช่วยทำให้ ระบบไหลเวียดเลือด ทำงานได้ดี มากยิ่งขึ้น การฝึกมวยไทย จะทำให้ ร่างกายของเรา มีการเคลื่อนไหว อยู่ตลอดเวลา  ในขณะเล่น มวยไทย จึงช่วยในการ บำรุงระบบไหลเวียนเลือด ให้มีการทำงาน ได้ดีขึ้น ทั้ง หัวใจ และหลอดเลือด จึงส่งผลต่อ การสูบฉีดเลือด และทำให้ ผู้ที่เล่นมวยไทย ช่วยในการ ลดความเสี่ยง จากการ เกิดโรค ที่เกี่ยวกับ ระบบไหลเวียนเลือด ได้ อย่างเช่น โรคหัวใจ และ หลอดเลือดอุดตัน  เป็นต้น

ซึ่งการเล่น กีฬามวยไทย เป็นประจำ นั้นจะทำให้เรา มีพัฒนาการ ทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ที่ดีได้ และยัง ให้ประโยชน์ กับเราในหลาย ๆ ด้านอีกด้วย และหากเพื่อน ๆ คนไหน ที่มีความสนใจ อยากจะฝึกฝน หรือออกกำลังกาย ในการ ลดน้ำหนัก มวยไทย ก็ช่วยได้เป็นอย่างยิ่ง และเราขอแนะนำสถานที่ ในการฝึก มวยไทย อย่าง เจริญทองมวยไทยข้าวสาร หรือสามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://jaroenthongmuaythaikhaosan.com/ ของเราได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อุปกรณ์ ฝึกมวยไทย สำหรับมือใหม่ มีอะไรบ้าง ?

เกร็ดน่ารู้มวยไทย ที่คุณพลาดไม่ได้!

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะน็อคเอ้าท์ ที่คุณไม่ควรพลาด

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะน็อคเอ้าท์ ที่คุณไม่ควรพลาด

ถ้าหากพูดถึง มวยไทย คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก ซึ่ง กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะน็อคเอ้าท์ ที่คุณไม่ควรพลาด ที่เรา อยากให้หลาย ๆ คนได้มารู้จัก ซึ่งบอกเลยว่า เท่มาก ๆ เลยค่ะ

 

 

อย่างที่เราต่างรู้กันดี ว่า กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ก็ถือเป็นกีฬา อีกทั้ง กีฬามวยไทย ของชาติไทยเรานั้น ก็เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่อยู่คู่ กับ คนไทย มาอย่างยาวนานมากมาย ตั้งแต่อดีต จวบจนถึงปัจจุบัน และถ้าหากว่า หากคุณที่ไม่เคยดูการต่อยมวย หรือว่า จะไปถึง การขึ้นชกมวยจริง ๆ มันก็สามารถพบเห็นมากมายได้ในหนัง รวมทั้ง ละครไทยอยู่บ่อย ๆ ไม่มากก็น้อย

 

แต่ทว่า เราเองก็ต้องบอกเลยว่า เอาจริง ๆ มันก็เหมือน เอกลักษณ์ ของหนัง โดยรวมไปถึง ละครไทย ในยุค ยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้ อาทิ ภาพยนตร์ เรื่องต้มยำกุ้ง, แสบสนิท, ศิษย์ส่ายหน้า เป็นต้น และในวันนี้เราจะพาทุก ๆ คนมารู้จัก ท่าไม้ตาย ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สามารถ น็อคคู่ต่อสู้ มาจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน

 

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะน็อคเอ้าท์ ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเวลาพูดถึง มวยไทย คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก ซึ่ง กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะน็อคเอ้าท์ ที่คุณไม่ควรพลาด ที่เรา อยากให้หลาย ๆ คนได้มารู้จัก ซึ่งบอกเลยว่า เท่มาก ๆ เลยค่ะ ไปดูกันเลยค่ะ

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าไต่เขาพระสุเมรุ เป็นไม้มวยใช้ป้องกันและตอบโต้ เมื่อคู่ต่อสู้นั้นเหวี่ยงแข้ง ฝ่าย A ยกขาขวาเพื่อจะใช้แข้งเหวี่ยงเข้าลำตัวฝ่าย B ฝ่าย B กระโดดขึ้นเหยียบบนขาขวาท่อนบนฝ่าย A ด้วยเท้าขวา และบนไหล่ซ้าย ของทางฝ่าย A ด้วยเท้าซ้าย เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกัน ก็ใช้ศอกขวาปักลงไปบนศีรษะของฝ่าย A เป็นการตอบโต้

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าเอราวัณเสยงา เป็นไม้มวยใช้ป้องกัน และยังสามารถตอบโต้ เมื่อคู่ต่อสู้กระแทกหมัด  ฝ่าย A กระแทกหมัดขวาเข้าตรงหน้าฝ่าย B ฝ่าย B ยกแขนซ้ายท่อนล่างขึ้นปิด เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็สืบเท้าเข้าหา ทางฝ่าย A แล้วใช้ศอกขวางัดเข้าที่ปลายคางของฝ่าย A เป็นการตอบโต้

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าดับชวาลา ถือว่า เป็นแม่ ไม้ มวยไทย ที่มันสามารถ นำไป ใช้ป้อง กันหมัดพร้อมตอบโต้ ในภาพ ฝ่ายขาวใช้หมัดขวาทิ่มไปตรงหน้าของฝ่าย B  ฝ่าย B ใช้แขนซ้ายท่อนล่างขึ้นกัน และจะผลักหมัดของฝ่าย A ออกไปทางซ้าย เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็ใช้หมัดขวาทิ่มตรงไปยังใบหน้าของฝ่าย A เป็นการตอบโต้

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ในท่ายกเขาพระสุเมรุ เป็นไม้ มวยไทย ที่มันสามารถ นำไป ใช้ ในส่วนของการ ป้องกันคู่ต่อสู้เหวี่ยงแข้ง และ แถมมันก็ยังสามารถ ตอบโต้ด้วยการจับทุ่ม ฝ่าย A ใช้ขาขวาเหวี่ยงแข้งสูงเข้าบริเวณลำคอ ทางด้านซ้ายของฝ่าย B และทาง ฝ่าย B หลบลำตัวต่ำ พร้อม ๆ ทั้งสืบเท้าซ้ายออกไปข้างหน้า แล้วใช้ฝ่ามือขวากันขาขวาฝ่ายขาวไว้ เพื่อเป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายโอบขาขวาฝ่าย A ไว้ยกขึ้นใส่บ่า แล้วจากนั้นยกขาขวาฝ่าย A ให้ขึ้นสูงพร้อมกับดันไปข้างหน้า ทำให้ฝ่าย A เสียหลักล้มลงได้ เป็นการตอบโต้

 

5. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าจระเข้ฟาดหาง เป็นไม้มวยใช้ตอบโต้ปรปักษ์ ด้วยการเหวี่ยงออกแข้ง ฝ่าย B หมุนตัวกลับ หลังไปทางขวา ด้วยขาซ้าย โน้มตัวลงต่ำ แล้วจากนั้นใช้ขาขวา เหวี่ยงสูงเข้าใส่ บริเวณ ก้านคอของฝ่าย A เป็นการตอบโต้ทางฝ่าย A ก่อนที่มันจะกระทำต่อฝ่าย B เรียกได้ว่า เป็นท่าสุดฮิต อย่างมากเลย ไม่ว่าจะเป็น ในหนังหรือว่าในละคร หรือ รวมไปถึง ในชีวิตจริงอีกด้วย

 

บอกเลยว่า มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น สุดยอดมากจริง ๆ นะทุกคน เรียกได้ว่าเป็น จังหวะน็อคเอ้าท์ ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ที่เรา อยากให้หลาย ๆ คนได้มารู้จัก เห็นไหมคะว่า เท่มาก ๆ เลยค่ะ สนใจเรียนมวย คลิก https://jaroenthongmuaythaikhaosan.com ได้ทันทีเลยค่ะ

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เหตุผลที่ กีฬามวยไทย ตอบโจทย์ คนไม่ชอบออกกำลังกาย

เสน่ห์ของมวยไทย ทำไมต่างชาติถึงชื่นชอบ

อุปกรณ์ ฝึกมวยไทย สำหรับมือใหม่ มีอะไรบ้าง ?

อุปกรณ์ ฝึกมวยไทย สำหรับมือใหม่ มีอะไรบ้าง ?

กีฬามวยไทย เป็นกีฬา ที่ได้นับความนิยม เป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน และที่สำคัญ ยังถือเป็น กีฬาประชาติ ของไทย อีกด้วย แต่วันนี้บทความ ของเรา จะมาพูดถึง อุปกรณ์ ฝึกมวยไทย สำหรับมือใหม่ มีอะไรบ้าง ? มาดูกันเลย

อุปกรณ์ ฝึกมวยไทย สำหรับมือใหม่ มีอะไรบ้าง ?

สำหรับมือใหม่ อย่าง หนุ่ม ๆ สาว ๆ คนใด ที่กำลังสนใจ และอย่าง ที่จะลอง ฝึกมวยไทย กันนั้น แต่ก็ยังไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นยังไง ควรเริ่ม จากตรงไหน กันก่อนดี ซึ่งเพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวล กันเลย วันนี้เราจะมาแนะนำ ข้อมูลที่ควรรู้ ก่อนที่จะ ฝึกมวยไทย นั้นก็คือ อุปกรณ์ ที่ใช้ สำหรับฝึก หรือ อุปกรณ์  ที่ใช้ในการ ฝึกมวยไทย ว่ามีอะไรบ้าง และแต่ละชิ้น มีความสำคัญ มากน้อย ขนาดไหน ไปดูกันเลย

1. นวม ( Punching Mitts ) ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งแรกในการ ฝึกมวยไทย ที่จะขาดไม่ได้เลย นั้นก็คือ นวม หรือที่มีชื่อ ภาษาอังกฤษ ที่เรียกกันว่า  Punching Mitts ซึ่งจะเป็น อุปกรณ์ ที่สำคัญ เป็นอย่างมาก ของ มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะว่า นวม นั้น ไม่ใช้แค่ใช้ สำหรับการ ฝึกมวยไทย เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึง การใช้ ในการแข่งขัน เพราะว่า ประโยชน์ของ นวม ยังสามารถ ไปช่วยป้องกัน ข้อมือของเราได้ เป็นอย่างดี จึงทำให้เราได้ รับบาดเจ็บ ที่น้อยลง นั่นเอง

2. กางเกงมวย ( Boxing Shorts ) สำหรับ กางเกงมวย ก็ถือได้ว่า เป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่น้อยไปกว่า นวม เลย ก็ว่าได้ เพราะว่า กางเกงมวย นั้นได้ ถูกออกแบบมา ให้ผู้ใส่นั้น รู้สึกถึง ความโล่ง สบาย ขยับร่างกาย ได้อย่าง คล่องตัว เพราะกีฬา มวยไทย นั้นอาศัย ความรวดเร็ว และ ความคล่องตัว เป็นหลัก และที่สำคัญ กางเกงมวย ถือเป็น อุปกรณ์ ที่สามารถ เป็นตัวแทนได้ เพราะโดยส่วนใหญ่ คนมักจะ ปักชื่อ หรือฉายา ค่ายมวย ไว้ที่กางเกง  นั่นเอง จึงถือเป็น เอกลักษณ์ที่ดี ของ นักมวย กันเลยทีเดียว

3. แองเกิล ( Ankle ) เป็นอุปกรณ์ ที่เราอยาก จะแนะนำ นั้นก็คือ แองเกิล คงจะไม่ค่อย มีใครรู้จักกัน สักเท่าไร แต่ถ้าหาก ได้เห็นภาพ ก็ต้องมีร้อง อ๋อกัน อย่างแน่นอน เพราะว่ารูปทรง มันจะคล้าย ๆ กับถุงเท้า แต่มันจะเป็น ถุงเท้าที่เปิดส้นเท้า และนิ้วเท้า ของเรา ข้อดีของ แองเกิล ก็คือ จะสามารถไปช่วย ซัพพอร์ตข้อเท้า ของเราได้ เป็นอย่างดี ทำให้ได้รับ การบาดเจ็บ ที่น้อยลง เพราะนักมวย นั้นต้อง เคลี่อนไหว อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้อาจเกิด การอักเสบ หรือบาดเจ็บ ได้ นั้นจึงทำให้ แองเกิล มีประโยชน์ ต่อการ ฝึกมวยไทย อย่างมาก

4. ฟันยาง ( Rubber Teeth ) ที่ถือว่าเป็น อุปกรณ์ที่สำคัญ อย่างมาก เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น การซ้อม หรือการแข่งขัน เพราะ ฟันยาง จะสามารถไปช่วย ป้องกันฟัน เพื่อไม่ให้เรา ได้รับบาดเจ็บ ได้เป็นอย่างดี และ สำหรับมือใหม่ ที่กำลังคิดว่า จะซื้อแบบไหนดี หรือ ควรซื้อแบบไหน เราขอแนะนำ ฟันยางแบบ Boil And Bite ซึ่งจะต้องต้ม ให้ร้อนก่อน และหลักจากนั้น ให้เรากัดเพื่อให้พอดี กับช่องปากของเรา ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยที่สุด  สำหรับฟันยาง ประเภทนี้ก็คือ บางครั้งก็ไม่พอดี กับขนาดช่องปาก ตลอดเวลา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ นักกีฬามืออาชีพ เลือกใช้งานฟันยาง แบบสั่งทำเฉพาะ เพราะจะมีขนาด ที่พอดีกับช่องปากของเรา แต่ก็ด้วยราคาที่แพงขึ้น นั่นเอง

ซึ่งนี้ก็คือ อุปกรณ์ ในการ ฝึกมวยไทย หรือ ซ้อมมวยไทย ที่เราได้เอามาแนะนำ แต่ที่จริงแล้ว ก็ยังมีอีกมากมายอย่าง น้ำมันมวย สนับแข้ง หรือ ผ้าพันมือ เป็นต้น และที่สำคัญ อุปกรณ์ก็คือ ใจมุ่งมั่น เพราะการ ฝึกมวยไทย ถือว่าเป็นกีฬาที่โหดพอตัว เพราะต้องผ่าน การฝึกซ้อม ที่ดุเดือน เอาการ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด ในการ ฝึกมวยไทย ก็คือ ใจต้องเกินร้อย นั่นเอง และใครที่กำลังหา สถานที่ต่อยมวย เราขอแนะนำ https://www.jaroenthongmuaythaikhaosan.com ที่เพื่อน ๆ สามารถมาฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ เรียนมวยไทย กันได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มารู้จัก มวยไทยศิลปะการต่อสู้ ( Muay Thai ) อันโด่งดัง ไปทั่วโลก

เริ่มต้นชกมวย เลือก กระสอบทรายตั้งพื้น หรือ แบบแขวน ?

 

 

มารู้จัก มวยไทยศิลปะการต่อสู้ ( Muay Thai ) อันโด่งดัง ไปทั่วโลก

มารู้จัก มวยไทยศิลปะการต่อสู้ ( Muay Thai ) อันโด่งดัง ไปทั่วโลก

มวยไทยศิลปะการต่อสู้ ( Muay Thai ) ถือว่า เป็น กีฬา ประเภทมวย รูปแบบหนึ่ง ที่ใช้ พละกำลัง และ ความ แข็งแกร่ง ของ ร่างกาย มวยไทย เป็นกีฬา ที่มี เอกลักษณ์ และ มีประวัติศาสตร์ ความเป็นมา อันยาวนาน ในประเทศไทย ซึ่งมวยไทย ( Muay Thai ) จะต้อง ใช้อวัยวะ ทุกส่วน ต่าง ๆ ซึ่งสามารถ เป็นอาวุธ ได้หมด เพื่อใช้ ในการโจมตี และ ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อ, ข้อศอก, ข้อเท้า, หมัด และ เข่า มวยไทย ได้เป็น ที่แพร่หลาย ระดับนานาชาติ ในช่วง ศตวรรษที่ ยี่สิบ เมื่อ นักมวยไทย สามารถ เป็นฝ่ายชนะ คู่ต่อสู้ ที่มี ชื่อเสียง ในแขนงอื่น ๆ ได้ ซึ่ง การแข่งขัน มวยไทย ในระดับอาชีพ จะได้รับ การดูแล โดย สภามวยไทยโลก

แล้ว ความแตกต่าง ของ มวยไทย กับ มวยสากล?

  1. แบบ การต่อสู้ และ ทักษะ

มวยไทย : มวยไทย จะเน้น การใช้ ข้อแขน และ ขา ในการ ต่อสู้ หรือ สามารถ ใช้ทุกส่วน ของ ร่างกายได้ ซึ่งค่อนข้าง อันตราย เช่น มีการใช้ เข่า, ศอก และ นิ้วเท้า ในการโจมตี และ ป้องกัน มวยไทย มีสไตล์ การต่อสู้ ที่สวยงาม และ ระทึก

มวยสากล : มวยสากล (หรือ มวยมาร์ชอินทอน) มักใช้ การชกด้วยมือ เป็นอุปกรณ์ เป็นหลัก ในการ โจมตี และ ป้องกันตัว มวยสากล มีระบบ การต่อสู้ และ กฎเกณฑ์ ที่แตกต่าง อย่าง สิ้นเชิง จากมวยไทย

  1. การพักยก

มวยไทย : มวยไทย จะขึ้นชก ทั้งหมด 5 ยก โดย จะขึ้นชก 3 นาที มีเวลาพัก 2 นาที การแข่งขัน มีกรรมการ ผู้ชี้ขาด บนเวที 1 คน กรรมการ ในการ ให้คะแนน ข้างเวทีอีก 2 คน ให้คะแนน

มวยสากล : มวยสากล จะมี จำนวน การขึ้นชก แล้วจะแบ่ง เป็น 12 ยก เวลา 3 นาที หยุดพัก ระหว่างยก 1 นาที สู้จนครบ 12 ยก แล้วจะ รวมคะแนน

  1. การตัดสิน

มวยไทย : ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ใช้ หมัด, เท้า, เข่า, ศอก, ถูกต้องตามกติกา ทำคู่ต่อสู้ได้หนักหน่วง บอบช้ำ และ รุกมากกว่า จะเป็นผู้ชนะ หรือผู้ที่ มีชั้นเชิง ในการ รุก รับ หลบ ได้ดีกว่า จะเป็น ผู้ชนะ

มวยสากล : สามารถน็อคเอาท์ ( Knockout ) คู่ต่อสู้ เมื่อสามารถ ทำให้ คู่ต่อสู้ ล้มลง บนพื้น เวที หรือยืนพับ หมดสติ อยู่กับ เชือกข้างเวที ไม่สามารถ ที่จะชกต่อ หรือ ป้องกันตัวได้ ภายใน 10 วินาที ระหว่าง ที่กรรมการนับ

  1. การฟาวล์ ( Foul )

มวยไทยศิลปะการต่อสู้ : ขึ้นอยู่ กับ ผู้ชี้ขาด หากผู้เล่น ทำฟาวล์ ต้องตัด คะแนน ตามผู้ชี้ขาด แต่หาก ผู้ตัดสิน เห็นการฟาล์ว อย่างชัดเจน แต่ผู้ชี้ขาด ไม่เห็น ผู้ตัดสิน สามารถ ตัดคะแนนได้ พร้อมให้เหตุผล

มวยสากล : หากกรรมการ เตือนนักชก ว่าทำฟาวล์ จะถูก หักคะแนน 1 คะแนน โดย ให้สัญญาณมือ แก่กรรมการ ที่ให้คะแนน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

เรียนมวยไทย สำหรับผู้สูงอายุ ดีอย่างไร ?

ประโยชน์ของการเข้ายิมมวย และ การต่อยมวย ได้อะไรมากกว่าที่คิด

เรียนมวยไทย สำหรับผู้สูงอายุ ดีอย่างไร ?

เรียนมวยไทย สำหรับผู้สูงอายุ ดีอย่างไร ?

กีฬามวยไทย เป็นกีฬาที่หลาย ๆ คน ให้ความสนใจ เพราะเป็นกีฬา ที่ช่วยในการ ออกกำลังได้ดี อย่างเช่นของ วัยผู้สูงอายุ ที่การออกกำลังกาย เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ ร่างกายแข็งแรง ดังนั้นการ เรียนมวยไทย สำหรับผู้สูงอายุ ดีอย่างไร ? มาดูกัน

เรียนมวยไทย สำหรับผู้สูงอายุ ดีอย่างไร ?

การออกกำลังกาย ถือว่า กำลังเป็นที่ยิม เป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนี้ เพราะว่า หลาย ๆ คน หันมาดูแล สุขภาพ ร่างกาย ของตนเอง กันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ การออกกำลังกาย เพื่อการ ลดน้ำหนัก เป็นเรื่องที่ ผู้คนต่างก็ ให้ความสำคัญ เป็นอย่างมาก ถ้าหากพูดถึงกีฬา ที่ช่วยในการ ลดน้ำหนัก เผาผลาญพลังงาน ได้เป็นอย่างดี ก็คงจะไม่พ้น กีฬามวยไทย นอกจากนี้มวยไทย  ยังมีจุดเด่น ในเรื่องของ การป้องกันตัว แต่ สำหรับผู้สูงอายุ แล้วนั้น มวยไทยที่ ถือว่า เป็นกีฬา อีกหนึ่งประเภท ที่น่าเล่น และ ออกกำลังกาย นอกจากนี้การ เรียนมวยไทย สำหรับผู้สูงอายุ ยังมีข้อดี ในเรื่องของ การ ป้องกันตัว เป็นการพลิกแพง ที่จะทำให้เราสามารถ เรียนมวยไทย เพื่อป้องกันตัว กันได้อีกด้วย ซึ่งวันนี้ บทความของเรา จะมาพูดถึง ในเรื่องของ เรียนมวยไทย สำหรับผู้สูงอายุ ดีอย่างไร ? ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

1. ช่วยส่งเสริม ในการทำงานของ ระบบทางเดินหายใจ

สำหรับผู้สูงอายุ ในบางคน ที่เมื่อมีอายุ ที่มากขึ้น ก็คงจะ เหนื่อยง่าย และเพื่อให้ปอด สามารถทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงาน ได้อย่างเต็มที่ ในผู้สูงอายุ ก็ควรที่จะมี การออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้ตนเอง เหนื่อยง่าย และกีฬา ที่จะช่วยเพิ่ม การทำงานของ ระบบทางเดินหายใจ ได้เป็นอย่างดี ก็คือการ เรียนมวยไทย ที่จะทำให้ผู้สูงอายุ ได้ออกแรง อีกทั้งยังดีต่อ สุขภาพหัวใจ อีกด้วย

2. เรียนมวยไทย ในผู้สูงอายุ ช่วยเพิ่ม ระบบไหลเวียนเลือด

สำหรับผู้สูงอายุ นั้น ระบบไหลเวียนเลือด ในร่างกาย ถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างมาก ๆ และการที่จะ ทำให้ร่างกาย ของเรา สามารถที่จะ ไหลเวียนเลือด ได้ดีที่สุด ก็คือ การออกกำลังกาย และหากยิ่งเป็น กีฬามวยไทย ก็จะยิ่งทำให้ ระบบไหลเวียนเลือด ในร่างกาย ของเรา สามารถที่จะ ทำงานได้ดี มากยิ่งขึ้น เพราะว่า ร่างกายของเรา จะสามารถ สูบฉีดเลือด ได้ เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นแล้ว การเพิ่ม ระบบไหลเวียนเลือด ให้กับ ร่างกาย ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ก็ควรที่จะ ใช้กีฬามวยไทย ในการ ออกกำลังกาย

3. เรียนมวยไทย ช่วยในการ เพิ่มความแข็งแรง ให้กับร่างกาย

สำหรับวัยผู้สูงอายุ นั้น การออกกลังกาย ที่ถือว่าเป็น เรื่องที่สำคัญ เป็นอย่างมาก เพราะว่า ยิ่งเรามีอายุ ที่มากขึ้น ความแข็งแรง ในร่างกาย ของเรา ก็จะอ่อนแอ ลงเรื่อย ๆ ฉะนั้นการ เรียนมวยไทย หรือ ฝึกมวยไทย จึงถือเป็น ทางเลือกที่ดี ในการที่เรา จะใช้เพื่อ ออกกำลังกาย และ สร้างความแข็งแรง ให้กับร่างกาย ของเราได้ ทั้งนี้ การใช้มวยไทย ในการออกกำลัง ก็ยังช่วย เพิ่มความแข็งแรง ในส่วนของ กระดูก และข้อต่อ ที่อยู่ใน ร่างกายของเรา ได้ดี อีกด้วย เพราะฉะนั้น มวยไทยจึง เป็นกีฬา ที่เราแนะนำ ให้กับ ผู้สูงอายุหลาย ๆ คน ใช้เพื่อ การออกกำลังกาย

4. มวยไทยช่วยฝึก ความยืดหยุ่น ของร่างกาย

เนื่องจากการ เรียนมวยไทย หรือ การฝึกมวยไทย นั้นเป็นกีฬา ที่เราจะต้อง ใช้ทุกส่วน ของร่างกาย จึงทำให้ การออกกำลังกาย กันด้วยมวยไทย  จึงทำให้ ร่างกายของเรา ได้รับ ความยืดหยุ่น จาก การเตะ , การต่อย , และ การใช้ศอก ที่จะทำให้ ร่างกาย ของผู้สูงอายุ นั้นมี ความยืดหยุ่น ที่ดีมากยิ่งขึ้น นั่นเอง ซึ่งการที่ ผู้สูงอายุใช้มวยไทย ในการ ออกกำลังกาย ผู้สูงอายุก็จะมี ร่างกายที่แข็งแรง กว่าผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ด้วยการ เรียนมวยไทย หรือฝึก นั่นเอง

ฉะนั้นแล้วหลาย ๆ คน จะเห็นได้ว่า การออกกำลังกาย สำหรับผู้สูงอายุ นั่นจำเป็น และเป็นเรื่องที่ เราไม่ควรมองข้าม อย่างมาก โดยเฉพาะกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่จะช่วย เพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการทำงาน ในร่างกาย ทำให้ร่างกาย มีระบบการทำงาน ที่ดีขึ้น หากใครที่อยากจะให้ ผู้สูงอายุของเรา มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ก็อย่าลืมพากันมา เรียนมวยไทย กันได้ที่ เจริญมวยไทยข้าวสาร สถานที่ออกกำลัง อย่างครบครัน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ประโยชน์ของการเข้ายิมมวย และ การต่อยมวย ได้อะไรมากกว่าที่คิด

เหตุผลที่ กีฬามวยไทย ตอบโจทย์ คนไม่ชอบออกกำลังกาย

 

ประโยชน์ของการเข้ายิมมวย และ การต่อยมวย ได้อะไรมากกว่าที่คิด

ประโยชน์ของการเข้ายิมมวย และ การต่อยมวย ได้อะไรมากกว่าที่คิด

ประโยชน์ของการเข้ายิมมวย และ การต่อยมวย ได้อะไรมากกว่าที่คิด  มวยไทย ศิลปะการต่อสู่ ของไทย ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว แถมยังเป็นหนึ่ง ในวิธี ออกกำลังกาย ที่เร่ง การเผาผลาญ ได้ดีมากๆ ปัจจุบัน ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง ก็สามารถ ฝึกซ้อม มวยไทย ได้ มวยไทย ไม่จำเป็นต้องมีคู่ซ้อม สามารถ ฝึกฝน ด้วยการต่อยลม หรือ เล่น กับ อุปกรณ์ต่างๆ ได้แต่ควรอยู่ ภายใต้ การดูแล ของ เทรนเนอร์ หรือ ครูฝึก ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับ ผู้ที่สนใจ เข้าคอร์สเรียน มวยไทย ลดน้ำหนัก สามารถ เข้าคอร์สเรียน ได้ที่ ยิมมวย หรือ ค่ายมวย ที่มี ครูฝึกสอน มืออาชีพ 

 

ประโยชน์ ของ การเข้ายิมมวย

1.มีอุปกรณ์ครบครัน 

ยิมมวย มีอุปกรณ์มวย แบบ ครบครัน ไม่ต้องซื้อเอง ให้เปลืองเงิน เช่น นวมมวยไทย เป้าล่อมวยไทย ผ้าพันมือ สนับแข้ง กระสอบทราย เป็นต้น คุณอาจเตรียมเสื้อ และ กางเกงไปเอง แนะนำเลือกเนื้อผ้า ที่สวมใส่สบาย แห้งเร็ว ซับเหงื่อ ได้ดี สำหรับ ผู้หญิง ใส่สปอตบาร์ ช่วยซัพพอร์ต หน้าอก 


 

2.มีครูฝึกสอน 

ที่ยิมมวย นอกจาก มีอุปกรณ์ ครบครัน แล้วยัง มีเทรนเนอร์ หรือ ครู ผู้ฝึกสอนด้วย การเล่น มวยไทย เพื่อลดน้ำหนัก หรือ ฝึก วิชา ป้องกันตัว ควรอยู่ ภายใต้การดูแล ของ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประสิทธิภาพ ใน การออก กำลังกาย ทำให้คุณ บรรลุเป้าหมาย ใน การออกกำลังกาย ตามที่ กำหนดไว้ 

 

3.มีความปลอดภัย 

นอกจากคุณ จะได้บรรลุ เป้าหมาย ที่ตัวเอง กำหนดไว้แล้ว การเข้ายิมมวย ที่มีอุปกรณ์ ฝึกซ้อม คุณภาพดี สภาพแวดล้อมดี มีครูฝึกสอน เทรนเนอร์มืออาชีพ คุณยังจะได้ ความปลอดภัย เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย การเล่นมวยไทย แม้จะเป็น การออกกำลังกาย ที่มี ประสิทธิภาพ เร่ง การเผาผลาญ ได้ดี แต่ก็ อันตราย  ไม่ใช่น้อย 

 

ข้อดี ของ การต่อยมวย 

เมื่อได้รู้ไปแล้ว ว่าเข้ายิมมวย ดียังไง ทีนี้ เรามาดู ข้อดี ของ การต่อยมวย กันบ้าง ประโยชน์ ของ การต่อยมวย บอกเลยว่า มีมากกว่า ที่คุณคิด 

1. ช่วยลดน้ำหนัก เร่งการเผาผลาญ ไขมัน ในร่างกาย 1 คลาส อาจเบิร์นได้มากถึง 1000 แคลอรี่ 

2. ช่วย เสริมสร้าง กระดูก และ กล้ามเนื้อ ให้แข็งแรงทุกส่วน ตั้งแต่ แขน มือ ไหล่ ขา และ ลำตัว 

3. ได้ฝึก  วิชาป้องกันตัว โดย เฉพาะ ผู้หญิง มีประโยชน์ มาก เมื่อตกอยู่ ในสถานการณ์ คับขัน 

4. ได้ฝึกสมาธิ และ ช่วยลด ความเครียด ทำให้มี สุขภาพจิต ที่ดี 

5. การต่อย มวยไทย ถือเป็น การรักษา และ สืบทอดศิลปะ การต่อสู่ ของ ไทยเรา 

 

มวยไทย ศิลปะ การต่อสู้ ที่กลาย มาเป็น ทางเลือก ของคน อยากมี สุขภาพดี หุ่นเฟิร์ม ช่วยเร่ง การ เผาผลาญ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ การต่อยมวย มีข้อดี หลายอย่าง เล่น มวยไทย แนะนำ เข้ายิมมวย เพราะ มีอุปกรณ์ ครบครัน มีครูฝึกสอน และ มี ความปลอดภัย อีกด้วย เรียนมวยไทย ได้ที่ ยิมของเรา ได้เลย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

เกร็ดน่ารู้มวยไทย ที่คุณพลาดไม่ได้!

ประโยชน์ของมวยไทย ทำไมการเรียนมวยไทยช่วยลดความเครียดได้

muaythaikhaosan

เสน่ห์ของมวยไทย ทำไมต่างชาติถึงชื่นชอบ

เสน่ห์ของมวยไทย ทำไมต่างชาติถึงชื่นชอบ

มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถือเป็น ศิลปะการต่อสู้ ที่มีรูปแบบ ที่สวยงาม และมีประวัติความเป็นมา อย่างยาวนาน สำหรับท่วงท่า ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรับ หรือการรุก ก็จะมีท่าที่ดูสวยงาม มีชื่อตามท่าทาง และยังถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ได้รับความนิยม และให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก โดยมวยไทยนั้น เราสามารถ ใช้ได้ เกือบทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น หมัด เท้า เข่า ศอก และอาวุธของกีฬามวยไทย ถือว่าเป็นอาวุธที่สำคัญ และอันตรายมาก แม่ไม้มวยไทย มีท่าเยอะมาก ซึ่งแต่ละท่า ก็มีความสวยงาม มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก แต่ละท่า จะมีความแตกต่างกันไป และยังถือเป็นกีฬาที่ดุเดือด และรุนแรง แต่ก็ยังสนุก ทำให้ใครหลาย ๆ คน รับชมแล้ว ไม่อยากลุกจากที่นั่งกันเลยทีเดียว ซึ่งเหตุผลนี้ ทำให้มีผู้คน ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมากมาย ให้ความสนใจ และหลงรักการต่อสู้ หันมาสนใจมวยไทยกันมากยิ่งขึ้น ถือได้ว่ากีฬามวยไทย ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน

 

เสน่ห์ของมวยไทย ทำไมต่างชาติถึงชื่นชอบ

ในปัจจุบัน เราไม่สามารถ ที่จะพูดได้ไม่เต็มปาก ว่าคนไทย เป็นที่หนึ่ง ของมวยไทย ( Muay Thai ) เพราะ ชาวต่างชาติ ที่มีฝีมือ เก่งกว่านักมวย ของไทย  ก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ยังเป็นกีฬาที่คนไทย ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเป็นกีฬาประจำชาติไทย และมีคนไทยให้ความสำคัญกันมากขึ้น ซึ่งเหตุนี้ จึงทำให้มี ชาวต่างชาติมากมาย ที่ชื่นชอบมวยไทย การต่อสู้ และสนใจในศิลปะแม่ไม้มวยไทย เริ่มมาเรียนมวยไทยกันมากขึ้น และในปัจจุบัน ค่ายมวยไม่ได้มีแค่ ในประเทศไทยเพียงเท่านั้น ในหลาย ๆ ประเทศ ก็เริ่มมีการตั้งค่ายมวยมากขึ้น ทำให้ชาวต่างชาติ  เริ่มหันมาสนใจ และมวยไทยได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในต่างประเทศนั่นเอง ซึ่งต้องยอมรับว่าการแข่งขัน หรือสังเวียนมวย ในปัจจุบันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถเป็นอาชีพได้เลย สำหรับกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน

เสน่ห์ศิลปะมวยไทย มีอะไรบ้างที่ทำให้ผู้คนต่างก็หลงไหล

1. การรำมวย

การรำมวยไทย เป็นการกราบไหว้ครูมวย และแสดงถึงความกตัญญู ถึงครูบาอาจารย์ และในการรำมวยนั้นถือว่า เป็นเอกลักษณ์ ของกีฬามวยไทยอย่างมาก เพราะมีท่วงท่า และการรำที่สวยงาม ดูมีเสน่ห์ ส่วนใหญ่ท่าที่ใช้ในการรำ ที่เราเห็นกันบ่อย ๆก็คือ ท่าพรหมสี่หน้า ท่าหงส์เหิน ท่ายูงฟ้อนหาง ท่าสอดสร้อยมาลา ท่าพระรามแผลงศร ท่าพยัคฆ์ตามกวาง ท่า เสือลากหาง ท่าสาวน้อยปะแป้ง และท่ากวางเหลียวหลัง ซึ่งแต่ละท่าในการรำ เป็นอะไรที่มีเสน่ห์มาก ๆ และถือว่าเป็นท่ารำมวย ที่ล้ำค่า เพราะมีมาตั้งแต่ รุ่นบรรพบุรุษ ที่ได้สืบทอดมาให้เราเห็นจนถึงปัจจุบัน

2. แม่ไม้มวยไทย

แม่ไม้มวยไทย ถือว่าเป็นอาวุธที่ มีการออกอาวุธที่สวยงาม แต่แอบแฝงไปด้วย ความรุนแรง ของแต่ละท่านั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบัน ก็มียังมีให้ได้เห็นกันอยู่บ้าง แต่ก็ด้วยยุคสมัยปัจจุบัน อาจจะไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก บนเวทีมวย เพราะแต่ละท่า มีการใช้ค่อนข้างยาก ต้องใช้จังหวะ และฝีมือของนักมวยสูง ถ้าเกิดใช้แล้วพลาดขึ้นมา  อาจจะโดนคู่ต่อสู้น็อคได้นั่นเอง แต่แม่ไม้มวยไทย ที่ยังพอเห็นอยู่บ้าง ก็คือ ศอกกลับ  ฟาดหางจระเข้ ซึ่งยังสามารถเห็นได้ง่าย บนเวทีมวย และถือว่าเป็นท่าที่สวยงาม และมีเสน่ห์มาก ๆ นักมวยที่ใช้ท่าที่หาดูยาก ของแม่ไม้มวยไทย ใส่คู่ต่อสู้ และยิ่งถ้าใช้น็อคคู่ต่อสู้ได้ ทางผู้สนับสนุนการชก จะมีเงินรางวัลพิเศษมอบให้ เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ ให้กับนักมวยอีกด้วย

 

กฏระเบียบของการแข่งขันชกมวย ที่จะต้องรู้

นักมวย จะต้องสวมกางเกงขาสั้น เพียงครึ่งโคนขาให้เรียบร้อย ไม่สวมเสื้อ และรองเท้า นักมวยมุมแดง ให้ใส่กางเกงสีแดง สีชมพู สีเลือดหมู หรือสีขาวที่มีแถบแดงคาด ส่วนนักมวยมุมน้ำเงิน ใช้กางเกงสีน้ำเงิน และสีดำ ห้ามคาดแถบสีแดง และต้องสวมเสื้อคลุม ตามข้อบังคับ ของสภามวยไทยโลก และจะต้องสวมกระจับ ที่ทำขึ้นจาก วัสดุแข็งแรงทนทาน และได้รับการรับรอง จากสภามวยไทยโลก เมื่อถูกตีเข่า หรืออาวุธ ในการต่อสู้อย่างอื่น ตรงบริเวณอวัยวะเพศ จะไม่ทำให้เกิดอันตราย การผูกกระจับ ต้องผูกปมไว้ด้านหลัง และต้องผูกด้วยเงื่อนตาย เก็บปลายเชือกส่วนที่เหลือ ให้เรียบร้อย ห้ามไว้ผมยาวรุงรัง และห้ามไว้เครา ไว้หนวดได้แต่ต้องยาวไม่เกินริมฝีปาก เล็บเท้า ต้องตัดให้เรียบร้อย และสั้น ต้องสวมมงคล ผ้าประเจียด หรือรัดเกล้า เฉพาะเวลาร่ายรำไหว้ครู ก่อนทำการแข่งขันเท่านั้น เครื่องราง  อนุญาตให้ผูกไว้ที่โคนแขน หรือเอว แต่ต้องหุ้มผ้าให้มิดชิดเรียบร้อย เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายแก่คู่แข่งขันนั่นเอง

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่า เป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ที่เป็นความภาคภูมิใจ ของคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะว่าถือเป็น กีฬาประจำชาติไทย มีประวัติมาอย่างยาวนาน และมีเสน่ห์ ที่ทำให้ ชาวต่างชาติชื่นชอบ และให้ความสนใจกันอย่างมาก

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะ น็อคเอ้าท์ สุดทึ่ง !

ประโยชน์ ที่ได้รับ จากการฝึกกีฬา มวยไทย

เกร็ดน่ารู้มวยไทย ที่คุณพลาดไม่ได้!

เกร็ดน่ารู้มวยไทย ที่คุณพลาดไม่ได้!

สำหรับบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก มวยไทย ( Muay Thai ) กับสิ่ง ที่คุณอาจจะยัง ไม่เคยรู้มาก่อน อย่าง เกร็ดน่ารู้มวยไทย ที่คุณพลาดไม่ได้! ซึ่งเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ก็ถือว่า น่าสนใจ มีคุณค่า และ เป็นสิ่งที่เราคนไทยควรรู้ไว้ด้วย มีประโยชน์ และได้เป็น ความรู้รอบตัวด้วยค่ะ

 

 

พร้อมแล้ว เราไป สิ่งที่อาจจะ ไม่รู้ เกี่ยวกับ มวยไทย ( Muay Thai ) กันค่ะ

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) เคยถูกเรียกว่า ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9 เพราะว่า มีการต่อสู้ โดยใช้อาวุธบนร่างกาย 9 อย่าง (นวอาวุธ) คือ หมัด 2 / ศอก 2 / เข่า 2 / เท้า 2 และ หัว 1 ค่ะ

 

2. ปัจจุบันชาวต่างชาติ มักจะรู้จักมวยไทย ในนาม Art of Eight Limbs (ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 เพราะ กติกามวยไทยปัจจุบัน ตัดการใช้หัวโขกออกไป และ ไปเรียก Lethwei (มวยพม่า) ว่าเป็น Art of Nine Limbs (ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9) แทน เพราะ ยังสามารถใช้หัวโขกได้

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ในอดีต ใช้คาดเชือก ในการพันมือเพื่อป้องกัน การบาดเจ็บของมือ แต่กติกาไม่ได้กำหนดว่า ต้องคาดเชือก แต่อย่างก็ดี นักสู้สามารถเข้าต่อสู้ โดยใช้มือเปล่าก็ได้ค่ะ

 

4. สนามมวยแห่งแรกถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2462 คือ สนามมวยสวนกุหลาบ ซึ่งดำเนินการโดยประชาชน ภายในบริเวณวังสวนกุหลาบ

 

5. สนามมวยราชดำเนิน หรือชื่อที่คุ้นเคยว่า เวทีมวยราชดำเนิน (Rajadumnern Stadium) นับเป็นเวทีมวยระดับมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรร โดยให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างขึ้น ซึ่งเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 2484 แต่มาเสร็จสิ้นหลังสงครามสงบแล้ว ในปี 2488 และมีการแข่งขันนัดแรก เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2488 โดยระยะแรกนั้น สนามมวยราชดำเนิน ยังไม่มีหลังคามุง ต่อมา นายเฉลิม เชี่ยวสกุล ผู้จัดการสนามมวย ได้เล็งเห็นถึง ปัญหาและความไม่สะดวก จึงเสนอให้สร้างหลังคา เพื่อคลุมพื้นที่ ทั้งหมด ต่อมาในปี 2494 สนามมวยราชดำเนิน จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์เป็นสนามมวยได้มาตรฐาน

 

6. มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นได้รับความนิยมในทุกชนชั้น ในประวัติศาสตร์ พระเจ้าเสือ ได้ปลอมพระองค์กลายเป็นสามัญชน ออกไปชกมวย กับนักมวยฝีมือดีของอำเภอวิเศษไชยชาญ และได้เอาชนะนักชกชนะนักมวยเอกถึง ๓ คน ได้แก่ นายกลาง หมัดตาย นายใหญ่ หมัดเหล็ก และ นายเล็ก หมัดหนัก โดยทั้ง 3 คน ต่างได้รับความพ่ายแพ้อย่างบอบช้ำ

 

7. ในหนังสือ นักเรียนนายร้อยไทยในเยอรมันยุคไกเซอร์ ในสมัยรัชกาลที่ 5-6 คนไทยไปเรียนวิชาทหารที่เยอรมันกันหลายคน รุ่นหนึ่งมี แฮร์มัน เกอริงรวมอยู่ด้วย ต่อมา เขาก็คือ จอมพลเกอริง จอมเผด็จการอันดับ 2 รองจากฮิตเลอร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เกอริง เป็นคนตัวใหญ่และชอบแกล้งเพื่อน เช่น ชอบเอาถุงเท้าไปซ่อน ทำให้เพื่อนแต่งตัวไม่ทัน หรือแกล้งเอาถุงเท้าไปชุบน้ำให้ชื้น เอาไปใส่ตอนอากาศหนาว ถือว่าตัวใหญ่แกล้งใครก็แกล้งได้ แต่พอไปแกล้งเพื่อนไทยที่ไม่เกี่ยงเรื่องตัวใหญ่อยู่แล้วเลยได้เรื่อง ปล่อยหมัดตรงเข้าหน้าด้วยแรงโมโห ผลปรากฏว่าคนชกได้แผลแหวะที่โคนนิ้วกลาง ส่วนคนถูกชกฟันหัก คนที่ชกก็คือ ขเด็ท หรือนักเรียนนายร้อย น้อม ศรีรัตน์ ซึ่งต่อมาก็คือ พลตรีพระศักดาพลรักษ์ นั่นเอง

 

8. ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการจัดแข่งขันมวยคาดเชือก บริเวณหน้าพระที่นั่ง ณ บริเวณหน้าพลับพลาทรงธรรม สวนมิสกวัน ในงานศพของพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ร.ศ.128 (พ.ศ. 2452) โดยให้หัวเมือง ทั่วประเทศคัดเลือกนักมวยฝีมือดีเข้าแข่งขัน

นักมวยฝีมือดี ชนะคู่ต่อสู้หลายคนเป็นที่พอพระราชหฤทัย รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดฯ พระราชทานยศและบรรดาศักดิ์ เป็น “ขุนหมื่นครูมวย” ถือศักดินา 300 จำนวน 3 คน คือ

นายปล่อง จำนงทอง จากเมืองไชยา เป็น หมื่นมวยมีชื่อ

นายกลึง โตสะอาด จากเมืองลพบุรี เป็น หมื่นมือแม่นหมัด

นายแดง ไทยประเสริฐ จากเมืองโคราช เป็น หมื่นชงัดเชิงชก

 

ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นเกร็ดความรู้ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น เกร็ดน่ารู้มวยไทย ที่คุณพลาดไม่ได้! ที่นำมาฝากเพื่อน ๆ ในวันนี้ หวังว่าทุกคน จะรู้จัก และรักมวยไทยกันมากขึ้นนะคะ หากสนใจเรียนมวยไทย แนะนำให้คลิก https://jaroenthongmuaythaikhaosan.com ได้ทันที เรียนมวยไทย ที่ เจริญทอง มวยไทย ยิม บอกเลยว่า มีแต่ได้กับได้เท่านั้น

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การใช้เข่า มวยไทย ลีลาไม้ตายของยอดนักมวยไทย

มวยไทย เพื่อการลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อแน่นๆ โดนใจ

ประโยชน์ของมวยไทย ทำไมการเรียนมวยไทยช่วยลดความเครียดได้

ประโยชน์ของมวยไทย ทำไมการเรียนมวยไทยช่วยลดความเครียดได้

หากพูดถึงความเครียด หลาย ๆ คนคงมีวิธีที่จะจัดการกับอารมณ์หงุดหงิดไม่สบายใจเหล่านี้ที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็หาเพลงฟัง หาภาพยนตร์ดู หรือไปออกกำลังกาย ตั้งแต่การวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่ง การต่อยมวยไทย โดยปกติแล้วการออกกำลังจะช่วยกระตุ้นให้เราหลั่งฮอร์โมนโดพามีน ฮอร์โมนแห่งความพึงพอใจออกมา รวมไปถึงฮอร์โมนเซโรโทนิน ที่เป็นฮอร์โมนต้านความเครียด การออกกำลังกายจึงถือเป็นกิจกรรมลำดับต้น ๆ ที่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมทำเพื่อลดความเครียด แต่เป็นไปได้หรือไม่ว่าการออกกำลังกายโดยการต่อยมวยหรือการออกกำลังกายจำพวกศิลปะการป้องกันตัวเช่นนี้ มีแนวโน้มที่จะช่วยลดความเครียดได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น หากทำได้จริง การออกแรงเตะต่อยไม่ว่าจะไปลงบนกระสอบทราย ลงบนเบาะที่อยู่บนครูฝึกหรือคู่ซ้อม มีผลในการช่วยลดความเครียดของเราได้มากน้อยขนาดไหน ไปหาคำตอบกัน

 

ความเครียดกับการเคลื่อนไหว 


ก่อนที่เราจะทำความเข้าใจ ว่าการต่อยมวย สามารถช่วยลดความเครียดได้อย่างไร เราลองมาทำความเข้าใจพื้นฐานการออกกำลังกาย และการเคลื่อนไหวร่างกาย ที่มีส่วนช่วยในการช่วยลดความเครียดกันก่อนโดยทั่วไปการออกกำลังกาย หรือการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การเดิน แกว่งแขน ขยับขา หรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่เรียกรวม ๆ ว่า การเคลื่อนไหว มีส่วนช่วยในการ ลดความเครียดได้ และเป็นหนึ่งในกิจกรรมลดความเครียดที่ง่ายที่สุด ที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะทำ
กล่าวคือ เมื่อใดที่ความเครียดส่งผลต่อสมอง ระบบประสาท และการทำงานในส่วนอื่นของร่างกายก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นหากร่างกายของเรา ได้รับการกระตุ้นโดยการออกกำลังกายจนหลั่งฮอร์โมนดีออกมา สุขภาพจิตใจของเราก็มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นตามไปด้วย 

 

การออกกำลังกาย และ การหลั่งสารเอ็นโดฟิน


การออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมการหลั่งฮอร์โมน endorphins หรือ ที่เรียกว่าฮอร์โมน รู้สึกดี มวยไทย เป็นการออกกำลังกาย ที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคนิคต่าง ๆ เช่น หมัด เตะ เข่า และ ศอก การเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกายทั้งร่างกาย แต่ยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มอารมณ์ตามธรรมชาติ และลดระดับความเครียดได้อีกด้วย


1. การเชื่อมต่อร่างกาย และจิตใจ


มวยไทย เน้นความเชื่อมโยงระหว่างจิตใจ และร่างกาย ผู้ออกกำลังกายควรให้ความสำคัญ กับการหายใจ การวางตำแหน่งของร่างกาย และการเคลื่อนไหว ซึ่งส่งเสริมสติ และการรับรู้ขณะปัจจุบัน การจดจ่อกับปัจจุบันนี้สามารถช่วยเปลี่ยนจุดสนใจ ให้ห่างไกลจากความเครียด และความกังวล ทำให้บุคคลรู้สึกถึงความสงบ และความชัดเจนทางจิตใจ

 

2. การปลดปล่อยอารมณ์


การออกกำลังกายมวยไทย ทำให้ควบคุมอารมณ์ และคลายเครียดได้ ผู้ออกกำลังกายจะรู้สึกว่าได้ปลดปล่อย เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟินออกมา


3. เพิ่มความมั่นใจในตนเอง


การฝึกมวยไทย มักจะเกี่ยวข้องกับความท้าทาย การตั้งเป้าหมาย และการบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แต่ละคนก้าวหน้าในการฝึกอบรม พวกเขาพัฒนาความรู้สึกของความสำเร็จ และ เพิ่มความมั่นใจในตนเอง การเพิ่มความภาคภูมิใจในตนเองนี้ สามารถช่วยให้แต่ละคนรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น และปรับปรุงสภาพจิตใจโดยรวมของพวกเขา

 

ทำไมการเรียนมวยไทยถึงช่วยลดความเครียดได้ดี 

 

สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตเห็นได้ ในเรื่องของความแตกต่างระหว่างมวยไทย กับกีฬาชนิดอื่น  ๆ คือมวยไทยเป็นกีฬาที่ต้องใช้กำลัง ต้องออกแรงเตะต่อย  จุดนี้อาจเป็นคำตอบสำคัญ ของวิธีการจัดการกับความเครียด โดยมีพื้นฐานมาจากอารมณ์ ความโกรธ ความกลัว หรือแม้แต่ความเศร้า การออกแรงชกต่อย จึงอาจมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เกิดการออกแรง จนเปลี่ยนเป็นความผ่อนคลายได้ ในภายหลัง
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสภาพแวดล้อม และสังคมปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้เราแสดงออก ถึงความรู้สึกกดดัน หรือความเครียดที่เราต้องเจอมากมาย ทั้งมาจากการทำงาน ทั้งการเรียน หรือเหตุการณ์ใดที่ชวนหงุดหงิด ที่พบเห็นได้ตามชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การจราจรที่ติดขัดในทุกเช้า ราคาน้ำมันขึ้น แดดร้อน ฝนตก วิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความเครียดเหล่านี้ไปได้ คือการหาทางปล่อยอารมณ์โกรธ และหงุดหงิดแบบขั้นสุด และคำตอบของวิธีที่ว่านี้คือการออกแรงอย่าง การเรียนมวยไทย
การเรียนมวยไทย จึงเปรียบเสมือน การปลดปล่อย อารมณ์ความเครียดขั้นสูงสุด เหมือนการเคลื่อนไหวที่เน้นการออกแรงอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่การออกกำลังกายแบบอื่น ๆ ไม่มี ลองนึกภาพว่าเรากำลังออกกำลังกายที่เน้นความอดทนมาก ๆ แต่สิ่งที่เราต้องการทำจริง ๆ คือการปลดปล่อย การเรียนมวยไทย จึงอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า ในการจัดการกับความเครียด การเรียนมวยไทย เป็นวิธีการระบายความเครียดออกอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจจะเหมาะกว่ากีฬาประเภทอื่น ๆ เพราะมีพื้นฐานมาจาก การจัดการอารมณ์ ความเครียดที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดของมนุษย์ เวลาโกรธ คนส่วนมากที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มักจะเริ่มใช้กำลัง ขว้างโยนสิ่งของ เริ่มตะโกน กรี๊ด เป็นการระเบิดอารมณ์ที่รุนแรง ที่ยากจะควบคุม แต่ในเมื่อการจัดการกับอารมณ์โกรธ และเครียดเหล่านั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม การออกกำลังด้วยการระเบิดอารมณ์อย่างสร้างสรรค์ที่สุดก็คือการต่อยมวย

 

มากกว่าความเครียด คือ สมาธิ 


หลายคนอาจจะคิดว่าการต่อยมวย ต้องมีพื้นฐาน มาจากอารมณ์ความเครียดอย่างเดียวหรือเปล่า คำตอบของคำถามนี้ก็คงไม่ตายตัว เป็นเรื่องจริงที่การเรียนมวยไทย เป็นวิธีการระบายความเครียดอย่างสร้างสรรค์วิธีหนึ่ง แต่เหนือไปกว่านั้น คือการมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จนทำให้เราลืมความเครียดไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง
แม้ว่าภาพของมวยไทยในสายตาของคนที่ไม่เคยลอง หรือไม่เคยดู จะเป็นกีฬาที่ดูหุนหันพลันแล่น เข้าไปต่อยเข้าไปเตะกันอย่างรุนแรงแบบรัว ๆ แต่ความจริงแล้ว ทุกจังหวะ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนสำคัญ และต้องถูกกลั่นมาจากการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงทั้งสิ้น ตั้งแต่จังหวะการเดินไปจนถึงการออกหมัด การออกแรงแบบรุนแรงที่ได้กล่าวมาก่อนหน้า จะได้ผลดีที่สุดหากเราทำมันอย่างถูกต้อง จนกลายเป็นการออกหมัดที่แข็งแรง ตรงจุดอย่างแม่นยำ

 

สรุป


นอกจากการระบายความเครียดอย่างการออกแรงแล้ว ในทางหนึ่งคนที่เรียนมวยก็สามารถนำความเครียดเหล่านั้นมาเป็นเทคนิคเชิงบวก อย่างการเพ่งสมาธิ ไปสู่การฝึกเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ต่างอะไรกับการเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ รวบรวมสมาธิ และเปลี่ยนความก้าวร้าว ให้เป็นการแสดงออกทางกายภาพ อย่างเหมาะสมได้ แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว การออกกำลังกายทุกวิธีจะช่วยให้สุขภาพดีและจัดการกับความเครียดได้เหมือนกัน แต่ มวยไทย อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการออกกำลังกายเพื่อลดความเครียดที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนที่ยังไม่เคยลอง บางทีกีฬาที่เน้นการออกแรงแบบนี้ อาจจะให้บทเรียนและผลลัพธ์มากกว่าที่เราคาดไว้ก็เป็นได้ การเรียนมวยไทย อาจช่วยเป็นศิลปะการป้องกันตัวในสถานการณ์ที่จำเป็นได้ด้วย

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การใช้เข่า มวยไทย ลีลาไม้ตายของยอดนักมวยไทย

มวยไทย เพื่อการลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อแน่นๆ โดนใจ

 

เหตุผลที่ กีฬามวยไทย ตอบโจทย์ คนไม่ชอบออกกำลังกาย

เหตุผลที่ กีฬามวยไทย ตอบโจทย์ คนไม่ชอบออกกำลังกาย

สำหรับใคร ที่คิดจะเริ่มต้น ออกกำลังกาย เป็นกิจวัตร โดยที่ทุกคน ไม่ต้องฝืนใจ การฝึก กีฬามวยไทย เป็นอีกสิ่ง ที่สามารถ ตอบโจทย์ คนไม่ชอบออกกำลังกาย ได้ดี ซึ่งวันนี้เรามี เหตุผลที่ กีฬามวยไทย ตอบโจทย์ให้กับ ทุกคนกัน

เหตุผลที่ กีฬามวยไทย ตอบโจทย์ คนไม่ชอบออกกำลังกาย

กีฬามวยไทย ที่ถือว่าเป็น “ศาสตร์แห่งนวอาวุธ หรือว่า ศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด” ที่นับเป็น ศิลปะการต่อสู้ ในแขนงหนึ่ง ที่มี แม่ไม้มวยไทย การออกอาวุธ ที่ทรง ประสิทธิภาพ มากที่สุด เท่าที่เคย จะมีมา ซึ่งเป็น การใช้ทั้ง หมัด, เท้า, เข่า, และ ศอก ในการ เล่นงาน คู่ต่อสู้ และนี่ก็คือ หลากหลาย เหตุผลที่ เราจะมาบอกว่า ทำไม “กีฬามวยไทย” นั่นถึงเป็น ตัวเลือกที่ดี ที่สุด สำหรับหลาย ๆ คนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย มาดูกันเลย

 

1. ช่วยเรื่อง การเผาผลาญ แบบจัดเต็ม

ถ้าหากใคร ที่ต้องการ ลดน้ำหนัก และฟิตหุ่น เพื่อให้ดีขึ้น ก็คือ เป้าหมายหลัก ในการ ออกกำลังกาย กีฬามวยไทย ที่จะทำให้เรา ไปถึงจุดนั้นได้ อย่างรวดเร็ว กว่าการ ออกกำลังกาย แบบทั่ว ๆ ไป ในการฝึก กีฬามวยไทย เราจะต้องใช้ กล้ามเนื้อ ในทุกส่วน ของร่างกาย โดยเฉพาะ กล้ามเนื้อแกนกลาง ที่จะถูกบีบ เป็นพิเศษ ในทุกครั้ง ที่เราเทรนด์

ในทุกครั้ง ที่ชั่วโมงเรียน กีฬามวยไทย จบลง เราจะสามารถ เผาผลาญไขมัน ได้ประมาณ 1,000 แคลอรี่ ต่อหนึ่งชั่วโมง ซึ่งก็เกือบ จะเท่ากับ ครึ่งหนึ่งของ จำนวนแคลอรี่ ที่คนทั่ว ๆ ไป ควรจะได้รับ ในแต่ละวัน และนับเป็นวิธีการ เบิร์นไขมัน ที่เห็นผล ได้อย่างชัดเจน

2. กีฬามวยไทย ทำให้ได้เพื่อน ๆ ใหม่

ศิลปะมวยไทย นั่นมีเสน่ห์ ในบางอย่าง ที่จะช่วยดึงดูด คนเจ๋ง ๆ ให้โคจร มาพบกัน ซึ่งเสน่ห์ที่ว่านั้น อาจมาจาก บรรยากาศที่ดูขลัง น่าเลื่อมใสของ กีฬามวยไทย หรืออาจ ธรรมเนียมถ้อย ทีอาศัยต่อ ผู้เรียนหน้าใหม่ ๆ เมื่อเราเริ่ม ฝึกมวยไทย เราก็จะได้พบปะกับ ผู้คนมากหน้า หลายตา ซึ่งอาจมีหลายคน ที่คบหา เป็นเพื่อนกัน ไปตลอดชีวิต ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่ง เหตุผลที่ เป็นผลพลอยได้ดีๆ  ที่มาจากการ เรียนมวยไทย เราจะสามารถ ฝึกมวยไทย และสังสรรค์ กับคนที่เราชื่นชม และเคารพได้ ในเวลาเดียวกัน อีกด้วย

3. ได้เรียนรู้ศาสตร์ การป้องกันตัว ที่มีประสิทธิภาพ

กีฬามวยไทย ซึ่งเป็นหนึ่งใน ศิลปะการต่อสู้ ที่สามารถใช้ ป้องกันตัว ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่สุด ถ้าหากเรา อยากเรียน วิชาต่อสู้ ที่เน้นลีลา ที่แพรวพราว แต่ใช้ ป้องกันตัวเองไม่ได้ ก็ให้เลือกเรียน อย่างอื่น ที่ไม่ใช่ กีฬามวยไทย เพราะว่า กีฬามวยไทย จะมุ่งเน้น ไปที่สามารถ ใช้งานได้จริง ๆ ในการ ปกป้องตัวเอง และ บนสังเวียน นั่นเอง

4. กีฬามวยไทย ยิ่งเรียน ก็ยิ่งน่าสนใจ

เป็นหนึ่งใน สาเหตุหลัก ๆ ที่คนส่วนใหญ่ เลิกล้มความตั้งใจ ที่จะ ออกกำลังกาย เป็นกิจวัตรประจำวัน ก็คือ นับวัน ๆ มันยิ่งน่าเบื่อ ตอนที่เริ่มเล่นใหม่ ๆ ก็มีพลังใจ ที่เปี่ยมล้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความคึกคักนั้น ก็ค่อย ๆ ลดลง ที่เป็นอย่างนี้ ก็เพราะว่า คนเราเบื่อกับ การที่จะต้อง มาทำอะไรซ้ำ ๆ ในแบบเดียวกัน ทุกวัน จากนั้น ก็ลงเอย ด้วยการ หยุดเล่นอย่างถาวร ในที่สุด จึงทำให้ผลลัพธ์ จากการที่เรา ทุ่มเทแรงกาย และแรงใจ ออกกำลังกายก่อนหน้า ก็ค่อย ๆ แห้งเหี่ยว และหดหาย ตามไป อย่างน่าเสียดาย

แต่ความน่าเบื่อ แบบนี้จะไม่มีให้เห็น ในการฝึกฝน กีฬามวยไทย เพราะว่า กีฬามวยไทย นั่นมี แม่ไม้มวยไทย หรือ ท่าต่อสู้ ที่มากกว่า หนึ่งพันท่า และยังมีการ คิดค้นพัฒนา ท่าใหม่ ๆ อยู่เสมอ และการตั้งหน้า ตั้งตารอ ที่จะเรียนรู้ท่า หรือเคล็ดลับ วิชาใหม่ ๆ ที่ครูมวย จะสอน ในแต่ละชั่วโมงเรียน จึงทำให้ กีฬามวยไทย น่าสนใจอยู่เสมอ และหากใคร ที่อาจเบื่อกับ การออกกำลัง ชนิดอื่น ๆ ก็ลองหันมาฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) กันได้ที่ เจริญทองมวยไทย ที่มีแต่ความสนุก ได้เจอเพื่อใหม่ ๆ ได้ร่างกายที่แข็งแรง และที่สำคัญ จะไม่ทำให้เราเบื่อการออกกำลังกาย กันอีกด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เริ่มต้นชกมวย เลือก กระสอบทรายตั้งพื้น หรือ แบบแขวน ?

เบิร์นไขมัน ลดหุ่น ไปกับ กีฬามวยไทย

 

เริ่มต้นชกมวย เลือก กระสอบทรายตั้งพื้น หรือ แบบแขวน ?

เริ่มต้นชกมวย เลือก กระสอบทรายตั้งพื้น หรือ แบบแขวน ?

แน่นอนว่าอุปกรณ์ที่สำคัญ อย่าง กระสอบทราย หลาย ๆ คน ต่างมีคำถามว่า กระสอบทรายตั้งพื้น หรือ กระสอบทรายแบบแขวน เราเริ่มต้นแล้วควร เลือกแบบไหนดี? วันนี้เราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

 

 

ก่อนอื่น มาดู ความแตกต่างระหว่างกระสอบทรายตั้งพื้น กับ กระสอบทรายแบบแขวน ?

สำหรับกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ในการเลือก กระสอบทราย นั้น จัดว่าเป็น อีกหนึ่งอุปกรณ์กีฬา ที่ได้รับความนิยม อย่างมากมาย ต่อเนื่อง จากคนที่ชื่นชอบ ในการออกกำลังกาย อย่างกาย ในการ ชกมวย และสำหรับคนที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายที่ไม่ใช่กลางแจ้ง ทำให้นักกีฬา หรือว่า คนที่ต้องการ ออกกำลังกาย ได้ ก็เป็นการ ออกกำลังกาย ในแบบสบาย ๆ

 

ที่สำคัญเลย ในปัจจุบัน ไม่จำเป็น ว่าจะต้องเดินทาง เพื่อไป ชกมวย หรือ ทำการชกกระสอบทราย ที่ค่ายมวยเลย นั่นเพราะ คุณสามารถ ที่จะติดตั้ง กระสอบทราย เอาไว้ที่บ้าน เพื่อออกกำลังกายได้แล้วง่าย ๆ สิ่งสำคัญเลย นั่นคือ ราคาไม่แพงอีกด้วย โดยเราเชื่อว่า หลายๆ คน นั้นก็มัก ที่จะตั้งคำถาม หนึ่งคำถามขึ้นมา เมื่อจะเลือกซื้อ กระสอบทราย มา 1 กระสอบ นั่นคือ เลือก กระสอบทรายตั้งพื้น หรือ กระสอบทรายแบบแขวน ควร เลือกแบบไหนดี? เราบอกได้เลยว่า ทั้ง 2 อย่าง นั้นก็มี ข้อดี และแน่นอนว่า ข้อเสีย ที่มีความแตกต่างกันออกไป โดยในแต่ละแบบ ก็มีดังต่อไปนี้

 

1. ถ้าเลือกกระสอบทรายตั้งพื้น โดยมี ข้อดี นั่นคือ มีขั้นตอนในการติดตั้งง่าย ๆ เพียงแค่ ประกอบ และทำการติดตั้งให้ถูกต้อง ตามคู่มือที่แนบมา และติดตั้งในพื้นที่ ที่คุณต้องการใช้ซ้อม ซึ่งก็ต้องทำการเผื่อพื้นที่ เอาไว้ซักเล็กน้อย เวลาที่กระสอบล้ม แต่ส่วนใหญ่แล้ว กระสอบทรายแบบตั้งพื้น มักจะสูงไม่เกิน 2 เมตร ล้มรอบด้าน ก็ด้านละ 2 เมตรเท่านั้น ข้อดีต่อไป นั่นคือ ประหยัดเวลา เพราะว่า เราไม่ต้องเสียเวลาในการยัดของกระสอบ นั่นเพราะ กระสอบทรายตั้งพื้น โดยส่วนใหญ่จะผลิตโดยการบุฟองน้ำและหุ้มมาให้เรียบร้อยแล้ว พอติดตั้งเสร็จก็ซ้อมได้ทันที 

 

โดยนี่ก็เป็น ความแตกต่างกับ กระสอบทรายแบบแขวน ที่ในการย้ายนั้น ก็จะต้องทำการเจาะเสา เจาะกำแพง แล้วจึงยึดเหล็กใหม่ ทั้งหมดเลย นี่เอง ที่จะส่งผล ทำให้เสียเงินมากมาย ในการทำอย่างแน่นอน และข้อดี ที่สำคัญที่สุดก็ นั่นคือ อารมณ์ร่วม ในขณะที่คุณกำลังทำการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ การออกกำลังกาย การฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )  ด้วยกระสอบทรายตั้งพื้น ก็จะทำให้ความรู้สึกเหมือนซ้อม กับคนจริง ๆ ที่มีการโยกหัวหลบไปมา มันจะสนุกแตกต่างไปจาก กระสอบทรายแบบแขวน ที่แกว่งด้านล่างเท่านั้น

 

2. กระสอบทรายแขวน ข้อดีก็คือ ราคาถูกกว่ามาก ๆ ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แต่ว่าในส่วนของปัญหา มันก็มีอยู่ว่า ในการติดตั้ง นั้นจะมีความยุ่งยากมาก ซึ่งในการติดตั้ง กระสอบทรายแบบแขวน นั้น ก็จะต้องทำการติดตั้ง อย่างน้อย ๆ 3 เมตร ซึ่งทำให้การติดตั้ง ในพื้นที่ที่มีเพดานที่ไม่สูง ก็ไม่สามารถที่จะทำได้  โดยก่อนที่จะทำการติดตั้งกระสอบทรายนั้นจะต้องทำการยัดทรายหรือเศษผ้าใส่ในตัวกระสอบก่อน  ถ้าเลือกเป็นทรายที่ยัดเข้าไปก็จะทำเกิดปัญหา ในเรื่องของน้ำหนัก และตะขอที่จะใช้แขวน เพราะว่า ต้องมีความแข็งแรงมั่นคงมาก ๆ ถึงจะสามารถที่จะทำการรับน้ำหนักได้ เท่านั้นยังไม่พอ กระสอบทรายแบบแขวนอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากการฝึกซ้อมโดยใช้ทรายจริง ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้หลายคนหันมาปรับเปลี่ยนด้วยการใช้ผ้าซึ่งเบาและปลอดภัยกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ดีก็ต้องทำการยัดกระสอบก่อนแขวนอยู่ดี ซึ่งไม่ว่าจะยัดด้วยเศษผ้าหรือทราย ใช้งานไปซักระยะ ตัวกระสอบก็จะเกิดการยุบตัวอยู่ดี

 

และนี่ก็เป็นข้อแตกต่าง ที่เราได้นำมาฝาก นี่แหละที่จะทำให้คุณนั้นก็รู้สึกง่ายมาก ๆ ต่อการตัดสินใจ เพื่อการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณเองจะเลือก กระสอบทรายแบบไหน ๆ สิ่งที่คุณเลือก คือสิ่งที่คุณชอบ ดังนั้น ทุก ๆ ความชอบ มันก็จะทำให้คุณมีความสุขกับมันทุกครั้ง ที่ได้ลงมือใช้อย่างแน่นอน อย่าเลือกตัดสินใจซื้อของ เพียงแค่จากราคา เพราะนั้นมันก็อาจจะทำให้คุณเสียแล้ว เสียอีก

 

จนท้ายที่สุด คุณจะต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ ๆ มาทดแทนที่คุณได้ซื้อมา เพราะว่า มันพังหรือว่าอาจะไม่ได้มาตรฐาน กลับกันแทนที่จะเป็นการเสียเงิน ลงทุนเพียงครั้งเดียว แล้วได้สินค้าที่ดี ๆ ที่มีมาตรฐานมาใช้ และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากกว่า โดยหลังจากบทความนี้ เชื่อว่าคุณจะตัดสินใจได้ อย่างแม่นยำแน่นอน และถ้าหากต้องการเรียนมวยไทย หรือหาที่ฝึกซ้อมกีฬามวยไทยละก็ ติดต่อหาเราได้ทันทีเลยนะคะ

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การป้องกันการบาดเจ็บ ในการเล่นมวยไทย

ข้อดีของการเล่น กีฬามวยไทย ดีต่อ ร่างกาย

เบิร์นไขมัน ลดหุ่น ไปกับ กีฬามวยไทย

เบิร์นไขมัน ลดหุ่น ไปกับ กีฬามวยไทย

สุดยอดของการ เบิร์นไขมัน ลดหุ่น ที่เป็น การออกกำลังกาย กันด้วย กีฬามวยไทย ที่ถือเป็น อีกหนึ่งทางเลือก ที่ดีของใคร หลาย ๆ คน ที่เลือก ออกกำลังกาย กันด้วยกีฬา ชนิดนี้ เพราะสามารถ ช่วยในการ เบิร์นไขมัน ได้ดี แถมยังช่วยให้ ร่างกาย แข็งแรง อีกด้วย

เบิร์นไขมัน ลดหุ่น ไปกับ กีฬามวยไทย

กีฬามวยไทย เป็นรูปแบบของ การออกกำลังกาย ในแบบ คาร์ดิโอ ( Cadio ) แต่ถ้าเมื่อไร ที่เราได้ ต่อยมวย กับคู่ต่อสู้ ที่มี ระยะเวลา ในแต่ละยก และจะมี เวลาระหว่าง การพักยก นั้น ที่ถือเป็น การออกกำลังกาย ในรูปแบบ HIIT เพราะว่า มีการเล่น ที่หนัก และเบา ผสมกันไป ซึ่งการออกกำลังกาย ในแบบ เล่นหนัก กับสลับเล่นเบา ก็จะช่วยให้ ร่างกาย ของเรา เผาผลาญไขมัน ภายในร่างกาย ได้ดี มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วย ฝึกร่างกาย ของเราให้ แข็งแรง อีกด้วยน่ะ

สำหรับ การต่อยมวย ที่นอกจาก จะเป็น การเรียนรู้ ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ แม่ไม้มวยไทย เพื่อช่วย ป้องกันตัว ได้แล้วนั้น ก็ยังช่วย ทำให้ กล้ามเนื้อแข็งแรง และ อัตราการเต้น ของหัวใจ รวมไปถึง ระบบไหลเวียนเลือด ทำงานได้ดี และยังช่วย ทักษะในเรื่อง ของ การทรงตัว, ฝึกสมอง ช่วยให้ คิดเร็ว และทำเร็ว ซึ่งการ ต่อยมวย เพียงแค่ 1 นาที จะสามารถ เบิร์นไขมัน ได้ถึง 13 แคลอรี่ ต่อยมวย 30 นาที จะสามารถ เบิร์นไขมัน ได้ถึง 400 แคลอรี่ และถ้าหากได้ ต่อยมวย 1 ชั่วโมง ขึ้นไป ก็จะสามารถ เบิร์นไขมันได้ ถึง 1,000 แคลอรี่ กีฬามวยไทย ประเภทนี้ ที่ถือเป็น กีฬามวยไทย ที่จะสามารถ เผาผลาญพลังงาน ได้ดี และยัง น่าสนใจ เป็นอย่างมาก เพราะว่า ยังได้ฝึกทักษะ อื่น ๆ ด้าน กีฬามวยไทย อีกด้วย

การออกกำลังกาย สไตล์ กีฬามวยไทย ที่ไม่ได้ มีแค่ การใช้ หมัด, ชก, ต่อย เพียงเท่านั้น แต่ยังมีการ ออกอาวุธ อย่างการใช้ ขา, เข่า, และศอก ที่จะช่วย ให้ผู้ที่ ออกกำลังกาย ด้วย กีฬามวยไทย นั่นได้ ออกกำลังกาย ครอบคลุม ทุกสัดส่วน ของร่างกาย จากการ ออกอาวุธ ในส่วนต่าง ๆ ได้ ด้วยเหตุผล ซึ่งการฝึก กีฬามวยไทย จึงถือเป็น ทางเลือกหนึ่ง ในการออกกำลังกาย สำหรับ ผู้ที่ต้องการ จะออกกำลังกาย เพื่อ ลดน้ำหนัก รีดไขมัน ลดหุ่น หรือว่า กระชับสัดส่วน ของร่างกาย ได้ดี ที่จะสามารถ เผาผลาญไขมัน ได้ เป็นอย่างดี และยังครอบคลุม ถึงการใช้ กล้ามเนื้อ ในแต่ละส่วนของ ร่างกาย ของเราได้

ถ้าหากใคร ที่อยากจะมี กล้ามหน้าท้อง สวย ๆ ก็ลองเปลี่ยน จากการ ซิทอัพ ในแบบเดิม ๆ แล้วหันมาเล่น กีฬามวยไทย หรือ ต่อยมวย กันดูไหม เพราะว่า เวลาที่เรา ชกมวย นั่นจะต้อง บิดตัว เพื่อที่จะให้ น้ำหนักตัว ไปลงที่ หมัด จึงทำให้ หมัดหนัก และท่านี้ นี่เอง ที่เราจะต้อง เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพื่อให้แข็ง นั่นจึงเป็น เหตุผลที่ ทำให้ หน้าท้องแบนราบ นั่นเอง และนอกจากนี้ การต่อย คู่ต่อสู้ ด้วยความเร็ว ก็จะสามารถ เผาผลาญพลังงาน ได้ดีกว่า การออกกำลังกาย อย่างการ Sit Up นั่นเอง

 ซึ่งถ้าหากเพื่อน ๆ ที่กำลังเจอ กับปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้เกิด ความเครียด หรือว่า เหนื่อยมาทั้งวัน แล้วอยากจะ พักสมอง อยากระบายอารมณ์ ความเครียด ล่ะก็ กีฬามวยไทย เหมาะกับเพื่อน ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะที่ ออกแรงต่อยมวย ทำให้เราได้ ระบายความเครียด กับ กระสอบทราย ได้อีก ซึ่งถือเป็น การผ่อนคลาย และยังสามารถ เบิร์นไขมัน ลดหุ่น ที่ดี อีกทางหนึ่งด้วย และหากใคร กำลังมองหาสถานที่ต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) เราขอแนะนำ เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร ที่เป็น ศูนย์ออกกำลังกาย อย่างครบครัน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย เพื่อการลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อแน่นๆ โดนใจ

ข้อดีของการเล่น กีฬามวยไทย ดีต่อ ร่างกาย

มวยไทย เพื่อการลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อแน่นๆ โดนใจ

มวยไทย เพื่อการลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อแน่นๆ โดนใจ

หากคุณออกกำลังกายจนท้อ แต่ก็ยังไม่เจอทางที่ใช่ หรือว่าไม่ได้ดั่งใจสักที จะถามว่าคุณได้ลอง มวยไทย ( Muay Thai ) กันหรือยัง ขอบอกเลยว่า มวยไทย เพื่อการลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อแน่นๆ โดนใจ ลองแล้วหุ่นสวยไม่รู้ตัวเลยนะ

 

ประโยชน์สำคัญ ของการออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) และการ Kick Boxing นอกจาก จะช่วยเผาผลาญ ไขมันส่วนเกิน ทำให้สามารถฟิตหุ่นสวย ๆ ได้อย่างเร็วมากแล้ว ยังช่วยเสริมสร้าง ความยืดหยุ่น ให้กับกล้ามเนื้อในทุก ๆ ส่วน ของร่างกาย ทำให้คุณ กลายเป็นคนที่ คล่องแคล่วฉับไว ว่องไว อีกทั้งยังช่วยในเรื่อง ของระบบการไหลเวียนโลหิต ระบบการทำงาน ของหัวใจ ปอด ระบบการหายใจ และ ยังช่วยเพิ่ม ความรวดเร็ว ในการตอบสนองอีกด้วย

 

โดยทางด้าน วิทยาศาสตร์ การกีฬา ของประเทศไทยเรา ก็ได้พิสูจน์ออกมาแล้วค่ะว่า การออกกำลัง ด้วยการชก มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ว่าจะเป็น ท่วงท่าการออกหมัด ท่าเข่า ท่าศอก เตะสูง เตะต่ำ โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ต่างล้วนส่งผล ต่อการฟิตหุ่นสวย ๆ ของเราเลยนะคะ แถมมวยไทยยังมีชื่อเสียง แพร่หลาย และเป็นที่นิยมอย่างมาก ในหมู่ของชาวต่างชาติ จนบรรดา ค่ายมวยต่าง ๆ ตอนนี้ ก็มีการจัดคลาสการเรียน การสอน มวยไทย ( Muay Thai ) กันอย่างมากมายเลยทีเดียว

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ยังสามารถช่วยหลาย ๆ คน ที่กำลัง มีอาการแฮงค์ เนื่องจาก ผ่านศึกหนัก จากการท่องยามราตรี มามากเกินไป จนสมอง เริ่มมึนงง ไม่มีสติ การออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) กีฬาชนิดนี้ ช่วยได้แน่นอนค่ะ ดังนั้น อย่ารอช้า ไปหานวมมาสวม หาสนับแข้งมาใส่ แล้วมาดูท่าง่าย ๆ ที่สามารถ ทำได้ที่บ้าน ลองดูเลยนะคะ

 

1. เตะ

มาเตะกันเบา ๆ ค่ะ เริ่มด้วยท่าเริ่มต้น คือ กำหมัดทั้งสองข้าง ให้ตั้งฉาก ที่ระดับหน้าอก จากนั้น ก้าวเท้าซ้าย มาข้างหน้าพร้อม ๆ กับการเตะขาขวา ขึ้นในลักษณะเหวี่ยง ให้ปลายเท้า ชี้มาทางซ้าย บิดตัวเล็กน้อย แล้วกลับมา ที่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำสลับซ้ายขวา ใช้เวลา ประมาณ 5 -10 นาทีค่ะ

 

2. ตีเข่า

เป็นการใช้ ช่วงล่าง ของร่างกายค่ะ ลองมาตีเข่ากันบ้าง เริ่มต้น ด้วยการกำหมัด ทั้ง 2 ข้าง ให้ตั้งฉากขนานกับหน้าอก แนบแขน ให้ชิดลำตัว แล้วจากนั้น ให้ยกเข่าขวา ขึ้นสูง เท่าที่จะทำได้ พร้อมกับเอนตัว ไปด้านหลัง เพียงเล็กน้อย กลับมา สู่ที่ท่าเริ่มต้น แล้วทำซ้ำ สลับเข่าซ้าย และขวา 5 -10 นาที

 

3. ศอกตัด

ท่าสุดฮิตของมวยไทย ( Muay Thai ) เริ่มต้นท่าเตรียมด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับหน้าอก จากนั้นให้ก้าวเท้าขวาไปด้านขวา ตามด้วยการเหวี่ยงแขนซ้ายให้ข้อศอกตั้งฉากกับหมัดขวา บิดลำตัวนิดหน่อย บิดส้นเท้าซ้าย แล้วกลับมาที่ท่าเตรียม ทำสลับกลับไปมาทั้งซ้ายและขวา ประมาณ 5 -10 นาที

 

4. ถีบ

เป็นการใช้ เท้า ค่ะ ท่านี้เริ่มจาก ท่าเริ่มต้นกำหมัดทั้งสองข้าง ให้ตั้งฉากกับระดับของหน้าอก แนบแขนชิดติดลำตัว ตามองตรง ไปข้างหน้า จากนั้นให้คุณงอเข่าเล็กน้อย พร้อมกับเตะขาออกไปข้างหน้า แต่ปลายเท้า ต้องตั้งฉาก เท่าที่คุณจะทำได้ กลับมาสู่ท่าเริ่มต้น แล้วให้ทำสลับซ้ายขวา ใช้เวลา ประมาณ 5 -10 นาที

 

5. หมัดตรง

เริ่มแรกให้ยืนปลายเท้าห่างพอประมาณ กำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับหน้าอก เก็บศอกแนบลำตัว ตามองตรง ก้าวเท้าซ้ายพร้อมชกหมัดขวาไปด้านหน้าให้แขนขนานไปกับพื้น เปิดส้นเท้าขวาทิ้งน้ำหนักไปทางเท้าซ้าย จากนั้นให้กลับมาอยู่ในท่าเตรียม ทำต่อแต่สลับด้านกันจากซ้ายมาเป็นขวา ทำสลับไปมาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 5 - 10 นาที

 

6. ศอกเสย

ท่าศอกเสย เริ่มต้นด้วย การยืนหน้าตรง กำหมัดทั้ง 2 ข้าง ไว้ใต้คาง เก็บแขน ให้แนบชิดติดกับลำตัว จากนั้น ให้ก้าวเท้าขวา ออกไปข้างหน้า เปิดส้นเท้าซ้าย พร้อมยกศอกขวาขึ้น แล้วจากนั้นกลับมา สู่ท่าเริ่มต้น ทำสลับกลับไปมา ซ้ายขวา เหมือนเดิมค่ะ ใช้เวลา ประมาณ 5 -10 นาที

 

การออกกำลังกายด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จะให้ผลลัพท์ในด้านบวกต่าง ๆ กับร่างกายแล้ว ยังได้หุ่นสวย ๆ กลับมาอีกด้วย เพราะ กีฬานี้ ได้ใช้ทุกส่วนของร่างกาย อีกทั้งท่าทั้งหมดนี้ ยังถือว่าเป็นการฝึกศิลปะป้องกันตัวชั้นเยี่ยมอีกด้วยค่ะ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะติดใจกับกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จนลืมการออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ แน่นอน สนใจเรียนมวยไทย ติดต่อสอบถาม https://jaroenthongmuaythaikhaosan.com ได้ทันทีเลยนะคะ

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การใช้เข่า มวยไทย ลีลาไม้ตายของยอดนักมวยไทย

เล่น มวยไทยคลายเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิตดี

ข้อดีของการเล่น กีฬามวยไทย ดีต่อ ร่างกาย

ข้อดีของการเล่น กีฬามวยไทย ดีต่อ ร่างกาย

สำหรับ กีฬามวยไทย ที่มี ประวัติความเป็น อย่างยาวนาน ที่ทำให้หลาย ๆ คน ยอมรับกันว่า เป็นความคอบคลุม ในหลาย ๆ ด้าน อย่าง ด้านกีฬา หรือ การละเล่นพื้นบ้าน จึงทำให้ กีฬามวยไทย มีองค์ประกอบที่สำคัญ ถึง ข้อดีของการเล่น กีฬามวยไทย ที่ดีต่อ ร่างกาย

ข้อดีของการเล่น กีฬามวยไทย ดีต่อ ร่างกาย

สำหรับ กีฬามวยไทย ที่เป็น ศิลปะมวยไทย หรือ ศิลปะการต่อสู้ ประจำชาติ ของไทย โดยเป็น มรดกตกทอด มาจาก บรรพบุรุษ  และมีคนไทย หลาย ๆ คน ที่ให้ ความสนใจ ในกีฬา ชนิดนี้กัน เพื่อศึกษา และ สืบทอดอนุรักษ์  รวมไปถึง เผยแพร่ให้กับ คนรุ่นใหม่ ได้สืบสานกันต่อไป ผู้คนที่ได้ศึกษา นอกจากจะเป็น ผู้ที่ได้ชื่อว่า รักษามรดก ของทางวัฒนธรรม ไว้อย่างดีงาม ซึ่งว่า วิชามวยไทย ก็ยังเป็นวิชา ที่จะทำให้ ผู้เรียนนั้นมี ร่างกาย ที่แข็งแรง  รวมไปถึง การมีไหวพริบ ในด้านของ การต่อสู้ สร้างความเชื่อมั่น ให้กับตัวเอง และมีประโยชน์ ในเรื่องของ การป้องกันตัว อีกทั้งยังสามารถ ใช้ประกอบอาชีพ ได้เช่นกัน

 

การสอน กีฬามวยไทย ของ ครูมวย หรือ เทรนเนอร์ ที่จะต้อง อบรมให้ผู้เรียนมี ศิลปะในการต่อสู้ อย่าง จังหวะรุก และ จังหวะรับ เพื่อฝึกให้มี น้ำใจนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และรู้อภัย โดยไม่รังแก ผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่ประมาณคู่ต่อสู้  และมี เลือดนักสู้ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ที่ได้กล่าวมานี้ ผู้ฝึกสอน จะต้องสร้าง เสริมปลูกฝัง หลอมรวม ให้กลายเป็น วิญญาณของ นักต่อสู้ ที่ดี

 

1. กีฬามวยไทย ช่วยส่งเสริม การเผชิญหน้า กับ ความท้าทาย : ซึ่งการเล่น กีฬามวยไทย จะต้อง พัฒนาทักษะ ในด้าน การต่อสู้ และปรับตัว ให้เหมาะสม กับ คู่ต่อสู้ นักกีฬา จะต้อง เผชิญหน้า ไปกับ ความท้าทาย ที่จะเกิดขึ้น ในแต่ละรอบ ของ การแข่งขัน ซึ่งจะส่งผล ให้นักกีฬา นั่นมี ความมั่นใจ และความกดดัน ในการ พัฒนาทักษะ และปรับตัว ให้ดี มากยิ่งขึ้น อีกต่อไป

2. สร้างกล้ามเนื้อ และ ความแข็งแกร่ง : การเล่น กีฬามวยไทย จะเป็นกิจกรรม ที่ใช้ กล้ามเนื้อ หลายกลุ่ม ในเรื่อง การต่อสู้ โดยนักกีฬา จะต้องฝึกฝน และเสริม สร้างกล้ามเนื้อ ให้แข็งแรง อยู่เสมอ เพื่อรับมือกับ การต่อสู้ ซึ่งจะส่งผล ให้นักกีฬามี ร่างกาย ที่แข็งแรง และมี ความสามารถ ในการทำงาน ที่รุนแรง

3. ช่วยเพิ่ม ความคล่องตัว และความรู้สึก : การเล่น กีฬามวยไทย จะต้องใช้ การเคลื่อนไหว ที่คล่องตัว และความรู้สึก ที่ดี เพื่อรับมือกับ การโจมตี และการป้องกัน ของ คู่ต่อสู้ ซึ่งนักกีฬา จะต้องฝึกฝน ให้มี ความคล่องตัว และความรู้สึก ที่ดี ในการเล่น กีฬามวยไทย ซึ่งจะส่งผล ให้นักกีฬามี ความเฉียบแหลม ในเรื่องของ การต่อสู้ และความสามารถ ในการ ป้องกันตัว อีกด้วย

4. สร้างความเป็น Disciplined : ซึ่งการเล่น กีฬามวยไทย จะต้องใช้ ความมุ่งมั่น และร่วมไปถึง ความรับผิดชอบ ในการฝึกฝน และปรับตัว ให้ดี มากยิ่งขึ้น ซึ่งนักกีฬา จะต้อง มีวินัย และ ความเคร่งครัด ในการฝึกฝน และปฏิบัติ ตามกฎระเบียบ ของ กีฬามวยไทย ซึ่งจะส่งผล ให้นักกีฬานั่น มีความเป็น Disciplined ในการ ดำเนินชีวิต และการทำงาน ในด้านอื่น ๆ

5. ช่วยส่งเสริม สุขภาพ ที่ดี : โดยการเล่น กีฬามวยไทย นั้นเป็นกิจกรรม ที่ใช้ พลังงานที่สูง ซึ่งจะ ส่งผลให้ นักกีฬามี การเผาผลาญพลังงาน อย่างมาก และนักกีฬา จะมี การเสริมสร้าง ระบบการทำงาน ของ ร่างกาย ที่ดี ซึ่งจะ ส่งผลให้มี สุขภาพ ร่างกาย ที่แข็งแรง และอุปกรณ์ ที่ดี ในการทำงาน ในชีวิตประจำวัน อีกด้วย

 

ดังนั้น การเล่น กีฬามวยไทย จะมี ข้อดีที่สำคัญ ทั้ง ด้านร่างกาย และจิตใจ ของนักกีฬา ซึ่งจะส่งผล ให้นักกีฬา มีความมั่นใจ และความสามารถ ในการ พัฒนาตนเอง ให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป และเพื่อน ๆ คนใด ที่สนใจ อยากจะฝึกฝน กีฬามวยไทย เราขอแนะนำ เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร ที่มีทั้งในส่วนของ ฟิตเนส และ ยิมมวย ให้กับทุกคน ได้เลือกฝึกฝน ร่างกายกัน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การใช้เข่า มวยไทย ลีลาไม้ตายของยอดนักมวยไทย

ฝึกมวยไทย ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น

 

การใช้เข่า มวยไทย ลีลาไม้ตายของยอดนักมวยไทย

การใช้เข่า มวยไทย ลีลาไม้ตายของยอดนักมวยไทย

วันนี้มาดูการออกอาวุธ การฝึกท่าไม้ตาย ในแบบ การใช้เข่า มวยไทย ลีลาไม้ตายของยอดนักมวยไทย นอกจากจะได้ฝึกกำลังของร่างกายแล้ว ก็ยังสร้างความแข็งแกร่งให้แก่จิตใจของคุณได้เป็นอย่างดี

 

 

 

ศิลปะแม่ไม้มวยไทย กับการออกอาวุธท่าเข่า

เข่า ถือเป็นอวัยวะ ที่มีข้อต่อ ในช่วงระหว่างกระดูกขาส่วนบนกับกระดูกขาส่วนล่าง ทั้งมีกระดูกสะบ้า ซึ่งแข็งนูนและกลม เป็นตัวกลางระหว่าง กระดูกทั้ง 2 ส่วน โดยมีเอ็น พังผืด และกล้ามเนื้อ โดยยึดติดไว้อย่างหนาแน่น บริเวณต้นขา มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่มาก และมีความแข็งแกร่งมากอยู่หลาย ๆ มัด เมื่อพับเข่า รวมกับขาส่วนล่าง จะมีกล้ามเนื้อน่องอยู่ จึงทำให้เข่าที่คุณตีออกไป หนักหน่วงมีพลังยิ่ง

 

แต่ว่า เข่า ก็ถือว่าเป็นอาวุธสั้น รองจาก เตะ จึงเกิดได้ผลดีมากในระยะประชิด อย่างเช่น การใช้เข่าคลุกวงใน ใช้การกอดปล้ำ ตีเข่า โยนเข่า และการแทงเข่า เป็นต้น โดยส่วนเป้าหมาย นั่นคือ ท้อง หน้าอก ซี่โครงข้างลำตัว อวัยวะเพศ ทวารหนัก และต้นขา หากว่าตีสูงมากขึ้นไปอีก เน้นเป็นช่วงบริเวณต้นแขน ปลายคาง ใบหน้า และ ศีรษะ โดยนอกจากนื้ เข่า ก็ยังป้องกัน การโจมตี ของการเตะกลาง รวมทั้ง การเตะตัดล่างด้วย สำหรับ เข่า ก็เป็นอวัยวะที่แข็งแกร่ง อย่างมากที่สุดส่วนหนึ่ง เมื่อได้ออกปะทะกับเท้าที่เตะมา เท้าที่โดนก็อาจจะได้รับความเจ็บปวด และอาจจะพิการได้

 

การใช้เข่า มันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ

- การใช้เข่าโดยที่ไม่ต้องใช้มือ หรือ แขน เกาะยึดดึง หรือกระชากคู่ต่อสู้

- การใช้เช่าโดยใช้มือ หรือว่าใช้แขนเกาะยึดดึง หรือกระชากคู่ต่อสู้

 

สำหรับการใช้เข่า ถ้าหากอยากจะแบ่งตามลักษณะ วิถีทางของการใช้เข่า ที่สามารถออกจากแหล่ง เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายแล้ว มีหลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น การใช้เข่าเฉียง, เข่าตัด, เข่าโค้ง, เข่าตรง และเข่าลอย โดยที่ เข่าแต่ละอย่าง มันมีวิธีการทำต่าง ๆ กัน ออกไปและตามจังหวะหรือโอกาส ที่จะใช้แตกต่างกันออกไป

 

เรามาดูกันดีกว่าว่า ฝึกออกอาวุธท่าเข่า กับกีฬาแม่ไม้มวยไทย เรียกว่าอะไรบ้าง ?

 

- เข่าเฉียง หมายถึง การตีเข่าที่มีวิถีทางการตีเฉียงขึ้น จากจุดที่เข่าอยู่ไปจนถีงจุดที่เข่าปะทะเป้าหมาย ที่เข่าช้ายจะเฉียงมากระทบเป้าหมายทางขวา ถ้าตีเข่าขวาจะเฉียงมากระทบเป้าหมายทางด้านซ้าย ถ้าคู่ต่อสู้เดินเข้ามาตรง ๆ เข่าเฉียงก็จะถูกเป้าหมายบริเวณ ต้นขา และลำตัวด้านข้าง นอกจากจะใช้การกระชาก ผลัก ฉุด เตะ กอด ปล้ำ ให้คู่ต่อสู้เสียหลักแล้ว จึงสามารถตีเข่าเฉียงเข้าบริเวณ ท้อง หน้าอก ปลายคาง และ ใบหน้าได้ เมื่อมีการโน้มคอมักจะเหวี่ยงคู่ต่อสู้ไปทางด้านหนึ่ง จึงสามารถตีคู่ต่อสู้ไปทางด้านใดด้านหนึ่ง จะสามารถตีเข่าเฉียงได้ถนัด การเหวี่ยงนั้นจะต้องเหวี่ยงให้ทิศทางของคู่ต่อสู้เข้ามาสวนทางกับทิศทางของเข่าเฉียงที่ตีขึ้นไป จึงจะได้ผลดี

 

- เข่าขวาตรง หรือเรียกว่าการใช้จังหวะเกาะ การกอด ปล้ำ รัดเอว และกระชากตี การเกาะยึด ปล้ำ กอดรัดเอว และในกระชากตี มันทำให้การตีเข่ามีประสิทธิภาพรุนแรง และถือว่าหนักหน่วงมากกว่าการตีเข่านำ เพราะเป็นเข่า ที่เรียกว่าถนัดที่สุด การกอดปล้ำเหล่านี้ จะต้องทำด้วยความแข็งแรง โดยเก็บคางให้เกิดมิดชิดแนบลำตัว ไหล่กดข้อศอก และช่วงแขนให้มาชิดกัน จะทำให้การตีเข่าได้ผลดี และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเป้าหมายของการตีเข่าตามก็คล้าย ๆ กับเข่านำ คือตั้งแต่ต้นขา ข้างลำตัว ทวารหนัก อวัยวะเพศ ท้อง หน้าอก คางและใบหน้า

 

- เข่าตรงตีตาม โอกาสที่เราจะสามารถใช้เข่าตรงตีตาม นั่นคือ ช่วงจังหวะที่ฝ่ายฝั่งคู่ต่อสู้จะ เข้ามาต่อย หรือเข้ามาฟันศอก จะต้องหลบหลีก ปิดป้องหมัดคู่ต่อสู้ให้ดี จังหวะที่เหล่าคู่ต่อสู้ถลำเข้ามาโดยไม่ระวังต้ว และจังหวะที่คู่ต่อสู้ยืนปักหล้กอยู่ไม่ระวัง ตัวก็จะโดนตีเข่าตรงตามได้ นอกจากนี้ในจังหวะที่ได้มี การปัดให้คู่ต่อสู้ถลำไป ทางขวาหรือว่าออกไปทางช้ายแล้วตี

 

- เข่าตรงตีนำ จากท่าจดมวยเหลี่ยมขวา น้ำหนักตัวมันจะอยู่ที่บริเวณเท้าขวา โดยเป็นเท้าหลัง ให้ถ่ายน้ำหนักตัวมาที่เท้าหน้า คือบริเวณเท้าช้ายพร้อมกับ วางเท้าลงยันพื้น กระตุกเข่าตีขึ๋นตรงๆ พร้อมกับถ่ายนํ้าหนักตัวให้มาอยู่ เท้าขวา น้ำหนักตัวจะไปรวมกันที่ปลายเข่าที่ตีขึ๋นไป สำคัญเลยในการเกร็งกล้ามเนื้อท้องที่ดึงพับเข่าและลำตัวเข้าสวนทางกัน ถ้าหากเป็นไปอย่างฉับพลันได้จังหวะ ที่ลัมพันธ์กัน มุมของเข่าที่ตีออกไปจะล้ำไปข้างหน้าตรง ๆ เหมาะสำหรับในการตีเข่าตรงในระยะประชิด การกอด ปล้ำ และการกระชากตี

 

- เขาตัด นั้นเป็นการใช้เข่า โดยที่มีทิศทางการตีเข่า ผ่านจากทางขวา ออกไปซ้ายหรือซ้ายไปขวา ให้ขนานกับพื้นให้บริเวณที่ส่วนของหัวเข่าปะทะเป้าหมาย และที่ส่วนของเข่า ขา และ ปลายเท้า ก็เป็นเส้นตรงขนานพื้น

 

- เขาลอย เป็นการกระโดด โดยโยนเข่าขึ้นไปตรงๆ เป้าหมายที่ปลายคาง หรือหน้าอกของคู่ต่อสู้

 

- เข่าโค้ง เป็นเข่าที่ผู้ใช้จำเป็นจะต้องบิดสะโพกคว่ำลง ให้ทิศทางของเข่าลอยโค้ง มาจากบนลงปะทะเป้าหมาย ให้ปลายเท้าเหยียดออกเป็นเส้นตรงกับขาและเข่า

 

- เข่ากระโดเหยียบ เป็นการตีเข่าที่อาศัยการใช้เท้าอีกเท้าหนึ่ง เข้าเหยียบคู่ต่อสู้แล้วกระโดดเข่าเข้าบริเวณศีรษะ ขมับ คอ ใบหน้า ปลายคาง หน้าอก ท้องและชายโครง การเหยียบอาจจะเหยียบหน้าแข้ง เข่า ต้นขา ก็ได้

 

จากที่กล่าวมา เหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็น ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่ใช้เข่าได้อย่างมีอานุภาพรุนแรง และที่สำคัญเพื่อน ๆ สามารถฝึกเองที่บ้านของคุณได้อีกด้วยค่ะ รับรองว่า ออกกำลังเรียกเหงื่อได้ดี และยังเกิดประโยชน์ต่อร่างกายของคุณอีกมากมายเลยค่ะ หรือจะมาซ้อมมวยกับเราที่ https://jaroenthongmuaythaikhaosan.com ก็รับรองเลยว่า สนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กีฬามวยไทย ออกกำลังกาย ที่ดีต่อ ร่างกาย และจิตใจ

การป้องกันการบาดเจ็บ ในการเล่นมวยไทย

การป้องกันการบาดเจ็บ ในการเล่นมวยไทย

การป้องกันการบาดเจ็บ ในการเล่นมวยไทย

การป้องกันการบาดเจ็บ ในการเล่น มวยไทย เป็นที่รู้จักในด้านการฝึกฝน ที่เข้มงวด และ สัมผัสเต็มรูปแบบ มวยไทย ได้รับความนิยม ไปทั่วโลก จากประสิทธิภาพ ในการป้องกันตัว สมรรถภาพร่างกาย และ การแข่งขัน อย่างไรก็ตาม เช่นเดียว กับ การออกกำลังกายต่างๆ มวยไทย มีความเสี่ยง ต่อ การบาดเจ็บ การทำความเข้าใจ วิธีการป้องกัน และ ฟื้นฟู อาการบาดเจ็บ เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับ ผู้ฝึกหัดในการเล่นกีฬาอย่างปลอดภัย และ มีประสิทธิภาพ

การบาดเจ็บทั่วไปในมวยไทย

มวยไทยเกี่ยวข้องกับการผสมผสานของเทคนิคการโจมตีโดยใช้กำปั้น ศอก เข่า และ หน้าแข้ง รวมทั้งเทคนิคการกอดและการต่อสู้ เป็นผลให้ผู้ปฏิบัติงานมีความอ่อนไหวต่อการบาดเจ็บหลายประการ รวมถึง

1. การฟกช้ำและก้อนเลือด : เนื่องจาก ผลกระทบ ของ รอยฟกช้ำ และ ก้อนเลือดจึงเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะที่แขน ขา และลำตัว

2. ข้อเคล็ด : การใช้กล้ามเนื้อ และ เอ็นมากเกินไป หรือ มากเกินไป อาจนำไปสู่ การเคล็ดขัดยอก (การบาดเจ็บของเอ็น) และ อาการตึง (การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ)

3. กระดูกหัก : การกระแทก อย่างแรง อาจทำให้กระดูกหัก ได้ โดยเฉพาะที่มือ เท้า และ หน้าแข้ง

4. ข้อเคลื่อน : การกระแทก อย่างแรง หรือ เทคนิค ที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผล ให้เกิดการเคลื่อน ของ ข้อต่อ ซึ่งมักส่งผลต่อไหล่

5. บาดแผล และ รอยถลอก : การกอดกัน และ การกระแทก ข้อศอกอาจทำให้เกิด บาดแผล และ รอยถลอก โดย เฉพาะบริเวณ รอบดวงตา และ หน้าผาก

6. การบาดเจ็บ จากการใช้งาน มากเกินไป : การเคลื่อนไหวซ้ำๆ และ ความเข้มข้น ในการฝึกสูง สามารถนำไปสู่ การบาดเจ็บ จากการใช้งาน มากเกินไป เช่น เอ็นอักเสบ และ กระดูกหัก จากความเครียด

การป้องกันการบาดเจ็บ

1. การวอร์มอัพที่เหมาะสม : การวอร์มอัพ อย่างละเอียด ซึ่งรวมถึง การยืดเหยียด แบบไดนามิก และ การออกกำลังกาย สามารถ เตรียมกล้ามเนื้อ และ ข้อต่อสำหรับการฝึกได้

2. การเรียนรู้เทคนิค : การเรียนรู้ และ ฝึกฝน เทคนิค ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยง ความเครียด และ ผลกระทบต่อร่างกายโดยไม่จำเป็น

3. การฝึกแบบก้าวหน้า : ค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น และ ระยะเวลา ของ การฝึกซ้อม สามารถ ช่วยป้องกัน การบาดเจ็บ จากการใช้งานมากเกินไป

4. อุปกรณ์ป้องกัน : การสวมอุปกรณ์ ป้องกัน ที่เหมาะสม เช่น ถุงมือ สนับแข้ง และ ฟันยาง สามารถ ลดความเสี่ยง ต่อการบาดเจ็บ ได้อย่างมาก

5. การพักผ่อน และ การพักฟื้น : การให้เวลาร่างกายได้พัก และ ฟื้นตัว อย่างเพียงพอ ระหว่างการฝึกซ้อม เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับความเหนื่อยล้า

กลยุทธ์การฟื้นฟู

ในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ การฟื้นฟูที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการฟื้นตัวอย่างเต็มที่และปลอดภัย ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่ควรพิจารณา:

1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : ไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และ วางแผนการรักษาที่เหมาะสม คุณอาจต้องปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์การกีฬา นักกายภาพบำบัด หรือผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ

2. การพักและการตรึง : การบาดเจ็บบางอย่างอาจต้องพักและการตรึงเพื่อให้ร่างกายสามารถรักษาได้อย่างเหมาะสม ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณ

3. กายภาพบำบัด : นักกายภาพบำบัดสามารถสร้างโปรแกรมการฟื้นฟูเฉพาะบุคคล ซึ่งรวมถึงการออกกำลังกายเพื่อปรับปรุงการเคลื่อนไหว ความแข็งแรง และความยืดหยุ่น

4. การกลับมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป : เมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้ว ให้ค่อยๆ แนะนำการฝึกอบรมอีกครั้งด้วยการออกกำลังกายเบาๆ และเทคนิคที่มีการควบคุมเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บซ้ำ

5. ฟังร่างกายของคุณ : ใส่ใจกับความรู้สึกไม่สบายหรือความเจ็บปวดระหว่างการฝึก การฝืนความเจ็บปวดอาจทำให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้นและทำให้การฟื้นตัวล่าช้า

6. โภชนาการ และ ความชุ่มชื้น : โภชนาการและความชุ่มชื้นที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกระบวนการบำบัดของร่างกาย การบริโภคโปรตีนที่เพียงพอจะช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และการดื่มน้ำให้เพียงพอจะส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม

มวยไทย เป็นกีฬาที่ต้องใช้ร่างกาย และ ต้องการความ มีระเบียบวินัย ความทุ่มเท และ ความมุ่งมั่น ในด้านความปลอดภัย การป้องกัน การบาดเจ็บ ด้วยเทคนิค การฝึกซ้อม ที่เหมาะสม อุปกรณ์ป้องกัน และ พัฒนาการ ที่ค่อยเป็น ค่อยไป คือ ก้าวแรกสู่เส้น ทางมวยไทย ที่ยาวนานและสนุกสนาน หากเกิดอาการบาดเจ็บขึ้น การขอคำแนะนำ จากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ปฏิบัติตามแผนการฟื้นฟู และ การรักษา ความคิดเชิงบวก เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับ การฟื้นตัวที่ ประสบความสำเร็จ ด้วยการให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกายและจิตใจ ผู้ฝึกมวยไทยสามารถเป็นเลิศในกีฬาต่อไปได้ในขณะที่ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

กีฬามวยไทย ออกกำลังกาย ที่ดีต่อ ร่างกาย และจิตใจ

ฝึกมวยไทย ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น

 

กีฬามวยไทย ออกกำลังกาย ที่ดีต่อ ร่างกาย และจิตใจ

กีฬามวยไทย ออกกำลังกาย ที่ดีต่อ ร่างกาย และจิตใจ

ต้องบอกเลยว่า ยุคสมัยใหม่ ซึ่งเป็นยุคที่คนหนุ่มสาว รุ่นใหม่ ได้หันมาใส่ใจ สุขภาพ กันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การทานอาหาร หรือ การพักผ่อน และหนึ่งในกีฬา ที่คนรุ่นใหม่สนใจก็คือ กีฬามวยไทย ออกกำลังกาย ที่ดีต่อ ร่างกาย และจิตใจ

กีฬามวยไทย ออกกำลังกาย ที่ดีต่อ ร่างกาย และจิตใจ

กีฬามวยไทยที่ถือเป็น การละเล่นพื้นบ้าน ซึ่งจะมี คุณลักษณะ ของ การต่อสู้ ป้องกันตัว ซึ่งจะเป็น การใช้อวัยวะ ในส่วนที่จะ สามารถใช้ ทำอันตรายกับ คู่ต่อสู้ ได้นั่นเอง และ นำมาใช้งาน ได้อย่าง ชาญฉลาด และมี ศิลปะการต่อสู้ อย่างสูง อย่างเช่น หมัด, ศอก, แขน, เท้า, หรือ แข้ง และ เข่า เป็นต้น จึงถือได้ว่า กีฬามวยไทย ที่ถือเป็น ศิลปะประจำชาติ และยังเป็น เอกลักษณ์ ที่ดูโดดเด่น อย่างหนึ่ง ของคนไทย ตั้งแต่ ในอดีต จนมาถึงปัจจุบัน อีกด้วย แล้วเคยจะ สงสัยกัน หรือไม่ว่า การชกมวย หรือ กีฬามวยไทย นั้นมี ประโยชน์ อย่างไรบ้าง ต่อ ร่างกาย และจิตใจ เรามาดูกันเลย ดีกว่า

 

1. กีฬามวยไทย ช่วยลดน้ำหนัก หลาย ๆ คน เคยสงสัยกัน ไหมว่า กีฬามวยไทย ชกมวย นั่นจะช่วย ลดน้ำหนัก ได้จริงหรือไม่ ต้องบอกเลยว่า "ได้จริง"  เพราะการ ชกมวย จะเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ให้ความสนุก และ เห็นผลได้ อย่างรวดเร็ว ซึ่งการ ชกมวย เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ก็จะช่วย เผาผลาญพลังงาน ใน ร่างกาย ของเรา ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้ กล้ามเนื้อ ในแต่ละส่วนนั้น กระชับ จึงส่งผลให้ น้ำหนักตัวลดลง นั่นเอง

 

2. กีฬามวยไทย ช่วยฝึกสมาธิ สำหรับ กีฬามวยไทย หรือ การชกมวย ที่นอกจาก จะเป็นการ ออกกำลังกาย แล้วก็ยัง เป็นการ ช่วยฝึกสมาธิ ของเรา ได้ดี อีกด้วย เพราะในขณะที่เรา เตะ, ต่อย, และ ใช้หมัด จะเป็นการ ฝึกกล้ามเนื้อ และสมอง จึงทำให้เรา มีสมาธิ ที่ดีมากขึ้น ที่สำคัญ ยังเหมาะสำหรับ คนทุกเพศ ทุกวัย อีกด้วย

 

3. กีฬามวยไทย ช่วยในการ ฝึกความแข็งแกร่ง ของ ร่างกาย การชกมวย จะเป็นการ ฝึกร่างกาย ของเรา ให้แข็งแกร่ง ในทุกสัดส่วน เพราะว่า การชกมวย จริง ๆ แล้วนั้น ขาของเรา จะต้องไว และมี Footwork ที่ดีของตลอด ในช่วงเวลา ที่เราอยู่ บนสังเวียน โดยจะสามารถ เคลื่อนไหวร่างกาย ได้อย่าง พลิ้วไหว ดังนั้นแล้ว กีฬามวยไทย จึงจำเป็น ที่เราจะต้อง ให้ความสำคัญ กับ ความแข็งแกร่ง ของร่างกาย ในทุกส่วน ของเรา

 

4. กีฬามวยไทย จะช่วยให้ ระบบการทำงาน ของหัวใจ และหลอดเลือด ได้ดี เพราะว่า การชกมวย จะช่วย กระตุ้นการทำงาน ของหัวใจ และหลอดเลือด ได้ดี ซึ่งจะเป็นการ ออกกำลังกาย ในอีก รูปแบบหนึ่ง และการ ชกมวย เป็นประจำ ก็จะทำให้ หัวใจ และปอด ของเรานั้น ทำงานได้ดี มากยิ่งขึ้น จึงส่งผลต่อ ระบบการไหลเวียนเลือด ไปทั่วทั้ง ร่างกาย และเป็นไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเอง

 

การชกมวย จึงเป็นอีก หนึ่งเทรนด์ของการ ออกกำลังกาย ที่กำลังมาแรง ในเวลานี้ เพราะสิ่งที่เรา จะได้จาก การออกกำลังกาย ในรูปแบบ กีฬามวยไทย นี้ที่นอกจาก จะได้รับ ประโยชน์ต่อ สุขภาพ ของเราใน หลากหลายด้าน เรายังสามารถ ที่จะใช้ทักษะ จากการ ฝึกมวยไทย เพื่อฟิตใน ชีวิตประจำวันได้ อย่าง การป้องกันตัว การสร้างสมาธิ ในการทำงาน หรือว่า เรียนหนังสือ และยังช่วย ป้องกันอาการบาดเจ็บ จาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง ได้อีกด้วย และหนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหน ที่อยากจะ ชกมวย หรือ ออกกำลังกาย ด้วย กีฬามวยไทย เราขอแนะนำสถานที่ นั่นก็คือ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร นั่นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกมวยไทย ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น

เล่น มวยไทยคลายเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิตดี

ฝึกมวยไทย ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น

ฝึกมวยไทย ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น

หลาย ๆ คน คงรู้กันดี ว่าการ ฝึกมวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่สามารถ ช่วยในเรื่อง ลดน้ำหนัก ได้เร็ว และยังเป็นกีฬา ที่ได้รับ ความนิยม และ ความสนใจ เป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน จึงถือว่าการ ฝึกมวยไทย นั้นเป็น ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น

ฝึกมวยไทย ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น

ถ้าหากพูดถึงการ ฝึกมวยไทย หรือ ต่อยมวย หลาย ๆ คน ก็คงนึกถึงนักมวย บนเวทีใน สนามมวยลุมพินี ที่เป็นการต่อย แบบไม่มีใครยอมใคร แต่ในทุกวันนี้ การต่อยมวย หรือการ ฝึกมวยไทย เพื่อเป็น ทางเลือกใหม่ ของ การออกกำลังกาย ที่ได้รับ ความนิยม แล ความสนใจ มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังมีการ ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เพื่อที่จะ ให้เหมาะสม กับ การออกกำลังกาย โดยเฉพาะ เพราะว่า จะช่วยเพิ่ม ความแข็งแรง , ความอดทน , และ การทรงตัว ที่ดีมากขึ้น ในการ ฝึกมวยไทย นั่นเอง

สำหรับการ ฝึกมวยไทย เราไม่จำเป็น ที่จะต้องจับคู่ชก เพื่อ ต่อยมวย หรือ ฝึกมวยไทย กับใคร ๆ แต่มักจะเป็น การออกหมัด ชกไปในอากาศ หรือ ต่อยลม ซึ่งการชก ตามจังหวะต่าง ๆ ที่มี เทรนเนอร์ หรือ ครูมวย เป็นผู้นำ โดยจะคล้าย ๆ กับ การเต้นแอโรบิก หรือว่า การชกกระสอบทราย เป้า ควบคู่ไปกับ คำแนะนำของ เทรนเนอร์ หรือ ครูฝึก โดยจะมี การชก ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเช่น ( Crosses , Hooks , Uppercuts , Jabs ) การเตะ การศอก ซึ่งท่าทาง และ จังหวะต่าง ๆ เหล่านี้ ในการ ฝึกมวยไทย จะทำให้เรานั้น ต้องใช้ ร่างกาย เกือบทุกส่วน อย่างมาก เลยทีเดียว

ถึงแม้จะบอก ไม่ได้ว่า การต่อยมวย หรือ ฝึกมวยไทย นั้นมี ประโยชน์ ที่มากกว่า การออกกำลังกาย อย่างอื่น ๆ แค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าการ ฝึกมวยไทย นั้น มันจะช่วยเพิ่ม ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะ เวลาที่เรานั้น ขยับแขน และไหล่ ก็จะเป็น การเพิ่ม ความแข็งแรง ของ ร่างกาย ด้านบน ซึ่งในขณะที่ เราใช้ ขาเตะ ก็จะช่วยพัฒนา กล้ามเนื้อลำตัว กล้ามเนื้อขา และ กล้ามเนื้อหลัง ให้มี ความแข็งแรง ที่มากยิ่งขึ้น ซึ่ง กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้อัตรา การเผาผลาญพลังงาน มากขึ้นแล้ว ยังจะช่วย ให้เรามี พละกำลัง และมีแรง มากขึ้น อีกด้วย จึงทำให้คนที่ ฝึกมวยไทย นั้น มีการ ฟิตหุ่น ที่ดี

ซึ่งการ ฝึกมวยไทย ทางเลือกใหม่ ของการ ฟิตหุ่น นั้นยังจะช่วย เพิ่มการทำงาน ของหัวใจ ที่ช่วยในการ ลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ อย่างเช่น โรคความดันโลหิตสูง , โรคหัวใจ , หลอดเลือดสมอง , และ โรคเบาหวาน และนอกจากนี้ ก็ยังจะช่วยเพิ่ม ความแข็งแรง และความทนทาน ของกระดูก และกล้ามเนื้อ จึงช่วยทำให้ การเดินขึ้นบันได เพียงแค่ 2 ถึง 3 ขั้น ก็จะไม่เหนื่อยหอบ และยังช่วยพัฒนา การทำงานของสมอง ช่วยฝึกความสัมพันธ์ ระหว่างสายตา และสมอง เพื่อให้ทำงาน ประสานกันได้ไว มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ เราชกกระสอบทราย หรือ ฝึกมวยไทย ต่อยไปที่เป้า ก็จะช่วย ทำให้เรามี ความตื่นตัว และมีสมาธิ มากยิ่งขึ้น เพราะว่าการ ฝึกมวยไทย ยังช่วยเรื่อง การทรงตัว และมีการฝึกฝนท่าทาง ที่เหมาะสม ไปพร้อม ๆ กับ ที่เราจะ ออกหมัก หรือทรงตัว ในขณะที่เรา เตะออกไปนั้น ก็จะช่วยฝึกฝนการทรงตัว ของเรา ให้ดีขึ้นได้

ดังนั้นแล้ว สำหรับมือใหม่ ที่หัด ฝึกมวยไทย เพื่อ ฟิตหุ่น อาจเริ่มด้วย การชกมวย แบบเบา ๆ กันก่อน และค่อย ๆ เพิ่มระดับ ความรุนแรง ตามที่ร่างกาย ของเราไหว ซึ่งสิ่งที่ทำให้ การออกกำลังกาย มีประสิทธิภาพ ก็คือ การออกกำลังกาย อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การ ฝึกมวยไทย นั้นเป็น ทางเลือกใหม่ของการ ฟิตหุ่น ที่ดีได้ จึงทำให้หลาย ๆ คน หันมาสนใจ ในการ ฝึกมวยไทย กันมากยิ่งขึ้น และหากใคร สนใจอยากลอง ฝึกมวยไทย เราขอแนะนำ เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร ที่ออกกำลังกาย ยอดฮิต ในตอนนี้

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก thaiheartfound

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การฝึก กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับ ร่างกาย อย่างไร

ประโยชน์เริ่ดๆ จากการ ฝึกมวยไทย

การฝึก กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับ ร่างกาย อย่างไร

การฝึก กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับ ร่างกาย อย่างไร

การฝึก กีฬามวยไทย ในปัจจุบัน ที่ถือเป็น อีกหนึ่งทางเลือก ที่ดี สำหรับคนที่ ต้องการจะ ออกกำลังกาย เพื่อทำให้ ร่างกาย ของเรา แข็งแรง มากขึ้น ซึ่งการฝึก กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับ ร่างกาย ในด้านไหนอีกบ้าง ที่ดีกับร่างกาย ของเรา อย่างไร

การฝึก กีฬามวยไทย ให้ประโยชน์ กับ ร่างกาย อย่างไร

กีฬามวยไทย ถือเป็น ศิลปะการต่อสู้ ในรูปแบบหนึ่ง ที่ถือได้ว่าเป็น กีฬาประจำชาติ และมี ต้นกำเนิด ที่มาจาก ประเทศไทย ซึ่งมีชื่อเสียง และโด่งดัง ไปทั่วโลก ซึ่งค่ายมวย ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่ได้เปิดสอน ให้กับ ชาวต่างชาติ ที่ได้มุ่งมั่น เข้ามาฝึกฝน วิชาการต่อสู้ ซึ่งไอคอน ที่เป็นที่ จุดประกาย ให้กับชื่อเสียง ของ มวยไทย หรือ กีฬามวยไทย ได้เป็นที่รู้จัก และน่าจับตามอง คนหนึ่ง นั่นก็คือ จา พนม ที่แสดงใน ภาพยนตร์เรื่ององค์บาก ที่ทำให้   กีฬามวยไทย เป็นกีฬา ที่ใคร ๆ ก็อยาก ทำความรู้จัก กับ ศิลปะการต่อสู้ นี้ ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจาก จะเป็น กีฬาการต่อสู้ ที่ได้ สร้างความแข็งแกร่ง ให้กับ ร่างกาย ของเรา ได้ใช้ ในทุกส่วนของ ร่างกาย แล้วก็ยัง เป็นอาวุธทั้ง หมัด, เท้า, เข่า, และ ศอก และยังมี ส่วนช่วยในด้าน การฝึกฝนจิตใจ ที่ดีอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน กีฬามวยไทย ได้ปรับรูปแบบ ให้ทันสมัย ที่เป็น การออกกำลังกาย ที่มีการเปิด ให้เรียน และเทรนนิ่ง กันในหลายๆ ฟิตเนส ที่จะช่วยเสริม สร้างความฟิต และ ลดน้ำหนัก ได้อย่าง เห็นผลที่ชัด ซึ่ง กีฬามวยไทย ก็ยัง ให้ประโยชน์ กับ ร่างกาย ในอีกหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

 

  1. กีฬามวยไทย ช่วยทำให้ ระบบไหลเวียดเลือด ทำงานได้ดี การฝึก กีฬามวยไทย จะทำให้ ร่างกาย ของเรามี การเคลื่อนไหว อยู่ตลอดเวลา ในขณะเล่น จึงจะช่วย ในการ บำรุงระบบไหลเวียนเลือด ให้มีการทำงาน ได้ดีทั้ง หัวใจ และหลอดเลือด จึงส่งผลต่อ การสูบฉีดเลือด แบบเต็ม ๆ จึงทำให้ผู้ที่เล่น กีฬามวยไทย ช่วยในการ ลดความเสี่ยง จากการเกิด โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด ได้อย่างเช่น โรคหัวใจ และหลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น
  2. กีฬามวยไทย สร้างความแข็งแรง ให้กับ กล้ามเนื้อ มวยไทยเป็นกีฬา ที่จะต้อง ใช้แรง และพละกำลัง ของ กล้ามเนื้อ เป็นอย่างมาก ในการออกอาวุธ จากการ ใช้หมัด, เท้า, ศอก, และ เข่า ที่คนเล่น กีฬามวยไทย จำเป็นจะต้องอาศัย การฝึกร่างกาย ของเรา ให้แข็งแกร่ง ในทุกสัดส่วน ทั้งในช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงล่าง เพราะว่าในการ ชกมวย จริง ๆ นั้น ขาของเรา จะต้องไว และมี Footwork ที่ดี ตลอดช่วงเวลา ที่อยู่บนสังเวียน เพื่อสามารถที่จะ เคลื่อนไหวร่างกาย ได้อย่างพลิ้ว และมีช่วงกลางลำตัว ที่แข็งแกร่ง สามารถที่จะรับ การโจมตีจาก การออกอาวุธ ของ คู่ต่อสู้ ได้
  3. กีฬามวยไทย ช่วยเรื่อง ลดความเครียด การเล่น กีฬามวยไทย จะทำให้เกิด ความสนุก และร่าเริง ในการเล่นได้ หากยิ่งเล่น มากเท่าไหร่ ร่างกาย ของเราก็จะ ยิ่งหลั่งฮอร์โมน เอนโดรฟีน ( Endorphin ) ที่จะทำให้คนที่ฝึก มวยไทยมี ความสุข มากยิ่งขึ้น และยังช่วยเรื่อง ลดความเครียด ลดลงได้ รวมไปถึง ยังช่วยทำให้ ร่างกาย ของเราไม่แก่ก่อนวัย อีกด้วย
  4. กีฬามวยไทย ช่วยในเรื่อง การป้องกันตัวเอง และผู้อื่น ซึ่งในยุคนี้ ภัยทางสังคม ที่มีมากขึ้น อย่างเรื่อย ๆ จึงทำให้ผู้คน ที่ใช้ชีวิตอยู่ ในสังคมภายนอกบ้าน สามารถจะเจอกับ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ที่เกิดจาก ผู้คนที่อยู่ร่วมกัน ในสังคมได้ และการฝึกฝน กีฬามวยไทย ก็จะทำให้ ผู้ที่ฝึก มี ทักษะ ในการต่อสู้ เพื่อป้องกันตัวเอง จากภัยในสังคม ที่อาจจะ เกิดขึ้นกับ ตนเองได้ หรือรวมไปถึง หากเกิดเหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิด กับคนรอบ ๆ ข้าง เราก็จะสามารถใช้ ศิลปะในการต่อสู้ จากการฝึกฝน กีฬามวยไทย ได้

การฝึก กีฬามวยไทย เป็นประจำ จะทำให้เรา มีพัฒนาการ ทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ที่ดีได้ และยัง ให้ประโยชน์ ในแง่ของ ศิลปะป้องกันตัว รวมไปถึงการ ลดน้ำหนัก ให้กับสาว ๆ ได้ และหากใคร ที่สนใจอยากจะฝึก กีฬามวยไทย เราขอแนะนำ สถานที่ฝึก อย่าง เจริญทองมวยไทยข้าวสาร ที่มีอุปกรณ์การฝึก อย่างครบครัน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สุขภาพหัวใจ และหลอดเลือดที่ดีขึ้น ด้วยมวยไทย

เล่น มวยไทยคลายเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิตดี

 

สุขภาพหัวใจ และหลอดเลือดที่ดีขึ้น ด้วยมวยไทย

สุขภาพหัวใจ และหลอดเลือดที่ดีขึ้น ด้วยมวยไทย

สุขภาพหัวใจ และหลอดเลือดที่ดีขึ้น ด้วยมวยไทย มีประโยชน์มากมาย สำหรับความเป็นอยู่ที่ดี และ อายุที่ยืนยาว การมีสุขภาพของหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดี หมายถึง สุขภาพของหัวใจ และ หลอดเลือด และ มีบทบาทสำคัญ ในการรักษาการทำงาน ของร่างกายให้ดีที่สุด

นี่คือประโยชน์ที่สำคัญ บางประการของ การมีสุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้นผ่าน การออกกำลังกายด้วยมวยไทย

  • ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคหัวใจ รวมถึงภาวะต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ , หัวใจวาย และ หัวใจล้มเหลว

  • ลดความดันโลหิต

การออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ และ การใช้ชีวิต อย่างมีสุขภาพ สามารถช่วย ลดความดันโลหิต ลดความเครียด ของหัวใจ และ หลอดเลือด

  • ความเสี่ยงต่อ โรคหลอดเลือดสมองลดลง

สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดี เกี่ยวข้องกับ ความเสี่ยงในการเกิด โรคหลอดเลือดสมอง ที่ลดลง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ การไหลเวียนของเลือด ไปยังสมองหยุดชะงัก

  • การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้น หมายถึง การไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น ทั่วร่างกาย ทำให้อวัยวะ และ เนื้อเยื่อทั้งหมด ได้รับออกซิเจน และ สารอาหารอย่างเพียงพอ

  • ความอดทน และ ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น

ระบบหัวใจ และ หลอดเลือดที่แข็งแรง ช่วยให้มีความอดทนมากขึ้น ในระหว่างกิจกรรม การออกกำลังกาย และ งานประจำวัน

  • การฟื้นตัวที่ดีขึ้นจาก การออกแรงทางกายภาพ

ด้วยสุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้น หัวใจสามารถ สูบฉีดเลือดได้ อย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น ส่งผลให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น หลังจากออกกำลังกาย หรือ ทำกิจกรรม ที่ต้องใช้แรงมาก

boxing

 

  • ประสิทธิภาพ การออกกำลังกายที่ดีขึ้น

สมรรถภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้น ส่งผลให้ การออกกำลังกายด้วยมวยไทย มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำให้บุคคล สามารถออกกำลังกาย ได้เข้มข้น และ ยาวนานขึ้น

  • การควบคุมน้ำหนัก

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือ มวยไทย ร่วมกับการรับประทาน อาหารที่สมดุล สามารถช่วย ควบคุมน้ำหนัก และ ลดความเสี่ยงของโรคอ้วนได้

  • เพิ่มการทำงานของ ระบบทางเดินหายใจ

สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้น สามารถนำไปสู่ ความจุของปอด และ การทำงานของ ระบบทางเดินหายใจที่ดีขึ้น

  • ลดความเสี่ยงของ โรคเบาหวาน

ระบบหัวใจ และ หลอดเลือดที่แข็งแรง มีความสัมพันธ์กับ ความเสี่ยงในการเกิด โรคเบาหวานประเภท 2 ที่ลดลง

  • ลดระดับความเครียด

การออกกำลังกายแบบมวยไทย คาร์ดิโอ และ หลอดเลือด เป็นประจำจะหลั่ง สารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ ตามธรรมชาติ ลดความเครียด และ ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

  • การนอนหลับที่ดีขึ้น

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และ มวยไทย สามารถปรับปรุง คุณภาพการนอนหลับ และ ช่วยเรื่องอาการนอนไม่หลับ

  • ความจำ และ การทำงานของสมองดีขึ้น

สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือด เชื่อมโยงกับ การทำงานของสมอง และ ความจำที่ดีขึ้น

  • อายุที่ยืนยาว

การมีระบบหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้น นั้นสัมพันธ์กับ การมีชีวิตที่ยืนยาว และ มีสุขภาพดีขึ้น

เพื่อให้บรรลุผล และ รักษาสุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือดที่ดีขึ้น จำเป็นต้องมี ส่วนร่วมในกิจกรรม การออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ , การทานอาหาร ตามเมนูที่มีประโยชน์ ต่อหัวใจ , การจัดการกับ ความเครียด , หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และ รักษาน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ต่อสุขภาพ การตรวจสุขภาพ อย่างสม่ำเสมอ และ การปรึกษาหารือ กับบุคลากร ทางการแพทย์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ การติดตาม และ เพิ่มประสิทธิภาพ สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือด ขอแนะนำให้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เช่น เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร หรือ Jaroenthong muaythai khaosan นี้ หรือ ผู้ให้บริการด้าน การดูแลสุขภาพ ก่อนเริ่มโปรแกรม การออกกำลังกายใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณมีโรคประจำตัว

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทยเพื่อการฟื้นฟู การรักษาอาการบาดเจ็บและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยมวยไทย เพื่อความแข็งแรงที่ดี

มวยไทยเพื่อการฟื้นฟู การรักษาอาการบาดเจ็บและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

มวยไทยเพื่อการฟื้นฟู การรักษาอาการบาดเจ็บและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

มวยไทยเพื่อการฟื้นฟู มวยไทยนั้นมีประโยชน์มากกว่าการต่อสู้บนเวที ผู้ฝึกฝน และ ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย หลายคน ได้ค้นพบศักยภาพ ในการฟื้นฟูของมวยไทย จากอาการบาดเจ็บและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง

บทบาทของมวยไทยใน การฟื้นฟูสมรรถภาพ

วิธีการฟื้นฟูแบบดั้งเดิม มักเกี่ยวข้อง กับ การออกกำลังกายเดี่ยวๆ และ การเคลื่อนไหวซ้ำๆ ซึ่งอาจกลายเป็น เรื่องซ้ำซาก จำเจ สำหรับ บุคคล ที่ฟื้นตัว จากอาการบาดเจ็บ มวยไทย เสนอทางเลือก แบบไดนามิก และ มีส่วนร่วม สำหรับ การฟื้นฟู อาการบาดเจ็บ ต่างๆ รวมถึง ที่เกี่ยวข้อง กับ ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และ กระดูก

การเคลื่อนไหว ที่ควบคุม และ ตั้งใจในมวยไทย ช่วยให้บุคคล มีสมาธิ กับกลไก ของร่างกาย ความสมดุล และ การจัดตำแหน่ง ที่เหมาะสม ส่งผลให้ สามารถ ฟื้นฟู ช่วงการเคลื่อนไหว ความยืดหยุ่น และ การประสานงาน ซึ่งเป็นองค์ประกอบ สำคัญ ของ กระบวน การฟื้นฟูสมรรถภาพ

1. การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และ ปรับปรุงความคล่องตัว

การฝึกมวยไทย ใช้กล้ามเนื้อ กลุ่มต่างๆ ทั่วร่างกาย ตั้งแต่ แกนกลาง ไปจนถึง ส่วนปลาย การเคลื่อนไหวซ้ำๆ และ ประสานกัน ซึ่งเกี่ยวข้อง กับ เทคนิค การจู่โจม การกอด และ การซ้อมรบเชิงรับ ช่วยสร้างความแข็งแกร่ง ของ กล้ามเนื้อ และ ความอดทน

นอกจากนี้ การเคลื่อนไหว และ การวางเท้า อย่างต่อเนื่อง ในมวยไทย ยังช่วยให้การเคลื่อนไหว และ ความคล่องตัวดีขึ้น สำหรับ ผู้ที่ฟื้นตัว จากอาการบาดเจ็บ ของ กล้ามเนื้อ หรือ การผ่าตัด มวยไทย สามารถ เป็นวิธีที่ก้าวหน้า และ ใช้งานได้จริง ในการสร้าง ความแข็งแกร่ง และ ฟื้นการเคลื่อนไหว อย่างเต็มที่

2. การเสริมสร้างสมรรถภาพหัวใจ และ หลอดเลือด

สมรรถภาพหัวใจ และ หลอดเลือด เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับ สุขภาพโดยรวม และ ความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึง กระบวน การฟื้นตัว การฝึกมวยไทย เกี่ยวข้อง กับ กิจกรรมแอโรบิก ที่เข้มข้น และ ต่อเนื่อง เช่น การใช้แพด การใช้กระเป๋า และ การซ้อม ซึ่งจะช่วยเพิ่ม อัตราการเต้นของหัวใจ และ เพิ่มความทนทาน ขอ งหัวใจ และ หลอดเลือด

สำหรับ บุคคลที่อยู่ระหว่าง การพักฟื้น ความสามารถ ในการเพิ่มความเข้มข้น ของ การฝึกแบบค่อยเป็น ค่อยไป ช่วยให้สามารถ ปรับการ ออกกำลังกาย ให้เหมาะ กับ ระดับความฟิต และ ความต้องการ เฉพาะของตนได้ ความสามารถ ในการปรับตัวนี้ เป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง สำหรับ ผู้ที่มีระดับ ความสามารถ ของ หัวใจ และ หลอดเลือด ที่แตกต่างกัน

3. การส่งเสริมเสถียรภาพ และ ความสมดุลของข้อต่อ

มวยไทย ให้ความสำคัญ กับ ความสมดุล ความมั่นคง และ การกระจายน้ำหนัก ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับ การโจมตี ที่ทรงพลัง และ รักษาท่าทาง การป้องกัน การฝึกมวยไทย ในแง่มุมเหล่านี้ อาจเป็น ประโยชน์ สำหรับ ผู้ที่ต้องพักฟื้น จากอาการบาดเจ็บ ที่ข้อต่อ เช่น เคล็ดขัดยอก หรือ เอ็นฉีก

การมีส่วนร่วม กับ มวยไทย ทำให้บุคคล สามารถ ปรับปรุงความมั่นคง ของ ข้อต่อ และ การรับรู้ อากัปกิริยา ซึ่งหมายถึง ความสามารถ ของ ร่างกาย 

1. ประโยชน์ทางจิตใจ และ อารมณ์

การฟื้นตัว จากอาการบาดเจ็บ อาจเป็นเรื่อง ที่ท้าทาย ทั้งทางจิตใจ และ อารมณ์ มวยไทย ให้สภาพแวดล้อม เชิงบวก และ สนับสนุน ที่สามารถ เพิ่มความยืดหยุ่น ทางจิตใจ และ แรงจูงใจในระหว่าง กระบวนการฟื้นฟู

สมาธิที่จำเป็น ในการฝึกมวยไทย สามารถ ช่วยให้บุคคลอยู่ กับ ปัจจุบัน และ มีสติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง สำหรับ ผู้ที่ต้องรับมือ กับ ความเจ็บปวด 

2. ฟังร่างกาย

แม้ว่ามวยไทย จะเป็นประโยชน์ ในการฟื้นฟูร่างกาย แต่ก็จำเป็น อย่างยิ่ง ที่แต่ละคน จะต้องฟังร่างกาย ของตนเอง และ ระวังสัญญาณ ของ ความเจ็บปวด หรือ ไม่สบาย การฝึกหนักเกินไป หรือ กดดันตัวเอง มากเกินไป ในระหว่างพักฟื้น สามารถ ขัดขวาง กระบวนการเยียวยา และ นำไปสู่ความพ่ายแพ้ได้

3. ปรับสมดุล การพักผ่อน และ การฟื้นตัว

การผสมผสานมวยไทย เข้ากับโปรแกรม การฟื้นฟู ควรสมดุล กับ การพักผ่อน และ การฟื้นตัว ที่เพียงพอ การพักผ่อนที่เหมาะสมช่วยให้ ร่างกายซ่อมแซม และ สร้างเนื้อเยื่อ ที่เสียหาย ขึ้นใหม่ นำไปสู่ การฟื้นฟู อาการบาดเจ็บ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

มวยไทย สามารถ มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยช่วยให้บุคคล รักษาอาการบาดเจ็บ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ปรับปรุงการเคลื่อนไหว และ เพิ่มสมรรถภาพหัวใจและหลอดเลือด หากใครสนใจที่จะเรียนมวยไทย เราขอแนะนำที่ jaroenthongmuaythaikhaosan

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

เล่น มวยไทยคลายเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิตดี

ออกกำลังกายด้วยมวยไทย ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง

เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยมวยไทย เพื่อความแข็งแรงที่ดี

เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยมวยไทย เพื่อความแข็งแรงที่ดี

เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยมวยไทย เพื่อความแข็งแรงที่ดี เพราะ การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย มีบทบาทสำคัญ ในการสร้าง และรักษากล้ามเนื้อ ให้ดีขึ้น ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ ในรูปแบบต่าง ๆ นำไปสู่การปรับปรุง ความแข็งแรง , ขนาด และ ประสิทธิภาพโดยรวม

ต่อไปนี้เป็น กลไกสำคัญที่ การออกกำลังกายด้วยมวยไทย ช่วยให้คุณเสริมสร้าง และ พัฒนากล้ามเนื้อ ได้ดีขึ้น

  • การรับใยกล้ามเนื้อ

ในระหว่าง การออกกำลังกาย ร่างกายของคุณ จะรับหน่วยมอเตอร์ ซึ่งประกอบด้วย เซลล์ประสาทสั่งการ และ เส้นใยกล้ามเนื้อ ที่กระตุ้นในขั้นต้น ร่างกายจะกระตุ้น หน่วยมอเตอร์ ที่เล็กกว่า แต่เมื่อความเข้มข้นของ การออกกำลังกายเพิ่มขึ้น หรือ ความเมื่อยล้าเข้ามา กระบวนการนี้ นำไปสู่การกระตุ้น และ พัฒนาเส้นใยกล้ามเนื้อ จำนวนมากขึ้น ซึ่งมีส่วนทำให้ กล้ามเนื้อเติบโต และแข็งแรง

  • การสังเคราะห์ โปรตีน

การออกกำลังกาย ช่วยกระตุ้น การสังเคราะห์โปรตีน ในกล้ามเนื้อ การสังเคราะห์โปรตีน เป็นกระบวนการ ที่ร่างกายสร้าง โปรตีนใหม่ รวมทั้ง โปรตีนที่จำเป็น สำหรับ การซ่อมแซม และ การเจริญเติบโต ของกล้ามเนื้อ การบริโภคโปรตีน ที่เพียงพอ ในอาหาร เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสนับสนุน กระบวนการนี้ อย่างมีประสิทธิภาพ

muscle

  • การตอบสนอง ของฮอร์โมน

การออกกำลังกาย โดยเฉพาะ การฝึกที่มี ความเข้มข้นสูง และ การฝึกด้วยแรงต้าน จะกระตุ้นการปลดปล่อย ฮอร์โมนต่าง ๆ เช่น เทสโทสเตอโรน , โกรทฮอร์โมน และ อินซูลิน-ไลก์ โกรทแฟกเตอร์ (IGF-1) ฮอร์โมนเหล่านี้ มีบทบาทสำคัญ ในการสังเคราะห์ โปรตีนของกล้ามเนื้อ , การซ่อมแซม และ การเจริญเติบโต

  • เพิ่มการไหลเวียน ของเลือด

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ไปยังกล้ามเนื้อ ส่งสารอาหารที่จำเป็น , ออกซิเจน และฮอร์โมน การไหลเวียนที่ดีขึ้น นี้ช่วยในการ ซ่อมแซม และ การเจริญเติบโต ของเนื้อเยื่อ ของกล้ามเนื้อ

  • Neuromuscular Adaptations

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เป็นประจำ ช่วยเพิ่มการสื่อสาร ระหว่าง ระบบประสาท และ กล้ามเนื้อ เพิ่มการกระตุ้น หน่วยมอเตอร์ และ การประสานงาน ของกล้ามเนื้อ ประสิทธิภาพ ที่เพิ่มขึ้นนี้ ช่วยให้คุณ สร้างแรงได้มากขึ้น และ ปรับปรุง การควบคุมกล้ามเนื้อ ระหว่างการออกกำลังกาย

  • Mitochondrial Biogenesis

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เพื่อความทนทาน เช่น แม่ไม้นาคาบิดหาง หรือ ท่าปักษาแหวกรัง กระตุ้นการพัฒนา ไมโทคอนเดรีย ใหม่ ๆ ภายในเซลล์กล้ามเนื้อ ไมโตคอนเดรีย มีหน้าที่ผลิตพลังงาน ในรูปของ ATP ซึ่งมีความสำคัญ ต่อ การทำงานของ กล้ามเนื้อ และ ความอดทน

  • ความยืดหยุ่น และ ช่วงของการเคลื่อนไหว

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย บางอย่าง เช่น ท่าสลับฟันปลา และ การยืดกล้ามเนื้อ แบบไดนามิก สามารถเพิ่ม ความยืดหยุ่น และ ช่วงของการเคลื่อนไหวได้ สิ่งนี้ สามารถนำไปสู่ การทำงานของ กล้ามเนื้อที่ดีขึ้น และ ลดความเสี่ยง ของการบาดเจ็บ ระหว่างการออกกำลังกาย

โปรดทราบว่า ประสิทธิภาพของ การออกกำลังกาย ในการสร้างกล้ามเนื้อที่ดีขึ้น นั้นขึ้นอยู่กับ ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของ การออกกำลังกาย , ความหนัก , ความถี่ และ ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น พันธุกรรม , โภชนาการ และ การฟื้นตัว กิจวัตรการออกกำลังกาย ที่สมดุลซึ่งรวมถึง การฝึกความแข็งแรง , การออกกำลังกายแบบมวยไทย การออกกำลังกาย แบบยืดหยุ่น และ โภชนาการที่เหมาะสม จะช่วยให้ บรรลุผลดีที่สุด ในการพัฒนา กล้ามเนื้อ และ สุขภาพโดยรวม เช่นเคย ขอแนะนำให้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เช่น เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร หรือ Jaroenthong muaythai khaosan นี้ หรือ ผู้ให้บริการด้าน การดูแลสุขภาพ ก่อนเริ่มโปรแกรม การออกกำลังกายใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณมีโรคประจำตัว

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เล่น มวยไทยคลายเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิตดี

กีฬามวยไทย ตัวช่วย ลดน้ำหนัก สร้างหุ่นฟิต

เล่น มวยไทยคลายเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิตดี

เล่น มวยไทยคลายเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิตดี

การหาวิธี ที่มีประสิทธิภาพ ในการจัดการความเครียด และ การส่งเสริมสุขภาพจิต เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับ การรักษาวิถีชีวิต ที่มีสุขภาพดี แม้ว่าจะมีกิจกรรม และ การฝึกปฏิบัติมากมาย ที่ สามารถ ช่วยลดความเครียดได้ แต่ มวยไทยคลายเครียด ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน 

การออกกำลังกาย และ การปลดปล่อย สารเอ็นโดฟิน

การออกกำลังกาย เป็นที่รู้จักกัน เพื่อส่งเสริม การปลดปล่อยของ endorphins หรือ ที่เรียกว่าฮอร์โมน "รู้สึกดี" มวยไทย เป็นการออกกำลังกาย ที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งเกี่ยวข้อง กับ เทคนิคต่างๆ เช่น หมัด เตะ เข่า และ ศอก การเคลื่อนไหว เหล่านี้ไม่เพียงแต่ เป็นการออกกำลังกาย ทั้งร่างกาย แต่ยังกระตุ้น การหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งนำไปสู่ การเพิ่มอารมณ์ ตามธรรมชาติ และ ลดระดับ ความเครียด

1. การเชื่อมต่อร่างกาย และ จิตใจ

มวยไทย เน้นความเชื่อมโยงระหว่างจิตใจและร่างกาย ผู้ปฏิบัติงานควรให้ความสำคัญกับการหายใจ การวางตำแหน่งของร่างกาย และการเคลื่อนไหว ซึ่งส่งเสริมการเจริญสติและการรับรู้ขณะปัจจุบัน การจดจ่อกับปัจจุบันนี้สามารถช่วยเปลี่ยนจุดสนใจให้ห่างไกลจากความเครียดและความกังวล ทำให้บุคคลรู้สึกถึงความสงบและความชัดเจนทางจิตใจ

2. การปลดปล่อยอารมณ์

การออกกำลังกาย อย่างเข้มข้น เช่น มวยไทย สามารถ ทำหน้าที่ เป็นทางออกที่ดี สำหรับ อารมณ์ และ ความเครียด ที่ถูกกักขัง บุคคล สามารถ ปลดปล่อย ความตึงเครียด และ ความคับข้องใจในลักษณะ ที่ควบคุม และ สร้างสรรค์ สิ่งนี้ สามารถให้ความรู้สึก ของ การปลดปล่อย และ บรรเทาทางอารมณ์ ทำให้บุคคล สามารถ ปลดปล่อยความเครียด และ ส่งเสริม ความเป็นอยู่ที่ดี ทางอารมณ์

3. เพิ่มความมั่นใจในตนเอง

การฝึกมวยไทย มักจะเกี่ยวข้อง กับ การท้าทายตัวเอง การตั้งเป้าหมาย และ การบรรลุเป้าหมาย และ การพัฒนาทักษะ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ แต่ละคน ก้าวหน้า ในการฝึกอบรม พวกเขาพัฒนา ความรู้สึก ของ ความสำเร็จ และ เพิ่มความมั่นใจ ในตนเอง การเพิ่ม ความภาคภูมิใจ ในตนเองนี้ สามารถ ช่วยให้แต่ละคน รับมือ กับความเครียดได้ดีขึ้น และ ปรับปรุง สภาพจิตใจ โดย รวมของพวกเขา

ผสมผสาน มวยไทย เข้ากับกิจวัตร เพื่อสุขภาพของคุณ

1. ค้นหาผู้สอน ที่มีประสบการณ์

เพื่อให้แน่ใจว่า มีการฝึก ที่ปลอดภัย และ มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญ คือ ต้องหาผู้สอนมวยไทย ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม หรือ โรงยิม ที่มีชั้นเรียน ที่มีโครงสร้าง ผู้สอน ที่มีความรู้ สามารถ แนะนำคุณ เกี่ยวกับ เทคนิคที่เหมาะสม ให้คำแนะนำ ส่วนบุคคล และ สร้างสภาพแวดล้อม การเรียนรู้ที่สนับสนุน

2. เริ่มอย่างช้าๆ และ ก้าวหน้า อย่างค่อยเป็นค่อยไป

หากคุณ ยังใหม่ กับ มวยไทย หรือ การออกกำลังกาย โดยทั่วไป สิ่งสำคัญ คือ ต้องเริ่มอย่างช้าๆ และ ค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น ของ การฝึกของคุณ ฟังร่างกาย ของคุณ และ ให้เวลาตัวเอง ในการปรับตัว ให้เข้ากับการเคลื่อนไหว และ ความต้องการของกีฬา วิธีนี้ จะช่วยป้องกัน การบาดเจ็บ และ ช่วยให้คุณ ได้รับประโยชน์ จากมวยไทย โดยไม่ต้อง ออกแรง มากเกินไป

3. ฝึกสติ และ การหายใจ

ในระหว่างการฝึก มวยไทย ให้ความสนใจ กับ ลมหายใจ และ จดจ่อ กับ การเคลื่อนไหวของคุณ หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเติมออกซิเจน ให้ร่างกาย ของคุณ และ อยู่กับปัจจุบัน การเคลื่อนไหว อย่างมีสติ และ การหายใจ สามารถ เพิ่มผลการคลายความเครียด ของ มวยไทย และ ส่งเสริม ความชัดเจน ทางจิตใจ

4. ฟังร่างกาย ของคุณ และ พักผ่อน

การพักผ่อน และ การฟื้นตัว เป็นองค์ประกอบ สำคัญ ของการออกกำลังกาย ใส่ใจ กับ สัญญาณของร่างกาย ของคุณ และ พักผ่อนเมื่อจำเป็น การฝึก มากเกินไป อาจนำไปสู่ ระดับ ความเครียดที่เพิ่มขึ้น และ การบาดเจ็บ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ฟังความต้องการ ของร่างกาย และ ให้เวลาตัวเอง ในการฟื้นฟู และ เติมพลัง

มวยไทย ไม่ได้เป็นเพียงศิลปะ การป้องกันตัว และ กีฬา แต่ยังเป็น เครื่องมือ ที่มีคุณค่า สำหรับ การผ่อนคลาย ความเครียด และ ส่งเสริมสุขภาพจิต มวยไทย นำเสนอวิธี การแบบองค์รวม ในการจัดการความเครียด และ เพิ่มความชัดเจนทางจิตใจ ผ่านการออกกำลังกาย การฝึกสติ การปลดปล่อยอารมณ์ ความมั่นใจในตนเองที่เพิ่มขึ้น การผสมผสานมวยไทย เข้ากับกิจวัตร เพื่อสุขภาพของคุณ และ ฝึกฝนเป็นประจำ คุณจะได้สัมผัส กับ ประโยชน์มากมายที่มีให้ทั้งร่างกายและจิตใจ หากใครมีแพลน ที่กำลังอยากเล่นมวยไทย เราขอแนะนำ jaroenthongmuaythaikhaosan

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

กีฬามวยไทย ตัวช่วย ลดน้ำหนัก สร้างหุ่นฟิต

เคล็ดลับ การซ้อมมวยไทย ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ออกกำลังกายด้วยมวยไทย ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง

ออกกำลังกายด้วยมวยไทย ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง

ออกกำลังกายด้วยมวยไทย ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ดีต่อสุขภาพจิต และ ความเป็นอยู่ที่ดี เพราะ การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย ที่ดัดแปลงจาก วัฒนธรรมทรงคุณค่านั้น มีประโยชน์มากมาย สำหรับทั้ง สุขภาพร่างกาย และจิตใจ สามารถช่วยให้ สุขภาพจิตดีขึ้น ได้หลายวิธี

  • การปล่อย สารเอ็นโดรฟิน

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย ช่วยกระตุ้นการหลั่ง สารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็น สารสื่อประสาท ที่ส่งเสริมความรู้สึก มีความสุข , ความเพลิดเพลิน และ ความเป็นอยู่ที่ดี สารเอ็นโดรฟิน ทำหน้าที่เป็น ตัวกระตุ้นอารมณ์ ตามธรรมชาติ และ สามารถช่วยลด ความรู้สึกเครียด , วิตกกังวล และ ซึมเศร้าได้

  • อาการซึมเศร้า และ ความวิตกกังวล ลดลง

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เป็นประจำ แสดงให้เห็นว่า มีประสิทธิภาพ ในการลด อาการซึมเศร้า และ ความวิตกกังวล สามารถเพิ่ม การผลิตสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเกี่ยวข้อง กับ การควบคุมอารมณ์ การออกกำลังกายด้วยมวยไทย ยังช่วยเบี่ยงเบน ความสนใจจาก ความคิดด้านลบ และ ให้ความรู้สึกถึง ความสำเร็จ และ ส่งเสริม ความภาคภูมิใจ ในตนเอง

  • การลดความเครียด

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย สามารถช่วย คลายความเครียดได้ การออกกำลังกาย จะช่วยลดระดับ ฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล พร้อมกระตุ้น การผลิตสาร เอ็นโดรฟิน เป็นช่องทางที่ดี ต่อสุขภาพใน การจัดการ และ รับมือกับ ความเครียด ส่งเสริมการผ่อนคลาย และ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น

boxing

  • การนอนหลับที่ดีขึ้น

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย สามารถช่วยให้ การนอนหลับ มีคุณภาพ และ ระยะเวลาที่ดีขึ้น การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เป็นประจำ ช่วยควบคุมวงจร การนอนหลับ และ ส่งเสริม การนอนหลับ พักผ่อน การนอนหลับ ที่เพียงพอ มีความสำคัญต่อ สุขภาพจิต และ การออกกำลังกาย สามารถช่วยให้ รูปแบบ การนอนหลับ ได้รับการฟื้นฟู ดีขึ้น

  • ฟังก์ชั่นการรับรู้ ที่เพิ่มขึ้น

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เชื่อมโยงกับ ฟังก์ชั่นการรับรู้ ที่ดีขึ้น รวมถึง หน่วยความจำ , โฟกัส และ ความสนใจที่เพิ่มขึ้น การออกกำลังกายด้วยมวยไทย ช่วยเพิ่ม การไหลเวียนของเลือด ไปยังสมอง สนับสนุน การเจริญเติบโตของ เซลล์สมองใหม่ และ ปรับปรุงสุขภาพสมอง โดยรวม นอกจากนี้ ยังอาจลดความเสี่ยง ของ การลดลงของ ความรู้ , ความเข้าใจ และ ปรับปรุง ประสิทธิภาพการรับรู้ ตลอดอายุขัย

  • เพิ่มความมั่นใจ ในตนเอง และ ความภูมิใจ ในตนเอง

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย เป็นประจำ สามารถเพิ่ม ความมั่นใจในตนเอง และ ความนับถือตนเองได้ การบรรลุเป้าหมาย ด้านฟิตเนส , การพัฒนาความสามารถ ทางร่างกาย และ การดูแลร่างกาย สามารถเพิ่ม การรับรู้ตนเอง และ สร้างภาพลักษณ์ ในเชิงบวกได้ การเปลี่ยนแปลง ทางร่างกาย ที่เกิดจาก การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย เช่น ความแข็งแรง ที่เพิ่มขึ้น หรือ องค์ประกอบของ ร่างกายที่ดีขึ้น ยังสามารถ ช่วยเพิ่ม ความมั่นใจในตนเอง ได้อีกด้วย

  • ปฏิสัมพันธ์ และ การสนับสนุน ทางสังคม

การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย มักให้โอกาส ในการปฏิสัมพันธ์ และ การเชื่อมต่อ ทางสังคม , กิจกรรมกลุ่ม , การเล่นกีฬากับเพื่อน ๆ , คลาสฟิตเนส หรือ การออกกำลังกายด้วยมวยไทย ร่วมกับผู้อื่น สามารถเสริมสร้าง ความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกัน , การสนับสนุน ทางสังคม และ ความสัมพันธ์เชิงบวก ลักษณะทางสังคม ของ การออกกำลังกายด้วยมวยไทย สามารถช่วยให้ สุขภาพจิตดีขึ้น และ ต่อสู้กับ ความรู้สึกเหงา หรือ โดดเดี่ยว

            นอกจากนี้ การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย ยังช่วยส่งเสริมด้าน การทำงานของ ความรู้ , ความเข้าใจ และ สุขภาพสมอง ให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม เนื่องจาก การออกกำลังกาย ช่วยเพิ่ม การไหลเวียนของ เลือดไปยังสมอง , ส่งเสริมการส่ง ออกซิเจน และ สารอาหาร ที่สนับสนุน การทำงาน ของ สมองที่ดีที่สุด การออกกำลังกาย เป็นประจำ มีความสัมพันธ์ กับ ความจำที่ดีขึ้น , สมาธิที่เพิ่มขึ้น , ความคิดสร้างสรรค์ ที่เพิ่มขึ้น และ ความเสี่ยงที่ลดลง ของ การลดลง ของ ความรู้ กับ ความเข้าใจ และ โรคเกี่ยวกับ ความเสื่อม ของ ระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์

สิ่งสำคัญ คือ ต้องเลือกกิจกรรม ที่คุณชอบ และ ผสมผสาน ทั้งการออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ และ หลอดเลือด (เช่น การเดินเร็ว , จ็อกกิ้ง , ว่ายน้ำ หรือ ปั่นจักรยาน) และ การฝึกความแข็งแรง ด้วยมวยไทย (เช่น แม่ไม้มวยไทย ประเภทต่าง ๆ) นอกจากนี้ ขอแนะนำให้ ปรึกษากับ บุคลากรทาง การแพทย์ หรือ ปรึกษากับ ผู้เชี่ยวชาญของ เจริญทองมวยไทย รัชดา ก่อนที่จะเริ่มโปรแกรม การออกกำลังกายใหม่ ๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง หากคุณมี โรคประจำตัว หรือ ข้อกังวลใด ๆ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เทคนิคการฝึก มวยไทยป้องกันตัว ที่ใช้ได้ในชีวิตจริง

ข้อดีในการฝึก กีฬามวยไทย เพื่อ ร่างกาย ที่แข็งแรง

กีฬามวยไทย ตัวช่วย ลดน้ำหนัก สร้างหุ่นฟิต

กีฬามวยไทย ตัวช่วย ลดน้ำหนัก สร้างหุ่นฟิต

สำหรับใคร ที่กำลังมองหาคอร์ส ที่จะเป็น ตัวช่วย ในการ กำจัดไขมันส่วนเกิน ก็คงจะเคย ได้ยินถึงเทรนด์ การออกกำลังกาย ที่รียกได้ว่า ยอดฮิตสุด ๆ อย่างการเล่น กีฬามวยไทย หรือ ต่อยมวย ที่เป็น ตัวช่วย ลดน้ำหนัก และ สร้างหุ่นฟิต ให้กับเราได้

กีฬามวยไทย ตัวช่วย ลดน้ำหนัก สร้างหุ่นฟิต

การออกกำลังกาย ยอดฮิต อย่าง กีฬามวยไทย หรือ การต่อยมวย เพื่อ ลดน้ำหนัก ที่ได้ประยุกต์ มาจาก กีฬาประจำชาติ กีฬามวยไทยที่เป็นมรดก ทางวัฒนธรรม ที่ได้ชื่อว่า นวอาวุธซึ่งจาก เอกลักษณ์ ของการใช้ ร่างกาย โดยทั้ง 9 ส่วน อย่างเช่น สองหมัด, สองเท้า, สองเข่า, และ สองศอก และอีก หนึ่งศีรษะ ที่ได้รวมเป็น อาวุธที่มี อานุภาพ ในเรื่องของ การต่อสู้ โดยที่ ในช่วงแรก ของการฝึก กีฬามวยไทย ที่ได้ถูก สงวนไว้ แก่ชายฉกรรจ์ เพื่อใช้ใน การต่อสู้ หรือว่า สู้รบ ในสงคราม เพียงเท่านั้น ก่อนที่จะมี วิวัฒนาการ มาเป็น กีฬาบนสังเวียน ในภายใต้ กฎกติกา สำหรับ นักชกมวย มืออาชีพ อย่างทุกคน ในปัจจุบัน และนอกจากนี้ การชกมวย นั้นไม่ได้ ถูกจำกัด ไว้เพียงแค่ ผู้ที่สนใจ ในเรื่องของ ศาสตร์ป้องกันตัว หรือ ศิลปะป้องกันตัว แต่ยัง เหมาะกับ คนที่ต้องการเล่น กีฬามวยไทย หรือ ต่อยมวย เพื่อ ลดน้ำหนัก สร้างหุ่นฟิต อีกด้วย เพราะว่า จะช่วย ในการ เผาผลาญแคลอรี่ และ ยังให้ ความสนุก สนาน กับ ร่างกาย ของเรา ฉะนั้น จึงทำให้ กีฬามวยไทย เป็นที่นิยม ทั้งกับชาวไทย และ ชาวต่างชาติ อีกด้วย

 

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงทำให้ มีองค์กรหลากหลายฝ่ายที่ต่าง เข้ามาช่วยกัน และช่วยส่งเสริมให้ กีฬามวยไทย นั้นได้กลายเป็น กีฬาที่สามารถ ดูได้ ทุกเพศ ทุกวัย และทำให้ มีรูปแบบ ที่เป็น สากล ของกีฬามวยไทยมากยิ่งขึ้น และยังดู ปลอดภัยด้วย อีกทั้งยัง ไม่น่ากลัว อย่างสมัยก่อน ๆ ซึ่งก็มี ค่ายมวย หลากหลาย ๆ ค่ายมวย ด้วยกัน ที่เปิดพื้นที่ ให้บริการแก่ ผู้คนทั่วไป เพื่อเข้ามาฝึก อย่างการ ลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ และ การออกกำลังกาย สร้างหุ่นฟิต ได้ จึงเป็นที่มา ของกระแส กีฬามวยไทย พีเวอร์ ในปัจจุบัน และยังรวมไปถึง การที่มี ดารา เซเล็ป อย่างมากมาย ที่ใช้ กีฬามวยไทย เพื่อเป็น การออกกำลังกาย เพื่อที่จะ ลดน้ำหนัก กันบ้าง หรือ กระชับหุ่น กันบ้าง เพราะว่า กีฬามวยไทย ถือได้ว่า เป็นกีฬา ที่จะใช้ กล้ามเนื้อ และใช้ พลังงาน ที่สูง อย่างมาก และถือได้ ว่าเป็น การออกกำลังกายแบบ ที่เต็มรูปแบบ ที่ดีมาก ๆ เพราะเรา จะได้ใช้ กล้ามเนื้อ ในทุกส่วน ของ ร่างกาย และยังทำให้ การเต้นของหัวใจ เพิ่มมากขึ้น และเลือดสูบฉีด จึงถือเป็น วิธีที่เหมาะสม ในการ ลดน้ำหนัก ซึ่งการต่อย กีฬามวยไทย จะสามารถ เผาพลาญแคลอรี่ ได้มากถึง 800 แคลอรี่ ต่อ ชั่วโมง เลยทีเดียว

 

กีฬามวยไทย หรือ การต่อยมวย ตัวช่วย ลดน้ำหนัก สร้างหุ่นฟิต ที่บอกได้เลยว่า เป็นกิจกรรม ที่ได้รับ ความนิยม และ ความสนใจ เป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนี้ ทั้งใน กลุ่มผู้ชาย และ กลุ่มผู้หญิง เพราะว่า เป็นกิจกรรม ที่จะให้ทั้ง ความสนุก ความแข็งแรง สามารถทำ ควบคู่ไปกับ จังหวะเพลง ก็ได้ โดยเราสามารถ ทำได้ทั้ง ที่บ้าน, ยิม, หรือ ฟิตเนส และ สวนสาธารณะ ก็ได้ โดยที่ ไม่จำกัดสถานที่ และไม่จำเป็น จะต้องมี อุปกรณ์ที่มากมาย  ก็เหมือนกับ การออกกำลังกาย ในประเภทอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็น กิจกรรมที่ ไม่ต้องทำ ในรูปแบบซ้ำ ๆ หรือเดิม ๆ เหมือนกับ การวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน จึงถือได้ว่า กีฬามวยไทย สามารถตอบโจทย์ ให้กับสาว ๆ ที่ต้องการจะ ลดน้ำหนัก ได้ดี อีกด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เคล็ดลับ การซ้อมมวยไทย ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์เริ่ดๆ จากการ ฝึกมวยไทย

เคล็ดลับ การซ้อมมวยไทย ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับ การซ้อมมวยไทย ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

มวยไทย เป็นกีฬาการต่อสู้ ที่ผสมผสาน เทคนิค การต่อสู้โดยใช้ หมัด ศอก เข่า และ หน้าแข้ง การซ้อมมวยไทย เป็นส่วนสำคัญ ของ การฝึกมวยไทย เนื่องจาก ช่วยให้ผู้ฝึกใช้ ทักษะของตน ในสภาพแวดล้อม ที่สมจริง และ มีการควบคุม อย่างไรก็ตาม การซ้อมอาจต้องใช้ ร่างกาย และ มีความเสี่ยง ต่อการบาดเจ็บ หากไม่ได้รับ การดูแลด้วยเทคนิค และ การป้องกันที่เหมาะสม 

1. การอบอุ่นร่างกาย และ การยืดกล้ามเนื้อ : ก่อนเข้าร่วม การซ้อม สิ่งสำคัญ คือ ต้องอบอุ่นร่างกาย และ ออกกำลังกาย ยืดเส้น ซึ่งจะช่วย เพิ่มการไหลเวียน ของเลือด คลายกล้ามเนื้อ และ ลดความเสี่ยง ของ อาการตึง หรือ เคล็ดขัดยอก เริ่มต้นด้วย การออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ แบบเบาๆ เช่น จ็อกกิ้ง หรือ กระโดดเชือก ตามด้วย การออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อ ที่กำหนดเป้าหมาย ไปที่กลุ่ม กล้ามเนื้อหลัก ที่ใช้ใน มวยไทย เช่น ไหล่ สะโพก และขา

2. ใช้อุปกรณ์ป้องกัน : อุปกรณ์ป้องกัน มีความสำคัญ ต่อ การซ้อมมวยไทย เพื่อลดความเสี่ยง ต่อการบาดเจ็บ ลงทุน ในอุปกรณ์ ที่มีคุณภาพ รวมถึง ถุงมือ ผ้าพันมือ ผ้าปิดปาก สนับแข้ง หมวกนิรภัย และ อุปกรณ์ป้องกัน ขาหนีบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า อุปกรณ์สวมใส่ ได้พอดี และ ให้การรองรับ และ การป้องกัน ที่เพียงพอ สำหรับ ส่วนเฉพาะของร่างกาย ที่อาจได้รับแรงกระแทก

3. สื่อสาร และ เคารพคู่ซ้อมของคุณ : การสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพ และ ความเคารพซึ่งกัน และ กัน เป็นสิ่งสำคัญ ในระหว่างการซ้อม ก่อนเริ่ม ให้หารือ เกี่ยวกับเป้าหมาย ขอบเขต และ ระดับความเข้มข้น ของ คุณกับคู่ซ้อมของคุณ เคารพในขีดจำกัด ของกัน และ กัน และหลีกเลี่ยงการ ใช้กำลังมากเกินไปโดยไม่จำเป็น 

4. มุ่งเน้นไปที่ เทคนิค และ การควบคุม : ในระหว่างการซ้อม ให้จัดลำดับ ความสำคัญ ของ เทคนิค และ ควบคุมการใช้กำลัง มีสมาธิ กับ การใช้เทคนิค ที่เหมาะสม การวางเท้า และ การหลบหลีกการป้องกัน แทนที่จะมุ่งเน้น ไปที่ การเอาชนะคู่ต่อสู้ ของคุณเพียงอย่างเดียว 

5. เริ่มอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ : เมื่อเริ่ม การซ้อม ให้เริ่มที่ความเร็วช้า ๆ เพื่ออุ่นเครื่อง และ วัดระดับทักษะ ของ แต่ละคน เมื่อคุณทั้งคู่สบายใจ และ มั่นใจแล้ว ให้ค่อยๆ เพิ่มความรุนแรง และ ความเร็ว ในการโจมตีของคุณ 

6. พัฒนาทักษะการป้องกันตัว : การป้องกัน ที่มีประสิทธิภาพ มีความสำคัญพอๆ กับ การรุก ใน การซ้อมมวยไทย ฝึกฝน ทักษะ การป้องกันของคุณ รวมถึง การบล็อก การปัดป้อง และ การเคลื่อนไหว เพื่อหลบหลีก การเรียนรู้ ที่จะคาดการณ์ และ ตอบสนอง ต่อการโจมตี ของคู่ต่อสู้ จะช่วยเพิ่ม ความสามารถ ในการป้องกันตัวเอง และ ลดผลกระทบจากการโจมตีที่เข้ามา

7. เน้นการใช้เท้า และ การเคลื่อนไหว : การใช้เท้า และ การเคลื่อนไหว เป็นองค์ประกอบ สำคัญ ของ การซ้อมมวยไทย พัฒนาทักษะ การใช้เท้าที่ดี เช่น การหมุน การสับ และ การตกปลา เพื่อสร้างมุม การโจมตี และ หลบเลี่ยง การจู่โจมที่เข้ามา เคลื่อนไหว และ รักษาท่าทาง ที่กระตือรือร้นอยู่เสมอ 

8. ควบคุมการหายใจของคุณ : เทคนิค การหายใจ ที่ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญ ใน การซ้อมมวยไทย ฝึกการหายใจลึก ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า กล้ามเนื้อ ของคุณได้รับออกซิเจน เพียงพอ เพิ่มความอดทน สงบสติอารมณ์ และ มีสมาธิระหว่างการแลกเปลี่ยน หลีกเลี่ยงการกลั้นหายใจ เพราะ อาจทำให้เหนื่อยล้า และ ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมลดลง

9. ฟังร่างกายและควรพักผ่อนร่างกาย : ฟังสัญญาณ ของร่างกาย และ หยุดพักเมื่อจำเป็น การโอเวอร์เทรน อาจทำให้หมดแรง เพิ่มความเสี่ยง ต่อ การบาดเจ็บ และ ประสิทธิภาพ การทำงานลดลง ปล่อยให้ตัวเอง มีเวลาพักผ่อน และ ฟื้นตัวระหว่างช่วงซ้อม เพื่อป้องกัน ความเหนื่อยหน่าย และ รักษาสภาพร่างกายที่ดีที่สุด

การซ้อมมวยไทย อาจเป็นส่วนที่น่าตื่นเต้น และ มีคุณค่าในเส้นทางการฝึกฝนของคุณ เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การซ้อมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และ หากใครที่กำลังมองหา ที่ฝึกซ้อมมวยไทยอยู่หละก็ เราขอแนะนำ jaroenthongmuaythaikhaosan ที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน


อ่านบทความเพิ่มเติม : 

มวยไทย ศาสตร์แห่งการพัฒนา ด้านร่างกาย และ จิตใจ

สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ฉบับของ มวยไทย



 

ออกกำลังกายด้วยมวยไทย ให้ประโยชน์ดี ๆ มากกว่าที่คุณคิด

ออกกำลังกายด้วยมวยไทย ให้ประโยชน์ดี ๆ มากกว่าที่คุณคิด

ออกกำลังกายด้วยมวยไทย ให้ประโยชน์ดี ๆ มากกว่าที่คุณคิด เพราะ การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย ที่ดัดแปลงจาก วัฒนธรรมทรงคุณค่านั้น มีประโยชน์มากมาย สำหรับทั้ง สุขภาพร่างกาย , จิตใจ และอารมณ์ ด้วยท่าแม่ไม้ที่ต้องอาศัย การขยับทุกส่วนของร่างกาย และ การฝึกสมาธิ

            ต่อไปนี้ คือ ประโยชน์หลัก ๆ บางประการ ของ การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย เป็นประจำ

  • สมรรถภาพทางกาย

การออกกำลังกาย ช่วยปรับปรุง สมรรถภาพทางกาย และ สุขภาพโดยรวม ช่วยเพิ่ม ความทนทานของหัวใจ และ หลอดเลือด ความแข็งแรง ของ กล้ามเนื้อ และ ความยืดหยุ่น การออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ สามารถนำไปสู่ การปรับปรุง องค์ประกอบของ ร่างกาย , ความหนาแน่น ของ กระดูกที่เพิ่มขึ้น และ การประสานงาน และ ความสมดุลที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การขยับร่างกาย ด้วยมวยไทย ยังช่วยให้ ร่างกายทำงานได้ ดีขึ้น และ ลดความเสี่ยงต่อ โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ , เบาหวานชนิดที่ 2 และ มะเร็งบางชนิด

  • การควบคุมน้ำหนัก

การออกกำลังกาย มีบทบาทสำคัญ ในการควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย ช่วยเผาผลาญ แคลอรี , สร้างมวลกล้ามเนื้อ และ เพิ่มอัตรา การเผาผลาญ ซึ่งจะช่วยใน การบรรลุ และ รักษาน้ำหนักตัว ให้แข็งแรง เมื่อรวมกับ การรับประทาน อาหารที่สมดุล การออกกำลังกาย เป็นประจำ จะช่วยสนับสนุน การลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพ , การรักษาน้ำหนัก และ เป้าหมายองค์ประกอบ ของร่างกาย

boxing

  • สุขภาพจิต และ อารมณ์ดีขึ้น

การออกกำลังกาย ส่งผลดีต่อ สุขภาพจิต และ อารมณ์ที่ดี การออกกำลังกาย จะหลั่ง สารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็น สารเพิ่มอารมณ์ ตามธรรมชาติ และ สามารถช่วยลด ความรู้สึกเครียด , วิตกกังวล และซึมเศร้าได้ การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย เป็นประจำ สามารถปรับปรุง คุณภาพการนอนหลับ , เพิ่มความนับถือ ในตนเอง และ ส่งเสริมความรู้สึก ของ ความสำเร็จ และ สุขภาพจิตโดยรวม

  • เพิ่มพลังงาน

การออกกำลังกาย เป็นประจำ สามารถเพิ่มระดับ พลังงาน และ ต่อสู้กับ ความรู้สึกเหนื่อยล้าได้ การออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียน ของเลือด , เพิ่มการส่งออกซิเจน ไปยังกล้ามเนื้อ และ อวัยวะต่าง ๆ และกระตุ้นการ ปลดปล่อย สารสื่อประสาท ที่ส่งเสริมความตื่นตัว และ ความมีชีวิตชีวา แม้แต่ กิจกรรมมวยไทย ที่ใช้แรงน้อย เช่น สลับฟันปลา หรือ ปักษาแหวกรัง ก็สามารถช่วย เพิ่มพลังงานได้

  • การป้องกัน และ จัดการโรค

การออกกำลังกาย เป็นประจำ มีบทบาทสำคัญ ในการป้องกัน และ จัดการกับ โรคเรื้อรังต่าง ๆ  สามารถช่วยลด ความเสี่ยงของ โรคหัวใจ , โรคหลอดเลือดสมอง , ความดันโลหิตสูง , เบาหวานชนิดที่ 2 , มะเร็งบางชนิด และ โรคกระดูกพรุน สำหรับ บุคคลที่มี ภาวะเหล่านี้อยู่แล้ว การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย สามารถช่วยใน การจัดการกับโรค , ทำให้อาการดีขึ้น และ เพิ่มคุณภาพชีวิต โดยรวม

  • การทำงานด้าน ความรู้ ความเข้าใจ และ สุขภาพสมอง

การออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย เชื่อมโยงกับ การทำงานด้าน ความรู้ , ความเข้าใจ และ สุขภาพสมอง ที่ดีขึ้น การออกกำลังกาย ช่วยเพิ่ม การไหลเวียนของ เลือดไปยังสมอง , ส่งเสริมการส่ง ออกซิเจน และ สารอาหาร ที่สนับสนุน การทำงาน ของ สมองที่ดีที่สุด การออกกำลังกาย เป็นประจำ มีความสัมพันธ์ กับ ความจำที่ดีขึ้น , สมาธิที่เพิ่มขึ้น , ความคิดสร้างสรรค์ ที่เพิ่มขึ้น และ ความเสี่ยงที่ลดลง ของ การลดลง ของ ความรู้ กับ ความเข้าใจ และ โรคเกี่ยวกับ ความเสื่อม ของ ระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์

สิ่งสำคัญ คือ ต้องเลือกกิจกรรม ที่คุณชอบ และ ผสมผสาน ทั้งการออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ และ หลอดเลือด (เช่น การเดินเร็ว , จ็อกกิ้ง , ว่ายน้ำ หรือ ปั่นจักรยาน) และ การฝึกความแข็งแรง ด้วยมวยไทย (เช่น แม่ไม้มวยไทย ประเภทต่าง ๆ) นอกจากนี้ ขอแนะนำให้ ปรึกษากับ บุคลากรทาง การแพทย์ หรือ ปรึกษากับ ผู้เชี่ยวชาญของ เจริญทองมวยไทย รัชดา ก่อนที่จะ เริ่มโปรแกรม การออกกำลังกายใหม่ ๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง หากคุณมี โรคประจำตัว หรือ ข้อกังวลใด ๆ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

นายขนมต้ม ที่สุดแห่งตำนานมวยไทย บรมครูแห่งวงการมวย

มวยไทยช่วยเสริมสร้าง ความสง่างามทางร่างกาย

ประโยชน์เริ่ดๆ จากการ ฝึกมวยไทย

ประโยชน์เริ่ดๆ จากการ ฝึกมวยไทย

วันนี้บทความ ของเรา จะพูดถึงเทรนด์ การออกกำลังกาย ที่ผู้หญิง หลาย ๆ คน ก็สามารถฝึก ความแข็งแรง ของ ร่างกาย ได้ ซึ่งเป็น ศิลปะการต่อสู้ ที่ได้รับ ความนิยม และ ความสนใจ อย่างมาก มาดูถึง ประโยชน์เริ่ดๆ จากการ ฝึกมวยไทย กันว่า มีอะไรบ้าง

ประโยชน์เริ่ดๆ จากการ ฝึกมวยไทย

สำหรับการ ฝึกมวยไทย ที่ผู้หญิง หรือ ใคร ๆ ก็สามารถฝึก ความแข็งแรง แข็งแกร่ง ของ ร่างกาย ได้ด้วย การสวมนวม และขึ้น สังเวียนชก กับ เทรนเนอร์ หุ่นล่ำ ๆ ที่ถือเป้าล่อ หรือ กระสอบทราย ฝึกมวยไทย ที่ไม่ได้ ฝึกชก ไปขึ้น เวทีมวย ให้เจ็บตัว แต่เป็น การออกกำลังกาย ที่ให ความสนุก ไม่แพ้กับ เต้นแอโรบิค หรือ ซุมบ้า เลย แถมยังได้ ประโยชน์เริ่ดๆ จากการ ฝึกมวยไทย มากกว่าที่คิด อีกด้วย

 

1. ฝึกมวยไทย ช่วยให้ หน้าท้องแบบราบ

หากใครที่อยากมี ซิกซ์แพ็ก ที่ชัด ๆ ก็ลอง เลิกซิทอัพ แล้วหันมา ฝึกมวยไทย หรือ ต่อยมวย กันดู เพราะว่า การชกมวย จำเป็น จะต้องใช้ กล้ามเนื้อแกนกลาง ของลำตัว ที่สูงมาก จะต้อง บิดสะโพก เพื่อเพิ่มแรง ส่งให้ ออกหมัด ได้หนักมากขึ้น และ เผาผลาญพลังงาน ได้มากกว่า ของการ นอนซิทอัพกับพื้น ซึ่งเมื่อ แกนกลางลำตัว แข็งแรง และ เผาผลาญไขมัน ได้มากขึ้นแล้ว กล้ามหน้าท้อง ก็จะไม่ไกลเกินฝัน อย่างแน่นอน

 

2. ฝึกมวยไทย ช่วยให้ เผาผลาญพลังงาน ได้เร็วกว่า

การชกมวย หรือ ฝึกมวยไทย อาจเป็น ทางเลือกใหม่ใน การออกกำลังกาย ในแบบ High - Intensity Interval Training หรือ การออกกำลังกาย แบบความเข้มข้นสูง เพราะว่า การขึ้นชกใน 1 ยก ก็คือ การใช้ ร่างกาย ไปถึงระดับสูงสุด และการพัก ระหว่างยก ก็คือการทำให้ ร่างกาย ของเรา ฟื้นตัวจาก ความอ่อนล้า ได้เร็ว ซึ่งเป็น การออกกำลังกาย ในแบบผสมผสาน ของการ เผาผลาญพลังงาน การใช้ออกซิเจน และ ไม่ใช้ออกซิเจน เข้าด้วยกันซึ่ง การออกกำลังกาย ในแบบ ฝึกมวยไทย ก็จะช่วย สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว และ การมีพลัง ที่มากขึ้น ช่วยกระตุ้น ระบบการเผาผลาญ ในร่างกาย ได้ดี

 

3. ฝึกมวยไทย จะได้ออกกำลัง ในทุกส่วนของ ร่างกาย

เป้าหมายของ การต่อยมวย หรือ ฝึกมวยไทย ก็คือ ให้ทุกส่วนของ ร่างกาย ได้ใช้งาน ที่นอกเหนือไปจาก การกระตุ้น ความแข็งแรง ของ ร่างกาย และ ระบบไหลเวียนเลือด ฝึกมวยไทย ยังช่วยเพิ่ม การฝึกทักษะอย่าง การทรงตัว และ การทำงานประสานกัน ของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้ ความคล่องตัว อีกทั้งยังสามารถ เบิร์นไขมัน ได้มากถึง 13 แคลอรี่ ใน 1 นาที การออกกำลังกาย ด้วย การต่อยมวย จะทำให้ เผาผลาญแคลอรี่ ได้มากถึง 200 ถึง 400 แคลอรี่ ในครึ่งชั่วโมง

 

4. ฝึกมวยไทย หรือ ต่อยมวย ช่วยในการ คลายเครียด

หากเมื่อเรา ต้องเผชิญกับ ความเครียด มาทั้งวัน หรือ ทะเลาะกับแฟน และรู้สึกหงุดหงิด จนอยากจะระเบิด ก็เป็นการดี หากได้ขึ้น สังเวียนต่อย ใครสักคน หรือ ชกกระสอบทราย เพื่อ ระบายอารมณ์ ออกมาบ้าง หลั่งอะดรีนาลีน และฮอร์โมน ต่าง ๆ ที่หลั่งออกมา ในระหว่างการใช้แรง ก็จะส่งผล ในทางที่ดีต่อ ร่างกาย ของเรา การต่อยมวย จึงเป็นการ ระบายความเครียด ที่ได้ผลดี และยังดีต่อ สุขภาพ อีกด้วย ยังรวมไปถึง สารเอ็นดอฟีน ที่หลั่งออกมา ก็จะช่วยให้มี ความสุข มากยิ่งขึ้น

 

5. ฝึกมวยไทย ช่วยพัฒนาร่างกาย ได้อย่างต่อเนื่อง

การชกมวย หรือ ฝึกมวยไทย จะไม่มีกฎตายตัว ว่าจะต้องออกหมัด ไหนก่อน หรือ อับเปอร์คัส ที่จังหวะไหน แต่จะต้องเดาทาง คู่ต่อสู้ ให้ถูก หาจังหวะใน การชกเอง ก็จะทำให้เกิด ความท้าทาย ได้ตลอดเวลา เและกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งหมายความว่า กล้ามเนื้อ ก็จะถูกปลุก ให้ตื่นตัว อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ ร่างกาย ได้รับการพัฒนา ได้อย่างต่อเนื่อง

 

บอกเลยว่า ประโยชน์เริ่ดๆ ของการ ฝึกมวยไทย ยังมีอีกเยอะ และหากใคร ที่สนใจ อยากจะ เรียนมวยไทย หรือ ฝึกมวยไทย ก็สามารถ เข้ามาเรียน หรือมา ออกกำลังกาย กันได้ ที่ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร นี่เลย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ศาสตร์แห่งการพัฒนา ด้านร่างกาย และ จิตใจ

6 วิธีการเลือกยิม มวยไทย ยังไง? ให้เหมาะกับคุณ

 

muay-thai-boxing

มวยไทย ศาสตร์แห่งการพัฒนา ด้านร่างกาย และ จิตใจ

มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ ของ ประเทศไทย ที่ใช้การโจมตี จากแทบทุกส่วน ของร่างกาย ได้แก่ หมัด , ศอก , เข่า และ เท้า ซึ่งเป็น ศาสตร์แห่งการต่อสู้ ที่ใช้ ความเตรียมพร้อม ทั้งด้าน ร่างกายที่แข็งแรง ประสานเข้ากับ จิตใจที่มั่นคง ก่อกำเนิดเป็น ตัวคุณที่มี ความสมบูรณ์พร้อม ทั้งจิต และ กาย

ด้วยการที่ ขยับเคลื่อนหมัด , ศอก , เข่า และ เท้า ในทุกท่วงท่า ทำให้ กล้ามเนื้อทุกส่วน เกิดการเคลื่อนไหว เผาผลาญ ไขมันส่วนเกิน , เสริมสร้าง ความแข็งแกร่ง , กระชับสัดส่วน , ระบบโลหิตไหลเวียน , ระบบโลหิต และ การหายใจดีขึ้น และ ต้องมี จิตใจ ที่เต็มไปด้วย สมาธิในการ ใช้ออกท่วงท่าต่าง ๆ เพราะ กาย กับ จิตจะต้อง ประสาน การทำงาน ไปพร้อม ๆ กัน จิตจะต้อง จดจ่อกับ เป้าหมายตรงหน้า ไม่เหม่อลอย ไม่เช่นนั้น อาจเกิด อุบัติเหตุ ขึ้นมาได้

จะเห็นได้ว่า การออกกำลังกาย ผ่านมวยไทยนั้น ให้อะไรมากมาย ทั้ง แวดล้อมภายใน และ ภายนอก  โดยภายในตัวเอง นั้นแบ่งออกเป็น สองประเภท คือ พัฒนาร่างกาย กับ พัฒนาจิตใจ และ ภายนอกตัวเอง คือ  การมีปฏิสัมพันธ์ กับ ผู้คนรอบ ๆ ข้าง

muaythai

ในด้านของ การพัฒนา ร่างกายนั้น สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือด จะทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเสริมสร้าง หัวใจของคุณ และ เพิ่มการไหลเวียน ของเลือด ส่งผลให้ ลดความเสี่ยง ในการเกิด โรคหัวใจ และ หลอดเลือด  เช่น โรคหัวใจวาย และ โรคหลอดเลือดสมอง ควบคุม รักษา น้ำหนัก ให้อยู่ใน เกณฑ์ปกติ โดยการ เผาผลาญแคลอรี และ สร้างกล้ามเนื้อ ตามหลัก ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) ที่ได้กำหนดไว้ ปรับปรุง เพิ่มความแข็งแกร่ง และ ความอดทน ทำให้ ทำกิจกรรม ประจำวันได้ ง่ายดายขึ้น เช่น การถือของ หรือ หิ้วสัมภาระต่าง ๆ , การขึ้น-ลงบันได , การเดินทางไกล ได้อย่าง ไม่รู้เหน็ดเหนื่อยง่าย ๆ

นอกจากนี้ ยังช่วยลด ความเสี่ยงต่อ โรคเรื้อรัง ที่มีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อเข้าสู่วัยชรา ในบั้นปลายชีวิต เช่น โรคเบาหวาน , โรคความดันโลหิตสูง , โรคกระดูกพรุน , โรคไขมันโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ส่วนเกิน และ ไตรกลีเซอไรด์ ส่วนเกิน , โรคภูมิแพ้ (Triglyceride) และ มะเร็งบางชนิด ช่วยใน การย่อย และ ดูดซึมสารอาหาร ทำให้มี ระบบขับถ่าย ที่ดีขึ้น , ลดอาการท้องอืด หรือ ท้องเฟ้อ , เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และ ลดโอกาส การติดเชื้อโรค ให้น้อยลง

ในด้านของ การพัฒนา จิตใจ นั้น มวยไทย จะช่วยเชื่อมโยง กับ ระบบการรับรู้ ที่ดีขึ้น รวมถึง ความจำ , ความสนใจ และ ความเร็ว ในการประมวลผล ที่ดีขึ้น ทำให้ ตัดสินใจ ได้ดีขึ้น สามารถทำงาน หลายประเภท ในครั้งเดียวกันได้ (Multi-tasking) ซึ่งเป็น ทักษะที่มีประโยชน์ ในการทำงาน หรือ ทำกิจวัตรต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน , ลดอาการซึมเศร้า และ ความวิตกกังวล , ทำให้ อารมณ์ดีขึ้น และ ทำให้ สุขภาพจิตโดยรวม ดีขึ้น  ,การนอนหลับ ของคุณจะมี คุณภาพยิ่งขึ้น โดยสามารถ หลับเร็วขึ้น และ หลับได้นานขึ้น , ลดอาการของ โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) ที่เป็น หนึ่งในสาเหตุ ให้เกิดอาการ หงุดหงิด หรือ ตึงเครียด อีกด้วย 

นอกจากนี้ แวดล้อมภายนอก ของผู้ออกกำลังกาย ผ่าน มวยไทย นั้น ยังช่วยให้ เกิดการมี ความสัมพันธ์อันดี กับ ผู้คนรอบข้าง ผ่านการทำ กิจกรรมร่วมกัน ในสถานที่เดียวกัน ช่วยเปิดโอกาส ให้พบปะ ผู้คนใหม่ ๆ และ เข้าสังคมกับคนอื่น ๆ ที่มีความสนใจ ในด้านกีฬา หรือ ด้านอื่น ๆ ในอนาคตเหมือนกัน

ตัวอย่างเช่น ใน เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร นี้ เป็นยิมที่ คุณสามารถ สร้างกลุ่ม หรือ ทีม ที่มีความสนใจ เหมือน ๆ กัน ก็ช่วยให้ เกิดโอกาส ในการเข้าสังคม และ สร้างมิตรภาพ ระยะยาว กับ เพื่อนร่วมทีม เพิ่มความมั่นใจ ในตนเอง และ ความนับถือ ในตนเอง ทำให้ ง่ายต่อการ เริ่มต้นการสนทนา และ สร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ และ มีอุปสรรค ทางสังคม ที่ลดลง เพราะ การออกกำลังกาย สามารถช่วย ทลายกำแพง ทางสังคมได้ โดยการนำ ผู้คนจาก ภูมิหลัง และ วิถีชีวิต ที่แตกต่างกัน มารวมกันใน กิจกรรมที่ ใช้ร่วมกัน สิ่งนี้สามารถ ส่งเสริมความรู้สึก ของ ความสนิทสนมกัน และ การเคารพซึ่งกันและกัน ระหว่าง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม การออกกำลังกาย ด้วยกัน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ฉบับของ มวยไทย

 พาคุณรู้จัก มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) ที่คุณอาจไม่รู้

สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ฉบับของ มวยไทย

สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ฉบับของ มวยไทย

หลาย ๆ คน ที่อยากจะมี กล้ามหน้าท้อง ที่แข็งแกร่ง และ แข็งแรง ในแบบ นักมวย ที่พวกเขา มักจะมี กล้ามหน้าท้อง ที่สวยกัน วันนี้บทความ ของเรา จึงได้นำ วิธีการ สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ฉบับของ มวยไทย ( Muay Thai ) มาฝากกับทุก ๆ คนกัน

สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ฉบับของ มวยไทย

สำหรับ กล้ามหน้าท้อง หรือ ลำตัว ของ นักชกมวย ที่ได้กลายเป็น เป้าขนาดใหญ่ ที่นักสู้ บนสังเวียน อย่าง นักชกมวย ที่ต่างฝ่าย ต่างก็พยายาม หาเหลี่ยมโจมตี อาวุธใส่กัน เพื่อคว้าชัยชนะ ในการชก มวยไทย ( Muay Thai ) นั่น จึงทำให้ กล้ามเนื้อ ช่วงลำตัว และ กล้ามหน้าท้อง ของ นักกีฬา มวยไทย กับนักกีฬา ประเภทอื่น ๆ จะมี ความแตกต่างกัน กล้ามหน้าท้อง หรือ ลำตัว จัดเป็นส่วน ที่สำคัญ ใน ร่างกาย ของ นักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะนี่คือ จุดปราการด่านหน้า ที่มีอวัยวะ ที่สำคัญ อย่าง กระเพาะอาหาร, ตับ, ไต, และ ลำไส้เล็ก, ลำไส้ใหญ่ ที่อยู่ด้านใน นอกจากนี้  กล้ามหน้าท้อง หรือ ลำตัว ยังสัมพันธ์กับ ระบบหายใจ ที่รวมไปถึง การเคลื่อนไหว ร่างกาย และ การทรงตัว อีกด้วย

 

นักกีฬา มวยไทย ออกกำลังกาย สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง กันอย่างไร ?

สำหรับ การเทรน ในเรื่องของ กล้ามเนื้อหน้าท้อง หรือ ลำตัว ของ นักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) กับ นักเพาะกาย จะมี ความแตกต่างกัน เพราะอย่าง นักเพาะกาย จะเน้น ไปที่การ สร้างโทนหน้าท้อง ให้มี ความสวยงาม เห็น กล้ามเนื้อ และ เส้นเลือด ที่ชัดเจน

 

นักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นจะมี กล้ามเนื้อ ที่เป็นลักษณะ ก้อน ๆ ซึ่งเกิดจาก การถูกต่อย และ การเกร็งหน้าท้อง โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งรูปแบบของ การเทรน ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยใช้การ ซิทอัพ และ เสริมด้วยการ ฝึกเกร็งหน้าท้อง เพื่อให้ นักกีฬา มวยไทย ได้ทำการ ฝึกการเกร็ง ซึ่งการฝึกแบบนี้ จะช่วยให้ เวลาที่ นักชกมวย ขึ้นไปบนเวที กล้ามเนื้อ ก็จะมี การเกร็ง อย่างเป็น ธรรมชาติ และหายใจ ได้อย่างเป็นระบบ และถูกวิธี ที่เราทำการ สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ขึ้นมา

 

ซึ่งผลพลอยได้ จากการฝึก กล้ามหน้าท้อง อย่างสม่ำเสมอ จะยังช่วยให้ นักกีฬา มวยไทย มีระบบของ การหายใจที่ดี และส่งผลต่อเรื่อง พละกำลัง ในยามขึ้นชก บนสังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) ที่จะไม่ทำให้ หมดแรงลงไปได้ง่าย ๆ ในช่วงยกท้าย ๆ และยิ่งไปกว่านั้น นักกีฬา มวยไทย บางคน ที่มี กล้ามหน้าท้อง หรือ ลำตัว ที่แข็งแรง ยังเลือกใช้ จุดนี้ เพื่อการ เอาชนะ ในกติกา ของ มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วย เพราะหากสามารถ  ทนทานอาวุธ จาก คู่ต่อสู้ ได้นับ 10 ครั้ง โดยที่ไม่แสดงอาการ และ เลือกที่จะ สวนกลับไป ด้วยจังหวะ โยนแข้ง เพียงครั้งเดียว จนทำให้ คู่ต่อสู้ ของเราเสียทรง สถานการณ์นี้ก็อาจจะ พลิกกลับมา เอาชนะ ได้ทันที

 

การที่ สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง จึงเป็นส่วน ที่สำคัญที่ นักชกมวย ต่างก็ตระหนัก กันเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากมอง อีกมุมหนึ่ง ก็เป็นเหมือน การทดสอบ นักกีฬา กันด้วยว่า ใครฟิตซ้อม ดูแลตัวเอง และมี ระเบียบวินัย ที่ดีกว่ากัน ยามอยู่บน เวทีสังเวียน เพราะในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) การออกอาวุธ อาจช่วยให้ เราเอาชนะ แต่การที่มี ร่างกาย ที่แข็งแรง อาจช่วยไม่ให้เราแพ้ ได้ง่าย ๆ

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

พาคุณรู้จัก มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) ที่คุณอาจไม่รู้

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

พาคุณรู้จัก มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) ที่คุณอาจไม่รู้

พาคุณรู้จัก มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) ที่คุณอาจไม่รู้

มวยไทย ( Muay Thai ) เอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย ที่เราต่างภาคภูมิใจ นั้นมีประวัติมามากมาย วันนี้เราขอ พาคุณรู้จัก มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) ที่คุณอาจไม่รู้

 

 

 

เอกลักษณ์ มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน )

เอกลักษณ์ ของ มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) นั้นถูกพบว่า สวมกางเกงขาสั้น โดยไม่สวมเสื้อ สวมมงคล ที่ศีรษะ ในขณะชก การพันหมัดแบบคาดเชือก ตั้งแต่หมัดขึ้นไป จรดข้อศอก เพราะว่า มวยโคราช เป็นมวยต่อยวงกว้าง และนิยมใช้หมัดเหวี่ยงควาย การพันเชือกเช่นนี้ เพื่อป้องกัน การเตะ การต่อย ได้เป็นอย่างดี

        

มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) นั้นเป็นการต่อสู้ ในแบบมือเปล่า ที่แค่พันมือด้วยเชือก หรือด้ายดิบ ของชนชาติไทย ที่อยู่ในเขตพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา โดยมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักทั่วทั้งประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 โดยที่ มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) นั้น เป็นมวย ที่มีมาในประวัติศาสตร์ไทย มาอย่างช้านาน ถือเป็นสุดยอด ศิลปะมวยไทย ที่มีชื่อเสียงตลอดมา เท่าๆ กับมวยลพบุรี, มวยอุตรดิตถ์ และ มวยไชยา โดยมีนักมวย จากหัวเมือง ก็คือ เมืองโคราช ที่ได้สร้างชื่อเสียงขึ้นมา

          

ซึ่งจากการไปแข่งขัน ชกมวย ที่ในพระนคร โดยชกชนะ นักมวยจากภาคอื่นๆ มานับไม่ถ้วน ซึ่งล้วนแต่ มีชื่อเสียงโด่งดัง กันทั้งสิ้น โดยเริ่มตั้งแต่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ท่านทรงครองราชย์ พ.ศ.2411 พระองค์ ทรงโปรดกีฬา มวยไทย เป็นอย่างมาก การฝึกหัด มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นแพร่หลายออกไป ตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ ได้ทรงจัดให้มีการแข่งขันชกมวย ที่หน้าพระที่นั่ง ในงานศพ ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์อุรุพงษ์รัชสมโภช ขึ้นเมื่อวันที่ 18 – 21 มีนาคม ร.ศ.128 ( พ.ศ.2452 ) ณ ทุ่งพระรุเมรุ นักมวย ที่เจ้าเมืองต่างๆ ได้นำมาแข่งขัน ต่างล้วนแต่คัดเลือก คนที่มี ฝีมือดีๆ จากทั่วประเทศ การแข่งขันครั้งนี้ ก็ได้นักมวย ที่สามารถชกชนะคู่ต่อสู้ หลายๆ คน เพื่อเป็นที่พอพระราชหฤทัย ของพระองค์ได้ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ และบรรดาศักดิ์ ให้แก่เหล่านักมวย มณฑลนครราชสีมา แห่งเมืองโคราช ขึ้นเป็นขุนหมื่น ครูมวย นั่นคือ “หมื่นชงัดเชิงชก” ถือศักดินา 300 คือ นายแดง ไทยประเสริฐ ลูกศิษย์คุณพระเหมสมาหาร เจ้าเมืองโคราช ที่มีชื่อเสียงมากๆ ในการใช้ “ หมัดเหวี่ยงควาย ” นั่นเอง

         

อีกทั้ง ก็ยังมี นักมวยโคราช ที่ถือว่า มีความสามารถมากมาย จนได้เป็นครูสอนพลศึกษา ในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ไปจนถึงเกษียณอายุราชการ รวมเวลา นานถึง 28 ปี คือ ครูบัว นิลอาชา ( วัดอิ่ม ) และยังมี มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) ที่มีฝีมือดี เป็นที่ชื่นชอบ ของผู้คนเป็นอย่างดี ยิ่งโดยเฉพาะ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ถึงกับเป็นครูสอนมวยไทย ให้แก่นักมวย จากเมืองโคราช ที่วังเปรมประชากร อาทิ นายทับ จำเกาะ, นายยัง หาญทะเล, นายตู้ ไทยประเสริฐ และ นายพูน ศักดา เป็นต้น

 

สุดยอดไปเลยค่ะ กับ มวยไทย โคราช ( มวยภาคอีสาน ) ที่เราได้มารับทราบประวัติ และความเป็นมากับในวันนี้ รับรองเลยว่า นอกจาก จะมีเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย ได้สืบสานความเป็นไทยกันแล้ว การที่คุณได้เข้ามาลองฝึกชก มวยไทย ( Muay Thai ) ก็จะได้ประโยชน์มากมาย ทั้งด้านร่างกาย และทางด้านจิตใจ ได้ลดน้ำหนัก ฝึกสมาธิ และสร้างความแข็งแกร่ง หากมีคนร้ายบุกเข้ามา เราก็สามารถที่ จะป้องกันตนเอง จากอันตรายต่างๆ ได้อย่างดีอีกด้วย

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมไทย

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

 

muay-thai

จิตวิญญาณแห่งมวยไทย หรือ 4S คืออะไร และนำมาพัฒนากายและจิตใจอย่างไร

มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ของไทยที่ใช้การโจมตีจากร่างกายทั้งหมัด, ศอก, เข่าและเท้า ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ใช้ความเตรียมพร้อม ทำให้ ในทุกท่วงท่า กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว และ จิตใจที่ จดจ่อกับเป้าหมายตรงหน้าไม่เหม่อลอย คือ พื้นฐานของ จิตวิญญาณมวยไทย

มวยไทย เป็นหนึ่งใน ศิลปะการป้องกันตัว ที่มีประวัติศาสตร์มากมาย เช่นเดียวกันกับชาติอื่น ๆ เช่น กังฟู จากประเทศจีน คาราเต้ จากประเทศญี่ปุ่น เทควันโด จากประเทศเกาหลี นอกจากนี้ มวยไทย ยังมีจิตวิญญาณที่สืบทอดกันมา อย่างช้านาน ตั้งแต่สมัยสุโขทัย หรือในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Spirit of Muaythai โดยแยกออกเป็น 4 หลักการได้แก่ ความแข็งแกร่ง ( Strength ) , ความเรียบง่าย ( Simple ) , ความสง่างาม ( Smart ) , ความมีไมตรี ( Smile ) ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่ทำให้ต่างประเทศได้ให้การยอมรับ ว่าเป็น หนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญ ของประเทศไทย และ หลักการทั้ง 4 นี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวันได้หลาย ๆ รูปแบบ โดยเฉพาะ การออกกำลังกาย และ การยกระดับจิตใจ ให้บริสุทธิ์ผ่องใส ดังนี้

  1. ความแข็งแกร่ง ( Strength )

แน่นอนว่า การออกกำลังกาย จะส่งผลให้ กล้ามเนื้อกระชับ , ประสานกัน และ ยืดหยุ่นมากขึ้น เกิดการเผาผลาญพลังงาน และ ไขมันส่วนเกิน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจ , ปอด , หลอดเลือดสูบฉีดเลือด ได้มากขึ้น และ ปราศจากไขมันอุดตัน ในเส้นเลือด จึงสามารถ ส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย ได้ง่ายขึ้น ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จึงมีความอึด , ทนทาน มากกว่าคนทั่วไป เพื่อที่จะเห็นภาพได้ชัดนั้น ขอเปรียบเทียบ ความแข็งแกร่ง ของร่างกาย กับ การบำรุงรักษาเครื่องจักร หากใช้งานเครื่องจักร เพียงอย่างเดียว ไม่มีการบำรุงรักษาใด ๆ ความเสื่อมโทรม จะเริ่มเกาะกินไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดแล้ว เสียค่าซ่อมแซมหลายเท่า มากกว่าค่าบำรุงรักษา เช่นเดียวกันกับ ร่างกายที่ไม่เคย หรือ ออกกำลังกายน้อย ก็จะไม่มี การสร้างภูมิคุ้มกันที่มากพอ  ยามเมื่ออายุมากขึ้น โรคภัยต่าง ๆ ก็จะเข้ามารุมเร้า เช่น ภาวะกระดูกพรุน , โรคเบาหวาน ชวนให้เสียค่า รักษาพยาบาลตลอดชีวิตที่เหลือ มากขึ้นเข้าไปอีก ดังนั้น ความแข็งแกร่งทางร่างกาย จึงเป็นสิ่งที่ ควรเสริมผ่านการออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย ที่ใช้กล้ามเนื้อที่จำเป็นทุกส่วน ตั้งแต่ ไหล่ ถึง ฝ่าเท้า

แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่เพียงแค่กล้ามเนื้อ หรือ ระบบร่างกายกาย อย่างเดียวเท่านั้น ที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งได้ จิตใจนั้น สามารถขัดเกลา ให้มีความแข็งแกร่งได้เช่นกัน ความแข็งแกร่งด้านจิตใจ คืออะไร คือศักยภาพ ในการรับมือกับปัญหา , ความขัดแย้ง , สถานการณ์ หรือ เหตุการณ์ที่เลวร้ายกดดันต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีความเคร่งเครียดที่มาก จนวิตกกังวล และ ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคตรงหน้าไปได้ โดยเฉพาะ มวยไทย ที่มีการฝึกฝน กับคู่ต่อสู้ หรือ ตั้งเป้าหมาย กับตัวเอง จะต้องใช้ความตั้งใจ , ความมุ่งมั่น , ความทุ่มเท ที่ส่งเสริมตัวเองว่า มีความสามารถ หรือ มีความแข็งแกร่งในตัวเอง อย่างไรบ้าง นำไปสู่ การตระหนักรู้ในตัวเอง ว่าเป็นคนอย่างไร เป็นคนที่มี ความภาคภูมิใจตัวเอง หรือไม่ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นตัวเอง ว่าจะสามารถทำตามเป้าหมาย หรือ สิ่งต่าง ๆ ในอนาคตได้ โดยที่มี ความแข็งแกร่งทางจิตใจ เป็นตัวช่วย ในการผ่านทุก ๆ อุปสรรคและ ทุก ๆ เป้าหมาย

  1. ความเรียบง่าย ( Simple )

ความเรียบง่ายคือ การมีชีวิตที่ พึงพอใจกับ สิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ , มีอยู่ , มองเห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งสามารถ เกิดขึ้นผ่านการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น , อารมณ์ดีขึ้น , ลดความเครียด และ เพิ่มสุขภาพจิต โดยรวม ทำให้รับมือกับ ความท้าทาย ในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น , เพิ่มระดับพลังงาน , เพิ่มสมาธิ และ ความตั้งใจ  ทำให้กลายเป็นง่าย ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ ความรู้สึก ได้ดีขึ้น เนื่องจาก การหลั่งของสาร Serotonin และ สาร Endorphin ที่เป็นสารในสมอง ที่ช่วยให้มีความสุข บรรเทาความเจ็บปวด หรือ คลายเครียดได้ นอนหลับพักผ่อน ได้เต็มอิ่มดีมากขึ้น ช่วยลดอาการ ตื่นขึ้นกลางดึก ตื่นนอนได้อย่าง สดชื่น ไม่รู้สึกงัวเงีย พร้อมที่จะเริ่ม เช้าวันใหม่ได้อย่างเต็มที่ และ เพิ่มความภาคภูมิใจ ในตนเอง (Self-esteem) เพราะ การออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถช่วยให้ รู้สึกมั่นใจ และ คิดบวกเกี่ยวกับ ตัวเองมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการ จัดการกับสถานการณ์ ที่ยากลำบาก และ มีปฏิสัมพันธ์ กับ ผู้อื่น ในลักษณะที่เป็นบวกมากขึ้น พึงพอใจ กับ สิ่งที่มีอยู่ และ เป็นอยู่ เคารพรักนับถือ ต่อตนเอง และ ผู้อื่น ซึ่งทั้งหมดนี้ นำไปสู่ชีวิตที่มีความเรียบง่าย

muay thai

  1. ความสง่างาม ( Smart )

การออกกำลังกาย ที่สม่ำเสมอ ช่วยให้ ลดน้ำหนัก จากไขมันส่วนเกิน , กระชับกล้ามเนื้อ และ ปรับปรุงลักษณะ ทางกายภาพ โดยรวมของคุณ วิธีนี้ จะทำให้คุณ มีเสน่ห์มากขึ้นสำหรับคนอื่น ๆ และ เพิ่มความมั่นใจในตนเอง ปรับปรุงบุคลิกท่าทาง ทำให้ เมื่อยืน หรือ นั่ง จะดูตัวสูงขึ้น เพราะ กล้ามเนื้อ ได้รับการยืดหยุ่น และ ผ่อนคลาย ออกจากอาการ ออฟฟิสซินโดรม ที่มีการนั่งทำอากัปกิริยา ต่อคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถืออยู่ท่าเดียว จึงไม่ก้มหัว หรือ โค้งไหล่ไปข้างหน้า เมื่อนั่ง หรือ ยืนทำให้ดูมีความมั่นใจ และ สง่าผ่าเผยมากขึ้น เพิ่มระดับพลังงานของคุณ และ ทำให้รู้สึกมีพลัง และ มีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งอาจดึงดูดใจผู้อื่น ว่าคุณมีบุคลิก และ อารมณ์ ที่ผ่อนคลาย , มีเสน่ห์ , น่าเข้าหาได้ง่าย นอกจากนี้ การออกกำลังกาย สามารถปรับปรุงลักษณะผิว ให้มีความชุ่มชื้น และ ดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยกระตุ้น การไหลเวียนของเลือด และ ส่งเสริมการส่งสารอาหาร และ ออกซิเจน ไปยังเซลล์ผิวของคุณ ช่วยลดอาการแก่ชรา บนผิวหนัง , กระชับลักษณะผิว ให้มีความเต่งตึง , ไม่หมองคล้ำ , เสริมสร้างความสง่างาม ในภายนอกมากขึ้น

  1. ความมีไมตรี ( Smile )

เชื่อว่าหลายคน อาจจะเคยได้ยินคำว่า “ สยามเมืองยิ้ม ” กันบ้าง เนื่องด้วย ประชาชนคนไทย มีความเป็นมิตร , มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ , โอบอ้อมอารี ต่อชาวไทยด้วยกัน และ ชาวต่างชาติ กลายเป็นเอกลักษณ์ ประจำประเทศ เมื่อชาวต่างชาตินึกถึงอย่างแรก ๆ รอยยิ้มจาก การออกกำลังกาย เริ่มต้นจาก การมีไมตรีจิต ที่มาจากการ มีความสนใจร่วมกับคนอื่น ๆ ที่ชื่นชอบกิจกรรมประเภทเดียวกัน ได้มีโอกาสเข้าสังคม , พบปะ , รู้จักสังสรรค์กับเพื่อนใหม่ ๆ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ดี ในการเชื่อมต่อกับผู้อื่น ที่มีความสนใจ และ ค่านิยมคล้ายกัน ในอนาคตได้ ลดความรู้สึกซึมเศร้า และ วิตกกังวลได้ ความเจ็บปวดทางจิตใจ จะได้รับการเยียวยา ให้หยุดคิดฟุ้งซ่าน หรือ มองโลกในแง่ลบลง ส่งผลว่า อาจมีแนวโน้มที่ จะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และ สร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ออกจากกรอบเดิม ๆ ที่คุณขังตัวเองเอาไว้ เพิ่มความมั่นใจในตนเอง และ ความนับถือตนเอง ซึ่งจะทำให้ รู้สึกสบายใจมากขึ้น ในการเผชิญหน้ากับ สถานการณ์ทางสังคม ช่วยลดอุปสรรค ทางสังคมลง ช่วยทลายกำแพงทางสังคมได้ โดยการนำผู้คน จากภูมิหลัง , วิถีชีวิต , ลักษณะภายนอก และ นิสัยที่แตกต่างกัน มารวมกันในกิจกรรม ที่ได้กระทำร่วมกัน ด้วยสิ่งนี้ จะสามารถส่งเสริมความรู้สึกของ ความสนิทสนมกัน เกิดความรู้สึก เห็นอกเห็นใจ , ต้องการให้ความช่วยเหลือ และ การมีน้ำใจต่อนักกีฬา โดยที่เคารพ ซึ่งกันและกัน โดยไม่ตัดสินผู้คน จากครั้งแรกที่พบเจอ ทำให้เกิด ความมีไมตรี และ รอยยิ้มระหว่างผู้เข้าร่วม การออกกำลังกายด้วยกัน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

รู้หรือไม่? มวยไทยมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายความเครียด

6 วิธีการเลือกยิม มวยไทย ยังไง? ให้เหมาะกับคุณ

รู้หรือไม่? มวยไทยมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายความเครียด

รู้หรือไม่? มวยไทยมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายความเครียด

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ การต่อสู้ และ กีฬา ของ ประเทศไทย เกี่ยวข้อง กับ การผสมผสาน ของ เทคนิค ที่ โดดเด่น ได้แก่ หมัด เตะ ศอก และ เข่า เช่นเดียว กับ เทคนิคการกอด และ การต่อสู้ ในขณะ ที่ หลายคน มองว่า มวยไทย ช่วยเสริม สมรรถภาพทางกาย และ การป้องกันตัว แต่ มวยไทย ยังให้ ประโยชน์ ต่อ สุขภาพจิต หลายประการ รวมถึง การผ่อนคลายความเครียด อีกด้วย

ความเครียด เป็น ปัญหาทั่วไป ในโลกปัจจุบัน และ อาจส่งผลเสีย ต่อสุขภาพกาย และ สุขภาพจิต ของ เรา เมื่อ เราเครียด ร่างกาย จะหลั่งฮอร์โมน เช่น คอร์ติซอล และ อะดรีนาลีน ซึ่ง อาจทำให้ เกิดอาการต่างๆ ได้ เช่น ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า หงุดหงิดง่าย และ นอนหลับยาก เมื่อเวลาผ่านไป ความเครียด เรื้อรัง สามารถ เพิ่มความเสี่ยง ต่อ ปัญหาสุขภาพ ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และ เบาหวาน

วิธีหนึ่ง ที่ มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ ช่วยลดความเครียดได้ ก็คือ การหลั่งสารเอ็นโดรฟิน สารเอ็นโดรฟิน เป็นสารเคมี ตามธรรมชาติ ที่ร่างกายผลิตขึ้น ซึ่ง สามารถ ช่วยลด ความเจ็บปวด และ ส่งเสริม ความรู้สึก มีความสุข และ ความเป็นอยู่ที่ดี การออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มระดับ สารเอ็นโดรฟิน ในร่างกาย และ การผสมผสาน ระหว่างการออกกำลังกาย และ การมุ่งเน้น ทางจิต ที่ จำเป็นใน มวยไทย สามารถ ทำให้ เป็นกิจกรรมคลายเครียด ที่มี ประสิทธิภาพ เป็นพิเศษ

มวยไทย ยังช่วยให้ ตัดขาดจากความเครียด ในชีวิตประจำวัน และ มุ่งเน้น ในอยู่ที่ ช่วงเวลาปัจจุบัน การฝึกเทคนิค และ การเคลื่อนไหว ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้สมาธิ และ จิตใจ ซึ่ง สามารถ ช่วยสงบจิตใจ และ ลดความรู้สึก วิตกกังวล และ ความเครียดได้

นอกจากนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วย สร้างความมั่นใจ ในตนเอง และ ความนับถือตนเอง ซึ่ง จะเป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง สำหรับ ผู้ที่ต่อสู้ กับ ความเครียด และ ความวิตกกังวล การเรียนรู้ทักษะใหม่ และ การปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย สามารถ ให้บุคคล รู้สึกถึงความสำเร็จ และ ความภาคภูมิใจ ซึ่ง สามารถ ช่วยปรับปรุงสุขภาพจิต โดยรวม และ ความเป็นอยู่ที่ดี

ประการสุดท้าย มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นโอกาส ในการเชื่อมต่อ และ สนับสนุน ทางสังคม การเข้าร่วมยิม หรือ ชั้นเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ ให้ความรู้สึก เป็นชุมชน และ เป็นส่วนหนึ่ง ของ แต่ละคน ซึ่งอาจ มีความสำคัญ อย่างยิ่ง สำหรับ ผู้ที่รู้สึกโดดเดี่ยว หรือ อ้างว้าง

โดยรวมแล้ว ประโยชน์ ต่อ สุขภาพจิต ของ มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นชัดเจน การฝึกสมาธิ ความมั่นใจในตนเอง และก ารเข้าสังคม มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ ช่วยลดความเครียด และ ทำให้สุขภาพจิต โดยรวม ดีขึ้น หากคุณกำลัง มองหาวิธีใหม่ ใน การจัดการความเครียด และ ส่งเสริมสุขภาพจิต มวยไทย ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย

6 วิธีการเลือกยิม มวยไทย ยังไง? ให้เหมาะกับคุณ

6 วิธีการเลือกยิม มวยไทย ยังไง? ให้เหมาะกับคุณ

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬาการต่อสู้ ที่มี ต้นกำเนิดในประเทศไทย เป็น ที่รู้จัก จากการ ฝึกความแข็งแรง และ เทคนิค ที่ รวดเร็ว และ ประสิทธิภาพ โดยรวม ในฐานะ ศิลปะ การป้องกันตัว หากคุณ สนใจ ที่ จะฝึก มวยไทย การหายิม ที่ เหมาะสม เป็น สิ่งสำคัญ สำหรับ ความสำเร็จ และ ความเพลิดเพลิน ของ คุณ ซึ่งในบทความนี้ เราจะพูดถึง วิธีการ เลือกยิม มวยไทย ที่ เหมาะกับคุณ

1. ศึกษาชื่อเสียง ของ โรงยิม

ขั้นตอนแรก ใน การหา ยิม มวยไทย ( Muay Thai )  ที่เหมาะสม คือ การศึกษา ชื่อเสียง ค้นหา บทวิจารณ์ และ ข้อเสนอแนะ จากสมาชิก ปัจจุบัน และ อดีต ตลอดจน ข้อมูล เกี่ยวกับ ผู้ฝึกสอน และ สิ่งอำนวยความสะดวก ของโ รงยิม คุณ สามารถ ค้นหาข้อมูล นี้ได้ ทางออนไลน์ โซเชียลมีเดีย หรือ เว็บไซต์ วิจารณ์ หากเป็นไปได้ ให้พูดคุย กับ ผู้ที่ฝึกในโรงยิม เพื่อรับมุมมอง โดยตรง

2. ประเมินสถานที่ตั้ง และ สิ่งอำนวยความสะดวก ของ โรงยิม

เมื่อเลือกยิม มวยไทย ( Muay Thai ) ให้พิจารณาที่ตั้ง และ สิ่งอำนวยความสะดวก มองหายิม ที่ตั้งอยู่ ในทำเล ที่ สะดวก และ เข้าถึงได้ง่าย ควรมีที่ จอดรถเพียงพอ หรือ เข้าถึง ได้โดย รถสาธารณะ นอกจากนี้ โรงยิม ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่สะอาด และ ได้รับการดูแล อย่างดี รวมถึง พื้นที่กว้างขวาง สำหรับ การฝึก และ อุปกรณ์ ที่ หลากหลาย

3. พิจารณาโปรแกรม การฝึก

ยิม มวยไทย มีโปรแกรม การฝึก ที่ หลากหลาย รวมถึ งระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และ ระดับสูง เมื่อเลือกยิม ให้ประเมิน โปรแกรม การฝึก เพื่อให้แน่ใจว่า สอดคล้อง กับ เป้าหมาย และ ระดับประสบการณ์ ของ คุณ โรงยิม มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดี ควรมีหลักสูตร และ ตารางการฝึก ที่ ชัดเจน โดยมี ครูฝึก ที่มี ประสบการณ์ คอยให้ คำแนะนำ และ ดูแลเป็น การส่วนตัว

4. มองหากลุ่มที่สนับสนุน

สิ่งสำคัญ ที่สุด อย่างหนึ่ง ของ ยิม มวยไทย ( Muay Thai ) คือ กลุ่ม ที่ส่งเสริม มองหา โรงยิม ที่ ส่งเสริมสภาพแวดล้อม ที่เกื้อกูล และ ไม่แบ่งแยก ซึ่ง สมาชิก สามารถ สร้างความสัมพันธ์ และ ให้กำลังใจ ซึ่งกัน และ กัน นอกจากนี้ โรงยิม ที่ดี ควรเปิดโอกาส ให้สมาชิก ได้มีส่วนร่วม ในกิจกรรม และ การแข่งขัน ช่วยสร้าง ความสนิทสนมกัน และ แรงจูงใจ

5. ประเมินค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่าย เป็น ปัจจัยสำคัญ ที่ ต้องพิจารณา เมื่อเลือก ยิม มวยไทย ประเมินราคา ของ โรงยิม รวมถึง ค่าสมาชิก ค่าฝึกอบรม และ ค่าธรรมเนียม เพิ่มเติม สำหรับ อุปกรณ์ หรือ กิจกรรม ต่างๆ มองหายิม ที่มีตัวเลือก การชำระเงิน ที่ยืดหยุ่น เช่น สมาชิกรายเดือน หรือ รายปี และ ให้ความคุ้มค่า กับ ราคา

6. ทดลองเรียน

ก่อนสมัคร ร่วมยิม มวยไทย ( Muay Thai ) ให้ทดลองเรียน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ การฝึกซ้อม โดยตรง สิ่งนี้ จะเปิดโอกาส ให้คุณได้พบปะ กับ เทรนเนอร์ และ สมาชิกคนอื่นๆ ประเมินสิ่งอำนวยความสะดวก และ ประเมินสภาพแวดล้อมโดยรวม ของ โรงยิม โรงยิมมวยไทยส่วนใหญ่เสนอ คลาสทดลองเรียนฟรี หรือ มีส่วนลด ให้คุณทดลองโปรแกรมการฝึกได้โดยไม่ต้องมีภาระผูกพันทางการเงินมากนัก

การหายิม มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับ ความสำเร็จ และ ความเพลิดเพลิน ของ คุณในฐานะ ผู้ที่ต้องการ ฝึกฝนมวยไทย โดย การศึกษาชื่อเสียง ของ โรงยิม ประเมินสถานที่ และ สิ่งอำนวยความสะดวก พิจารณาโปรแกรมการฝึก และ ชุมชน ประเมินค่าใช้จ่าย และ ทดลองเรียน คุณจะ สามารถ ตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย และ มีแรงบันดาลใจอยู่เสมอ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

การออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย เพื่อให้มี สุขภาพดี

เตรียมพร้อม ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ควรเริ่มต้นอย่างไร?

การออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย เพื่อให้มี สุขภาพดี

การออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย เพื่อให้มี สุขภาพดี

มีหลาย ๆ คน ที่เริ่มหันมาสนใจ ในการฝึกกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ก็ยังมีบางคน ที่ไม่รู้ว่าฝึก มวยไทย แล้วมันจะดีเหมือน การออกกำลังกาย แบบทั่วไปรึป่าว แต่ไม่ต้องกังวลกัน เพราะเราจะมาบอกถึง การออกกำลัง ด้วยกีฬา มวยไทย เพื่อใหม่มี สุขภาพดี

การออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย เพื่อให้มี สุขภาพดี

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือได้ว่า เป็นศิลปะ แขนงหนึ่ง ที่เป็น ความภาคภูมิใจ ของ คนไทย เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็น กีฬาประจำชาติ ของไทย และยังมี ประวัติที่ยาวนาน อย่างมาก มวยไทย เป็น ศิลปะการต่อสู้ ของ มวยไทย แต่ถึงอย่างไร มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เป็นกีฬา ที่ได้รับ ความนิยม ไม่ว่าจะเป็น ในกลุ่มเด็ก และรวมไปถึง ผู้สูงอายุ เพราะด้วย เป็นกิจกรรม การออกกำลังกาย ที่สนุก และยังสร้าง สุขภาพ ที่ดี ของเราได้ และ ยังได้ เผาผลาญพลังงาน จึงทำให้ กีฬา มวยไทย เป็นที่นิยม นั้นเอง

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยในเรื่อง ของการ เผาผลาญพลังงาน ของ ร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่า การออกกำลังกาย ทุกชนิดนั้น จะช่วยในเรื่อง ของการ เผาผลาญพลังงาน ของ ร่างกาย ของเรา เป็นอย่างดี แต่ทุกคน รู้หรือไม่ว่า มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่จัดอยู่ในกีฬา ที่สามารถ เผาผลาญพลังงาน ของ ร่างกาย ได้ดี เลยทีเดียว ด้วยการที่ มวยไทย เป็นกีฬา ที่จะใช้แทบ จะทุกส่วนของ ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ที่ยาวลงมา ถึงเท้า ถือว่า ใช้แทบทุกส่วน เลยนั่นเอง จึงทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ เผาผลาญพลังงาน ให้กับ ร่างกาย ของเรา ได้ เป็นอย่างมาก

 

การออกกำลังกาย ประเภท มวยไทย จะช่วย สร้างความแข็งแรง ให้กับ ร่างกาย ของเรา ได้อย่างรวดเร็ว มีพลังที่มากขึ้น และช่วยกระตุ้น ระบบเผาผลาญ ใน ร่างกาย เหากนำมาเทียบกับ การวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน ก็จะ เผาผลาญพลังงาน ได้มากกว่า แต่จะใช้ เวลาที่น้อยลง และสามารถ เบิร์นไขมัน ได้ถึง 13 แคลอรี่ ใน 1 นาที

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สามารถ ช่วยในการพัฒนา ความแข็งแกร่ง ของ ร่างกาย โดยรวมของเรา ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการฝึก กีฬา มวยไทย   นั้น แน่นอนว่า จะสามารถ ไปช่วยเสริม สร้างความแข็งแกร่ง ให้กับ ร่างกาย ของเราได้ โดยเฉพาะ ในส่วน กล้ามเนื้อ และยังทำให้ กล้ามเนื้อ กระชับ นอกจากนี้ มวยไทย ยังเป็นกีฬา หรือกิจรรม การออกกำลังกาย ที่จะเน้น ไปที่ ร่างกาย ช่วงบน และ ช่วงกลาง และ ยังรวมไปถึง ช่วงล่าง  หรือ จะให้พูด ก็คือ มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น เป็นกีฬา ที่ช่วยให้ ร่างกาย ของเรา แทบจะทุกส่วน แข็งแรงขึ้น ได้นั้นเอง

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สามารถไปช่วย เพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานของหัวใจ และ หลอดเลือด การฝึก มวยไทย นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งกีฬา ที่จะช่วยให้เรา มีปอดที่ใหญ่ และ แข็งแรงมากขึ้น และยังสามารถ ไปกระตุ้นการทำงาน ของระบบหัวใจ และ หลอดเลือด ของเรา ได้อย่างดี เพราะการที่เรา จะทำเช่นนั้นได้ เราจะต้อง ออกกำลังกาย เพื่อให้หัวใจ และ ปอด มีความเครียด ระดับปานกลาง ซึ่งจะทำให้ หัวใจ และ ปอดของเรา  ทำงานได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ ระบบไหลเวียนเลือด ทั่ว ร่างกาย ของเรา เป็นไปได้อย่าง มีประสิทธิภาพ นั่นเอง

 

เป็นยังไงกันบ้างกับ ประโยชน์ ที่น่าสนใจ ที่ส่งผลให้กับ ร่างกาย ของเรา โดยตรง ด้วยการฝึกกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ซึ่งนี่เป็นเพียง สิ่งที่เรายกตัวอย่างแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงเท่านั้น เพราะ กีฬา มวยไทย ยังมี ประโยชน์ อีกมากมาย ที่นอกจากช่วยให้ร่างกาย มีความแข็งแรง แข็งแกร่งแล้ว ก็ยังมีปฏิกิริยาโต้ตอบ ที่รวดเร็ว และสามารถช่วยใน เรื่องสมาธิ หรือ ลดความเครียด และ ความวิตกกังวล ได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เตรียมพร้อม ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ควรเริ่มต้นอย่างไร?

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

 

เตรียมพร้อม ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ควรเริ่มต้นอย่างไร?

เตรียมพร้อม ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ควรเริ่มต้นอย่างไร?

สำหรับวันนี้ เรามาดู วิธีการ เตรียมพร้อม ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ควรเริ่มต้นอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดผลดีต่อร่างกายของคุณ อย่างแท้จริง

 

 

 

 

ไม่ว่าคุณ จะทำอะไรก็ตาม การเตรียมตัว ก็ถือว่าเป็นเรื่อง ที่สำคัญมากๆ เพราะว่า การเตรียมตัว จะเป็นการเตรียมเพื่อเพิ่มความพร้อม ให้คุณได้ถึง 50 % เลยทีเดียว หรือ แม้แต่กระทั่ง การซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) ก็ตาม การเตรียมตัว ถือว่าเป็นเรื่อง ที่ควรทำอย่างมากนะ ดังนั้น ทุกครั้งก่อนที่คุณ จะเริ่มซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) คุณจะต้องมีการเตรียมตัว ก่อนเสมอนะ ซึ่งวิธีการเตรียมตัวนั้น จะอะไร ปละ มีกี่ขั้นตอนบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า

 

1. เตรียมอุปกรณ์ส่วนตัวให้พร้อม

ขั้นตอนแรก ของการเตรียมตัว เพื่อซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) นั่นคือ การเตรียมอุปกรณ์ส่วนตัว ของตัวเองให้พร้อม ก่อนนะ โดยการใช้อุปกรณ์ส่วนตัวนั้น ก็จะมี น้ำดื่ม ผ้าขนหนู กางเกง นวม ผ้าพันมือ น้ำมันมวย ครีมนวด เสื้อ ถ้าหากคุณเป็นผู้หญิง ก็ควรที่มีสปอร์ตบรา และควรเตรียมอาหาร เพื่อทานรองท้อง ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ผู้ซ้อมที่ดี จะต้องมีการ เตรียมอุปกรณ์ ส่วนตัวของตัวเอง ให้พร้อมนะ แม้ว่าบางอย่าง จสามารถยืมกันได้ก็ตาม แต่คุณก็ควรที่จะ มีการเตรียมไปเอง จะดีกว่า

 

2. นอนพักผ่อนให้พอ

การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ส่งผลมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม โดยเฉพาะ การที่ซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) เพราะว่าหากคุณ นอนไม่พอแล้วมาซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) สิ่งที่คุณ จะได้รับก็คือ ความเหนื่อย ความอ่อนเพลีย และถ้าหากวันนั้น คุณมีการทำงานด้วยมาก่อนหน้านี้ด้วย คุณก็จะมีอาการ เหนื่อยมากกว่าเดิม เนื่องจาก ร่างกายของคุณนั้น มีการพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น หากคุณรู้ว่า คุณมีโปรแกรม ที่จะต้อง มีการซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) นั้นคุณก็ควรที่จะ มีการพักผ่อน ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่อย่างนั้น การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ของคุณ จะเหนื่อยมากๆ และ การซ้อมก็อาจจะไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

3. เตรียมใจเตรียมร่างกายให้พร้อม

ข้อนี้หลายๆ คนที่ได้มาอ่านก็คงจะรู้สึกว่า การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องหนัก จะต้องโหดแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้โหดขนาดนั้น แต่การที่คุณ ต้องเตรียมใจ ก็เป็นเพราะว่า คุณต้องเตรียมใจ ในความเหนื่อย จากการซ้อม การซ้อมที่หนัก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนะ เพราะฉะนั้น ก่อนซ้อมทุกๆ ครั้ง ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้ดี ๆ อีกด้วย

 

4. หาอาหารรองท้อง ก่อนการฝึกซ้อม

ก่อนซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อน ๆ ควรตระหนักเอาไว้เสมอ ว่าก่อนซ้อมนั้น จะต้องหาอาหาร รองท้องก่อนเสมอ แม้ว่าคุณจะซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อลดน้ำหนักก็ตาม การที่คุณ ทานอาหาร รองท้องมาก่อนนั้น จะช่วยให้คุณ ซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) ได้ดีขึ้น เพราะมีพลังงาน จากอาหารที่ทานรองท้องเข้าไป หากคุณไม่รับประทานอาหาร หรือไม่หาอาหารรองท้องมาก่อน การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) จะเป็นไปได้ยาก เพราะว่าคุณ ไม่มีแรงในการซ้อม เพราะฉะนั้น ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ทุกๆ ครั้ง คุณก็ควรทานอาหาร รองท้องก่อนซ้อมเสมอนะคะ

 

อย่างที่ได้กล่าวมา ต้องบอกเลยว่า ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ทุกๆ ครั้ง ก็ควรที่จะ มีการเตรียมตัว เตรียมร่างกายให้ดีเสียก่อน หากไม่อย่างนั้นแล้ว การซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) ของคุณ ก็อาจจะเป็นเรื่อง ที่ยากมาก ๆ และ การที่คุณ เตรียมตัวมาไม่ดี ก็จะไปรบกวน เพื่อน ๆ ที่มาซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วยค่ะ

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

ประโยชน์ของการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อสุขภาพกาย และ สุขภาพจิต

ประโยชน์ของการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อสุขภาพกาย และ สุขภาพจิต

มวยไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ " ศิลปะแห่งการต่อสู้ " เป็น กีฬา การต่อสู้ ที่มี ต้นกำเนิดใน ประเทศไทย มันเกี่ยวข้องกับการใช้กำปั้น ศอก เข่า และ หน้าแข้ง และ เป็นศิลปะ การต่อสู้ รูปแบบหนึ่งที่มี ความต้องการสูง ในขณะที่หลายคนอาจคิดว่า มวยไทย เป็นเพียงกีฬาป้องกันตัวหรือการต่อสู้รูปแบบหนึ่ง แต่ มวยไทย ยังมีประโยชน์มากมาย ทั้งต่อสุขภาพกาย และ สุขภาพจิตอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะมา ศึกษา ถึงประโยชน์มากมาย ของ การฝึกมวยไทย เพื่อสุขภาพกาย และ สุขภาพจิต

1. ออกกำลังกายทั้งตัว

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น การออกกำลังกาย ทั่วร่างกายที่สามารถช่วยปรับปรุงสมรรถภาพโดยรวม และ สุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือด เป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิคการตี การเตะ และ การเข่าที่ต้องใช้พละกำลัง ความเร็ว และ ความอดทน เป็นผลให้ การฝึกมวยไทย สามารถช่วยเพิ่มความทนทาน ของ กล้ามเนื้อ พละกำลัง และ สมรรถภาพหัวใจ และ หลอดเลือด

2. ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น

การฝึก มวยไทย เกี่ยวข้อง กับ เทคนิคการเตะ และ เข่าที่ต้องใช้ความยืดหยุ่นในระดับสูง การฝึก มวยไทย เป็นประจำ สามารถ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ในสะโพก ขา และ หลังส่วนล่าง ซึ่งจะช่วยป้องกัน การบาดเจ็บ และ ปรับปรุงสมรรถภาพร่างกาย โดยรวม

3. ส่งเสริม การลดน้ำหนัก

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพใน การส่งเสริม การลดน้ำหนัก เป็น การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ที่ สามารถ ช่วยใน การเผาผลาญแคลอรี และ เพิ่มการเผาผลาญ นอกจากนี้ การฝึกมวยไทย เป็นประจำ สามารถ ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อติดมัน ซึ่ง สามารถ ช่วยปรับปรุง องค์ประกอบร่างกายโดยรวม

4. สร้างความแข็งแรง ของ แกนกลาง

การฝึก มวยไทย เกี่ยวข้อง กับ การเคลื่อนไหว ที่บิด และ หมุนซึ่ง สามารถช่วยปรับปรุง ความแข็งแรง ของ แกนกลาง แกนกลาง ที่ แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับ การรักษาท่าทาง และ ความสมดุล ที่ เหมาะสม และ สามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บ และ ปรับปรุงสมรรถภาพทางกายโดยรวม

5. ปรับปรุง การประสานงาน และ ความสมดุล

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้การประสานงาน และ ความสมดุลในระดับสูง เทคนิค นี้ เกี่ยวข้อง กับ การเคลื่อนไหว ที่ ซับซ้อน ซึ่งต้องมี การประสานกันระหว่างร่างกายส่วนบน และ ส่วนล่าง การฝึก มวยไทย เป็นประจำสามารถช่วยปรับปรุงการประสานงานและความสมดุล ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการหกล้มและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายโดยรวม

6. ลดความเครียด และ ความวิตกกังวล

การ ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ยังมีประโยชน์ ต่อ สุขภาพจิตอีกมากมาย เป็น การออกกำลังกาย ที่ สามารถช่วยคลายความเครียด และ ความตึงเครียดในร่างกายได้ นอกจากนี้ การฝึกมวยไทย ต้องใช้สมาธิ และ สมาธิในระดับสูง ซึ่งสามารถช่วยลดความรู้สึกวิตกกังวลและส่งเสริมความรู้สึกสงบ

7. ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง

การฝึกมวยไทย ยังสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองได้อีกด้วย เป็นรูปแบบศิลปะการต่อสู้ที่ท้าทายอย่างมากซึ่งต้องใช้ทักษะและระเบียบวินัยในระดับสูง ผลที่ตามมาคือ การเรียนรู้เทคนิคมวยไทยอย่างเชี่ยวชาญสามารถทำให้บุคคลรู้สึกถึงความสำเร็จและความภาคภูมิใจ ซึ่งสามารถแปลไปสู่ด้านอื่นๆ ในชีวิตของพวกเขาได้

8. ปรับปรุงความแข็งแกร่งทางจิต

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้ความอดทนสูง มันเกี่ยวข้องกับการผลักดันตัวเองไปสู่ขีดจำกัดทั้งทางร่างกาย และ จิตใจ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นทางจิตใจและความทรหดอดทน การฝึกมวยไทยเป็นประจำสามารถช่วยให้บุคคลพัฒนาทัศนคติ "ไม่ยอมแพ้" ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของชีวิต

9. ช่วยเพิ่มโฟกัส และ ความเข้มข้น

การฝึก มวยไทย ต้องใช้สมาธิ และ สมาธิในระดับสูง มันเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และการเรียนรู้เทคนิคที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้สมาธิในระดับสูง การฝึกมวยไทยเป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มสมาธิและสมาธิ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของชีวิต เช่น การทำงานหรือการเรียน

10. สร้างวินัย และ การควบคุมตนเอง

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องมีระเบียบวินัยและการควบคุมตนเองในระดับสูง มันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามระเบียบการฝึกซ้อมที่เข้มงวด การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการฝึกวินัยในตนเองทั้งในและนอกโรงยิม การฝึกมวยไทยเป็นประจำสามารถช่วยให้บุคคลพัฒนาระเบียบวินัยและการควบคุมตนเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของชีวิต

โดยสรุปแล้ว การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) มีประโยชน์มากมายทั้งต่อ สุขภาพกาย และ สุขภาพจิต ในฐานะศิลปะการป้องกันตัว และ กีฬาต่อสู้ มวยไทยเกี่ยวข้องกับการฝึกอย่างเข้มงวดซึ่งสามารถปรับปรุงสุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือด ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และ ระดับความฟิตโดยรวม นอกจากนี้ วินัยทางจิตใจที่จำเป็นสำหรับ การฝึกมวยไทย สามารถส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี ลดความเครียด และ เพิ่มความมั่นใจในตนเองได้อีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย

มวยไชยา มวยไทย ชื่อดัง แห่ง ภาคใต้

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

ในปัจจุบัน ที่เรามักจะ เห็นได้ว่า นักมวย มืออาชีพ ที่เก่ง ๆ พวกเขานั้น ทำอย่างไร ออกกำลังกาย ท่าไหน ถึงได้ แข็งแรง คล่องแคล่ว และ ว่องไว และวันนี้ บทความของเรา จะมาแนะนำ ออกกำลังกาย มวยไทย ( Muay Thai ) ตามฉบับ มืออาชีพ กัน

ออกกำลังกาย มวยไทย ตามฉบับ นักมวย มืออาชีพ

สำหรับใคร ที่เคยผ่าน หรือว่า มีโอกาส ได้เข้าไป เห็นบรรยากาศ ของการซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ภายใน ยิม ฟิตเนส หรือ ค่ายมวย ต่าง ๆ ก็จะรู้ดีว่า นักมวย มืออาชีพ นั้น เขาจะซ้อม มวยไทย กันอย่าง หนักหน่วง มากแค่ไหน นักมวย จะต้อง อดทน ต่อการ ฝึกซ้อม การควบคุม และการ ออกกำลังกาย อาหารการกิน หรือ น้ำหนัก เพื่อให้มี ร่างกาย ที่ดีที่สุด แข็งแกร่ง ที่สุด วันนี้เราจึงมีท่า ออกกำลังกาย ตาม นักมวย มืออาชีพ ที่พวกเขาใช้ ในการสสร้าง ร่างกาย แบบ นักมวย มาฝากกัน

 

1. ท่าไหล่ดัน ( Shoulder Presses )

ท่าไหล่ดัน เป็นท่าที่ นักมวย มืออาชีพ ใช้ในการ สร้างกล้ามเนื้อ หัวไหล่ ได้อย่างดี โดยอุปกรณ์ ที่ใช้กัน เป็นหลัก ก็คือ ดัมเบล ( Dumbbell ) ถ้าหากไม่มี ก็จะใช้ เป็นขวดน้ำ แทนก็ได้ แล้วจับ ให้มั่น จากนั้น ก็ดันขึ้น เหนือหัว และลง อย่างต่อเนื่อง

 

2. คาร์ดิโอ ( Cardio )

ถ้าอยากมี หุ่นที่ฟิต แบบ นักมวย มืออาชีพ ก็ต้อง เริ่มจาก คาร์ดิโอ เพื่อให้ ร่างกาย แข็งแรง ทำได้ โดยการ ซิทอัพ วิ่ง หรือ กระโดดเชือก ต้องฝึกแบบ การกระโดด ที่หลากหลาย และการฝึก ความแข็งแรง ของ ร่างกาย ในส่วนต่าง ๆ อย่างเช่น การดึงข้อ การบริหารกล้ามเนื้อ หลังแขน หรือ การวิดพื้น และการฝึก ด้วยลูกบอล เทรนนิ่ง ในท่าทาง ต่าง ๆ

 

3. ท่าแพลงค์ ( Plank )

ซึ่งเป็นท่า ที่ทำยาก และทรมานที่สุด เพราะต้องอาศัย ความแข็งแรง ของ ร่างกาย ของเรา หลาย ๆ ส่วน เป็นท่า นักมวย มืออาชีพ ทุกคน ที่ให้ ความสำคัญ โดยลองทำ ควบคู่กับการ Crunches และ Sit Up ก็จะช่วยเพิ่ม ความแข็งแกร่ง มากยิ่งขึ้น ท่าแพลงค์ จะเสริม สร้างความแข็งแรง  ของ ร่างกาย ส่วนกลาง ให้มี ความทน ต่อ หมัดหนัก ๆ ของ คู่ต่อสู้ นั่นเอง

 

4. ท่าวิดพื้น แบบตบมือ ( Clap Press – Up )

ท่าวิดพื้น แบบตบมือ จะเป็นวิธีการ ที่ นักมวย มืออาชีพ ใช้ในการ ออกกำลังกาย ที่ง่าย และสามารถ ทำตอนไหน ก็ได้ ซึ่งท่านี้ ไม่ได้เพิ่มแค่  ความแข็งแรง ของ กล้ามเนื้อ ของเรา เพียงอย่างเดียว เท่านั้น แต่ยังช่วย ในเรื่องของการ ปรับเรื่องของ Body Balance ที่จำเป็น อย่างมาก สำหรับ มวยไทย ของ นักมวย

 

5. ท่าชกเงา ( Shadow Boxing )

ท่าชกเงา เป็นการ ฝึกชกลม เพื่อให้ นักนักมวย มืออาชีพ ฝึกการ ออกหมัด และท่าทาง ที่ถูกต้อง การชกลม จะเป็นวิธีการ ที่ดีที่สุด ในการสร้าง เทคนิคการชก หรือ การรักษาน้ำหนัก และ ความแข็งแรง ของ ร่างกาย และสามารถ ฝึกที่ไหนก็ได้ ที่ทำให้เรา ขยับช่วงบน ได้อย่าง เป็นอิสระ มากยิ่งขึ้น

 

ซึ่งบอก ได้เลยว่า ออกกำลังกาย ฉบับ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่กว่า จะมาเป็น นักมวย มืออาชีพ ได้นั้น เรียกได้ว่า ยากลำบาก มาก ๆ เพราะต้องมี ความอดทน มุ่งมั่น ทั้ง ร่างกาย และจิตใจ หากคุณอยาก ออกกำลังกาย ให้ได้ ร่างกาย ที่แข็งแกร่ง แบบ นักมวย ก็ลองทำดู กันได้ แต่ก็ต้องระวังเพราะอาจ ทำให้เกิด อาการบาดเจ็บได้ ยังไงก็ควร ที่จะอยู่ใน การดูแล ของ เทรนเนอร์ ที่รู้จักการ ออกกำลังกาย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย

เผย ประโยชน์ ของ มวยไทยสำหรับเด็กและวัยรุ่น

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ซึ่งเป็นกีฬา ที่เน้นการ ต่อสู้ เป็นหลัก หรือ ต่อสู้ เพื่อ การแข่งขัน แต่กีฬา มวยไทย เป็นกีฬา ที่จะต้องใช้ ร่างกาย ในการต่อสู้ และ อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย จะมี ท่าอะไรบ้าง เราต้องมา ติดตามชม กันเลย

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เป็นการใช้ ศิลปะการต่อสู้ ที่ใช้ อวัยวะทุกส่วน ของ ร่างกาย ในการ ต่อสู้ เพราะการ ต่อสู้ ของ กีฬา มวยไทย นั้น เป็นการ ผสมผสาน การเคลื่อนไหว ด้วยจังหวะ และโอกาส การต่อสู้ และ พละกำลัง ที่สามารถ ทำให้เกิดแรง ในการ ต่อสู้ หรือ ออกท่าทาง แต่ละครั้ง การจู่โจม คู่ต่อสู้ และ ป้องกันตัว ดังนั้น การฝึก มวยไทย สำหรับ ผู้ที่เรียน ควรจะต้องเรียนรู้ อย่างลึกซึ้ง ว่าเกี่ยวกับ การใช้ อวัยวะ ของ ร่างกาย ของเรา ในการ ต่อสู้ ที่เป็น แต่ละส่วน ของ ร่างกาย อย่างเช่น หมัด เท้า เข่า และ ศอก ที่เป็น อาวุธหลัก ๆ ของร่างกาย ในการใช้ต่อสู้ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) นั่นเอง

 

มวยไทย การใช้หมัด

การใช้หมัด ใน มวยไทย ( Muay Thai ) โดยทั่วไป ที่เรียกว่า กำปั้น นักมวยไทย ใช้เพื่อ ชกคู่ต่อสู้ ซึ่งใน ศิลปะมวยไทย เพื่อให้ คู่ต่อสู้  ได้รับบาดเจ็บ และ หมัด นั้น เป็นหัวใจ สำคัญ ของอาวุธ แม่ไม้มวยไทย ก็ว่าได้ การชกหมัด จะมีหลายวิธี และการนำมาใช้ ก็ขึ้นอยู่กับ จังหวะ และโอกาส ของ การต่อสู้ นั้น เพราะเราไม่ อาจรู้ได้เลยว่า คู่ต่อสู้ จะมาใน รูปแบบไหน ต้องเตรียมพร้อม รับมือ อยู่ตลอดเวลา

 

มวยไทย การใช้เท้า

โดยทั่วไป มวยไทย ( Muay Thai ) การใช้เท้า จะเป็นการทำให้ คู่ต่อสู้ เสียจังหวะ และสามารถ ทำให้เรา มีโอกาส ออกหมัด ใส่คู่ต่อสู้ หรือ สวนกลับได้ นั้นเอง การใช้เท้า นั้นส่วนมาก จะเป็น การทีบ และการเตะ ที่จะทำให้ คู่ต่อสู้ เสียหลัก อาวุธสำหรับเก็บ คู่ต่อสู้ ได้ เพราะการถีบ ที่รุนแรง  บริเวณใบหน้า ทำให้สายตา และศีรษะ นั้น สามารถได้รับ อาการบาดเจ็บ การถีบรุนแรง ที่บริเวณลิ้นปี่ และ บริเวณท้องน้อย จะทำให้ เกิดอาการจุกเสียดได้  และการถีบ ที่รุนแรง บริเวณต้นขา และ หัวเข่า ที่ คู่ต่อสู้ นั้นเตะมา จะทำให้ กล้ามเนื้อ หรือเข่าพลิก ได้เช่นกัน ซึ่งการถีบ จะทำได้ โดย ใช้เท่าหน้า และเท้าหลัง ซึ่งเห็นได้ว่า การใช้เท้า ถือว่าเป็น อาวุธ ที่อันตรายมาก ๆ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) เลย ก็ว่าได้

 

มวยไทย การใช้เข่า

อาวุธของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถือได้ว่า รุนแรง และอันตราย ที่สุด ก็คือ เข่า เพราะ เข่า นั้น เป็นการใช้อวัยวะ ที่มีมุม และมี ความแข็งแรง มาก ๆ หาก หัวเข่า เข้าไปปะทะที่ ร่างกาย ของ คู่ต่อสู้ แต่การที่เรา จะใช้ เข่า ทำร้าย คู่ต่อสู้ นั้น ถือว่า มีโอกาส ที่น้อยมาก ๆ เพราะไม่มี คู่ต่อสู้ คนไหน ที่จะเปิดโอกาส ให้เราใช้ เข่า อย่างแน่นอน ดังนั้น การที่เราจะใช้ เข่า ในการ ต่อสู้ นั้น จะต้องอาศัยโอกาส และวิธีการต่าง ๆ อย่างเช่น กอด รัด ปล้ำ และเหนี่ยวรั้งคู่ต่อสู้ มาตีเข่า ให้ได้ นั้นเอง การตีเข่า จึงเป็น ศิลปะมวยไทย ขั้นสูง ในกีฬา มวยไทย นั้นเอง

 

มวยไทย การใช้ศอก

ศอก ซึ่งเป็นอาวุธอันตราย ไม่แพ้ หมัด เท้า เข่า เลยทีเดียว เพราะ ศอก เป็นมุม ที่แข็งแกร่ง อีกหนึ่งมุม ของ ร่างกาย ของเรา และยังเป็น อาวุธที่อันตรายมาก ๆ ในระยะประชิต ที่จะสามารถทำ คู่ต่อสู้ น็อคได้เลย ทีเดียว

 

อาวุธที่ใช้ ในการ ป้องกันตัว ของกีฬา มวยไทย นั้น จะใช้ทุกส่วนของ ร่างกาย มาเป็น อาวุธ ที่รุนแรง และแข็งแกร่ง ในการต่อสู้ จริง ๆ แต่ถึงอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับ การฝึกฝน ร่างกาย ของเรา และ หมั่นฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นประจำ ก็จะเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ดีมาก ๆ แถมยังได้ ศิลปะป้องกันตัว ได้อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไชยา มวยไทย ชื่อดัง แห่ง ภาคใต้

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมไทย

มวยไชยา มวยไทย ชื่อดัง แห่ง ภาคใต้

มวยไชยา มวยไทย ชื่อดัง แห่ง ภาคใต้

สำหรับวันนี้ อยากแนะนำ ให้ทุกคน ได้รู้จัก มวยไชยา มวยไทย ( Muay Thai ) ชื่อดัง แห่ง ภาคใต้ อีกทั้ง ยังช่วยกัน สืบสาน อนุรักษ์ ความเป็นไทย อย่างดีเยี่ยม

 

จุดกำเนิด มวยไชยา มวยไทย ชื่อดัง แห่ง ภาคใต้

แต่ก่อนเดิมนั้น มีวัดเก่าแก่ อรัญญิก ที่ชื่อว่า วัดทุ่งจับช้าง เป็นวัดรกร้าง ตั้งอยู่ในป่า ริมทางด่านเดิม ที่จะไป อำเภอไชยา โดยวัดแห่งนี้ มีชื่อเสียงมากมาย นั่นเพราะ สมภาร หรือที่ ชาวบ้านเรียกว่า “พ่อท่านมา” เป็นชาวกรุงเทพฯ ที่ได้หลบหนี ออกไปอยู่ เมืองไชยา ด้วยเรื่องใด ๆ นั้น มิได้ปรากฏ โดย “พ่อท่านมา”ได้ฝึกสอน วิชา มวยไทย ( Muay Thai ) ให้แก่ ชาวไชยา จนขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองมวย แม้ทุกวันนี้ เหล่า นักมวย ที่ปรารถนา ความสวัสดีมีชัย ต่างต้องร่ายรำมวย เป็นการถวาย คารวะหน้าที่ บรรจุศพ ก่อนที่จะผ่านไป มวยสุราษฎร์ฯ หรือ มวยไชยา จึงเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) ที่มีชื่อเสียงตลอดมา

         

มวยไทย ( Muay Thai ) ไชยา จากหลักฐาน และ จากคำบอกเล่า นั้น ได้เริ่มต้นที่ พ่อท่านมา ไม่มีใครทราบ ว่าจริง ๆ แล้ว ท่านมีชื่อจริง ว่าอย่างไร ทราบแต่เพียงว่า ท่านนั้นเป็น ครูมวยใหญ่ มาจาก พระนคร บ้างก็ว่า ท่านเป็น ขุนศึก เป็นแม่ทัพ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ชาวเมือง จึงได้เรียก เพียงว่า พ่อท่านมา ท่านได้เดินทาง มาสู่เมืองไชยา และได้มา ถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ต่าง ๆ มากมาย ไว้ให้แก่ชาวเมือง และ ศิษย์ที่ทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) มวยเมืองไชยา จนกลายเป็นที่รู้จัก ได้มากที่สุด ในยุค ร.5 นั่นคือ พระยาวจีสัตยารักษ์ ( ขำ ศรียาภัย )

         

ท่าน ปรมาจารย์ เขตร ศรียาภัย ได่เคยกล่าวไว้ว่า ท่าย่างสามขุม ของหลวงวิศาลดรุณกร ( อั้น สาริกบุตร ) ท่านเป็น อาจารย์จากโรงเรียนสวนกุหลาบฯ พ.ศ. 2464 ( โดยเป็นศิษย์เอก ของ  ปรมาจารย์ พระไชยโชคชกชนะ ( อ้น ) เป็นเจ้ากรมทนาย ได้เลือก ครูมวย และ ครูกระบี่กระบอง เป็นผู้ที่กระเดื่องนาม ในรัชสมัย ร.5 ) และ ปรมาจารย์ ขุนยี่สานสรรพยากร ( ครูแสงดาบ ) เป็นครูมวย และ ครูกระบี่กระบอง ที่ ลือชื่อ ในสมัย ร.6 นั้น ต่างมีความกระชับรัดกุม สง่างาม ตรงตามแบบ ท่าย่างสามขุมของ ท่านมา ( หลวงพ่อ ) ครูมวย แห่ง เมืองไชยา ท่านนับเป็นต้นสาย ของมวยไชยา อันเป็น มรดกอันล้ำค่า ของคนไทย

 

 

 

เอกลักษณ์ของ มวยไชยา มวยไทย ( Muay Thai )

โดยเอกลักษณ์ของมวยไชยา พบว่ามีอยู่ 7 ด้าน คือ

1. การตั้งท่ามวยหรือการจดมวย

2. ท่าครูหรือ ท่าย่างสามขุม

3. การไหว้ครูร่ายรำ

4. การพันมือแบบคาดเชือก

5. การแต่งกาย

6. การฝึกซ้อมมวยไชยา

7. แม่ไม้มวยไชยา

         

โดย กระบวนท่า มวยไทย ( Muay Thai ) มวยไชยา นั้นมีทั้งหมด 5 ชุด อันได้แก่ แม่ไม้มวยไทยไชยา 7 ท่า ได้แก่ ปั้นหมัด, เต้นแร้งเต้นกา, พันแขน, พันหมัด, กระโดดตบศอก, พันหมัดพลิกเหลี่ยม, และ ย่างสามขุม

 

ท่าที่สำคัญ คือ ท่า เสือลากหาง

 

เคล็ดมวยไชยา ที่oe,kใช้ป้องกันได้ดีที่สุด คือ ป้อง, ปัด, ปิด และ เปิด

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ มวยไทย ( Muay Thai ) มวยไชยา แห่ง ภาคใต้ ที่เราได้นำมาฝาก ถือเป็นเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย ที่เราควรช่วยกันอนุรักษ์สืบไปค่ะ

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

เผย ประโยชน์ ของ มวยไทยสำหรับเด็กและวัยรุ่น

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมไทย

มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นศิลปะ การต่อสู้ ที่เป็นมรดก ทางวัฒนธรรม มาตั้งแต่ โบราณ เป็นการใช้ อาวุธ ทางร่างกาย 9 อย่าง หรือ เรียกว่า นวอาวุธ คือ มือ 2 เท้า 2 เข่า 2 ศอก 2 และ ศีรษะ 1 อย่างมี ประสิทธิภาพ เป็นศิลปะ การต่อสู้ ที่เก่าแก่ ของโลก

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศาสตร์หนึ่ง ที่ว่าด้วยการ ใช้อุบาย ชั้นเชิง ไหวพริบ และ วิชา เพื่อเข้า ต่อสู้กัน จึงมีปรากฏ หลักฐาน ในพระราชพงศาวดารว่า ในอดีตกาล พระมหากษัตริย์ ที่มีพระปรีชาสามารถ จะทรงเชี่ยวชาญ ในการชกมวย เป็นอย่างยิ่ง และ ในขณะเดียวกัน เจ้านายที่เป็นชั้นผู้ใหญ่ ขุนนางฝ่ายทหาร และ สามัญชน จะมีการฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อป้องกันตัว และ ชาติบ้านเมือง เพราะว่า การใช้อาวุธ อย่างเช่น กระบี่ กระบอง พลอง และ ดาบ ประกอบ กับ มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ การใช้อาวุธนั้น ๆ เกิดประสิทธิภาพ อย่างสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการต่อสู้ ป้องกันตัว ระยะ ประชิด ในยามสงบ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ประลอง พละกำลัง และ ชั้นเชิง การต่อสู้ จนกลายมาเป็น กิจกรรมทางสังคม อย่างหนึ่ง และ มีการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )   ในโอกาส สำคัญ ๆ อีกด้วย

 

เอกลักษณ์ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ผสมผสานชั้นเชิง กับร่างกาย แปลงให้เป็น อาวุธ

เอกลักษณ์ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ทำให้ มีความโดดเด่น และ ยังถือเป็น ศิลปะชั้นสูง ก็คือ การใช้อวัยวะ ส่วนต่าง ๆ ที่เป็นเหมือนเกราะ และ อาวุธ ที่ใช้ชั้นเชิง ไหวพริบ และ วิชา เพื่อเข้าต่อสู้กัน ไม่ใช่ ใช้แต่กำลัง เพียงอย่างเดียว เท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย – ศาสตร์ - อันได้แก่ การเรียนรู้ จุดอ่อน - จุดแข็ง ของร่างกายที่จะพิชิต และ สามารถ เอาชนะคู่ต่อสู้

 

- ศิลป์ - คือ ลักษณะของการใช้ นวอาวุธ ที่มีรายละเอียดที่ปลีกย่อย อย่างพิสดาร โดยทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่จะมีมนต์ขลัง และยังเป็นการต่อสู้ที่มีชั้นเชิง เป็นที่ประทับใจแก่คนทั้งโลก

 

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) โบราณ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ขั้นเบื้องต้น

ฝึกฝนเพื่อให้รู้จัก ป้องกันตัวเอง ให้มีความปลอดภัย ก่อนที่คิดทำผู้อื่น หรือ จะเรียกว่า ป้อง ปัด ปิด เปิด

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ขั้นกลาง

ฝึกฝนเพื่อเป็นนักมวย ต่อสู้บนสังเวียน ก็คือ เข้ามวยเป็น สามารถตอบโต้ และแก้กลับคู่ต่อสู้ได้ จะเรียกว่า ทุ่ม ทับ จัก หัก

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ขั้นสูง

ฝึกฝนเพื่อเป็นนักรบ เป็นครูอาจารย์ เอาไว้ใช้ใน ราชการสงคราม ประจำกองทนายเลือก กองอาจารย์ และเป็นจารบุรุษ อาทมาฏ สอดแนม ทหารเอก ทหารรอง นายกอง และ แม่ทัพ ก็คือ เรียนวิชาฆ่าคน ที่สงวนไว้ไม่สอนพร่ำเพรื่อ จะเรียกว่า ประกบ ประกับ จับรั้ง เข้าข้างหลัง หักก้านคอ

 

มวยไทย ( Muay Thai )  ถือเป็น ศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทย อย่างแท้จริง เพราะว่าทุกวันนี้ มีแต่คนหันมาสนใจ และสานต่อวัฒนธรรมนี้มากยิ่งขึ้น

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เผย ประโยชน์ ของ มวยไทยสำหรับเด็กและวัยรุ่น

เปิด 5 ทักษะที่สำคัญ สำหรับ การเล่นมวยไทย

เผย ประโยชน์ ของ มวยไทยสำหรับเด็กและวัยรุ่น

เผย ประโยชน์ ของ มวยไทยสำหรับเด็กและวัยรุ่น

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบหนึ่ง ที่ใช้ทั้ง หมัด ศอก เข่า และ แข้ง เรียกได้ว่า ใช้ทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งแม้ว่าอาจฟังดู น่ากลัว พ่อแม่บางท่าน อาจจะไม่อยากให้เด็กส่วนใหญ่เล่นมวยไทย แต่ มวยไทย ( Muay Thai ) อาจ เป็น กิจกรรม ที่ยอดเยี่ยม สำหรับเด็ก และ วัยรุ่น ซึ่งในบทความนี้ เราจะพากันไปดูถึง ประโยชน์ ของ มวยไทย สำหรับเด็ก และ วัยรุ่น

1. ฝึกสมรรถภาพ ทางกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น วิธีที่ยอดเยี่ยม สำหรับ เด็ก และ วัยรุ่น ใน การเคลื่อนไหวร่างกาย กีฬา เกี่ยวข้อง กับ การเคลื่อนไหว ซึ่งช่วยปรับปรุงสมรรถภาพ หัวใจ และ หลอดเลือด มวยไทยยัง ช่วยสร้าง ความแข็งแกร่ง และ ความอดทน ตลอดจน ปรับปรุง ความสมดุล ทักษะ การประสานงาน และ ความยืดหยุ่น การฝึก เป็นประจำ สามารถช่วยให้เด็ก และ วัยรุ่น พัฒนานิสัยการออกกำลังกาย ที่ดี ซึ่งจะ เป็นประโยชน์ ต่อ พวกเขาไป ตลอดชีวิต

2. ฝึกทักษะ การ ป้องกันตัว

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่ เน้น การใช้ร่างกาย เพื่อเคลื่อนไหว ซึ่ง สามารถ ใช้เป็น ทักษะใน การป้องกันตัว ที่มี ประสิทธิภาพ เด็ก และ วัยรุ่น ที่ เรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ พัฒนาทักษะ และ ความมั่นใจ ใน การป้องกันตัว หากต้องตกอยู่ในสถานการณ์ อันตราย อย่างไร ก็ตาม สิ่งสำคัญ คือ ต้องทราบว่า มวยไทย ไม่ได้เกี่ยว กับ ความรุนแรง หรือ ความก้าวร้าว แต่เกี่ยว กับ การควบคุมตนเอง และ ระเบียบวินัย

3. ฝึกระเบียบวินัย และ การควบคุม ตนเอง

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ ต้องมีวินัย และ การควบคุมตนเอง เด็ก และ วัยรุ่น ที่ ฝึกมวยไทย เรียนรู้ที่จะมุ่ง ความสนใจ และ ควบคุม การเคลื่อนไหว พวกเขายังเรียนรู้ ถึง ความสำคัญ ของ การเคารพคู่ต่อสู้ ผู้สอน และ เพื่อน ทักษะเหล่านี้ สามารถ นำไปสู่ด้านอื่นๆ ของ ชีวิตได้ เช่น ฝึกทักษะในโรงเรียน และ ความสัมพันธ์กับผู้อื่น

4. มีประโยชน์ ต่อ สุขภาพจิต

มวยไทย ( Muay Thai ) ยังส่งผลดี ต่อ สุขภาพจิตอีกด้วย การฝึกฝน เป็น ประจำสามารถ ช่วยลดความเครียด และ ความวิตกกังวล ปรับปรุงอารมณ์ และ เพิ่มความมั่นใจ ในตนเอง นอกจาก นี้ยัง เป็น วิธี ที่เด็ก และ วัยรุ่น จะถ่ายทอดอารมณ์ ของ พวกเขาในทางที่ดี นอกจากนี้ มวยไทย เกี่ยวข้อง กับ การตั้งเป้าหมาย และ การทำงานให้สำเร็จ ซึ่งสามารถ ช่วยปรับปรุง แรงจูงใจ และ ความอุตสาหะ

5. มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กิจกรรมกลุ่ม ที่เปิดโอกาสให้เด็ก และ วัยรุ่น ได้มี ปฏิสัมพันธ์ กับ ผู้อื่น พวกเขา สามารถพบ เพื่อนใหม่ เรียนรู้ จากผู้สอน ที่แตกต่างกัน และ แข่งขันในทัวร์นาเมนต์ หากพวกเขา ต้องการ สิ่งนี้ สามารถช่วยให้ เด็ก และ วัยรุ่นพัฒนาทักษะ ทางสังคม สร้างความมั่นใจ 

6. ความตระหนักทางวัฒนธรรม

มวยไทย ( Muay Thai ) ฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมไทย และ การเรียนรู้กีฬา สามารถเปิดโอกาสให้ เด็ก และ วัยรุ่น ได้เรียนรู้เกี่ยว กับ วัฒนธรรมที่แตกต่าง พวกเขาสามารถ เรียนรู้ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และ ประเพณีของมวยไทย ตลอดจนขนบธรรมเนียม และ ความเชื่อของไทย สิ่งนี้ สามารถช่วยส่งเสริม ความซาบซึ้ง ในวัฒนธรรมที่แตกต่าง 

มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ เป็น กิจกรรมที่ยอดเยี่ยม สำหรับ เด็ก และ วัยรุ่น ให้ประโยชน์ ทางร่างกาย จิตใจ และ สังคม รวมทั้งโอกาสในการรับรู้วัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ คือต้องหาผู้สอนที่มีความรู้ และ มีประสบการณ์ในการทำงาน กับ เด็ก และ วัยรุ่น ความปลอดภัยควรมีความสำคัญสูงสุดเสมอ และเด็กและวัยรุ่นควรได้รับการดูแลตลอดเวลา ด้วยคำแนะนำและคำแนะนำที่ถูกต้อง มวยไทยสามารถเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและสนุกสนานสำหรับเด็กและวัยรุ่น หากใครสอนใจอยากเรียนมวยไทย ให้เรียนที่ เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร ตั้งอยู่ที่ถนนพระอาทิตย์ รับรองได้เลยว่า จะได้รับประสบการณ์ และ ทักษะดีๆกลับไปอย่างแน่นอน


อ่านบทความเพิ่มเติม : 

การฝึก มวยไทย ประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกาย ที่คุณจะได้รับ

เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

เปิด 5 ทักษะที่สำคัญ สำหรับ การเล่นมวยไทย

เปิด 5 ทักษะที่สำคัญ สำหรับ การเล่นมวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬาการต่อสู้ และ ศิลปะป้องกันตัว เป็นที่รู้จักกันว่า "ศิลปะการต่อสู้ของชาติไทย" โดยใช้ ส่วน ต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น การใช้ หมัด ศอก เข่า และ หน้าแข้ง มวยไทย เป็นกีฬาที่ท้าทายความสามารถ และ ต้องอาศัยทักษะทั้งร่างกาย และ จิตใจ ในบทความนี้ เราจะพูดถึงทักษะที่สำคัญ 5 ประการ สำหรับ การเล่น มวยไทย

1. เทคนิคการตี

ทักษะสำคัญ อย่างแรก สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) คือ เทคนิคการชก มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่ใช้การฟาดฟัน ซึ่งเกี่ยวข้อง กับ การใช้ ท่าต่างๆ เช่น หมัด เตะ ศอก และ เข่า ผู้ฝึกมวยไทย จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเชี่ยวชาญ การโจมตีเหล่านี้ และ มีเทคนิค ที่เหมาะสม สิ่งนี้เกี่ยวข้อง กับ รูปแบบท่าทาง ความปลอดภัย และ จังหวะเวลาที่เหมาะสม การจะมี เทคนิค ที่ เหมาะสม นั้น ต้องใช้เวลา และ การฝึกฝน เป็น สิ่งสำคัญ สำหรับการชก มวยไทย เพื่อให้เกิด ประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผล ที่ดี

2. ฟุตเวิร์ค ( Footwork )

ฟุตเวิร์ค ( Footwork ) เป็น อีกหนึ่งทักษะ ที่จำเป็น สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) การวางเท้าที่ดี ช่วยให้ผู้ฝึก มวยไทย เคลื่อนไหว ได้อย่างรวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ สร้างช่องเปิด สำหรับการโจมตี และ หลีกเลี่ยงการโจมตี การวางเท้า ที่ ถูกต้อง เกี่ยวข้อง กับ การรักษาสมดุล การมีเท้าที่เบา การหมุน และ ก้าวอย่างรวดเร็ว เพื่อเปลี่ยนทิศทาง การฝึกซ้อม ฟุตเวิร์ก และ แชโดว์บ็อกซิ่ง สามารถช่วยพัฒนาฝีเท้า ของ ผู้ฝึก มวยไทย ได้

3. การป้องกัน

การป้องกัน เป็น ทักษะที่สำคัญใน มวยไทย ( Muay Thai ) ความสามารถใน การสกัดกั้น ปัดป้อง หรือ หลบหลีกการโจมตี สามารถช่วย ผู้ฝึกมวยไทย จากการได้รับความเสียหาย โดยไม่จำเป็น การป้องกันตัว ในมวยไทย เกี่ยวข้อง กับ จังหวะที่ดี เทคนิค ที่ เหมาะสม และ การรับรู้ถึงการเคลื่อนไหว ของ คู่ต่อสู้ การป้องกัน ยังเกี่ยวข้อง กับ ความสามารถ ใน การคาดการณ์ การโจมตี และ การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม ทำให้คุณ ตอบสนอง ได้อย่างรวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ

4. การบริหารกล้ามเนื้อ

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬาที่ต้องใช้ร่างกาย และ ต้องการความฟิต สภาพร่างกายในระดับสูง ผู้ฝึก มวยไทย ต้องอดทนฝึกฝน และ ต่อสู้เป็นเวลานาน สิ่งนี้ต้องฝึก การผสมผสาน ระหว่าง ความอดทน ของ หัวใจ และ หลอดเลือด ความอดทน ของ กล้ามเนื้อ ความแข็งแรง และ ความยืดหยุ่น การฝึกซ้อม เช่น การ กระโดดเชือก การวิ่ง และ การ ฝึกความแข็งแกร่ง สามารถช่วยปรับปรุง สมรรถภาพทางกาย และ ความอดทน ของ ผู้ฝึกมวยไทย ได้

5. ความแข็งแกร่งทางจิต

ทักษะสุดท้ายที่จำ เป็น สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai )  คือ ความแข็งแกร่งทางจิตใจ มวยไทย เป็นกีฬาท้าทาย จิตใจ ที่ต้องใช้สมาธิ ระเบียบวินัย และ ความอุตสาหะ ความแข็งแกร่งทางจิตใจ เกี่ยวข้อง กับ ความสามารถในการผลักดันผ่านความเหนื่อยล้าทางร่างกาย และ จิตใจ การเอาชนะอุปสรรค การสงบสติอารมณ์ และ มีสมาธิในระหว่างการต่อสู้ การพัฒนาความแข็งแกร่งทางจิตใจ ต้องใช้เวลา และ การฝึกฝน แต่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการเล่นมวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬาที่ท้าทายความสามารถ และ ต้องอาศัยทักษะทั้งร่างกาย และ จิตใจ การเรียนรู้ทักษะสำคัญทั้งห้าอย่างของเทคนิค การหวด การวางเท้า การป้องกัน การปรับสภาพ และ ความอดทนทางจิตใจ สามารถช่วยให้ผู้ฝึกมวยไทยกลายเป็นนักมวยที่ประสบความสำเร็จ และ มีประสิทธิภาพได้ การฝึกทักษะ เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ และ ด้วยความทุ่มเทสามารถช่วยผู้ฝึก มวยไทย ปรับปรุงเทคนิคโดยรวม และ ประสิทธิภาพในสังเวียนได้ หากใครอยากได้รับคำแนะนำ หรือ กำลังหาสถานที่ฝึกทวยไทยอยู่ แนะนำที่ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

ออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย สร้าง สุขภาพ ที่ดีได้

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้อันดับ 1 ของโลก

การฝึก มวยไทย ประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกาย ที่คุณจะได้รับ

การฝึก มวยไทย ประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกาย ที่คุณจะได้รับ

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ชนิดหนึ่ง ที่เป็นที่นิยม และ มีผู้สนใจ มากยิ่งขึ้น จุดประสงค์ ก็เพื่อการออกกำลังกาย ที่สามารถ เคลื่อนไหว อย่างรวดเร็ว และ ใช้แรงเยอะ ทำให้เหงื่อออก เผาผลาญร่างกาย ได้อย่างดี อีกทั้ง ยังได้มีทักษะ การป้องกันตัวด้วย

การฝึก มวยไทย ประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกาย ที่คุณจะได้รับ

มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ใช่แค่กีฬา ในกระแสสังคม เพียงเท่านั้น แต่ยังมีอะไรดี ๆ มากมาย ที่หลาย ๆ คน อาจจะยัง ไม่เคยรู้ มาก่อน วันนี้ ทางเรา จะมาเปิดเผย ประโยชน์ ที่คุณจะได้รับ จากการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) กันค่ะ

 

ประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกาย จากการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่คุณจะได้รับ

1) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยลด ความเครียดได้

ก่อนอื่น เราอย่าคิดว่า การใช้กำลังใน มวยไทย ( Muay Thai ) จะยิ่งทำให้ เราเครียด เพราะความจริง กีฬาประเภทนี้ จะทำให้เรามีสมาธิ และ สติมากยิ่งขึ้น เพราะทุกครั้ง ที่เรายืนอยู่ ตรงหน้าคู่ต่อสู้ เราจะต้องโฟกัส กับทุกการเคลื่อนไหว ของฝ่ายตรงข้าม และนั่น จะทำให้เรา ไม่มีเวลาที่จะได้ คิดวิตกกังวล อะไรทั้งนั้น

 

2) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่มพลัง ให้กับกล้ามเนื้อ

หลาย ๆ คนอาจเข้าใจผิด คิดว่า การต่อยมวย ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น จำกัดอยู่ที่การ ใช้แค่หมัด และ เท้า แต่สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) แล้วทุกอย่าง จะต้องมีการ ประสานกัน ทั้งหมด ทั้งข้อศอก คาง และ เข่า

 

3) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่มรอยยัก ในสมอง

การต่อสู้ คงไม่ใช่แค่ เราคนเดียวแน่ ที่จะเป็น ฝ่ายจู่โจม เพราะฉะนั้น เราจะต้อง รู้จักการ ที่จะหลบหลีก ก้มหลบหมัด มวยไทย ( Muay Thai ) ต่าง ๆ จากฝ่ายตรงข้าม ได้อย่าง รวดเร็ว ซึ่งในการตั้งรับนี้ อาจจะต้อง มีการออกหมัด ยกแขนทั้งสองข้าง เอาขึ้นมาบล็อก หรือ แม้แต่ การโต้ตอบกลับ มวยไทย ( Muay Thai ) ด้วยหมัดขวาตรง ซึ่งทั้งหมดนี้ จะต้องทำด้วย สปีดที่เร็ว

 

4) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้าง ความมั่นใจ

มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้เรา ได้รู้จักกับ ศักยภาพ ของตัวเอง รู้ว่าร่างกาย ของเรานั้น สามารถ ทำอะไร ได้มากกว่า ที่เราคิด และ นี่แหละ คือ สิ่งที่จะช่วยเพิ่ม ความมั่นใจ และ ความภูมิใจให้ กับตัวเราเอง เพราะว่า การที่ได้เรียนรู้ วิธีการ ป้องกันตัวเอง จากกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้เรา รู้สึกทึ่ง กับร่างกาย การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) จะสอนให้เรา รู้คุณค่า ในตัวตน ของเราเอง

 

รับรู้ถึง ประโยชน์ที่ดี ต่อร่างกาย ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ขนาดนี้แล้ว ก็อย่าลืม ลองไปเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) กันดูนะ เพราะว่า มวยไทย ( Muay Thai ) มีแต่ประโยชน์ ต่อตัวเรา ทั้งนั้นเลยค่ะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สาระน่ารู้ เกี่ยวกับกีฬา มวยไทย

เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

สาระน่ารู้ เกี่ยวกับกีฬา มวยไทย

สาระน่ารู้ เกี่ยวกับกีฬา มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็น ศิลปะป้องกันตัว ที่น่าภูมิใจของไทย ที่เป็น เอกลักษณ์ และได้รับ การยกย่อง ที่ว่าเป็น กีฬาอันตราย แต่กีฬา มวยไทย เป็น ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่คนทั่วโลก ให้ความสนใจ และ ชื่นชอบ เกี่ยวกับกีฬา มวยไทย

สาระน่ารู้ เกี่ยวกับกีฬา มวยไทย

ต้นกำเนิด ที่แท้จริง ของกีฬา หรือ ศิลปะป้องกันตัว อย่าง มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ไม่สามารถระบุได้ อย่างชัดเจน เพียงแค่รู้ว่า คนไทยใช้ศิลปะ ในการ ป้องกันตัว เพื่อ ต่อสู้ มายาวนาน โดยแต่ละพื้นที่ ก็จะมีทักษะ ที่รวมไปถึง รูปแบบในกา รต่อสู้ ที่ต่างกัน ออกไป อย่างเช่น มวยไชยา ของภาคใต้ , มวยโคราช ของภาคอีสาน , มวยพระนคร ของภาคกลาง , และ มวยท่าเสา ของภาคเหนือ เป็นต้น แต่เท่าที่มี การค้นพบประวัติ ที่เชื่อว่า น่าจะเริ่มต้น จากบรรดาทหาร ที่ฝึกฝน เพื่อให้เกิด ความแข็งแกร่ง และมีทักษะในการ ต่อสู้ ที่ประกอบกับ ในยุคโบราณ ที่ยังไม่มีมีด หรือปืนเป็นอาวุธ กระทั่งเมื่อศิลปะ ดังกล่าว ได้มีการเผยแพร่ สู่ชาวบ้าน มากขึ้น จึงทำให้ คนไทยคุ้นชิน และมีทักษะ ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) สืบต่อกัน เรื่อยมา

 

ด้วยความแพร่หลาย ที่มากขึ้น ประกอบกับ การแข่งขันกีฬา ในระดับภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง ซีเกมส์ ที่ทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) ค่อย ๆ ได้รับการสนับสนุน เพื่อให้ถูก บรรจุเข้าสู่กีฬา แห่งความเป็นสากล ระดับโลก ที่มากขึ้น ซึ่งทางไอโอซี หรือ คณะกรรมการ โอลิมปิกสากล ได้ยอมรับให้ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถเปิดสู่ ระดับโลก และยังมี รายการแข่งขัน ชิงแชมป์ต่าง ๆ อย่างมากมาย

 

ต้องยอมรับว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ของชาติเรา ที่มีเสน่ห์ ที่ทำให้ ชาวต่างชาติ ต่างหลงใหล และชื่นชอบ ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ท่าทางที่สวยงาม , การป้องกันตัว ที่ใช้ได้จริง , และฝีกเอาไว้ สำหรับการ ต่อสู้ ยามเกิดเหตุ ที่ไม่คาดฝัน อีกทั้งยังเป็น กีฬา มวย ที่มี ความท้าทาย ต่อการฝึก มากเลยทีเดียว

 

ท่าต่าง ๆ ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่มี ความน่าสนใจ

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เกิดขึ้น จะมีอยู่ด้วยกัน มากมาย ตามแต่ความคิด และ ศิลปะป้องกันตัว ในแต่ละกลุ่มคน ซึ่งจะขอยกท่าทาง ที่โด่งดัง พร้อมเป็นที่รู้จัก มาฝากกัน

1. ท่ามอญยันหลัก เป็นการยกเท้า เพื่อยันไป ยังฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่ให้เข้ามาทำร้ายได้ ในระยะใกล้ แล้วใช้หมัดอีกข้าง ต่อยเข้าไป ในบริเวณใบหน้า

2. ท่าจระเข้ฟาดหาง โดยให้หมุนตัว กลับหลัง แล้วย่อตัวลง เพียงเล็กน้อย เหวี่ยงขาข้างที่ถนัด เข้าไปยังบริเวณลำคอ ของ คู่ต่อสู้ อีกฝ่าย

3. ท่าหนุมานถวายแหวน เมื่ออีกฝ่าย ชกหมัดตรงมา แล้วหลบได้ ให้ใช้หมัด ของตนเอง ต่อยเข้าไป บริเวณปลายคาง

4. ท่าบาทาลูบพักตร์ คู่ต่อสู้ โดยชกหมัด ตรงมา ให้ใช้แขน บริเวณท่อนล่าง ปัดหนี จากนั้น ก็ใช้เท้ายันเข้าไป บริเวณใบหน้า

 

สาระน่ารู้ เกี่ยวกับ เรื่องของ มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะป้องกันตัว ของคนไทย ที่สืบทอดกันมา อย่างยาวนาน และยังเป็นที่รู้จัก ในปัจจุบัน ซึ่งหากสนใจ ที่จะเรียนรู้ และเจาะลึก เกี่ยวกับ ศิลปะป้องกันตัว แขนงนี้ ปัจจุบันทุกคน สามารถเข้า คอร์สเรียน เกี่ยวกับ ศิลปะป้องกันตัว ชนิดนี้ได้ จากสถาบันสอน มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เปิดให้บริการ หลาย ๆ แห่ง อย่างเช่น เจริญทองมวยไทย ที่มีทั้ง สาขารัชดา และ สาขาข้าวสาร นับว่าเป็น ศิลปะป้องกันตัว ที่ก่อให้เกิด ประโยชน์ ต่อผู้เล่น ได้ไม่น้อย เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นกีฬา ที่อยู่ใน เทรนด์รักสุขภาพ อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

อุปกรณ์สำคัญ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง ?

เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

อย่างที่ทุกคนรู้ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ของใครหลาย ๆ คน เพราะช่วยเรื่อง ลดน้ำหนัก ที่เห็นผลได้จริง เนื่องจาก ร่างกาย ได้ใช้พลังงาน ไปมาก และยังช่วยเสริม ความแข็งแรง ให้ กล้ามเนื้อ กระชับอีกด้วย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ ศิลปะป้องกันตัว ในแบบ ของไทย แต่โบราณ ที่สืบทอดกันมา อย่างยาวนาน โดยเป็นการ ใช้ หมัด, เท้า, เข่า, และ ศอก ซึ่งเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ใช้พลังงาน ของ ร่างกาย ของเรา อย่างมาก นอกจากจะ ช่วยสร้าง ความแข็งแรง ของ กล้ามเนื้อ แล้ว ก็ยังส่งผลให้ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบการหายใจ การทำงานของหัวใจ ปอด และหลอดเลือด หรือ กล้ามเนื้อ ร่างกาย ของเรา ยืดหยุ่น ดีขึ้นด้วย

เทรนด์ฮิต ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

สำหรับใคร ที่คิดจะ ลดหุ่น หรือ ยากจะเรียก ความกระฉับ กระเฉง ให้กับร่างกาย ตอนนี้ ก็ควรจะมอง มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นตัวเลือกหนึ่ง ที่รับรองว่า ถ้าหากได้ ทดลอง ต่อยมวย แล้ว คุณจะ แข็งแรง ขึ้นได้ อย่างแน่นอน และ ร่างกาย ของเรา ก็จะ เผาผลาญ ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า ช่วยเรียกเหงื่อ ขับของเสีย ออจาก ร่างกาย และเป็นการ ฝึกฝนจิตใจ ให้สงบ และมีสมาธิ ถือว่าเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ดี ที่สำคัญ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) กำลังได้รับ ความนิยม ในปัจจุบัน กันเลย ทีเดียว

 

มาทำความรู้จัก กับ ท่าเบสิก ที่ใช้ในการ ออกกำลังกาย แบบ กีฬา มวยไทย แบบ แอโรบิค กันดีกว่า

 

1. มวยไทย ท่าหมัดตรง

เตรียมพร้อมด้วย ท่ายืนตรง ให้เท้าอยู่ห่างกัน พอประมาณ และ กำหมัดทั้งสองข้างไว้ ระดับอก เก็บข้อศอกให้ชิดลำตัว ตามองตรงไปข้างหน้า ก้าวเท้าซ้าย พร้อมกับชกมือขวา ไปข้างหน้า โดยให้ ขนานกับพื้น และเปิดส้นเท้าขวา โดยการทิ้งน้ำหนัก ลงที่ขาซ้าย ดึงแขน และขากลับมา ในท่าเริ่มต้น แล้วทำซ้ำ สลับข้าง อย่างต่อเนื่อง ให้ทำเซตละ 15 - 20 ครั้ง

2. มวยไทย ท่าศอกตัด

ให้ยืนกำหมัด ทั้งสองข้าง ไว้ระดับอก เหมือนกับ ท่าหมัดตรง ก้าวเท้าขวา ไปด้านขวา พร้อมกับ เหวี่ยงหมัดซ้าย โดยให้ข้อศอก ตั้งฉากกับหมัดขวา และบิดลำตัว เพียงเล็กน้อย ให้เปิดส้นเท้าซ้าย ทิ้งน้ำหนักที่ขาขวา วางส้นเท้าซ้าย ดึงแขน และขา กลับสู่ท่าเริ่มต้น เพื่อทำซ้ำ สลับข้าง ให้ทำเซตละ 15 - 20 ครั้ง

3. มวยไทย ท่าตีเข่า

ให้กำหมัด ทั้งสองข้าง และตั้งฉากระดับอก ให้แนบแขน ชิดลำตัว จากนั้นก็ ยกเข่าขวาขึ้นสูง ( ให้ทำ เท่าที่ทำได้ ) และพร้อมกับ เอนตัวไปด้านหลัง เพียงเล็กน้อย โดยให้ทำซ้ำ อีกข้าง

4. มวยไทย ท่าเตะ

ให้กำหมัด ทั้งสองข้าง พร้อมกับตั้งฉากระดับอก และให้ก้าวเท้าซ้าย มาข้างหน้า พร้อมกับ เตะขาขวาขึ้น และให้หัน ปลายเท้าชี้ มาทางด้านซ้าย พร้อมบิดตัวเพียงน้อย ให้ทำซ้ำ อีกข้าง

5. มวยไทย ท่าศอกเสย

ให้ยืนหน้าตรง และกำหมัดทั้ง 2 ข้างไว้ใต้คาง โดยเก็บแขนแนบชิดลำตัว และให้ก้าวเท้าขวา ไปข้างหน้า ทำพร้อมกับเปิดส้นเท้าข้างซ้าย และให้ยกศอกข้างขวาขึ้น และกลับสู่ท่ายืน ควรทำสลับ ข้างซ้าย - ขวา

 

ซึ่งการ ออกกำลังกาย ด้วยการ ชกมวย ไปกับ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นการ ลดน้ำหนัก ที่ให้ เห็นผลจริง เนื่องจาก ร่างกาย ของเรา ได้ใช้พลังงาน ไปอย่างมาก จึงทำให้ ไขมัน ที่อยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของ ร่างกาย ที่ได้ถูกใช้ไป นั่นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ลีลาเด็ด มวยไทย ที่คุณร้อง ว้าว แน่นอน!

ออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย สร้าง สุขภาพ ที่ดีได้

ลีลาเด็ด มวยไทย ที่คุณร้อง ว้าว แน่นอน!

ลีลาเด็ด มวยไทย ที่คุณร้อง ว้าว แน่นอน!

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น เรียกได้ว่า เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย อีกทั้ง ยังมี ลีลาเด็ด ๆ ของ มวยไทย ที่คุณร้อง ว้าว แน่นอน จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยดีกว่า

 

แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นเป็นศิลปะ ประจำชาติไทย ที่เราควรอนุรักษ์ไว้

ก่อนอื่นเลย เราขอแนะนำท่า มวยไทย ( Muay Thai ) เด็ด ๆ กันก่อน ว่าเคยรู้จักกันมาบ้างไหม ? ไม่ว่าจะเป็น

สลับฟันปลา

ปักษาแหวกรัง

ชวาซัดหอก

อิเหนาแทงกริช

ยกเขาพระสุเมรุ

ตาเถรค้ำฟัก

มอญยันหลัก

ปักลูกทอย

จระเข้ฟาดหาง

หักงวงไอยรา

นาคาบิดหาง

วิรุณหกกลับ

ดับชวาลา

ขุนยักษ์จับลิง

หักคอเอราวัณ

 

โดย ท่า มวยไทย ( Muay Thai ) 15 ท่าข้างต้น นั้นเป็นแม่ไม้มวยไทยโบราณ ที่ได้มีการใช้หมัด, ศอก, เข่า นำไปใช้ได้ ทั้งในการรุก และการรับ ตามสถานการณ์ ของการต่อสู้ ที่แตกต่างกันไป ไม่เฉพาะคนไทย ที่ชื่นชอบมวยไทย รวมไปถึง ชาวตะวันตกไม่น้อย ก็นิยมเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เพื่อมาเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) โดยเป้าหมาย ก็เพื่อฝึกฝน ให้มีฝีมือทัดเทียมต้นฉบับนั่นเอง หากภูดถึง ในชั้นเชิง มวยไทย ( Muay Thai ) ในแต่ละภาค หนักเบา ดู ๆ ไปผิวเผิน เราหลาย ๆ คน ก็อาจจะมองว่า แตกต่างกัน ความเป็นจริงแล้ว ในสายตาคนในวงการ เขามองว่า นักมวย แต่ละคนฝีมือเชิงชั้น ความดุเด็ด เผ็ดเดือด ของลีลา ในการต่อยนั้น เป็นเรื่องของเฉพาะบุคคล เสียมากกว่า ทางมวยแต่ละภาค แต่ละค่าย ก็ไม่ค่อยมีผล สักเท่าใดนักค่ะ

 

 

 

 

มาดูกันว่า มวยไทย ( Muay Thai )  แต่ละภาค นั้นเป็นอย่างไร

 

มวยอีสานดูว่าเป็นมวยที่เรียกว่า บู๊ทรหด ร่างกายแข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนี้ทุกคน อย่างสมรักษ์มวยขอนแก่น ก็เป็นมวยฝีมือ แสนชัย ส.คำสิงห์ ก็เป็นมวยลูกฝีมือ หรือลงไปภาคใต้จะเน้นเป็นมวยเข่า ปล้ำตี

 

มวยไชยา ลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้ เป็นชื่อเรียกแม่ไม้ สอนการฟันศอก ตีเข่าเหมือนเป็นศิลปะมวยไทยของภาคใต้ ส่วนลีลา...ที่ว่าแตกต่างตามรายภาคจริงๆนั้นต้องดูกันที่ “การไหว้ครู” รูปแบบอาจจะเหมือนกัน พรหมสี่หน้า แต่ลีลาต่างกันแน่นอน ถ้าสังเกตให้ดี ๆ หมายความว่า มีพรหมนั่งพรหมยืนเหมือนกัน แต่ลีลาการไหว้ ก็จะไม่เหมือนกัน มวยเหนือ มวยใต้ มวยอีสาน”

 

โดยในสมัยก่อน ชายฉกรรจ์ไทยจะได้รับการฝึกฝนมวยไทยไว้เพื่อป้องกันตัวและชาติบ้านเมือง การใช้อาวุธ ไม่ว่าจะเป็นกระบี่ กระบอง พลอง ดาบ ง้าว ทวน เมื่อประกอบเข้ากับมวยไทยจะยิ่งทำให้การใช้อาวุธชนิดนั้น ๆ เกิด ประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการต่อสู้ในระยะประชิด

 

นอกจากนี้ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ใช้หลักพื้นฐานและทักษะการต่อสู้ในระดับต่าง ๆ ทั้งการรุกและ การรับ อย่างเช่น ท่าร่าง คือการเคลื่อนตัวและการเคลื่อนที่ ขณะที่ เชิงมวย นั่นก็ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในศิลปะมวย ไทย เชิงมวยคือ ท่าทางของการใช้นวอาวุธในการต่อสู้ซึ่ง แบ่งออกเป็น เชิงรุก ได้แก่ เชิงหมัด เชิงเตะ เชิงถีบ เชิงเข่า เชิงศอก และเชิงหัว ขณะที่เชิงรับ ได้แก่ การป้อง ปัด ปิด เปิด ประกบ จับ รั้ง เป็นต้น  ส่วนทาง ไม้มวย หมายถึง การผสมผสานการใช้หลักพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้เข้ากับท่าร่างและเชิงมวย ฯลฯ ซึ่งส่วนหนึ่งนี้ของเอกลักษณ์ศิลปะมวยไทยนับเป็นความล้ำค่าเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ายิ่ง

 

แต่มาถึงตรงนี้ ขอฟันธงแต่ไม่ฟันทิ้ง เลยนะว่า แม่ไม้ลีลา มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็น มวยภาคไหน ๆ ต้องต่อยแบบไหน ความต่างกัน อยู่ที่นักมวยแต่ละคน ที่จะฝึกปรือฝีมือ จนมีความเชี่ยวชาญ อย่างหนึ่งอย่างใดนั่นเอง โดย มวยไทย ( Muay Thai ) ที่บรรพบุรุษสร้างสรรค์ไว้เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่มีกลวิธี แม่ไม้เด็ด ๆ ในการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ทั้ง มือ เท้า เข่า ศอก และศีรษะ ที่รวมเรียกว่า นวอาวุธ อย่างผสมกลมกลืนทั้งในการต่อสู้ป้องกันตัวและเชิงกีฬา และควรช่วยกันอนุรักษ์สืบไป

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรง ทรงตัวได้ดี ต้องกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย สร้าง สุขภาพ ที่ดีได้

 

ออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย สร้าง สุขภาพ ที่ดีได้

ออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย สร้าง สุขภาพ ที่ดีได้

หากใครที่เริ่มสนใจ อยากหันมาลองฝึก กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ยังไม่รู้ว่า มันจะดี เทียบเท่ากับการ ออกกำลังกาย รึเปล่า หากคุณยังกังวลเรื่องนี้ เรามีคำแนะนำมาให้ กับ มวยไทย สร้าง สุขภาพ ที่ดีได้ มาดูกัน ว่ามีอะไรบ้าง

ออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย สร้าง สุขภาพ ที่ดีได้

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ถือเป็น กีฬา ที่ได้รับ ความนิยม เป็นอย่างมาก ไม่ใช้แค่ใน ประเทศไทย เพียงอย่างเดียว ที่ได้รับ ความนิยม แต่ยังรวมไปถึง หลาย ๆ ประเทศ ที่ได้ให้ ความสนใจ ในกีฬา มวยไทย ประเภทนี้ ไม่น้อยเลย ทีเดียว และได้เอาไปทำ ภาพยนตร์ หรือ สื่อต่าง ๆ อย่างเช่น เอาท่าทาง การต่อสู้ การต่อย หรือ ศิลปะการต่อสู้ ของ มวยไทย เอาไปทำ เป็นเกม แต่ถึงอย่างไร ก็ตาม มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น ในกลุ่มเด็ก หรือ ผู้สูงอายุ เพราะว่าด้วย เป็นกิจกรรม ออกกำลังกาย ที่สนุก และยังได้ เผาผลาญพลังงาน ร่างกาย จึงทำให้ กีฬา มวยไทย นั่น เป็นที่นิยม นั้นเอง

 

1. มวยไทย ช่วยเรื่องของ การเผาผลาญพลังงาน ของ ร่างกาย

แน่นอนว่าการ ออกกำลังกาย ทุกชนิดนั้น ช่วยในเรื่องของ การเผาผลาญพลังงาน ของ ร่างกาย ได้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น เป็นกีฬา ที่จัดอยู่ในกีฬาที่ เผาผลาญพลังงาน ของ ร่างกาย ได้ดีเลย ด้วยการที่ มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่จะใช้ แถบจะทุกส่วน ของ ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ยาวลงมา จนถึง เท้า นั้น จึงทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ เผาผลาญพลังงาน ให้กับ ร่างกาย ของเรา ได้มาก นั้นเอง และการ ออกกำลังกาย ประเภทนี้ จะช่วย สร้างความแข็งแรง ให้กับ ร่างกาย ได้อย่างรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และ กระตุ้นระบบเผาผลาญ ใน ร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับ การวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน ก็จะ เผาผลาญพลังงาน ได้มากกว่า แต่จะใช้เวลาน้อยลง สามารถ เบิร์นไขมัน ได้ถึง 13 แคลอรี่ ใน 1 นาที เลย ทีเดียว

 

2. มวยไทย ช่วยพัฒนา ความแข็งแกร่ง ของ ร่างกาย

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แน่นอนว่า สามารถไปช่วย ส่งเสริม ความแข็งแกร่ง ให้กับ ร่างกาย ของเรา ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ กล้ามเนื้อ เพราะยังทำให้ กล้ามเนื้อกระชับ นอกจากนี้ มวยไทย ยังเป็น กีฬา หรือ กิจกรรมการ ออกกำลังกาย ที่เน้นไปที่ ร่างกาย ช่วงบน ช่วงกลาง และ ช่วงล่าง ถ้าจะให้พูด ก็คือ มวยไทย นั้น เป็นกีฬาที่ช่วยให้ ร่างกาย เกือบจะทุกส่วน ของเรา แข็งแรง ขึ้นได้

 

3. มวยไทย สามารถช่วย เพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานของหัวใจ และ หลอดเลือด

มวยไทย ( Muay Thai ) หรือการ ฝึกมวย นั้น ถือเป็นกีฬา ที่จะช่วยให้เรา มีปอดที่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น และยังสามารถไป กระตุ้นการทำงาน ของระบบหัวใจ และ หลอดเลือด ได้เป็นอย่างดี เพราะ การที่จะทำเช่นนั้นได้ เราจะต้อง ออกกำลังกาย ให้หัวใจ และ ปอด มีความเครียด ในระดับปานกลาง ซึ่งจะทำให้หัวใจ และ ปอดของเรา ทำงานได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ ระบบการไหลเวียนโลหิต ทั่ว ร่างกาย เป็นไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเอง

 

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ ประโยชน์ ที่น่าสนใจ ที่จะส่งผลให้ ร่างกาย ของเรา โดยตรง ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่จะช่วย สร้าง สุขภาพ ร่างกาย ที่ดีได้ แต่นี่เป็นเพียงสิ่งที่เรา ยกตัวอย่างมา แค่เล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงเท่านั้น

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้อันดับ 1 ของโลก

ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรง ทรงตัวได้ดี ต้องกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้อันดับ 1 ของโลก

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้อันดับ 1 ของโลก

หากจะเอ่ยถึง มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คงไม่มีคนไทยคนไหน ที่ไม่รู้จัก อีกทั้ง มวยไทย ยังถือว่าเป็น ศิลปะแห่งการต่อสู้อันดับ 1 ของโลก ที่เราต่างต้องอนุรักษ์สืบไป

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง แต่ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) จะไม่เป็นที่รู้จักเลยหากปราศจากนักกีฬามวยไทยที่มีความกล้าหาญและมีความสามารถอย่างแท้จริง ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้ ก็มีสุดยอดนักกีฬาที่ดีที่สุดมากมายนับแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน บางคนผ่านสังเวียน kick boxing หรือ MMA มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็แล้วแต่ หากชื่นชมและนำศิลปะมวยไทยไปใช้และเผยแพร่แล้วเราต่างก็ถือว่า เป็นศิษย์สำนักเดียวกันทั้งสิ้น

 

 

 

“มวยไทย มรดกไทย มรดกโลก” เป็นคำที่แฟนมวย ทุก ๆ คน ต่างก็เคยได้ยิน และภาคภูมิใจ ในมรดก ทางวัฒนธรรม ทางด้านศิลปะการต่อสู้ ที่สืบทอดมาแต่โบราณ ซึ่งแต่โบราณกาลนานมานั้น มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็นวิชาที่สำคัญ ต่อชีวิต ของผู้คน ในสมัยนั้นมากมาย นั่นเพราะ ในยุคที่บ้านเมือง ต่างยังเต็มไปด้วย ศึกสงคราม มวยไทย ( Muay Thai ) จึงถือเป็นหนึ่งในอาวุธ ที่ใช้ป้องกันชาติ และยังเป็นใบเบิกทาง ของชายไทย เพื่อก้าวหน้า ในการไขว่คว้า เกียรติยศ และตำแหน่งต่าง ๆ ในทางทหารอีกด้วย เพราะฉะนั้น วิชา มวยไทย ( Muay Thai ) ในอดีตจึงเป็นศาสตร์หนึ่ง ที่สำคัญมาก จนต้องมีการ เสาะแสวงหาสำนัก หรือยอดครูมวย ที่จะประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ ถึงแม้ว่า จะแลกมา ด้วยความยากลำบาก มากเพียงใด ซึ่งต่างจากปัจจุบัน ที่มีค่ายมวย ได้เปิดสอน กันอยู่ทั่วทั้งเมืองเลยก็ว่าได้

 

สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยโบราณนั้น ได้เล่าขานกันมาว่า แบ่งออกเป็นสายต่าง ๆ ตามครูมวย ในแต่ละท้องถิ่น ส่วนที่ยอมรับกันมากที่สุด ว่าคือสุดยอดมวยของไทยนั้น มีสี่สายด้วยกัน โดยแต่ละสายนั้น ต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ตามคำกล่าวที่ว่า “หมัดหนักโคราช – ฉลาดลพบุรี – ท่าดีไชยา – ไวกว่าท่าเสา” ซึ่งจุดเด่น ของแต่ละสาย นั่นคือ

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) หมัดหนักโคราช

มวยโคราชเป็นสายที่ใช้ การฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่ง และบุกด้วยพละกำลังและความหนักหน่วง ที่คนรุ่นหลังอย่างเราได้ยินกันติดหูก็คือ “หมัดเขวี้ยงควาย” หรือ “หมัดเหวี่ยงควาย” นั่นเอง ถือเป็นมวยที่เน้นความแข่งแกร่งของร่างกายเป็นหลัก และจัดการคู่ชกด้วยความหนักหน่วง แบบว่าไม่ต้องลีลาเยอะ ขอเน้น ๆ ซักสองสามหมัดรู้เรื่องกันไปเลย

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ฉลาดลพบุรี

มวยลพบุรี นั้นเป็นมวยที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงและพลิกแพลง ฉลาดในการออกอาวุธ เคลื่อนตัวหลบหลีกได้คล่องแคล่วว่องไว ทั้งจังหวะออกอาวุธและป้องกัน อีกทั้งยังเป็นมวยที่ต้องฝึกฝนให้ใช้สายตาดีอีกด้วย ด้วยความที่มวยลพบุรีเป็นมวยที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงและการเคลื่อนที่และสายตา จึงเป็นมวยที่สามารถต่อยอดสู่มวยไทยสมัยใหม่และมวยสากลได้เป็นอย่างดี

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าดีไชยา

ยอดมวยจากแดนใต้ต้องยก ให้มวยไชยาเลย ซึ่งเป็นมวย ที่มีท่วงท่าการขึ้นมวย ที่สวยสง่างาม โดยจุดเด่นของมวยไชยา นั้นคือ รุกและรับ พร้อม ๆ กันไปในตัว ที่เรียกกันว่า “ป้อง ปัด ปิด เปิด” ด้วยทุกส่วนของร่างกาย ตามลักษณะท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมวยไชยายังมีการใช้เทคนิคการทุ่ม การทับ การจับ การหักเข้ามาร่วมอีก

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ไวกว่าท่าเสา

มวยท่าเสา หรือว่า มวยพระยาพิชัยดาบหัก นั่นเองค่ะ โดยมีต้นกำเนิดจากท่าเสา ( ปัจจุบันอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ) ถือเป็นมวยที่มีเอกลักษณ์ จะอยู่ที่การใช้ความว่องไว ทั้งในจังหวะหลบหลีกและการชิงจังหวะเข้าทำ โดยมีคำโบราณกล่าวถึงมวยสายนี้ว่า “มวยลาวแกมไทย ตีนไวเหมือนหมา” อันสื่อถึงความว่องไวของมวยท่าเสานั่นเอง

 

ปัจจุบันด้วยลักษณะความต้องการจากมวยเปลี่ยนไป และถูกนำมาใช้ในแง่ของการกีฬาและออกกำลังกายแทน ด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาจึงได้มีการนำจุดเด่นของมวยเหล่านี้มาฝึกผสมผสานกัน จนเป็นมวยไทยในปัจจุบัน ซึ่งไม่สามารถจะแยกเอกลักษณ์ของแต่ละสายได้เหมือนเมื่อก่อน แต่กลับมีความครบเครื่องมากกว่า ที่เรียกกันว่า “มวยพละศึกษา”นั่นเอง ซึ่งถือเป็นมวยที่สอนกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ก็ต้องบอกว่าที่มาของมวยไทยในวันนี้ ล้วนมีที่มาจากยอดมวยไทยสี่สายที่ได้รับการถ่ายทอดส่งต่อมาจากบรรพบุรุษของไทยเราทั้งสิ้น

 

บอกเลยว่า มวยไทย ( Muay Thai ) นี่สุดยอดจริง ๆ ไม่ว่าจะรุ่นไหน อายุเท่าไหร่ จะชาย หรือหญิง ก็สามารมาฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อร่างกาย ป้องกันตัว และยังได้สุขภาพดี หุ่นสวย ซิคแพกชัดกันทุกคนแน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

นายขนมต้ม สุดยอดตำนาน แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรง ทรงตัวได้ดี ต้องกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรง ทรงตัวได้ดี ต้องกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรง ทรงตัวได้ดี ต้องกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

การเลือก ออกกำลังกาย ด้วยการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม มากขึ้น เพราะสามารถ เพิ่มความแข็งแรง ความอดทน และ การทรงตัว ให้ดีขึ้นได้ อีกทั้ง ยังสามารถ เล่นได้ ทุกเพศทุกวัย ได้พัฒนาสมรรถภาพ ทางร่างกายด้วย

ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรง ทรงตัวได้ดี ต้องกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ใครที่กำลัง มองหา กิจกรรม การออกกำลังกาย ที่น่าสนใจ ขอแนะนำ การออกกำลังกาย ด้วยการ ต่อยมวย แบบ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ได้นำเอาศิลปะ การต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai ) มาปรับปรุง และ พัฒนาให้เข้ากับ ยุคสมัย กลายเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ได้รับความนิยม ที่สามารถ ช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนัก รวมถึง ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความอดทน และ การทรงตัว ร่างกาย ให้ดีมากยิ่งขึ้น 

 

การออกกำลังกาย ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่จำเป็น ต้องมีคู่ซ้อม สามารถ ต่อยลม ชกอากาศออกหมัด ได้อย่างอิสระ โดยชกตามจังหวะ และ รูปแบบต่าง ๆ ที่ครูฝึก ได้แนะนำ รวมทั้ง การใช้ศอก การเตะ ทำให้ได้รู้จัก กับท่าทาง และ ลีลาของ มวยไทย ( Muay Thai ) ไปด้วยในตัว ซึ่งหาก ได้ออกกำลัง ด้วยการ ต่อยมวย คุณจะได้ใช้ ร่างกาย เกือบทุกส่วน ที่สามารถ เบิร์นไขมัน ได้กระจาย เลยทีเดียว

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่เหมือนกับ การออกกำลังกาย ประเภทอื่น ๆ เพราะการ ต่อยมวย จะเป็นกิจกรรม ที่ใช้เวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาที แต่มีความต่อเนื่อง การเคลื่อนไหว เน้นหนักเป็น จังหวะสั้น ๆ เหมือนการ ออกกำลังกายแบบ HIIT ( High-Intensity Interval Training ) ที่ออกกำลังกาย อย่างหนัก ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้การต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ ได้พัฒนา พลังกล้ามเนื้อส่วนบน และ ส่วนล่าง โดยเฉพาะ เวลาที่ขยับแขน และ ไหล่ จะเป็นการเพิ่ม ความแข็งแรง ร่างกายด้านบน และ ในขณะที่ใช้ขาเตะ จะเป็นการ พัฒนา กล้ามเนื้อลำตัว กล้ามเนื้อขา และ กล้ามเนื้อหลัง ทำให้มีความ แข็งแรงมากขึ้น กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้อัตรา การเผาผลาญ พลังงาน มากขึ้นไปด้วย ทำให้มี พละกำลัง มากขึ้น

 

สำหรับมือใหม่ ที่สนใจ อยากเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) ควรเริ่มต้น จากการ ชกมวยแบบเบา ๆ ไม่หนักมาก ไม่รุนแรงมาก เมื่อร่างกาย เริ่มปรับตัวได้แล้ว จึงค่อย ๆ เพิ่มระดับ ความรุนแรงขึ้น ตามที่ร่างกาย จะทนไหว เพื่อพัฒนาสมรรถภาพ ร่างกายของตนเอง ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และ ที่สำคัญ ไม่ควรหักโหม หรือ เคลื่อนไหวร่างกาย แบบฉับไวจนเกินไป เพราะอาจทำให้ บาดเจ็บบริเวณ หลัง เข่า สะโพก และ ไหล่ได้

 

เห็นไหมว่า การออกกำลังกาย ด้วยการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) น่าลอง มากแค่ไหน ใครที่อยาก พัฒนาความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ อยากลองต่อยมวย เรามีที่ดีๆ อย่าง “เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ให้คุณได้มาลองกัน จะมาเดี่ยว หรือ มาเป็นกลุ่ม ก็พร้อมให้บริการ เข้ามาตอนไหน คลาสจะเริ่มทันที

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

4 ท่าไม้ตาย มวยไทย น็อคเอ้าท์ คู่ต่อสู้

ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ มวยไทย

สาวๆยุคใหม่ เล่นมวยไทยไว้ฟิตหุ่น

สาวๆยุคใหม่ เล่นมวยไทยไว้ฟิตหุ่น

ในปัจจุบัน สาวๆหลายคนได้เริ่มรู้จักกับการใช้ศิลปะของไทยมาเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกาย เราไปทำความรู้จักกับมวยไทยให้มากขึ้นกว่าเดิมกันดีกว่า

การออกกำลังกายด้วยมวยไทย คืออะไร? 

มวยไทย Muay Thai เป็นการออกกำลังกายที่ใช้ทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น การชก ศอก ผลัด ตบ ดัน ดึง หรือกระชาก ทำให้เราได้ใช้ทุกๆส่วนในการออกกำลังกาย

เริ่มต้นออกกำลังกายด้วยมวยไทยยังไงดี ?

  1. เริ่มจากวิธีช้าๆไปก่อน ให้ร่างกายได้คุ้นเคย และปรับตัว จะได้ไม่ทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ

  2. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าต้องกานจะลดน้ำหนัก เพิ่มความฟิต หรือเอาแค่สนุกสนาน

  3. ต้องออกกำลังกายให้ได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2-3 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30-60 นาทีเป็นต้น

  4. ชุดที่ใส่ในการเล่น ควรเป็นชุดที่สะดวกต่อการเคลื่อนไหว และสามารถเคลื่อนไหวได้ดี 

  5. เตรียมเครื่องดื่ม เช่นน้ำดื่มให้เหมาะสมทั้งก่อน และหลังออกกำลังกาย หรือระหว่างการออกกำลังกายอยู่

แต่หากใครอยากออกกำลังกายด้วยมวยไทย Muay Thai แบบจริงจัง หรือต้องการที่จะมีครูสอน ต้องไปออกกำลังกายที่นี่เลย เจริญทอง มวยไทย ยิม ที่บอกได้เลยว่า ครูสอนใจดี มีบริการแบบครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษาทุกๆท่านอย่างเต็มใจ พิกัดอยู่ที่ 98/3-10 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร รีบไปฟิตหุ่นกันได้เลย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

4 ท่าไม้ตาย มวยไทย น็อคเอ้าท์ คู่ต่อสู้

ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ มวยไทย

4 ท่าไม้ตาย มวยไทย น็อคเอ้าท์ คู่ต่อสู้

4 ท่าไม้ตาย มวยไทย น็อคเอ้าท์ คู่ต่อสู้

ทุกคนคงรู้กัน อยู่แล้วว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ ที่อยู่คู่กับคนไทย มาอย่างยาวนาน และมีชื่อเสียง ที่โด่งดัง ไปทั่วโลก และวันนี้ บทความ ของเรา จะพาทุกคน ไปรู้จักกับ ท่าไม้ตาย ของ มวยไทย ที่สามารถ น็อคเอ้าท์ คู่ต่อสู้ ได้

4 ท่าไม้ตาย มวยไทย น็อคเอ้าท์ คู่ต่อสู้

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะของการต่อสู้ ที่สามารถ นำมา ป้องกันตัว ได้จริง รวมถึง สามารถนำไป ใช้ได้ ทั้งใน การต่อสู้ และใน กีฬา ศิลปะประเภทนี้ บรรพบุรุษของ ชาติไทย ใช้อบรมสั่งสอน และ สืบทอดกันมา ให้คงดำรงอยู่ ตลอดไป บรรดาชายฉกรรจ์ จะได้รับการ สั่งสอน ฝึกฝน ศิลปะการต่อสู้ ประเภทนี้ อย่างเข้มงวด

 

ไม้มวย เป็นการใช้อวัยวะต่าง ๆ ประกอบกับ การเคลื่อนไหวร่างกาย ที่ผสมกลมกลืน ในการ รุก และ รับ ซึ่งก็คือ การเข้ากระทำต่อ คู่ต่อสู้ และ การป้องกันตัว ซึ่งนับว่า เป็นศิลปะ ที่มีการประยุกต์ใช้ ให้เกิดผล ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

 

- แม่ไม้  คือ ท่าครู ที่เป็น ท่าย่างสามขุม ที่มีองค์ประกอบของ การต่อสู้  และ การป้องกันตัว พร้อมแต่ละครู แต่ละสำนัก จะกำหนดท่าขึ้น  อันเป็นแบบอย่าง ของแต่ละคนไป

- ลูกไม้ หรือ ไม้มวยไทย มีทั้ง ไม้เด็ด ไม้ตาย และ ไม้เป็น

- ไม้เด็ด คือ ลูกไม้ ที่มีประสิทธิภาพ  และ มีอันตรายสูง ต่อ คู่ต่อสู้

- ไม้ตาย คือ ไม้มวย ที่เมื่อฝ่าย ที่กระทำ ใช้ไม้นี้ออกไป ผู้ถูกกระทำ จะไม่สามารถ ป้องกันแก้ไขได้

- ไม้เป็น  คือ ไม้มวย ที่เมื่อฝ่ายหนึ่ง ใช้ออกไป  อีกฝ่ายหนึ่ง สามารถป้องกัน แก้ไขได้ ถ้าหากรู้วิธี

 

  1. มวยไทย ท่าจระเข้ฟาดหาง

เป็น ไม้มวย ที่ใช้ตอบโต้ ปรปักษ์ ด้วยการ เหวี่ยงแข้ง ฝ่ายแดง หมุนตัว กลับหลัง ไปทางขวา ด้วยขาซ้าย โน้มตัวลงต่ำ แล้วใช้ขาขวา เหวี่ยงสูงเ ข้าใส่บริเวณ ก้านคอของ ฝ่ายน้ำเงิน เป็นการตอบโต้ ฝ่ายน้ำเงิน ก่อนที่ จะกระทำต่อ ฝ่ายแดง

 

  1. มวยไทย ท่าไต่เขาพระสุเมรุ

เป็น ไม้มวย ที่ใช้ ป้องกันตัว และ ตอบโต้ เมื่อ คู่ต่อสู้ เหวี่ยงแข้ง ฝ่ายแดง จะยกขาขวา เพื่อใช้ แข้งเหวี่ยง เข้าลำตัว ฝ่ายน้ำเงิน และ ฝ่ายน้ำเงิน  กระโดดขึ้น เหยียบบนขาขวา ท่อนบน ฝ่ายแดง ด้วยเท้าขวา และ บนไหล่ซ้าย ฝ่ายแดง ด้วยเท้าซ้าย เป็นการป้องกันตัว ในขณะเดียวกัน ก็ใช้ศอกขวา ปักลงไปบนศีรษะ ของ ฝ่ายแดง โดยเป็นการตอบโต้

 

  1. มวยไทย ท่ายกเขาพระสุเมรุ

เป็น ไม้มวย ที่ใช้ ป้องกันคู่ต่อสู้ เหวี่ยงแข้ง และ ตอบโต้ ด้วยการ จับทุ่ม ฝ่ายแดง ใช้ขาขวา เหวี่ยงแข้งสูง เข้าบริเวณลำคอด้านซ้าย ของ ฝ่ายน้ำเงิน  และ ฝ่ายน้ำเงิน หลบลำตัวต่ำ พร้อมทั้งสืบเท้าซ้าย ไปข้างหน้า แล้วใช้ฝ่ามือขวา กันขาขวา ฝ่ายขาวไว้ เป็นการป้องกันตัว ในขณะเดียวกัน ก็ใช้มือซ้าย โอบขาขวาฝ่ายแดง ไว้ยกขึ้นใส่บ่า แล้วยกขาขวา ฝ่ายแดง ให้ขึ้นสูง พร้อมกับ ดันไปข้างหน้า ทำให้ ฝ่ายแดง เสียหลักล้มลงได้ โดยเป็นการตอบโต้

 

  1. มวยไทย ท่าดับชวาลา

เป็น ไม้มวย ที่ใช้ ป้องกันหมัด พร้อมกับ ตอบโต้ในภาพ ฝ่ายขาว ใช้หมัดขวาทิ่ม ไปตรงหน้าของ ฝ่ายน้ำเงิน และ ฝ่ายน้ำเงิน ใช้แขนซ้ายท่อนล่าง ขึ้นกัน และ ผลักหมัดของ ฝ่ายแดง ออกไปทางซ้าย เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกัน ก็ใช้ หมัดขวา ทิ่มตรงไป ยังใบหน้าของ ฝ่ายแดง โดยเป็นการตอบโต้

 

เป็นยังไงกันบ้าง ท่าไม้ตาย มวยไทย ( Muay Thai ) น็อคเอ้าท์ คู่ต่อสู้ เท่สุด ๆ ไปเลย ใช่ไหมล่ะ ใครที่เป็นสาวก มวยไทย มาฝึกกันได้นะ ที่ เจริญมวยไทยข้าวสาร หรือถ้าใคร ที่ต้องการ จะรู้จัก มวยไทย ให้ลึกซึ้งกว่านี้ ก็สามารถ ไปเรียน และสอบถาม กันได้ อีกด้วย

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ มวยไทย

ยืดร่างกาย เหยียดกล้ามเนื้อ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

 

ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ มวยไทย

ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ มวยไทย

หากพูดถึง ศิลปะการต่อสู้ เพื่อ ป้องกันตัว ก็คงหนีไม่พ้น มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เป็นศาสตร์ ที่สืบทอดกันมา อย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบัน ได้มีการนำมาใช้ ด้านกีฬา เพื่อฝึกฝน ร่างกาย ของเรา มี สุขภาพ แข็งแรง นั่นเอง

ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ มวยไทย

ศิลปะการต่อสู้ เพื่อ ป้องกันตัว ก็คือ ศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่เน้นการเรียน เพื่อฝึกฝน ด้านการต่อสู้ กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า และ การป้องกันตัว เพื่อให้ตนเอง พ้นภัย ซึ่ง มวยไทย” ( Muay Thai ) ที่เป็น ศิลปะการต่อสู้ ที่มีมา อย่างยาวนาน มีการใช้ มวยไทย ตั้งแต่ สมัยสงคราม เพื่อออกรบ ต่อสู้กัน จนในปัจจุบัน ได้นำมาประยุกต์ ใช้ในการ ออกกำลังกาย เพื่อให้ ร่างกาย แข็งแรง หรือแม้กระทั่ง ฝึกฝนจิตใจ ของเรา

 

วิธีการ ต่อสู้ เพื่อ ป้องกันตัว มีความสำคัญ อย่างมาก โดยเฉพาะเรา ที่สามารถ ที่จะป้องกันอันตราย ที่จะเกิดขึ้นกับเราได้ เมื่อมีภัย และต้องเจอกับ เหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิดขึ้น ส่วนมาก ศาสตร์แห่ง ศิลปะการต่อสู้ แบบฉบับ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สามารถ นำมาใช้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่มีการใช้ท่า ที่ผสมผสาน โดยการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก เพื่อ การรุก หรือ รับ ในการ ต่อสู้ด้วย ในการจะใช้ ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ได้อย่างชำนาญ จะต้องผ่าน การฝึก หมัด เท้า เข่า ศอก ในแต่ละอย่าง ให้มี ความคล่องแคล่ว ว่องไว ก่อน จากนั้น จึงจะหัดใช้ผสมผสาน กันไปทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก และ ศิลปะการหลบหลีก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ แบบดั้งเดิม ของไทย ที่ใช้ ร่างกาย ทุกส่วน เป็นอาวุธ ตั้งการเตะ ที่รุนแรง และหนัก การศอก การตีเข่า ที่ใช้ทักษะ การเคลื่อนไหวของ ร่างกาย เป็นการ ต่อสู้ ที่ทรงพลัง ใช้ความรวดเร็ว ในการ เข้าจู่โจม ผู้ต่อสู้ ต้องใช้สมาธิ ในการ ป้องกันตัว และ การตอบโต้

 

ศิลปะการต่อสู้ ในแบบ มวยไทย ( Muay Thai )

 

1. สลับฟันปลา เป็น มวย ( Muay ) ที่ใช้ในการ ป้องกันตัว และ หลบหลีกอาวุธ ของ คู่ต่อสู้ โดยใช้การเคลื่อนไหว ของ ร่างกาย และแขน ในลักษณะ สลับฟันปลา ก่อนที่จะหาโอกาส ตอบโต้ในจังหวะ ที่เหมาะสม

2. ปักษาแหวกรัง ใช้ ป้องกันตัว และ โต้ตอบคู่ต่อสู้ เมื่อคู่ต่อสู้ จู่โจมด้วยการปล้ำ และกอดรัด เมื่อถูกคู่ต่อสู้ กอดรัด ยกแขนทั้งสองข้าง สอดเข้ากลาง ระหว่างแขน ของคู่ต่อสู้ พร้อมกันนั้น ก็ใช้เข่า ยัดหรือแทงเข่า เข้าไปที่ลำตัว ของ คู่ต่อสู้ เพื่อเป็นการตอบโต้

3. ชวาซัดหอก เป็นการ ป้องกันตัว จากหมัดของ คู่ต่อสู้ และตอบโต้ ด้วยศอก ใช้เท้าซ้าย ขยับไปข้างหน้า พร้อมกับ ใช้ศอกซ้ายเหวี่ยง หรือ กระทุ้งเข้าที่กลางลำตัว ของ คู่ต่อสู้

4. อิเหนาแทงกริช เป็นการ ป้องกันตัว จากหมัดของ คู่ต่อสู้ และตอบโต้ ด้วยเข่า โดยใช้ฝ่ามือขวา กันแขนของ คู่ต่อสู้ ออกไปทางซ้าย แล้วใช้เข่าซ้าย แทงเข้าที่กลางลำตัว ของคู่ต่อสู้

5. ยกเขาพระสุเมรุ เป็น มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ ป้องกันตัว เมื่อ คู่ต่อสู้ เหวี่ยงแข้ง และตอบโต้ ด้วยการจับทุ่ม ใช้มือซ้าย โอบขาขวา ฝ่ายคู่ต่อสู้ ไว้ยกขึ้นใส่บ่า แล้วยกขาขวา ฝ่ายคู่ต่อสู้ขึ้นสูง พร้อมกับ ดันไปข้างหน้า ทำให้อีกฝ่าย เสียหลักล้มลง นั่นเอง

 

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาประเภทหนึ่ง ที่ผู้คนยังนิยมกัน เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น คนไทย หรือชาวต่างชาติ และในปัจจุบัน ก็มี สนามมวย หรือ ฟิตเนส ( Fitness ) เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างมากมาย ให้ทุกคน ได้เลือก ออกกำลังกาย ดูแล สุขภาพ กันมากยิ่งขึ้น

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ยืดร่างกาย เหยียดกล้ามเนื้อ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

ความพิเศษของกีฬา มวยไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่ หมัด

ยืดร่างกาย เหยียดกล้ามเนื้อ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

ยืดร่างกาย เหยียดกล้ามเนื้อ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

การยืดกล้ามเนื้อ ให้ร่างกาย ก่อนการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องทำทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจมีความเสี่ยง เกิดอาการบาดเจ็บได้ วันนี้ เราจะมาลอง ยืดกล้ามเนื้อแบบใหม่ ๆ กันบ้างดีกว่าค่ะ รับรองว่า ทุกคนจะสนุก และ ปลอดภัยแน่นอน

ยืดร่างกาย เหยียดกล้ามเนื้อ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่าเป็น มากกว่า กีฬาทั่ว ๆ ไป มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นศิลปะ ป้องกันตัว ประจำชาติไทย ที่มีความเป็นมา ยาวนาน และ ได้รับความนิยม ยอมรับ จากนานาประเทศด้วย เพราะว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา และ ศาสตร์ป้องกันตัว ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว จึงต้องใช้ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ ผสมผสาน กับท่วงท่าต่าง ๆ ในวันนี้ เราจะมาแนะนำท่วงท่า จากแม่ไม้มวยไทย มาประยุกต์ กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อกัน

 

1) ท่ากระโดดสูง ใน มวยไทย ( Muay Thai )

ท่านี้ เราจะต้อง กระโดด ให้เหมือนกับ นักมวย ต้องเอาต้นขาด้านหน้า และ หัวเข่า ไปสัมผัส ที่หน้าอก โดยเริ่มจากท่ายืน เตรียมกระโดด หลังจากนั้น ให้กระโดดลอยตัว ให้หน้าขา ทั้งสองข้าง ไปแตะกับ หน้าอก ให้ทำท่านี้ ประมาณ 3 - 5 นาที กล้ามเนื้อ ส่วนที่ได้รับ การยืดเยียด คือ ขาทุกส่วน ท่านี้ถือว่า เป็นท่ายืดเหยียด กล้ามเนื้อ ระดับสูง ควรเริ่มต้น จากการ ฝึกกระโดด แบบเบา ๆ ไปก่อน หากฝึกบ่อย ๆ แล้ว ก็จะสามารถ ทำท่านี้ ได้อย่าง สมบูรณ์ได้ในที่สุด

 

2) ท่าแทงเข่า ใน มวยไทย ( Muay Thai )

ควรหาบาร์จับ ที่มีระดับความสูง พอดีกับ หน้าอก ให้ยืดแขน ทั้งสองข้าง ให้ตรงไปจับบาร์  ยืดตัวให้ตรง เอนไปทาง ด้านหลัง เล็กน้อย จากนั้น ให้แทงเข่า ออกไปด้านหน้า ทำสลับซ้าย สลับขวา โดยเริ่มจาก จังหวะช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มจังหวะ ให้เร็วขึ้น ทำท่านี้ ประมาณ 8 - 10 นาที จนได้เหงื่อ กล้ามเนื้อส่วนที่ ได้รับการยืดเหยียด คือ กล้ามเนื้อต้นขา และ หน้าท้อง ท่าแทงเข่า เป็นท่าออกกำลังกายที่ดี ควรฝึก ให้มีระดับความเร็ว มากขึ้นเรื่อย ๆ จะให้ความรู้สึก เหมือนวิ่งอยู่กับที่ แต่ได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มากกว่า การวิ่ง

 

3) ท่าเตะสูง ใน มวยไทย ( Muay Thai )

ท่านี้ ควรยืนตรงให้มั่น จากนั้น ให้เอาขาข้างขวา ไปด้านหลัง เป็นท่าเตรียมพร้อม จากนั้น ให้เตะขาขวา ไปด้านหน้า ให้แตะกับปลายนิ้วมือซ้าย ที่เราเหยียดไปทางด้านหน้า เมื่อขาขวา สัมผัสกับปลายนิ้วมือซ้ายแล้ว  ให้เอาขาขวา กลับมาอยู่ทางด้านหลัง ตำแหน่งเดิม ในท่าเริ่มต้น จากนั้น ทำสลับอีกข้าง ด้านซ้าย และขวาด้านละ 10 - 15 ครั้ง สำหรับผู้ที่ เริ่มฝึก อาจจะเริ่มต้น ด้วยการเตะขา ในระดับต่ำ ๆ ก่อน แล้วค่อยฝึกเตะ ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ กล้ามเนื้อ ส่วนที่ได้รับการยืด คือ เอ็นหลังหัวเข่า และ น่อง ท่าเตะก้านคอ เป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้าง และยืดเหยียดกล้ามเนื้อขา ได้อย่างดี

 

หลังจากที่กล่าวมา หวังว่าจะมีประโยชน์ สำหรับ การยืดกล้ามเนื้อ ก่อนการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) และ อย่าลืมทานอาหารที่มีประโยชน์ ต่อร่างกายด้วยนะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ความพิเศษของกีฬา มวยไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่ หมัด

กว่าที่ มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง ควรทานแบบไหน

ความพิเศษของกีฬา มวยไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่ หมัด

ความพิเศษของกีฬา มวยไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่ หมัด

ถ้าหากพูดถึง กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) แล้ว เพื่อนๆ ก็คงเคย ได้ลองเล่น หรือ ฝึกซ้อมกีฬา ชนิดนี้ กันมาบ้างแล้ว เชื่อว่าหลายคน คงเคยลอง โดยเฉพาะสาวๆ ที่เริ่มหันมาสนใจกีฬา มวยไทย กันมากขึ้น แต่ความพิเศษ ของกีฬา มวยไทย ไม่ได้มีดีแค่ หมัด แต่มีอะไรมาดูกัน

ความพิเศษของกีฬา มวยไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่ หมัด

มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจาก จะทำให้ ร่างกาย แข็งแรงแล้ว ยังถือเป็น การฝึก วิชาป้องกันตัว อีกด้วย มวยไทย ถือเป็นหนึ่ง ในกีฬา ประจำชาติไทย และ เพื่อให้เพื่อน ๆ เข้าใจใน กีฬา มวยไทย กันมากขึ้น เจริญทองมวยไทย เลยมีเรื่องเล่า ของ กีฬา มวยไทย มาฝากเพื่อน ๆ กัน

 

เรื่องราวประวัติของ วันมวยไทย ที่เกิดขึ้นมา ตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเลือกวันที่ สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ ที่ 8 ( หรือ สมเด็จพระเจ้าเสือ ) เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ องค์ที่ 29 แห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงปรีชาสามารถ ด้าน มวยไทย ( Muay Thai ) อย่างมาก และ เป็นที่ยอมรับ จึงทำให้ คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบ ตามที่ กระทรวงวัฒนธรรม เสนอให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น วันมวยไทย นับตั้งแต่ ปี 2554 และ มวยไทย ( Muay Thai ) จึงถือเป็น มรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมของชาติ เพราะ นอกจากจะเป็น กีฬา แล้ว มวยไทย ยังสามารถ นำมาใช้ช่วย ป้องกันตัว ได้ และยังมี ความพิเศษ ประโยชน์ อื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้

 

1. มวยไทย ช่วยสร้างความแข็งแกร่ง ของร่างกาย

การเตะ กระโดด ใช้ฝีเท้า ในการ หลบหมัด และ การชก ทั้งหมดนี้ ต้องใช้พลังงาน และ ความแข็งแกร่ง อย่างมหาศาล เพราะว่า ต้องทำซ้ำกัน หลายครั้ง จึงช่วยเสริม สร้างความแข็งแกร่ง ของ กล้ามเนื้อ ทำให้ กล้ามเนื้อกระชับ และยัง เพิ่มการฝึกทักษะ ที่เกี่ยวข้อง อย่าง การทรงตัว การทำงาน ประสานกันของ อวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้ และ ความคล่องตัว นั่นเอง

 

2. มวยไทย ช่วยเบิร์นไขมัน

การชกมวย อาจเป็น ทางเลือกใหม่ ในการ ออกกำลังกาย ในแบบ High-intensity Interval Training หรือการ ออกกำลังกาย แบบความเข้มข้นสูง ที่จะช่วยให้ สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลัง มากยิ่งขึ้น และยังกระตุ้น ระบบเผาผลาญ ใน ร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับ การวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน ก็จะ เผาผลาญพลังงาน ได้มากกว่า แต่จะใช้ เวลาน้อยลง จึงสามารถ เบิร์นไขมัน ได้ถึง 13 แคลอรี่ ใน 1 นาที

 

3. มวยไทย ช่วยระบายความเครียด ได้ดี

หากเพื่อน ๆ ต้องทำงาน ที่ต้องเครียด มาตลอดทั้งวัน การได้มา ออกกำลัง ด้วยการ ชกกระสอบทราย ระบายอารมณ์ ออกมาบ้าง ก็จะทำให้มี อะดรีนาลีน และ ฮอร์โมน ต่าง ๆ ที่หลั่งออกมา ระหว่าง การใช้แรง จึงส่งผลใ นทางที่ดีต่อ ร่างกาย การต่อยมวย จึงเป็น การระบายความเครียด ที่ได้ผล และดีต่อ สุขภาพ เราอีกด้วย

 

4. มวยไทย ช่วยฝึก ความแข็งแกร่ง ของร่างกาย

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่โหดทรหด มาก ๆ จึงจำเป็น ต้องอาศัย การฝึก ร่างกาย ของเรา ให้แข็งแกร่ง ทุกสัดส่วน ทั้งช่วงบน ช่วงกลาง และ ช่วงล่าง และ มีช่วงกลางลำตัว ที่แข็งแกร่ง และมีแขน ที่ทรงพลัง

 

ทุกคน คงจะเห็นถึง ความพิเศษ และ ประโยชน์ แบบจัดเต็ม ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) กันแล้ว สนใจลองมา เพิ่มพลัง ความแข็งแกร่ง ของ ร่างกาย ด้วย กีฬา มวยไทย ที่ เจริญมวยไทย ข้าวสาร กันไหม จะได้ สุขภาพดี และได้ ความสนุก อย่างเต็มที่ แน่นอน

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กว่าที่ มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง ควรทานแบบไหน

การทรงตัว เทคนิค ที่สำคัญ ในการ ฝึกฝน มวยไทย ( Muay thai )

 

 

กว่าที่ มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง ควรทานแบบไหน

กว่าที่ มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง ควรทานแบบไหน

หลายคนที่เห็นหุ่นของนักมวย คงอยากรู้ใช่ไหม ว่าทำไมหุ่นดีจังนะ เพราะกว่าที่ มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง หุ่นเฟิร์มขนาดนั้น ควรทานอาหารแบบไหน

 

เราต่างทราบกันดี ถึงความแข็งแกร่ง ความทนทาน ของการออกอาวุธใน มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ว่า การกินอาหารล่ะ ? ก็สำคัญมาก ๆ ไม่แพ้กันเลยนะ ทีนี้ เราเลยอยากมาดู มาเจาะลึกกันว่า ทำไมนักมวย เค้ามีวิธีทาน อาหาร กันอย่างไร ควรทานแบบไหน ? ประโยชน์สำคัญ คือทุก ๆ คน นั้นก็สามารถ นำไปปรับใช้ได้ด้วย ไปดูกันเลยดีกว่า

 

ถ้าหากคุณได้ลองสังเกตุดู นักกีฬาอาชีพเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทไหน ๆ ต่างให้ความสำคัญในเรื่องของอาหารการกินพอ ๆ กับการฝึกซ้อมของพวกเขาเลย ดังจะเห็นได้จากบทสัมภาษณ์ ของพวกเขาเมื่อถูกสื่อถาม หนึ่งในคำตอบเหล่านั้นคือเรื่อง ของสารอาหารที่กินนั่นเองค่ะ โดยเฉพาะในเหล่า นักมวย ทั้งนักมวยอาชีพ และนักมวยไทย ที่ต้องมีการทำน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นหรือจะเป็นการลดน้ำหนักลง เพื่อให้เข้าเกณฑ์ตามรุ่นที่ลงไว้ พวกเขามีวิธีการกินอย่างไร ? ทำไมถึงได้แข็งแรง วันนี้เรามาดูถึง การกินและสารอาหารที่พวกเขากินในแต่ละวันกันดีกว่า

 

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ทำไมอาหารการกินถึงสำคัญต่อ นักมวยไทย ?

นักมวยไทย ในแต่ละคนจะรู้ว่าเมื่อถึงเวลาเก็บตัว ในระหว่างช่วงที่มีการแข่งขันนั้น วินัย ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง วินัยในที่นี้ไม่ใช่แค่เรื่องการฝึกซ้อมเป็นอย่างหนักทุก ๆ วัน แต่ว่ารวมไปถึงการกินอยู่หลับนอนด้วย การที่นักมวยคนหนึ่งนั้นจะเพิ่มหรือลดน้ำหนักได้นั้น ส่วนสำคัญที่สุดก็ไม่ใช่การออกกำลังกายแต่ว่าเป็นการกินและการเลือกสารอาหารที่กิน

 

 

 

 

โดยทางโค้ชก็จะทำการวางแผนการกินและสารอาหาร ที่กินได้ให้นักมวยแต่ละคน ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการลดไขมันเท่านั้น แต่ว่าเป้าหมายที่สำคัญเลย คือการสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ โชคดีที่ว่าอาหารไทยของเรานั้นก็ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว หน้าที่ของนักมวยไทยนั้น แค่กินอาหารตามที่โค้ชวางแผนเอาไว้ เลี่ยงพวกอาหารขยะทั้งหลายในช่วงทำน้ำหนัก อาหารการกินของนักมวยไทย ก็จะเน้นไปที่ ข้าว ผัก (ทุกประเภท) ปลา เนื้อวัว เนื้อไก่ และมีผลไม้เป็นอาหารว่าง และส่วนมากก็จะกินก่อนการฝึกหรือว่าหลังการฝึก ประมาณ 2 ชั่วโมง

 

5 สารอาหาร ที่ร่างกายขาดไม่ได้สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง ?

1. โปรตีน

โดยโปรตีนเป็นแหล่งสารอาหาร ที่นักมวยไทยทุกคนโหยหา การกินโปรตีน หลังจากการซ้อมเสร็จ 2 ชั่วโมง จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้กับนักมวยไทยได้เป็นอย่างดี และยังเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายดูดซึมโปรตีนและสารอาหารต่าง ๆ ได้ดี ช่วงเวลานี้แหละที่ร่างกายก็จะกระตุ้นการเผาผลาญอาหารได้เป็นอย่างดี สำหรับนักมวยไทย หรือนักกีฬาอาชีพพวกเขาจะเลี่ยงการกินเนื้อหมู เพราะว่า เนื้อหมูมีปริมาณไขมันค่อนข้างสูง จะเน้นการทานเนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อปลา

 

2. ผักและผลไม้

ถือเป็นแหล่งรวมวิตามินชั้นดี ที่มีอยู่ในผักและผลไม้ ยิ่งถ้าในหนึ่งมื้อเราสามารถกินผักได้หลากหลายสี จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย วิตามินและแร่ธาตุก็ถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย นอกจากวิตามินและแร่ธาตุที่เราจะได้จากผักและผลไม้แล้ว ในผักและผลไม้ยังมีกากใยที่ดี เป็นการส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายของเราอีกด้วย

 

3. อาหารเสริม

โดยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับนักมวย ทั้งนักมวยไทยหรือนักมวยอาชีพ เพราะว่า นอกจากโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไฟเบอร์แล้ว การกินอาหารเสริมจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ถูกทำลายระหว่างแข่งขันหรือในช่วงระหว่างการฝึกซ้อม เช่น เคอร์คูมินสามารถช่วยต่อสู้กับอาการอักเสบ ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และเร่งกระบวนการฟื้นตัวให้กับนักมวย

 

4. คาร์โบไฮเดรต

ซึ่งคนทั่ว ๆ ไป “ส่วนมาก” เข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องคาร์โบไฮเดรต เมื่อพูดถึงการลดน้ำหนักหรือว่าควบคุม น้ำหนัก ส่วนใหญ่แล้วจะงดการกินแป้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิด หากเราไม่รับประทานคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งเลย ร่างกายของเราจะดึงสารอาหารจำพวกโปรตีนและไขมันมาเผาผลาญแทน ฟังเผิน ๆ อาจจะคิดว่าดี เพราะว่า เอาไขมันมาเผาผลาญจะได้ไม่อ้วน แต่ถ้าเจ้าไขมันและโปรตีนที่กำลังไปสร้างกล้ามเนื้อให้กับร่างกายของเราอยู่นั้น ถูกร่างกายดึงมาเผาผลาญแทนแป้ง ก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อกล้ามเนื้อได้ และอาจจะมีอาการโหยคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งตามมา ทำให้เราอยากทานของหวานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

5. น้ำ

สำหรับการฝึกซ้อมของนักมวยไทยอย่างหนัก ทำให้นักกีฬาเสียเหงื่อ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอจะส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ และส่งผลเสียต่อการฝึกซ้อมอีกด้วย

 

ตัวอย่างการจัดโปรแกรมการทานอาหาร แบบนักมวยไทย ขออธิบายดังนี้

มื้อเช้า ทานไข่ขาวปั่นกับข้าวโอ๊ต เนื้ออกไก่ต้มหรือจะจี่ในกระทะที่ไม่ใส่น้ำมันก็ได้

มื้อกลางวันและมื้อเย็น ให้เน้นโปรตีนและผัก เช่น อกไก่ ปลานึ่ง ฟักทองต้ม แครอทต้ม เลี่ยงการกินแป้งขัดขาว แต่ไม่ใช่ไม่ทานเลย อาจจะกินขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นแทนการกินข้าวได้

มื้อว่าง มันจะเน้นเป็นผลไม้ เช่น อโวคาโด้ โยเกิร์ต โปรตีนเชค ผลไม้จำพวกเมล่อน แตงไทย แก้วมังกร สามารถทานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความหวาน เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย

 

เหล่านี้ ก็เป็นเทคนิคในการทานอาหาร ของเหล่านักมวย ที่ชก มวยไทย ( Muay Thai ) ซึ่งช่วยทำให้ ร่างกายแข็งแกร่ง แข็งแรง หลาย ๆ คนเองก็สามารถนำเอาไปดัดแปลงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ โดยยึดหลักสารอาหาร 5 หมู่ และกินผัก ผลไม้หลากสี ทั้งหมดนี้ ห้ามงดการกินแป้งเด็ดขาด แผนการกินอาหารแบบนักมวยไทยเป็นเพียงแนวทางคร่าว ๆ เท่านั้น ซึ่งกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของร่างกายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ การออกกำลังกายอย่างเดียว ดังประโยคที่ว่า “abs are made in the kitchen” กล้ามท้องสร้างได้ในครัว การันตีได้เลยว่า การกินสารอาหารที่ถูกต้องนั้นสามารถสร้างกล้ามเนื้อ และความแข็งแรงให้กับร่างกายเราได้นั่นเองค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ท่าช่วย ยืดกล้ามเนื้อ ของกีฬา มวยไทย

นายขนมต้ม สุดยอดตำนาน แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

การทรงตัว เทคนิค ที่สำคัญ ในการ ฝึกฝน มวยไทย ( Muay thai )

การทรงตัว เทคนิค ที่สำคัญ ในการ ฝึกฝน มวยไทย ( Muay thai )

การทรงตัว หรือ การสร้าง สมดุล ให้กับ ร่างกาย จัดเป็น เทคนิค ที่สำคัญ อย่างหนึ่ง เมื่อฝึกฝน หรือ แข่งขัน กีฬา มวยไทย ( Muay thai ) ที่ต้อง ใช้ทั้ง ความเร็ว ความอดทน รวมไปถึง ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ ภายใน ร่างกาย อีกด้วย

การทรงตัว เทคนิค ที่สำคัญ ในการ ฝึกฝน มวยไทย ( Muay thai )

เพราะว่า กีฬา มวยไทย ( Muay thai ) เป็นการ ที่เราต้อง ออกไป ต่อสู้ ซึ่งสามารถ ทำให้เรา ได้รับ บาดเจ็บได้  แต่ถ้าหาก ยิ่งฝึกซ้อม ร่างกาย เป็นอย่างดี ร่างกาย ก็จะมี ความทนทาน แข็งแรง และ ยังช่วย สร้างสมดุล ให้ร่างกาย ได้อย่างดี และ มีประสิทธิภาพ เป็นอย่างมาก ซึ่งกีฬา มวยไทย ( Muay thai ) นั้น สามารถ สร้างสมดุล ให้ร่างกาย และ มีประโยชน์ ได้ดังนี้

 

1) มวยไทย ( Muay thai ) ช่วยสร้าง สมดุลให้ ร่างกาย

การฝึก หรือ การซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) เป็นที่รู้กันดีว่า เป็นกีฬา ที่ต้องใช้ ความอดทน แทบจะทุกส่วนเลย ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของ ความเร็ว สมาธิ ความว่องไว และ ปัญญา การที่ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) ทุกวันนั้น ไม่ใช้แค่ ทำให้ ร่างกาย แข็งแรง อย่างเดียว แต่ยังทำให้ ร่างกาย มีความสมดุลด้วย อีกทั้ง มวยไทย ( Muay thai ) ยังช่วยสร้าง กล้ามเนื้อ ส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ได้อย่างดี

 

2) มวยไทย ( Muay thai ) สามารถช่วย ลดความเครียดได้

เพราะว่า การฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) ถือเป็น การออกกำลังกาย ที่ได้ทั้ง ความสนุกสนาน และ ยังได้ ใส่อารมณ์ ได้อย่างเต็มที่ ยิ่งถ้าได้ ปล่อยหมัด หรือ ปล่อยลูกเตะ ใส่กระสอบทราย ก็จะทำให้ ได้ระบาย อารมณ์  ได้อย่างเต็มที่ เพราะว่า ถ้ายิ่งเรา ออกกำลังกาย มากเท่าไหร่ ร่างกาย ของเรา ก็จะหลั่ง ฮอร์โมนเอนโดรฟีน ( Endorphin ) ที่จะทำให้ มีความสุขได้ นั่นเอง

 

3) มวยไทย ( Muay thai ) ช่วยลดน้ำหนัก ได้อย่างดี

สำหรับการ ออกกำลังกาย ในการ ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) จะสามารถ ช่วยให้ เผาผลาญ พลังงาน แคลอรี่ ภายใน ร่างกาย ได้อย่าง รวดเร็ว สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหน ที่กำลัง มองหาวิธี ลดน้ำหนักอยู่ ทางเรา ขอแนะนำ ให้ลองมา ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) ดูสิ เพราะเรา จะได้ทั้ง หุ่นที่ดี กล้ามเนื้อ ที่แข็งแรง และ รับรอง ได้เลยว่า จะช่วยให้คุณ ลดน้ำหนัก ได้อย่างดี แน่นอน

 

ดังนั้น การทรงตัว ก็ถือเป็น เทคนิค ที่สำคัญ ในการ ฝึกฝน มวยไทย ( Muay thai ) นั่นเอง

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ลดน้ำหนัก อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย กับเสน่ห์ ที่ใคร ๆ ต่างหลงใหล

ลดน้ำหนัก อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

ลดน้ำหนัก อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

คงมีหลาย ๆ คน ที่อยาก ลดน้ำหนัก แต่ไม่รู้ว่า จะเริ่มต้น หาแนวทาง ในการ ลดน้ำหนัก ได้อย่างไร แต่รู้ไหมคะ? ว่าจริง ๆ แล้ว กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ช่วย ลดน้ำหนัก ได้ดีเลยนะ แถมยังได้ หุ่นที่กระชับ ทุกสัดส่วน มีแต่ประโยชน์ที่ดี ต่อสุขภาพล้วน ๆ เลย

ลดน้ำหนัก อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) มีส่วนช่วย ลดน้ำหนัก ได้อย่างไร ?

ในปัจจุบัน ต้องบอกเลยว่า กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ลดน้ำหนัก ไม่ได้เป็น ที่นิยม แค่ในกลุ่มของหนุ่ม ๆ เพียงอย่างเดียว แต่ว่า สาว ๆ หลายคน ก็เริ่มต้น หาคอร์ส เพื่อเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) ผู้หญิงกัน มากยิ่งขึ้น เพราะว่า มีความ สนุกสนาน และ ยังช่วย ลดน้ำหนัก ได้อย่าง รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ มากด้วย โดยการ ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จะสามารถ เผาผลาญ พลังงาน ได้มากถึง 200 - 400 แคลอรี กันเลยทีเดียว

 

1) มวยไทย ( Muay Thai ) x Aerobics

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ แอโรบิก เช่น คีตะมวยไทย หรือว่า Boxing Dance นั่นก็คือ การนำเอา ท่าทาง ในการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของ แม่ไม้ และ ลูกไม้ ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) มาผสมผสาน ในการ ออกกำลังกาย แบบแอโรบิก ที่จะเน้น การหายใจ ขณะที่ กำลัง ออกกำลังกาย เพื่อทำให้ ร่างกาย สามารถ นำออกซิเจน เข้าไปช่วย ในการ เผาผลาญ สารอาหาร โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเหล่า ไขมัน ที่เป็นส่วนเกินต่าง ๆ โดยการ ต่อยมวย แอโรบิก ก็จะมุ่งเน้น ไปที่ความต่อเนื่อง ที่มากกว่า ความเข้มข้น และ ยังใช้ ระยะเวลา อย่างน้อย ๆ 20 - 30 นาที ที่จะมี ประโยชน์ อย่างมาก ในการ ช่วยเสริมสร้าง ความแข็งแรง กล้ามเนื้อ ภายใน และ เสริม ระบบ ในการหายใจ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหน ที่เบื่อการ ออกกำลังกาย แอโรบิก ในแบบเดิม ๆ อย่างวิ่ง หรือว่า เต้นแล้ว การต่อยมวย แอโรบิก ก็เป็นอีก ตัวเลือกใหม่ ๆ ที่คุณเอง ไม่ควรพลาดเลย

 

2) มวยไทย ( Muay Thai ) x HIIT

มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ HIIT หรือที่เรียกว่า High - Intensity Interval Training นั่นก็คือ การออกกำลังกาย ชนิดทุ่มเท แรงกาย และ แรงใจ ภายใน เวลาสั้น ๆ และ สลับกับ การออกแบบเบา ๆ  โดยจะใช้ เวลาเพียงแค่ 30 นาที เท่านั้น เพราะนี่เป็น การเทรน ที่หนักมาก ๆ เพื่อทำให้เกิด การเผาผลาญ หลังจาก ออกกำลังกาย ( Exercise Afterburn ) ที่เกิดขึ้น อย่างติดต่อกัน ได้นานถึง 48 ชั่วโมง โดยจะถือ เป็นวิธี การต่อยมวย เพื่อช่วย ลดน้ำหนัก ที่ทำให้ เห็นผลเร็ว มากที่สุดก็ว่าได้ ซึ่งเหมาะกับ คนที่ค่อนข้าง ใจร้อน หรือ คนในวัยทำงาน ที่ไม่ค่อยมีเวลา ออกกำลังกาย มากนัก

 

ดังนั้นแล้ว หากคิดจะ ลดน้ำหนัก อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อย่าลืม มาฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ด้วยกันนะคะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย กับเสน่ห์ ที่ใคร ๆ ต่างหลงใหล

ก่อนซ้อม มวยไทย ควรเตรียมตัวอย่างไร

มวยไทย กับเสน่ห์ ที่ใคร ๆ ต่างหลงใหล

มวยไทย กับเสน่ห์ ที่ใคร ๆ ต่างหลงใหล

มวยไทย (  Muay Thai ) ที่ถือได้ว่า เป็นกีฬา อีกชนิดหนึ่ง ที่มีเสน่ห์มาก ๆ ในตัว และเป็นที่ชื่นชอบ ของใคร ๆ หลาย ๆ คน ที่หลงใหลใน กีฬา มวยไทย ที่ไม่ใช่ แม้แต่ประเทศไทย แต่ยังรวมไปถึง ชาวต่างชาติ ก็ให้ ความสนใจ ไม่แพ้กัน อย่างมาก อีกด้วย

มวยไทย กับเสน่ห์ ที่ใคร ๆ ต่างหลงใหล

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่า เป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ที่เป็น ความภาคภูมิใจ ของคนไทย เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็น กีฬาประจำชาติไทย กันเลยทีเดียว และแถมยังมี ประวัติมา อย่างยาวนาน แต่วันนี้ เราจะมาพูดถึงว่า ทำไม มวยไทย ถึงมีเสน่ห์ ที่ทำให้ ใคร ๆ หลาย ๆ คน ต่างก็หลงใหล และชื่นชอบกัน ฉะนั้น เราจะมาหา คำตอบกัน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็นกีฬา ศิลปะการต่อสู้ ที่มีรูปแบบ ที่สวยงาม มีประวัติความเป็นมา ที่ยาวนาน สำหรับ ทวงท่า ไม่ว่าจะเป็น การตั้งรับ  หรือ การรุก ก็มีท่า ที่สวยงาม มีชื่อตามท่าทาง และยังถือเป็น ศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ได้รับ ความนิยม เป็นอย่างมาก และโดย มวยไทย นั้น เราสามารถใช้ได้ แถบจะทุกส่วนใน ร่างกาย ของเรา ไม่ว่าจะเป็น หมัด เท้า เข่า ศอก ได้หมด และแถมซึ่ง อาวุธของ มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่าเป็นอาวุธ ที่ร้ายแรง และ อันตรายอย่างมาก เพราะ เป็นอาวุธ ที่สามารถฆ่าคน ได้เลย ทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ท่าฤาษีบดยา จะเป็นการเอาศอก จามไปบนหัวคู่ต่อสู้ อย่างรุนแรง และถ้าหากโดน ตรงจุดที่สำคัญ หรือ รุนแรง ก็อาจทำให้สลบ หรือ ถึงขั้นเสียชีวิต ได้เลยทีเดียว นี่เป็นแค่ ท่าหนึ่ง ใน แม่ไม้มวยไทย ที่เรายกตัวอย่าง มาให้ฟัง ว่ามันรุนแรง และ อันตรายขนาดไหน และยังมี อีกหลายท่า ที่ไม่ได้กล่าวถึง แม่ไม้มวยไทย ต้องบอกก่อนว่า มวยไทย นั้น มีท่าที่เยอะมาก ๆ และแต่ละท่า ก็มี ความสวยงาม มีความเป็น เอกลักษณ์ อย่างมาก อีกด้วย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละท่า จะมี ความแตกต่าง กันไป และยังถือเป็น กีฬา มวย ที่ดุเดือด รุนแรง แต่ก็ยังสร้าง ความสนุก เร้าใจ ที่ทำให้ ใคร  ๆ ที่ต่างรับชมแล้ว ไม่อยากลุกจาก ที่นั่งกันเลย ทีเดียว ซึ่งเหตุผลนี้ จึงทำให้ มีผู้คนทั้ง ชาวไทย และ ชาวต่างชาติ มากมาย ให้ความสนใจ และ หลงรักการต่อสู้ ที่หันมาสนใจ มวยไทย ( Muay Thai ) กันมากขึ้น ถือได้ว่า เป็นกีฬา ที่ได้รับ ความนิยม อย่างมาก ในปัจจุบันเลย นั่นเอง

 

เหตุผลที่ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับ ความนิยม

ในปัจจุบันนี้ เราไม่สามารถ ที่จะพูดได้ไม่เต็มปาก ว่าคนไทย เป็นที่หนึ่ง ของ มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะ ต้องบอกเลยว่า ชาวต่างชาติ ที่มีฝีมือ  เก่งกว่า นักมวยไทย ก็เริ่มมีกัน มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มวยไทย ก็ยังเป็นกีฬาที่ คนไทย ยังคงเป็น อันดับหนึ่ง เพราะมันเป็น กีฬาประจำชาติไทย และ มีคนไทย ให้ความสำคัญ มากยิ่งขึ้น และสำหรับใคร ที่สนใจ ก็มาเรียนได้ ซึ่งเหตุนี้ จึงทำให้มี ชาวต่างชาติ มากมาย ที่รักการต่อสู้ ที่สนใจใน ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่สนใจ สามารถเรียนกันได้ มากขึ้น และในปัจจุบัน ต้องบอกก่อนว่า ค่ายมวย ไม่ได้มีแค่ ในประเทศไทย เพียงเท่านั้น ในหลาย ๆประเทศ ก็เริ่มมีการตั้ง ค่ายมวย กันมากขึ้น ทำให้ ชาวต่างชาติ เริ่มหันมาสนใจ และ มวยไทย ( Muay Thai ) จึงได้เป็นที่รู้จัก  มากขึ้น ในต่างประเทศ นั่นเอง ต้องยอมรับว่า การแข่งขัน หรือ สังเวียนมวย ในปัจจุบัน ได้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีแต่ รางวัลใหญ่ เงินรางวัล ที่ต้องบอกว่า มันเป็นอาชีพ ได้เลยนั่นเอง สำหรับ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน

 

กฎข้อบังคับ การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) สำหรับ การแข่งขัน มวยไทย จำนวนยก ในการแข่งขัน จะสามรถแบ่งได้ ทั้งหมดประมาณ 5 ยก  และ สามารถแบ่ง ให้เป็นยกละ 3 นาที มีการพัก ระหว่างยก 2 นาที แต่จะไม่มีการเพิ่มรอบ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ นักมวย จะต้องใช้ นวมมวย ขนาดไม่น้อยกว่า 6 ออนซ์ ( หรือ 172 กรัม ) โดยประมาณ และ ซึ่ง นวมมวย ที่สวมใส่ จะต้องไม่ถูกบีบ หรือบด เพื่อเปลี่ยนรูปทรงของ นวม ด้วย นั่นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ก่อนซ้อม มวยไทย ควรเตรียมตัวอย่างไร

อุปกรณ์สำคัญ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง ?

 

 

ก่อนซ้อม มวยไทย ควรเตรียมตัวอย่างไร

ก่อนซ้อม มวยไทย ควรเตรียมตัวอย่างไร

การเตรียมตัวก่อน เริ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และรวมไปถึง การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ก็จะต้อง มีการเตรียมตัว เหมือนกัน ถึงแม้ว่า การซ้อม จะดูเหมือน ไม่ได้มีอะไร มากมาย แต่ทุกครั้ง ก่อนซ้อม มวยไทย ก็ควรเตรียมตัว แต่จะมีอะไรบ้าง

ก่อนซ้อม มวยไทย ควรเตรียมตัวอย่างไร

ไม่ว่าคุณ จะทำอะไรก็ตาม การเตรียมตัว ถือว่าเป็นเรื่อง ที่สำคัญมาก ๆ เพราะว่า การเตรียมตัว จะเป็นการ เพิ่มความพร้อม ให้คุณ ได้ถึง 50 %  เลยทีเดียว หรือ แม้แต่กระทั่ง การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ตาม การเตรียมตัว ถือว่าเป็นเรื่อง ที่ควรทำ อย่างมาก ดังนั้น ทุกครั้ง ก่อนที่คุณ จะเริ่มซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) คุณจะต้องมี การเตรียมตัว ก่อนเสมอ ซึ่งวิธีการเตรียมตัวนั้น มีอะไรบ้าง มีกี่ขั้นตอน ไปดูกันเลย

 

1. อุปกรณ์ส่วนตัว

ขั้นตอนแรก ของการเตรียมตัว เพื่อซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ การเตรียมอุปกรณ์ส่วนตัว ของตัวเอง ให้พร้อม โดยอุปกรณ์ส่วนตัวนั้น ก็จะมี น้ำดื่ม ผ้าขนหนู กางเกง นวม ผ้าพันมือ น้ำมันมวย ครีมนวด แองเกิล เสื้อ หากเป็นผู้หญิง ก็ควรที่จะมี สปอร์ตบรา ด้วย และ อาหาร เพื่อทานรองท้อง ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ผู้ซ้อมที่ดี จะต้องมีการ เตรียมอุปกรณ์ ส่วนตัว ของตัวเอง ให้พร้อม แม้ว่าบางอย่าง จะสามารถยืมกันได้ ก็ตาม แต่คุณ ก็ควรที่จะ มีการเตรียมไปเอง จะดีกว่า

 

2. พักผ่อนให้พอ

การนอน ส่งผลอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ก็ตาม โดยเฉพาะ การที่ซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะหากคุณ นอนไม่พอ แล้วมาซ้อม  มวยไทย สิ่งที่คุณจะได้รับ ก็คือ ความเหนื่อย ความอ่อนเพลีย และ หากวันนั้น คุณมีการทำงาน ด้วยมาก่อน คุณก็จะมี อาการเหนื่อย ที่มากกว่าเดิม  เนื่องจาก ร่างกาย ของคุณนั้น มีการพักผ่อน ที่ไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น หากคุณรู้ว่า คุณมีโปรแกรม ที่จะต้องมี การซ้อม มวยไทย คุณก็ควรที่จะ มีการพักผ่อน ให้เพียงพอ ไม่อย่างนั้น การ การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ของคุณ ก็จะเหนื่อยมาก ๆ และ การซ้อม ก็อาจจะไม่มีประสิทธิ ได้อีกด้วย

 

3. ทานอาหารรองท้อง

ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อน ๆ ควรตระหนัก เอาไว้เสมอ ว่าก่อนซ้อมนั้น จะต้องหาอาหาร รองท้อง ก่อนเสมอ แม้ว่าคุณจะซ้อม  มวยไทย เพื่อ ลดน้ำหนัก ก็ตาม การที่คุณ ทานอาหาร รองท้อง มาก่อนนั้น จะช่วยให้คุณ ซ้อม มวยไทย ได้ดีขึ้น เพราะมีพลังงาน จากอาหาร ที่ทานรองท้องเข้าไป หากคุณ ไม่ทานอาหาร หรือ หาอะไร รองท้อง มาก่อน แล้วหล่ะก็ การซ้อม มวยไทย จะเป็นไปได้ยาก เพราะว่าคุณ ไม่มีแรง ในการซ้อม ดังนั้น ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ในทุกครั้ง ก็ควรทานอาหาร รองท้อง ก่อนซ้อมเสมอ

 

4. เตรียมใจให้พร้อม

ข้อนี้เพื่อน ๆ หลาย ๆ คน ที่อ่าน ก็คงจะรู้สึกว่า การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องหนัก ต้องโหดแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้โหด ขนาดนั้น แต่การที่คุณ ต้องเตรียมใจ ก็เป็นเพราะว่า คุณต้องเตรียมใจ ในความเหนื่อย จากการซ้อม การซ้อมที่หนัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้น ก่อนซ้อมทุกครั้ง ก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้ดี ๆ

 

อย่างที่เราบอก ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ทุกครั้ง ก็ควรที่จะ มีการเตรียมตัว เตรียมร่างกาย ให้ดีก่อน เพราะไม่อย่างงั้น การซ้อม มวยไทย  ของคุณ ก็อาจจะเป็นเรื่อง ที่ยากมาก ๆ และ การที่คุณ เตรียมตัวมาไม่ดี ก็จะไปรบกวน เพื่อน ๆ ที่มาซ้อม มวยไทย อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อุปกรณ์สำคัญ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง ?

ท่าช่วย ยืดกล้ามเนื้อ ของกีฬา มวยไทย

 

 

อุปกรณ์สำคัญ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง ?

อุปกรณ์สำคัญ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง ?

ไม่ใช่เพียงแค่ การชกมวย เท่านั้น แต่เรื่องอุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ ในการชก มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง เราเอง ก็ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเหล่านี้อีกด้วย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็นกีฬา อีกชนิดหนึ่ง ที่ใช้พละกำลัง และ ความแข็งแกร่งของร่างกาย ที่สูงมาก โดยเฉพาะกับ มวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะ การต่อสู้ ที่เป็นเอกลักษณ์ ประจำชาติเรา หากเราจะเล่นกีฬาชนิดนี้ ร่างกายจะต้อง มีความพร้อมที่สูง และ มีการเตรียม ความพร้อม ในส่วนของ ความแข็งแกร่งของร่างกาย ที่ต้องมากกว่า มวยสากล และ ยังรวมไปถึงสภาพจิตใจ โดย มวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องใช้ อวัยวะในร่างกาย เป็นอาวุธ แทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น หมัด ศอก เข่า เท้า ซึ่งทุกส่วนในร่างกายของเรา สามารถใช้เป็น อาวุธได้หมด ซึ่งการจะฝึกการชก มวยไทย ( Muay Thai ) ก็จำเป็นจะต้องมี อุปกรณ์มวยไทย เพื่อการฝึก ที่สำคัญมากมาย และ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

 

 

อุปกรณ์มวยไทย ในการฝึก กีฬาฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

 

นวม เป็นอุปกรณ์ ที่จำเป็นที่สุด ในการชก มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อเป็นการป้องกันมือตัวเอง และ คู่ต่อสู้ ไม่ให้เกิด อันตรายเกินไป

 

กระสอบทราย ถือเป็นอุปกรณ์หลัก ๆ ในค่าย มวยไทย ( Muay Thai ) โดยมีไว้เอาไว้เพื่อการฝึก ไม่ว่าจะเป็น การชก การเตะ เช่า ศอก ก็ได้หมด

 

อุปกรณ์สำหรับ ยกน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็น ดัมเบล, คานเหล็ก ซึ่งเอาไว้ ออกกำลังกาย ในส่วน แขน และ อก เพื่อให้การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) มีความแข็งแกร่ง

 

เชือกสำหรับโหน เอาไว้ใน การฝึกด้วย การปีนเชือกขึ้นและลง เพื่อจะทำให้แขนแข็งแรง และกล้ามหน้าอกแข็งแรง

 

 

 

 

 

 

ลูกเหล็ก ใช้ผูกกับเชือก สำหรับให้นักมวย คาบด้วยปาก และเพื่อยกขึ้นลง เพื่อบริหาร กล้ามเนื้อแผงคอ ให้แข็งแกร่ง

 

ผ้าพันมือ ใช้พันมือ เพื่อเป็นการป้องกัน ในส่วนของนิ้วมือ ป้องกันอันตราย จากการเคล็ด หรือถลอก ซึ่งจะต้อง พันทุก ๆ ครั้ง ก่อนการสวมนวม

 

กระจับ กระจับเป็นอุปกรณ์ ที่จะช่วย ป้องกัน เป้าของเรา ไม่ให้ได้รับอันตราย เพราะว่า เป็นส่วนที่บอบบางมาก ๆ

 

พันซ์ชิ่ง บอล ( Punching Ball ) สำหรับลูกบอล ที่จำมาใช้ ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อช่วยใน การฝึกการออกหมัด ให้มีความว่องไว รวมไปถึง การใช้สายตา ให้แม่นยำ เพราะว่า ลูกบอล ฝึกชกมวยนี้จะเด้งไปมา เมื่อเราชกมัน ซึ่งนักมวย จะได้ทั้ง การฝึกชก และ การหลบหลีก เลยค่ะ

 

เชือกกระโดด เป็นอุปกรณ์กีฬา ที่ใช้ ในการบริหาร ในส่วนของข้อเท้า และ ขาให้แข็งแรง และ ทำให้เกิด ความคล่องตัวขึ้น

 

เป้าล่อ ใช้สำหรับ การฝึกออกหมัก การใช้ศอก เท้า หรือ เข่า ให้แม่นยำขึ้น โดยจะมี ตั้งแต่ เป้ามือ เท้า เป้ายาว สนับแข้ง โดยจะให้ ครูฝึก เป็นผู้สวมใส่ ในการฝึก

 

เหล่านี้ก็เป็น อุปกรณ์กีฬา ฝึกชก มวยไทย ( Muay Thai ) โดยเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ หากขาด อุปกรณ์กีฬาในการใช้ฝึกชก มวยไทย ( Muay Thai ) แล้ว ก็อาจจะทำให้ประสิทธิภาพของนักมวยหายไป และไม่ได้ตามเป้าหมาย ที่ควรจะเป็น นั่นเพราะ ในการชก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการใช้ความแข็งแกร่ง และการใช้พละกำลังที่สูงมาก ๆ ดังนั้น ไม่สามารถมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้ค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ท่าช่วย ยืดกล้ามเนื้อ ของกีฬา มวยไทย

นายขนมต้ม สุดยอดตำนาน แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

 

ท่าช่วย ยืดกล้ามเนื้อ ของกีฬา มวยไทย

ท่าช่วย ยืดกล้ามเนื้อ ของกีฬา มวยไทย

ในการ ออกกำลังกาย ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) หรือการ ต่อยมวย การยืดกล้ามเนื้อ เป็นสิ่งที่ สำคัญมาก ๆ ที่เราจะต้องมี การทำทุกครั้ง ก่อนออกกำลังกาย และการ ชกมวย ถ้าหากเราไม่มีการ ยืดกล้ามเนื้อ ก็อาจจะทำให้ ร่างกาย ของเรา เกิดอาการบาดเจ็บได้

 

ท่าช่วย ยืดกล้ามเนื้อ ของกีฬา มวยไทย

สำหรับการ ยืดกล้ามเนื้อ ถือว่าเป็น เรื่องพื้นฐาน ในการ ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น กีฬา ประเภทไหน ๆ ก็ตาม ก่อนออกกำลังกาย ทุกครั้ง เราก็ต้อง มีการ ยืดกล้ามเนื้อ ทุกครั้ง เพราะไม่งั้น ร่างกาย ของเรา อาจจะเกิด การบาดเจ็บ จากการ ชกมวย ได้ เนื่องจาก กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นกีฬา ที่ต้องมี การใช้ ร่างกาย ทุกส่วน ของ ร่างกาย และ ยังเป็น ศิลปะป้องกันตัว ที่ทำให้เรา ผู้ที่ฝึก มวยไทย ทุกคนจะต้อง มีการ ยืดกล้ามเนื้อ ทุกครั้ง ก่อนที่เรา จะเริ่มฝึก มวยไทย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็น กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ กีฬาอะไร ก็ตามแต่ เราก็ควร ที่จะมีการ ยืดกล้ามเนื้อ ทุกครั้ง ดังนั้น วันนี้เราจะมาเรียนรู้ ท่ายืดกล้ามเนื้อ ของ นักมวย กัน ว่ามีอะไรท่าบ้าง ไปดูกัน

 

1. มวยไทย ท่ากระโดดสูง

ท่ากระโดดสูง ท่านี้ เป็นท่าที่ ยืดกล้ามเนื้อ ท่าปกติ ที่ไม่ค่อย อะไรมากหนัก แต่เราขอบอก เลยว่า ท่ากระโดดสูง เป็นท่าที่เรียก เหงื่อได้ ไม่น้อย เพราะการ กระโดดสูง เราจะต้องกระโดด ให้ หน้าขา และ หัวเข่า ของเรา ติดชิดกับ หน้าอก ท่ากระโดสูง ทำได้ง่าย ๆ โดยการที่ เรายืนตรง ๆ และ  กระโดด แล้วยกขา ของเรา ทั้งสองข้าง ให้มาชิดกับ หน้าอก ของเรา การทำ ท่ากระโดดสูง ควรทำ ประมาณ 3 5 นาที และ ข้อดี ของ ท่ากระโดดสูง จะเป็นการ ยืดกล้ามเนื้อขา ทุกส่วน อีกด้วย

 

2. มวยไทย ท่าแทงเข่า

การทำ ท่าแทงเข่า นั้น ก่อนที่เรา จะเริ่มท่านี้ เราต้องหา บาร์ หรือว่า ราว เพื่อจับ โดยความสูงของ บาร์ หรือว่า ราว ที่เราใช้จับนั้น จะมีความสูง อยู่ที่ ระดับหน้าอก ของเรา การทำ ท่าแทงเข่า เราต้องยืดแขน ทั้งสองข้าง ไปจับที่บาร์ หรือ ราว และ ยืดตัวให้ตรง เอนหลัง เพียงเล็กน้อย เพื่อให้เราสามารถ แทงเข่า ได้อย่างถนัด จากนั้น เราก็ แทงเข่า ไปข้างหน้า โดยการทำสลับ เข่าซ้าย และ เข่าขวา เริ่มจาก การทำช้า ๆ และค่อย ๆ เพิ่มความเร็ว ขึ้นเรื่อย ๆ การทำ ท่าแทงเข้า ให้ทำท่านี้ ประมาณ 10 นาที แบบต่อเนื่อง ทำจนกว่า เราจะเริ่มเหนื่อย หรือ ว่า เหงื่อเริ่มออก การทำ ท่าแทงเข่า จะช่วย ยืดกล้ามเนื้อ ในส่วนที่เป็น กล้ามเนื้อต้นขา และ กล้ามเนื้อหน้าท้อง และ ข้อดีของการ ยืดกล้ามเนื้อ ใน ท่าแทงเข่า ช่วยให้เรา ทำท่าแทงเข่า ได้ดีขึ้น และ ควรเพิ่มความเร็ว ไปเรื่อย ๆ ให้เหมือนกับว่า เรากำลังวิ่งเร็ว แต่เป็นการวิ่ง อยู่กับที่

 

3. มวยไทย ท่าเตะสูง

ท่าเตะสูง วิธีการทำ ท่าเตะสูง เราสามารถ ทำได้ไม่ยาก โดยการที่เรา ยืนตรง ๆ ให้มั่นคง จากนั้น ก็เอาเท้า ข้างใด ข้างหนึ่ง ถอยไปข้างหลัง เพื่อมเตรียมตัว ในการเตะ ไปข้างหน้า โดยการที่เรา เตะให้ปลายเท้า แตะไปที่มือ ของเรา และในการเตะนั้น เราต้องมีการ เขย่งเท้าด้วย เพื่อให้เกิดแรงส่ง และ นำเท้ากลับมาวาง ไว้ที่ตำแหน่งเดิม ที่เท้าเรา วางอยู่ การทำท่านี้ จะเป็นการ ยืดกล้ามเนื้อ ในส่วนของ กล้ามเนื้อน่อง และ เอ็นหลังเข่า การทำ ท่าเตะสูง ให้เราเตะสลับไปมา ข้างละ 10 15 ครั้ง สำหรับผู้ที่ เริ่มฝึกใหม่ ๆ ก็เริ่มจากการที่เตะ ต่ำ ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับ ความสูง ขึ้นไปเรื่อย ๆ

 

ก่อนเริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เราสามารถเอาท่า ยืดกล้ามเนื้อ ท่าที่เราแนะนำ ไปใช้ ยืดกล้ามเนื้อได้ เพื่อให้เราสามารถ ฝึก มวยไทย ได้อย่างปลอดภัย และ ไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ จาการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะ เริ่มซ้อมทุกครั้ง เราควรต้อง ยืดกล้ามเนื้อ ก่อนเสมอ

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

นายขนมต้ม สุดยอดตำนาน แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

คุณค่า ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

 

นายขนมต้ม สุดยอดตำนาน แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

นายขนมต้ม สุดยอดตำนาน แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

นายขนมต้ม ถือเป็น สุดยอดตำนาน แห่ง มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ทั้งคนไทย และต่างชาติ ต่างรู้จักดี มีชื่อเสียงเลื่องลือ วันนี้เราจะมารู้จักประวัติ ของนายขนมต้มกัน

 

นายขนมต้ม ชกมวยชนะนักมวยพม่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2317 ประวัตินายขนม เกิดวันอังคาร เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ. 2293 ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่บ้านกุ่ม ปัจจุบัน คือ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่ออายุ 10 ปี ต้องมาอาศัยอยู่วัด เพราะพ่อแม่ถูกพม่าฆ่าตายทั้งคู่ เมื่อแตกหนุ่ม จึงเริ่มฝึกวิชามวยไทย จนในสมัยพระเจ้าเอกทัศ กรุงศรีอยุธยาต้องเสียแก่พม่า นายขนมต้มถูกกวาดต้อนไปเมืองพม่า

 

นายขนมต้ม เป็นชาวบ้านที่มีฝีมือ มีชั้นเชิงเชิงมวยไทยดีคนหนึ่ง ตั้งแต่ก่อนที่จะเสียกรุง ซึ่งขุนนางพม่าได้นำตัวนายขนมต้ม นำเข้าถวายพระเจ้าอังวะ พระเจ้าอังวะจึงได้โปรดให้จัดนักมวยพม่าเข้ามาเปรียบมวยด้วย นายขนมต้ม เมื่อได้จับคู่ชกพระองค์ก็โปรดให้ชกกัน ที่หน้าพระที่นั่ง ซึ่ง นายขนมต้ม เป็นชายฉกรรจ์ รูปร่างล่ำสัน บึกบึน ผิวดำ เกล้าผมมวย ก่อนที่จะเริ่มชกนายขนมต้มได้ทำพิธีไหว้ครู ตามธรรมเนียมแบบมวยไทย วาดลวดลายต่าง ๆ งดงามยิ่งด้วยท่าทางที่มั่นคง ซึ่งชายเลือดนักสู้นี้ สร้างชื่อเสียงให้กับกรุงศรีอยุธยา และชาติไทย โดยอาศัยความสามารถเชิงหมัดมวย

 

เมื่อพระเจ้ามังระ โปรดให้ปฏิสังขรณ์ และก่อเสริมพระเจดีย์ ชเวดากอง ในเมืองย่างกุ้งเป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จลง ในปี พ.ศ. 2317 ครั้นพอถึงวันฤกษ์งามยามดี คือ วันที่ 17 มีนาคม จึงได้โปรดให้ทำพิธียกฉัตรใหญ่ ขึ้นไว้บนยอดเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองงานอย่างมโหฬาร ขุนนางพม่ากราบทูลพระองค์ว่า "นักมวยไทยมีฝีมือดียิ่งนัก"

 

 

 

 

 

 

พระเจ้ามังระ จึงได้ตรัสสั่งให้เอาตัวนายขนมต้ม นักมวยดีมีฝีมือ ตั้งแต่ครั้งกรุงเก่ามาถวาย พระเจ้ามังระ ได้ให้มีการจัดมวยพม่า เข้ามาเปรียบกับนายขนมต้ม โดยมีการจัดให้ชก ต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฏว่า นายขนมต้มชกพม่า ไม่ทันถึงยก ก็สามารถเอาชนะถึงเก้าคนสิบคน พระเจ้ามังระ ได้ทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระ ตรัสสรรเสริญ นายขนมต้ม ใจความว่า “ คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ ถึงเก้าคนสิบคน นี่ถ้าหากว่ามีเจ้านายดี มีความสามัคคีกัน ไม่ขัดขากันเอง และไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว แลถึงโคตรตระกูลแล้ว ไฉนเลย กรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ข้าศึก ดั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ”

 

“ หิรัญม้วนแผ่นดิน ” แม่ไม้มวยไทยลูกหนึ่ง ที่นายขนมต้มได้นำมาใช้ แก้ลำมวยปล้ำของนายทหารที่เป็นยอดมวยพม่า ทำให้ทุกคนภายในสนาม ที่บริเวณหน้าพระที่นั่งตลึง วงการพนันก็พลิกล๊อค โดยที่ทุกคนในที่นั้นแทบไม่เชื่อตาตัวเอง ว่านายขนมต้มยอดมวยไทย นั้นเอาชนะมวยพม่าได้อย่างไร เพราะว่า ตลอดเวลา นายขนมต้มตกเป็นฝ่ายรับ อย่างล้มลุกคลุกคลาน แต่ทว่าเหตุการณ์พลิกผัน กลายเป็นนายขนมต้ม สามารถคว่ำนักมวยพม่าลงได้อย่างขาวสะอาด ด้วยการใช้ศอก กลับตวัดเข้าไปแสกหน้าเลือดสาด เสียจนสลบคาเวที

 

 “ ณรงค์พยุหบาท ” เป็นกระบวนท่า แม่ไม้มวยไทยลูกหนึ่ง ที่เป็นการใช้เท้า บุกเข้าโจมตี ด้วยการถีบ, เตะ, เหวี่ยง ให้คู่ต่อสู้เสียหลัก ทำให้นักมวยพม่า ต้องตีกรรเชียงถอยพายุเท้า ของนายขนมต้มเป็นกาหล จากการที่นายขนมต้ม ได้ใช้เท้าเตะรบกวนแถวชายโครง ใบหน้า และตามลำตัว จนทำให้นักมวยพม่า มัวสาละวนอยู่กับการปิดป้อง หลบหลีกพายุเท้า จนทำให้ช่วงล่างของนักมวยพม่าตาย คือที่ขานั้น ไม่ถอยตามจังหวะ ยืนเฉยอยู่กับที่ ได้ใช้แต่มือปัดป้องช่วงบน เป็นโอกาสให้นายขนมต้ม ได้เตะปัดเท้าหน้าของนักมวยพม่า จนทำให้เสียหลักเอียงวูบลง นายขนมต้ม ก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้ผ่านไป จึงได้หมุนตัวกลับ และใช้ส้นเท้ากระแทกเข้าที่กกหู ด้วยท่า “จรเข้ฟาดหาง” นักมวยพม่าหูอื้อ ตาพล่า และหมดสติไปทันที

 

หลังชนะนักมวยพม่า พระเจ้ามังระ จึงได้ปูนบำเหน็จ แก่นายขนมต้ม แต่งตั้งเป็นข้ารับใช้ในกรุงอังวะ แต่เขาปฏิเสธ และขอให้พระเจ้ามังระปลดปล่อยตน และเชลยคนไทยทั้งหมด ให้เป็นอิสระ เพื่อกลับบ้านเกิด พระเจ้ามังระยอมทำตามความประสงค์ ในที่สุดนายขนมต้ม และเหล่าเชลยไทย ได้อิสรภาพ และกลับแผ่นดินไทย ที่ขณะนั้นมีกรุงธนบุรี เป็นราชธานี ในสมัยของพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นายขนมต้ม อาศัยอยู่บ้านเกิดอย่างสงบ ไม่มีบันทึกไว้ ว่าเสียชีวิตเมื่อใด

 

เมื่อครั้งวันที่ 17 มีนาคม ถือเป็นวันเกียรติประวัติ และเพื่อเป็นเกียรติต่อนักมวยไทย และนอกจากนี้ ชาวอยุธยาสร้างอนุสาวรีย์ของนายขนมต้ม ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัด หรือแม้แต่บนแผ่นดินเกิดที่ อ. บางบาล ก็สร้างอนุสาวรีย์นายขนมต้มไว้ ไว้ที่บริเวณหน้าโรงเรียนวัดจุฬามณี ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล อนุสาวรีย์นายขนมต้ม นั้นมีความสูง ๒.๔ เมตร เพื่อเป็นอนุสติ เตือนใจ และเพื่อให้ลูกหลานไทย ยึดถือเป็นแบบอย่างสืบไป

 

นายขนมต้ม ถือเป็นสุดยอดตำนานของนักมวยไทย ที่เมื่อกล่าวถึงแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก เป็นสุดยอดนักมวยไทยอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่ความกล้าหาญของท่าน แต่ในวันนั้นเอง ท่านได้แสดงฤทธิ์ของมวยไทย และความสามารถของคนไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของชาวต่างชาติอีกด้วย

 

เห็นแบบนี้แล้ว เรายิ่งต้องรักษาศิลปะแม่ไม้ มวยไทย ของชาติเราไว้เลยค่ะ หากต้องการสถานที่ชกมวย เรียนมวย ครบวงจร ขอแนะนำ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร สอนมวยไทยครบวงจร เดินทางสะดวก เรียนมวยไทย ต้องที่นี่เท่านั้นค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

คุณค่า ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ส่วนใดในร่างกายบ้าง

 

คุณค่า ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

คุณค่า ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

การฝึกกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ก่อให้เกิดการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ แลt สร้างระเบียบวินัย อีกทั้ง ยังส่งเสริมอนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงามไว้

 

 

ในบทความนี้ จะมาทุกท่านมาซึมซับ และเห็นถึงคุณค่าของ มวยไทย ( Muay Thai ) มากยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งมวยไทยนั้น ก็มีประวัติอันยาวนาน ควรค่า แก่การอนุรักษ์ไว้ที่สุดค่ะ

 

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็นศาสตร์และศิลปะ ที่เป็นศาสตร์ เพราะเป็นวิชาการ ที่ทุกคนสามารถศึกษาหาความรู้ได้ เหมือนวิชาแขนงอื่น ๆ ส่วนที่ว่า เป็นศิลปะ เพราะประกอบด้วย กลยุทธ์ และลวดลายต่าง ๆ มากมาย ซึ่งยาก ที่จะเรียนรู้ และปฏิบัติได้อย่างชัดเจน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ ป้องกันตัวอย่างหนึ่ง ตามธรรมชาติของบุคคล ซึ่งมีการแข่งขัน แพ้ และชนะ ด้วยการชกต่อยกัน อันเป็นการโจมตี จุดอ่อน ของร่างกาย ของคู่ต่อสู้ ศิลปะของมวยไทย จึงแตกต่างกัน ไปตามลักษณะ หรือแบบของการต่อสู้ ป้องกันตัว

 

 

 

 

 

 

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน มีมวย อยู่ 2 ชนิด อันได้แก่ มวยปล้ำ และมวยชก ซึ่ง มวยชก นั้นก็ยังแบ่ง ออกเป็น 2 แบบ คือ ชกด้วยหมัด บวกการต่อสู้ด้วยเท้า เข่า ศอก ตามแบบของกีฬามวยไทย และชกด้วยหมัดอย่างเดียว อันเป็นที่นิยมกัน โดยทั่วไป เรียกว่า มวยสากล

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะ การต่อสู้ ป้องกันตัว ที่สามารถนำไปใช้ได้ ในเชิงกีฬา และการต่อสู้จริง ๆ ศิลปะประเภทนี้  มีมาแต่โบราณ บรรพบุรุษของชาติไทย ได้ฝึกฝนอบรม สั่งสอนบุตรไว้ เพื่อป้องกันตัว และชาติ บรรดาชายฉกรรจ์ของไทย ที่ได้รับการฝึกฝน วิชามวยไทย แทบทุก ๆ คน นักรบผู้กระเดื่องนามทุกคน ต้องได้รับการฝึกฝน อบรม ศิลปะประเภทนี้ อย่างชัดเจน เพราะการใช้อาวุธช่วย ในสมัยโบราณ อาทิ กระบี่, พลอง, ดาบ, ง้าว, ทวน ฯลฯ ถ้ามีความรู้ วิชามวยไทยด้วยแล้ว ก็จะทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามที่เข้าต่อสู้ ติดพันประชิดตัว จะได้ใช้อวัยวะ บางส่วนเข้าช่วย เช่น เข่า เท้า ศอก เป็นต้น แต่เดิมนั้น ศิลปะมวยไทย ที่มีชั้นเชิงสูง มักจะฝึกสอนกัน ในบรรดาเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ หรือเฉพาะพระมหากษัตริย์ และขุนนางฝ่ายทหาร

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกิจกรรม พลศึกษาอย่างหนึ่ง ที่ช่วยในการส่งเสริม พัฒนาการ ทางด้านร่างกาย และจิตใจ ตลอดจนพัฒนาการด้านสังคม กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่นิยมฝึกกันโดยทั่วไป เพื่อความสนุกสนาน และคนบางกลุ่ม ได้ยึดเอามวยไทย เป็นอาชีพหลัก โดยได้ผลตอบแทน จากการเข้าแข่งขัน แต่ละครั้งด้วย

 

กีฬามวยไทย เป็นการออกกำลังกาย ทำให้มีพลานามัยสมบูรณ์ มีวินัย ในตนเอง จึงทำให้มีบุคคลทั่วไป มีความสนใจ นิยมฝึก การเล่นมวยไทยกันมาก จะเห็นได้จาก ที่มีการแข่งขันมวยไทย เช่น เวทีมวยราชดำเนิน และเวทีมวยลุมพินี นอกจากนี้ ยังมีเวทีมวย ของสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ จัดการแข่งขันกันอยู่ เป็นประจำ พร้อมทั้ง มีการถ่ายทอดสดด้วย การจัดการแข่งขัน ในแต่ละครั้ง มีผู้ชมให้ความสนใจ เข้าชมเป็นจำนวนมาก

 

มารยาท ของผู้ฝึกกีฬา กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

หลักในการปฏิบัติ ยึดถือ โดยเคร่งครัด ได้แก่ การเคารพครูบาอาจารย์ ที่ถ่ายทอดศาสตร์วิชาความรู้ และการครอบครู ก่อนการฝึก นอกจากนี้ ศิษย์รุ่นพี่ และระเบียบ ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา คือ ศิษย์สำนักเดียวกัน ต้องไม่ชกกัน ซึ่งทุกคน จะต้องสาบานตน ก่อนเข้ารับการฝึก ต้องใช้ความอดทน เป็นอย่างสูง ต้องเชื่อฟัง ครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด เพราะในการฝึกนั้น อาจเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ อีกทั้ง มวยไทยนั้น สามารถสร้างเสริม คุณธรรม และจริยธรรม ในด้านต่าง ๆ ให้เกิด ในตัวนักมวยไทย ทำให้หลาย ๆ คน หลงใหล และรักกีฬา กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นอย่างมากนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างหุ่นฟิต กล้ามแน่นๆ ด้วย มวยไทย

มวยไทย ศิลปะ ป้องกันตัว ที่เด็กก็ฝึกได้

 

 

มวยไทย ศิลปะ ป้องกันตัว ที่เด็กก็ฝึกได้

มวยไทย ศิลปะ ป้องกันตัว ที่เด็กก็ฝึกได้

มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะว่า นอกจาก จะเป็น ศิลปะ ป้องกันตัวแล้ว มวยไทย ( Muay Thai ) ยังมี ประโยชน์ สำหรับ เด็ก ๆ อีกด้วย ที่จะให้ ผู้ปกครอง ทั้งหลาย ได้มาลอง ศึกษากัน ว่านอกจาก ร่างกาย แข็งแรงแล้ว ยังมี ประโยชน์ ด้านอื่น ๆ ด้วย

มวยไทย ศิลปะ ป้องกันตัว ที่เด็กก็ฝึกได้

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่มีทั้งรูปแบบ มือสมัครเล่น และ การเล่น แบบจริงจัง เป็นอาชีพ ซึ่งจะเป็น กีฬา ที่เกี่ยวข้อง กับการ จู่โจม และ ยังถือเป็น ศิลปะ ป้องกันตัว ด้วย การออกหมัด การเตะ การต่อย ซึ่ง นักมวย หรือ ผู้เข้าแข่งขัน จะสวมนวม ที่มือ เพื่อเป็นการ ป้องกัน มือจู่โจม และ ป้องกัน การออกหมัด จากคู่ต่อสู้

 

หากเด็ก ๆ มีความสนใจ ที่ต้องการ อยากเรียนมวย ไม่ว่าอายุ เท่าไหร่ ก็ถือว่า ไม่เร็ว จนเกินไป ที่พวกเด็ก ๆ จะเริ่มเรียนรู้ ในการ ชกมวย ขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ ทั้งนั้น สิ่งที่ต้องระวัง มากที่สุด ก็คือ ความปลอดภัย ของพวกเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องป้องกันหัว หรือ แม้แต่นวม เพราะว่า ถ้าหากมือของ พวกเด็ก ๆ ไม่พอดี กับนวม ก็อาจทำให้ เวลาเด็ก ๆ ชกมวย ออกไป อาจได้รับ บาดเจ็บได้

มวยไทย ศิลปะ ป้องกันตัว ที่เด็กก็ฝึกได้

ประโยชน์ ของการเรียน มวยไทย ( Muay Thai )  สำหรับ เด็ก ๆ

1) มวยไทย ( Muay Thai )  ช่วยให้ ร่างกายเด็ก ๆ แข็งแรง

การชกมวย ถือเป็น กีฬา ที่มุ้งเน้น ในการ เคลื่อนไหว ความคล่องตัว ความเร็ว ความว่องไว รวมถึง การทรงตัว ในหลาย ๆ ส่วนของ ร่างกาย เป็นการ ผสมผสาน ระหว่าง การฝึกฝน คาร์ดิโอ และ การฝึกความ แข็งแรง ถือว่า มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นการ ออกกำลังกาย ที่สมบูรณ์แบบ อย่างมาก เพราะว่า มีการ เผาผลาญ พลังงาน ไขมัน เป็นส่วนมาก และ ยังได้รับความ แข็งแรง กลับมาด้วย

 

2) มวยไทย ( Muay Thai )  ช่วยในเรื่อง ของการ ป้องกันตัวได้

มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นการ เรียนรู้ วิธีการ ป้องกันตัวเอง ซึ่งเป็น ทักษะ ที่สำคัญ และ จำเป็น อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เด็กผู้หญิง หรือ เด็กผู้ชาย โดยเพาะอย่างยิ่ง เด็ก ๆ ที่อยู่ใน ช่วงวัยของ การเจริญเติบโต ทำให้เด็ก ๆ สามารถ หลีกเลี่ยง การถูก โจมตี หรือ อาจถูก กระทำ บางสิ่ง บางอย่าง ที่เจ้าตัวเอง ไม่ได้รับ ความยินยอม  และ นอกจากนี้ ยังสอนให้ พวกเด็ก ๆ รู้ถึงวิธีการ ป้องกันตัวเอง อีกด้วย

 

ดังนั้น มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นกีฬา ที่พวกเด็ก ๆ สามารถ ฝึกฝนได้ และ มีประโยชน์ หลายอย่างด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ

การเคลื่อนไหว ฉบับกีฬา มวยไทย

ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ

ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ

สำหรับใครที่กำลังจะมาฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) วันนี้เราจะมาบอกข้อดีต่าง ๆ ให้คุณได้รู้ว่ามีอะไรบ้าง ทั้งที่เป็นประโยชน์ทางกาย และทางจิตใจ มาดูกัน

ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ มายาวนาน สมควรที่คนไทย จะได้รู้จักศึกษา เพื่อสืบทอด และอนุรักษ์ และเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่ ได้สืบสาน มวยไทย ( Muay Thai ) นี้ต่อ ๆ ไป

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้มีสมาธิ ลดความเครียด และความวิตกกังวล

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยในเรื่องของอารมณ์ได้ แม้ว่าบรรยากาศของการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) จะเต็มไปด้วยความเข้มข้น หนักแน่น รุนแรง แต่ก็ทำให้ผ่อนคลาย และลดความเครียดลงได้เช่นกัน การเหวียงหมัด หรือ อาวุธโจมตีใส่คู่ต่อสู้ สามารถช่วยให้คุณได้ปลดปล่อยอารมณ์จากความเครียด และ ในขณะที่คุณกำลังชกมวย คุณต้องตอบสนอง ต่อสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่เสมอ จึงทำให้ต้องใช้สมาธิอย่างมาก จึงไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น คุณสามารถลืมความกังวลของคุณได้

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยฝึกความแข็งแรง ของร่างกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ร่างกายแทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นหมัด , ศอก , หน้าแข้ง , เข่า ทำให้ได้กล้ามเนื้อ เกือบทุกส่วนของร่างกาย ต้องใช้อวัยวะทุกส่วน ซึ่งแตกต่างจากการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะเน้นกล้ามเนื้อ เพียงส่วนเดียว นอกจากนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วยปรับสมดุลในร่างกาย และทำให้การทรงตัวได้ดีขึ้นอีกด้วย

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้ไหวพริบ และการตอบสนองที่ดี

มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องฝึกฝนให้มีปฏิภาณไหวพริบที่ดี ซึ่งการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ใช่แค่การปล่อยหมัดเท่านั้น หรือออกอาวุธไปที่ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น แต่ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) คุณจะต้องมีทักษะมากมายที่มาพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา เพราะไม่ใช่แค่คุณที่ออกหมัดใส่คู่ต่อสู้ ในขณะเดียวกัน คู่ต่อสู้ของคุณ ก็กำลังออกอาวุธใส่คุณด้วยเช่นกัน ดังนั้นคุณจะต้องใช้ไหวพริบ และการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกัน หรือหลบหลีก นอกจากนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังถือเป็นกีฬา ที่ให้คุณใช้ความคิด ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอีกด้วย

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยฝึกการป้องกันตัวเอง

มวยไทย ( Muay Thai )  นอกจากจะเป็นกิจกรรมกีฬา และออกกำลังกายแล้ว ยังสามารถเป็นการฝึก เพื่อป้องกันตัวจาก สถานการณ์อันตรายได้อีกด้วย หรือ เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับคุณในชีวิตประจำวัน ซึ่งการฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อป้องกันตัวก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่หลายคนเลือกที่จะเข้ามาเล่น มวยไทย ( Muay Thai ) เลยก็ว่าได้

 

5. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และกล้าตัดสินใจ

มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวคุณเองด้วย ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจ และเป็นอิสระ รวมถึงความกล้าตัดสินใจ เพราะก่อนจะชก ก็จะมีการวางแผนไว้แล้ว แต่เมื่อขึ้นชกจริง กลับไม่เป็นไปตามแผน ดังนั้นต้องใช้สติ และกล้าตัดสินใจ เปลี่ยนรูปแบบมวยอยู่เสมอ ส่งผลให้คุณมีความมั่นใจ และพร้อมตัดสินใจมากขึ้น

 

6. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ และหลอดเลือด

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ช่วยให้ปอดใหญ่ขึ้น สามารถกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และ หลอดเลือด เผาผลาญแคลอรี รวมถึงสามารถลด หรือควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เพื่อช่วยรักษาสุขภาพหัวใจ และ หลอดเลือด คุณต้องรักษาระดับความเครียดของปอด และหัวใจให้อยู่ในระดับปานกลาง เพื่อการสูบฉีด และ การไหลเวียนที่ดี การซ้อมเป็นประจำจะทำให้หัวใจ และปอดของคุณทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

การเคลื่อนไหว ฉบับกีฬา มวยไทย

มวยไทย กับ คาราเต้ แตกต่างกันยังไง

การเคลื่อนไหว ฉบับกีฬา มวยไทย

การเคลื่อนไหว ฉบับกีฬา มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ที่มีเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งการเคลื่อนไหว ก็ล้วนเป็นพื้นฐาน ที่สำคัญของการใช้ แม่ไม้มวยไทย ทั้งการ รุก และ รับ ของ คู่ต่อสู้ บนสังเวียน สำหรับ มือใหม่ ที่อยากฝึก การเคลื่อนไหว กีฬา มวยไทย มีดังนี้

การเคลื่อนไหว ฉบับกีฬา มวยไทย

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่นอกจาก จะเป็นศิลปะ การใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก ที่เราได้พูดถึง กันไป ในหลาย ๆ บทความแล้ว ยังมีในเรื่องของ  การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ที่เป็น ขั้นพื้นฐาน ของการใช้ แม่ไม้มวยไทย ทั้ง การรุก และ การรับ โดย การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ในการฝึก กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) มีดังนี้

 

 1. การเคลื่อนไหว ในการ รุก และ ถอย แบบเป็นเส้นตรง

สำหรับ การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว การรุก หรือ ถอย แบบเดินหน้า หรือว่า ถอยหลัง โดยการ ลากเท้า ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ  ถ้ารุก ไปข้างหน้า จะเดินหน้า และ ให้เท้าหลัง ลากตาม เป็นจังหวะ โดยอาจจะ ยกเท้า หรือ ไม่ยก ก็ได้ และในขณะที่ เวลาถอย จะใช้แรงส่ง จากเท้าหน้า ให้เท้าหลัง ก้าวออกไป แล้วเท้าหน้า ก้าวตาม เป็นจังหวะ โดยอาจจะ ยกเท้า หรือ ไม่ยกก็ได้ เหมือนกัน

 

2. การเคลื่อนไหว ในการเคลื่อนที่ เป็นวงกลม

สำหรับ การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ในการเคลื่อนที่ เป็นวงกลม ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ การเคลื่อนที่ โดยใช้ การรุก และ  การถอย เป็นแบบ การเคลื่อนที่ ของแบบเท้า ธรรมดา ในลักษณะที่ เท้านำ เท้าตาม ที่เคลื่อนที่ ไปด้านหน้า ด้านหลัง ไปทางซ้าย หรือ ไปทางขวา ซึ่ง การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว เป็นวงกลม ให้เคลื่อนที่ตาม คู่ต่อสู้ ไปเป็นวงกลม ถ้าจะ รุก หรือ ถอย ให้ใช้แบบ การรุก และ การถอย แบบธรรมดา ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับ โอกาส ของ การเคลื่อนที่ ด้วย

 

3. การเคลื่อนไหว ใน การรุก และ ถอยฉาก

สำหรับ การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ใน การรุก จะเป็นมุมฉาก ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ การเพิ่มจาก การรุก ธรรมดา โดยจะใช้เท้า ที่ไม่ถนัด ตั้งนำ และ เท้าที่ถนัด ส่งตาม ต่อจากนั้น ใช้เท้า ที่ไม่ถนัด ลากออกไปด้านข้าง และส่งเท้าที่ถนัด ตามไป อยู่ด้านหน้าเท้า ที่ไม่ถนัด

 

4. การเคลื่อนไหว แบบ การก้าวย่าง

- การก้าวย่าง ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ การเดิน หรือ ลากเท้า ที่ใช้ในโอกาส การรุก และ ถอย ลักษณะของ การก้าวย่าง ใน มวยไทย  นั้น คือ การยกเข่าขึ้นสูง พร้อมทั้งยกแขนขึ้น เป็นแนว การยกเข่าขึ้น ให้ติดกับ ศอก หรือ เกือบติดกับ ศอก ซึ่งเข่าที่ยก อาจจะยกก่อน แล้วค่อยลากเท้า ซึ่งการเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ในลักษณะนี้ จะเรียกว่า การก้าวย่าง ในบางครั้ง อาจลากเท้า ไปข้างหน้า ก่อนจะ ยกเข่าขึ้น ซึ่งการที่ยกเข่า ขึ้นติดศอก จะเป็นการ ป้องกัน คู่ต่อสู้ บางครั้ง กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) อาจทำสลับกันได้ ทั้งด้านซ้ายนำ หรือ ขวานำ เป็นต้น

 

- การย่างสามขุม ใน สังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) มักจะได้ยิน กันบ่อย ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันก็คือ การเดินจุด 3 จุด โดยการ เปลี่ยนตำแหน่ง ของเท้า การเดิน ให้กำหนดจุด สำหรับที่ใช้ ในการเปลี่ยนตำแหน่ง ของเท้า หรือ เป็นการ เปลี่ยนเหลี่ยม ของ ร่างกาย นั่นเอง ซึ่งการฝึก การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว แบบ การย่างสามขุม ให้ชำนาญ แบบ นักชกมวย มวยไทย ( Muay Thai )  มืออาชีพ นั้น จะต้องฝึก การย่ำ การก้าวย่าง และ การย่างสามขุม ที่สามารถ นำไปใช้ ป้องกัน ในการ หลบหลีก หรือบ้าง ก็ใช้ใน การรับ หรือ การรุก นั่นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย กับ คาราเต้ แตกต่างกันยังไง

วิธีหลีกเลี่ยง การบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

มวยไทย กับ คาราเต้ แตกต่างกันยังไง

มวยไทย กับ คาราเต้ แตกต่างกันยังไง

มวยไทย กับ คาราเต้ นั้นอาจจะไม่ได้เหมือนกันอย่างชัดเจน แต่ก็ถือว่าเป็น ศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราอยากจะมาแนะนำ ว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาดูกัน

มวยไทย กับ คาราเต้ แตกต่างกันยังไง

คาราเต้

คาราเต้ ( ญี่ปุ่น: 空手, โรมาจิ : คาราเต้ , การทับศัพท์ : คาราเต้ ) หรือ คาราเต้โด ( ญี่ปุ่น : 空手道 , โรมาจิ : karatedō, การทับศัพท์ : คาราเต้โด , วิธีมือเปล่า ) เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดในโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นการผสมผสานระหว่างการต่อสู้แบบโอกินาว่าและจีน คาราเต้ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2464 ( ค.ศ. 1921 ) เมื่อชาวโอกินาวาอพยพมายังประเทศญี่ปุ่น

คาราเต้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการต่อสู้แบบเฉือนอิฐ แต่แท้จริงแล้วเป็นการต่อสู้โดยใช้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กำปั้น เท้า สันมือ นิ้ว ศอก เป็นต้น แต่เมื่อนำมาดัดแปลงเป็นกีฬาจะเหลือเพียงมือและเท้า

 

ระดับของสายของ คาราเต้

การแบ่งคาราเต้โดยการผูกสาย ( Obi ) เรียกว่า Kyu ( คิว ) ใช้ในระดับเข็มขัดสี และ Dan ( แดน ) ใช้ในระดับเข็มขัดสีดำ มีเข็มขัดคาดเอวมาตรฐานสมาคมไทย-ญี่ปุ่น Shotokan Karate ( Thailand ) 10kyu สีขาว

- 9kyu : ขาว

- 8kyu : ขาว

- 7kyu : เหลือง

- 6kyu : เหลือง

- 5kyu : เขียว

- 4kyu : ฟ้า

- 3kyu : น้ำตาล

- 2kyu : น้ำตาล

- 1kyu : น้ำตาล

- 1 - 10Dan : ดำ

 

มาตรฐานสมาคมคาราเต้โดโกจูไก ( ประเทศไทย ) ระดับสายคาดเอวมีดังนี้

- 10kyu : ขาวปลายเหลือง

- 9kyu : เหลือง

- 8kyu : เหลืองปลายเขียว

- 7kyu : เขียว

- 6kyu : เขียวปลายฟ้า

- 5kyu : ฟ้า

- 4kyu : ฟ้าปลายน้ำตาล

- 3kyu : น้ำตาล

- 2kyu : น้ำตาลปลายดำหนึ่ง

- 1kyu : น้ำตาลปลายดำสอง

- 1 - 10Dan : ดำ

 

มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการป้องกันตัวของไทย ถือว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สืบสานมานาน มวยไทย มีเทคนิคการต่อสู้ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นการใช้ทั้งร่างกาย และจิตใจในการต่อสู้ ที่ใช้ร่างกายเป็นอาวุธ ประกอบไปด้วย หมัด ศอก เข่า และเท้า จะผลิตอาวุธอันทรงอานุภาพให้ มวยไทย ( Muay Thai ) ได้แพร่หลาย ในระดับสากลในช่วงศตวรรษที่ 20 เมื่อนัก มวยไทย เหล่านี้สามารถชนะนักมวยชื่อดังในสาขาอื่น ๆ ได้ การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) อาชีพที่ดูแลโดยสภามวยไทยโลก

ขณะนี้สหพันธ์ มวยไทย สมัครเล่นนานาชาติ ( IFMA ) มีแผนผลักดันกีฬา มวยไทย เข้าสู่กีฬาโอลิมปิก และในปี พ.ศ. 2557 องค์การสหประชาชาติได้รับรองมวยไทย เป็นกีฬาชุมชนระดับโลก ซึ่งได้ลงนามความร่วมมือกับสภามวยไทยโลกและสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ

 

หลักการชกกีฬา มวยไทย

การชก มวยไทย ที่ดีมีหลักการสำคัญ คือ การป้องกันด้วยท่าที่มั่นคง แข็งแรง ยืนโด่ง ตั้งแขนป้องกัน ( การ์ดมวย ) และเชิดคางเหมือนป้อม วางหนึ่งในสี่ของน้ำหนักบนฝ่ามือของนิ้วหัวแม่มือ ในแนวทแยงมุมที่กว้างกว่าความกว้างไหล่ ก้าวย่างด้วยการลากเท้าหลัง พร้อมล่อ , เคลื่อนเข้า - ออก, ป้องกันและโต้กลับ, แขนยกขึ้นระดับไหล่หรือแตะโหนกแก้ม , แขนด้านหลังยกขึ้นระดับแก้ม. ข้อศอกทั้งสองข้างไม่กางออกและไม่ชิดกัน ให้คางของคุณลง ดวงตาของเขามองอย่างดุเดือดระหว่างหน้าอกของฝ่ายตรงข้าม พร้อมให้เห็นทุกการเคลื่อนไหวเพื่อรุก รับ หรือโต้กลับแบบแม่ไม้ การผูกเชือก และการกระจายบอลต่างๆ มีท่วงท่าองอาจ มีจังหวะ หลอกล่อ ดุดัน เทียบชั้นแล้ว เช่นเดียวกับพญาราชสีห์ และพญาคชสีห์ มวยไทย ที่ออกอาวุธต้องมีเป้าหมายและจุดประสงค์ที่แน่นอน ( แต่มักแฝงเล่ห์กล ) มีการต่อสู้ระยะไกล ( วงนอก )และระยะประชิด ( วงใน ) และมี การขาดดุลอย่างเด็ดขาดในการพิชิตคู่ต่อสู้ และแม่ไม้ มวยไทย เป็นท่าต่อสู้ที่สำคัญที่สุดของ มวยไทย

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

วิธีหลีกเลี่ยง การบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนา ร่างกายได้ดี

วิธีหลีกเลี่ยง การบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

วิธีหลีกเลี่ยง การบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้ ทุกส่วน ของร่างกาย ยิ่งเพิ่ม โอกาส ความเสี่ยง เกิดการ บาดเจ็บได้ จึงต้องมี วิธีในการ ดูแลตัวเอง เมื่อเกิด อุบัติเหตุขึ้น

วิธีหลีกเลี่ยง การบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้ แขน ขา เข่า ศอก ในส่วนของ การออก ท่าทาง หรือ อาวุธ ท่าต่าง ๆ กับคู่ต่อสู้ จะต้องใช้แรง และ ความมีไหวพริบ เป็นอย่างมาก เพราะว่า ในขณะที่ กำลัง แลกหมัดกัน อาจเกิด อุบัติเหตุ หรือ เกิดการ บาดเจ็บได้ เราจึงต้อง รู้วิธี การปฐมพยาบาลตัวเอง เบื้องต้น เมื่อเกิด การบาดเจ็บ จากการ ฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai )

 

การเตรียม ความพร้อม ร่างกาย ที่ไม่เพียงพอ ก่อนการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ การเคลื่อนไหว ในท่าทาง ที่ไม่ถูกต้อง ระหว่าง การฝึก หรือ การออกกำลังกาย อาจทำให้ เกิดอาการ บาดเจ็บ ที่บริเวณ กล้ามเนื้อ หรือ เส้นเอ็นได้ เช่น ข้อเท้าเคล็ด หรือ ข้อเท้า พลิกแพลง จากการ ลงน้ำหนักผิด หรือ เจ็บเส้นเอ็น จากการ ยืดเหยียดขา มากเกินไป

 

เมื่อรู้สึก เจ็บปวด กระทันหัน ควรหยุดพัก จากการฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ การออกกำลังกาย และ ควรใช้ความเย็น จากเจล ความเย็น ผ้าขนหนูเย็น หรือ ใช้น้ำแข็งประคบ ตรงจุดที่ เกิดการ อาการ บาดเจ็บ หรือ อาการ บวมแดง รวมถึง ควรยก บริเวณ ที่บวม ให้สูงมากขึ้น อย่างเช่น การรองหมอน ใต้ขา หรือ รองเข่า ที่เกิด อาการบาดเจ็บ เพื่อไม่ให้เลือด ไหลมาเลี้ยง บริเวณ ที่เกิดการ อักเสบเยอะมาก จนเกินไป ซึ่งจะช่วย ลดการบวม และ ช่วยบรรเทา อาการปวดได้ ทั้งนี้ หากว่ามี อาการ บาดเจ็บ ก็ไม่ควรจะฝืน ออกกำลังกายต่อ ควรหยุดพัก จนกว่า จะหายดี หรือ ควรรีบไป ปรึกษาแพทย์ หากอาการ บาดเจ็บ เหล่านั้น ยังไม่ดีขึ้น

 

การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ออกกำลังกาย ที่จะเกิดการปะทะ หรือ การกระแทก อย่างแรง รวมไปถึง ต้องมี การเคลื่อนไหว รวดเร็ว ซึ่งอาจจะ ก่อให้เกิด การบาดเจ็บขึ้น กับร่างกายได้ เพราะว่าเป็นกีฬา ประเภท ที่มีความเสี่ยง ในการ บาดเจ็บ อย่างมาก หากไม่ ระมัดระวังอย่างดี โดยเฉพาะ มือใหม่ ที่เพิ่งเริ่มหัดฝึกฝน เพราะว่ายังไม่รู้ ท่าทาง หรือ เป็นจังหวะ ที่ถูกต้อง พอสมควร

 

การฝึกฝน  มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็น เรื่องดี ต่อสุขภาพ และ ทำให้มีทักษะ ศิลปะ ไว้ป้องกันตัว เอาไว้ใช้ ในยามที่มี สถานการณ์ ฉุกเฉิน ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กับตนเอง หรือ ผู้อื่น แต่ทั้งนี้ ก็ควรจะ ประเมิน สถานการณ์ ให้ดี ๆ หากว่า ฝ่ายตรงข้าม มีอาวุธ ที่สามารถ ทำอันตราย กับเราได้ ก็ควรจะคิด ให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ ตนเอง เกิดการ บาดเจ็บ และ ตกอยู่ ในภาวะอันตรายได้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนา ร่างกายได้ดี

สร้างหุ่นฟิต กล้ามแน่นๆ ด้วย มวยไทย

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนา ร่างกายได้ดี

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนา ร่างกายได้ดี

ทุกวันนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นที่แพร่หลาย ที่ได้รับ ความนิยม และ ยังเป็น กีฬาที่ สามารถ เข้าถึงง่ายใคร ๆ ก็สามารถ ฝึกฝนได้ ไม่ต้องใช้ อุปกรณ์เยอะ

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนา ร่างกายได้ดี

ปัจจุบัน กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นที่นิยม ในสังคมของ คนรุ่นใหม่ เราจะเห็นได้ถึง ดารา หรือ คนดัง หลายคน หันมา ฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะนอกจาก จะช่วยทำให้ ร่างกาย แข็งแรงแล้ว ยังมีอีกหลายอย่าง อย่างเช่น ฝึกความว่องไว  และ ที่สำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็น ศิลปะ ป้องกันตัว และ ช่วยพัฒนา อะไรหลาย ๆ อย่าง ดังนี้

 

1) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยฝึกวินัย

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น จำเป็นจะต้อง ฝึกฝน ทุกวัน เพื่อให้ร่างกาย มีความ แข็งแรง และ เพื่อให้กล้ามเนื้อ จดจำ  เพราะว่า การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้ ความอดทน ทั้งร่างกาย และ จิตใจ เพราะฉะนั้น การที่จะฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ให้เห็นผลนั้น ต้องมีวินัย และ มวยไทย ( Muay Thai ) จะมีการฝึกหลายอย่าง ทั้งร่างกาย กล้ามเนื้อ ความอึด ความอดทน

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนา ร่างกายได้ดี

2) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยลดความเครียด

การฝึก หรือ การเล่น กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องอาศัย กลุ่มเพื่อน เพื่อความสนุกสนาน ในการเล่น และ ยิ่งมีเพื่อน มากเท่าไหร่ก็ ยิ่งทำให้มี ความสนุกสนาน มากเท่านั้น เพราะว่า เวลาเล่น ร่างกาย ของเรา จะปล่อยสารเอนโดรฟีน ออกมา ทำให้เรา มีความสุข และ สนุกสนาน ไปกับการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

 

3) มวยไทย ( Muay Thai ) มีจิตใจที่มั่นคงแน่วแน่

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น เป็นกีฬาที่ต้อง ฝึกจิตใจ เพราะนอกจาก ใช้ความอดทน ในการฝึก ยังต้องมี การฝึกจิตใจ เพื่อเตรียมพร้อม กับการฝึกหนัก พร้อมอดทน กับความเหนื่อยล้า เพราะจิตใจที่แน่วแน่ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับ การฝึก

 

นอกจากนี้ หลาย ๆ คน คิดว่าการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้เป็น คนใจร้อน แต่ความจริง หากนักมวย หรือ ผู้ที่ฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ขึ้นสังเวียนจริง ผู้นั้น จะต้อง ช่วยเหลือ ตัวเอง และ ไม่สามารถ พึ่งพา พี่เลี้ยง หรือ ครูมวยได้ ซึ่งสิ่งแรก ที่ต้องคิด ก็คือ ความชนะ สิ่งที่ทำให้ ชนะคู่ต่อสู้ได้ นั่นก็คือ ความสุขุม ใจเย็น และ มีสมาธิ สิ่งเหล่านี้ จะทำให้วิเคราะห์ คู่ต่อสู้ และตัวเรา ได้อย่างดี หากผู้ชก ใจร้อน ก็จะทำให้ขาดสติ และแพ้ได้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างหุ่นฟิต กล้ามแน่นๆ ด้วย มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ส่วนใดในร่างกายบ้าง

สร้างหุ่นฟิต กล้ามแน่นๆ ด้วย มวยไทย

สร้างหุ่นฟิต กล้ามแน่นๆ ด้วย มวยไทย

สร้างหุ่นฟิต กล้ามแน่นๆ ด้วย มวยไทย ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งอาจจะใช่เวลาในการฝึกซักหน่อยหนึ่ง แต่รับรองได้ว่า ถ้าฝึกทุกวัน คุณจะมีกล้ามแน่นๆ ไปอวดคนอื่น แน่นอน

สร้างหุ่นฟิต กล้ามแน่นๆ ด้วย มวยไทย

สร้างหุ่นฟิต ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็นศิลปะของไทย และมีประโยชน์ในการป้องกันตัว โดยไม่ใช้อาวุธอีกด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และได้รับการพัฒนาเป็นกีฬา ในรูปแบบ มวยไทยอาชีพ แต่ที่ผ่านมา มวยไทย ( Muay Thai ) ในสายตาของชาวต่างชาติ มองว่าเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งชาวต่างชาติก็นิยมที่จะมาฝึก และเล่น มวยไทย ( Muay Thai ) ตามยิมต่าง ๆ ในประเทศเรา กรุงเทพฯ ก็มีสถานที่สอน ราคาไม่แพง เยอะแยะ และ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ยังคงเป็นต้นแบบของกีฬาต่อสู้ เช่น มวยสากล K1 และ UFC อีกด้วย

 

ปัจจุบัน ค่ายมวยหลายแห่ง ได้เปิดพื้นที่บริการให้บุคคลทั่วไป เข้ามาฝึก ลดน้ำหนัก และออกกำลังกาย ได้ตามราคาที่แตกต่างกันออกไป จึงเป็นที่มาของกระแส มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน รวมถึงมีดาราหลายคน ก็ใช้มวยไทยเป็นการออกกำลังกาย ลดน้ำหนักอีกด้วย กระชับสัดส่วนบ้าง เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อ และใช้พลังงานมาก ถือว่าออกกำลังกายได้เต็มที่ เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้คุณได้ออกกำลังกาย และใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ และเลือดสูบฉีด ได้ดีขึ้น ลดน้ำหนัก ได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น

 

วิธีการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

วิธีการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ควรหาที่ฝึกที่ดี สะอาด แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกที่ฝึกแพง ๆ เพราะ ขึ้นอยู่กับการฝึกของเรา ต้องจริงจัง สู้ ๆ การเลือกเทรนเนอร์ที่ดีนั้น ก็ทำให้ได้ผลดี เพราะจะทำให้เรามีท่าทางที่ถูกต้อง และปลอดภัย อย่าฝึกมวยไทยเพื่อแค่ตามกระแส เพราะจะเสียเงินเปล่า ๆ เพราะราคาค่าฝึกแต่ละครั้งไม่ถูก การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ก็อาจจะมีเจ็บ ฟกช้ำ ดำเขียว เป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ควรหักโหมจนร่างกายได้รับบาดเจ็บ แค่นิดหน่อยพอรับได้

 

วิธีการเลือก สถานที่ฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถเลือกสถานที่ได้ตามสะดวก ใกล้บ้านท่านเราจะสามารถปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอ ราคาย่อมเยา เหมาะสมกับฐานะของเราเพราะประสบการณ์ ค่าฝึกมวยไทย มีตั้งแต่ฝึกฟรีไปจนถึงครอสละหลายหมื่นบาทขึ้นอยู่กับสภาพของค่ายมวย อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวก เรื่องความรู้นั้นไม่ต่างกันมาก เพราะค่ายรู้ว่าเราออกมาออกกำลังกาย ถ้าไม่ซีเรียสต้องแจ้งย้ายค่าย เพื่อจัดการฝึกอบรมเฉพาะและจัดผู้ฝึกสอนที่เหมาะสมกับระดับของเรา

ลักษณะการฝึกจะขึ้นอยู่กับสถานที่ และตามที่ครูฝึกกำหนด โดยอาจมีการแบ่งระดับของ Trainer เป็นระดับ Beginner Advance และ Professional ซึ่งบางแห่งจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ ละ 1 Trainer และนักเรียน 5 - 10 คน หรือ Training ตัวต่อตัว (ซึ่งเหมาะสำหรับระดับ Advanced ขึ้นไป) การฝึกต้องเริ่มด้วยการวอร์มร่างกาย วิ่ง หรือกระโดดเชือก แล้วต่อยลม ก่อนเข้าเป้าโดยเทรนเนอร์และมาร์บอร์ ดีเวท แล้วจึงยืดกล้ามเนื้อ (ขึ้นอยู่กับการฝึก) ระยะเวลาในการฝึกจะประมาณ 1 – 1.30 ชม.

 

ฟิตหุ่นด้วย มวยไทย ให้เห็นผล

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการฝึกหรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่ เหมาะเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่ดี ทั้งเบิร์นไขมันและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กัน เพียงครั้งละ 1 ชั่วโมงครึ่ง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง แค่ 10 ครั้ง ก็จะกระชับขึ้นจนคุณรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

นอกจากนี้การเปล่งเสียงอย่างเต็มที่ เมื่อคุณเตะหรือต่อยออกไป จะช่วยให้ระบบทางเดินหายใจของคุณดีขึ้น พร้อมกับทำให้คุณได้ปลดปล่อยความเครียดไปด้วย

 

ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) นอกสถานที่

สถานที่ซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีที่สุด อาจจะไม่ใช่ห้องแอร์แอร์เย็นฉ่ำ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่ที่ที่ดีที่สุด คือ กลางแจ้ง หรือการฝึกนอกสถานที่ ที่ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ และฝึกความอดทนไปพร้อมกัน. ซ้อมมวยนอกห้องแอร์แบบนี้ จะทำให้คุณได้อยู่กับธรรมชาติ หายใจสะดวกกว่าอยู่ในห้อง และพอฝึกไปสักพักก็จะชินไปเอง รับมือกับสภาพอากาศได้ดีขึ้นและหลังการฝึกซ้อมก็จะสดชื่นขึ้นด้วย

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ส่วนใดในร่างกายบ้าง

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ คุณประโยชน์สารพัด

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ส่วนใดในร่างกายบ้าง

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ส่วนใดในร่างกายบ้าง

มาดูกัน ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นสามารถ ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ส่วนใดบ้าง ในร่างกาย ที่จะทำให้คุณว้าว และหันมาใส่ใจสุขภาพได้มากยิ่งขึ้น ไปดูกันเลย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจะได้กล้ามเนื้อแล้ว มวยไทย ( Muay Thai ) ยังจะช่วยในหลาย ๆ ส่วนของร่างกาย ก็คือ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ในการทำงานของหัวใจ ให้มีกาสูบฉีดเลือดได้ดี  การชกมวย เป็นการขยับร่างกายในทุก ๆ ส่วน ด้วยความว่องไว รวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยเรื่องการทรงตัว การตอบโต้ ที่รวดเร็ว เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้สายตา และระบบประสาทสัมผัสต่าง ๆ เพื่อโฟกัสไปที่คู่ต่อสู้นั่นเอง

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เพิ่มกล้ามเนื้อ แล้วยังเพิ่มความแข็งแรง ของกระดูก โดย มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วยลดความเครียดต่าง ๆ ที่ได้รับมาระหว่างวัน การชกมวย จะช่วยหลั่งสารต่าง ๆ เช่น อะดีนลาลีน ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย การต่อยมวยยังต้องใช้ การขยับทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมัน และร่างกายก็สามารถลดไขมัน และสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อ ในส่วนนั้น ๆ ได้อีกด้วย การชกมวย 1 ชั่วโมง จะเผาผลาญ ได้มากถึง 1,000 กิโลแคลอรี เลยค่ะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ที่นิยมออกกำลังกายกันแล้ว ก็ยังได้หน้าท้องที่แบนราบ มีซิกแพ็ค มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้แกนกลาง ของลำตัวสูงมาก ๆ ทั้งการบิดตัว การเอี้ยวตัวหลบหมัด หรือการรับหมัดของคู่ซ้อม การออกกำลังกาย ด้วยการต่อยมวย ก็จะช่วยเผาผลาญได้ดีมาก สามารถสร้างซิกแพ็คได้เร็วกว่าการซิทอัพ อีกทั้งการชกมวย ยังใช้ร่างกายส่วนบน มากกว่าส่วนล่าง ใช้ทั้งส่วนแขน ต้นแขน หัวไหล ศอก และลำตัว เมื่อมีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ยังช่วยเพิ่มพลังพละกำลัง ในการออกกำลังกายอีกด้วยค่ะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่มีส่วนไหนในร่างกาย ที่ใช้งานมากกว่ากัน แต่การชกมวย เน้นออกกำลังไปทุก ๆ ส่วนของร่างกาย เพื่อที่จะสร้างความสมดุล ของกล้ามเนื้อ และเพิ่มไหวพริบ ความอดทน ดังนั้น การชกมวย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการออกกำลังกาย

 

 

 

 

 

โดยสรุปแล้ว มวยไทย ( Muay Thai ) ได้อะไรบ้าง มาดูกันอีกครั้ง ชัด ๆ เลย

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้หน้าท้องแบบราบ อยากมีซิกซ์แพ็คชัด ๆ ลองหันมาต่อยมวยดูค่ะ เพราะการชกมวย จำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพก เพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัด ได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า การนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝันค่ะ

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยคลายเครียด หากในแต่ละวัน ต้องพบกันปัญหาอย่างมากมาย รู้สึกหงุดหงิดจวนจะระเบิด เป็นเรื่องที่ดีค่ะ หากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายเพื่อระบายอารมณ์ออกมา อะดรีนาลีน และฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมาระหว่างการใช้แรง จะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย การต่อยมวย จึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผล และดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงสารเอ็นดอฟีน ที่หลั่งออกมาก็ช่วยให้มีความสุขขึ้นด้วย

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย เป้าหมายของการต่อยมวย คือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน ยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะ ที่เกี่ยวข้องอย่างการทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้ และความคล่องตัว สามารถเบิร์นไขมัน ได้ถึง 13 แคลลอรี่ ใน 1 นาที การออกกำลังกายด้วยการชกมวย ทำให้เผาผลาญแคลอรี่ ได้ตั้งแต่ 200 - 400 แคลอรี่ในเวลาครึ่งชั่วโมง, ขึ้นสังเวียนชกมวย 30 นาที เบิร์นได้ 400 แคลลอรี่, ชกกระสอบทราย 30 นาที เบิร์นได้ 200 แคลลอรี่, ชกกับคู่ซ้อม 30 นาที เผาผลาญได้ 300 แคลลอรี่

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่า โดยการชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ ในการออกกำลังกายแบบ High - Intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) เพราะการขึ้นชกใน 1 ยก คือการใช้ร่างกาย ไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยก คือการทำให้ร่างกายฟื้นตัว จากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกาย แบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงาน การใช้ออกซิเจน และไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน การออกกำลังกายประเภทนี้ จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย

 

เห็นแบบนี้แล้ว เราต้องมาเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) กันแล้วค่ะ หากใครต้องการสถานที่ชกมวย จะมาออกกำลังกาย หรือกีฬามวยแบบ ครบวงจร ต้องที่นี่เลยค่ะ เจริญทอง มวยไทย ที่สุดแห่ง มวยไทย ( Muay Thai ) นั่นเอง

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เสน่ห์ ของ มวยไทย ที่หลายๆ คน ให้ความสนใจ

มวยไทย มีประโยชน์ มากกว่า การออกกำลังกาย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ คุณประโยชน์สารพัด

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ คุณประโยชน์สารพัด

มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งคุณค่า และ ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ในทางตรง หรือ ทางอ้อม ซึ่งวันนี้ ทางเราจึงมาสรุป คุณประโยชน์คร่าว ๆ ให้ได้อ่านกันค่ะ

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ คุณประโยชน์สารพัด

ประวัติศาสตร์ มวยไทย ( Muay Thai ) มีส่วนเกี่ยวกับ การอพยพ ของประชากร ที่ได้อาศัยอยู่ ในมณฑลยูนาน ฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง ประเทศจีน โดยตามตำนานของไทยนั้น ได้เชื่อว่ามีผู้คนจำนวนมาก ที่เดินทางออกจากมณฑลยูนาน ประเทศจีน มาสู่ประเทศไทย เพื่อทำการค้นหาที่ดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ สำหรับทำการเกษตร อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนั้นการโยกย้าย ของพวกเขา ชาวไทยกลุ่มนี้ ก็ได้ถูกโจมตีโดยโจร และสัตว์ นอกเหนือจากนี้ ยังมีโรคต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องเผชิญหน้า เพื่อเพิ่มความสามารถ ในการปกป้องกันร่างกาย และจิตใจ รวมถึงการรับมือกับความทุกข์ยาก ชาวไทยสยาม จึงได้มีการคิดค้นวิธีการต่อสู้

 

ในปัจจุบัน นักมวย จะต้อง สวมนวมขนาด  4  ออนซ์ แต่งกายในแบบนักกีฬามวย ก็คือ สวมกางเกงขาสั้น สวมกระจับ สวมปลอกรัดเท้า จะสวมหรือไม่ก็ได้ เครื่องรางของขลัง ผูกเอาไว้ที่แขนท่อนบนได้ ส่วนเครื่องรางชนิดอื่น ๆ ใส่ได้เฉพาะตอนที่ร่ายรำไหว้ครู แล้วให้ทำการถอดออก ตอนเริ่มการแข่งขัน

 

ในส่วนการแข่งขัน จะมีกรรมการ ที่หน้าที่ผู้ชี้ขาดบนเวที 1 คน มีกรรมการให้คะแนน ข้างเวทีอีก 2 คน และจำนวนยก ในการแข่งขันจะมี 5 ยก ยกละ 3 นาที และพักระหว่างยก 2 นาที

 

การแข่งขัน จะแบ่งออกเป็นรุ่น ตามน้ำหนักตัวของนักมวย ที่เหมือนกับหลักเกณฑ์ ของมวยสากล อวัยวะที่ใช้ในการต่อสู้ ก็คือ หมัด เท้า เข่า ศอก ที่สามารถออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้ได้ทุกส่วนในร่างกาย โดยที่ไม่จำกัดพื้นที่ในการชก แต่ว่า แม่ไม้มวยไทย ที่มีอันตรายสูงในบางท่า ก็ได้ถูกห้ามใช้โดยเด็ดขาด อย่าง ท่าหลักเพชร เป็นท่าจับขาแล้วหักด้วยการนั่งทับ

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ คุณประโยชน์สารพัด

อย่างไรก็ตาม การชกในทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ จะมุ่งเพื่อผลการแพ้ชนะ และ มีผลประโยชน์ในทางธุรกิจ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ศิลปะและแก่นแท้ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นับวันก็อาจจะเลือนหายไป ถึงแม้ว่าจะมีหลักสูตรในการเรียน ในบางสถาบันการศึกษาก็ตามแต่ จึงเป็นที่น่ายินดีที่ในปัจจุบัน มีการเรียน การสอน มวยไทย ( Muay Thai ) ในระดับของบัณฑิตศึกษา ก็คือ วิทยาลัยมวยไทยศึกษา และ การแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง ที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเริ่มเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขามวยไทย ภายใน พ.ศ. 2546 หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขามวยไทยศึกษา เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2548 และ ต่อมาได้พัฒนามาเป็นหลักสูตร ในระดับปริญญาเอกที่ชื่อว่า หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขามวยไทยศึกษา ( ในปัจจุบันได้มีการสอน ในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยมีการยกเลิกหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต )

 

กีฬาทุกชนิด มีคุณประโยชน์ ต่อร่างกาย  และ ศิลปะ การต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็มีคุณค่าที่สูง สำหรับผู้เรียน หลายประการ ดังนี้

1) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้ร่างกายมีสรรถภาพที่ดีสมส่วน  มีภูมิต้านทานโรคสูง

2) มวยไทย ( Muay Thai ) มีจิตใจเข้มแข็ง สุขุมรอบคอบ  มีมานะอดทน

3) มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถป้องกันตัว และ มีประโยชน์ต่อสังคม ในชีวิตประจำวันได้

4) มวยไทย ( Muay Thai ) ทำให้มีความเชื่อมั่นต่อตนเอง มีระเบียบวินัยกล้าหาญ

5) มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยดำรงไว้ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย ทำให้ยั่งยืนแพร่หลาย

6) มวยไทย ( Muay Thai ) มีไหวพริบ เชาว์ปัญญา แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

7) มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ ยึดเป็นอาชีพได้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข้อดี ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อร่างกาย

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ กับการ ออกกำลังกาย

ข้อดี ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อร่างกาย

ข้อดี ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อร่างกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) หนึ่งใน กีฬาชนิดหนึ่ง ที่เป็นที่นิยม และ มีคนหันมาสนใจ มากขึ้น จุดประสงค์ ก็เพื่อการออกกำลังกาย ที่เคลื่อนไหว อย่างรวดเร็ว และ ใช้แรงเยอะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ทำให้เหงื่อออก เผาผลาญได้ดี อีกทั้ง ยังช่วยให้มีทักษะ การป้องกันตัว ติดไว้ด้วย และ ไม่ใช่แค่กีฬา ในกระแสเพียงเท่านั้น แต่ยังมีอะไรดี ๆ มากมาย ที่หลายคน อาจจะยัง ไม่เคยรู้ มาก่อน วันนี้ เราจะมาเปิดเผย ข้อดีของ มวยไทย ( Muay Thai ) กันนะคะ

ข้อดี ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อร่างกาย

ข้อดีของ มวยไทย ( Muay Thai )

1) ช่วยลดความเครียด

ก่อนอื่น เราอย่าคิดว่า การใช้กำลัง จะยิ่งทำให้เราเครียด เพราะในความเป็นจริง กีฬาประเภทนี้ ทำให้เรามีสมาธิ และ สติมากขึ้น เพราะทุกครั้ง ที่เรายืนอยู่ หน้าคู่ต่อสู้ เราจะต้องโฟกัส กับทุกการเคลื่อนไหว และนั่นจะทำให้เรา ไม่มีเวลาที่จะได้ คิดวิตกกังวล อะไรทั้งนั้น

Edyk Jeffry เทรนเนอร์ และ เมเนเจอร์ของ NY San Da โรงเรียนสอนศิลปะ การต่อสู้ ในนิวยอร์ก บอกว่า “มวยไทยช่วยให้ผมเรียนรู้ ที่จะจัดการกับ ความวิตกกังวล ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ได้ดีขึ้น คุณเพียงต้องใช้ ความพยายาม ในการฝึกฝน และคุณก็จะสามารถโฟกัส กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดี”

 

2) เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ

หลาย ๆ คนอาจเข้าใจผิด คิดว่า การต่อยมวยนั้น จำกัดอยู่ที่การ ใช้แค่หมัด และ เท้า แต่สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) แล้วทุกอย่าง จะต้องประสานกันหมด ทั้งข้อศอก คาง และ เข่า

Dan Roberts CSCC เทรนเนอร์ ที่เพิ่งครีเอทแพลน การออกกำลังกาย โดยมีแรงบันดาลใจ มาจากมวยไทยของ NUK SOO บอกว่า “เวลาที่เราเคลื่อนตัว จู่โจม และ ป้องกัน การรุกจากทิศทางต่าง ๆ นั่นจะทำให้กล้ามเนื้อ ทำงานอยู่ตลอด และ พลังงานก็จะพุ่ง ไปทั่วตัว” โดยการเตะนั้น จะเน้นที่ส่วน ของลำตัว สะโพก และ ก้น ส่วนการต่อย โดยใช้ข้อศอก และ กำปั้น จะได้ส่วนของแขน และ ข้อมือ และ ยิ่งถ้าเราทำได้ถูกท่า ก็จะช่วยเบิร์นแคลอรี่ ได้มากขึ้นด้วย เหมาะกับ คนที่ต้องการลดน้ำหนัก อย่างมาก

ข้อดี ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อร่างกาย

3) เพิ่มรอยยัก ในสมอง

การต่อสู้ คงไม่ใช่แค่ เราคนเดียวแน่ ที่เป็นฝ่ายจู่โจม เพราะฉะนั้น เราจะต้องรู้จัก ที่จะหลบหลีก ก้มหลบหมัดต่าง ๆ จากฝ่ายตรงข้าม ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในการตั้งรับนี้ เราอาจจะต้อง มีการออกหมัด ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาบล็อก หรือ แม้แต่การโต้ตอบกลับ ด้วยหมัดขวาตรง ซึ่งทั้งหมดนี้ จะต้องทำด้วยสปีดที่เร็ว

Dan Roberts หนึ่งในเทรนเนอร์มวยไทย ได้บอกว่า “ปฏิกิริยาการโต้ตอบ จะช่วยฝึกการทำงาน ที่สอดประสาน ระหว่างสมอง และกล้ามเนื้อ ให้ทำงานได้ดีมากขึ้น จนในที่สุด คุณจะสามารถกลายเป็นคน ที่มีปฏิกิริยาตอบโต้ได้รวดเร็ว ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ ภายใต้สถานการณ์ ที่กดดัน”

 

4) สร้างความมั่นใจ

มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้เรา ได้รู้จักศักยภาพ ของตัวเอง รู้ว่าร่างกายของเรา สามารถทำอะไร ได้มากกว่า ที่เราคิด และนี่แหละ คือ สิ่งที่ช่วยเพิ่ม ความมั่นใจ และความภูมิใจให้ กับตัวเราเอง เพราะการที่ได้เรียนรู้ วิธีการป้องกันตัวเอง จะทำให้เรารู้สึกทึ่ง กับร่างกาย มวยไทย ( Muay Thai ) จะสอนให้เรา รู้คุณค่าในตัวตนของเรา

 

รับรู้ถึงข้อดีของ มวยไทย ( Muay Thai ) ขนาดนี้แล้ว ก็อย่าลืมลองไปเรียนกันดูนะ เพราะมีแต่ประโยชน์ต่อตัวเราทั้งนั้นเลยนะคะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ กับการ ออกกำลังกาย

เสน่ห์ ของ มวยไทย ที่หลายๆ คน ให้ความสนใจ

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ กับการ ออกกำลังกาย

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ กับการ ออกกำลังกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ อย่างหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่นิยมกัน เป็นอย่างมาก จนในปัจจุบัน ได้มีการนำมาผสมผสาน จนเกิดเป็นการ ออกกำลังกาย ในรูปแบบหนึ่งที่ยอดฮิต ให้หลาย ๆ คนได้เล่นกัน

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ กับการ ออกกำลังกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ ประจำชาติไทย ที่สืบต่อกันมา จากรุ่นสู่รุ่น และยังคงได้รับความนิยม อย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน  ในอดีตเราฝึก ศิลปะการต่อสู้ เพื่อ ต่อสู้ กับข้าศึก การป้องกันตัว และต่อมา ก็ฝึกเพื่อการ กีฬา ซึ่งในปัจจุบัน ศิลปะการต่อสู้ ไม่ได้มีไว้ฝึก แค่เป็น การกีฬา หรือการ ป้องกันตัว เพียงอย่างเดียว แต่ยังฝึก เพื่อการ ออกกำลังกาย ได้อีกด้วย ทุกอย่างบนโลก ล้วนมีความเปลี่ยนแปลง ตามกาลเวลา ศิลปะการต่อสู้ ก็เช่นกัน ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ค่อนข้างมาก เลยทีเดียว อย่างที่เรารู้กันว่า ในอดีต เราฝึก ศิลปะการต่อสู้ เพื่อการ ป้องกันตัว แต่ระยะเวลา ที่เปลี่ยนไป เราก็พัฒนามาเป็นการ ออกกำลังกาย ในรูปแบบหนึ่ง

 

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ก็สามารถฝึกได้คนเดียว เพราะอย่างไร เราก็ได้ ออกกำลังกาย ทุกส่วนของ ร่างกาย อยู่แล้ว การ ออกกำลังกาย โดยการฝึก มวยไทย สิ่งแรก ที่เราจะได้เลย ก็คือ ความกระชับของ กล้ามเนื้อ ความแข็งแรง ให้กับ ร่างกาย ซึ่งส่งผลดีต่อ ระบบการไหลเวียนโลหิต  ระบบการหายใจ การทำงานของระบบหัวใจ ระบบปอด และหลอดเลือด หากเราเจอเหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิด ก็สามารถ ใช้วิชา ศิลปะการต่อสู้ ที่ฝึกมาได้

 

เรียน มวยไทย ( Muay Thai ) มี ประโยชน์ ทั้งด้าน ร่างกาย และจิตใจ ดังนี้

 

  1. มวยไทย ฝึกความแข็งแรง ให้กับ ร่างกาย

กีฬา และการ ออกกำลังกาย แต่ละแบบ จะช่วยให้ ร่างกาย แข็งแรง การ ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่จะช่วยเสริม สร้างกล้ามเนื้อ และ ฝึกความแข็งแรง ให้กับ ร่างกาย มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้ทักษะ การฝึกหลายอย่าง โดยจะใช้ทุกส่วนของ ร่างกาย ทำให้เราจะได้ ความแข็งแรง ของทุกส่วน ใน ร่างกาย เช่นกัน

 

  1. มวยไทย ฝึกการจัดระเบียบของ ร่างกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) มีท่าทาง หรือที่เรียกว่า เพลงมวย ซึ่งเป็นท่าทางที่ต้องฝึกฝน และเชี่ยวชาญอยู่ในระดับหนึ่งเลยในการเป็น เพลงมวย ที่สวยงาม มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจากจะใช้ต่อสู้แล้ว ยังสามารถใช้แสดงได้อีกด้วย ท่าทางที่สวยงามแ ละร่างกายที่เป็นระเบียบจึงมีบุคลิกภาพที่ดี และมีความยืดหยุ่นสูง อีกด้วย

 

  1. มวยไทย ฝึกเป็นอาชีพ

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่เพียงแต่เป็น กีฬา แต่สามารถฝึก เพื่อยึด เป็นอาชีพหลักได้ หากเราชอบ ที่จะ ชกมวย หรือ ฝึกมวย แล้วสามารถฝึกฝน อย่างชำนาญ สามารถขึ้น สังเวียน ชก ได้เลย หากเราขึ้นจนเจน สังเวียน แล้ว อยากออกมาเป็นโค้ช หรือว่าครูฝึก ก็ได้เหมือนกัน

 

หากเราฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) ในการ ออกกำลังกาย เพื่อให้ ร่างกาย ของเรา แข็งแรง มีพละกำลังแล้ว อีกอย่าง ที่เราจะได้จาก การเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) เลย ก็คือ การป้องกันตัว เมื่อต้องเจอ กับเหตุการณ์คับขัน นั้นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เสน่ห์ ของ มวยไทย ที่หลายๆ คน ให้ความสนใจ

ยืด เหยียด กระชับร่างกาย สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

 

เสน่ห์ ของ มวยไทย ที่หลายๆ คน ให้ความสนใจ

เสน่ห์ ของ มวยไทย ที่หลายๆ คน ให้ความสนใจ

มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถือว่าเป็น กีฬา ชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คน ให้ความสนใจ และชื่นชอบกัน เป็นจำนวนมาก ที่รวมไปถึงชาวต่างชาติ ก็ให้ความสนใจ ไม่น้อย กันเป็นอย่างมาก

เสน่ห์ ของ มวยไทย ที่หลายๆ คน ให้ความสนใจ

มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถือเป็น กีฬา ศิลปะการต่อสู้ ที่มีรูปแบบ ที่สวยงาม และมีประวัติความเป็นมา อย่างยาวนาน สำหรับ ทวงท่า ไม่ว่าจะเป็น การตั้งรับ หรือ การรุก ก็จะมีท่า ที่ดูสวยงาม มีชื่อตาม ท่าทาง และยังถือว่าเป็น ศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ได้รับความนิยม และให้ความสนใจ กันเป็นอย่างมาก โดย มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น เราสามารถ ใช้ได้ แถบจะทุกส่วน ของ ร่างกาย ของเรา ไม่ว่าจะเป็น หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นต้น และแถม ซึ่ง อาวุธ ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่าเป็น อาวุธ ที่สำคัญ แต่ร้ายแรง และอันตราย เป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็น อาวุธ ที่สามารถฆ่าคนได้เลย ทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น ท่าฤษีบดยา จะเป็นการเอา ศอก จามไปบนหัว คู่ต่อสู้ อย่างรุนแรง และถ้าหากโดน ตรงจุดที่สำคัญ หรือ รุนแรงจน อาจทำให้สลบ หรือถึงขั้น เสียชีวิตได้เลย ทีเดียว และนี่เป็นแค่ ท่าหนึ่ง ใน แม่ไม้มวยไทย ที่เรายกตัวอย่างให้ฟัง ว่ามันรุนแรง และอันตราย ขนาดไหน และยังมีอีกหลายท่า ที่ไม่ได้กล่าวถึง แม่ไม้มวยไทย ต้องบอกก่อนว่า มันมีท่าเยอะมาก ๆ ซึ่งแต่ละท่า ก็มีความสวยงาม มีความเป็น เอกลักษณ์อย่างมาก แต่ละท่า จะมีความแตกต่างกัน ออกไป และยังถือเป็น กีฬา ที่ดุเดือด และรุนแรง แต่ก็ยังสนุก เล้าใจ ที่ทำให้ใคร หลาย ๆ คน รับชมแล้ว ไม่อยากลุกจากที่นั่ง กันเลย ทีเดียว ซึ่งเหตุผลนี้ จึงทำให้มีผู้คนทั้ง ชาวไทย และชาวต่างชาติ มากมาย ให้ความสนใจ และหลงรัก การต่อสู้ ที่หันมาสนใจ มวยไทย ( Muay Thai ) กันมาก ยิ่งขึ้น ถือได้ว่าเป็น กีฬา มวยไทย ที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ในปัจจุบันเลย นั้นเอง

 

เสน่ห์ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ทำไม ถึงได้รับความนิยม

 

ในปัจจุบันนี้ เราไม่สามารถ ที่จะพูดได้ไม่เต็มปาก ว่าคนไทย เป็นที่หนึ่ง ของ มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะต้องบอกเลยว่า ชาวต่างชาติ ที่มีฝีมือ เก่งกว่านักมวย ของไทย  ก็เริ่มมี กันมากขึ้น เรื่อย ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ยังเป็น กีฬา ที่คนไทย ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง เพราะมันเป็น กีฬาประจำชาติไทย และมีคนไทย ที่ให้ความสำคัญ กันมากขึ้น และสำหรับใคร ที่สนใจ ก็มาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร ซึ่งเหตุนี้ จึงทำให้มี ชาวต่างชาติ มากมาย ที่รัก การต่อสู้ และสนใจใน ศิลปะแม่ไม้มวยไทย หันมาเรียนกัน มากขึ้น และในปัจจุบัน ต้องบอกก่อนว่า ค่ายมวย ไม่ได้มีแค่ ในประเทศไทย เพียงเท่านั้น ในหลาย ๆ ประเทศ ก็เริ่มมีการตั้ง ค่ายมวย กันมากขึ้น ทำให้ ชาวต่างชาติ เริ่มหันมา สนใจ และ มวยไทย ได้เป็นที่รู้จัก มากขึ้น ในต่างประเทศ นั่นเอง ซึ่งต้องยอมรับ เลยว่า การแข่งขัน หรือ สังเวียนมวย ในปัจจุบันได้มีมากขึ้น เรื่อย ๆ ที่ต้องบอกว่า มันสามารถเป็นอาชีพ ได้เลย นั่นเอง สำหรับ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่า เป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ที่เป็นความภาคภูมิใจ ของ คนไทย เป็นอย่างมาก เพราะว่าถือเป็น กีฬาประจำชาติไทย กันเลย ทีเดียว และแถมยังมีประวัติ มาอย่างยาวนาน และมีเสน่ห์ ที่ทำให้ ใครหลาย ๆ คน ให้ความสนใจ และหลงใหล กันอย่างมาก

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะ น็อคเอ้าท์ สุดทึ่ง !

ประโยชน์ ที่ได้รับ จากการฝึกกีฬา มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะ น็อคเอ้าท์ สุดทึ่ง !

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ จังหวะ น็อคเอ้าท์ สุดทึ่ง !

อย่างที่เราทุก ๆ คน นั้น ก็ทราบกันดี ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ก็ถือเป็นกีฬา อีกทั้ง มวยไทย นั้น ก็เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่อยู่คู่ กับ คนไทย มาอย่างยาวนานมาก ตั้งแต่อดีต จวบจนถึงปัจจุบัน และถ้าหากว่า ใครที่ไม่เคยดูการต่อยมวย หรือว่า จะไปถึง การขึ้นชกมวยจริง ๆ ก็สามารถพบเห็นได้ในหนัง รวมทั้ง ละครไทยอยู่บ่อย ๆ ไม่มากก็น้อย แต่ทว่า เราต้องบอกเลยว่า เอาจริง ๆ มันก็เหมือน เอกลักษณ์ ของหนัง โดยรวมไปถึง ละครไทย ในยุค ยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้ อาทิ ภาพยนตร์ เรื่องต้มยำกุ้ง, แสบสนิท, ศิษย์ส่ายหน้า เป็นต้น และในวันนี้เราจะพาทุก ๆ คนมารู้จัก ท่าไม้ตาย ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สามารถ น็อคคู่ต่อสู้ มาจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬา ที่ต้องใช้ ความสามารถ อย่างมาก ซึ่ง มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เน้น ในเรื่อง ของ ความเร็ว ไหวพริบ พละกำลัง หรือว่า ทางด้าน จิตใจ ที่ นักมวย นั้นต้องมี เพราะถือว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาต่อสู้ ที่ต้องใช่ความสามารถ อย่างมาก ต้องมีมานะ ความขยัน ฝึกฝน หรือ รวมไปถึง มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องออกกำลังกายวันละ หลาย ๆ ชั่วโมง แต่วันนี้เราจะไมได้มาพูดถึง วิธีการ ออกำกลังกาย หรือ ไม่ได้มาเล่า ประวัติมวยไทย ให้ฟังแต่อย่างไร แต่เราจะมาพูดถึง ท่าทาง หรือ ท่าไม้ตาย ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สามารถ ไป น็อคเอ้าท์ คู่ต้อสู้ได้ มาดูดีกว่า จะมีท่าไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ?

 

 

 

 

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ ท่าจังหวะ น็อคเอ้าท์ สุดทึ่ง !!!

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าไต่เขาพระสุเมรุ เป็นไม้มวยใช้ป้องกันและตอบโต้ เมื่อคู่ต่อสู้นั้นเหวี่ยงแข้ง ฝ่าย A ยกขาขวาเพื่อใช้แข้งเหวี่ยงเข้าลำตัวฝ่าย B ฝ่าย B กระโดดขึ้นเหยียบบนขาขวาท่อนบนฝ่าย A ด้วยเท้าขวา และบนไหล่ซ้ายฝ่าย A ด้วยเท้าซ้าย เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกัน ก็ใช้ศอกขวาปักลงไปบนศีรษะของฝ่าย A เป็นการตอบโต้

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าเอราวัณเสยงา เป็นไม้มวยใช้ป้องกันและตอบโต้ เมื่อคู่ต่อสู้กระแทกหมัด  ฝ่าย A กระแทกหมัดขวาเข้าตรงหน้าฝ่าย B ฝ่าย B ยกแขนซ้ายท่อนล่างขึ้นปิด เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็สืบเท้าเข้าหาฝ่าย A แล้วใช้ศอกขวางัดเข้าที่ปลายคางของฝ่าย A เป็นการตอบโต้

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าดับชวาลา ถือว่า เป็นแม่ ไม้ มวยไทย ที่สามารถ นำไป ใช้ป้อง กันหมัดพร้อมตอบโต้ ในภาพ ฝ่ายขาวใช้หมัดขวาทิ่มไปตรงหน้าของฝ่าย B  ฝ่าย B ใช้แขนซ้ายท่อนล่างขึ้นกัน และจะผลักหมัดของฝ่าย A ออกไปทางซ้าย เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็ใช้หมัดขวาทิ่มตรงไปยังใบหน้าของฝ่าย A เป็นการตอบโต้

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่ายกเขาพระสุเมรุ เป็นไม้ มวยไทย ที่สามารถ นำไป ใช้ ในส่วนของการ ป้องกันคู่ต่อสู้เหวี่ยงแข้ง และ แถมมันยังสามารถ ตอบโต้ด้วยการจับทุ่ม ฝ่าย A ใช้ขาขวาเหวี่ยงแข้งสูงเข้าบริเวณลำคอด้านซ้ายของฝ่าย B และทาง ฝ่าย B หลบลำตัวต่ำ พร้อมทั้งสืบเท้าซ้ายออกไปข้างหน้า แล้วใช้ฝ่ามือขวากันขาขวาฝ่ายขาวไว้ เป็นการป้องกัน ในขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายโอบขาขวาฝ่าย A ไว้ยกขึ้นใส่บ่า แล้วยกขาขวาฝ่าย A ให้ขึ้นสูงพร้อมกับดันไปข้างหน้า ทำให้ฝ่าย A เสียหลักล้มลงได้ เป็นการตอบโต้

 

5. มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าจระเข้ฟาดหาง เป็นไม้มวยใช้ตอบโต้ปรปักษ์ด้วยการเหวี่ยงแข้ง ฝ่าย B หมุนตัวกลับ หลังไปทางขวา ด้วยขาซ้าย โน้มตัวลงต่ำ แล้วใช้ขาขวา เหวี่ยงสูงเข้าใส่ บริเวณ ก้านคอของฝ่าย A เป็นการตอบโต้ฝ่าย A ก่อนที่จะกระทำต่อฝ่าย B เรียกได้ว่า เป็นท่าสุดฮิต อย่างมากเลย ไม่ว่าจะเป็น ในหนังหรือว่าในละคร หรือ รวมไปถึง ในชีวิตจริงอีกด้วย

 

บอกเลยว่า มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น สุดยอดมากจริง ๆ นะทุกคน

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) เน้น กล้ามเนื้อ ส่วนไหนบ้าง ในร่างกาย

ท่าเบสิก ฝึก มวยไทย ป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง

 

ประโยชน์ ที่ได้รับ จากการฝึกกีฬา มวยไทย

ประโยชน์ ที่ได้รับ จากการฝึกกีฬา มวยไทย

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถือว่าเป็นกิจกรรม ที่ใครหลาย ๆ คน ให้ความสนใจ อยากเล่น อยากศึกษา แต่ กีฬา มวยไทย ไม่เพียงแต่เป็น ศิลปะการต่อสู้ เพียงเท่านั้น แต่ยังมี ประโยชน์ ในหลาย ๆ ด้าน มีอะไรบ้าง มาดูกัน

ประโยชน์ ที่ได้รับ จากการฝึกกีฬา มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง กีฬา ที่ได้รับความนิยม มาโดยตลอด ไม่ว่าช่วงเวลาไหน นานเท่าไหร่ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ยังคงเป็น กีฬา ที่ได้รับความนิยม อยู่เหมือนเดิม นอกจากนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็น กีฬา ที่ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเล่นได้ จึงทำให้ เป็นที่นิยม อย่างมาก และการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ยังมี ประโยชน์ ต่าง ๆ มากมาย ที่หลาย ๆ คน อาจจะยังไม่รู้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คนทั่วไป ก็จะรู้ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬา ที่เป็น ศิลปะป้องกันตัว อย่างหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ จากการฝึก มีมากกว่า ที่เราคิด ดังนั้น เราไปดูกันว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ให้ ประโยชน์ อะไร กับเรา ได้บ้าง

 

  1. กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย เผาผลาญไขมัน

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหน ที่ต้องการ ลดไขมัน ลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน ทางเราบอกได้เลย ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นตัวเลือก ที่ดี ในการ ลดน้ำหนัก เพราะว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ออกกำลังกาย แบบ คาร์ดิโอ หรือ HIT ที่ต้อง มีการใช้ ร่างกาย อย่างหนัก ในเวลาสั้น ๆ และเป็นการ คาร์ดิโอ ที่มีความเข้มข้นสูง จึงทำให้ ร่างกาย  มีการ เผาผลาญพลังงาน ได้พอ ๆ กับ การวิ่ง จ็อกกิ้ง และยังดีต่อ คนที่ชอบ คาร์ดิโอ แบบเร็ว ๆ ใช้เวลาไม่นาน

 

  1. กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่ม ความแข็งแรง ของ ร่างกาย และ กล้ามเนื้อ

เนื่องจาก กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬา ที่ต้องมีการ ใช้ ร่างกาย ใช้ กล้ามเนื้อ ใน การเตะ การต่อย การหลบหมัด อะไรต่าง ๆ ทำให้ผู้ฝึก ได้ใช้ ร่างกาย ในการฝึก และสิ่งที่ได้ ก็คือ ในเรื่องของ ความแข็งแรง ของ ร่างกาย และ กล้ามเนื้อ ทำให้ กล้ามเนื้อ มีความกระชับ ไม่ต่างอะไรกับ การที่เรา ออกกำลังกาย ในแบบ เวทเทรนนิ่ง ( Weight Training ) เลย

 

  1. กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย หุ่นเฟิร์ม

สำหรับสาว ๆ คนไหน ที่อยากจะ ลีนหุ่น หรือหนุ่ม ๆ อยากมี กล้ามเนื้อ ชัด ๆ มี ซิกแพค ซึ่ง มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่าเป็น กีฬา อีกหนึ่งประเภท ที่ทำให้ ผู้ซ้อม สามารถ ลีนหุ่น ได้ดี และ ลีนหุ่น ได้เร็ว เพราะว่า กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )  ต้องมี การเตะ การต่อย การชก จึงทำให้ กล้ามเนื้อ ได้มีการพัฒนา และทำให้ หุ่นเฟิร์ม ขึ้น และที่สำคัญ ช่วย เผาผลาญไขมัน ได้เป็น อย่างดี อีกด้วย

 

  1. กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย ฝึกการเคลื่อนไหว

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องมีการใช้ ร่างกาย ในการเคลื่นไหว และใช้ ร่างกาย ในการหลบหลีก นอกจากนี้ ยังช่วยให้เรา มีการ เคลื่อนไหว ได้ดี รวดเร็ว และกระฉับกระเฉง เพราะว่า กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬา ที่ต้องใช้ ร่างกาย ใน ทุกส่วน

 

  1. กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย กระตุ้นการไหลเวียนเลือด

การ ออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ ร่างกาย ของเรา มีการไหลเวียนเลือด ได้เป็น อย่างดี และยังส่งผลดี ต่อหัวใจ ของเราอีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) เน้น กล้ามเนื้อ ส่วนไหนบ้าง ในร่างกาย

ยืด เหยียด กระชับร่างกาย สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เน้น กล้ามเนื้อ ส่วนไหนบ้าง ในร่างกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) เน้น กล้ามเนื้อ ส่วนไหนบ้าง ในร่างกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็นความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อีกทั้ง ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย นอกจากได้กล้ามเนื้อส่วนแขน และขาแล้ว ยังได้กล้ามเนื้ออีกหลาย ๆ ส่วน ทั้งท้อง สะโพก เรียกได้ว่าการชกมวย ได้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจะได้กล้ามเนื้อแล้ว ยังจะช่วยในหลาย ๆ ส่วนของร่างกาย ก็คือ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และการทำงานของหัวใจ ให้มีกาสูบฉีดเลือดได้ดี  การชกมวย เป็นการขยับร่างกายทุก ๆ ส่วน ด้วยความว่องไว รวดเร็ว และช่วยเรื่องการทรงตัว การตอบโต้ ที่รวดเร็ว เพราะ การต่อยมวย ต้องใช้สายตา และระบบประสาทสัมผัสต่าง ๆ เพื่อโฟกัสกับคู่ต่อสู้นั่นเอง

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เพิ่มกล้ามเนื้อ แล้วยังเพิ่มความแข็งแรง ของกระดูก การชกมวย ยังช่วยลดความเครียดต่าง ๆ ที่ได้รับมาระหว่างวัน การชกมวย จะช่วยหลั่งสารต่าง ๆ เช่น อะดีนลาลีน ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย การต่อยมวยยังต้องใช้ การขยับทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมัน และร่างกายก็สามารถลดไขมัน และสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อ ในส่วนนั้น ๆ ได้อีกด้วย การชกมวย 1 ชั่วโมง จะเผาผลาญ ได้มากถึง 1,000 กิโลแคลอรี เลยค่ะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ที่นิยมออกกำลังกายกันนั้น ยังได้หน้าท้องที่แบนราบ มีซิกแพ็ค การชกมวย ต้องใช้แกนกลาง ของลำตัวสูงมาก ๆ ทั้งการบิดตัว การเอี้ยวตัวหลบหมัด หรือการรับหมัดของคู่ซ้อม การออกกำลังกาย ด้วยการต่อยมวย จะช่วยเผาผลาญได้ดีมาก สามารถสร้างซิกแพ็คได้เร็วกว่าการซิทอัพ อีกทั้งการชกมวย ยังใช้ร่างกายส่วนบน มากกว่าส่วนล่าง ใช้ทั้งส่วนแขน ต้นแขน หัวไหล ศอก และลำตัว เมื่อมีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ยังช่วยเพิ่มพลังพละกำลัง ในการออกกำลังกายอีกด้วยค่ะ

 

 

 

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่มีส่วนไหนในร่างกาย ที่ใช้งานมากกว่ากัน แต่การชกมวย เน้นออกกำลังไปทุก ๆ ส่วนของร่างกาย เพื่อที่จะสร้างความสมดุล ของกล้ามเนื้อ และเพิ่มไหวพริบ ความอดทน ดังนั้น การชกมวย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการออกกำลังกาย

 

โดยสรุปแล้ว มวยไทย ( Muay Thai ) ได้อะไรบ้าง มาดูกันอีกครั้ง ชัด ๆ เลย

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่า

การชกมวยนั้นอาจเป็นทางเลือกใหม่ ในการออกกำลังกายรูปแบบ High - Intensity Interval Training ( เป็นการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) เพราะว่า การขึ้นชกใน 1 ยก ก็คือการใช้ร่างกาย ไปถึงระดับสูงสุด และเป็นการพักระหว่างยก ก็จะเป็นการทำให้ร่างกายฟื้นตัว จากความอ่อนล้าได้เร็วมากขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกาย ในแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงาน การใช้ออกซิเจน และการไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน การออกกำลังกายประเภทนี้ ก็จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง, ความรวดเร็ว, มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายได้ดีเยี่ยม

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นช่วยพัฒนาร่างกาย ได้อย่างต่อเนื่อง

การชกมวย นั้นไม่มีกฎตายตัว ว่าจะต้องออกหมัดไหนก่อน หรือว่าอับเปอร์คัสจังหวะไหน แต่ว่าต้องเดาทางคู่ชกให้ถูก หาจังหวะในการชกเองด้วย นั่นทำให้เกิดความท้าทายตลอดเวลา เกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่ตลอด โดยแปลว่า กล้ามเนื้อ จะถูกปลุกให้คุณตื่นตัวตลอดเวลา ร่างกายก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่มขีดจำกัด ทางร่างกายอย่างปลอดภัย

การชกมวย แบบไม่ได้ขึ้นแข่ง ถือเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัย เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายรูปแบบอื่น ๆ  ร่างกายจะเคลื่อนไหว ในทิศทางที่เป็นไปตามธรรมชาติ เพียงแค่เพิ่มความเร็วขึ้น และยังสามารถออกกำลังกายอย่างเข้มข้น หรือฝึกสมรรถภาพร่างกายได้ เหมือนนักมวยเตรียมเข้าแข่งขัน

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้บุคลิกสง่างาม

การชกมวย ทำให้การใช้สมอง และการใช้ร่างกายทำงานสอดประสานกันได้ดีขึ้น กระตุ้นให้เกิดการรับรู้ ทางร่างกายทำงานดีขึ้น ร่างกายมีความคล่องตัว เพราะว่า ต้องใช้การทำงาน ที่สอดประสานกันระหว่างตาและมือ ทุก ๆ ครั้งที่ชกกระสอบทราย หรือว่าชกกับเป้าล่อ ต้องใช้สมาธิ ในการพุ่งเป้า เล็งไปที่การเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อให้เกิดการจดจำในการเคลื่อนไหว ทั้งจังหวะการขยับเท้า รวมถึงการออกหมัด ท้าทายในการทำงานของกล้ามเนื้อ และจิตใจไปพร้อม ๆ กัน ทำให้เกิดความคล่องแคล่ว ว่องไว คล่องตัว มั่นใจ บุคลิกก็สง่างามไปโดยปริยายเลย

 

5. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้หน้าท้องแบบราบ

อยากมีซิกซ์แพ็คชัด ๆ ลองหันมาต่อยมวยดูค่ะ เพราะว่า การชกมวย จำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางบริเวณลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพก เพื่อเพิ่มแรงและส่งให้ออกหมัด ได้หนักขึ้น นั่นทำให้เผาผลาญพลังงานได้มากกว่า การนอนซิทอัพอยู่กับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรงแล้ว การเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็มาแน่น ๆ แน่นอน

 

6. มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย

เป้าหมายของการต่อยมวย คือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน ยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะ ที่เกี่ยวข้องอย่างการทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้ และความคล่องตัว สามารถเบิร์นไขมัน ได้ถึง 13 แคลลอรี่ ใน 1 นาที การออกกำลังกายด้วยการชกมวย ทำให้เผาผลาญแคลอรี่ ได้ตั้งแต่ 200 - 400 แคลอรี่ในเวลาครึ่งชั่วโมง, ขึ้นสังเวียนชกมวย 30 นาที เบิร์นได้ 400 แคลลอรี่, ชกกระสอบทราย 30 นาที เบิร์นได้ถึง 200 แคลลอรี่, หากชกกับคู่ซ้อม ในเวลา 30 นาที เผาผลาญได้มากถึง 300 แคลลอรี่

 

เห็นแบบนี้แล้ว เราต้องมาเรียนชกมวย มวยไทย ( Muay Thai ) กันแล้วค่ะ หากใครต้องการสถานที่ชกมวย จะมาออกกำลังกาย หรือว่า กีฬามวยแลล ครบวงจร ต้องที่นี่เลยค่ะ เจริญทอง มวยไทย นั่นเอง สะดวกในการเดินทางมาก ๆ ขอแนะนำเลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ยืด เหยียด กระชับร่างกาย สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

ท่าเบสิก ฝึก มวยไทย ป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง

 

ยืด เหยียด กระชับร่างกาย สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

ยืด เหยียด กระชับร่างกาย สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

ก่อนการชกมวย มวยไทย ( Muay Thai ) การยืดกล้ามเนื้อ เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องทำทุกครั้งก่อนต่อยมวย ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจมีความเสี่ยงต่อ การเกิดอาการบาดเจ็บได้ วันนี้ เรามาลองยืดกล้ามเนื้อแบบใหม่ ๆ ในสไตล์มวยไทยกันบ้างดีกว่าค่ะทุกคน สนุกและปลอดภัยแน่นอน

 

ปัญหาที่พบบ่อยมาก ๆ ในการออกกำลังกาย นั้นคือ การได้รับบาดเจ็บ ที่ได้รับ จากการออกกำลังกาย เนื่องจาก ไม่ได้มีการ วอร์มอัพ ไม่ได้ยืดกล้ามเนื้อ รวมทั้ง ออกกำลังกาย ที่ไม่เหมาะสม กับสภาพร่างกายของตัวเอง อาทิ การชกมวย ซึ่งบางคนนั้น ร่างกายไม่พร้อม แต่ทว่า ต้องใช้ร่างกายปะทะ อย่างแรง ๆ กับเป้า จึงอาจจะทำให้ ข้อเข่า, ข้อเท้า, เส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อ เกิดอาการบาดเจ็บได้

 

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นจะต่อยมวย ไม่ใช่แค่ต่อย

การชกมวยนั้น เหมาะสำหรับ คนที่อายุน้อย ๆ แต่ถ้าอายุ 30 - 40 ปี ขึ้นไป แม้จะยังรู้สึกว่า ตัวเองฟิตอยู่ แต่พอลองของจริง จะรู้ว่า มีแรงกระแทกมหาศาล ร่างกาย จึงระบม แล้วอาการบาดเจ็บ ตามมามากมาย เช่น การบาดเจ็บที่หัวเข่า จากกระดูกอ่อนช้ำ หรือหมอนรองกระดูกฉีกขาด บางรายจังหวะไม่ดี ถึงขนาดเอ็นขาด จะฟื้นตัวแต่ละครั้งนั้น ก็ยากมาก

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือได้ว่า เป็นมากกว่า กีฬาทั่ว ๆ ไป มวยไทย ยังเป็นศิลปะ การป้องกันตัว ประจำชาติไทย ที่มีความเป็นมา อันยาวนาน และยังได้รับความนิยม และยอมรับจากนานาประเทศอีกด้วย เพราะ มวยไทย เป็นกีฬา และศาสตร์การป้องกันตัว ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ซึ่งต้องใช้ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ ผสานกับท่วงท่าต่าง ๆ วันนี้ เรานำท่วงท่า จากแม่ไม้มวยไทย มาประยุกต์ กับการยืดกล้ามเนื้อกันค่ะ

 

 

 

ท่ากระโดดสูง ใน มวยไทย ( Muay Thai )

ท่านี้ หากดูผิวเผิน อาจจะเหมือน การกระโดดวอร์มร่างกาย ตามปกติ แต่จริง ๆ แล้ว เราต้องกระโดด ให้เหมือนกับ นักมวย เราต้องเอาต้นขาด้านหน้า และหัวเข่า ไปสัมผัส ที่หน้าอก เริ่มจากท่ายืน เตรียมกระโดด หลังจากนั้นกระโดดลอยตัว ให้หน้าขาทั้งสองข้าง ไปแตะกับหน้าอก

- ทำท่านี้ ประมาณ 3 - 5 นาที

- กล้ามเนื้อ ส่วนที่ได้รับ การยืด : ขาทุกส่วน

ประโยชน์ ต่อทักษะ มวยไทย : ท่านี้ถือได้ว่า เป็นท่ายืดกล้ามเนื้อ ระดับสูง ควรเริ่มต้น จากการฝึกกระโดดเบา ๆ ไปก่อน หากฝึกบ่อย ๆ แล้ว ก็จะสามารถทำท่านี้ สมบูรณ์ได้ในที่สุด

 

ท่าแทงเข่า ใน มวยไทย ( Muay Thai )

หาบาร์จับ ที่มีระดับความสูง พอดีกับหน้าอก ยืดแขนทั้งสองข้าง ให้ตรงไปจับบาร์  ยืดตัวให้ตรง เอนไปด้านหลังเล็กน้อย จากนั้น แทงเข่า ออกไปด้านหน้า ทำสลับซ้าย - ขวา เริ่มจาก จังหวะช้า ๆ แล้วค่อยเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น ๆ

- ทำท่านี้ ประมาณ 8 - 10 นาที จนกว่า จะได้เหงื่อ

- กล้ามเนื้อส่วนที่ ได้รับการยืด : กล้ามเนื้อต้นขา, หน้าท้อง

ประโยชน์ต่อทักษะมวยไทย : ท่าแทงเข่า เป็นท่าออกกำลังกายที่ดี ท่าหนึ่งเลยทีเดียว ควรฝึก ให้มีระดับความเร็ว มากขึ้นเรื่อย ๆ จะให้ความรู้สึก เหมือนกับการวิ่งอยู่กับที่ แต่มีการใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้มากกว่า การวิ่ง

 

ท่าเตะสูง ใน มวยไทย ( Muay Thai )

ท่านี้ ยืนตรงให้มั่น จากนั้น เอาขาข้างขวา ไปด้านหลัง เป็นท่าเตรียมพร้อม หลังจากนั้น ให้เตะขาขวา ไปทางด้านหน้า ให้ไปแตะกับปลายนิ้วมือซ้าย ที่เราเหยียดไปด้านหน้า เมื่อขาขวา ไปสัมผัสกับปลายนิ้วมือซ้ายแล้ว  ให้เอาขาขวา กลับมาอยู่ด้านหลัง ตำแหน่งเดิม ในท่าเริ่ม จากนั้น ทำสลับอีกข้าง เอาขาซ้ายไปด้านหลัง แตะขาซ้าย ไปสัมผัสกับปลายนิ้วขวา แล้วเอาเท้าซ้าย ถอยกลับมา ไว้ตำแหน่งเดิม ในท่าเริ่มต้น

ทำสลับกัน ด้านซ้าย และขวาด้านละ 10 - 15 ครั้ง สำหรับผู้ที่ เริ่มฝึก อาจเริ่มต้น ด้วยการเตะขา ในระดับต่ำ ๆ แล้วค่อยฝึกเตะ ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ

- กล้ามเนื้อ ส่วนที่ได้รับการยืด : เอ็นหลังหัวเข่า, น่อง

- ประโยชน์ ต่อทักษะมวยไทย : ท่าเตะก้านคอ เป็นท่าที่ช่วยสร้าง และยืดเหยียดกล้ามเนื้อขา ได้เป็นอย่างดี

 

จากที่กล่าวมา หวังว่าจะมีประโยชน์ สำหรับการยืดกล้ามเนื้อ ก่อน ชก มวยไทย ( Muay Thai ) และ การออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหาร ก็มีส่วนสำคัญ อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยนะคะ

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ทักษะ การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะป้องกันตัว ชั้นเลิศ

 

 

ทักษะ การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น

ทักษะ การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น

ขั้นตอน การสอน เพื่อเรียนรู้ ทักษะ มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น ถือเป็น สิ่งพื้นฐาน ที่นักมวย ทุกคน ต้องเรียนรู้ และ รับรู้ไว้ เพื่อเป็นการ เข้าใจ อย่างดี

ทักษะ การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น

ในการ เริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อเรียนรู้ อย่างถูกต้อง และ เข้าใจ อย่างดี

 

การสอน ทักษะ มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น มีขั้นตอน การสอน เพื่อการ เรียนรู้ ดังต่อไปนี้

1) การพันมือ

มีความสำคัญ อย่างมาก ต่อการ ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) และ การแข่งขัน การชก มวยไทย ( Muay Thai ) การพันมือ เป็นการ ป้องกัน กระดูกนิ้วมือ ข้อมือ และ กล้ามเนื้อ เอ็น เกิดอันตราย เช่น เกิดการซ้น แตก หรือ หักได้

 

2) วิธีการ กำหมัด

ให้กำนิ้วชี้ นิ้วกลาง และ นิ้วก้อย เข้าหา ทางฝ่ามือ กำฝ่ามือ ให้แน่นขึ้น ให้นิ้วทั้งสี่ เรียงชิดติดกัน และ ทับหัวแม่มือ ลงบน ระหว่าง นิ้วชี้ และ นิ้วกลาง กำหมัด ให้แน่น ส่วนตรงข้อมือ ต้องเกร็ง เป็นแนวเดียวกัน ไม่งอ หรือ ปล่อยสบาย เพราะอาจเกิด อันตราย เมื่อชก หรือ กระแทกเป้าหมาย โดยให้สันหมัด เพียงเท่านั้น ถูกเป้าหมาย สันหมัด ก็คือ ข้อดัน หรือ ข้อแรก ของนิ้วมือทั้งสี่ คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และ นิ้วก้อย

ทักษะ การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น

3) ท่าคุม และ ตำแหน่ง ของมือ

ควรยืน ด้วยปลายเท้า เท้าทั้งสอง ให้ชิดกัน แยกเท้าหน้า และ แยกเท้าหลังออก ตั้งฉาก กับส้นเท้า ให้ปลายเท้า เฉียงออก ด้านข้างเล็กน้อย ห่างกัน ระดับ ช่วงไหล่ ส้นเท้าทั้งสอง เปิดเล็กน้อย น้ำหนักตัว อยู่บน เท้าทั้งสอง เข่างอเล็กน้อย เพื่อให้ การเคลื่อนไหว ได้คล่องตัว หมัดหลัง กำหลวม ปิดคาง งอแขน  ให้ศอกนั้น ติดกับ ช่วงลำตัว ก้มหน้า เพียงเล็กน้อย มือหน้า ให้อยู่ในแนวเดียวกับ หัวไหล่ หรือ สูงกว่า เพียงเล็กน้อย ส่วนสันหมัดหน้า ห่างจากไหล่ ให้พอควร โดยให้หัวแม่มือ หันเข้าหาไหล่ งอแขน ให้ศอก ห่างกับลำตัว แบบพอประมาณ

 

4) การเคลื่อนที่

4.1) ตรงไปด้านหน้า

การเคลื่อนเท้าหน้า ไปข้างหน้า สืบเท้าหลังตาม รักษา ระยะห่าง ประมาณช่วงไหล่ งอเข่าเล็กน้อย อยู่ในท่าคุม

4.2) ไปด้านหลัง

การเคลื่อนเท้าหลัง ถอยหลังไปก่อน แล้วตามด้วย เท้าหน้า อยู่ในท่าคุม

4.3) ไปทางด้านขวา

การเคลื่อนเท้า ไปทางขวามือ โดยสืบเท้าขวาก่อน แล้วสืบเท้าซ้ายตาม

4.4) ไปทางด้านซ้าย

การเคลื่อนเท้า ไปทางซ้ายมือ โดยสืบเท้าซ้ายก่อน แล้วสืบเท้าขวาตาม                

4.5) หมุนไปทางด้านขวามือ

ให้เท้าขวานำ แล้วสืบเท้าซ้ายตาม เท้าทั้งสอง ห่างกัน ระดับ ช่วงไหล่

4.6) หมุนไปทางด้านซ้ายมือ

ใช้เท้าซ้ายนำ สืบเท้าขวาตาม เท้าทั้งสอง ห่างกัน ระดับ ช่วงไหล่

ทั้งหมด ก็เป็นทักษะ การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น ที่ควรรู้ไว้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย มีประโยชน์ มากกว่า การออกกำลังกาย

ฝึกฝน มวยไทย ช่วยลดน้ำหนักอย่างดี

มวยไทย มีประโยชน์ มากกว่า การออกกำลังกาย

มวยไทย มีประโยชน์ มากกว่า การออกกำลังกาย

มวยไทย เป็นการ ออกกำลังกาย อีกรูปแบบหนึ่ง ที่เริ่มมี ผู้คนสนใจ และ นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะ สาว ๆ ที่ต้องการ ออกกำลังกาย ให้ได้รูปร่าง และ สัดส่วนที่ดี

มวยไทย มีประโยชน์ มากกว่า การออกกำลังกาย

มวยไทย เป็นศิลปะ การต่อสู้ ของประเทศไทย ที่มี ความโดดเด่น ในด้าน ของเทคนิค การกอดคอ เพื่อต่อสู้ ที่ใช้ทั้ง แรงกาย และ แรงใจ

 

ซึ่งการ ออกกำลังกาย ด้วยการฝึก มวยไทย ได้ประโยชน์ มากกว่าโทษ และ ได้อะไร ที่มากกว่า การออกกำลังกาย อีกด้วย

 

มวยไทย ให้อะไร กับเราบ้าง?

1) มวยไทย ให้ทักษะ หรือ ศาสตร์แห่งการ ป้องกันตัว

ในการฝึก มวยไทย สำหรับ ผู้หญิง และ ผู้ชาย จะได้การฝึก ร่างกาย ในการใช้ ศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นทักษะที่ดี และ มีประโยชน์ อย่างมาก อย่างเช่น การออกหมัด การใช้ศอก หรือ การเตะ รวมไปถึง ท่ายืน หรือ การเคลื่อนไหว ที่เหมาะสม และ มั่นคง ซึ่งจะช่วยให้ เอาตัวรอด หรือ ป้องกันตัว ในสถานการณ์ ฉุกเฉิน ที่คับขันได้

 

2) มวยไทย ช่วยผ่อนคลาย ความเครียดได้

การออกแรง ต่อยมวย จะช่วยระบาย ความเครียด และ ความอึกอัด ในใจ ที่หลายๆ คน พบเจอ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน ที่มีปัญหา หรือ ทะเลาะกับ ครอบครัว คนรัก เพราะในการ ออกกำลังกาย ด้วยมวยไทย จะช่วยหลั่ง สารเอ็นดอร์ฟิน ที่จะทำให้ ร่างกายนั้น รู้สึกผ่อนคลาย มีความสดชื่น และ กระปรี้กระเปร่า

 

3) มวยไทย ช่วยลดน้ำหนัก และ ให้รูปร่าง ที่กระชับ เป็นสัดส่วน

การฝึก ต่อยมวย จะทำให้เคลื่อนไหว ร่างกาย ตั้งแต่ หัวจรดเท้า หรือ ง่ายๆ ว่าทั้งตัว การฝึก มวยไทย ช่วยให้ลดน้ำหนัก และ ช่วยให้ ร่างกาย กระชับได้ โดยที่ไม่ต้อง มานั่งกังวล ว่าแขน จะใหญ่โต เป็นกล้ามปูด อีกทั้ง การต่อยมวย ยังใช้กล้ามเนื้อ ในส่วนของ แกนกลางลำตัว เป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วย ให้ได้หน้าท้อง ที่แบนราบ และ เห็นกล้ามท้อง อย่างชัดเจน

มวยไทย มีประโยชน์ มากกว่า การออกกำลังกาย

4) มวยไทย ช่วยฝึกสมาธิ อย่างดี

ในการฝึก การต่อยมวย ผู้ฝึก จะต้องจดจ่อ อยู่กับ การเคลื่อนไหว ของร่างกาย อย่างเช่น การออกหมัด เพื่อต่อย กระสอบทราย หรือ จังหวะ การขยับเท้า ในการเคลื่อนที่ ซึ่งจะทำให้ ช่วยเพิ่มสมาธิ มากขึ้น

 

5) มวยไทย ช่วยเพิ่ม ขีดจำกัด ให้ร่างกาย

การต่อย มวยไทย เพื่อการ ลดน้ำหนัก จะช่วยเพิ่ม ขีดจำกัด ให้ร่างกาย อย่างปลอดภัย เพราะเป็นการ เคลื่อนไหว ร่างกาย ในทิศทาง ที่เป็นไป ตามธรรมชาติ

 

6) มวยไทย ช่วยปรับ บุคลิกภาพ

การต่อยมวย จะฝึกฝน ให้สมอง และ ร่างกาย ทำงาน ในแบบ ประสานกัน ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของ สายตา มือและ เท้า ในการชก หรือ การเตะ เป้าล่อ และ ตัวกระสอบทราย ซึ่งจะช่วย พัฒนา ให้ผู้ฝึก มวยไทย มีความคล่องแคล่ว และ มั่นใจ ในทุกท่วงท่า อีกทั้ง ยังช่วยเสริม ให้บุคลิกดีขึ้น

 

การฝึก มวยไทย มีประโยชน์ มากกว่า การออกกำลังกาย ซึ่งแต่ละ ประโยชน์นั้น เป็นสิ่งที่ดี ต่อร่างกาย และ สุขภาพ อีกทั้ง ยังช่วยให้เรา มีทักษะ ในการต่อสู้ ที่ดีขึ้นด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกฝน มวยไทย ช่วยลดน้ำหนักอย่างดี

มวยไทย ศิลปะป้องกันตัว ชั้นเลิศ

ฝึกฝน มวยไทย ช่วยลดน้ำหนักอย่างดี

ฝึกฝน มวยไทย ช่วยลดน้ำหนักอย่างดี

การฝึกฝน มวยไทย เพื่อลดน้ำหนัก เป็นที่นิยม ในหมู่สาว ๆ เป็นอย่างมาก เพราะการเรียน มวยไทย มีความสนุกสนาน อีกทั้ง ยังช่วย ลดน้ำหนัก ได้อย่างดี และ รวดเร็ว

ฝึกฝน มวยไทย ช่วยลดน้ำหนักอย่างดี

โดยการ ออกกำลังกาย แบบมวยไทย สามารถ เผาผลาญ พลังงาน ได้ถึง 200 - 400 แคลอรี่

 

ซึ่งคอร์สเรียน มวยไทย ในปัจจุบัน ก็มีการ พัฒนา รูปแบบ การฝึก โดยผสมผสาน กับการ ออกกำลังกาย ในรูปแบบอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น

 

มวยไทย กับ แอโรบิก

การต่อยมวย แอโรบิก เช่น คีตะมวยไทย หรือ Boxing Dance  เป็นการเอา ท่าทาง การเคลื่อนไหว ของแม่ไม้ และ ลูกไม้มวยไทย มาผสมผสาน กับ แอโรบิก ที่เน้น การหายใจ ขณะออกกำลังกาย เพื่อทำให้ ร่างกาย นำออกซิเจน เข้าไปช่วย เผาผลาญ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และ ไขมันส่วนเกิน ซึ่งการ ต่อยมวย แอโรบิก จะมุ่งเน้น ที่ความต่อเนื่อง มากกว่า ความเข้มข้น และ ใช้เวลา อย่างน้อย 20 - 30 นาที จะมีประโยชน์ ในการ เสริมสร้าง ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ และ เสริมระบบ การหายใจ

 

มวยไทย x HIIT

การต่อยมวย แบบ HIIT หรือ High-Intensity Interval Training เป็นการ ออกกำลังกาย อย่างทุ่มเท แรงกาย และ แรงใจ ในเวลาสั้น สลับกับ การออกแบบ เบากว่า โดยใช้เวลา เพียง 30 นาที ซึ่งเป็น การฝึก ที่หนักมาก เพื่อให้เกิด การเผาผลาญ หลังจาก ออกกำลังกาย ( Exercise Afterburn ) ที่จะเกิดขึ้น ติดต่อกัน ได้นาน ถึง 48 ชั่วโมง ถือเป็น วิธีการ ต่อยมวย ลดน้ำหนัก ที่ให้ผล รวดเร็วที่สุด

 

สรุปง่าย ๆ ก็คือ การต่อยมวย ลดน้ำหนัก แบบ HIIT จะเน้นที่ ความคล่องแคล่ว ว่องไว และ ความหนักหน่วง ของการ ออกกำลังกาย จะไม่เหมาะ กับ กลุ่มคน ที่มีปัญหา เรื่องโรคหัวใจ โรคหอบ หรือ คนที่หาย จากการ เข้าฟิตเนส ไปนาน นอกจากนี้ การต่อยมวย ยังมีการ ปะทะ และ กระแทก ซึ่งผู้ที่มี ปัญหา เกี่ยวกับ ข้อต่อ ในร่างกาย ควรหลีกเลี่ยง แต่ในกรณี ที่อยากเรียน การต่อยมวย แบบแอโรบิก ที่เน้น ความเคลื่อนไหว และ การหายใจ เป็นหลัก อาจจะ ต้องขอ คำแนะนำ หรือ ปรึกษา กับแพทย์ ก่อนที่จะ เริ่มฝึก มวยไทย ในรูปแบบต่าง ๆ

ฝึกฝน มวยไทย ช่วยลดน้ำหนักอย่างดี

ปัจจุบัน มวยไทย เป็นการ ออกกำลังกาย แบบหนึ่ง ที่สาว ๆ ส่วนมาก หันมา ให้ความสนใจ กับการ ต่อยมวย เพื่อลดน้ำหนัก กันมากขึ้น เพราะมีความ สนุกสนาน สามารถ เบิร์นไขมัน และ แคลอรี่ ในระยะเวลาสั้น ทำให้รูปร่าง สวย มีสัดส่วน ที่กระชับ อีกทั้ง ยังช่วย ปรับบุคลิกภาพ ให้ดูดี มากขึ้นด้วย

 

สำหรับ สาว ๆ คนไหน ที่อยาก ลดน้ำหนัก อย่างรวดเร็ว ก็แนะนำ ให้ไปเรียน มวยไทย กันดู แต่ทว่า อย่าหักโหม ในการ ออกกำลังกาย มากนะ เพราะอาจทำให้ เกิดอาการ บาดเจ็บได้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ท่าเบสิก ฝึก มวยไทย ป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ ป้องกันตัว ที่มีความโดดเด่น

มวยไทย ศิลปะป้องกันตัว ชั้นเลิศ

มวยไทย ศิลปะป้องกันตัว ชั้นเลิศ

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็น ศิลปะป้องกันตัว ที่มีมา อย่างยาวนาน ท่าทาง ต่างๆ ของ มวยไทย ที่สามารถนำมาปรับใช้ ได้ในยามฉุกเฉิน เพื่อ ปกป้องตัว เองได้

มวยไทย ศิลปะป้องกันตัว ชั้นเลิศ

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ถือได้ว่าเป็น กีฬา ที่ใคร ๆ หลาย ๆ คน ให้ความสนใจ เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพราะด้วยการออก ท่าทาง การ ต่อสู้ ที่ดูดุเดือด และสวยงาม ไปในตัว ถ้าหากพูดถึง มวยไทย แล้วละก็ แน่นอนว่าเป็น กีฬา ที่จะทำให้ใคร ๆ หลาย ๆ คนสนใจ และ ติดตามกันเป็น จำนวนมาก ไม่ว่า จะเป็น สายภาพยนตร์ สายการเเสดง สายการ์ตูน ล้วนแล้วแต่มี มวยไทย ( Muay Thai ) เข้าไปมีบทบาท เป็นส่วนใหญ่ ด้วย ท่าทาง และ ลีลา ที่ ดุเดือด และ สวยงาม รวมไปถึง ประวัติศาสตร์ อันยาว นานของ มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ว่าจะเป็น ท่าทาง การ ต่อสู้ เรื่องเล่า ของคนสมัยก่อน ร่วมไปถึง ประวัติ และความเป็นมา ที่มากมาย และ ยังมีความเป็นเอกลักษณ์ ในตัว ของ มวย ( Muay ) อีกด้วย

 

ศิลปะป้องกันตัว ของ มวยไทย มีท่า อะไรบ้าง?

 

  1. ท่าสลับฟันปลา

ท่า แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ ป้องกันตัว และหลบหลีก อาวุธของ คู่ต่อสู้ โดยการใช้ หมัด ซ้ายทิ่มเข้าหน้าฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายตรงข้าม จะเบี่ยงตัว มาทางขวา ด้วยการ ก้าวเท้าซ้ายถอยหลัง หรือสืบเท้าขวา ไปข้างหน้า แล้วใช้ฝ่ามือขวา ผลักแขนของฝ่ายตรงข้าม ออกไปทางซ้าย ถ้าหากเราใช้ หมัด ขวาการ ป้องกันตัว และตอบโต้ ท่าก็จะเป็น ทำนองเดียวกัน แต่เป็นลักษณะตรงกันข้าม ก็คือ เบี่ยงตัวมาทางซ้าย แล้วใช้ฝ่ามือซ้ายตบ ผลักแขนของฝ่ายตรงข้าม ออกไปทางขวา การยักย้ายถ่ายเทดังกล่าว ของทั้งสองท่า จะมี การเคลื่อนไหว ของ ร่างกาย และแขน ในลักษณะ สลับฟันปลา เพื่อเป็นการ ป้องกันตัว ก่อนที่จะหาโอกาส ตอบโต้ ในจังหวะ ที่เหมาะสมต่อไป

 

  1. ท่าอิเหนาแทงกริช

ท่า แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการใช้ ป้องกันหมัด ของ คู่ต่อสู้ และตอบโต้ ด้วย เข่า โดยที่เราใช้ หมัด ขวาทิ่มเข้าตรงหน้าฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายตรงข้าม ใช้ฝ่ามือขวา กันแขนของเรา ออกไปทางซ้าย เพื่อเป็นการ ป้องกันตัว และในขณะเดียวกัน ก็ใช้ เข่า ซ้าย แทงเข้า ที่กลางลำตัวของเรา เป็นการตอบโต้

 

  1. ท่าปักษาแหวกรัง

ท่า แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการใช้ ป้องกันตัว และตอบโต้ เมื่อ คู่ต่อสู้ เข้าปล้ำ และกอดรัด เราก็จะเคลื่อนตัว เข้าหาฝ่ายตรงข้าม และใช้แขนทั้งสองข้าง เข้ากอดรัด ฝ่ายตรงข้ามยกแขน ทั้งสองสอดเข้ากลาง ระหว่างแขนของเรา และใช้แขนท่อนล่าง ทั้งสองแขนกันไว้  ไม่ให้ฝ่ายตรงข้าม โอบแขนเข้ามาได้ เพื่อเป็นการ ป้องกันตัว พร้อมกันนั้น ก็ใช้ เข่า จะเป็น เข่า ข้างใดก็ได้ ตามจังหวะ การเคลื่อนไหว ในขณะนั้น ยัดหรือ แทง เข่า เข้าไปที่ลำตัว ของ คู่ต่อสู้ เพื่อเป็นการตอบโต้

 

  1. ท่าจระเข้ฟาดหาง

    ท่า แม้ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการใช้ตอบโต้ ปรปักษ์ ด้วยการเหวี่ยง แข้ง โดยเราหมุนตัวกลับหลัง ไปทางขวาด้วย ขา ข้างซ้าย โน้มตัวลงต่ำ แล้วใช้ ขา ข้างขวา เหวี่ยงสูงเข้าใส่ บริเวณก้านคอ ของฝ่าย คู่ต่อสู้ ตรงข้าม เพื่อเป็นการตอบโต้ ก่อนที่จะกระทำ ต่อเรา

 

  1. ท่าขุนยักษ์จับลิง

  ท่า แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการใช้ ป้องกัน หมัด ของ คู่ต่อสู้ และตอบโต้ ด้วยการกอดคอ โดยที่ฝั่งตรงข้าม ใช้ หมัด ซ้ายทิ่มเข้าตรงหน้าเรา เราจึงใช้แขนขวาท่อนล่าง กันไว้ เพื่อเป็นการ ป้องกันตัว แล้วเข้าประชิดตัว เอาแขนซ้ายกอดคอ คู่ต่อสู้ ไว้ ข้างตัวด้านซ้าย เพื่อเป็นการ ตอบโต้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ท่าเบสิก ฝึก มวยไทย ป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ ป้องกันตัว ที่มีความโดดเด่น

 

ท่าเบสิก ฝึก มวยไทย ป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง

ท่าเบสิก ฝึก มวยไทย ป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง

เทรนด์ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) กำลังเป็นที่สนใจในหมู่สาวๆ เพราะด้วยสภาพสังคม และเหตุการณ์หลายๆ อย่าง ที่ผู้หญิงอย่างเรา จะต้องทำหน้าที่ดูแลตนเอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการฝึก มวยไทย ท่าเบสิก เพื่อ ป้องกันตัว จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนรู้

ท่าเบสิก ฝึก มวยไทย ป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ ป้องกันตัว และยังเป็น กีฬา ประจำชาติของไทย มาตั้งแต่สมัยโบราณ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ ที่อาจดูร้ายกาจ รุนแรง มหัศจรรย์ มีความแตกต่างจาก ศิลปะการต่อสู้ ของชนชาติอื่น ๆ เพราะ มวยไทย เป็นการ ต่อสู้ ด้วยอาวุธธรรมชาติ  ซึ่งใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของ ร่างกาย เป็นอาวุธ ได้หลากหลายชนิด มากกว่า อย่างเช่น หมัด ศอก เข่า เท้า เพื่อเป็นการเข้าทำ อันตราย คู่ต่อสู้ โดยปราศจากการใช้อาวุธ วัตถุใด ๆ จากภายนอก

 

ฉะนั้นกระแสความสนใจเรื่อง มวยไทย ( Muay Thai ) ในครั้งไม่ใช่เพื่อการดูแล รูปร่าง หรือ ลดน้ำหนัก อย่างที่ผ่าน ๆ มา แต่จะเป็นการเรียนรู้เพื่อ ป้องกันตัว ตัวเองโดยเฉพาะ วันนี้บทความของเราจึงมี ท่ามวยไทย ท่าเบสิก ที่สามารถใช้ ป้องกันตัว ได้จริงมาฝากทุกคนกัน จะมี ท่ามวยไทย ไหนบ้าง มาดูกัน

 

  1. ท่าเตะฉัด

ท่าเตะฉัด คือหนึ่งในท่า มวยไทย ( Muay Thai ) มวยไชยา ซึ่งเป็นหนึ่งใน ศิลปะมวยไทย โบราณของทางภาคใต้ ซึ่งสำหรับท่านี้ จะเหมาะกับการ ป้องกันตัว ในกรณีที่คนร้ายอยู่ในระยะห่าง จากเราประมาณ 1 เมตร เริ่มต้นจากการตั้งท่า ด้วยการยืนถอยหลัง เท้าข้างที่ถนัดไปด้านหลัง แล้วเอียงตัวด้วย 45 องศา แล้วยกแขนสองข้างขึ้นมา บริเวณคาง เพื่อตั้งการ์ดป้องกัน และทรงตัว จากนั้นยกขาข้างที่ถนัด เตะดีด อย่างรวดเร็ว ไปตรงบริเวณเป้าของคนร้าย โดยใช้จมูกเท้าเป็นจุดปะทะ เพื่อให้คนร้ายจุกแล้วเกิดการชะงัก

 

  1. ท่าตีเข่า

หากคนร้ายเข้ามาใกล้ตัว มากขึ้น ท่าตีเข่า ของ มวยไทย ( Muay Thai ) จึงสามารถช่วยในกรณีนี้ได้ โดยเริ่มจากการตั้งท่า ด้วยการยืนถอยเท้าหลังไปหนึ่งข้าง พร้อมยกมือตั้งการ์ด เช่นเดิม จากนั้นใช้ขาข้างที่ถนัดงอพับขา กระทุ้งไปยังเป้าหมายของ คู่ต่อสู้ โดยมีท่าปลีกย่อยดังนี้

 

เข่าตรง หมายถึง การตีเข่า พุ่งตรงไปข้างหน้าเข้าสู่เป้าหมาย ซึ่งจะไปกระแทกบริเวณท้อง และอกของคนร้าย

เข่าเฉียง หมายถึง เข่าตีเฉียง เข้าสู่เป้าหมายด้านตรง กับเข่าที่พุ่งออกไป ซึ่งจะไปกระแทก บริเวณด้านสีข้างของคนร้าย

 

  1. ท่าฟันศอก

ศอก คือ หนึ่งในอวัยวะที่ใช้แทนอาวุธ ป้องกันตัว ได้ดีของ มวยไทย ( Muay Thai )  ที่เรียกได้ว่าถึงขั้นจุก และทำให้คิ้วแตก ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะกรณีที่คนร้าย เข้ามาในระยะใกล้ แบบประชิดตัวทางด้านหลัง โดยจะมีรายละเอียด ในการออก ท่ามวยไทย ดังนี้

 

ศอกกระทุ้ง หมายถึง เป็นการใช้ศอกพุ่ง ออกไปด้านหลัง ในลักษณะกระทุ้ง แก้ไขสถานการณ์ที่ คู่ต่อสู้ ประชิดเข้ามาด้านหลัง

ศอกกลับ หมายถึง การหมุนตัวตีศอก กลับไปทางด้านหลัง ตามจังหวะที่สัมพันธ์ กับ การเคลื่อนตามเท้า

 

ซึ่งทั้งหมดนี้คือ ท่ามวยไทย Muay Thai ) ท่าเบสิก เตะ เข่า ศอก ที่สามารถใช้ ป้องกันตัว ในเหตุการณ์จริงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากอีกฝ่ายมีอาวุธก็ควรใช้สติ ในการตัดสินใจก่อน ใช้กำลัง เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย ในภายหลัง และนอกจาก มวยไทย ( Muay Thai ) แล้วยังมี ศิลปะการต่อสู้ อื่นๆ อีกด้วย ที่สามารถนำมาใช้ ป้องกันตัว ได้อีกมากมาย ที่ไม่ว่าจะเป็น คาราเต้ ยูโด เทควันโด บราซิลเลียน หรือ ยูยิตสู ซึ่งถ้าหากต้องเรียนรู้เพื่อ ป้องกันตัว อย่างถูกวิธี และ ไม่ให้ตนเองบาดเจ็บ ควรไปลงคอร์สเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) ศาสตร์การต่อสู้ ที่ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร ที่มีสอนการ ต่อสู้ เหล่านี้อย่างจริงจัง ที่นอกจากจะได้เรื่องการ ป้องกันตัว แล้ว ยังจะช่วยให้ ร่างกาย แข็งแรง อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ ป้องกันตัว ที่มีความโดดเด่น

ฝึกทักษะ มวยไทย ขั้นพื้นฐาน

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ ป้องกันตัว ที่มีความโดดเด่น

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ ป้องกันตัว ที่มีความโดดเด่น

มวยไทย ( Muay Thai ) ได้เป็นที่ แพร่หลาย ในระดับ นานาชาติ ช่วงศตวรรษที่ 20 เมื่อเหล่า นักมวยไทย สามารถ เอาชนะ นักต่อสู้ ที่มีชื่อเสียง ในแขนงอื่น ๆ ซึ่งการ แข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ในระดับ อาชีพนั้น ยังได้รับ การดูแล โดยสภามวยไทยโลก อีกด้วย

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ ป้องกันตัว ที่มีความโดดเด่น

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็น ศิลปะ การต่อสู้ ของประเทศไทย มีความโดดเด่น ทางด้านของ เทคนิค การกอดคอต่อสู้ ซึ่งเป็น การใช้ทั้ง กายและใจ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) การต่อสู้ ที่ใช้ร่างกาย เป็นอาวุธ โดยเป็นที่ รู้จักว่าเป็น นวอาวุธ ที่ประกอบด้วย การโจมตี จากร่างกาย คือ หมัด, ศอก, เข่า และ เท้า หากมีการ เตรียมพร้อม ด้านร่างกาย อย่างดีมากพอ จะก่อให้ เกิดอาวุธ ที่มีอานุภาพ อย่างมาก

 

กติกาของ การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ถูกกำหนด เอาไว้ อย่างชัดเจน และ ครอบคลุม ในทุก ๆ เรื่อง การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน นักมวย จะต้อง ทำการ สวมนวม ขนาด 4 ออนซ์ แต่งกายแบบ นักกีฬามวย คือ สวมใส่ กางเกงขาสั้น สวมกระจับ สวมปลอกรัดเท้า หรือ ไม่ก็ได้ เครื่องรางของขลัง ผูกเอาไว้ที่แขน ท่อนบนได้ ส่วนเครื่องราง ชนิดอื่น ๆ ใส่ได้เฉพาะ ช่วงตอน ร่ายรำไหว้ครู เท่านั้น แล้วให้ ทำการ ถอดออก ตอนเริ่ม ทำการ แข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะ ป้องกันตัว ที่มีความโดดเด่น

การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) จะแบ่งออก เป็นรุ่น ๆ ตามน้ำหนักตัว ของนักมวย เหมือนกับ หลักเกณฑ์ ของมวยสากล และ อวัยวะ ที่สามารถใช้ ในการต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ หมัด เท้า เข่า ศอก เข้าชก เตะ ถีบ ถอง เป็นต้น ซึ่งสามารถ ใช้ได้ทุกส่วน ของร่างกาย โดยไม่จำกัดที่ ที่จะชก และ แม่ไม้มวยไทย ที่มีอันตรายสูง บางท่าของ มวยไทย ( Muay Thai ) ถูกห้าม ให้ใช้โดยเด็ดขาด อย่างเช่น ท่าหลักเพชร เป็นท่าจับขา แล้วหักด้วย การนั่งทับ เป็นต้น

 

มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ ช่วยพัฒนาการ ทางอารมณ์ ได้อย่างดี การออกกำลังกาย การฝึกซ้อม มวยไทย มวยไทย ( Muay Thai ) และ การแข่งขัน นักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องมี ความอดทน อดกลั้น เป็นอย่างดี จึงจะสามารถ เป็นนักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีได้

 

อีกทั้ง มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วย พัฒนาการ ทางร่างกาย ช่วยทำให้ สมบูรณ์ มีความ แข็งแรง มากขึ้น

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกทักษะ มวยไทย ขั้นพื้นฐาน

พันข้อมือ มวยไทย มีความสำคัญอย่างไร

ฝึกทักษะ มวยไทย ขั้นพื้นฐาน

ฝึกทักษะ มวยไทย ขั้นพื้นฐาน

ทักษะขั้นพื้นฐาน มวยไทย ( Muay Thai ) ในการ ฝึกทักษะ แม่ไม้มวยไทย นั้นจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจหลักพื้นฐานกันก่อน เพราะการเรียน มวย และ กลมวย เพื่อนำไปสู่ทักษะในขั้นสูง ซึ่งศิลปะการให้ หมัด เข่า เท้า ศอก เป็นทักษะพื้นฐานของ กีฬา มวยไทย

Two boxers fight with the martial arts of muay thai.

ในปัจจุบันคนที่จะศึกษาวิชา มวยไทย ( Muay Thai ) เหล่านี้จึงต้องยึดหลัก คุณธรรมอย่างเคร่งครัด และสำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นเป็นการ ต่อสู้ ในลักษณะของมือเปล่า ที่ใช้อวัยวะประจำของ ร่างกาย ที่ใช้ทั้ง มือ เท้า เข่า ศอก ที่ประกอบด้วย เนื้อหนัง และ กระดูก ที่มาประยุกต์ใช้ใน การป้องกันตัว ด้วยท่วงท่าลีลาที่ ทักษะมวยสากล มีความสวยงาม และอ่อนโยนในการเคลื่อนไหวเรือนร่าง แต่เมื่อเกิดการปะทะกับ คู่ต่อสู้ องค์ประกอบแห่ง ร่างกาย ดังกล่าว กลับมีความ แข็งแกร่ง เป็นอาวุธที่รุนแรง ทั้งการ รุกรับ การป้องกันตัว 

 

หลักพื้นฐาน ฝึกทักษะ มวยไทย ( Muay Thai ) ขั้นพื้นฐาน

การตั้งท่า จดมวย

คือ การวางเข่า และวางมือให้ถูกต้องตามหลักการฝึก ซึ่งในการ จดมวย นั้น ต้องทราบเหลี่ยม มวย ( Muay ) ด้วย ซึ่ง เหลี่ยมมวย หมายถึง การแสดงการใช้ มือ และ เท้า ที่ถนัดออกมาให้เห็น โดยปกติ มวย ( Muay ) จะมี เหลี่ยมคือ เหลี่ยมซ้าย และ เหลี่ยมขวา ซึ่ง เหลี่ยมซ้าย หมายถึง การยื่น หมัด ขวาไปข้างหน้าสูงเหนือระดับหางคิ้ว ในขณะที่ เท้า ขวายื่นไปข้างหลัง หมัด ซ้ายชิดคาง เท้าซ้ายอยู่ด้านหลัง และลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็งปล่อยตัวตามสบาย โดยการให้น้ำหนักอยู่ที่ เท้า ซ้าย และระยะห่างของ เท้า ทั้งสองข้าง ช่วงตัว ซึ่งสายตามองผ่านมือไปยัง คู่ต่อสู้ ตลอดเวลา และ เหลี่ยมขวา หมายถึง การยื่น หมัด ซ้ายไปข้างหน้าให้สูงเหนือระดับหางคิ้ว ในขณะที่ เท้า ซ้ายยื่นไปข้างหลัง และแขนซ้ายขนานกับลำตัว หมัด ขวาชิดคาง เท้า ขวาอยู่ด้านหลัง และลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็งให้ปล่อยตัวตามสบาย และให้น้ำหนักอยู่ที่ เท้า ขวา สายตามองผ่านมือไปยัง คู่ต่อสู้ ตลอดเวลา

 

  • ท่อนแขน คือ การใช้แขนท่อนล่าง ตั้งแต่ใต้ศอกยาวลงไปถึงข้อมือ และใช้สำหรับการ ออกท่าทาง ของ การต่อสู้ อย่างเช่น ใช้ฟัน สับ กด ปัด หนีบ
  • ฝ่ามือ คือ การขยับ ฝ่ามือ ที่ใช้สำหรับการ ผลัก ปัด ตบ กระแทก รัด บีบ คู่ต่อสู้
  • หมัด คือ อาวุธ ในการ ต่อสู้ ที่มีความสำคัญมาก ๆ ในการ ต่อสู้ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะว่า อาวุธ ที่สำคัญในการ ชก คู่ต่อสู้ นั้นต้องมีความเร็ว และรุนแรง ที่ใช้สำหรับการ ต่อย ทุบ กระทุ้ง ชก และกระแทก เป็นต้น
  • ศอก คือ การงอแขนเราให้เกิดมุม ซึ่งจะเป็น กระดูก ของ กล้ามเนื้อ ที่เป็น อาวุธ ต่อสู้ ของ นักมวย ที่รุนแรง และอันตราย ที่สามารถทำให้เลือดตกยางออกได้ ใช้สำหรับ กระแทก แทง งัด ปัก ฟัน สับ เป็นต้น
  • เข่า คือ การทบขาท่อนบน และท่อนล่าง ให้เกิดมุมแหลม ใช้สำหรับการ กด กระแทก ยัด กระทุ้ง โยก แต่ถ้าไม่ระวังตัวใน การต่อสู้ เข่า อาจทำให้เราแพ้ ได้ทีเดียว
  • ฝ่าเท้า คือ การทำให้ คู่ต่อสู้ สามารถกระเด็นออกไปได้ แต่ไม่รุนแรง แต่เราก็ไม่ควรประมาท เพราะอาจจะทำให้เราล้มลงไปนอนกับพื้นได้
  • ศีรษะ คือ อีกหนึ่ง อาวุธ ที่มีความรุนแรงเหมือนกัน ที่สามารถทำให้ คู่ต่อสู้ ของเราน็อคได้ ใช้ในการ กระแทก กด และ โขก

 

เป็นส่วนหนึ่งในทักษะขั้นพื้นฐานของการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) หรือการเข้าใจในท่าทางของ มวยไทย ที่ใช้ในการขัยบ ร่างกาย และการใช้ ร่างกาย ในการ ต่อสู้ และยังมีอีกมากมายที่เราต้องใช้ในการฝึก ซ้อมมวย เพื่อจะทำให้เราเก่งขึ้น

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

พันข้อมือ มวยไทย มีความสำคัญอย่างไร

อาวุธ ลับ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่คุณ คาดไม่ถึง

 

พันข้อมือ มวยไทย มีความสำคัญอย่างไร

พันข้อมือ มวยไทย มีความสำคัญอย่างไร

เหตุผลที่ นักมวย มือใหม่ และมืออาชีพต้อง  พันข้อมือ เพราะว่า มือ ถือเป็นอวัยวะหลักที่สำคัญของการ ชก มวยไทย ( Muay Thai ) จึงต้องปกป้องมือ และ ข้อมือ จากอาการบาดเจ็บจากการ ต่อยมวย โดยการ พันมือ ช่วยป้องกันข้อต่อ และ กระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้

The boxer sat on the stone, tied the tape around his hand, preparing to fight.

เรียกได้ว่า กีฬา ชกมวย มวยไทย ( Muay Thai )  กับคนไทย ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน จนปัจจุบันกลายเป็น กีฬา ที่ใครหลาย ๆ คน เลือกฝึกเพื่อเสริมความ แข็งแรง ให้กับตัวเอง ใช้ ป้องกันตัว และรวมไปถึง มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย ลดน้ำหนัก ด้วย แต่ก่อนที่จะ ชกมวย นั้น การเตรียมตัวให้พร้อมถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และรวมไปถึงการ พันข้อมือ ก่อนใส่ นวม ด้วย 

ทำไม นักมวย ต้อง พันข้อมือ?

ซึ่งเหตุผลที่ นักมวย ทั้ง มือใหม่ และมืออาชีพ ต้อง พันข้อมือ นั้น ก็เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับการ ชกมวย ซึ่งก็ถือว่า มือ เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด ของ กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ประเภทนี้ ที่ต้องอาศัยการ ชก เป็นหลักนั่นเอง ซึ่งการ พันมือ นั้นจะช่วยป้องกันทั้งข้อต่อ และกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักง่ายมาก ๆ ถ้าหากมีการ ชก ซ้ำไปซ้ำมา และรวมถึงการซัพพอร์ตข้อมือ นิ้ว และสันหมัด อีกด้วย

ประเภทของผ้า พันข้อมือ

ผ้าพันข้อมือ แบ่งออกเป็น ประเภท ดังนี้

  1. ผ้าพันข้อมือ แบบคอตตอน

เป็นผ้า พันข้อมือ ที่นิยมใช้ในการฝึก ซ้อมมวย ที่มีความยืดหยุ่นสูง และมาพร้อมกับตีนตุ๊กแก ที่ช่วยให้ไม่หลุดง่าย

  1. ผ้าพันข้อมือ แบบเม็กซิกัน

ซึ่งผ้าประเภทนี้จะดูคล้าย ๆ กับแบบแรก แต่มีความแตกต่างกันตรงวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งผ้า พันข้อมือ แบบเม็กซิกันจะใช้ผ้าทอผสมกับเส้นใยอีลาสติก ที่ให้ความยืดหยุ่นมากพอสมควร แต่ก็น้อยกว่าแบบแรก

  1. ผ้าพันข้อมือ แบบผ้าก๊อซ

ผ้าก๊อซ หรือผ้าพันแผล ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี เป็นผ้าที่มักใช้ พันข้อมือ ร่วมกับเทปกาว เพื่อลงแข่งขัน ชกมวย แบบจริงจังมากกว่า การฝึกซ้อม อีกทั้งยังเป็นแบบที่ใช้ครั้งเดียว แล้วทิ้งอีกด้วย

วิธีการ พันข้อมือ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถูกต้อง

  • การเลือกใช้ ผ้าพันมือ แบบที่มีห่วงสำหรับการสอดนิ้วโป้ง และมีตีนตุ๊กแก ที่จะช่วยให้ พันข้อมือ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
  • เริ่มจากการนำนิ้วโป้งสอดเข้าไปในห่วงผ้า ของ ผ้าพันมือ ให้เรียบร้อย
  • หลังจากนั้นให้พันวนรอบด้านหลังมือ พร้อมกับดึงผ้าให้ตึง
  • ต่อมาให้เราพันบริเวณ ข้อมือ สัก 3 – 4 รอบ ซึ่งขึ้นอยู่กับความยาวของ ผ้าพันมือ ที่ นักมวย เลือกใช้ เพราะยิ่งยาวก็ยิ่งพันได้หลายรอบ ซึ่งจะช่วยซพพอร์ต ข้อมือ ของเราได้ดีกว่า
  • แล้วให้เราขยับขึ้นมาพันรอบฝ่ามือสัก 3 – 4 รอบเช่นกัน ซึ่งในการ พันข้อมือ แต่ละรอบ เราควรดึงผ้าให้ตึงอยู่เสมอ
  • จากนั้นให้พันผ้าเป็นรูปตัง เอ็กซ์ ( X ) โดยการพันไขว้ขึ้นเข้าไปในช่อง ระหว่างนิ้วก้อย และนิ้วนาง แล้วจากนั้นพันขึ้นมาทางช่องระหว่างนิ้วชี้ และนิ้วโป้ง
  • พันผ้าเป็นรูปตัว เอ็กซ์ ( X ) เข้าไปในช่องระหว่างนิ้วที่เหลือ นั่นก็คือระหว่างนิ้วนาง และนิ้วกลาง กับระหว่างนิ้วกลาง และนิ้วชี้
  • ควรดึงผ้าให้ตึง แล้วพันผ้ารอบนิ้วโป้ง รอบ ต่อมาพลิกฝ่ามือขึ้น เพื่อพันผ้าสำหรับล็อกนิ้วโป้ง โดยการพันที่ ข้อมือ และนิ้วโป้ง
  • จากนั้นพันผ้ารอบฝ่ามืออีกประมาณ 3 – 4 รอบ พันให้แน่นเข้าไว้ ส่วนผ้าที่เหลือให้ใช้ พันข้อมือ สลับกับฝ่ามือจนสุดแล้วปิดทับด้วยตีนตุ๊กแก ก็เป็นว่าเสร็จภารกิจ

เมื่อเราได้ทราบอย่างนี้แล้วใครที่อยากลอง ออกกำลังกาย ด้วยการฝึก ชกมวย มวยไทย ( Muay Thai ) บ้างก็ลองใช้วิธี พันข้อมือ ข้างต้นกันได้เลย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย 5 สาย ศิลปะที่อยู่กับ ไทย มาอย่างยาวนาน

ทักษะพื้นฐาน มวยไทย ของ แม่ไม้มวยไทย อย่างถูกวิธี

มวยไทย 5 สาย ศิลปะที่อยู่กับ ไทย มาอย่างยาวนาน

มวยไทย 5 สาย ศิลปะที่อยู่กับ ไทย มาอย่างยาวนาน

มวยไทย 5 สาย ศิลปะที่อยู่กับ ไทย มาอย่างยาวนาน

มวยไทย ศิลปะ การป้องกันตัวของ ไทย ที่มี 5 สาย ที่จับคู่กับไทยมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน มวยไทย เป็น เอกลักษณ์ เฉพาะของ ประเทศไทย ใช้หมัด ข้อศอก เข่าและเท้า มาดู 5 สาย กันดีกว่า เป็นไงบ้าง

มวยไทย ลพบุรี

มวยลพบุรี เป็น มวยไทย ภาคกลางที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น นักมวย ที่ฉลาด ชกต่อยตรง และเน้นความแม่นยำ ความคล่องตัว ความว่องไวในการโจมตี โดยใช้เล่ห์เหลี่ยม ลวง ไม่หยุด คล่องแคล่ว ว่องไว สายตาดี สามารถโจมตี และรับอาวุธด้วยหมัด เท้า เข่า ศอก ได้อย่างรวดเร็ว มวยไทย ลพบุรี มีแขนครึ่งหนึ่งโอบรอบแขน และพันรอบข้อเท้าอันเป็น เอกลักษณ์ ของมวยลพบุรี

มวยไทย สายลพบุรี จะใช้กติกาการต่อสู้ โดยกำหนด 5 รอบ โดยใช้วิธียกแบบวงกลม กล่าวคือ เจาะรูที่เปลือกแล้วปล่อยให้น้ำไหลเข้า เมื่อชามจมน้ำถือว่าหมดยก การต่อสู้ใช้ทุกส่วนของร่างกาย การเปรียบเทียบการ ชก มวย เป็นไปตามความประสงค์ของ นักมวย ไม่ว่าน้ำหนักหรืออายุ ไหว้ครูก็เหมือนไหว้ครูทั่ว ๆ ไป

 

มวยไทย ไชยา

มวยไชยา มวยไทย ภาคใต้ เป็นศิลปะพื้นบ้านของอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โด่งดังมากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ - ๖ จน นักมวย จากไชยาได้รับยศหมื่นนักมวยที่มีชื่อ อัตลักษณ์ของไชยามี 7 ด้านของการชกมวย หรือการตั้งท่ามวย ท่าครูหรือท่าครูไหว้ครู การห่อมือด้วยเชือก การแต่งกาย การฝึกมวยไชยา และแม่ไม้ มวย ไชยา

มวยไชยา มี 5 ท่า คือ แม่ไม้ มวยไทย และ ไชยา 7 ท่า ได้แก่ พันแขน หมัดชก กระโดดศอก หมัดพัน หมัดสี่เหลี่ยม สามกุมย่าง และอีกาเต้นรำ ท่าที่สำคัญที่สุดคือท่าเสือลากหาง เทคนิคการป้องกัน มวย ไชยาที่ดีที่สุดคือ ตั้งรับ สะบัด ปิด เปิด และนอกจากการใช้หมัด เท้า เข่า ศอกแล้ว ยังมีศิลปะการป้องกันตัว เช่น ขว้าง ทุบ จับ ทุบ ซึ่งคู่ควรแก่การชก

 

มวยไทย โคราช

มวยโคราช เป็น มวยไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไฮไลท์ คือ ไม่มีเสื้อกับกางเกงขาสั้น ใส่มงคลบนศีรษะขณะชก หมัดพันรอบเชือก ตั้งแต่หมัดขึ้นไปถึงศอกเพราะ มวย โคราช เป็นการ ชก มวย ที่มีหมัดกว้าง และหนักที่เรียกว่าหมัดควายคู่ควรกับฉายา "หมัดหนักโคราช" ซึ่งเชือกแบบนี้ เพื่อป้องกันการเตะ และต่อย

วิธีการ ชก มวย โคราช เป็นการแข่งขัน ชก มวย ยอดนิยมที่จัดขึ้นที่งานศพในลานวัด ประกาศก่อนการแข่งขัน โดยให้ทหารตีฆ้องรอบหมู่บ้านแล้ว ตะโกนบอกให้รู้ และเมื่อเทียบกันแล้วให้ นักมวย มาประลองฝีมือกันก่อน หากมีทักษะใกล้เคียงกัน ก็สู้ได้ มวยโคราช ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ถ้าพอใจก็ชกได้ รางวัลสำหรับการแข่งขันจะเป็นรายการเงิน แต่ถ้าเป็นการต่อยหน้าบัลลังก์ รางวัลจะเป็น สร้อยคอ เงิน ทอง ในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 - 6 มวยไทยโคราชเป็นสมัยที่มวยขาดเชือกมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ

 

มวยไทย ท่าเสาและพระยาพิชัย

มวยท่าเสา เป็น มวยไทย สายเหนือ ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า มวยไทย สายท่าเสาเกิดเมื่อครูมวยคนแรก แต่จากหลักฐานที่ปรากฏ เป็นที่ทราบกันว่าครู มวยไทย ชื่อดังอย่างท่าเสา คือ ครูเมฆ มี เอกลักษณ์ เฉพาะตัว มีความคล่องแคล่วว่องไว ความว่องไว ความเร็ว ความเด็ดขาด และมีสไตล์ที่สวยงามและได้ผลสมชื่อสมญานามว่า "เร็วกว่าท่าเสา" ส่วนกลยุทธการ ชก นั้น พระยาพิชัยดาบหัก เป็น มวย ทั้งแบบอ่อน และแบบแข็ง สามารถจู่โจมได้ตามสถานการณ์ รู้วิธีป้องกันก่อนโจมตี เรียนรู้ที่จะแก้มัดก่อนผูก เรียนรู้จุดแข็ง และจุดอ่อนของตัวเอง และคู่ต่อสู้

 

มวยไทย พลศึกษา

พลศึกษามวยเกิดมาพร้อมกับการก่อตั้งสมาคมครู ที่จะจัดเป็นสถานที่ ออกกำลังกาย ให้กับประชาชนทั่วไป และได้รับการสืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีอาจารย์ มวยไทย ชื่อดัง พลศึกษา คือ อ.สุนทร ทวีสิทธิ์ หรือ อาจารย์กิมเส็ง ทวีสิทธิ์ นักมวยชื่อดัง หมัดผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาจากหม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิ์วงศ์สวัสดิ์กุลที่เรียนมวยที่เมืองไทย จนได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่ง มวย สากลในประเทศไทย นอกจากชกแล้วยังเน้นความเร็ว จังหวะเข้าออกที่คล่องตัว เรียกได้ว่า มวย พลศึกษาเป็น มวย ที่ครบเครื่องสมชื่อ พลศึกษา สมบูรณ์ เอกลักษณ์ ของ มวยไทย เอกลักษณ์ ของไหว้ครูกับนาฏศิลป์ มวยไทย เอกลักษณ์ ของการสอน โดยที่ มวยไทย สืบทอดมาจากมวยโบราณ แบ่งเป็น 5 สาย คือ มวยไทย ไชยา มวยไทย โคราช มวยไทย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อาวุธ ลับ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่คุณ คาดไม่ถึง

ทักษะพื้นฐาน มวยไทย ของ แม่ไม้มวยไทย อย่างถูกวิธี

 

ทักษะพื้นฐาน มวยไทย ของ แม่ไม้มวยไทย อย่างถูกวิธี

ทักษะพื้นฐาน มวยไทย ของ แม่ไม้มวยไทย อย่างถูกวิธี

ทักษะพื้นฐาน มวยไทย ( Muay Thai ) หลักพื้นฐานในการฝึกทักษะ แม่ไม้มวยไทย ที่จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานก่อน เพราะเป็นทักษะเบื้องต้นของการ เรียนแม่ไม้มวยไทย และ กลมวย เพื่อนำไปสู่การมีทักษะในขั้นสูงต่อไป ที่เป็นศิลปะการใช้ หมัด เท้า ศอก เข่า

A boxer tied a rope in his hand and performed a fight, the martial arts of muay thai.

ในปัจจุบันผู้ที่จะศึกษาวิชา มวยไทย ( Muay Thai ) เหล่านี้ต้องยึดหลักคุณธรรมอย่างเคร่งครัด และสำหรับ มวยไทย นั้นเป็นการ ต่อสู้ ในลักษณะมือเปล่าที่ใช้อวัยวะประจำ ร่างกาย ของมนุษย์ทั้ง มือ เท้า เข่า ศอก ที่ประกอบไปด้วยเนื้อหนัง และกระดูก มาประยุกต์ใช้ใน การป้องกันตัว ด้วยถ่วงท่าลีลาที่ทักษะ มวยสากล

ทักษะพื้นฐาน มวยไทย ( Muay Thai ) มีอะไรบ้าง?

เป็นการวางตำแหน่งของอวัยวะที่ได้ จดมวย หมายถึง การกำหมัด วางเท้า มือ และ ลำตัว ซึ่ง การกำหมัด ที่ถูกต้อง คือแบมือให้นิ้วมื้อทั้ง เรียงชิดกัน แล้วพับนิ้วทั้ง นิ้วเข้าหาอุ้งมือ แล้วกดทับด้วยนิ้วหัวแม่มือลงทาบ ในลักษณะเฉียงกับนิ้วชี้ ละนิ้วกลาง เพื่อให้ หมัด ที่กำกระชับแน่น และไม่เกร็ง ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานของ กีฬามวยไทย ที่มีอยู่มากมายหลายแบบ 

มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบันเป็น ศิลปะการใช้ หมัด เช่น หมัดตรง หมัดตัด หมัดตวัด หมัดเสย ศิลปะการใช้เท้า ที่แบ่งออกเป็น เตะ ถีบ ซึ่งการ เตะ นั้นเช่น เตะเฉียง เตะตรง เตะตวัด และ เตะกลับหลัง ส่วนการถีบ เช่น ถีบตรง ถีบข้าง และ ถีบกลับหลัง ศิลปะการใช้ เข่า เช่น เข่าตรง เข่าเฉียง เข่าตัด เข่าโค้ง เข่าลอย และศิลปะการใช้ ศอก เช่น ศอกตี ศอกตัด ศอกงัด ศอกพุ่ง ศอกกระทุ้ง ศอกกลับ ซึ่งการนำเอาศิลปะ แม่ไม้มวยไทย เหล่านี้ไปใช้ให้ได้ผลดีย่อมขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ความชำนาญ และความมีไหวพริบจึงจะได้ ประโยชน์ สูงสุด

การฝึก ทักษะพื้นฐาน มวยไทย ( Muay Thai ) ง่าย ๆ จากการใช้ หมัด ศอก เข่า เตะ

  1. หมัดงัด คือ เริ่มต้นจากท่าจรด มวย ขวา แล้วย่อตัวลงเท้าแยกห่างย่อเข่าซ้ายลง พร้อมกับลด หมัด ซ้ายลง และหงาย หมัด ขึ้นแล้วบิดลำตัว ไปทางขวาของเราพร้อมกับดึงกระตุน หมัด ซ้ายขึ้นตรง
  2. หมัดตรง คือการ ชก หมัด ออกไปจากไหล่ให้เป็นแนววิถีทางตรงไปสู่เป้าหมาย
  3. หมัดเสย คือ ชก หมัด ในระยะประชิดตัว ทิศทางการเคลื่อนไหวจากล่างขึ้นบน
  4. หมัดตวัด คือ การ ชก หมัด โดยการงอ และเกร็งข้อศอกไว้ให้ หมัด ออกไปเป็นวิถีทางโค้ง อาจคว่ำ หรือตั้ง หมัด ได้
  5. ศอกตี คือ การพับข้อศอกตีเฉียง ลงกระทบเป้าหมายสามารถตีได้ทั้งซ้าย และขวา
  6. ศอกตัด คือ การพับ ข้อศอก ขึ้นตีศอกทิศทางขนานกับพื้น
  7. ศอกงัด คือ ศอก ที่เราใช้ตีเสบขึ้น หรืองัดขึ้น เป้าหมายที่ปลายคาง คิ้วและใบหน้า
  8. ศอกสับ คือ ศอก ที่ใช้สับลงบน คู่ต่อสู้ ที่เข้ากอด จะด้วยศอกเดี่ยว หรือคู่ก็ตาม และบริเวณใบหน้าจะต้องเร็ว และแรงแต่ คู่ต่อสู้ ต้องเตี้ยกว่า
  9. เข่าเฉียง คือ การตีเข่าขึ้นเฉียงทำมุมกับลำตัว คู่ต่อสู้ เป้าหมายบริเวณชายโครง
  10. เข่าโค้ง คือ เป็นเข่าที่ผู้ใช้จะต้องบิดสะโพกคว่ำลงให้ทิศทางของเข่าลอยโค้งจากบนลงปะทะเป้าหมายให้ปลายเท้า เหยียดเป็นเส้นตรงกับขา และเข่า
  11. เข่าตรง คือ เข่า ที่เคลื่อนที่จากจุดเริ่มไปกระทบเป้าหมายแนววิถีทางตรงดิ่ง
  12. เข่าลอย คือ การ ตีเข่า ขึ้นไปตรง ๆ โดยการกระโดดตัวลอยพ้นจากพื้น
  13. เตะตรง คือ การ เตะ ที่มีวิถีทางขึ้นตรงจากพื้นสู่เป้าหมาย
  14. เตะตัด คือ การ เตะ ที่มีวิถีทางโค้งขึ้นเล็กน้อย แล้วตัดขนานไปกับพื้น
  15. เตะเฉียง คือ การ เตะเฉียง จากพื้นสู่เป้าหมายบริเวณชายโครง สำตัว หรือปลายคางของ คู่ต่อสู้
  16. เตะตวัด คือ การ เตะ เหวี่ยงแล้วตวัดเท้าให้ส้นเท้าปะทะกับเป้าหมาย 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อาวุธ ลับ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่คุณ คาดไม่ถึง

มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ช่วย ลดน้ำหนัก ได้นะ รู้ยัง ?

อาวุธ ลับ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่คุณ คาดไม่ถึง

อาวุธ ลับ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่คุณ คาดไม่ถึง

สุดยอด กีฬา มวยไทย ที่โด่งดัง และ เป็นที่ ได้รับ การยอมรัย จากทั่วทั้ง โลก เอาล่ะ วันนี้ เราจะพาทุก ๆ ท่าน มาดู อาวุธ ลับ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่คุณ คาดไม่ถึง เลยทีเดียว รับรองว่า เท่ คม จนคุณเอง ก็อยาจะมาเรียน มวยไทย กันอย่างแน่นอน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นถือเป็น กีฬา ที่มีชื่อ ของ ประเทศไทย เลยก็ว่าได้ ด้วย บุคคล ที่ได้ ประสบความสำเร็จ ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) อาทิ คุณสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ได้คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก ที่แอตแลนต้า ในปี 1996 หรือว่า คุณสมจิตร จงจอหอ ที่แม้ว่า จะประกาศตัว ว่า ตนไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านนี้ แม้ด้วยว่า ความพยายาม อีกทั้ง ความมุ่งมั่น สุดแรงกล้า ประกอบด้วย กับกำลังใจ จากครอบครัว ก็ทำให้ นักมวย ท่านนี้ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก มาจนได้ และได้รับเกียรติ ให้ได้เป็นผู้เชิญ ธงชาติไทย ที่นำคณะนักกีฬา ทีมชาติไทย ในพิธีปิด โอลิมปิกเกมส์ ในครั้งที่ 26 อีกด้วย

 

ซึ่ง มวยไทย ( Muay Thai ) นับเป็นกีฬา ที่มี อาวุธ นั่นคือ อวัยวะส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ของเรา ไม่ว่าจะเป็น มือ, เท้า, เข่า และข้อศอก

 

ในวันนี้ เราจะขอนำ ให้ทุก ๆ ท่าน มารู้จัก กับ อวัยวะสำคัญต่าง ๆ ทั้ง 4 อวัยวะ ที่ใช้ ในการ ต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai )

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) กับ หมัด

หรือว่า กำปั้นของเรานั่นเองค่ะ ใครจะไปรู้นะว่า ไอ้กำปั้นน้อย ๆ ที่เห็นนี้ โคตรมีประโยชน์ มีแรงมหาศาล เป็นอาวุธหลัก ๆ ของ มวยไทยเลยก็ว่าได้นะ การออกแรงหมัด นั้นจะใช้แรงส่งจาก หัวไหล่, สะโพก, และ ขา มายังกำปั้น โดยใช้ใน การโจมตีระยะกลาง อีกทั้งยังใช้ได้ใน หลบหลีกอาวุธของคู่ต่อสู้

 

ด้วยความที่ หมัด นั้นจะใช้แรงส่งจากกล้ามเนื้อหัวไหล่ ซึ่งนั่นเป็น มัดกล้ามเนื้อ ที่ก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นมวยหมัดหนักจริงๆ ส่วนมากก็จะใช้หมัดไว้เพื่อที่ทำลายจังหวะคู่แข่ง ซึ่งการปล่อยหมัด ที่สามารถทำน้ำหนักได้ดีที่สุด ก็คือ การใช้ “หมัดตรงหมัดหลัง” ที่เหล่านักมวยจะใช้การบิดไหล่ข้างถนัด แล้วโน้มไปข้างหลังเล็กน้อย เพื่อจะทำให้เกิดแรงส่งจากสะโพก ลำตัว หัวไหล่ ก็จะได้แรงมากกว่าหมัดตรงธรรมดา

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) กับ เท้า

อาวุธที่สุดจะสำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่สามารถน็อคคู่ต่อสู้ได้เลยนะคะ หากเตะไปทางก้านคอของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากว่าบริเวณของต้นคอ เป็นศูนย์พวกรวมระบบประสาทที่สำคัญ อาทิ หลอดเลือดใหญ่ที่ส่งเลือดไปเพื่อเลี้ยงสมอง, กระดูกคอ เพราะฉะนั้น เท้าก็จึงถือเป็นอวัยวะการโจมตีระยะไกลที่ดีมาก แรงส่งของเท้านั้นเกิดจากแรงขาและการหมุนของสะโพก การเตะเท้าที่ดีจะต้องอาศัยทั้งความเร็ว และเป็นการทรงตัวที่ดีด้วยนะคะ

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) กับ เข่า

เข่า นั้นเป็นอาวุธมวยไทย ที่เรียกได้ว่า มีความหนักหน่วง เนื่องจากนี่เป็นการใช้แรงส่งจากสะโพก โดยใช้ในส่วนของหัวเข่าด้านหน้า หรือว่าด้านข้างหัวเข่า ที่เป็นมุม และแข็งแรงมาก เข้าปะทะในส่วนนิ่มของร่างกายคู่ต่อสู้ ส่วนมากก็จะใช้เข่าในการโจมตีระยะประชิดตัว ส่วนผู้ที่จะใช้เข่าโจมตีคู่ต่อสู้ จะเป็นคนที่การรักษาบาลานซ์ร่างกายได้ดี

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) กับ ศอก

ศอก คือ อาวุธที่โคตรอันตรายมากที่สุดของมวยไทย ด้วยความมีความแหลม คม ของกระดูกที่บริเวณศอก หากว่ากระทบไปที่ใบหน้าของคู่ต่อสู้ ก็อาจทำให้มึนงง ไปจนถึงที่ขั้นสลบได้เลยค่ะ หรือว่าหากปล่อยศอก ไปโดนเบ้าตา ก็จะส่งผลต่อการมองเห็น นั่นอาจเห็นภาพซ้อน มองไม่เห็น ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการน็อคเลยค่ะ

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกชก มวยไทย มันดีขนาดไหนกันนะ ?

มวยไทย ดีต่อเด็ก ศิลปะป้องกันตัว เสริมสร้าง ร่างกาย

มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ช่วย ลดน้ำหนัก ได้นะ รู้ยัง ?

มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ช่วย ลดน้ำหนัก ได้นะ รู้ยัง ?

หลาย ๆ คน คงอยาก ลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่รู้ ว่าจะเริ่มต้น หรือว่า มาเริ่ม หาแนวทาง ในการ ลดน้ำหนัก อย่างไร แต่รู้ไหม ว่า จริง ๆ แล้ว มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ช่วย ลดน้ำหนัก ได้นะ ต้องมาลอง แล้วจะติดใจ อย่างแน่นอนเลยแหละ ลกน้ำหนักไม่พอ ยังกระชุบทุก ๆ ส่วนเลย

 

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย ลดน้ำหนัก ได้ยังไงนะ ?

ในปัจจุบัน บอกเลย ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ลดน้ำหนัก ไม่ได้เป็นที่นิยม แค่ในหมู่หนุ่ม ๆ เพียงอย่างเดียวนะ แต่ว่า สาว ๆ หลายคน ก็เริ่มหาคอร์ส เพื่อเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) ผู้หญิงกัน อย่างมากขึ้น เพราะว่า มีความสนุก สนาน และยังช่วย ให้สามารถ ลดน้ำหนัก ได้อย่างรวดเร็วด้วย โดย การออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ เผาผลาญพลังงาน ได้มากถึง 200 - 400 แคลอรี เลยทีเดียวเชียวนะ

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) x Aerobics

มวยไทย ( Muay Thai ) กับ แอโรบิก อาทิ คีตะมวยไทย ( Muay Thai ) หรือว่า Boxing Dance นั่นคือ การนำเอา ท่าทาง ในการเคลื่อนไหว ของ แม่ไม้ และ ลูกไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) มาผสมผสาน ในการออกกำลังกาย ในแบบแอโรบิก ที่เน้นการหายใจ ขณะที่ ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกาย ได้นำออกซิเจน ไปช่วย ในการ เผาผลาญ โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต และเหล่า ไขมันส่วนเกินต่าง ๆ โดยการ ต่อยมวย แอโรบิก ก็จะมุ่งเน้น ที่ความต่อเนื่อง ที่มากกว่า ความเข้มข้น และใช้ระยะเวลา อย่างน้อย ๆ 20 - 30 นาที จะมีประโยชน์ อย่างมาก ในการ เสริมสร้าง ความแข็งแรง ภายใน ของกล้ามเนื้อ และเสริม ระบบ ในการหายใจ สำหรับใคร ๆ ที่เบื่อ ๆ การออกกำลังกาย การแอโรบิก ในแบบเดิม ๆ อย่างวิ่ง หรือว่า เต้นแล้ว การต่อยมวยแอโรบิก นั้นน่าจะเป็น ตัวเลือกใหม่ ๆ ที่คุณ ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) x HIIT

มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ HIIT หรือ High - Intensity Interval Training นั่นคือ การออกกำลังกาย อย่างชนิดทุ่มเท แรงกายแรงใจ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ และสลับ กับการออกแบบเบา ๆ กว่า โดยจะใช้ เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น นี่เป็น การเทรนที่หนักมาก ๆ เพื่อให้เกิด การเผาพลาญ หลังจากออกกำลังกาย ( Exercise Afterburn ) ที่จะเกิดขึ้น อย่างติดต่อกัน ได้นานถึง 48 ชั่วโมง โดยถือเป็นวิธี การต่อยมวย เพื่อ ลดน้ำหนัก ที่ให้ผลเร็วที่สุดก็ว่าได้ เหมาะกับคน ที่ค่อนข้างใจร้อน หรือคนวัยทำงาน ที่ไม่ค่อยมีเวลา ที่จะมาการออกกำลังกายมากนักนั่นเองค่ะ

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) ความ โดดเด่น ของ ศิลปะ การต่อสู้

การไหว้ครู ร่ายรำ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai )

ฝึกชก มวยไทย มันดีขนาดไหนกันนะ ?

ฝึกชก มวยไทย มันดีขนาดไหนกันนะ ?

กีฬา แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภท อะไรถ้าเล่นให้ถูกวิธี มันก็คือการออกกกำลังกาย และมันจะส่งผลต่อร่างกาย ของเราไปในทางที่ดี และสำหรับ การชกมวยเลยกีฬายอดนิยมอย่าง มวยไทย มันส่งผลดีขนาดไหนกันนะ ?

 

 

                เราต้อง ยอมรับกันเลย ว่า ในปัจจุบันกีฬา มวยไทย นั้นถือว่า เป็น กีฬา รวมไปถึง การ ออกกำลังกาย ที่นิยมใน สังคม คนรุ่นใหม่ ของเรา ไม่ใช้แค่ใน อดีต แต่ยัง รวมไปถึง ปัจจุบัน และ เรานั้น จะเห็นได้ถึง เซเล็ปดารา หรือ รวมไปถึง คนดังมากมาย ไม่ว่าจะ ในประเทศไทย หรือ ต่างประเทศ ก็ให้ความ สนใจ กันเป็นจำนวนมาก และใน ปัจจุบัน คนส่วน ใหญ่ นั้น ก็หันมาฝึก มวยไทย กันเป็นจำนวนมาก และ นอกจากจะ ช่วยให้ ร่างกาย แข็งแรงแล้ว ยังมีอีกหลายอย่าง เช่น ฝึกความว่องไว  และที่สำคัญไปกว่านั้นยังเป็นศิลปะป้องกันตัว มาดูกันว่าการฝึกมวยไทยนั้น ช่วยให้เราพัฒนาอะไรอีกบ้าง

 

ฝึก มวยไทย ได้ฝึกวินัย

 

                แน่นอนว่า สำหรับ การฝึกมวยไทยนั้น บอกเลยว่า ถือว่า จำเป็นต้องฝึกทุกวัน นั้นก็ เพื่อให้ ร่างกาย ของเรา นั้นเกิด ความ แข็งแรง และ รวมไปถึง นั้นก็ เพื่อให้กล้ามเนื้อจดจำ  การที่เราฝึกซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกวัน ก็ เพราะว่าการ ฝึกมวยไทย ต้องใช้ทั้งความ อดทนของร่างกาย ของเรา และแถมยัง รวมไปถึง จิตใจแปลว่า เพราะฉะนั้น การที่เราจะฝึกมวยไทยให้เห็นผลนั้น ต้องมีวินัย มวยไทยมีการฝึกหลายอย่าง ทั้ง ร่างกาย กล้ามเนื้อ ความอึดความอดทน การมีวินัยในการฝึกมวยไทยส่งผล ไปถึงชีวิตประจำวัน ในหลาย ๆ อย่าง

 

ฝึกมวยไทย ช่วยลดความเครียด

 

                แน่นอน ว่าการ ที่เรา ฝึก มวยไทย หรือ รวมไปถึง การที่เรา ทำกิจกรรม การ เล่นกีฬา มวยไทย แทบจะทุกวัน เรา ต้องอาศัย เพื่อนเพื่อความสนุกในการเล่น และยิ่งมีเพื่อนมากเท่าไหร่ก็ และ ถ้าเรา ยิ่งทำให้มีความ สนุกมาก มากเท่านั้น เพราะเวลาเล่นร่างกายจะปล่อยสารเอนโดรฟีนออกมา ทำให้เรามีความสุขและสนุกไปกับการฝึกมวยไทย

 

ฝึกมวยไทย ช่วยให้ มีจิตใจที่มั่นคงแน่วแน่

 

                สำหรับ กีฬา มวยไทย นั้น เราถือว่า เป็นกีฬาที่ต้องมีการฝึกจิตใจ เป็นอย่างกมา นั้นก็ เพราะกีฬา มวยไทย สำหรับ นอกจากจะใช้ความ อดทน ในการฝึก แถม ยังต้อง มีการฝึกจิตใจเพื่อพร้อมกับการฝึกที่หนัก พร้อมอดทนกับความเหนื่อยล้า จิตใจที่แน่วแน่จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสำหรับการฝึก ถ้าหายเราไม่ฝึก จิตใจให้แข็งแรง โดยที่ เราจะเสียเวลา และรวมไปถึง เสียเงินไปกับการฝึกที่ไม่ได้ผลได้ อีกด้วย นั่นเอง

 

ฝึกอารมณ์ให้มีความใจเย็น และอดทนต่อความกดดันได้ดี

 

                สำหรับ ใคร ๆ หลาย ๆ คน คงจะมีความ คิดว่ากา รฝึกมวย นั้นมัน จะทำให้เราเป็นคน ใจร้อน เป็นคนชอบ ใช้ความรุนแรง นั้นก็เพราะ เนื่องจากการฝึกกีฬา มวยไทย นั้น มีการชกต่อย รวมไปถึงการ เตะ ทำให้คนที่เห็นนั้น คิดว่า กีฬา มวยไทย นั้น จะเป็น กีฬา ประเภท ที่ ต้อง ใช่ความ รุนแรงแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช้ อย่างที่คิดกันเลย ไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะ หาก นักมวย หรือ รวมไปถึง ผู้ที่ฝึก มวยไทย ท่านใดขึ้นสังเวียนจริง ผู้นั้นต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่สามารถพึ่งพาพี่เลี้ยงได้ และสิ่งแรกที่เราต้องคิดคือ ความชนะ สิ่งที่จะทำให้เราชนะคู่ต่อสู้นั่นก็คือ ความสุขุม ใจเย็น และสมาธิ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราวิเคราะห์คู่ต่อสู้และตัวเราได้ดี หากผู้ชกใจร้อน ก็จะทำให้คาดสติและ อาจแพ้ได้

 

                เป็นยังไงกันบ้าง กับความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับกิจกรรม การออกกำลังกาย ที่เป็นกีฬา ที่จะใช้แทบจะทุก ส่วนของร่างกาย ของเรา อย่างการ ชก มวยไทย ฟังประโยชน์ ของมันแบบนี้แล้ว เริ่มมีอารมณ์ การอยากฝึก หรือ อยากไปหาออกกำลังกายบ้านหรือไม่ เพราะถ้าสนใจเราอยากแนะนำ jaroenthongmuaythaikhaosan.com เจริญทอง มวยไทย ยิม ที่เป็น ยิม สอนการชก มวย โดยเฉพาะ และที่สำคัญ ครูฝึกถือว่าเป็นคนที่มี ประสบณ์การการฝึก และไม่ทำให้คุณ ผิดหวังแน่นอน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

มวยไทย ดีต่อเด็ก ศิลปะป้องกันตัว เสริมสร้าง ร่างกาย

การไหว้ครู ร่ายรำ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) 

มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ความ โดดเด่น ของ ศิลปะ การต่อสู้

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่มีประวัติศาสตร์ มายาวนาน และ หลายคน ให้ความสนใจ กับกีฬาอย่าง มวยไทย ( Muay Thai ) มาก ๆ เพราะเป็นกีฬา ที่ดูแล้วลุ้น ระทึก เพลิดเพลิน ไปกับ การแข่งขัน อีกทั้ง ยังสามารถ ใช้เป็นศิลปะ ป้องกันตัว ได้ด้วย

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะ การต่อสู้ ของประเทศไทย ที่มีความ โดดเด่น ทางเทคนิค การกอดคอ ต่อสู้ ซึ่งเป็นการ ใช้ทั้งกาย และใจ สำหรับ การต่อสู้ ที่ใช้ร่างกาย เป็นอาวุธ โดยเป็น ที่รู้จักกัน ว่าเป็น นวอาวุธ ซึ่งประกอบ ด้วยการ โจมตีจาก ร่างกาย ทั้ง หมัด, ศอก, เข่า และ เท้า หากมีการ เตรียมพร้อม ด้านร่างกาย อย่างดี จะก่อให้เกิด อาวุธที่มี อานุภาพมาก

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ได้เป็นที่ แพร่หลาย ในระดับ นานาชาติ ในช่วง ศตวรรษที่ 20 เมื่อเหล่า นักมวยไทย สามารถ เป็นฝ่ายชนะ นักต่อสู้ ที่มีชื่อเสียง ในแขนงอื่น ซึ่งการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ในระดับ อาชีพ ยังได้รับ การดูแล โดยสภา มวยไทยโลก อีกด้วย

 

กติกาของ มวยไทย ( Muay Thai ) ถูกกำหนดไว้ อย่างชัดเจน และ ครอบคลุมทุก ๆ เรื่อง การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน นักมวย ต้องสวมนวม ขนาด 4 ออนซ์ แต่งกายแบบ นักกีฬามวย คือ สวมกางเกงขาสั้น สวมกระจับ สวมปลอกรัดเท้า หรือ ไม่ก็ได้ เครื่องรางของขลัง ผูกไว้ที่แขน ท่อนบนได้ ส่วนเครื่องราง ชนิดอื่น ๆ ใส่ได้เฉพาะ ตอนร่ายรำไหว้ครู เท่านั้น แล้วให้ถอดออก ตอนเริ่ม ทำการ แข่งขัน

ในการ แข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) จะมีกรรมการ ผู้ชี้ขาดบนเวที จำนวน 1 คน กรรมการ ให้คะแนน ข้างเวที จำนวน 2 คน และ จำนวนยก ในการ แข่งขัน มีทั้งหมด 5 ยก ยกละ 3 นาที มีเวลาพัก ระหว่างยก 2 นาที

 

การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) จะแบ่งเป็นรุ่น ตามน้ำหนักตัว ของนักมวย เหมือนกับ หลักเกณฑ์ ของมวยสากล อวัยวะ ที่สามารถใช้ ในการต่อสู้ คือ หมัด เท้า เข่า ศอก เข้าชก เตะ ถีบ ถอง เป็นต้น ซึ่งได้ ทุกส่วน ของร่างกาย โดยไม่จำกัดที่ ที่ชก และ แม่ไม้มวยไทย ที่มีอันตรายสูง บางท่า ถูกห้าม ใช้เด็ดขาด เช่น ท่าหลักเพชร เป็นท่าจับขา แล้วหักด้วย การนั่งทับ เป็นต้น

 

หวังว่า หลาย ๆ คน จะเริ่มเข้าใจ กีฬา การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ซึ่งเป็น ศิลปะ การต่อสู้ ที่มีความ โดดเด่น อย่างมาก

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ สร้างร่างกาย ให้แข็งแรง

มวยไทย ดีต่อเด็ก ศิลปะป้องกันตัว เสริมสร้าง ร่างกาย

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ สร้างร่างกาย ให้แข็งแรง

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ สร้างร่างกาย ให้แข็งแรง

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น ศิลปะการต่อสู้ ของชาติไทยที่ทั่วโลกยอมรับ ยกย่อง ประโยชน์ ที่มากกว่าแค่ความ แข็งแกร่ง คือการมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น ปัจจุบัน มวย ได้ปรับรูปแบบให้ทันสมัย ที่ช่วยเสริมสร้าง ร่างกาย ให้ แข็งแรง และ ลดน้ำหนัก อย่างเห็นผล

Female boxer practicing with trainer

มวยไทย Muay Thai ) ถือเป็น ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบหนึ่ง ที่ถือได้ว่าเป็น กีฬา ประจำชาติไทย และมีต้นกำเนิดจากประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก ซึ่ง ค่ายมวย ต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีการเปิดสอนให้กับชาวต่างที่มุ่งมั่นเข้ามาฝึกฝนวิชาการ ต่อสู้ 

 

มวย ( Muay ) ถือเป็นไอคอนที่จุดประกายให้ชื่อเสียงของ มวยไทย Muay Thai ) เป็นที่รู้จัก และจับตามอง มวยไทยเป็นหมุดหมายให้ใครหลาย ๆ คนอยากทำความรู้จัก ศิลปะการต่อสู้ นี้ให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากเป็น กีฬา การ ต่อสู้ ที่สร้างความ แข็งแกร่ง ให้กับ ร่างกาย ได้ใช้ทุกส่วนของ ร่างกาย เป็นอาวุธ ที่มีทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก ซึ่งยังมีส่วนช่วยในด้านการฝึกฝน จิตใจอีกด้วย โดยปัจจุบัน มวยไทย Muay Thai ) ได้ปรับรูปแบบให้ทันสมัย และเป็นการ ออกกำลังกาย ที่มีเปิดให้เรียน และ เทรนนิ่ง กันในหลาย ๆ ฟิตเนส ( Fitness ) อย่างเช่น ฟิตเนส เจริญทองมวยไทยข้าวสาร, เจริญทองมวยไทยรัชดา เป็นต้น ที่ช่วยเสริมสร้างความฟิต และ ลดน้ำหนัก อย่างเห็นผล

 

ประโยชน์ ของ มวยไทย Muay Thai ) ในชีวิตประจำวัน

 

  1. สำหรับ ป้องกันตัว

เป็นเหตุผลที่ใครหลาย ๆ คนเลือกเรียน มวยไทย Muay Thai ) เพื่อเป็นทักษะในการ ป้องกันตัว เบื้องต้น ที่เมื่อเจอภัยกับตัวเอง ซึ่งต้องผ่านการฝึกฝน เพื่อให้เกิดความชำนาญ และสามารถใช้งานได้ในยามฉุกเฉิน เช่น การถีบ เป็น การเตะ เพื่อผลัก คู่ต่อสู้ ออกไป หรือการใช้ ศอก และ เข่า ในระยะประชิด ก็ได้ประสิทธิภาพอย่างดี

ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องได้รับการฝึกฝนอย่างชำนาญ แม้ว่าการหนีจะเป็นการป้องกัน การปะทะได้ดีที่สุด เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือมีคนต้องการความช่วยเหลือ มวยไทย Muay Thai ) ก็เป็นหนึ่งใน ศิลปะการต่อสู้ ที่มีศักยภาพ ที่สามารถปกป้องคนที่เรารักได้ เป็นอย่างดี

 

  1. พัฒนา สุขภาพ ร่างกาย ให้ดีขึ้นและ แข็งแรง

มวยไทย Muay Thai ) เป็นการ ออกกำลังกาย ที่ใช้ กล้ามเนื้อ เกือบทุกส่วนของ ร่างกาย ที่เป็นการ ออกกำลังกาย ที่ช่วย เผาผลาญ แคลอรี่ และ เสริมสร้างความ แข็งแกร่ง ได้อย่างดี มวยไทย สามารถ เผาผลาญ แคลอรี่ ได้ถึงประมาณ 600  - 700 แคลอรี่ ต่อ ชั่วโมง เท่ากับว่าใน ครั้งเราสามารถ เผาผลาญ แคลอรี่ ได้มากถึง 1,500 แคลอรี่ และถ้าเรายิ่ง ควบคุมอาหาร ควบคู่ไปด้วย จะยิ่งเสริมสร้างความ แข็งแรง ได้ด้วย

 

  1. จัดการกับความเครียด

มวยไทย Muay Thai ) เป็นข้อหนึ่งที่พูดถึงเหมือนกันคือ มวยไทย เป็นตัวช่วยในการจัดการกับ ความเครียด ที่ดีอย่างหนึ่ง ที่นอกจากที่สาร เอนโดรฟิน หลังที่ทำให้รู้สึกดี และยังเป็นการสร้างความท้าทาย ให้กับผู้ฝึกฝนให้ก้าวข้ามขีดจำกัด และปลดปล่อยศักยภาพของตัวเราเองอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจ และส่งเสริมวินัย ของจิตใจ ในการผ่านการควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกถึงความ เมื่อยล้า และเจ็บปวดของ กล้ามเนื้อ จากการฝึกฝน มวย หนัก ที่จะทำให้เราเอาชนะไปให้ได้

มวยไทย Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้  ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ และมี ประโยชน์ ที่มากกว่าความ แข็งแกร่ง แข็งแรง คือการมีจิตใจ ที่เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

มวยไทย ดีต่อเด็ก ศิลปะป้องกันตัว เสริมสร้าง ร่างกาย

การไหว้ครู ร่ายรำ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) 

 

 

มวยไทย ดีต่อเด็ก ศิลปะป้องกันตัว เสริมสร้าง ร่างกาย

มวยไทย ดีต่อเด็ก ศิลปะป้องกันตัว เสริมสร้าง ร่างกาย

ถ้าหากพูดถึง กีฬา หรือการ ออกกำลังกาย ของไทยที่ทั่วโลกรู้จักคงหนีไม่พ้น มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ได้รับความนิยมเพราะนอกจากจะเป็น ศิลปะป้องกันตัว แล้ว มวย ยังมี ประโยชน์ สำหรับ เด็ก ที่ให้ผู้ปกครองได้ศึกษากันนอกจาก ร่างกาย แข็งแรง ยังมี ประโยชน์ ด้วย

Young boxer trainer is training new girl boxer for special competitions.

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติ และ ชาวไทย ต่างให้ความนิยมกันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้ ออกกำลังกาย แล้ว ยังได้ใช้เป็นการ ป้องกันตัว ได้อีกด้วย วันนี้เราจึงได้นำ ประโยชน์ ของ มวย ( Muay ) สำหรับ เด็ก มาให้คุณพ่อคุณแม่ ได้ศึกษากัน นอกจาก ร่างกาย จะ แข็งแรง แล้ว ยังมี ประโยชน์ อื่น ๆ อีกมากมาย มาดูกันว่า เรียนมวย ดีต่อเด็ก อย่างไร ?

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น กีฬา ที่มีทั้งแบบมือสมัครเล่น และการเล่นเป็นอาชีพ ซึ่งเป็น กีฬา ที่เกี่ยวข้องกับการจู่โจม และยังเป็น ศิลปะป้องกันตัว ด้วย หมัด เตะ ต่อย ซึ่ง นักมวย หรือผู้เข้าแข่นขันจะสวม นวม ที่มือเพื่อป้องกันมือจู่โจม และป้องกัน หมัด จาก คู่ต่อสู้ 

 

เรียนมวย เหมาะสำหรับ เด็ก อายุเท่าไหร่?

หาก เด็ก ๆ ของเรามีความสนใจที่ต้องการจะ เรียนมวย ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ ก็ถือว่าไม่เร็วเกินไป ที่พวก เด็ก ๆ จะเริ่มเรียนรู้การ ชกมวย ขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้สิ่งต้องระวังมากที่สุดคือ ความปลอดภัยของ เด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องป้องกันหัว หรือแม้แต่ นวม เพราะถ้าหากมือของ เด็ก ๆ ไม่พอดีกับ นวม ก็อาจจะทำให้เวลา ชกมวย ออกไปอาจจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นไม่ว่า เด็ก ๆ ของเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตามความปลอดภัย ต้องมาเป็นอันดับแรก หรือไม่ก็ควรพา เด็ก ๆ ไปหาผู้เชียวชาญด้าน กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ ฟิตเนส ( Fitness ) สอน มวยไทย ( Muay Thai )

 

ประโยชน์ ของการ เรียนมวย สำหรับ เด็ก ๆ 

 

  1. ประโยชน์ ต่อ สุขภาพ

การ ชกมวย สำหรับ เด็ก เป็นการ ออกกำลังกาย ที่มุ่งเน้นความคล่องตัว ความเร็ว ความว่องไว และการทรงตัว การทำงานประสานกันระหว่างมือ ตา และขา โดยที่กล่าวมาจะช่วยเสริมสร้างทำให้ ระบบประสาทส่วนกลาง ระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจ และหลอดเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเพาะ เด็ก ที่มีความเสี่ยงของ โรคโลหิตจาง โรคอ้วน นอกจากนี้ยังดีสำหรับ เด็ก ที่มี ไม่ให้มีอีกด้วย ซึ่งเป็นการเสริมให้ สุขภาพ ร่างกาย แข็งแรง มากยิ่งขึ้น

 

  1. ร่างกาย แข็งแรง

การ ชกมวย เป็น กีฬา ที่มุ้งเน้นการเคลื่อนไหว หลายส่วนของ ร่างกาย เป็นการผสมผสานระหว่างการฝึก คาร์ดิโอ และการฝึกความ แข็งแรง เนื่องจากมีการ ฏระโดด การ ชก การป้องกัน และท่าต่าง ๆ ที่เป็นการถูกส่งออกไป และรวมถึงรับเข้ามา จะทำให้ กล้ามเนื้อ ทั้ง ร่างกาย ได้รับน้ำหนัก และการปล่อยน้ำหนักออกไป ที่ถือว่าเป็นการ ออกกำลังกาย ที่สมบูรณ์แบบ เพราะมีการ เผาผลาญ พลังงาน ไขมัน ส่วนมาก และได้รับความ แข็งแรง กลับมา

 

  1. การ ป้องกันตัว

เป็นการเรียนรู้วิธีการ ป้องกันตัว เองเป็นทักษะที่สำคัญ และจำเป็นไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิง หรือ เด็กผู้ชาย ก็ตาม โดยเพาะอย่างยิ่ง เด็ก ที่อยู่ในช่วงวัยของการเจริญเติบโต ซึ่งการเรียน มวยไทย ( Muay Thai )  นั้นจะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี หรือถูกกระทำบางสิ่งบางอย่าง ที่เจ้าตัวไม่ได้รับความยินยอม  และนอกจากนี้ยังสอนให้พวก เด็ก ๆ รู้ถึงวิธีการ ป้องกันตัว 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

การไหว้ครู ร่ายรำ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai )

ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) กับการ ออกอาวุธ

 

มวยไทย

การไหว้ครู ร่ายรำ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai )

การขึ้นชก มวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยโบราณ ก่อนการ ชกมวย จะต้องมี การไหว้ครู ร่ายรำ มวยไทย ( Muay Thai ) เสียก่อน ซึ่งเป็น ประเพณี ที่ปฎิบัติ สืบต่อ กันมา จนถึง ในปัจจุบัน ซึ่งการ ไหว้ครู เป็นการ ถวายบังคม ต่อพระมหากษัตริย์

เพราะสมัย โบราณ การชกมวย จะจัดขึ้น หน้าพระที่นั่ง เป็นประจำ ทั้งการ ไหว้ครู เป็นการ ระลึกถึง คุณบิดา มารดา และ ครูบาอาจารย์ ที่ประสิทธิ ประสาท วิชา ความรู้ มวยไทย ( Muay Thai ) ให้ เพื่อเป็น ศิริมงคล แก่ตัวเองและ ทำให้มี จิตใจ ที่มั่นคง ไม่หวั่นไหว ควบคุมสติ ได้อย่างดี การร่ายรำ เป็นการแสดง ถึงเอกลักษณ์ ของครูมวย ในแต่ละ สำนักด้วย

 

นอกเหนือจากนั้น การไหว้ครู ร่ายรำ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นการ อบอุ่น ร่างกาย ให้คลาย ความเครียด ทั้งร่างกาย และ จิตใจ ให้พร้อม ต่อสู้ ได้ทันที อีกทั้ง ยังเป็นการ ดูเชิง คู่ต่อสู้ พร้อมกับ สำรวจ พื้นบริเวณ ที่จะทำการ ชกมวย เพราะว่า สมัยโบราณ การชกมวย จะชกกัน บนลานดิน ภายใน บริเวณวัด นั่นเอง

 

สำหรับ เครื่องดนตรี ปี่กลอง จะเป็น องค์ประกอบ ที่สำคัญ ในการ ไหว้ครู ร่ายรำ มวยไทย ( Muay Thai )  และการชก มวยไทย ( Muay Thai ) วงดนตรี ปี่กลอง ที่มีจังหวะ ท่วงทำนอง แบบช้า และ แบบเร็ว ตามช่วง ของการ แข่งขัน เมื่อนักมวย ไหว้ครู ร่ายรำ มวยไทย ( Muay Thai ) ท่วงทำนอง ก็จะช้า ช่วยให้ลีลา ในการ ร่ายรำ ดูอ่อนช้อย งดงาม เป็นจังหวะ น่าชม แต่เมื่อ เริ่มการ แข่งขัน เสียงดนตรี ก็จะเริ่ม มีจังหวะ ที่เร็วขึ้น บ่งบอก ให้ผู้ได้ยิน รู้ว่าขณะนี้ นักมวย กำลัง ใช้ชั้นเชิง ในต่อสู้กันอยู่

เมื่อผ่านมา ถึงยก สุดท้าย ในการ แข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) จังหวะ ของดนตรี ก็จะยิ่ง เร่งเร้า มากขึ้น เร้าใจ เพื่อให้ นักมวย ที่กำลัง ต่อสู้กัน เร่งพิชิต คู่ต่อสู้ และ ยังเป็นการ เร้าใจ ให้ผู้ชม รอบสนาม ตื่นเต้น กับการต่อสู้ ของนักมวย ทั้งสองฝ่าย พร้อมกับ ผลการ แข่งขัน ที่จะเกิดขึ้น ในอีกไม่ช้า จังหวะ ดนตรี มวยไทย ( Muay Thai )  จึงเป็น ส่วนสร้าง ความรู้สึก ของนักมวย และ ผู้ชม ให้รู้สึก สนุกสนาน ตื่นเต้น กับการแข่งขัน ได้อย่าง มหัศจรรย์

 

การไหว้ครู ร่ายรำ ในการ แข่งขัน ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) จัดเป็นพิธี อย่างหนึ่ง ที่สำคัญต่อ ศิลปะ การต่อสู้ อย่าง มวยไทย ( Muay Thai )

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) กับการ ออกอาวุธ

การออก อาวุธศอก ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย

ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) กับการ ออกอาวุธ

ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะ การต่อสู้ ป้องกันตัว ของชนชาติไทย มาตั้งแต่ โบราณ โดยมี การใช้ อวัยวะ ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นอาวุธ เช่น หมัด เท้า เข่า ศอก และ ศีรษะ ซึ่งกฎกติกา การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ห้ามใช้ ศีรษะ

ซึ่งแม่ไม้ และ ลูกไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) ท่าต่าง ๆ หลายท่า ที่ถูกห้ามใช้ ในการ แข่งขันชก มวยไทย ( Muay Thai ) ซึ่งการ แข่งขันชก มวยไทย ( Muay Thai ) การใช้หมัด แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้

 

1) การออก อาวุธ หมัดตรง ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

เป็นการ ชกหมัด ออกไป ตรงหน้า สู่เป้าหมาย หรือ คู่ต่อสู้ โดยให้ มีแรงส่ง จากไหล่ ลำตัว เมื่อสันหมัด ถูกเป้าหมาย ให้เน้นที่ สันหมัด กับเป้าหมาย หมัดตรง จะมีอยู่ 2 หมัด คือ

- หมัดตรงหน้า หรือ หมัดนำ ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ชกหมัด ที่อยู่ด้านหน้า ไปสู่ เป้าหมาย โดยมี แรงส่ง จากไหล่ ลำตัว และ เท้าทั้งสอง ยืนบนพื้น

- หมัดตรงหลัง หรือ หมัดตาม ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ชกหมัด ที่อยู่ด้านหลัง ไปสู่ เป้าหมาย โดยมี แรงส่ง จากไหล่ ลำตัว

2) การออก อาวุธ หมัดเหวี่ยง ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

- หมัดเหวี่ยงหน้า ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ชกหมัดหน้า โดยการ งอแขน ให้หมัดออก ในลักษณะโค้ง ข้อศอกงอ มือกำหลวม ไม่เกร็ง และ คว่ำฝ่ามือ ลงสู่พื้น เมื่อสันหมัด ถูกเป้าหมาย ให้เกร็ง สันหมัด

- หมัดเหวี่ยงหลัง ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ชกหมัดหลัง โดยการ งอแขน ให้หมัดออก ในลักษณะโค้ง มือกำหลวม และ คว่ำฝ่ามือ ลงสู่พื้น เมื่อสันหมัด ถูกเป้าหมาย ให้เกร็ง สันหมัด

 

3) การออก อาวุธ หมัดเสยหลัง ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

เป็นการ ชกหมัดหลัง ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) โดยการ หงายฝ่ามือขึ้น ให้ถูกกับ เป้าหมาย แขนงอ ข้อศอก ลักษณะโค้ง เป็นรูปตัววี มือกำหลวม ไม่เกร็ง เมื่อสันหมัด ถูกเป้าหมาย ให้เกร็ง สันหมัด

 

การใช้หมัด ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะ การต่อสู้ ป้องกันตัว อย่างหนึ่ง ที่ควรเรียนรู้ไว้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การออก อาวุธศอก ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

ทำไมต้องฝึกมวยไทย

มวยไทย

การออก อาวุธศอก ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

ศอก เป็นอาวุธ ชนิดสั้น ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ได้ดี ในระยะ ประชิด ซึ่งเป้าหมาย ของการ ตีศอก ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) อยู่ที่บริเวณ ศีรษะ หน้าผาก คิ้ว  ตา แก้ม ขมับ และ ปลายคาง การใช้ศอก สามารถ แบ่งออกเป็น  6 ชนิด

1) ศอกตี มวยไทย ( Muay Thai )

หมายถึง ศอกที่มี วิถีทาง การตี จากบน ลงล่าง อาจเป็น มุมฉาก หรือมุมเฉียง น้อยกว่า มุมฉาก ก็เป็นได้ ศอกตี สามารถ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ศอกตี ด้วยศอกหน้า หรือ ศอกนำ และศอกตี ด้วยศอกหลัง หรือศอกตาม บางท้องที่ จะเรียกว่า ศอกสับ หรือศอกฟัน เพราะมี วิธีทาง มาจาก ด้านบน ลงสู่ ด้านล่าง

 

2) ศอกตัด มวยไทย ( Muay Thai )

หมายถึง ศอกที่มีวิถีทาง การใช้ ตัดผ่าน หน้าขนาน กับพื้น จากทางซ้าย ไปทางขวา หรือ จากทางขวา ไปทางซ้าย การใช้ ศอกตัด จะมี 2 ลักษณะ คือ การใช้ ศอกตัด ที่อยู่ทาง ด้านหน้า และการใช้ ศอกตัด ที่อยู่ทาง ด้านหลัง เป้าหมาย จะเป็นที่ปลายคาง แก้ม ปาก จมูก ตา คิ้ว หน้าผาก และขมับ

 

3) ศอกงัด หรือ ศอกเสย มวยไทย ( Muay Thai )

หมายถึง ศอกที่ตี จากล่าง ขึ้นไป ข้างบน แบบตรงๆ เป็นมุมฉาก เป้าหมาย จะเป็นที่ปลายคาง หน้าอก ลิ้นปี่ และใบหน้า

 

4) ศอกพุ่ง มวยไทย ( Muay Thai )

หมายถึง ศอกที่ ตั้งตรงไว้ ตามแนว ของทิศทาง ที่คู่ต่อสู้ ยืนอยู่ หรือ ทิศทาง ที่สวนทาง กับคู่ต่อสู้ ที่จะรุก เข้ามา พับศอก ให้ส่วนแหลม ไปข้างหน้า แล้วเคลื่อนเท้า เข้าหาทาง คู่ต่อสู้ ด้วยการ แทงศอก โดยการเกร็ง ข้อศอก ให้แนบแน่น กับคาง ไหล่ ศีรษะ เพื่อเพิ่ม ความแข็งแรง ของแรง ปะทะ ให้มากขึ้น เป้าหมาย จะเป็นที่ศีรษะ หน้าผาก คิ้ว ตา จมูก ปาก และคาง

 

5) ศอกกระทุ้ง มวยไทย ( Muay Thai )

หมายถึง การตีศอก ที่เกิดจากการ ผิดพลาด พร้อมกับ กระชากศอก กลับคืนมา ยังเป้าหมายเดิม ในลักษณะ กระทุ้งกลับ เฉียงไปทาง ข้างลำตัว เป้าหมาย จะเป็นที่หน้าท้อง หน้าอก ลิ้นปี่ คาง ปาก จมูก และใบหน้า

 

6) ศอกกลับ มวยไทย ( Muay Thai )

หมายถึง ศอกที่ตี โดยการ หมุนตัวตี แทนการผ่าน หน้าตัวเอง เหมือนศอกตี และศอกตัด เปลี่ยนเป็นตี ออกไปด้านหลัง เป้าหมายที่คาง และใบหน้า

ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) อาวุธศอก ก็ถือว่าสำคัญ อย่างมากที่ควรต้องรู้ และหัดฝึกไว้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ทำไมต้องฝึกมวยไทย

อาหารเพิ่มความฟิตก่อนซ้อม มวยไทย

ทำไมต้องฝึกมวยไทย

ทำไมต้องฝึกมวยไทย

มวยไทย ถือว่าเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ หรือ ว่าชาวไทยเองก็ตาม ซึ่งกีฬา มวยไทย นั้นถือว่าเป็นกีฬาที่ มีข้อดีหลายอย่าง และ จำเป็นมาก ๆ ที่เราควรจะฝึก และ เรียนรู้เอาไว้ 

พูดถึง ศิลปะการต่อสู้ และ ศิลปะป้องกันตัว ก็คงจะไม่พ้น กีฬามวยไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นกีฬาประจำชาติและ มีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศไทย และ ยังเป็นกีฬาที่โด่งดัง ไปทั่วโลก และ เป็นกีฬาที่น่าสนใจอีกหนึ่ง กีฬา แต่ อย่างไรก็ตาม ก็อาจจะ มีหลาย ๆ คน ที่ยังคงสงสัยว่า ทำไมเราต้อง ฝึก มวยไทย ด้วย

 

เพราะ บางคนก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จากกีฬา มวยไทย เช่น  การต่อสู้หรือ การป้องกันตัว แต่จริง ๆ แล้วทักษะเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เรา ควรที่จะศึกษาเอาไว้ เพราะว่า รู้ไว้แล้วไม่ได้ใช้ ก็ดีกว่าจะใช้แล้วไม่รู้ นั่นเองครับ นอกจากนี้กีฬา มวยไทย ยังไม่ได้มี ข้อดี แค่นั้น แต่กีฬา มวยไทย ยังเป็นกีฬา ที่มีข้อดี อีกหลายเรื่อง ที่หลายคนอาจจะ ยังไม่ทราบ ซึ่งเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึง ควรเรียน มวยไทย นั้นเป็นเพราะ อะไรครับ ดูกันเลยครับ

 

1.การป้องกันตัว

สำหรับ เหตุผลแรก ที่ควรจะฝึก มวยไทย นั้นก็คือการป้องกันตัว และ เหตุผลนี้ ก็เป็นเหตุผล ที่หลาย ๆ คนเลือกที่จะ เรียน มวยไทย เพราะว่า การมีทักษะการป้องกันตัว ในเบื้องต้นนั้น เป็นข้อดีอย่างมาก และ ช่วยให้เราผ่าน ความอันตรายนั้นไปได้

 

นอกจากนี้ กีฬา มวยไทย ยังใช้ปกป้องผู้อื่นได้อีกด้วย  ด้วยทักษะการเตะ การต่อย การถีบ หรือ แม้แต่กระทั่ง สภาพร่างกาย ที่ได้ฝึกซ้อม มาเป็นอย่างดีครับ ซึ่งคนที่ฝึก มวยไทย มานั้น ก็จะสามารถใช้ร่างกาย และ มีการต่อสู้ ที่ดีกว่าคนที่ไม่ได้ฝึก มวยไทย นะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว เราก็ควรจะเรียน มวยไทย เอาไว้เพื่อปกป้องตัวเอง และ ผู้อื่นถึงแม้ว่า เราจะไม่ได้ไปมีเรื่อง ชกต่อยกับใคร ก็ตาม นะครับ ก็ควรที่จะมีทักษะเหล่านี้ ติดตัวไว้ นะครับ

 

2. ทำให้ร่างกายแข็งแรง

แน่นอนครับ ว่าการออกกำลังกายนั้น ช่วยให้ร่างกายของเรา แข็งแรงอยู่แล้ว แต่กีฬา มวยไทย จะช่วยให้ร่างกายของเรา แข็งแรงมากกว่า การเล่นกีฬา อื่น ๆ เพราะว่ากีฬา มวยไทย จะต้องมีการปะทะ มีการชกมีการเตะ มีการต่อย ทำให้ร่างกายของเรานั้น สามารถ ทนแรงเหล่านี้ ได้ดีกว่าคนทั่วไป นั่นเองครับ และ ยังทำให้เรา ได้ใช้ กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น คอ หัวลำตัว แขน หรือ ว่าขา 

 

3.เสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น

แน่นอนครับว่า การออกกำลังกาย ทำให้เรา สุขภาพดีอยู่แล้ว แต่ว่ากีฬา มวยไทย นั้น จะมีข้อได้เปรียบตรงที่ ช่วยปรับบุคลิกภาพ ของเราให้เรา มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ่น ที่ดีขึ้นน้ำ หนักตัวที่ลดลง และ กล้ามเนื้อ ที่เพิ่มมากขึ้น นั่นเองครับ สิ่งเหล่านี้ จะได้จากการฝึก มวยไทย นะครับ 

 

4. ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี

หลายคน ก็อาจจะรู้ว่าการออกกำลังกายนั้น ช่วยลดความเครียด แต่สำหรับ กีฬา มวยไทย นั้นจะพิเศษกว่าตรงที่ ลดความเครียดได้ดี กว่า

 

นอกจากสารเอ็นโดรฟิน ที่หลั่งออกมา ทำให้เรารู้สึกดีแล้ว การฝึก มวยไทย ยังมีความสนุก ยังมีความท้าทายให้เรา ได้ฝึกอีกเยอะ จึงทำให้ความเครียด ที่อยู่ในสมองของเรา หายไปนั่นเองครับ อีกทั้งการ เตะการต่อยกระสอบทราย ยังเป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยระบาย ความเครียด ของผู้ฝึกซ้อมได้เป็นอย่างดี นั้นเองครับผม

 

5. ฝึกวินัย

เนื่องจาก กีฬา มวยไทย นั้นเป็น กีฬาที่ต้องข้ามขีดจำกัด และ ปลดปล่อยศักยภาพ ของตัวเอง ออกมาจึงทำให้ ผู้ที่ฝึกซ้อม มวยไทย นั้นอยากที่จะ ปลดปล่อยศักยภาพ ที่ตัวเองมีอยู่ และ อยากจะซ้อม อยากจะเอาออกมาให้ได้ จึงทำให้เกิดเป็นวินัย จากการซ้อม เป็นประจำ จากการซ้อมทุกวัน นั่นเองครับ กีฬา มวยไทยนั้นยังช่วย พัฒนาในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย บุคลิกภาพ ภายนอก ความคิด หรือ ว่าการควบคุมอารมณ์ จึงทำให้ การฝึก มวยไทย นั้นมีความท้าทาย และ มีความสนุกมากขึ้น นั่นเองครับ


สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากจะเรียน มวยไทย หรือ มีความสนใจ เกี่ยวกับ มวยไทย ก็สามารถ ติดต่อมาได้ที่ http://jaroenthongmuaythaikhaosan.com ที่เปิดสอน คลาสเรียน มวยไทย แบบครบวงจร ทำให้เพื่อน ๆ นั้นได้เรียนรู้ การใช้หมัด เท้า เข่า ศอก ได้เป็นอย่างดี จากครูมวย ผู้เชี่ยวชาญ นะครับ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เทคนิคการทรงตัว เมื่อขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย ( Muay thai )

อาหารเพิ่มความฟิตก่อนซ้อม มวยไทย

อาหารเพิ่มความฟิตก่อนซ้อม มวยไทย

อาหารเพิ่มความฟิตก่อนซ้อม มวยไทย

ความหิว เป็นเรื่องที่ สามารถ เกิดขึ้น ได้กับทุกคน โดยเฉพาะ ความวิว ที่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นเรื่องที่หลาย ๆ ต้องเจอแน่ ๆ และ ความหิวนี้ ก็ถือว่า เป็นอุปสรรค ต่อการซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )

 

ความหิว ถือว่าเป็น อุปสรรค อย่างหนึ่งของการซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะทุกครั้งที่เกิด อาหารหิว ห่อนการซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) หลาย ๆ คน ก็มักจะเกิดคำถามมี่ว่า ควรทานอาหาร หรือ ควรที่จะซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ดีเพราะว่า หากทานอาหาร ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ก็กลัวว่าจะทำให้ ตัวเองนั้น จุก หรือแน่นท้อง ทำให้ไม่สามารถ ออกกำลังกายได้ ดังนั้น วันนี้ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร จะมาแนะนำเมนูอาหาร ก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) จะมีเมนูอะไรบ่างนั้น เราไปดูกันเลยครับ

 

ควรทานอาหารก่อนซ้อมเวลาไหน

เวลาที่ควรทานอาหารนั้น ไม่สามารถ บอกเป็นเวลา ที่เป๊ะ ๆ ได้ เนื่องจาก คนเรามีพฤติกรรม การใช้ชีวิต ที่ต่างกันออกไป และ ต้องขึ้นอยู่กับ ประเภท ของอาหาร ที่แต่ละคนที่ ทานเข้าไปด้วย นะครับ ถ้าหากอาหาร ที่ทานเข้าไป เป็นอาหารมื้อใหญ่ ประมาณ 500 แคล ร่างกาย ก็จะใช้เวลา ในการย่อย ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น หากทานอาหาร มือ้ใหญ่ ก็ควรที่จะ ทานอาหารก่อ ออกกำลังกาย ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าหาก เป็นการทานอาหาร มื้อเล็ก ๆ เช่น กล้วย โยเกิร์ต ขนมปังโฮลวีท ไข่ต้ม อะไรพวกนี้ ร่างกายจะใช้เวลา ในการย่อย ที่ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น การที่จะทาน อาหารมื้อเล็ก หรือ ว่ามื้อใหญ่นั้น ก็ควรดูที่ ช่วงเวลา ในการย่อย หหากมีเวลาเหลือเยอะ ก็สามารถ ทานอาหาร มื้อใหญ่ได้ แต่ถ้าเวลามีน้อย  ก็ทานอาหาร มื้อเล็กแทน  นะครับ เพื่อให้ร่างกาย สามารถย่อยอาหารได้ทัน

 

อาหารเพิ่มความฟิตก่อนซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )

1. กล้วยหอม

กล้วยหอม เป็นอาหารยอดฮิต สำหรับสายฟิต สายออกกำลังกาย เนื่องจาก กล้วยหอม เป็นผลไม้ที่มี คาร์โบไฮเดรต และ น้ำตาลค่อนข้างสูง เมื่อทานเข้าไป ร่างกายก็สามารถ ย่อยออกมาใช้ สำหรับการซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ กล้วยหอม ยังมี โพแทสเซียม ที่ช่วยลด ความอ่อนล้าให้กับร่างกาย และ กล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี และ ทำให้การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถซ้อมได้นานขึ้น

 

2. ไข่ต้ม

อาหารที่ไม่หลาย ๆ คนนั้น คุ้นเคยกันดี สาเกตุ ที่ต้องทาน ไข่ต้ม เพราะว่า ไข้ต้ม เป็นอาหาร ที่มีโปรตีนสูง และมีส่วนช่วย ในการสร้างกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกาย ของคุณมีกล้ามเนื้อ ที่มากขึ้น ก็ตะส่งดีต่อ ระบบเผาผลาญ ในร่างกาย อีกทั้ง การที่ร่างกาย มีมวลกล้ามเนื้อ เยอะนั้น จะเป็นการช่วยลด อาการบาดเจ็บ ได้อีกด้วยนะครับ นอกจากนี้ การที่ กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นนั้น ยังทำให้การลดน้ำหนัก ไม่โยโย่ ด้วยนะครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อการลดน้ำหนักนั้น ก็ควรที่จะ เน้นไปที่ การเพิ่มกล้ามเนื้อ เพื่อให้การลดน้ำหนัก เป็นไปได้อย่างยั่งยืน

3. เนยถั่ว

เนยถั่ว ก็เป็นอีกหนึ่ง อาหารที่เรา แนะนำให้ทาน เนื่องจาก เนยถั่ว เป็นอาหารที่มี โปรตีนสูง เหมาะกับการออกกำลังกาย เป็นอย่างดี หากทานคู่กับ ขนมปัง จะทำให้ สามารถซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )  ได้นานขึ้น เพราะว่ามีทั้ง คาร์โบไฮเดรต และ โปรตีน   

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

รวม ยิม มวย เอาใจสาย ฟิต Muay thai

เทคนิคการทรงตัว เมื่อขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย ( Muay thai )

เทคนิคการทรงตัว เมื่อขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย ( Muay thai )

เทคนิคการทรงตัว เมื่อขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย ( Muay thai )

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำเพื่อน ๆ เกี่ยวกับ เทคนิคการทรงตัว หรือ การสร้างสมดุลร่างกายเมื่อขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย ( Muay thai ) มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันในบทความนี้ค่ะ หากเพื่อน ๆ พร้อมแล้วตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ

 

มวยไทย ( Muay thai ) ต้องใช้ทั้ง ความเร็ว ความอดทน ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ เพราะกีฬา มวยไทย ( Muay thai ) คือ การที่เราต้องออกไปต่อสู้ กับคู่ต่อสู้ ซึ่งสามารถทำให้เรา ได้รับบาดเจ็บ ได้นั้นเอง แต่ถ้าเรายิ่งฝึกซ้อมร่างกาย มาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าร่างกายของเรา จะมีความทนทาน แข็งแรง และ ยังไปช่วย สร้างสมดุลร่างกาย ได้ดี และ มีประสิทธ์ภาพอย่างมาก เราไปดูดีกว่า กีฬา มวยไทย ( Muay thai ) นั้น จะสามารถสร้างสมดุล ให้กับร่างกาย ของเราได้อย่างไร

 

สร้างสมดุลให้ ร่างกาย ด้วย มวยไทย ( Muay thai )

การฝึก หรือ การซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) นั้น เป็นที่รู้กันดีว่า มวยไทย ( Muay thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องใช้ ความอดทนของร่างกาย แทบจะทุกส่วนเลย ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว สมาธิ ความว่องไว และ ปัญญา การที่เราฝึก หรือ ซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) ทุกวันนั้น ไม่ใช้แค่จะทำให้ร่างกายของเรา แข็งแรง ยังไปทำให้ร่างกายของเรา มีความสมดุลอีกด้วย อีกทั้ง มวยไทย ( Muay thai ) ยังไปช่วยสร้าง กล้ามเนื้อ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี รับลองได้เลย ใครที่กำลังฝึก มวยไทย ( Muay thai ) อยู่นั้นคุณจะได้ ทั้งความว่องไว สมาธิ ไหวพริบ เพิ่มมากขึ้นแน่นอน

 

 

มวยไทย ( Muay thai ) ช่วยลดความเครียด

ในแต่ละวันนั้น แน่นอนว่าเราต้องพบ ต้องเจอกับ อะไรหลาย ๆ อย่างที่เข้ามาหาเรา ในแต่ละวัน ความเครียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเครียด จากการทำงาน ความเครียด จากเรื่องเรียน เรื่องแฟน เรื่องเพื่อน หรือ เรื่องครอบครัว เรามักจะมีความเครียดสะสม อยู่ในตัวกันทั้งนั้น ถ้าเราอยากระบายความเครียด แถมยังได้ประโยชน์ ให้แก่ร่างกายของเรา เราขอแนะนำลองไปซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) ดูสิ เผื่อช่วยให้คุณ หายเครียดได้นะ

 

เพราะการฝึก หรือ การซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) นั้นเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ได้ทั้ง ความสนุก ได้ใส่อารมณ์ได้เต็มที่ ยิ่งเราได้ ปล่อยหมัด หรือ ปล่อยลูกเตะ ใส่กระสอบทราย แล้วละก็อาจทำให้ เราได้ระบายอารม ได้อย่างเต็มที่ เพราะถ้ายิ่งเรา ออกกำลังกาย มากเท่าไหร่ ร่างกายของเราก็ จะหลั่ง ฮอร์โมนเอนโดรฟีน ( Endorphin ) ที่ทำให้เรามีความสุข ได้นั้นเอง ดังนั้นการชก มวยไทย ( Muay thai ) จะทำให้ ร่างกาย หลั่ง ฮอร์โมนเอนโดรฟีน ( Endorphin ) นี้ออกมา ได้อย่างเต็มทีอีกด้วย

 

 

มวยไทย ( Muay thai ) ช่วยลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี

สำหรับการ ออกกำลังกาย ในการซ้อม หรือ การฝึก มวยไทย ( Muay thai ) นั้น จะสามารถช่วยให้เรา เผาผลาญแคลอรี่ ในร่างกายของเรา ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่กำลังมองหาวิธี ลดความอ้วนอยู่ เราขอแนะนำลองมาฝึก มาซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) ดูสิ เราจะได้ทั้ง หุ่นที่ดี กล้ามเนื้อที่แข็งแรง และ รับลองได้เลย ว่า จะช่วยคุณลดความอ้วน ได้เป็นอย่างดี แน่นอน

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ เทคนิคการทรงตัว ที่เราได้นำมาเสนอกัน  หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ที่ 3 สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ปฐมพยาบาล เบื้องต้น เมื่อบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

 

รวม ยิม มวย เอาใจสาย ฟิต Muay thai

รวม ยิม มวย เอาใจสาย ฟิต Muay thai

ออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลย เพราะการ ออกกำลังกาย ช่วยให้เรามี ร่างกาย ที่แข็งแรง มวย ก็เป็น กีฬา อย่างหนึ่งที่คนชอบเล่นกัน วันนี้เราจะมา แนะนำ ยิม ฟิตเนส fitness เอาใจสาย ฟิต ว่ามีที่ไหนดังบ้างใน กรุงเทพฯ

 

BIGBOX FIGHT AND FITNESS

BIGBOX FIGHT AND FITNESS ตั้งอยู่แถว ย่านพระราม 4 เป็น ยิม ที่มีความหลากหลายมาก โดยมีกิจกรรมให้เลือกทำถึง 3 แบบ 3 สไตล์ อยาก ฟิต แบบไหนก็เลือกได้ ทั้ง มวย โยคะ ฟิตเนส ( FITNESS ) หรือแม้แต่ แบดมินตัน ก็มีให้บริการ BIGBOX FIGHT AND FITNESS เปิดให้บริการ : จันทร์ - ศุกร์  เวลา 08.00 - 23.59 น. และเปิดทำการวัน เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 22.00 น.โดยที่นี้มีราคาต่อคอร์ส 12 ครั้ง เริ่มต้นเพียง 3,600 บาท

 

พยัคฆินทร์ มวยไทยยิม

พยัคฆินทร์ มวยไทยยิม เปิดรับสอน มวยไทย เพื่อออกกำลังกาย มวยไทย Muay thai ลดน้ำหนักสำหรับทุกเพศทุกวัย เราเป็น ยิม ที่มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง บรรยากาศดี ปลอดโปร่ง มีให้เลือกเรียนกันถึง 2 สาขา คือ สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ และ อุดมสุข สะดวกแถวไหนก็ไปอุดหนุนได้เลย ฟิต ร่างกายด้วย มวย Muay และยังมีคลาสเต้นซุมบ้า และคอร์สปีนหน้าผาจำลอง โดยมีเฉพาะสาขาเดอะมอลล์ บางกะปิเท่านั้นมา ผอม กันได้นะ พยัคฆินทร์ มวยไทย ยิม เปิดให้บริการ : ทุกวัน เวลา 12.00 - 22.00 น. โดยที่นี้มีราคาต่อคอร์ส 15 ครั้ง เริ่มต้นเพียง 5,500 บาท

 

Muay Thai FA group

Muay Thai FA group ยิม สำหรับออกกำลังกาย ที่มี ชาวต่างชาติ มาเรียนเยอะมาก ชาวต่างชาติจะชอบศิลปะป้องกันตัว พวก มวยไทย เป็นพิเศษ การเดินทางสะดวก เพราะที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับบีทีเอสหมอชิต มีโซนเวที มวย และโซน ฟิตเนส fitness  กว้างใหญ่ บรรยากาศดี สะอาด แถมยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ให้นั่งพัก เวลาเหนื่อยด้วย อยู่ทั้งวันไม่มีเบื่อ  Muay Thai FA group เปิดให้บริการ : จันทร์ - ศุกร์  เวลา 07.00 - 21.00 น. และเปิดทำการวัน เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น.โดยที่นี้มีราคา เริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อครั้ง

 

Fitfac

Fitfac ยิม มวยไทย Muay Thai แนวใหม่ มีสาขามากถึง 11 สาขาให้เลือก มีการสอนตั้งแต่เริ่มต้น - ระดับมืออาชีพ เรามีครู มวย จริง ๆ ไม่ใช่ เทรนเนอร์ ตาม ฟิตเนส fitness เป็นถึงระดับแชมป์มวยเลย มีครูมวยเยอะ และยังมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬาคอยให้คำปรึกษาทั้งด้านโภชนาการ และด้านออกกำลังกายอีกด้วย  Fitfac  เปิดให้บริการ : ทุกวัน 13.00 - 21.30 น. โดยที่นี้มีราคา เริ่มต้นเพียง 1,000 บาทต่อครั้ง

 

Boxer Lab

Boxer Lab เป็น ยิม มวยไทย Muay thai ที่เหมาะกับคนยุคใหม่ เราเป็น ยิม ที่มีการผสมผสานการใช้ศิลปะป้องกันตัวของไทย ( มวยไทย ) มีครูมวยชั้นนำมากประสบกาณ์ แชมป์เวทีมวยราชดำเนิน อีกทั้งยังมีคาเฟ่ และที่ออกกำลังกายอยู่ในที่เดียวกัน  Boxer Lab ตั้งอยู่ที่ย่านงามวงศ์วาน เปิดให้บริการ : จันทร์ - ศุกร์  13.00 - 21.30 น. และให้บริการวัน เสาร์ - อาทิตย์ : 08.30 - 18.30 น. มีราคาร์ส 10 ครั้ง เริ่มต้นที่ 4,900 บาท

 

 

เจริญทอง มวยไทยยิม

ยิมมวย ที่มีสาขากว่า 3 สาขา ให้ผู้ที่สนใจมา ออกกำลังกาย กัน ตั้งอยู่ที่ เจริญทองมวยไทย ศรีนครินทร์ , เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร , เจริญทองมวยไทย ศรีนครินทร์ รัชดา ยิมเรากว้างขวาง มีให้เล่นทั้งแบบ ฟิตเนส fitness และแบบ มวยไทย ให้ผู้ที่ชอบการ ออกกำลังกาย ได้เลือก หลากหลาย เปิดให้บริการ : ทุกวัน 10.00 – 12.00 และ 14.00 - 21.00 น. มีรายเดือน 3500 บาท (ไม่จำกัดครั้ง) หรือแบบ 15ครั้ง 5000 บาท (แชร์กับเพื่อนได้) สนใจสอบถามเพิ่มเติม Tel : 026292313

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข้อดี การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อ ร่างกายคุณ

ประโยชน์ที่ดี ของการต่อสู้ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย

ประโยชน์ที่ดี ของการต่อสู้ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai )

การต่อสู้ ศิลปะ มวยไทย  ( Muay Thai ) เป็นการต่อสู้ ที่ใช้หลัก พื้นฐาน และ ทักษะ ของระดับต่าง ๆ อย่างเช่น  ท่าร่าง เชิงมวย ไม้มวย และ เพลงมวย อย่างผสมผสาน จนทำให้ เกิดประสิทธิภาพ ที่สูงสุด ทั้งการรุก และ การรับ ในการใช้ อาวุธต่าง ๆ

ประโยชน์ที่ดี ของการต่อสู้ ศิลปะ มวยไทย  ( Muay Thai )

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนาการ ทางร่างกาย ช่วยทำให้ ร่างกาย แข็งแรง มีสมรรถภาพ ในการ ปฎิบัติงาน ได้อย่างดี มีรูปร่างดี มีบุคลิกภาพ ที่เหมาะสม

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนาการ ทางอารมณ์ การออกกำลังกาย การฝึกซ้อม การแสดงศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) และ การแข่งขัน จะพบทั้ง ความผิดหวัง และ ความสมหวัง รวมถึง ความเจ็บปวด ทางร่างกาย ดังนั้น นักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จึงต้องมี ความอดทน อดกลั้น อย่างสูงมาก จึงจะ สามารถ เป็นนักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีได้ นักกีฬา ที่มีประสบการณ์ กับ การพ่ายแพ้ และ การชนะ จากการ แข่งขันบ่อย ๆ นั้น จะมีอารมณ์ ที่มั่นคงสูง และ มีความเชื่อมั่น ในตนเอง

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยพัฒนาการ ทางสังคม เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปวัฒนธรรม ด้านหนึ่ง ผู้ฝึกหัด มวยไทย ( Muay Thai ) และ นักกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เหมือนเป็น ผู้รักษา ทำนุบำรุง และ ดำรงไว้ ซึ่งความเป็น เอกลักษณ์ ของชาติ อีกทั้ง เป็นเครื่อง ยึดเหนี่ยว โน้มน้าว ให้คนไทย รักหวงแหน และ สามัคคี ในหมู่คณะ เป็นส่วนหนึ่ง ที่ส่งเสริม ให้ประเทศชาติ มีความมั่นคง สืบต่อไป

 

นอกเหนือจากนี้ ยังเป็น ประโยชน์ ต่อเยาวชน ที่ใช้เวลาว่าง ในการ ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะนอกจาก จะได้รู้จัก การออกกำลังกาย และ เรียนรู้ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) ไปพร้อม ๆ กันแล้ว ยังช่วย สร้างความอบอุ่น ความมีน้ำใจ เป็นนักกีฬา รู้จักใช้ เวลาว่าง ให้เป็นประโยชน์ มวยไทย ( Muay Thai ) จึงเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะช่วย ขัดเกลา เป็นทางที่ จะช่วยพัฒนา สังคม ให้เจริญก้าวหน้า ต่อไปได้

 

อีกทั้ง มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วย พัฒนาการ ทางด้าน จิตใจ เนื่องด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปวัฒนธรรม ดังนั้น จึงมีการ ขึ้นไหว้ครู ครอบครู เพื่อเป็นการ เคารพ นับถือ วิชา มวยไทย ( Muay Thai )

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข้อดี การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อ ร่างกายคุณ

เตรียมอุปกรณ์ ให้พร้อม เพื่อฝึก มวยไทย

มวยไทย

ข้อดี การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีต่อ ร่างกายคุณ

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ได้ เป็นเพียง แค่การ เสริมทักษะ การต่อสู้ หรือ ป้องกันตัว เท่านั้น แต่ยังสามารถ ช่วยลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง การต่อยมวย ยังมี ข้อดี หรือ ประโยชน์ ที่ส่งผล โดยตรง ต่อร่างกาย ของคุณ มากมาย อีกด้วย

ข้อดี การฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเผาผลาญ พลังงานได้ อย่างรวดเร็ว

การต่อยมวย เป็นทั้ง การออกกำลังกาย แบบผสมผสาน การเผาผลาญ พลังงาน การใช้ ออกซิเจน และ ไม่ใช้ ออกซิเจน เข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วย ทำให้สร้าง ความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลัง ที่มากขึ้น และ กระตุ้น ระบบเผาผลาญ ในร่างกาย เมื่อนำมา เทียบกับ การวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน จะเผาผลาญ พลังงาน ได้มากกว่า แต่ใช้เวลา น้อยลง

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเพิ่มสมาธิ และ ลดความเครียด

ช่วงที่ การต่อยมวย มีความเข้มข้นสูง จะเป็นช่วง ที่คุณ ออกอาวุธ ได้ปล่อยหมัด หรือ ได้เตะ ซึ่งเหมือนกับ ได้ปลดปล่อยพลัง ระบายอารมณ์ ไปในตัว ส่วนช่วงที่มี ความเข้มข้นต่ำ คือ ช่วงฟุตเวิร์ค จด ๆ จ้อง ๆ เพื่อเตรียมพร้อม ที่จะออกอาวุธ เป็นช่วงที่ ต้องใช้สมาธิ เป็นอย่างมาก ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น ช่วงเวลาไหน ของการต่อยมวย ก็จะเป็น ช่วงเวลา ที่ได้ใช้ สมาธิสูง ทำให้ ไม่คิดถึง เรื่องอื่น ๆ ให้ฟุ้งซ่าน

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยปรับสมดุล ร่างกาย ได้อย่างดี

การต่อยมวย เป็นประจำ จะช่วย ปรับสมดุล ร่างกาย ได้อย่างดี ส่งผลให้ ไม่มีโรคร้ายใด ๆ มาเยือน แถมยังช่วย สร้างกล้ามเนื้อ ในแต่ละส่วน ทั้งแขน ขา หรือ ช่วงท้อง อีกทั้ง การต่อยมวย จะลดน้ำหนัก ให้มีหุ่นดี ๆ หน้าท้อง แบนราบ เพิ่มกล้ามเนื้อ และ สามารถ ลดได้ ทุกสัดส่วน

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้ ร่างกาย มีปฎิกิริยา ตอบโต้เร็ว

การต่อยมวย เป็นการฝึก ให้ร่างกาย มีความสัมพันธ์ ระหว่างตา สมอง และ กล้ามเนื้อ ในส่วนที่ เกี่ยวข้อง กับการเคลื่อนไหว ได้อย่าง ยอดเยี่ยม ซึ่งส่งผลดี ในการใช้ชีวิต ประจำวันด้วย เพราะคนที่ มีความไว หรือ มีปฏิกิริยา โต้ตอบที่ดี ย่อมเป็นคน ที่มีความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง เพราะการต่อยมวย จำเป็น จะต้อง เสริมสร้าง กล้ามเนื้อ ให้แข็งแรง ทุกส่วน ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา กล้ามท้อง อีกทั้ง ในระหว่าง ฝึกมวย จะต้อง มีสมาธิ ตาต้องไว ต้องมีการ ออกอาวุธ ที่รวดเร็ว เคลื่อนที่ว่องไว สามารถ หลบหลีก การโจมตี คู่ต่อสู้ได้ดี

 

ข้อดี การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ส่งผลที่ดี ต่อร่างกายของเรา ทั้งนั้นเลยนะคะ แบบนี้ ต้องหาเวลาไปเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) บ้างดีกว่า

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เตรียมอุปกรณ์ ให้พร้อม เพื่อฝึก มวยไทย

ปฐมพยาบาล เบื้องต้น เมื่อบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

มวยไทย

เตรียมอุปกรณ์ ให้พร้อม เพื่อฝึก มวยไทย

ก่อนที่เรา จะเริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจาก จะเตรียมใจ และ ร่างกาย ให้พร้อมแล้ว เรายัง ต้อง เตรียม อุปกรณ์ หรือ ของที่ควร ต้องมี เพื่อใช้ ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อเป็น การเตรียม ความพร้อม และ ป้องกัน ปัญหา ระหว่าง การฝึกได้

 

เพราะถ้าหาก ได้รับ การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แล้วอุปกรณ์ หรือ ของไม่ครบ อาจจะ ทำให้ หมดสนุก อีกทั้ง ยังอาจเสี่ยง ต่อการ บาดเจ็บ ได้อีกด้วย

อุปกรณ์ หรือ ของที่ควร ต้องมี ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

1. เสื้อผ้าที่ สวมใส่ ต้องเหมาะสม

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ควรสวมใส่ เสื้อผ้าที่พอดีกับตัว และ ไม่รัดแน่น เพื่อเพิ่ม ความคล่องตัว เช่น กางเกงมวย ที่ออกแบบ ให้มีขากว้าง สำหรับ ในการเตะ หรือ กางเกงวอร์ม รวมถึง เนื้อผ้า จะต้อง สามารถ ระบาย อากาศ ได้ดีด้วย เพราะการ ต่อยมวย เป็นการ ออกกำลังกาย ที่เสียเหงื่อ อย่างมาก ส่วนสาวๆ อาจจะ ใส่เป็น สปอร์ตบรา เพราะจะช่วย ซัพพอร์ต หน้าอก และ สามารถ ระบายเหงื่อ ได้ดีกว่าบราแบบปกติ ทั้งนี้ สิ่งที่ ไม่ควร มองข้าม นั่นคือ การเลือก รองเท้าผ้าใบ ที่มีการ รองรับได้ดี เพื่อเพิ่มความมั่นคง ในการยืน การทรงตัว และป้องกัน การลื่นล้ม หรือ เกิดการบาดเจ็บ ที่เท้าได้

2. อุปกรณ์ที่ใช้ สำหรับ การชก

อุปกรณ์ที่ใช้ สำหรับ การชก ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นสิ่งที่ จะช่วย ป้องกัน การบาดเจ็บ อย่างผ้าพันมือ จะช่วยล็อก ไม่ให้ ข้อต่อมือ ที่ประกอบไปด้วย เนื้อเยื่อ กระดูก และกระดูกอ่อน ชิ้นเล็ก ๆ ขยับเขยื้อน ไปยัง ตำแหน่ง ที่ก่อให้เกิด อาการ บาดเจ็บ ขณะชกมวย ส่วนนวม จะใช้เพื่อ ป้องกัน การบาดเจ็บ ทั้งของ ผู้ชกเอง และคู่ฝึกด้วย และสุดท้าย นั่นคือ แบคชกกระสอบทราย ที่มีหน้าตาคล้ายกับนวม แต่มีขนาด ที่เล็กกว่า ใช้เพื่อป้องกัน ไม่ให้มือเคล็ด หรือ ถลอกได้ โดยค่ายมวย หรือฟิตเนส มักจะมี อุปกรณ์ เหล่านี้ ให้อยู่แล้ว แต่ผู้ฝึก ก็สามารถ เตรียมอุปกรณ์ มาเองได้ เพื่อความรู้สึก ที่คุ้นเคย ความสะดวกสบาย หรือ เพื่อสุขอนามัย นั่นเอง

 

3. อุปกรณ์ ที่จะช่วย ป้องกัน การบาดเจ็บ ทางร่างกาย

ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) การหลีกเลี่ยง การปะทะ ในระหว่างต่อยมวย เป็นสิ่งที่ สามารถ ทำได้ยาก ดังนั้น เพื่อป้องกัน การบาดเจ็บ สำหรับมือใหม่ ที่ยังเคลื่อนไหว ไม่แม่นยำ หรือยังทรงตัวไม่อยู่ อาจใส่เครื่องป้องกัน เช่น แองเกิล หรือ ปลอกรัดข้อเท้า ที่มีหน้าตา คล้ายถุงเท้า ที่เปิดช่วงส้น เพื่อป้องกัน ข้อเท้าเคล็ด เวลาเตะ กระสอบทราย หรือเตะเป้าล่อ หรือจะสวมสนับแข้ง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ของหน้าแข้ง ก็ได้

 

เพียงเท่านี้ การฝึก มวยไทย ( Muay Thai )  ของคุณ ก็เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วล่ะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ปฐมพยาบาล เบื้องต้น เมื่อบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

การดูแลตัวเอง หลังฝึก มวยไทย

มวยไทย

ปฐมพยาบาล เบื้องต้น เมื่อบาดเจ็บ จากการฝึก มวยไทย

สำหรับ การออกกำลังกาย หรือ เล่นกีฬา ทุกชนิด ต้องเสี่ยง เกิดการ บาดเจ็บได้ โดยเฉพาะ การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ต้องใช้ ทุกส่วน ของร่างกาย ยิ่งเพิ่ม ความเสี่ยง ให้เกิด การบาดเจ็บได้ เราจึง ต้องมีวิธี ดูแลตัวเอง เมื่อเกิดเหตุการณ์ แบบนั้นขึ้น

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ต้องใช้ แขน ขา เข่า ศอก ในการออก ท่าทาง หรือ อาวุธต่าง ๆ กับคู่ต่อสู้ จะต้องใช้แรง และ ไหวพริบ เป็นอย่างมาก ในขณะที่ กำลัง แลกหมัด กันนั้น อาจเกิด อุบัติเหตุ หรือ การบาดเจ็บได้ เราจึง ต้องรู้วิธี ปฐมพยาบาล ตัวเอง ในเบื้องต้น เมื่อเกิด การบาดเจ็บ

 

การเตรียม ความพร้อม ของร่างกาย ไม่เพียงพอ ก่อนการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ การเคลื่อนไหว ในท่าทาง ที่ยัง ไม่ถูกต้อง ระหว่าง การฝึก หรือ ออกกำลังกาย อาจทำให้ เกิดการ บาดเจ็บ ที่กล้ามเนื้อ หรือ เส้นเอ็นได้ อย่างเช่น ข้อเท้าเคล็ด หรือ ข้อเท้าพลิกแพลง จากการ ลงน้ำหนัก ไม่ถูกต้อง หรือ จะเจ็บ เส้นเอ็น จากการ ยืดเหยียดขา มากจนเกินไป

 

และ เมื่อรู้สึก เจ็บกระทันหัน ก็ควรหยุดพัก จากการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ ออกกำลังกาย และ ใช้ความเย็น จากเจล ให้ความเย็น ผ้าขนหนูเย็น หรือ น้ำแข็งประคบ ในจุดที่ เกิดการ บาดเจ็บ หรือ มีอาการ บวมแดง รวมถึง ควรยก บริเวณ ที่บวมนั้น ให้สูงขึ้น เช่น การรองหมอน ใต้ขา หรือ เข่า ที่เกิด การบาดเจ็บ เพื่อไม่ให้เลือด มาเลี้ยง บริเวณ ที่เกิดการ อักเสบเยอะ จนเกินไป ซึ่งจะช่วย ลดการบวม และ บรรเทา อาการปวดได้ ทั้งนี้ หากมี อาการ บาดเจ็บ ก็ไม่ควรฝืน ออกกำลังกายต่อ ควรจะหยุดพัก จนกว่า จะหายดี หรือ ควรไป ปรึกษาแพทย์ หากอาการ เหล่านั้น ยังไม่ดีขึ้น

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการ ออกกำลังกาย ที่เกิดการ ปะทะ หรือ การกระแทก อย่างแรง รวมถึง ต้องมี การเคลื่อนไห วอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจก่อ ให้เกิด การบาดเจ็บ ขึ้นกับ ร่างกายได้ เพราะเป็นกีฬา ประเภท ที่มีความเสี่ยง ในการเกิด การบาดเจ็บ อย่างมาก หากไม่ ระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะ มือใหม่ ที่เพิ่งหัดฝึก เพราะยังไม่รู้ ท่าทาง หรือ จังหวะ ที่ถูกต้อง พอสมควร

 

การฝึก  มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็น เรื่องที่ดี ต่อสุขภาพ และ ยังทำให้มีทักษะ ศิลปะ ป้องกันตัว เอาไว้ใช้ ในยามที่มี สถานการณ์ ฉุกเฉิน เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กับตัวเอง หรือ กับผู้อื่น แต่ทั้งนี้ ก็ควร ประเมิน สถานการณ์ ให้ดี ๆ หากฝ่าย ตรงข้าม มีอาวุธ ที่สามารถ ทำอันตราย กับเราได้ ก็ควรคิด อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ ตัวเอง เกิดการ บาดเจ็บ และ ตกอยู่ ในอันตรายได้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การดูแลตัวเอง หลังฝึก มวยไทย

มวยไทยช่วยในการนอนหลับ ได้อย่างไร

มวยไทย

การดูแลตัวเอง หลังฝึก มวยไทย

หลังการ ออกกกำลังกาย อย่าง มวยไทย หรือ กีฬา ทุกประเภท ทุกชนิด จะต้องมี วิธีการ ดูแลตัวเอง เพื่อให้ ร่างกาย ของเรานั้น สามารถ ฟื้นฟู และ สามารถ กลับมา ออกกำลังกาย ในวันต่อมา ได้อย่างปกติ อีกทั้ง ยังช่วย ป้องกัน อาการ บาดเจ็บได้

การปฏิบัติตัว หลังการ ออกกำลังกาย อย่าง มวยไทย เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการดูแล ตัวเอง หลังการ ต่อยมวย จะส่งผล ต่อประสิทธิภาพ ในการ ออกกำลังกาย ครั้งต่อไป โดยมีแนวทาง ปฏิบัติตัว ดังนี้

 

1) ลดระดับ ในการ ออกกำลังกาย หรือ คูลดาวน์ ( Cool Down )

เป็นการ เคลื่อนไหว ของร่างกาย ให้ช้าลง เพื่อให้ ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น หัวใจ ที่เต้นเร็ว หรือ การหายใจ แบบถี่ รวมถึง อุณภูมิ ที่สูงขึ้น ในระหว่าง การต่อยมวย กลับมาสู่ ภาวะปกติ อีกทั้ง ยังช่วย ให้เลือด สามารถ ลำเลียง ออกซิเจน ไปยัง ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อสลาย กรดแลกติก ( Lactic Acid ) ที่เกิดขึ้น ตอนออกกำลังกาย และ สะสม ในกล้ามเนื้อ ที่เป็น อีกหนึ่ง สาเหตุ ของอาการ เมื่อยล้า หรือ การเกิด ตะคริวได้

 

2) ควรผ่อนคลาย กล้ามเนื้อ หลังการ ต่อยมวย

การยืดเหยียด กล้ามเนื้อ หลังการ ออกกำลังกาย ต่อยมวยไทย เป็นการ ทำให้ กล้ามเนื้อ ที่ตึงนั้น ได้ผ่อนคลายลง ป้องกัน ความรู้สึก เจ็บ หรือ ปวดตึง หลังออกกำลังกาย รวมถึง ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ ของกล้ามเนื้อ ในการ ออกกำลังกาย ครั้งถัดไป มากขึ้น โดยมี หลักการ คือ การเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อ ให้น้อยลง ไปสู่ การยืดเหยียด กล้ามเนื้อ ในลักษณะ ของการ หยุดนิ่ง ที่จะทำให้ การผ่อนคลาย ของกล้ามเนื้อ ร่วมกับ การลด ระดับ การออกกำลังกาย หรือ การคูลดาวน์ ( Cool Down ) นั่นเอง

3) ควรดื่มน้ำ อย่างพอเหมาะ

เพราะการ เคลื่อนไหว ติดต่อกัน จากการ ออกอาวุธ หมัด เท้า เข่า และ ศอก จะทำให้ ร่างกาย ขับเหงื่อ ออกมา เพื่อระบาย ความร้อน หรือ อุณหภูมิ ที่สูงขึ้น ที่เกิดขึ้น ทำให้ สูญเสียน้ำ และ แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โซเดียม ดังนั้น ในระหว่าง ที่กำลัง ออกกำลังกาย ควรจิบน้ำ เป็นระยะ ๆ และ ไม่ควร ดื่มน้ำ มากเกินไป จนทำให้ จุกเสียด อีกทั้ง เมื่อออกกำลังกาย จบแล้ว ควรดื่ม น้ำเปล่า หรือ น้ำเกลือแร่ เพื่อชดเชยน้ำ หรือ แร่ธาตุ ที่หายไป

 

4) เลือกทาน อาหาร ให้เหมาะสม

ควรทาน อาหารประเภท จำพวก โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต เพราะจะให้ พลังงานที่ดี ต่อร่างกาย อีกทั้ง โปรตีน ยังมีส่วนช่วย ในการเสริมสร้าง กล้ามเนื้อ รวมถึง ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ที่ฉีกขาด ระหว่าง การออกกำลังกาย ส่วนคาร์โบไฮเดรต จะช่วยเติมความสดชื่น ให้กับร่างกายได้

 

นอกเหนือจากนี้ หลังการออกกำลังกาย มวยไทย ก็อย่าลืม ทำความสะอาดร่างกาย ด้วยการอาบน้ำ เพื่อช่วยเรียกความสดชื่นและสบายตัว

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เตรียมตัว ก่อนเรียน มวยไทย เพื่อลดน้ำหนัก

รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทยช่วยในการนอนหลับ ได้อย่างไร

มวยไทยช่วยในการนอนหลับ ได้อย่างไร

การนอนหลับ เป็นเรื่อง ที่หลาย ๆ คนกำลังประสบปัญหา เนื่องจาก การนอนหลับ ถือว่า เป็นปัญหาหลัก ของคนในยุคปัจจุบันนี้ เราะฉะนั้น เราจึงต้องหา ตัวช่วยดี ๆ อย่างมวยไทย ( Muay Thai )

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่เพียงแต่เป็นกีฬา ที่ช่วย เพิ่มความแข็งแรง ให้กับเรา เม่านั้นนะครับ แต่กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ยังถือว่า เป็นกีฬา ที่ช่วยในหลาย ๆ เรื่องด้าน ไม่ว่าจะเป็น การปรับสมดุล ในร่างกาย การเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และ ต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งวันนี้ เราจะมาพูดถึงว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยในการนอนหลับ ได้อย่างไร เนื่องจาก การนอนหลับ ถือว่าเป็นปัญหาหลัก ของคนในยุคปัจจุบัน เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ปัญหา ของการนอนหลับ ยังเกิดได้กับ ทุกเพศ ทุกวัย และ อาการนอนไม่หลับนั้น ก็มาจากหลายสาตุ แต่มวยไทย ( Muay Thai ) จะช่วยในการนอนหลับ ได้อย่างไรนั้น เราไปดูกัน

 

 

สาเหตุ ของการนอนไม่หลับ

 

1. ความเครียด

หากพูดถึง การนอนไม่หลับ สิ่งแรก ที่มักจะส่งผล ให้นอนไม่หลับ ก็คือ ความเครียด เพราะว่า เรื่องของความเครียดนั้น ถือว่าเป็น ปัญหาหลัก ของการนอนไม่หลับเลยก็ว่าได้ เพราะว่า ในหนึ่งวัน เราต้องเจออะไรต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่า จะเป็นความเครียด ที่มาจากการทำงาน ความเครียด ที่มาจากการทำงาน หรือจากเรื่องต่าง ๆ เข้ามาในชีวิตของเรา ส่งผลให้เกิด การนอนไม่หลับ นั่นเองครับ

 

2. ปัญหาสุขภาพ

ปัญหาสุขภาพนั้น ก็เป็นอีกหนึ่ง สาเหตุ ที่ทำให้เรา นอนไม่หลับ เนื่องจาก โรคบางโรค ก็ส่งผลต่อการนอนหลับ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ อาการที่นอนไม่หลับนั้น ก็เป็น อาการเจ็บ อาการปวด จากโรคที่เป็นอยู่

 

3. พฤติกรรมการนอน

อีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้หลาย ๆ คนนั้น นอนไม่หลับก็เป็นเพราะว่า พฤติกรรม การนอน เนื่องจาก บางคนนอนไม่หลับ ก็จะหยับโทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาเล่น เพื่อให้ตัวเองง่วง แต่กลับกลายเป็นว่า ตาสว่างมากกว่าเดิม เพราะด้วย พฤติกรรมเหล่านี้ จึงทำให้ เกิดเหตุการณ์ วนลูป และ หากปล่อยไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เกิด การนอนไม่หลับ เรื้อรังได้นั่นเองครับ มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้นอนหลับ ได้อย่างไร

 

1. ลดความเครียด

เนื่องจากกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องใช้แรง ในการต่อย ใช้แรงจึงทำให้ ผู้ที่ซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) นั้นได้ระบายอารมณ์ จึงทำให้กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ช่วยให้ ระบายความเครียก ได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ความเครียด ยังเป็นปัญหาหลัก ที่ทำให้นอนไม่หลับอีกด้วย เพราะฉะนั้น เพื่อน ๆ คนไหนที่เครียด จนนอนไม่หลับ ทางเราแนะนำว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะถือว่า เป็นตัวช่วยที่ดีเลยนะครับ

 

2. ทำให้หลับง่าย

เราก็ต่างรู้ กันอยู่แล้วว่า หลังจากออกกำลัง นั้นเหนื่อยเสมอ เพราะฉะนั้น ความเหนื่อย ก็จะทำให้เราง่วง และ หลับเร็วขึ้น นอกจากนี้ การซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) แม้ว่าจะเป็น การเตะ การต่อยดูเหมือน จะไม่ได้ออกแรง แต่ถ้าหาก ได้ซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) แล้วล่ะก็ เมื่อถึงเวลานอน หลับสนิทกันทุกคน หรือ บางคนก็ง่วง จนไม่อยากเล่นโทรศัพท์ มือถือก่อนนอน เลยนะครับ

 

เพื่อน ๆ คนไหน ที่นอนไม่หลับ เป็นเวลานาน ๆ หรือ เพิ่งจะเริ่มนอนไม่หลับ ลองซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ดูนะครับ ทางเราบอกได้เลย ว่าหลังจากซ้อม เพื่อน ๆ ที่มีอาการนอนไม่หลับ เมื่อถึงเวลานอน หลับสนิท แน่นอนครับ นอกจากนี้ ความเครียดต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในหัว ก็ลดลงด้วย ทำให้ไม่ต้องกังวล และ เครียดสะสม อีกด้วยนะครับ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

ฝึกมวยไทย ไม่ใช่แค่การต่อสู้

มวยไทย

เตรียมตัว ก่อนเรียน มวยไทย เพื่อลดน้ำหนัก

หลาย ๆ คน ลงเรียน มวยไทย เพื่อการ ลดน้ำหนัก โดยเฉพาะ หนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่อยากจะ เผาผลาญ ไขมัน ส่วนเกิน ตามร่างกาย ให้ออกไป ให้หมด แล้วได้ กล้ามเนื้อ มัดสวย กระชับ สัดส่วน มาแทน อีกทั้ง ยังช่วยให้ มีบุคลิกภาพที่ดี และ มีทักษะ ป้องกันตัว อีกด้วย

สำหรับ การเตรียมตัว ก่อนเริ่มเรียน มวยไทย เพื่อการ ลดน้ำหนัก  จะต้องทำ อย่างไรบ้าง?

1) วางแผน หรือ แพลน สำหรับ การออกกำลังกาย ( Exercise Planner )

ก่อนที่จะเริ่ม ต่อยมวย เพื่อลดน้ำหนัก ควรวางแผน หรือ แพลน เพื่อเป็นการ กำหนด โปรแกรม และ เป้าหมาย ของการ ออกกำลังกาย ในวันนั้น ๆ ซึ่งจะช่วย ให้สามารถ ประเมิน ร่างกาย ตนเอง และ เตรียมอุปกรณ์ ที่จำเป็น ได้อย่าง ครบถ้วน และ สมบูรณ์

 

2) ศึกษา อาหาร ที่ควร รับประทาน

ถ้าหาก ยังไม่ทาน อาหาร อะไรลงท้อง มาก่อน การออกกำลังกาย อาจจะทำให้ รูัสึกหิว จนไม่สามารถ บรรลุ ตามโปรแกรม หรือ เป้าหมาย ที่วางไว้แล้ว และ ยังส่งผลเสีย ต่อร่างกาย อีกด้วย ดังนั้นแล้ว ควรทาน อาหาร ที่ให้สารอาหาร จำพวก โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ได้รับ พลังงาน ที่เพียงพอ และ ป้องกัน การย่อยสลาย ของเนื้อเยื่อ รวมถึง หลีกเลี่ยง อาหาร ที่มีไขมันสูง เพราะอาหาร จำพวกนี้ จะให้แคลอรี ที่มากเกินไป และ ย่อยช้า ส่งผลให้ ร่างกาย เอื่อยเฉื่อย ควรทาน อาหาร ที่ย่อยง่าย อย่างกล้วย โยเกิร์ต หรือ ไข่ต้ม ก่อนการ ออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 - 60 นาที

 

3) วอร์มอัพ หรือ อบอุ่นร่างกาย ก่อนการ ออกกำลังกาย

การวอร์มอัพ หรือ อบอุ่นร่างกาย จะเป็นการ ช่วยเตรียม ร่างกาย ให้พร้อม สำหรับ การต่อยมวย ที่ต้อง เคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ใช้พลังงานเยอะ และ รวดเร็ว เพื่อป้องกัน การฉีกขาด ของเนื้อเยื่อ ที่ควรเริ่ม จากการ ขยับตัว อย่างช้า ๆ และ ค่อย ๆ เพิ่มความเร็ว ให้มากขึ้น ซึ่งการวอร์มอัพ หรือ อบอุ่นร่างกาย มีหลักการ คือ การเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่ม อุณหภูมิ ร่างกาย ให้สูงขึ้น ให้ส่งผล ต่อการ ไหลเวียนของเลือด ในกล้ามเนื้อ  ข้อต่อ เส้นเอ็น เพื่อเตรียม ความพร้อม ต่อการใช้งาน

 

4) ควรยืดเหยียด กล้ามเนื้อ และ ข้อต่อ

การยืดเหยียด กล้ามเนื้อ ( Stretching ) เป็นการ ทำให้เส้นใย ของกล้ามเนื้อ และ เอ็นข้อต่อ ได้ยืดเหยียด ให้มีความยาว และ มุมกว้าง กว่าปกติ เพื่อให้ ร่างกายนั้น สามารถ เคลื่อนไหว ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ มากขึ้น รวมถึง เป็นการ ป้องกัน การฉีกขาด และ การบาดเจ็บ ของกล้ามเนื้อ ระหว่าง ออกกำลังกายด้วย

เมื่อเพื่อน ๆ ทุกคน เตรียมตัว ครบทุกข้อ อย่างเรียบร้อย ทีนี้ทั้ง ร่างกาย และ จิตใจ ก็พร้อม ที่จะเรียน มวยไทย กันแล้ว

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทยช่วยในการนอนหลับ ได้อย่างไร

รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

เพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบ ออกกำลังกาย หรือ ลดน้ำหนัก ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) บ้างคะ แล้วเพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า นักมวยนั้นใช้ วิธีอะไร เทคนิคไหน ที่จะมา รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ในร่างกาย มาดูกันในบทความนี้ได้เลยค่ะ

 

สำหรับใคร ที่กำลังมองหา การลดน้ำหนัก รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) คุณมาอ่านได้ถูกทางแล้ว หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า การรีดน้ำหนักตัว ในแบบของ นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นเร็ว และ เห็นผลได้ชัด แน่นอนว่านักมวย ต้องอาศัยระเบียบ และ วินัยอย่างมาก ในการที่จะรีดน้ำหนักลง ให้เร็วเพื่อเตรียมพร้อม ขึ้นสังเวียน และ เพิ่มความฟิต ให้กับร่างกาย วันนี้ Jaroenthong Muay Thai มีข้อมูลดี ๆ มากฝาก เพื่อน ๆ กัน ถึงใครหลาย ๆ คนที่เริ่มต้นอยากฟิตแบบ นักมวยมืออาชีพกันค่ะ

 

ใน การลดน้ำหนัก รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) บางคนอาจจะมองเห็น ภาพการไปวิ่งบนลู่ใน ฟิตเนส ว่ายน้ำ หรือ แม้แต่การเต้นแอโรบิก ยามเย็น แต่ในฉบับ นักมวย นั้นไม่ใช่แค่นั้น ใน นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น จำเป็นต้องใช้ทุกสัดส่วน ของร่างกาย ดังนั้น การออกกำลังกาย ให้ได้ผลเร็ว และ รีดน้ำหนัก นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องใช้ทุกส่วน ของร่างกายด้วย ดีกว่าไปนั้น ต้องมีความสนุกสนาน ตั้งใจ ระเบียบวินัยด้วย

 

 

นักมวยไทย ( Muay Thai ) ควรทำอะไร เป็นอย่างแรก

เนื่องจาก นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ค่อนข้างที่จะมี ความกังวล และ ซีเรียส กับการคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์ ของการแข่งขัน ในเวที มวยไทย ( Muay Thai ) เพราะแต่ละเวทีนั้น ก็มีการจำกัดน้ำหนักตัวเป็นรุ่น ๆ ดังนั้น นักมวย จำเป็นต้องควบคุมน้ำหนักให้เท่ากับ มาตรฐานรุ่นชก ของตนเอง ด้วยวิธี การลดน้ำหนัก รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ที่สามารถลดน้ำหนักลง ได้อย่างรวดเร็ว และ ได้ผลจริงอีกด้วย โดย นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นมีสเต็ป การออกกำลังกาย ดังนี้

 

ออกกำลังกายแบบ นักมวย

สเต็ปที่ 1  เริ่มที่การออกกำลังกาย อย่างต่อเนื่อง ให้ได้อย่างน้อย 45 – 60 นาทีต่อวัน นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถที่จะเลือก การออกกำลังกาย หลาย ๆ แบบได้ไม่ซ้ำกัน  เช่น การปั่นจักยาน 30 นาที หรือ วิ่ง 10 กิโลเมตร กระโดดเชือกในตอนเช้า ต่อยกระสอบทราย หรือ ล่อเป้าอย่างน้อย 3 ยก อย่างต่อเนื่องในช่วงเย็น

 

สเต็ปที่ 2 การควบคุมอาหาร ของ นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) หลักสำคัญที่จะช่วยในการ ลดน้ำหนัก รีดน้ำหนัก ลดไขมัน อย่างได้ผลเร็ว และ เห็นผลที่สุด แค่คุณลดการ รับประทานอาหาร ประเภทแป้ง เช่น ข้าว ขนมปัง หรือ เส้นต่าง ๆ เพราะแป้งเหล่านั้น เป็นตัวการที่จะ เพิ่มน้ำหนักอย่างดีเลย นอกจากนี้ อาหารประเภท ของทอดด้วยน้ำมันทั้งหลาย จะทำให้ นักมวย ที่ออกกำลังกาย อย่างหนักหน่วงมานั้น เห็นผลช้ากว่าที่เราต้องการ หรือ อาจจะไม่เห็นผลเลย หากทานในปริมาณ ที่ร่างกายไม่สามารถ เผาผลาญได้หมด

 

นักมวยไทย ( Muay Thai ) ที่ต้องการ ลดน้ำหนัก รีดน้ำหนัก ลดไขมัน จะเน้นไปที่การเลือก รับประทานอาหาร ประเภทผัก หรือ เนื้อสัตว์ต้ม เป็นหลัก ลดแป้ง ให้เน้นผักผลไม้ ที่มีรสจืด เน้นโปรตีนเนื้อสัตว์ นมลดจืด พร่องมันเนย ในการซ่อมแซม กล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอ และ สิ่งสำคัญควรดื่มน้ำ ให้เพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยให้ร่างกายของคุณ ชะล้างเกลือส่วนเกิน ที่ก่อให้เกิดการกักเก็บน้ำ ออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สเต็ปที่ 3 สร้างขีดจำกัด เพิ่มขึ้นให้กับตัวเอง ในที่จะลดน้ำหนัก แบบ นักมวยไทย ( Muay Thai ) นั้น จะต้องมีการเพิ่มจำนวนยก ในการล่อเป้า จำนวนครั้ง ในการซ้อมกระสอบทราย หรือ จำนวนรอบในการวิ่ง เพื่อเพิ่มอัตรา ที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย และ ยังสามารถดึงเอาพลังงาน มาเผาผลาญได้สูงขึ้นอีกด้วย

 

สเต็ปที่ 4 การพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อ นักมวยไทย ( Muay Thai ) ออกกำลังกายมา อย่างหนักหน่วงแล้ว ในการพักผ่อนถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และ ควรที่จะพักผ่อนให้ถึง 7 – 8 ชั่วโมง เนื่องจากร่างกายของเรานั้น จะมีการปรับสมดุล ในขณะที่เราหลับ และ ปฏิบัติตามตาราง ในการลดน้ำหนัก แบบ นักมวยไทย ( Muay Thai ) ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน อย่าหักโหมจนเกินไป และ ออกกำลังกาย หนักจนเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกาย อ่อนล้าจนไม่สามารถ ลดน้ำหนัก รีดน้ำหนัก ลดไขมัน แบบ นักมวย ต่อได้ และ จะมีผลกระทบ มากกว่าผลดีค่ะ

 

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ การลดน้ำหนัก รีดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เราได้นำมาเสนอกัน หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ที่ 3 สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

ฝึกมวยไทย ไม่ใช่แค่การต่อสู้

ฝึกมวยไทย ไม่ใช่แค่การต่อสู้

การฝึกมวยไทยนั้น ได้ประโยชน์ มากกว่า แค่ศิลปะการต่อสู้ แต่การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) มีข้อดีหลายอย่าง ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ ฉะนั้นเราไปดูกัน ว่าประโยชน์ จากการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

ศิลปะการต่อสู้ ที่ถือว่า เป็นที่นิยม ของคนหมู่มาก ก็คงไม่พ้น กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จนทำให้หลาย ๆ คนเกิดความสงสัย ในกีฬาปนะเภทนี้ ว่ามีดีอะไร ทำไมถึงเป้นที่นิยม หากมองเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็คงคิดว่า เป็นกีฬา ที่ชกต่อกัน เป็นกีฬา ที่ใช้ความรุนแรง ก็คงไม่ได้ มีอะไรมาก แต่จริง ๆ แล้ว การฝึกมวยไทย มีประโยชน์ มากกว่าที่คิด เพราะว่ากีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่เพิ่มทักษะต่าง ๆ ให้กับผู้ฝึก โดยที่ไม่รู้ตัว เราไปดูกัน ว่ามวยไทย ( Muay Thai ) มีดีอะไร ทำไมถึงเป็นกีฬา คนส่วนใหญ่เลือกฝึก

 

ขอดีของการฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

 

 

1. ฝึกการต่อสู้

สิ่งแรก ที่เราจะได้จาก การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ก็คงหนีไม่พ้นการต่อสู้ เพราะว่า พื้นฐานของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ก็คือ การต่อสู้ ที่ได้จากการฝึก ซึ่งประโยชนี้ ในส่วนนี้ ถือว่า เป็นเรื่องที่ดี และ เป็นสิ่งที่ใคร หลาย ๆ คนต่างต้องการ แม้ว่า จะไม่ได้ไปต่อสู้ กับใครก็ตาม แต่ฝึกไว้ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่ดี แม้กว่า จะเป็นการฝึกการต่อสู้ แต่การต่อสู้ กไม่ได้เอาไปทำร้ายใคร แต่เป็นการฝึกเอาไว้ เพื่อป้องกัน ตัวเอง

 

 

2. ใช้ร่างกายได้ดีขึ้น

เนื่องจาก การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องฝึก การโจมตี การหลบหลีก การต่อสู้ จึงทำให้ สามารถ ใช้ร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งการหลบหลีก และการที่ได้ ต้อสู้นั้น จะทำให้เรียนรู้ การใช้ร่างกาย ในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจจะเป็น แขน ขา เพราะฉะนั้น เมื่อ มีการทำกิจกรรมต่าง ๆ จึงทำให้ ผู้ที่ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถใช้ร่างกาย ได้ดีกว่า คนที่ไม่ได้ฝึก มวยไทย ( Muay Thai )

 

 

3. ลดอาการออฟฟิศซินโดรม

พนักงานออฟฟิศ หลาย ๆ พอทำงานไปนาน ๆ อาการที่ตามมา ก็จะเป็นอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล หรือ ที่เรียกว่า ออฟฟิศซินโดรม ที่พนักงานออฟฟิศ จะต้องเจอ และวิธีแก้ อาการออฟฟิศซินโดรม ก็คือ การออกกำลังกาย ที่ต้องมีการยืดหด เพราะว่า กีฬา ที่มีการยืดหด จะเป็นกีฬาที่ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ให้กับข้อต่อ อย่าง คอ บ่า ไหล ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) จึงเป็น ทางเลือกที่ดี สำหรับ การแก้อาการ ออฟฟิศซินโดรม ได้เป็นอย่างดี นะครับ เพื่อน ๆ คนไหน ที่มีอาการ ออฟฟิศซินโดรม แล้วอยาจะโบกมือลา กับการเหล่านี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยคุณได้นะครับ

 

 

4. ฝึกความอดทน

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้อง มีการต่อสู้ ไม่จะเป็น ฝ่ายรุก และ ฝ่ายรับ เมื่อใด ที่คุณได้เป็นฝ่ายรับ เมื่อนั้น จะเป็นการที่คุณ ได้ฝึกความอดทน หากคุณ มีการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะทำให้คุณ มีความอดทนที่มากกว่า คนทั่วไป และ ความอดทนนี้ ไม่เพียงแต่ เป็น การอดทน ในเรื่องของ การถูกโจมตี เท่านั้น แต่การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วยให้คุณ รู้จัก อดทนในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าเรื่องงาน สภาพอากาศ และ แรงกดดัน

 

 

5. ลดน้ำหนัก

สิ่งที่คนส่วนใหญ่ เลือกฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เป็นเพราะว่า ช่วยลดน้ำหนัก หลาย ๆ เนื่องจาก หลาย ๆ คนลดน้ำหนัก มาหลายวิธี แล้วไม่ผล แต่พอมาใช้กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) น้ำหนักตัวลดลง จึงทำให้มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นที่นิยม ในการลดน้ำหนัก

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกฝนร่างกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

การเคลื่อนไหว พื้นฐานของ แม่ไม้มวยไทย

มวยไทย

การเคลื่อนไหว พื้นฐานของ แม่ไม้มวยไทย

การนำเอา ศิลปะ มวยไทย ไปใช้ ให้ได้ผลดี ย่อมขึ้นอยู่กับ การฝึกฝน ความชำนาญ และ ความมีไหวพริบ ในการ ผสมผสาน ไม้มวยต่าง ๆ ที่มีอยู่ ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด ซึ่งการเคลื่อนไหว เป็นพื้นฐาน ของการใช้ แม่ไม้มวยไทย ทั้งการรุก และ การรับ

โดยการเคลื่อนไหว ในการฝึกมวย มีดังนี้

1) การรุก และ ถอยเป็นเส้นตรง 

1.1) การรุก หรือ ถอย แบบเดินหน้า หรือ ถอยหลัง โดยการ ลากเท้า

คือ ถ้ารุกไปข้างหน้า ก็เดินหน้า และ ให้เท้าหลัง ลากตามเป็นจังหวะ โดยอาจยกเท้า หรือ ไม่ก็ได้ ในขณะ ที่เวลาถอย ก็ใช้แรงส่ง จากเท้าหน้า ให้เท้าหลัง ก้าวออกไป แล้วเท้าหน้า ก้าวตาม เป็นจังหวะ โดยอาจ ยกเท้าหรือไม่ก็ได้

 

1.2) การรุก หรือ ถอย แบบสลับมือเท้า

คือ การรุก ที่มีการ สลับมือ เท้า และ ถอยสลับมือ เท้า เมื่อฝึกได้ อย่างมี ทักษะแล้ว ใช้เดินรุก สลับเท้า และ ถอยสลับเท้า ให้คล่องแคล่ว จะช่วยให้นำ ไปใช้ใน การฝึกทักษะ ขั้นสูงต่อไป

 

2) การรุก และ ถอยฉาก

2.1)  การรุก เป็นมุมฉาก

คือ การเพิ่ม จากการ รุกธรรมดา โดยใช้เท้า ที่ไม่ถนัด ตั้งนำ เท้าที่ไม่ถนัด ไปข้าง เท้าที่ถนัด ส่งตาม ต่อจากนั้น ใช้เท้า ที่ไม่ถนัด ลากออก ไปด้านข้าง ส่งเท้าที่ถนัด ตามไปอยู่ ด้านหน้าเท้า ที่ไม่ถนัด ลักษณะ การเคลื่อนที่ เป็นลักษณะ อยู่ในมุมฉาก ดังนี้

 

1. การรุกฉากขวา แบบธรรมดา จากการตั้งท่าขวานำ

วิธีฝึก

จังหวะที่ 1  รุกไปด้านหน้า ในท่าธรรมดา

จังหวะที่ 2  ก้าวเท้าขวาฉาก ไปทางขวาเล็กน้อย

จังหวะที่ 3  ก้าวเท้าซ้าย ฉากไปทางขวา โดยให้เท้าซ้าย ไปอยู่ข้างหน้าเท้าขวา

 

2. การรุกฉากซ้าย แบบรุกเท้าสลับ จากการตั้งท่าขวานำ

วิธีฝึก

จังหวะที่ 1  รุกไปด้านหน้า แบบรุกธรรมดา

จังหวะที่ 2  ก้าวเท้าซ้ายฉาก ไปทางซ้ายเล็กน้อย

จังหวะที่ 3  ชักเท้าขวาฉากตาม ให้อยู่ด้านหน้าเท้าซ้าย

 

2.2) การถอยฉาก

คือ การถอย เพื่อต้องการ ให้ตำแหน่ง ของการตั้งท่า เปลี่ยนทิศทาง ไม่ให้เป็น เป้าหมาย ของคู่ต่อสู้ ในขณะรุก สามารถถอยฉาก ได้ดังนี้

1.  ฉากขวา จากการตั้งท่ามือซ้าย เท้าซ้ายอยู่หน้า

วิธีฝึก

จังหวะที่ 1  ถอยไปด้านหลัง โดยการถอยแบบ เท้านำเท้าตาม

จังหวะที่ 2  ก้าวเท้าขวา ฉากไปทางด้านขวา

จังหวะที่ 3  ก้าวเท้าซ้าย เฉียงไปทางขวา ให้ไปอยู่หน้าเท้าขวา

 

2. ฉากขวา ( ไม่ต้องถอย ) จากการตั้งท่า มือซ้ายอยู่หน้า

วิธีฝึก

จังหวะที่ 1  ก้าวเท้าขวาฉากไป ทางขวาเพียงเล็กน้อย

จังหวะที่ 2  ชักเท้าซ้ายเฉียงไปทางขวา  ให้มาอยู่หน้าเท้าขวา  การตั้งท่าเท้าซ้ายนำ

 

3. ฉากซ้ายจากการ ตั้งท่ามือซ้าย เท้าซ้ายอยู่หน้า

วิธีฝึก

จังหวะที่ 1  ถอยไปข้างหลังแบบเท้านำเท้าตาม

จังหวะที่ 2  ก้าวเท้าซ้ายฉากไปทางด้านซ้าย

จังหวะที่ 3  ชักเท้าขวาถอยหลัง ให้ไปอยู่หลังเท้าซ้าย ในลักษณะการตั้งท่าซ้ายนำอยู่หน้า

 

4. ฉากซ้าย ( ไม่ต้องถอย ) จากการตั้งท่ามือซ้าย เท้าซ้ายอยู่หน้า

วิธีฝึก

จังหวะที่ 1  ก้าวเท้าซ้ายเฉียงไปทางซ้ายเล็กน้อย

จังหวะที่ 2  ชักเท้าขวาไปข้างหลังเท้าซ้าย ให้มาอยู่ในลักษณะ การตั้งท่าแบบซ้ายนำ

 

การเคลื่อนไหว เป็นพื้นฐานของ มวยไทย อย่างหนึ่ง ที่จำเป็นต้องศึกษา และเรียนรู้ เพื่อใช้ในการฝึกแม่ไม้มวยไทย ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกฝนร่างกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

ศิลปะการต่อสู้ แม่ไม้มวยไทย

มวยไทย

ฝึกฝนร่างกาย ด้วยกีฬา มวยไทย

ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบหนึ่ง ที่ถือได้ว่า เป็นกีฬา ประจำชาติ ที่มีชื่อเสียง และ โด่งดังไปทั่วโลก นั่นก็คือ มวยไทย ซึ่งในปัจจุบัน ค่ายมวยต่าง ๆ ทั่วประเทศ เปิดสอนให้กับ ชาวไทย และ ชาวต่างชาติ ที่อยากฝึกฝน ร่างกาย ให้แข็งแรง และ มีวิชาติดตัว

 

มวยไทย เป็นกีฬา การต่อสู้ ที่สร้าง ความแข็งแกร่ง ให้กับร่างกาย ได้ใช้ทุกส่วน ของร่างกาย เป็นอาวุธ ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก แล้วยังมี ส่วนช่วย ในด้านการ ฝึกฝนจิตใจ อีกด้วย โดยปัจจุบัน มวยไทย ได้ปรับรูปแบบ ให้ทันสมัย เป็นการ ออกกำลังกาย อย่างหนึ่ง ที่มีเปิด ให้เรียน และ เทรนนิ่ง ในหลาย ๆ แห่ง ที่ช่วย เสริมสร้าง ความแข็งแรง และ ช่วยลดน้ำหนัก ได้อย่างเห็นผล

ประโยชน์หลัก ๆ ของการฝึก มวยไทย

1) มวยไทย พัฒนาสุขภาพ ร่างกาย ให้ดีขึ้น

มวยไทย เป็นการ ออกกำลังกาย ที่ได้ใช้กล้ามเนื้อ เกือบจะทุกส่วน ของร่างกาย เป็นการ ออกกำลังกาย ที่เผาผลาญแคลอรี่ และ เสริมสร้าง ความแข็งแกร่ง ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ โดยทั่วไป มวยไทย จะเผาผลาญ แคลอรี่ได้ ประมาณ 600 - 700 ต่อชั่วโมง ซึ่งมาตรฐาน ในการเทรนด์ ปกติจะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง เท่ากับว่า ใน 1 ครั้งสามารถ เผาผลาญแคลอรี่ ได้มากถึง 1,500 แคลอรี่ ยิ่งควบคุม อาหาร ควบคู่ไปด้วย จะยิ่ง เสริมสร้าง ความแข็งแกร่ง เสริมอีกทาง

 

2) มวยไทย ช่วยป้องกันตัว

ประโยชน์ข้อนี้ เป็นหนึ่ง ในหลาย ๆ เหตุผล ที่คนทั่วไป เลือกเรียน หรือ ฝึกฝน มวยไทย เพื่อเป็นทักษะ ในการป้องกันตัว แบบเบื้องต้น ซึ่งต้องผ่าน การฝึกฝน เพื่อให้เกิด ความเชี่ยวชาญ และ สามารถ ใช้งานได้จริง ในยามฉุกเฉิน เช่น การถีบ เป็นการเตะ เพื่อเป็นการ ผลักคู่ต่อสู้ ออกไป ขัดขวาง การเคลื่อนไหว เมื่อเผชิญหน้ากัน หรือ การใช้ศอก และ เข่า ในระยะประชิด

 

แต่อย่างไร ต้องได้รับ การฝึกฝน อย่างชำนาญ เป็นพิเศษจริง ๆ ถึงแม้ว่า การหนี จะเป็นการป้องกัน การปะทะ ได้ดีที่สุด แต่เมื่อเจอกับ สถานการณ์ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือ มีคน ที่ต้องการ ความช่วยเหลือ มวยไทย ก็เป็นหนึ่งใน ศิลปะการต่อสู้ ที่มีศักยภาพ ที่สามารถ ปกป้องคนได้

 

3) มวยไทย ช่วยจัดการ กับ ความเครียด

มวยไทย เป็นตัวช่วย ในการจัดการ ความเครียด ที่ดี อย่างหนึ่ง เพราะสารเอนโดรฟิน ทำให้รู้สึกดี กับ ตัวเอง อีกทั้ง ยังเป็น การสร้าง ความท้าทาย ให้กับ ผู้ฝึกฝน ให้ก้าวข้าม ขีดจำกัด ปลดปล่อย ศักยภาพ ของตัวเอง ช่วยสร้าง ความมั่นใจ และ ส่งเสริม วินัย ของจิตใจ ผ่านการ ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก ความเมื่อยล้า และ เจ็บปวด ของกล้ามเนื้อ จากการฝึกฝน อย่างหนัก ทำให้ อยากเอาชนะ อุปสรรคเหล่านี้ ให้ได้

 

มวยไทย จัดเป็นกีฬา ที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ กับสาว ๆ ที่ต้องการ ฝึกฝน เพื่อมีทักษะ การต่อสู้ ป้องกันตัวเอง ติดตัวไว้ อีกทั้ง ยังช่วย ลดน้ำหนัก จากการ ถูกเผาผลาญ พลังงานมากมาย ทำให้มีหุ่น ที่กระชับ สัดส่วนชัดเจน และ มีกล้ามเนื้อสวย ส่งผลดี ต่อสุขภาพ อีกด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ศิลปะการต่อสู้ แม่ไม้มวยไทย

ขั้นตอน การร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย

มวยไทย

ศิลปะการต่อสู้ แม่ไม้มวยไทย

แม่ไม้มวยไทย หรือ ไม้มวย เป็นการ ผสมผสาน การใช้อาวุธ หมัด เท้า เข่า ศอก เพื่อการรุก หรือ รับ ในการต่อสู้ ของมวยไทย ซึ่งการ จะใช้ศิลปะ แม่ไม้มวยไทย ได้อย่างชำนาญ จะต้องผ่าน การฝึกฝน เบื้องต้น ในการใช้หมัด เท้า เข่า ศอก ให้คล่องแคล่ว

15 กระบวนท่า แม่ไม้มวยไทย

1) ท่าสลับฟันปลา (รับด้านนอก)

ฝ่ายรุก – เดินเข้ามาชกด้วยหมัดซ้าย ตรงไปที่ใบหน้าของฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ – ใช้มือซ้ายปัดหมัดฝ่ายรุกที่ข้อมือ ส่วนมือขวากระแทกไปที่หัวไหล่ด้านนอกของฝ่ายรุก

 

2) ท่าปักษาแหวกรัง (รับด้านใน)

ฝ่ายรุก – เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้า มือซ้ายตั้งมั่นพร้อมที่จะชกหมัด

ฝ่ายรับ - ก้าวเท้าขวาทแยงเฉียงด้านขวา สืบเท้าเข้าวงใน ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าขวา ใช้แขนซ้ายปัดหมัด ให้พ้นใบหน้า มือขวากระแทกไปที่หัวไหล่ด้านในของฝ่ายรุกทันที

 

3) ท่าชวาซัดหอก

ฝ่ายรุก – เดินมวยชกด้วยหมัดขวา ตรงไปที่บริเวณหน้าของฝ่ายรับ  มือขวาตั้งมั่น

ฝ่ายรับ – รีบก้าวเท้าซ้ายเฉียงออกวงนอก ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าซ้าย โดยพุ่งตัวเข้าหาคู่ต่อสู้ แขนขวายกขึ้น ปัดหมัดฝ่ายรุกให้เบนออกพ้นตัว แขนซ้ายยกศอกกระแทกเข้าชายโครงของฝ่ายรุก

 

4) ท่าอิเหนาแทงกริช

ฝ่ายรุก – เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวา ตรงไปที่บริเวณหน้าของฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ  - รีบก้าวเท้าขวาทแยงเข้าวงใน ทิ้งน้ำหนักลงบนเท้าขวา ยกแขนซ้ายขึ้นปัดหมัดให้พ้นตัว  แขนขวางอศอก เพื่อส่งศอกกระแทกที่ชายโครงของฝ่ายรุก

 

5) ท่ายอเขาพระสุเมรุ

ฝ่ายรุก – เดินมวยชกด้วยหมัดขวา ตรงเข้าบริเวณหน้าของฝ่ายรับ  มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ – รีบก้มศีรษะให้หมัดผ่านศีรษะไป พร้อมกับสืบเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อย ให้ได้จังหวะหมัด แล้วชกหมัดขวา เข้าสู่ปลายคางของฝ่ายรุกทันที

 

6) ท่าตาเถรค้ำฝัก

ฝ่ายรุก – เดินมวยชกด้วยหมัดขวา ตรงเข้าบริเวณหน้าของฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น

ฝ่ายรับ – รีบสืบเท้าขวาไปข้างหน้าเข้าวงในของฝ่ายรุก ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าขวา พร้อมกับงอแขนซ้าย ยกขึ้นตรงหน้าปัดกระแทกขึ้น ให้หมัดฝ่ายรุกพ้นศีรษะไป มือขวาชกเข้าสู่ปลายคางของฝ่ายรุกทันที

 

7) ท่ามอญยันหลัก

ฝ่ายรุก – เดินมวยชกด้วยหมัดซ้าย ตรงเข้าบริเวณหน้าของฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ – รีบยกแขนทั้งสองขึ้นป้องกันหน้า พร้อมกับยกเท้าขวาถีบเข้าที่ยอดอก หรือท้องของฝ่ายรุกให้กระเด็นไป

 

8) ท่าปักลูกทอย

ฝ่ายรุก – เดินมวยเข้าเตะเหวี่ยงด้วยเท้าซ้าย เป้าหมายคือ ศีรษะฝ่ายรับ  มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ – รีบสืบเท้าเข้าหาครึ่งก้าว พร้อมกับหมุนตัวเอาเท้าขวาเป็นแกน  หันหน้าเข้าหาทิศทางที่เท้าเตะมา ยกศอกขวาตั้งขึ้นระดับหน้าแข้ง  มือซ้ายตั้งการ์ดปิดระดับต้นคอให้มั่น  เพื่อป้องกันพลาดถูกใบหน้า

 

9) ท่าจระเข้ฟาดหาง

ฝ่ายรุก – เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงสุดแรง  จนตัวเสียหลักถลันเข้าไปข้างหน้า

ฝ่ายรับ – ก้าวเท้าซ้ายทแยงออกวงนอก เอี้ยวตัวให้หมัดผ่านทางไหล่ขวาในระยะ 1 คืบ  แล้วใช้เท้าซ้ายเป็นหลักหมุนให้ส้นเท้ากระแทกที่ศีรษะของฝ่ายรุก

 

10) ท่านาคาบิดหาง

ฝ่ายรุก - เดินมวยเข้าหาพร้อมเตะเหวี่ยงด้วยเท้าขวา มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ – รีบพลิกตัวหันนหน้าไปทางเท้าที่กำลังเตะมา น้ำหนักตัวทิ้งบนเท้าซ้าย เท้าขวาอยู่ในหลัก ยืนมวย แบบสิงหยาตร มือขวาตั้งฝ่ามือปะทะปลายเท้า มือซ้ายแบหงายตะปบส้นเท้า แล้วใช้มือที่จับปลายเท้า พลิกบิดออกด้านนอก มือซ้ายจับส้นเท้าฝ่ายรุกดึงเข้าหาตัว พร้อมกับใช้เข่ากระแทกไปที่น่อง

 

11) ท่าหักงวงไอยรา

ฝ่ายรุก – เดินมวยเข้าหาพร้อมยกเท้าเข้าเตะกราดบริเวณชายโครง มือทั้งสองตั้งมั่น

ฝ่ายรับ – ก้าวเท้าซ้ายเข้าหาฝ่ายรุกในระยะเกือบชิดตัวอย่างรวดเร็ว  หันหน้าเข้าหาทิศทางที่ฝ่ายรุกเตะมา กระแทกศอกขวาสู่บริเวณโคนขาฝ่ายรุก พร้อมแขนซ้ายโอบจับตรงบริเวณน่อง ยกขาให้สูงเพื่อให้เสียหลัก ป้องกันฝ่ายรุกใช้ศอกถองที่ศีรษะ

 

12) ท่าวิรุฬหกกลับ

ฝ่ายรุก - เดินมวยเข้าหาพร้อมทั้งยกเท้าเตะกราด ตรงบริเวณชายโครง

ฝ่ายรับ – รีบพลิกตัวทแยงหันหน้า สู่ทิศทางที่เท้าเตะมา ใช้เท้าซ้ายเป็นหลักยืนให้มั่น ยกเท้าขวากระแทกด้วยส้นเท้าที่ต้นขาให้สะท้อนกลับไป มือทั้งสองตั้งให้มั่น เพื่อป้องกันพลาดถูกชายโครง     

 

13) ท่าหักคอเอราวัณ

ฝ่ายรุก - เดินมวยเข้าหาชกด้วยหมัดขวา ตรงบริเวณหน้าของฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ - ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า ใช้หมัดทั้งสองจับที่ต้นคอฝ่ายรุก จากนั้นก็กระแทกเข่าขวาไปที่หน้าของฝ่ายรุก

 

14) ท่าดับชวาลา

ฝ่ายรุก – เดินมวยเข้าชกหมัดขวา ตรงไปที่ใบหน้าของฝ่ายรับ

ฝ่ายรับ - ก้าวเท้าซ้ายทแยงเฉียงออกวงนอก ทิ้งน้ำหนักตัวบนเท้าซ้าย ใช้มือซ้ายกดแขนขวาของฝ่ายรุก ให้เบนและลงต่ำ รีบชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้า ให้เป็นจังหวะเดียวกับมือซ้ายที่กดลงอย่างรวดเร็ว

 

15) ท่าขุนยักษ์จับลิง

ฝ่ายรุก – เดินมวยเข้าชกหมัดซ้าย ตรงเข้าที่บริเวณหน้าของฝ่ายรับ พร้อมกับเตะเท้าขวาตรงบริเวณชายโครง ตามด้วยศอกขวาอย่างรวดเร็ว

ฝ่ายรับ – รีบก้าวเท้าซ้ายสืบเข้าหาตัว ก้าวเท้าขวายกแขนทั้งสองข้างปัดการเตะที่แข้งขวาของฝ่ายรุก พร้อมยกแขนซ้ายป้องกันศอกขวาของฝ่ายรุก แม่ไม้นี้เป็นการหลบหมัด หลบเตะ หลบศอกในเวลาเดียวกัน

 

15 กระบวนท่าของแม่ไม้มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้อย่างหนึ่ง ที่มีท่วงท่าและมีความแข็งแรงมากๆ ถ้าเพื่อนๆสนใจ ก็ลองไปหัดทำตามกันดูนะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ขั้นตอน การร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย

มวยไทยตัวช่วยในการควบคุมอารมณ์

มวยไทย

ขั้นตอน การร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย

การร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย เป็นพิธีกรรม ที่บรรพบุรุษไทย แต่โบราณ ได้เริ่มคิด และ ก่อตั้งขึ้น จากความเชื่อถือ ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์  หรือ เทพเจ้า ที่สิงสถิตอยู่ ทุกแห่ง ที่สามารถ ดลบันดาล ให้มนุษย์ ที่กระทำความดี ประสบความสำเร็จ และ มีชัยชนะ ทั้งปวง

 

คุณประโยชน์ ที่ได้รับจาก การร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย

การไหว้ครู สื่อความหมาย ให้เห็นคุณค่า ด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี อันดีงาม ของไทย มีคุณประโยชน์ มากมาย ทางด้านจิตใจ ของนักมวย และ ผู้ชมมวย  ดังนี้

1) ปลูกฝังนิสัย ให้เป็นมวย คือ รู้จักรัก เคารพ ครูอาจารย์ บิดามารดา ผู้ให้กำเนิด มวยไทย

2) ปลูกฝัง จิตสำนึก ให้ตระหนัก ในคุณค่า ของศิลปะ มวยไทย เกิดความรัก และ หวงแหน ที่จะอนุรักษ์ ให้คงไว้ สืบไป

3) เป็นกิจกรรม เผยแพร่ เอกลักษณ์ และ ศิลปวัฒนธรรม ประจำชาติ ได้อย่าง สง่างาม สมศักดิ์ศรี

ขั้นตอน การร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย

การร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย แบ่งออกเป็น  2  ตอน  คือ  ท่าพรหมนั่ง และ ท่าพรหมยืน

 

ตอนที่ 1 ท่าพรหมนั่ง

ศิษย์ฝากตัวครู   

ขั้นตอน : ศิษย์ถือ สายมงคล คุกเข่า มอบสายมงคล ให้ครู และ กราบ แบบไม่แบมือ จากนั้น ครูมวย จะสวมมงคล ให้แก่ศิษย์

 

ท่าพนม   

ขั้นตอน : คุกเข่าตัวตรง พนมมือ เสมอหน้าอก ทำจิตใจ ให้สงบ ภาวนา คาถา เพื่อระลึก ถึงพระคุณ ของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น กราบลงที่พื้น 3 ครั้ง

 

ท่าเทพนม

ขั้นตอน : โน้มตัว ไปด้านหน้า พร้อมกับ เหยียดแขน ทั้งสองข้าง ไปด้านหลัง โดยการลอด ผ่านรักแร้ แล้วเลยไป ด้านหน้า เป็นท่ากอบ พระแม่ธรณี ตามอง ไปด้านหน้า จากนั้น ทำท่า ถวายบังคม ปฏิบัติทั้งหมด 3 รอบ

 

ท่าปฐม

ขั้นตอน : ยกตัว ก้าวเท้าขวา ออกไปข้างหน้า ประมาณ 1 ก้าว เข่าขวา งอตั้งฉาก กับพื้น โน้มตัว ไปด้านหน้า ตามองตรง ขาซ้าย เหยียดตรงไป ด้านหลัง งอหลังเท้า เชิดขึ้น แขนขวา อยู่บนต้นขาขวา แขนซ้าย งอคุม เสมออก กำหมัด ทั้งสองข้าง 

 

ท่าพรหม

ขั้นตอน : จากท่าปฐม ให้ยกเท้าขวา ออกไปวาง ด้านหน้า หมัดทั้งสอง ประสานกัน ระดับอก หน้ามองตรง โน้มตัว มาข้างหน้า ควงหมัด 3 รอบ

 

ท่าสอดสร้อยมาลา

ขั้นตอน : โน้มตัว มาข้างหน้า มือซ้าย สอดขึ้น เหนือแขนขวา มือซ้าย ชักไป ด้านหลัง ระดับเอว นั่งด้วย ส้นเท้าซ้าย

 

ตอนที่ 2 ท่าพรหมยืน

ขั้นตอน : เตะเท้าซ้าย ย่างสามขุม เตะเท้าขวา พร้อมหมุนไป ทิศเบื้องขวา ไหว้ทิศเบื้องขวา ร่ายรำ ท่านกยูงรำแพน จากนั้น เตะเท้าซ้ายย่างสามขุม เตะเท้าขวาย่างสามขุม เตะเท้าซ้าย หมุนทิศเบื้องซ้าย ไหว้ทิศเบื้องซ้าย ร่ายรำท่าหงส์เหิน

 

เตะเท้าขวาย่างสามขุม เตะเท้าซ้ายย่างสามขุม เตะเท้าขวา พร้อมหมุนไป ทิศเบื้องหลังผ่านขวามือ ไหว้ทิศเบื้องหลัง ทำท่าดูดัสกร ทำท่าพระรามแผลงศรครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 โดยไหว้ครั้งที่ 3 โดยก้าวเท้าซ้าย ไปย่างสามขุม ยกเท้าซ้ายไปข้างหน้า กระแทกลงสู่พื้นด้านซ้าย ด้านขวาและตรงกลาง ยกเท้าซ้ายย่างสูงถอยหลัง สลับเท้าขวาจนถึงมุม เท้าชิด ไหว้ เสร็จการไหว้ครู

 

หัวใจของการร่ายรำ ไหว้ครูมวยไทย คือ การระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ที่ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชา และระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยปกป้องคุ้มครองรักษาให้รอดพ้นจากภัยอันตราย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทยตัวช่วยในการควบคุมอารมณ์

ดาวดวงใหม่แห่งวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) นักชกหญิง สมิลลา ซันเดลล์

มวยไทยตัวช่วยในการควบคุมอารมณ์

มวยไทยตัวช่วยในการควบคุมอารมณ์

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องที่รุนแรง ดูเหมือนว่า จะใช้อารมณ์เพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องมีการควบคุม อารมณ์ เป็นอย่าง และ มากกว่ากีฬา ประเภทอื่น ๆ

 

 

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่าเป็น กีฬา ที่ต้องใช้ความอดทน ในเรื่องขอว อารมณ์เป็นอย่างมาก เพราะว่า กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องมีการต่อสู้ ออกแรงเตะ ต่อย เพื่อให้ได้ชัยชนะ หลาย ๆ คนก็อาจจะคิดว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ใช้อารมณ์ เพียงอย่างเดียว หากเพื่อน ๆ คิดอย่างนี้ เราบอกได้เลยว่า เพื่อน ๆ คิดผิด เพราะว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่สามารถ ใช้อารมณ์ได้ เพราะถ้าหาก ใช้อารมณ์ ในการชกเมื่อไหร่ เมื่อย่อมแพ้ ดังนั้น วันนี้ เราจะมาดูกันว่า ทำไมมวยไทย ( Muay Thai ) ถึงเป็นตัวช่วยในการ ควบคุมอารมณ์  

 

 

1. ช่วยควบคุมอารมณ์ ได้เป็นอย่างดี

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ทำให้เรา สามารถควบคุม อารมณ์ ได้เป็นอย่างดี เพราะว่า กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องใช้พละกำลัง และ การควบคุมอารมณ์ ในการชก เพระว่า หากว่า ผู้ชก หรือ ผู้ที่ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ก็จะทำให้ การชก หรือ การซ้อม เป็นไปได้อย่างไม่ราบรื่น เพราะฉะนั้น ผู้ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ที่ดีจะต้อง รู้จักการควบคุม อารมณ์ของตัวเอง ยิ่งควบคุมตัวเองได้ดีเท่าไหร่ การฝึกก็ย่อมเป็นผลดี มากเท่านั้น หากผู้ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ไม่สามารถ ควบคุมอารมณ์ ของตัวเองได้ การแข่งขัน ก็จะมีแต่แพ้ ไม่มีทางชนะ

 

2. เป็นกีฬาที่ช่วย ในการระบายความเครียด

แม้ว่ามวยไทย ( Muay Thai ) จะเป็นกีฬา ที่ทำให้เราได้ออกแรง หรือ บางคน ก็ใช้มวยไทย ( Muay Thai ) ในการระบายอารมณ์ แต่ถึงอย่างไร ในการฝึก เราก็ควรที่จะมีสติ และ รู้ว่าอะไรคือ การซ้อม อะไร คือการ ระบายอารมณ์ และ ที่สำคัญ เราต้องแยกแยะ ให้ออก ว่าอะไรอารมร์ส่วนตัว หรือ ว่า อะไรคือ เหตุผล หากเรารู้ และ สามารถแยกแยะได้ กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นตัวช่วยที่ดี ในการ ระบายอารมณ์ และ ระบายความเครียด

 

3. ช่วยควบคุมสติ

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่เรียกสติของเรา ให้กลับมา เพราะว่า ในการซ้อม หรือ ในคลาสมวย หากเราซ้อมอย่างไม่มีสติ เราก็จะเกิดจากบาดเจ็บ จากการซ้อมได้ เพราะฉะนั้น การซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) เราต้องตั้งสติเสมอ อีกทั้ง การลงสนามในการชก หากเราชกอย่าง ไม่มีสติ ใช้แต่อารมณ์ เป็นใหญ่ การชกของเรา ก็จะ ไม่มีทาง ชนะได้ เพราะนั้น สติจึงถือว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ  

 

4. ช่วยฝึกในเรื่องของความอดทน

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้อง ใช้ร่างกายในการต่อสู้ ข้อดีนี้ หลาย ๆ คนก็รู้ดีว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องอดทน แต่การอดทน ในที่นี้ คือการอดทนของ อารมณ์ เพราะว่า การที่เรา โดนกระทำอยู่เรื่อย ๆ ก็จะทำให้เรา เกิดอารมณ์  อยากจะที่จะกระทบกระทั่ง ดังนั้น การมวยไทย ( Muay Thai ) จึงเป็นเรื่องที่ดี สำหรับ การฝึกความอดทน โดยความอดทนนี้ เราสามารถ อดทนได้ทั้งร่างกาย และ จิตใจของเรา ทำให้เรามีจิตใจ ที่แน่วแน่ ไม่อ่อนไหวง่าย

 

หากเพื่อน ๆ ต้องการที่จะ ฝึกร่างกาย และ ฝึกการควบคุมอารมณ์ เราก็แนะนำ ให้เพื่อน ๆ ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) เพราะว่า เป็นกีฬา ที่ช่วยในการฝึก สภาพจิตใจ และ ร่างกาย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข่าวดี ในวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) การร่วมมือกันระหว่าง ONE และ Amazon

ดาวดวงใหม่แห่งวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) นักชกหญิง สมิลลา ซันเดลล์

ดาวดวงใหม่แห่งวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) นักชกหญิง สมิลลา ซันเดลล์

ดาวดวงใหม่แห่งวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) นักชกหญิง สมิลลา ซันเดลล์

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มารู้จัก ดาวดวงใหม่แห่งวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) นักชกหญิง สมิลลา ซันเดลล์ เจ้าของฉายา The Storm จาก ค่ายแฟร์เท็กซ์ ค่ายดังแห่งเมืองพัทยา กันค่ะ

 

ถือเป็นเด็กปั้นจาก ค่ายแฟร์เท็กซ์ ที่น่าจับตามอง เพราะด้วยหน่วยก้าน บวกกับความสามารถที่เหลือล้น ทำให้เธอได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก ONE อย่างรวดเร็ว หลังจากประเดิมสังเวียน ไปเพียงแค่ไฟต์เดียวเท่านั้น

 

จนในศึก ONE 156 : รีเกียน vs อาเรียน เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา สมิลลา ซันเดลล์ ก็ไม่ทำให้กองเชียร์ต้องผิดหวัง เมื่อสามารถเอาชนะคะแนน แจ็กกี บุนตัน ไปได้อย่างขาดลอย  ผงาดคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย ( Muay Thai ) รุ่นสตรอว์เวต ( Strawweight ) ในวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น บอกเลยว่าฝีไม้ลายมือของ สมิลลา ซันเดลล์ ไม่ธรรมดา เพราะเธอเริ่มฝึก มวยไทย มาตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี ครองสถิติ 32-5-1 โดยชนะน็อกมาแล้ว 22 ครั้ง แถมยังเคยเอาชนะ คู่ต่อสู้ผู้ชายอกสามศอก มาแล้วด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก mthai

ดาวดวงใหม่แห่งวงการ มวยไทย ( Muay Thai )

โดยวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จัก แชมป์โลกสาววัยใส ชาวสวีเดน ให้มากขึ้นกว่าเดิม ผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ ทั้งใน และ นอก สังเวียนมวยค่ะ

 

สมิลลา ซันเดลล์ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว เมื่อโชว์ฝีมือเก่งเกินวัย คว้าชัยด้วยการน็อกเอาต์คู่แข่ง ชาวออสเตรเลีย ไดแอนดรา มาร์ติน เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา และ กลายเป็นที่รู้จัก ในฐานะนักมวยหญิงดาวรุ่ง มวยไทย คนใหม่ชั่วข้ามคืน

 

สมิลลา ซันเดลล์ เดินทางมาอยู่เมืองไทย และ เริ่มฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุ 12 ปี ปัจจุบัน เธออยู่ภายใต้การดูแลของ แฟร์เท็กซ์ ค่ายดังแห่งเมืองพัทยา โดยมีโอกาส ได้ฝึกซ้อมกับยอดฝีมือมวยไทยหลาย ๆ คนที่อยู่ค่ายเดียวกัน รวมถึง แสตมป์ ที่ สมิลลา ยกให้เป็นแบบอย่าง และ แรงบันดาลใจ ในการคว้าแชมป์โลกมวยไทยให้ได้

 

จะแข็งแกร่งเกินอายุ เพราะเธอได้มีโอกาสฝึกฝนวิชากับ นักชกระดับซูเปอร์สตาร์ ร่วมค่ายอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น แสตมป์ แฟร์เท็กซ์, เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ และ ยอดไก่แก้ว แฟร์เท็กซ์ จนกระทั่ง ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลกในปัจจุบัน

 

สมิลลา ซันเดลล์ เคยกล่าวว่า ฉันนับถือ แสตมป์ ( แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ) เหมือนพี่สาว พี่เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากค่ะ ฉันอยากเป็นเหมือนพี่แสตมป์ เขาคอยให้คำแนะนำ และ ช่วยให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น และ ก็คอยให้กำลังใจ ในการพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นค่ะ ค่ายแฟร์เท็กซ์ ช่วยเปิดโอกาสให้ฉันสร้างชื่อเสียง การได้ฝึกกับแชมป์โลก ที่นี่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันมาก ๆ ทำให้ฉันอยากฝึกให้เก่งกว่านี้ ไปอีกเรื่อย ๆ ค่ะ

 

เมื่อปีที่ผ่านมา สมิลลา ซันเดลล์ มีโอกาสขึ้นชกไฟต์พิเศษกับ พงษ์ศักดิ์ ศิษย์ผลเล็ก นักมวยชาย ในพิกัดเดียวกัน ซึ่งแม้จะต้องเผชิญหน้ากับ คู่ต่อสู้อกสามศอก แต่กำปั้นสาวน้อยวัย 17 ปีก็ไม่เคยกลัว และ เป็นฝ่ายเอาชนะน็อกได้ ไปเพียงแค่ยกแรกเท่านั้น คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ หากฝีมือ และ เชิงมวยของ สมิลลา ซันเดลล์ คนนี้

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ สมิลลา ซันเดลล์ ดาวดวงใหม่แห่งวงการ มวยไทย ที่เราได้นำมาเสนอกัน หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ที่ 3 สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

ข่าวดี ในวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) การร่วมมือกันระหว่าง ONE และ Amazon

ข่าวดี ในวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) การร่วมมือกันระหว่าง ONE และ Amazon

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เรามี ข่าวดี สำหรับแฟน ๆ กีฬา หรือ คนในวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) กับ การร่วมมือกันระหว่าง ONE และ Amazon ในการถ่ายทอดสด การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของ วัน แชมเปียนชิพ ผ่านช่องทาง Prime Video ค่ะ

 

Prime Video ช่องทางการถ่ายทอดสด กีฬาระดับพรีเมียม ขององค์กรธุรกิจระดับโลก Amazon ประกาศข้อตกลงความร่วมมือกับ ONE ในการถ่ายทอดสด การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของ วัน แชมเปียนชิพ ผ่านช่องทาง Prime Video เป็นจำนวน 12 รายการต่อปี โดยจะเป็นการเผยแพร่ การถ่ายทอดสดทุกคู่ ตลอดการแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ เฉพาะในสหรัฐอเมริกา และ แคนาดาเท่านั้น โดยคาดว่าจะเริ่มถ่ายทอดสด รายการแรกช่วงปลายปีนี้

ONE เป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ และ หนึ่งในสื่อกีฬาที่มียอดผู้รับชม และ การมีส่วนร่วมสูงสุดในโลก รายการแข่งขันของ ONE เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้ หลากหลายรูปแบบ โดยมีนักกีฬาระดับโลก จากกว่า 80 ประเทศ ร่วมลงแข่งในกติกา การต่อสู้แบบผสมผสาน ( MMA ), มวยไทย ( Muay Thai ), คิกบ็อกซิ่ง, ปล้ำจับล็อก และ การศาสตร์การต่อสู้ แขนงอื่น ๆ อีกมากมาย

นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธาน และ ซีอีโอของ ONE เปิดเผยว่า เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมงานกับ Prime Video หนึ่งในผู้ให้บริการคอนเทนต์กีฬา ระดับพรีเมียมรายใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อทำให้การแข่งขันสดของเรา เข้าถึงแฟนกีฬาในสหรัฐอเมริกา และ แคนาดา ได้ใกล้ชิดมากขึ้น ในฐานะองค์กรศิลปะการต่อสู้ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เราเชื่อว่าการทำงานร่วมกันกับ Prime Video จะช่วยให้เรา ขยายฐานผู้ชมในอเมริกาเหนือ ที่ต้องการเห็นกีฬาต่อสู้ของแท้ และ แตกต่างจากองค์กรอื่น เราตั้งตารอที่จะได้นำเสนอนักสู้ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกในสังเวียน ONE ผ่านทาง Prime Video

 

ขณะที่ มารี โดน็อกฮิว รองประธานฝ่ายวิดีโอ กีฬาระดับโลกของ Amazon กล่าวว่า เราภูมิใจที่จะได้เพิ่มคอนเทนต์พิเศษของ วัน แชมเปียนชิพ เข้ามาในหมวดการถ่ายทอดสด รายการกีฬาที่เรามีอยู่ นอกจากการนำเสนอ วิชาศิลปะการต่อสู้เต็มรูปแบบแล้ว ONE ยังมีเจตนารมณ์ ในการยกระดับนักกีฬาหญิง เช่นเดียวกับเราด้วย ซึ่ง ONE มีนักสู้หญิงในสังกัดมากกว่า 100 คน และ แชมป์โลกหญิง ที่ครองตำแหน่งอยู่ถึง 5 คนด้วยกัน

 

วัน แชมเปียนชิพ เป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยติดอันดับ 1 ใน 5 สื่อกีฬาระดับโลกที่มียอดผู้รับชมและการมีส่วนร่วมสูงสุด โดยมียอดแฟนกีฬาสะสมมากกว่า 400 ล้านคน ตามข้อมูลของ Nielsen ONE ผลิตและเผยแพร่อีเวนต์ระดับโลกในกว่า 150 ประเทศ โดยมีนักศิลปะการต่อสู้และแชมป์โลกจากกว่า 80 ประเทศที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบ ทั้ง MMA, มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, บราซิลเลียนยิวยิตสู และอื่นๆ สามารถรับชม ONE ได้ทางฟรีทีวีและสื่อดิจิทัลชั้นนำระดับโลก ได้แก่  Amazon Prime Video Sports, Star Sports, Beijing TV, iQIYI, One Sports, Abema, IB, NET TV, Vidio, Startimes, Mediapro, ไทยรัฐทีวี, VieOn, Skynet, Mediacorp, Spark Sport, Match TV, Dubai Sports, RedeTV และอีกมากมาย

 

เกี่ยวกับ Amazon Amazon ทำงานภายใต้หลักการ 4 ประการ ได้แก่

  • ให้ความสำคัญต่อลูกค้า มากกว่ามุ่งเน้นการแข่งขันทางธุรกิจ
  • ความหลงใหลในนวัตกรรม
  • การมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน
  • การมีวิสัยทัศน์

 

Amazon มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัท ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามากที่สุดในโลก เป็นนายจ้างที่ดีที่สุดในโลก และ เป็นสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดย Amazon ถือเป็นผู้บุกเบิก นวัตกรรมธุรกิจ และ ไลฟ์สไตล์ทางออนไลน์มากมาย ได้แก่ การรีวิวจากลูกค้า, การซื้อของในคลิกเดียว, คำแนะนำเฉพาะบุคคล, Prime, Fulfillment โดย Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, Career Choice, แท็บเล็ต Fire, Fire TV, Amazon Echo, Alexa, เทคโนโลยี Just Walk Out, Amazon Studios และ The Climate

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ การรวมมือระหว่าง ONE และ Amazon ที่เราได้นำมาเสนอกัน หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ที่ 3 สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

5 เหตุผลที่ทำให้มวยไทย เป็นที่นิมยม

5 เหตุผลที่ทำให้มวยไทย เป็นที่นิมยม

ในช่วงนี้ กีฬาที่เป็นที่นิยม ก็จะเป็น กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) และ เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยมไปตลอดกาล หลาย ๆ คนก็อาจจะสงสัยว่า ทำไมกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ถึงได้รับความนิยม ตลอดกาลอย่างนี้

 

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน หลายคน ๆ อาจจะมีความรู้สุกว่า เป็นกีฬา ที่ไม่ค่อย ได้รับความนิมยมแล้ว แต่จริง ๆ แล้วกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ได้หายไปไหน และ กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ยังคงเป็นกีฬา ที่เป็นที่นิยมอยู่ เหมือนเดิม และ อะไรเป็นเหตุผล ที่ทำให้กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ยังคงเป็นที่นิยม ที่ทำให้หลาย ๆ คน ยังคงหลงใหล ในเสน่ห์ของกีฬาประเภทนี้

 

5 เหตุผลที่ทำให้มวยไทย เป็นที่นิมยม

 

1. ยิ่งเรียนยิ่งน่าหลงใหล

สาเหตุ ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนล้มเลิก ในการออกกำลัง ไม่ใช่เป็นเพราะว่า ความเหนื่อยล้า หรือ การไม่มีเวลา ในการออกกำลังกาย แต่เป็นความน่าเบื่อ ในการออกกำลังกาย ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนนั้น ล้มเลิกไป เพราะว่ากีฬาอย่างอื่น ช่วงแรก ๆ ในการออกกำลังก็สนุก ตื่นเต้น น่าสนใจ แต่พอผ่านไปสักพัก ก็เริ่มเบื่อ เพราะความซ้ำจำเจ แต่ กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ต่างจาก กีฬาประเภทอื่น ๆ เพราะว่า กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่มีเสน่ห์ น่าค้นหา ทำให้ยิ่งเรียน ยิ่งฝึก ก็ยิ่งมีความน่าสนใจ น่าหลงใหล ไปกับการฝึกซ้อม เนื่องจาก กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่มีท่าทางต่าง ๆ ที่ทำให้เราต้องฝึกซ้อม มากมาย หลากหลายท่า ทำให้ยิ่งฝึก ก็ยิ่งมีเรื่องงที่ต้องพัฒนาทักษะ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และ นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนมีความสนใจ ในกีฬามวยไทย ( Muay Thai )

 

 

 

 

2. เบิร์นไขมันได้เป็นอย่างดี

หนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนเลือกที่จะมาฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ก็เป็นเพราะว่า กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ เบิร์นไขมัน ได้เป็นอย่างดี และ สามารถ เบิร์นไขมัน ได้มากกว่ากีฬาอื่น ๆ หากใคร ที่อยากจะลดน้ำหนัก อยากเฟิร์มหุ่นให้ดีขึ้น และ รวดเร็ว กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ทำให้เรา สามารถ ลดน้ำหนักได้เร็วกว่า กีฬาประเภทอื่น เพราะว่า การซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) ในแต่ละครั้ง มีการเผาผลาญแคลอรี่ ได้ถึง 1000 กิโลแคลอรี่ เรียกได้ว่า เป็นการเผาผลาญ ที่เยอะมาก ๆ ดังนั้น คนที่ต้องการ ลดน้ำหนัก จึงหันมาใช้กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ในการลดน้ำหนัก

 

3. คลายเครียดได้ดีมาก

เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่ไม่เคยเล่น กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ก็อาจจะคิดว่า เป็นกีฬา ที่ยิ่งเล่น ก็ยิ่งเครียด แต่จริง ๆ แล้วกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ช่วยลดความเครียด ได้ดีที่สุด เพราะว่า การเตะ การต่อย การใช้เข่า การใช้ศอก เป็นวิธีละบายความเครียด ได้ดีมาก ๆ การซ้อมมวยไทย ( Muay Thai ) จึงทำให้เรา คลายเครียดได้เป็นอย่างดี และ ได้ระบายความโกรธ ความแค้น ที่อัดอันอยู่ในใจ การที่เราได้ต่อย ได้ออกกำลังกาย ยังเป็นการ ทำให้ร่างกายของเรา ได้ปล่อยฮอร์โมนแห่งความสุข ออกมา ทำให้เรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เรายังเหนื่อยจนไม่มีเวลา มาคิดเรื่อง เครียด คิดเรื่องที่ทำให้เรา ปวดหัวอีกด้วย

 

4. ได้สังคมใหม่ ๆ

แน่นอนอยู่แล้วว่า ทุกครั้งที่เรายิม หรือ ไปที่คลาสเรียนมวยไทย ( Muay Thai ) เราก็ตะไม่ได้เจอ แค่ครู ที่สอนเรา แต่ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่มาซ้อมเช่นเดียวกันกับเรา และ ในการซ้อมจะได้เจอกัน ทำให้เรา ได้เจอ ได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ใหม่ ๆ ที่หลากหลายต่างวัย และ ต่างอาชีพ แตกต่างกันออกไป สำหรับใคร ที่ไม่อยากเหงา เราก็แนะนำ ให้เล่นกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) นะครับ นอกจากจะได้สุขภาพดีแล้ว เรายังได้เจอกับเพื่อนใหม่ ๆ อีกด้วย

 

5. ได้ฝึกป้องกันกันตัว

การป้องกันตัว เป็นเรื่องหลัก ๆ ที่ทำให้ใครหลาย ๆ เลือกที่จะมาเรียน และ เล่นกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว แม้ว่าจะไม่ได้ไปมีเรื่องใครก็ตาม แต่การที่เรา มีความรู้ในการป้องกันตัว ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ อย่างน้อย ๆ ความรู้นี้ เราก็เอาไม้ใช้ช่วยเหลือ คนอื่น ๆ หรือ คนรอบตัวเราได้

 

เพื่อน ๆ ก็คงจะได้เก็นเสน่ห์ ของกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) กันแล้วใช่ไหมครับ และ เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนก็คงจะหายสงสัย หากเพื่อน ๆ อยากเข้าใจแบบลึกซึ้งกว่านี้ เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองมาฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ด้วยกัน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อสุขภาพ อย่างไรบ้าง

การฝึก กระโดดเชือก ในกีฬา มวยไทย มีประโยชน์อย่างไร

การฝึก กระโดดเชือก ในกีฬา มวยไทย มีประโยชน์อย่างไร

การฝึก กระโดดเชือก ในกีฬา มวยไทย มีประโยชน์อย่างไร

หากใครได้เคยเห็น ตารางการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ของนักมวย จะทราบดีว่า นักมวยจะมีการฝึก กระโดดเชือก ( Jump Rope ) ร่วมด้วย ซึ่งการกระโดดเชือก จะมีประโยชน์อย่างไรต่อการฝึกนักมวยบ้าง เรามาติดตามกันครับ

 

การกระโดดเชือก ( Jump Rope ) เป็น การฝึกซ้อมของ นักมวย อย่างหนึ่ง ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นอกเหนือจากการวิ่ง และเล่นเวท ซึ่งหากใครเคยศึกษาในเรื่องนี้ หรือเคยเรียน มวยไทย มาก่อนคงพอรู้ในเรื่องนี้มาบ้าง ซึ่งการกระโดดเชือกของ นักมวยอาชีพ ถือเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่ง ที่นักมวยต้องทำการฝึกทุกวัน แล้วแต่การจัดตารางการฝึกของค่ายมวยนั้น ๆ แต่โดยส่วนใหญ่ มักทำการฝึก กระโดดเชือก หลังจากที่ฝึกการวิ่งเสร็จแล้ว

 

ประโยชน์จากการฝึก กระโดดเชือก

 

1. ฝึกทักษะการใช้ ฟุตเวิร์ค

 

ฟุตเวิร์ค ( Footwork ) คือ การเคลื่อนที่ของเท้าไปในทิศทางต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เช่น การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า การเคลื่อนที่ไปข้างหลัง การเคลื่อนที่ไปทางซ้าย และขวา ซึ่งมีความสำคัญต่อการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) สำหรับ นักมวย อย่างมาก ในการเคลื่อนเท้า เพื่อรุกไปยังคู่ต่อสู้ หรือหลบหลีกการออกอาวุธ จากคู่ต่อสู้ได้

 

หากใครเคยเห็นการ กระโดดเชือก ของนักมวย จะเป็นในรูปแบบ ย่ำเท้าซ้ายเท้าขวาสลับกันไปมาเรื่อย ๆ ขณะแกว่งเชือก ซึ่งเหมือนกับ ตอนแข่งขันบน เวทีมวย ที่ในขณะ นักมวย ยังวางท่า เพื่อเตรียมการรุก หรือรับ ไปยังคู่ต่อสู้อยู่ ขาของนักมวย จะมีการย่ำเท้า สลับไปมา ซ้ายขวา ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายหยุดนิ่ง และเตรียมพร้อมกับการรุก หรือรับไปยังคู่ต่อสู้ให้ได้มากที่สุด

 

การฝึกซ้อมด้วยการ กระโดดเชือก จึงถือว่าได้ว่าเป็นการฝึกทักษะในการเคลื่อนเท้า หรือใช้ ฟุตเวิร์ค ( Footwork ) ได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก มีรูปแบบในการย่ำเท้าที่เหมือนกัน แต่อาจแตกต่างในเรื่องของ ตำแหน่งในการวางเท้า ที่การกระโดดเชือก เท้าทั้ง 2 ข้าง จะอยู่ขนานกัน แต่การใช้ ฟุตเวิร์ด ในการแข่งขันจริง นักมวย จะอยู่ในท่าที่พร้อมต่อการเคลื่อนไหวมากกว่า จึงต้องวางเท้าในรูปแบบ หน้าและหลัง

 

2. ฝึกกำลังขา และแขน

 

ขณะกระโดดเชือก กล้ามเนื้อขา ของนักมวย จะถือได้ว่าทำงานอย่างหนัก จึงเป็นการฝึกกำลังขาได้ รวมไปถึง กล้ามเนื้อแขน จากการแกล่งเชือกด้วย การฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ด้วยการกระโดดเชือก เป็นประจำ จะถือว่าเป็น การฝึกความอดทนของ กำลังของขา และแขนไปในตัว ทำให้ขาของนักมวย มีความแข็งแกร่งขึ้นได้

 

3. ฝึกเรื่องสมาธิ

 

ในการ กระโดดเชือก นักมวย ต้องมีสมาธิอยู่กับ ปัจจุบัน ขณะที่กระโดดเชือก เพื่อให้ กระโดดเชือก ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นจังหวะสม่ำเสมอ คล่องแคล่ว และไม่มีสะดุด จากการใช้จังหวะในการกระโดด และการแกว่งเชือก ไปพร้อมกัน เพราะหากไม่มีสมาธิ หรือสมาธิหลุด อาจทำให้ เท้าสะดุดเชือกได้ การกระโดดเชือก จึงถือเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง สำหรับ นักมวย

 

4. ฝึกเรื่องการหายใจ

 

 

การแข่งขันมวยไทย มีความจำเป็นต้องใช้แรง และพลังกำลัง มากกว่า การทำกิจกรรมปกติ ซึ่งการใช้แรง ทำให้ร่างกายได้ใช้พลังงานมากกว่าปกติ และมีผลต่อการเต้นของหัวใจ ให้หายใจเร็วขึ้น เพื่อการนำ ออกซิเจน เข้าสู่ร่างกายมากขึ้นได้ ซึ่งการฝึกกระโดดเชือก เป็นประจำ จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ไม่เหนื่อยง่าย อีกด้วย

 

รู้ประโยชน์ของ การกระโดดเชือก ( Jump Rope ) แบบนี้แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ นักมวย ต้องมีการฝึกซ้อมร่างกาย ในรูปแบบนี้ด้วย เพราะ ประโยชน์ จากการ กระโดดเชือก เหล่านี้ จะช่วยส่งเสริม นักมวย ต่อการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ได้เป็นอย่างดี

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อสุขภาพ อย่างไรบ้าง

พันข้อมือ สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

นักมวยค่าตัวแพง ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

นักมวยค่าตัวแพง ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จัก นักมวยค่าตัวแพง ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) กันค่ะว่า แต่ละคนนั้นจะมาค่าตัวเท่าไหร่ การขึ้นชกแต่ละที ทำเงินได้มหาศาลขนาดไหน หากเพื่อน ๆ พร้อมแล้วตามมาอ่านได้ ในบทความนี้เลยค่ะ

 

นักมวยค่าตัวแพง ซึ่งอย่างที่เรา รู้กันดีว่านักชก มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นหากว่าโชว์ลีลา ได้ดีบนสังเวียน ให้เป็นที่น่าจดจำได้ ก็สามารถที่จะ ช่วยสร้างชื่อเสียง ให้กับตัวนักมวยเอง เป็นอย่างมากทีเดียว และ จะมีชื่อเสียงไปจนถึง ค่ายมวย และ โปรโมเตอร์ ซึ่งในการชกบนสังเวียน ตามงานต่าง ๆ นั้น ส่วนมากแล้ว นักมวย ก็จะได้ค่าตัว เริ่มต้นอยู่ที่ไฟต์ละ 300 จนถึง 2,000 บาท ตามแต่ประสบการณ์ ตามแต่กระดูกมวย ของตัวนักมวยเอง ที่สั่งสมมา

 

ซึ่งทางรายได้ดังกล่าว จะถูกค่ายมวย หักเปอร์เซนต์ออกไปตามแต่ ที่ได้ตกลงกันไว้ เพื่อเป็นค่าดูแลปลุกปั้น และ หากว่าเป็น นักมวยน้ำดี ฝีเท้าหนัก ๆ ก็จะ ขยับมาแข่งขัน บนเวทีใหญ่ ๆ อย่าง เวทีราชดำเนิน ลุมพินี ที่เป็นเวทีระดับ ประเทศของไทยเรานั่นเอง

 

แต่ปัจจุบันว่ากันต่อไปอีกว่า บรรดานักมวยไทยชื่อดัง หากขึ้นต่อยใน เมืองไทยในยุคนี้ อย่างเก่งค่าตัวก็อยู่ที่ 200,000250,000 บาทต่อไฟต์ เพราะผู้จัดเองก็ ประสบปัญหาขาดทุน จากยอดจำหน่ายตั๋ว ยิ่งถ้านำ นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ชื่อดังมาขึ้นเวที เป็นคู่เอก ของรายการนั้น ๆ ก็จะยิ่งมีค่าใช้จ่าย ที่สูงขึ้นเป็นทวีคูณ ดังนั้นแล้วเหล่า บรรดายอด นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งหลายที่ยังต่อยอยู่ จึงเลือกที่จะหันเห เส้นทางไปเซ็นสัญญา ขึ้นสังเวียนต่อย เวทีต่างประเทศ อย่างเช่น จีน มาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น เป็นต้น และ เชื่อหรือไม่ว่า ในปัจจุบันนี้ นักมวยที่มีชื่อเสียงนั้น มีค่าตัวเป็นหลัก แสน หรือ ล้าน กันเลยก็มี ซึ่งวันนี้เราจะ มาดูกันว่าใน ค่าตัวนักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่มีค่าตัวแพง นั้นจะมีใครบ้างมาดูกันเลย

1. บัวขาว บัญชาเมฆ

แน่นอนว่าสำหรับ ยอด นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) อย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ หรือที่ในวงการ ให้ฉายาว่า ดำดอทคอม รายได้ของเขานั้น มีมากถึง 4,000,000 บาท แต่สำหรับใน ต่างประเทศ นั้นเรียกเขาว่า แบล็คโกลด์ นักชกฝีมือดี ที่เริ่มเข้าวงการ กีฬามวยตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ เคยอยู่ในสังกัด ค่ายป.ประมุข และ คว้าแชมป์ มาแล้วหลายรายการ และ ในปัจจุบันนี้ บัวขาว เองก็ได้เปิด ค่ายมวยของตัวเอง ที่แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ในชื่อค่ายว่า บัญชาเมฆ เพื่อได้ให้เด็กรุ่นใหม่ และ สำหรับผู้ที่ สนใจในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ได้มีโอกาสฝึกซ้อม และ พัฒนากันต่อไป

2. สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง

สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง เรียกได้ว่าเขานั้น เป็น  นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่มีชื่อเสียงระดับ มวยแม่เหล็ก แห่งวงการคิกบ็อกซิ่ง อันดับต้น ๆ ของโลก พร้อมพ่วงดีกรีแชมป์โลก มวยไทย ( Muay Thai ) และ คิกบ็อกซิ่ง ถึง 12 สมัย จัดได้ว่าเป็นมวยซ้าย ที่อันตรายที่สุด คนหนึ่งของยุคเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าเขาจะ เปิดตัวไม่ค่อยที่จะ สวยงามนักใน วัน แชมเปียนชิพ ( ONE Championship ) แต่ทาง สิทธิชัย เชื่อว่าเขาจะสามารถ กลับมาทวงความ ยิ่งใหญ่ในฐานะ นักชกที่เก่งกาจ ที่สุดในโลกได้ และ รายได้ของเขานั้น มากถึง 1,500,000 บาท

3. ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์

แชมป์โลก มวยไทย ( Muay Thai ) หลายสมัยอย่าง ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์ มีรายได้กว่า 1,200,000 บาท เขาคือ นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ชื่อดัง และ ประสบความสำเร็จ มากที่สุดคนหนึ่ง ในระดับโลก เขาได้เติบโตท่ามกลาง ความแห้งแล้ง ในภาคอีสาน เขาเริ่มเข้ามาเป็น นักชก มวยไทย ( Muay Thai ) ในงานวัดมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เพื่อค่าตัวเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น

 

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ นักมวยค่าตัวแพง ที่เราได้นำมาเสนอกัน หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ที่ 3 สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อสุขภาพ อย่างไรบ้าง

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อสุขภาพ อย่างไรบ้าง

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ถือเป็น การออกกำลังกาย รูปแบบหนึ่ง ที่คนในยุคนี้นิยม หันมา เรียนมวยกัน ในยิมมวย หรือค่ายมวยต่าง ๆ โดยประโยชน์จากการฝึก มวยไทย จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง เรามาติดตามกันครับ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับประโยชน์ด้านสุขภาพ มีอะไรบ้าง ?

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย ควบคุมน้ำหนัก

 

สำหรับการชกมวย ก็ถือว่าเป้นการ ออกกำลังกาย ที่จะคล้ายกับ คาร์ดิโอ ( Cardio ) โดยมันจะไปเพิ่ม อัตตราการเต้นของหัวใจ และ จะมีการเผาผลาญไขมัน และ แคลอรี่ หากเรานั้นทำการชกมวย แบบ มวยไทย ( Muay Thai ) สัก 1 ชั่วโมง จะสามารถเผาผลาญได้ 350 ถึง 450 แคลลอรี่ เลยทีเดียว

 

แต่ทั้งนี้ การเผาผลาญ จะขึ้นอยู่กับ ขนาดร่างกาย ของผู้ฝึกมวยไทยด้วย เพราะในการ ออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ ( Cardio ) อย่าง มวยไทย ( Muay Thai ) จะช่วยลดน้ำหนักได้จริง แถมยังช่วยลด ไขมันหน้าท้องได้ดีอีกด้วย เพราะในการออกหมัด และการเตะ ก็ต้องใช้กำลังจากลำตัว และ หน้าท้อง เพื่อทำการพยุ่งตัวเองนั่นเอง

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย สร้างความยืดหยุ่น ให้ร่างกายมีความสมดุล

 

ในการต่อย หรือ ว่าเตะ ที่เป็นท่าประจำของ มวยไทย ( Muay Thai ) ซึ่งมันจะต้องใช้ความแข็งแรง ของลำตัวเป็นอย่างมาก และ มันก็จะทำให้ความสมดุล ของร่างกายเกิดขึ้น เพราะในการออกหมัด หรือ ว่าการยกขาเตะ ที่มั่นคงก็ตาม ทำให้ร่างกายของเรานั้น ได้มีการเรียนรู้ และ ทำให้การทำงาน ที่สอดคล้อง และ ประสานกัน โดยทำให้ท่าทางทุกอย่าง มีความถูกต้อง และ มีประสิทธิภาพด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นจึงทำให้ความยืดหยุ่น ของร่างกายเรานั้น ได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ จึงทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) ได้เป็นกีฬา ที่มีความส่งเสริม สมรรถภาพร่างกาย ทั้งสามอย่าง ได้ในหนึ่งเดียวอีกด้วย

 

 3. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยขจัดความเครียดได้

 

ในยุคนี้ คนเรามีเรื่องให้เครียดกันได้ง่าย จากการงาน การเรียน สังคมรอบตัวเรา และสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย และหลายคน ก็ย่อมมีวิธีคลายเครียด ที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางวันเรานั้น อาจจะ ทำงานหนักมาทั้งวัน หรือ เจอเรื่องราวต่าง ๆ ที่ไม่เคยพอใจนัก เราอาจจะไม่ได้ต้องการ ที่จะดื่มเบียร์เย็น ๆ หรือ กลับบ้านไปนอนเฉย ๆ หรือ เอาแต่คิดเรื่องที่กังวล ซ้ำไป ซ้ำมา หรอก บางทีกิจกรรม ทางร่างกายหนัก ๆ เช่น การออกกำลังกาย ก็ถือว่าเป็นตัวเลือก ที่น่าจะได้ผลอย่างหนึ่งเช่นกัน

 

ซึ่งการออกกำลังกาย ในรูปแบบของการชก มวยไทย ( Muay Thai ) จะสามารถ ลดความรู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า และ ความโกรธได้ด้วย เพราะในการเคลื่อนไหว ท่าทางที่ซ้ำ ๆ กัน มันจะมีตัวช่วย ในการผ่อนคลาย และ หากเรานั้น ได้มีการออกำลังกายหนัก ๆ ทำให้สมองของเรา ได้มีการหลั่งสารเคมีหลายชนิด เช่น เอนดอร์ฟิน และ เซโรโทนิน ที่ช่วยละลายความเครียด และทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ด้วย

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วย ฝึกสมาธิ

 

ใน มวยไทย ( Muay Thai ) นั่น มีการใช้ท่าทางหลายอย่าง ที่เราจะต้องจดจำ และ เข้าใจท่าทางของมัน เพื่อการแม่นยำ และ ถูกท่า ก็จะถือว่าเป็นการ ออกกำลังกาย ที่ไม่ใช่แค่จะบริหารร่างกายของเราเท่านั้น มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วยเพิ่มสมาธิ ของเราไปในการด้วย เรานั่นจะต้องใช้สมาธิ กับการใช้ท่าทาง การวางตำแหน่ง ของร่างกาย มวยไทย ( Muay Thai ) จึงเป็นกีฬา ที่จะสามารถบริหารร่างกาย และ สมองได้พร้อม ๆ กัน

 

และนี่ก็เป็น 4 ประโยชน์ ทางด้านสุขภาพของ การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) รู้กันแบบนี้แล้ว หากใครที่กำลังมองหา สถานที่เรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ “เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) มีทั้งหมด 3 สาขา คือ สาขาศรีนครินทร์ สาขารัชดา และสาขาข้าวสาร

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ความแตกต่าง ของ มวยไทย VS มวยสากล

พันข้อมือ สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

ความแตกต่าง ของ มวยไทย VS มวยสากล

ความแตกต่าง ของ มวยไทย VS มวยสากล

หลายคนคงมีความสงสัยว่า มวยไทย ( Muay Thai ) และมวยสากล ( Boxing ) ที่รู้จักกันในบ้านเรานั้น มีการเล่น หรือกฎกติกาที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราเลยมาเปรียบเทียบ ความแตกต่าง ของมวยทั้ง 2 ชนิดนี้กัน

 

มวย เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ต้องมีทักษะการต่อสู้ โดยใช้ทุกส่วนของ ร่างกาย แต่มวยที่เรารู้จักกันนั้น มีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือ มวยไทย และมวยสากล เป็นกีฬามวยเหมือนกัน แต่จะมีความต่างกัน ดังนี้

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ( Martial Art ) และเป็นกีฬา ( Sport ) ประจำชาติ เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงในยุคปัจจุบัน เมื่อสมัยก่อนมีการฝึกฝน การต่อสู้ด้วยมือเปล่า เพื่อรบกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการรบระยะประชิดตัว  คนไทยจึงได้ฝึกหัดการ เตะ ถีบคู่ต่อสู้ เพื่อให้เกิดการได้เปรียบ

 

กีฬามวยไทย เป็นกีฬาที่สามารถใช้ได้ทุกส่วนของอวัยวะของร่างกาย ในการ ต่อสู้ ด้วยมือเปล่า จนได้รับการยอมรับว่าเป็น การต่อสู้ ที่ผสมผสานของศาสตร์ และศิลป์ได้อย่างสวยงาม ในปัจจุบันได้รับการยอมรับไปทั่วโลก มวยไทยเป็นทั้งศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตนเอง ( Self defense ) และเป็นกีฬาสมัครเล่นหรืออาชีพ ( Amateur or professional )

 

กติกาการแข่งขันมวยไทย

 

กีฬามวยไทย สามารถใช้ได้ทุกส่วนของอวัยวะของร่างกาย และถือว่าอันตรายมาก ๆ ในปัจจุบัน นักมวย ต้องสวมนวมขนาด 4 ออนซ์ สวมกางเกงขาสั้นสวมกระจับ สวมปลอกรัดเท้าหรือไม่ก็ได้ มวยไทยจะชกด้วยกันทั้งหมด 5 ยก โดยจะขึ้นชก 3 นาที พัก 2 นาที การแข่งขันมีกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวที 1 คน กรรมการในการให้คะแนนข้างเวทีอีก 2 คน ให้คะแนนยกละ 10 คะแนน การแข่งจะแบ่งเป็นรุ่นตามน้ำหนัก

 

การให้คะแนน

- ฝ่ายใดใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก ถูกต้องตามกติกา กระทำคู่ต่อสู้ได้หนักหน่วง บอบช้ำ และรุกมากกว่าเป็นผู้ชนะ

- นักมวย ฝ่ายใด มีชั้นเชิงมวยไทย ในการ รุก รับ หลบ ตอบโต้ ได้ดีกว่าเป็นผู้ชนะ

 

การฟาวล์

- หากผู้เล่นทำฟาวล์ ( foul ) ต้องตัดคะแนนตามที่ผู้ชี้ขาดสั่งให้ตัดคะแนน

- ถ้าผู้ตัดสินเห็นการฟาล์วอย่างชัดเจน แต่ผู้ชี้ขาดไม่เห็น ผู้ตัดสินสามารถตัดคะแนนตามความเหมาะ พร้อมระว่าทำฟาวล์ด้วยเหตุผลใด

 

มวยสากล ( Boxing ) หรือที่เรียกในยุคแรกว่า "มวยฝรั่ง" เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมาแต่โบราณ สู้กันด้วยหมัดทั้ง 2 ข้าง โดยเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของทหารในสนามรบ และกลายเป็นเกมกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิกยุคโบราณ ไม่จำกัดน้ำหนัก ไม่สวมที่ป้องกันตัว ใช้เพียงหมด ไม่มีกฎกติกามากนัก แต่นักมวยต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมดทั้งตัว ในปี 2236 เจมส์ ฟิกซ์ ( James Figg ) ผู้ชนะการแข่งขัน จนได้รับให้เป็น ” บิดาแห่งมวยสากล ” ได้กำหนดกฎกติกาขึ้นมา จนมีคนอื่น ๆ ที่ชนะการแข่งขัน แล้วสร้างนวมตามมา และได้พัฒนามาเป็นเกมกีฬาที่กติกาในปัจจุบัน

 

กติกาการแข่งขันมวยสากล

- จำนวนยกในการแข่งขัน การขึ้นชกจะแบ่งเป็น 12 ยก เวลา 3 นาที หยุดพักระหว่างยก 1 นาที สู้จนครบ 12 ยก แล้วจะรวมคะแนนว่าใครชนะ

-  กรรมการ การแข่งขัน มีกรรมการให้คะแนนชี้ขาด 3 คน กรณีกรรมการ 3 คนให้ชนะ 1 เสมอ 2 จะดูผลคะแนนกรรมการที่ให้เสมอ 2 ยกหลังเท่านั้น ( บางหนกรรมการห้ามบนเวทีก็มีสิทธิ์ให้คะแนนด้วย )

- การตัดสิน สามารถน็อคเอาท์ ( Knockout ) คู่ต่อสู้ได้ เมื่อทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงกับพื้นเวที หรือยืนพับหมดสติอยู่กับเชือก ไม่สามารถที่จะชกต่อ หรือป้องกันตัวได้อีกภายใน ๑๐ วินาที ระหว่างที่กรรมการนับ จะถือว่าชนะทันที

- การให้คะแนน ยกหนึ่งมี 10 คะแนน เมื่อหมดเวลา 1 ยก กรรมการจะให้คะแนน ผู้ที่ชกดีกว่า 10 คะแนน และให้คะแนนผู้เสียเปรียบลดน้อยลงไปตามลำดับความเสียเปรียบในยกนั้น ถ้าชกพอกันจะให้ 10 คะแนนเท่ากัน

- ฟาวล์ ( foul ) หากกรรมการเตือนนักชกคนใดว่าทำฟาวล์ จะถูกหักคะแนน 1 คะแนน โดยจะให้สัญญาณมือแก่กรรมที่ให้คะแนน

 

มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว แตกต่างจากมวยสากล ที่นอกจากจะใช้หมัดชกคู่ต่อสู้แล้ว ยังใช้เท้า และศอกต่อสู้ได้ แต่มวยสากลจะใช้ได้แค่หมัดอย่างเดียว และจำนวนยกที่ต่างกัน มวยไทยจะชก 5 ยก มวยสากลจะชก 12 ยก แต่ถึงจะมีความต่างกันอย่างไร มวยทั้ง 2 ชนิด ก็ยังเป็น กีฬาที่ช่วยฝึกฝนความอดทน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งเป็นที่ยอมรับกัน อย่างแพร่หลาย อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เครื่องรางของขลัง คู่กาย นักมวย ในสมัยก่อน

เผยที่มาของ การแบ่งฝั่ง มุมแดงมุมน้ำเงิน ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

พันข้อมือ สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

พันข้อมือ สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

หมัด ถือได้ว่าเป็น การออกอาวุธที่ นักมวย ใช้มากที่สุดในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวย จึงจำเป็นต้อง พันข้อมือ เพื่อป้องกัน แรงกระแทก ในส่วนของข้อต่อ ข้อมือ และสันหมัด

 

ในการออกอาวุธในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ของนักมวย อันได้แก่ มือ ขา เข่า และศอก อวัยวะที่มีการใช้มากที่สุดคงหนีไม่พ้น การใช้มือ ในการออกหมัด ชก ต่อย ไปยังคู่ต่อสู้ นักมวย จึงต้องมีการใส่นวม พร้อมด้วย การพันข้อมือด้วย ผ้าพันมือ เพื่อลด หรือป้องกัน แรงกระแทกในส่วนของ ข้อต่อ ข้อมือ และสันหมัด โดยตาม ระเบียบและกติกา การแข่งขันมวยไทย ได้มีข้อกำหนด เกี่ยวกับ ผ้าพันมือ ไว้ดังนี้

 

1. ในการแข่งขัน นักมวย ต้องพันมือด้วย ผ้าพันมืออย่างอ่อน ข้างละ ไม่เกิน 6 เมตร กว้างไม่เกิน 5 เซนติเมตร

 

2. ในการแข่งขัน นักมวย อาจใช้พลาสเตอร์ หรือแถวกาวยาง ข้างละ ไม่เกิน 2.5 เมตร กว้าง 2.5 เซนติเมตร ปิดทับข้อมือ หรือหลังมือ ห้ามพันทับสันหมัด โดยเด็ดขาด

 

3. ในการแข่งขัน นักมวย ต้องใช้ผ้าพันมือ ที่นายสนามมวย หรือผู้จัดรายการแข่งขันมวย จัดไว้ให้เท่านั้น ห้ามใช้ผ้ามืออื่น นอกเหนือจาก ที่จัดไว้โดยเด็ดขาด

 

4. การพันมือ ต้องได้รับการตรวจ และประทับตราจาก เจ้าหน้าที่ เพื่อรับรองว่า เป็นไปตามข้อกำหนดแล้ว จึงให้สวมนวมได้

 

วิธีการพันข้อมือที่ถูกต้อง

 

1. เลือกใช้ผ้าพันมือ แบบมีห่วง สำหรับสอดนิ้วโป้ง และมีตีนตุ๊กแก ซึ่งจะช่วยให้พันข้อมือได้สะดวกยิ่งขึ้น

2. เริ่มจากนำนิ้วโป้งสอดเข้าไปในห่วงของผ้าพันมือให้เรียบร้อย

3. จากนั้น ให้พันวนรอบด้านหลังมือ พร้อมดึงผ้าให้ตึง

4. ต่อมาให้พันบริเวณข้อมือสัก 3-4 รอบ ขึ้นอยู่กับความยาวของผ้าพันมือที่เลือกใช้ เพราะยิ่งยาวก็ยิ่งพันได้หลายรอบ ซึ่งช่วยซัพพอร์ตข้อมือได้ดีกว่า

5. แล้วให้ขยับขึ้นมาพันรอบฝ่ามือสัก 3-4 รอบเช่นกัน ซึ่งในการพันแต่ละรอบ ควรดึงผ้าให้ตึงอยู่เสมอ

6. จากนั้นให้พันผ้าเป็นรูปกากบาท โดยพันไขว้ขึ้นเข้าไปในช่องระหว่างนิ้วก้อยและนิ้วนาง แล้วพันกลับขึ้นมาทางช่องระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง

7. พันเป็นรูปกากบาท เข้าไปในช่องระหว่างนิ้วที่เหลือ ซึ่งก็คือระหว่างนิ้วนางและนิ้วกลาง กับระหว่างนิ้วกลางและนิ้วชี้         

8. ดึงผ้าให้ตึง แล้วพันผ้ารอบนิ้วโป้ง 1 รอบ

9. ต่อมาให้พลิกฝ่ามือขึ้นเพื่อพันผ้าสำหรับล็อกนิ้วโป้ง โดยการพันที่ข้อมือและนิ้วโป้งตามภาพ

10. จากนั้น ให้พันผ้ารอบฝ่ามืออีก 3 - 4 รอบ พันให้แน่นเข้าไว้ ส่วนผ้าที่เหลือ ให้ใช้พันข้อมือสลับกับ ฝ่ามือจนสุด แล้วปิดทับด้วยตีนตุ๊กแก ก็เสร็จเรียบร้อย

 

การพันข้อมือ ไม่ได้จำเป็นเฉพาะ นักมวย เท่านั้น แต่สำหรับ ผู้เรียน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อออกกำลงักาย หรือเรียนเพื่อป้องกันตัว ก็จำเป็นต้องพันข้อมือ เช่นกัน เพราะจะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่มือได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากฟิตร่างกายกับมวยไทย ขอแนะนำ เจริญทองมวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) มีเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิด มีทั้งหมด 3 สาขา คือ สาขาศรีนครินทร์ สาขารัชดา และสาขาข้าวสาร

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เครื่องรางของขลัง คู่กาย นักมวย ในสมัยก่อน

เผยที่มาของ การแบ่งฝั่ง มุมแดงมุมน้ำเงิน ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

จรรยาบรรณ ของบุคคลในวงการ มวย ( Muay Thai )

จรรยาบรรณ ของบุคคลในวงการ มวย ( Muay Thai )

ในทุกสาขาอาชีพ ย่อมมีหลักประพฤติปฏิบัติอันเหมาะสม ที่เรียกว่า จรรยาบรรณ ให้คนในอาชีพเหล่านั้น ยึดถือปฏิบัติ ซึ่งอาชีพ นักมวย และบุคคลในวงการ มวย ( Muay Thai ) ก็มีจรรยาบรรณ สำหรับคนในวงการนี้ เช่นกัน

 

ก่อนอื่น เราต้องมา ทำความรู้จักกันก่อนว่า บุคคลในวงการมวย มีใครกันบ้าง โดยตามพระราชบัญญัติ กีฬามวย พ.ศ.2542 ได้ระบุว่า บุคคลในวงการมวย ประกอบด้วย นักมวย ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ผู้จัดการนักมวย หัวหน้าค่ายมวย นายสนามมวย และผู้จัดรายการแข่งขันมวย ซึ่งแต่ละบุคคลในวงการมวย จะถูกนิยามความหมายไว้ ดังต่อไปนี้

 

นักมวย หมายความว่า ผู้ซึ่งเข้าแข่งขันกีฬามวย

ผู้ฝึกสอน หมายความว่า ผู้ซึ่งทำหน้าที่ฝึกสอน ศิลปะมวยไทย หรือมวยสากล

ผู้ตัดสิน หมายความว่า ผู้ห้ามมวยบนเวที และผู้ให้คะแนนในการแข่งขัน กีฬามวย

ผู้จัดการนักมวย หมายความว่า ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้แทน และจัดการดูแล ผลประโยชน์ของ นักมวย โดยได้รับค่าตอบแทน

หัวหน้าค่ายมวย หมายความว่า ผู้เป็นเจ้าของค่ายมวย

นายสนามมวย หมายความว่า ผู้ทำหน้าที่จัดการ หรือดำเนินกิจการสนามมวย

ผู้จัดรายการแข่งขันมวย หมายความว่า ผู้จัดให้มีการแข่งขันกีฬามวย

 

จรรยาบรรณของบุคคลในวงการมวย

 

จรรยาบรรณ คือ หลักความประพฤติปฏิบัติอันเหมาะสม แสดงถึงคุณธรรม และจริยธรรมที่พึงปฏิบัติในการประกอบวิชาชีพ โดยจรรยาบรรณของ แต่ละอาชีพ มักถูกกำหนดด้วย หน่วยงานที่ควบคุม และคุ้มครอง อาชีพนั้น ๆ เช่น จรรยาบรรณครู ถูกกำหนดโดย คุรุสภา หรือ จรรยาบรรณทนายความ ถูกกำหนดโดย สภาทนายความ เป็นต้น

 

สำหรับ จรรยาบรรณของ ผู้ที่ประกอบอาชีพเป็น บุคคลในวงการมวย ได้มีการกำหนดไว้ตามกฎกระทรวง พ.ศ.2545 ว่าด้วย มาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ และจรรยาบรรณของบุคคลในวงการกีฬามวย หมวด 2 ข้อ 8 ได้มีการระบุถึง จรรยาบรรณที่ บุคคลในวงการมวย พึงประพฤติปฏิบัติ ดังนี้

 

1. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วย กีฬามวย รวมทั้ง ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศที่คณะกรรมการกีฬามวยกำหนด

2. ต้องประกอบอาชีพด้วยความซื้อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย อย่างเต็มความสามารถ

3. ไม่กระทำการใด ๆ อันอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ แห่งวงการมวย

4. ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ โดยไม่ชอบธรรม หรือใช้อิทธิพลข่มขู่ หรือให้ผลประโยชน์แก่บุคคลใด ในวงการกีฬามวย เพื่อให้ตนเอง หรือผูอื่นได้รับประโยชน์ตอบแทน

5. ไม่เรียก รับ หรือยอมรับ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ

6. อนุรักษ์ และพัฒนากีฬามวย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ และวัฒนธรรมประจำชาติ ให้มีมาตรฐานสูงยิ่งขึ้น

7. ต้องยึดหลักความยุติธรรรมในการประกอบอาชีพ โดยไม่คำนึงถึง ฐานะ เชื้อชาติ ศาสนา หรือลัทธิการเมือง และถือปฏิบัติตามจารีต ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงาน ของวงการกีฬามวย

 

หากบุคคลในวงการมวย ฝ่าฝืนจรรยาบรรณ รวมถึง มาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ ผู้นั้นจะถูก พิจารณาดำเนินการ หรือถูกกล่าวโทษไว้ฝ่าฝืน ไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ คณะกรรมการกีฬามวยกำหนดไว้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

17 มีนาคม วันนักมวย วันสำคัญของ มวยไทย ( Muay Thai )

คุณประโยชน์ มวยไทย ( Muay Thai )

ท่ายืดกล้ามเนื้อ ที่นักมวยใช้

ท่ายืดกล้ามเนื้อ ที่นักมวยใช้

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้อง มีการใช้ร่างกาย เพื่อปะทะ หรือ ต่อสู้ แต่ก็คงมีเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนสงสัยว่า นักมวย เขามีการวอร์ม ร่างกายอย่างไร

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่า เป็นกิจกรรม ที่ดีต่อร่างกาย เพราะ ช่วยให้ร่างกาย ของเราแข็งแรง และ ยังช่วยทำให้เรา มีหุ่นที่ดี หุ่นที่สวย การเล่นกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องมีการใช้ ร่างกายในการปะทะ ไม่ว่าจะเป็น มือ เท้า เข่า ศอก ขา รวมไปถึง กล้ามหน้าท้อง และ ศีรษะ โดย มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นเป็น กีฬา ที่ต้องใช้ทุกส่วน ของเร่างกายแล้ว นักมวย มีการวอร์มร่างกายอย่างไร และ ใช้ท่าอะไรบ้าง ในการวอร์มร่างกาย ไปดูกัน

 

ท่ายืดกล้ามเนื้อ ที่นักมวยใช้

 

1. ท่าไหว้ครู

เริ่มกันด้วยท่าแรก กับท่าไหว้ครู ที่ลหาย ๆ คนเข้าใจว่า เป็นการเคารพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของมวยไทย ( Muay Thai ) หรือ เป็นการไหว้ครู บาอาจารย์ นอกจากนี้ ท่าไหว้ครู ยังเป็นการยืดกล้ามเนื้อ การวอร์มร่างกาย ที่ดีของนักมวย และ การไหว้ครู ยังเป็น สิ่งที่สำคัญ สำหรับ กีฬามวยไทย ( Muay Thai )

 

2. การชก

การชก เป็นท่าทาง ที่เราสามารถเห็นได้ ทั่วไป ที่นักมวยหลาย ๆ คน มักจะทำกัน หรือ บางคนก็คิดว่า การชก เป็นการซ้อมของนักมวย แต่จริง ๆ แล้ว การชก ของนักมวย ก็เป็นการวอร์มร่างกาย ได้เหมือนกัน เพราะว่า การชก เป็นการยืดกล้ามเนื้อ ช่วงแขน ข้อมือ หัวไหล่ เพื่อให้ร่างกาย ของเรา สามารถออกกแรง และ ชกได้อย่างเต็มที่ การชกมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การชกหมัดตรง หมัดฮุก หมัดอับเปอคัด หมัดเฉียง ศอกกลับ โดยการชก สามารถ ชกลม หรือ ชกกระสอบทราย ก็ได้

 

3. การเตะ หรือ ลูกเตะ

การเตะ หรือ ลูกเตะ ท่านี้ จะเป็นท่าที่เน้น การบริหารกล้ามเนื้อขา และ ข้อเท้าของเรา และ การเตะ ยังเป็นเอกลักษณ์ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ว่าจะเป็น การเตะตรง การเตะเฉียง การเตะตัด การเตะกลับหลัง การวอร์มร่างกาย ด้วยการเตะนั้น จำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องมีกระสอบทราย เพื่อใช้วัด ความแรงในการเตะ

 

4. ยืดกล้ามเนื้อ แกนกลางลำตัว

ลำดับถัดมา ก็จะเป็นการยืดกล้ามเนื้อ ส่วนกลางลำตัว เช่น สะโพก เอว หลัง ที่เป็น ส่วนสำคัญ และ หัวใจหลักในการ เคลื่อนไหวของร่างกาย โดยท่านี้ จะทำให้การออกอาวุธ ในกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) มีพลังอย่างมาก

 

5. ท่ายืดกล้ามเนื้อ

ท่าสุดท้าย ท่ายืดกล้ามเนื้อ เป็นท่าที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้ กล้ามเนื้อของเรา กลับสู่ภาวะปกติ โดย ท่านี้จะเป็นการ เหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อของเรา กลับสู่ภาวะปกติ  และ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง เพื่อไม่ให้ กล้ามเนื้อของเรา เกิดการบาดเจ็บ

 

การยืดกล้ามเนื้อ ฉบับมวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อน ๆ สามารถทำตาม กันได้นะครับ โดยเริ่มจาก การยืดกล้ามเนื้อ ตั้งแต่ ท่าง่าย ๆ ไปจนถึง ท่าที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ การยืดกล้าเนื้อ ฉบับมวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นสิ่งที่ น่าสนุก และ ทำให้การยืดกล้ามเนื้อ ของเราไม่น่าเบื่อ อีกต่อไป นะครับ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหน ที่อยากจะฝึก หรือ มีความสนใจ ในกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) แล้วอยากจะฝึก ก็สามารถ มาฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกสายตาว่องไว ด้วยมวยไทย

17 มีนาคม วันนักมวย วันสำคัญของ มวยไทย ( Muay Thai )

มวยกรง อีกขั้นของ ศิลปะการต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai )

มวยกรง อีกขั้นของ ศิลปะการต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai )

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ มีใครรู้จัก มวยกรง หรือ มวย 8 เหลี่ยม บ้างค่ะ ใช่ค่ะมันคือสังเวียนการต่อสู่ MMA ซึ่งเรียกได้ว่า ต้องชิงไหวพริบ และ มีความรุนแรง ไม่แพ้ ศิลปะการต่อสู้ อย่าง มวยไทย ( Muay Thai ) เลยทีเดียว มาดูกันดีกว่าค่ะว่า แตกต่างจากมวยไทยอย่างไร

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ บนสังเวียนที่ ได้รับความนิยมมาก แต่ด้วยวิธีการชก ที่เปลี่ยนแปลงไป มีทั้งการชกแบบปกติ กับการชกแบบแท็คติค ที่อาศัยการเข้าคลุกวงใน กอด รัด เหวี่ยง ทุ่ม จนทำให้เสน่ห์ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) บางครั้ง หายไปแบบไม่น่าสนใจ น้อยคู่มาก ที่จะเป็นการชกมวย แบบฟาดปาก แลกหมัดกันแบบ สู้ไม่ถอยจริง ๆ นั่นทำให้ฝ่าย จัดการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) เริ่มมองหา วิธีการต่อสู้แบบใหม่ เพื่อตอบสนอง คนดูให้มากขึ้น จึงออกมาในชื่อ ที่เราเรียกว่า มวยกรง

 

ประวัติ ความเป็นมาของ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts )

มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) นั้น เป็นสังเวียนต่อสู้บน เวที 8 เหลี่ยม ลักษณะจะมีลูกกรง ล้อมรอบเวที ส่วนชื่อการแข่งขัน ก็เปลี่ยนแปลงไป ตามองค์กรของตัวเอง และ สปอนเซอร์ หากจะย้อนไป ตามที่เช็คได้ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1993 ณ รัฐโคลโรราโด สหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าความเข้มข้น สะใจของการต่อสู้บนสังเวียน ได้ทำให้ เวทีการแข่งขัน มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) นี้ แพร่หลายไปทั่ว สหรัฐอเมริกา และ หลายประเทศ อย่างบราซิล อิตาลี เป็นต้น

 

การต่อสู้ บนสังเวียน มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ทั้งหมดเป็นของจริง

จุดเด่นของการต่อสู้ แบบ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ก็คือ นักสู้ที่เข้าไปในกรง สามารถงัดเอาศิลปะ การต่อสู้อะไรก็ได้ออกมา ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) คาราเต้ ยูโด มวยปล้ำ และ อีกมากมาย แต่จะไม่ใช้อาวุธ แต่ใช้ร่างกายได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นหมัด เท้า เข่า ศอก จับทุ่ม จับกด สามารถเอามา ใช้ได้หมด เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ ตรงหน้าให้ได้ นั่นทำให้การต่อสู้นั้น ค่อนข้างเข้มข้น จนเลือดสาดกระจายเต็มเวที เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก คนดูจะรู้สึกได้ถึง ความน่าหวาดเสียว ของกระบวนท่า ความเจ็บปวด เสียงเนื้อกระทบกัน และ อีกมากมาย แม้จะดูว่ารุนแรง แต่มัน กลับกลายเป็นเสน่ห์ ที่ไม่น่าเชื่อของ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ไปในที่สุด

 

 

กรง 8 เหลี่ยม ไม่ได้ป้องกันแค่ผู้ชม

มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) อาจจะมองว่า เป็นการต่อสู้ แบบไม่ให้ออกมา หากไม่มีใคร ยอมแพ้เสียก่อน แต่ความจริงแล้ว กรง นั้นมีไว้เพื่อป้องกัน อันตราย ต่อนักชกเองมากกว่า กรงนั้นจะไม่เหมือนเชือก ที่อาจจะมีนักสู้ ยืมแรงจากการพิงเชือก มาเพื่อสร้างน้ำหนักให้กับตัวเอง จนเกิดอันตรายได้ แบบสองเท่า อีกทั้งกรงนั้นยังเป็นจุดกั้น ระหว่างนักแข่ง กับช่างกล้อง ให้ไม่อยู่ใกล้กันด้วย ลองนึกภาพช่างภาพ โดนลูกหลงดูสิ บางทีอาจจะถึง ขั้นบาดเจ็บได้เลยนะ อีกทั้งลักษณะกรง 8 เหลี่ยม จะเป็นการป้องกัน ไม่ให้มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบมากจนเกินไป ระหว่างการต่อสู้ด้วย

 

ผลแพ้ชนะ ดูกันอย่างไร ?

สำหรับผลการตัดสิน แพ้ - ชนะ ของ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ก็จะขึ้นกับองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่ การชนะคะแนน หลังจากชกกัน ครบยกตามที่กำหนด ซึ่งหากเป็น การแข่งขันทั่ว ไปจะมี 3 ยก แต่หากเป็นการแข่งขัน มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ไฟล์ชิงแชมป์ หรือ ไฟล์นัดพิเศษ จะแบ่งเป็น 5 ยก ส่วนผลการตัดสินผล แพ้ - ชนะ จะประกอบไปด้วย

  1. การชนะน็อคเอาท์คู่ต่อสู้ หรือ คู่ต่อสู้ไม่สามารถ แข่งขันต่อได้
  2. การทำให้คู่ต่อสู้ เอ่ยปากยอมแพ้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ นักสู้จะใช้ท่าล็อคคู่ต่อสู้ ส่งผลให้อีกฝ่ายเจ็บปวด จนทนไม่ได้
  3. ผู้ชี้ขาดบนเวที สั่งยุติการแข่งขัน ถ้าเห็นสมควรว่าอันตราย
  4. ผู้แข่งขัน ไร้สมรรถภาพ ในการตอบโต้ หรือ ป้องกันตัว

 

ส่วนผู้ที่สนใจ ใคร่ฝึกฝนศิลปะป้องกันตัว ด้วยมือเปล่าแขนงนี้ อย่างเช่น มวยไทย ( Muay Thai ) ในบ้านเราก็มีสำนัก ยิม และ ค่าย ที่เปิดสอนอยู่หลายแห่ง ไม่เพียงเท่านั้น ก็ยังมีสังเวียนการต่อสู้ วนเวียนเข้ามา เปิดการแข่งขัน อยู่ด้วยเช่นกัน มีเหล่าบุรุษ และ สตรี สัญชาติไทยหลายท่าน ที่เคยขึ้นสังเวียนประลอง สร้างชื่อเสียง ให้กับประเทศ มาแล้วมากมาย ไปจนถึงคว้า เข็มขัดแชมป์เปี้ยน ในบางรุ่นด้วย ยิ่งคนไทยไปได้สวย บนรายการนักสู้ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ที่มีความหลากหลายแบบนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ของเรามีความสามารถแค่ไหน อนาคตหวังว่า จะมีนักมวยไทย หรือ นักสู้ไทย ประสบความสำเร็จ บนเวทีนี้กันเยอะมากขึ้น

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับความแตกต่างระหว่าง มวยกรง และ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เราได้นำมาเสนอกัน  หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ที่ 3 สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

เครื่องรางของขลัง คู่กาย นักมวย ในสมัยก่อน

เครื่องรางของขลัง คู่กาย นักมวย ในสมัยก่อน

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของ การแต่งกาย นักมวย ในสมัยก่อน ที่ขาดไม่ได้ คือ เครื่องรางของขลัง  ซึ่งเครื่องรางของขลังของนักมวย จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันครับ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ที่มีการสืบทอดมาช้านานแล้ว ตั้งแต่ยุคสุโขทัย ที่ในสมัยนั้น สำนักฝึกสอนมวยไทยที่สำคัญหนึ่งในนั้น ก็คือ วัด และในสมัยนั้น มีการร่ำเรียนวิชาอาคมร่วมด้วย โดยใช้วิชานี้ เพื่อความอยู่ยงคงกระพัน ตามความเชื่อที่ว่า จะช่วยให้การต่อสู้ ได้รับชัยชนะ และรอดปลอดภัย จากหอกคมดาบต่าง ๆ ที่มาจากฝ่ายข้าศึก นักรบ หรือนักมวย ในสมัยนั้น จึงมีการพกพา เครื่องรางของขลัง ไปในขณะการรบด้วย ดังต่อไปนี้

 

มงคล

 

เครื่องรางของขลัง ที่ทำจาก ผ้าดิบ หรือสายสิญจน์ จากเกจิอาจารย์ เป็นผู้เขียน อักขระหัวใจมนตร์  คาถา และเลขยันต์ แล้วถักหรือม้วนพันด้วยด้าย หรือด้ายสายสิญจน์ ห่อหุ้มด้วยผ้า ทำเป็นทรงกลม ให้ครอบศีรษะได้ ซึ่งการทำ มงคล จะผ่านพิธีกรรม จากครูบาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม ทำเป็นวง และรวบเป็นหางยาวไว้ข้างหลัง โดยการสวมใส่ มงคล ถือเป็นเครื่องราง ที่ให้สิริมงคล และคุ้มกันอันตรายแก่ผู้สวมได้

 

ประเจียด

 

เครื่องรางของขลัง ที่ทำมาจาก ผ้าสาลู ( ผ้าขาวบางเนื้อดี ) หรือผ้าดิบ สีขาวหรือสีแดง ตัดเป็นสามเหลี่ยม ลงเลขยันต์ มหาอำนาจ ส่วนใหญ่ จัดอยู่ในชุดวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด กำลังตัว หรือคุ้มกำลัง ภาษาที่ใช้เขียนมักเป็นอักขระโบราณ ที่พระครู หรือเกจิอาจารย์ จะเป็นผู้เขียน และทำพิธี ม้วนหรือถัก พันด้วยด้ายอาจใส่ว่าน ตะกรุด หรือเครื่องรางของขลังชนิดอื่น ไว้ข้างในผ้าประเจียดก็ได้ การม้วนหรือพัน ประเจียด มีลักษณะคล้ายกับ การทำมงคล จึงได้ลักษณะที่เป็นวง และรวบหางยาวเหมือนกัน เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า เนื่องจาก ใช้ผูกติดกับต้นแขน และมีการใช้ 2 อันกับแขนทั้ง 2 ข้าง เป็นเครื่องรางคุ้มกันตัว ใช้ผูกติดกับต้นแขน ตลอดเวลา การแข่งขันชกมวย

 

เสื้อยันต์

 

เสื้อที่ทำมาจาก ผ้าดิบสีแดง หรือสีขาว ตัดเป็นเสื้อในลักษณะ แบบเสื้อกั๊กคอกลมแขนกุด ( หากเคยเห็นในภาพยนตร์ จะใช้เป็นสีแดงเป็นส่วนใหญ่ ) เขียนอักขระเลขยันต์และรูปภาพต่าง ๆ แบบเดียวกับผ้ายันต์และประเจียด ใช้สวมทับเสื้อชนิดอื่น หรือสวมเพียงตัวเดียว นักรบ มักจะสวม ยามออกศึกสงคราม เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยป้องกัน ศาสตราวุธทุกชนิด ส่วนนักมวยนั้น จะไม่ค่อยสวม เสื้อยันต์ แต่มักจะ พกพา เครื่องรางของขลัง ชนิดอื่นแทน

 

ผ้ายันต์

 

เครื่องรางของขลัง ที่ทำมาจาก ผ้าดิบ หรือผ้าเนื้อบาง สีขาว หรือสีแดงเขียน อักขระเลขยันต์ และรูปภาพต่างๆ โดยเกจิอาจารย์ ที่เชื่อถือว่า มีคาถาอาคมแก่กล้า วิธีทำคล้ายผ้าประเจียด แต่ผ้ายันต์มักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้พกติดตัว หรือพันเป็นผ้าประเจียดก็ได้

 

พระเครื่อง 

 

เครื่องรางของขลัง ที่ทำมาจาก โลหะ ผงปูน ดิน หรืออาจใช้วัตถุ หลายชนิดจาก แหล่งต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความขลัง แล้วทำ พิธีพุทธาพิเศกลงเลขยันต์ มีพิธีกรรม ที่รวมการบวงสรวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย การบริกรรมคาถาอาคมต่าง ๆ โดยนักมวย จะพก พระเครื่อง ติดตัว โดยพันไว้ในมงคล หรือผ้าประเจียด บ้างก็ใช้อมไว้ในปากเวลาชก แต่วิธีนี้ไม่ค่อยนิยม เพราะอาจเป็น อันตรายต่อตนเองได้

 

ตะกรุด

 

เครื่องรางของขลัง ที่ทำมาจาก แผ่นโลหะบาง รูปสี่เหลี่ยม เช่น ทอง เงิน นาก ทองแดง หรือใบลาน และกระดาษสา ลงเลขยันต์ คาถาอาคม เช่นเดียวกับลงผืนผ้า เพื่อทำประเจียด แล้วม้วนให้กลม ตรงกลางเว้นช่องว่าง สำหรับใช้สายเชือกร้อย เพื่อคาดบั้นเอว คล้องคอ หรือคาดไว้ที่ต้นแขนไว้ หากนักมวย ใส่ในมงคล หรือประเจียด มักจะใช้ ตะกรุดขนาดเล็ก

 

พิสมร 

 

เครื่องรางของขลัง ทำด้วยแผ่นโลหะ หรือใบลาน รูปสี่เหลี่ยม ลงเลขยันต์ มีที่ร้อยสาย แต่โดยมาก ไม่ม้วนให้กลมอย่างตะกรุด ต้องผ่านพิธีกรรม เช่นเดียวกับตะกรุด

 

แหวนพิรอด / แหวนตะกร้อ

 

เครื่องรางของขลัง ที่ทำด้วย กระดาษสา หรือถักด้วยหวาย ผ่านพิธีกรรมแล้วลงรักปิดทองเรียกว่า “กำลังพิรอด” ใช้สวมต้นแขน หรือ แขวนพิรอดใช้สวมนิ้ว เป็นของวิเศษหายาก และเชื่อว่ามีอานุภาพมาก โดยแหวนพิรอด มีพุทธคุณ ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย กันสัตว์มีพิษเขี้ยวงา ภูติผีปีศาจได้

 

การใช้งาน เครื่องรางของขลัง เหล่านี้ในการต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ได้เลือนหายไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่ก็ยังมี เครื่องรางของขลัง บางชนิด ที่ถูกใช้ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) อยู่ คือ การสวมใส่ มงคล และ ประเจียด ในการร่ายรำไหว้ครูมวยไทย ก่อนการแข่งขัน มวยไทย และหลังจากรำไหว้ครูเสร็จ นักมวย ก็ถอดมงคลออก หรือในบางการแข่งขัน อาจถอด ประเจียด ออกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

17 มีนาคม วันนักมวย วันสำคัญของ มวยไทย ( Muay Thai )

ฝึกสายตาว่องไว ด้วยมวยไทย เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร

เผยที่มาของ การแบ่งฝั่ง มุมแดงมุมน้ำเงิน ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

เผยที่มาของ การแบ่งฝั่ง มุมแดงมุมน้ำเงิน ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ทุกคนที่เคยดูการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) คงคุ้นเคยดีว่า การแข่งขันมวยไทย มักแบ่งผู้เข้าแข่งขัน 2 ฝ่ายเป็น มุมแดงมุมน้ำเงิน เป็นซะส่วนใหญ่ ซึ่งในวันนี้เราจะมาเผยถึง ที่มาของสีที่ใช้แบ่งฝั่งผู้แข่งขันกันครับ

 

ต้นกำเนิดของการใช้ สีน้ำเงิน-แดง

 

กีฬาการต่อสู้ เป็นสิ่งที่มีอยู่คู่กับ มนุษย์เรา มาตั้งแต่ สมัยโบราณแล้ว โดยที่มาของกา รสีน้ำเงิน และสีแดง มีการกล่าวอ้างอิงว่า เกิดขึ้นในสมัยโรมัน ที่มีกีฬาการต่อสู้ห้ำหั่นกันใน "โคลอสเซียม" (Colosseum) สนามกีฬากลางแจ้งโบราณ ขนาดใหญ่ของในยุคนั้น ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี

 

โดยการต่อสู้ในยุคนั้น เป็นการต่อสู้กัน ระหว่าง กลาดิเอเตอร์ ( Gladiator ) หรือ นักรบดาบ ที่เป็นนักสู้ของกษัตริย์ หรือผู้ที่มีอำนาจ กับ ทาสเถื่อน จึงมีการแบ่งฝั่งกันอย่างชัดเจน โดยที่ประตูทางเข้าสู่สนามนั้น จะมีธงสัญลักษณ์ของแต่ละฝั่ง ซึ่งนักสู้ของชั้นชนสูง จะออกมาจาก มุมที่มีธงสีน้ำเงิน สาเหตุที่เป็นสีน้ำเงิน เพราะเป็นสีของพวกศักดินา และยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นสุภาพบุรษ สุขุม และหนักแน่น

 

ส่วนนักสู้ฝ่าย ทาส ( Slave ) จะออกมาจากมุมที่มีธงสีแดง ซึ่งสีแดงในที่นี่ เปรียบเสมือน "เลือด" เพราะนักสู้ฝ่ายทาส จะต้องเป็นรองมือรองเท้า และต้องสูญเสียเลือด อยู่เสมอ เพราะส่วนใหญ่ พวกทาส จะได้แค่อาวุธ ไร้ซึ่งเกราะป้องกัน ถึงมีก็มีไม่มาก แต่ฝั่งน้ำเงินของ พวกศักดินา จะจัดเต็ม ทั้งเกราะทั้งอาวุธ กติกาการแข่งขันของการต่อสู้นี้ จะจบลงจนกว่าอีกฝ่ายจะปลิดชีพอีกฝ่ายหนึ่งได้ ผู้ที่รอดชีวิต ถือว่าเป็นผู้ชนะ นั่นเอง ซึ่งก็แน่นอนว่า ฝ่ายนักสู้ของชนชนสูง ย่อมเป็นต่อ นักสู้ฝ่ายทาส อยู่แล้ว

 

ถึงแม้ว่าจะมีฝ่ายที่ถูกปลิดชีพไปแล้ว แต่การแข่งขัน ก็ยังไม่จบเพียงเท่านั้น ผู้ชนะจะต้องไปต่อสู้กับกลาดิเอเตอร์ คนต่อไปเรื่อย ๆ จนไม่เหลือคู่ต่อสู้ให้แข่งอีก เพื่อหานักสู้ยอดฝีมือเพียงคนเดียวเท่านั้น และผู้นั้นจะได้รางวัล เป็รอิสรภาพจากนายทาสของตน หรืออาจเป็นรางวัลชีวิตที่ดีขึ้น โดยเลื่อนให้เป็น หัวหน้าทาส

 

การนำสีน้ำเงิน และแดง มาใช้แบ่งแย่ง ผู้เข้าแข่งขันอย่าง "มวย" หรือกีฬาอื่น ๆ ไม่ได้มีหลักฐานแน่ชัดว่า เริ่มใช้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีการสันนิษฐานว่า สีน้ำเงินและสีแดง ที่นำมาใช้มาจากการต่อสู้ของเหล่ากลาดิเอเตอร์ที่โคลอสเซียม นั่นเอง

 

แนวคิดจากทีวีสี

 

อีกแนวคิดที่มีการกล่าวถึง คือ วงการมวยในสหรัฐอเมริกายุคแรก ๆ ได้ใช้ สีดำและสีขาว แบ่งฝั่งผู้เข้าแข่งขันแต่ละฝั่ง ต่อมามีการเปลี่ยนเป็น สีน้ำเงิน และสีแดง โดยสันนิษฐานว่า อาจเกิดจาก การผลักดันของ กลุ่มนายทุนของวงการโทรทัศน์อย่าง HBO , ESPN และ USA Network ที่ในยุคนั้น เป็นช่วงคาบเกี่ยว การกำเนิด " โทรทัศน์สี " เพื่อให้คนดูมวยทางโทรทัศน์ สังเกตเห็นสีของแต่ละมุมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

การใช้สีแบ่งฝั่งของมวยไทย ในปัจจุบัน

 

สำหรับ การแข่งขัน กีฬา "มวยไทย" ( Muay Thai ) ที่มีการแบ่งฝั่งเป็นสีน้ำเงินและสีแดงนี้ ก็คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจาก “มวยสากล” นั่นเอง และถึงแม้ว่า ในปัจจุบัน การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) จะเริ่มมีการใช้ สีดำและสีขาว ในการแบ่งฝั่งผู้แข่งขัน หรือสีอื่น ๆ กันมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สีน้ำเงิน และสีแดง ก็ยังคงเป็นสีที่นิยม ใช้มากกว่า สีดำและขาว หรือสีอื่น ๆ อยู่ดี

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

คุณประโยชน์ มวยไทย ( Muay Thai )

ฟิตร่างกาย เตรียมตัว ขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย อย่าง นักมวยมืออาชีพ

สร้างซิกแพค ฉบับมวยไทย  ( เจริญทองมวยไทยข้าวสาร )

สร้างซิกแพค ฉบับมวยไทย ( เจริญทองมวยไทยข้าวสาร )

หากพูดถึง การออกกำลังกาย สิ่งที่หลาย ๆ คนปรารถนา อยากจะมีก็คือ ซิกแพค ( Six Pack ) เพราะ เป็นการบ่งบอกว่า เรามีหุ่นที่ดี  อีกทั้ง ยังเป้ฯการเพิ่มเสน่ห์ ให้กับเราอีกด้วย

 

ซิกแพค ( Six Pack ) คือ สิ่งที่หลาย ๆ อยากจะมี เพราะ การมีซิกแพค ( Six Pack ) เป็นตัวช่วยเพิ่มเสน่ห์ ให้กับเรา ทำให้เราดูดี จึงทำให้หลาย ๆ คนนั้น ตั้งใจออกกำลัง อย่างหนัก เพื่อให้ตัวเองมีซิกแพค ( Six Pack ) โดยการออกกำลังกายนั้น ก็มีหลายอย่าง หลายวิธี ที่จะทำให้เรามี ซิกแพค ( Six Pack ) แต่มีวิธีหนึ่ง ที่จะทำให้เรา มีซิกแพค ( Six Pack ) ได้ง่ายก็คือ การออกกำลังกาย แบบโฟกัส กล้ามเนื้อเฉพาะจุด หรือ การออกกำลังที่โฟกัส ไปที่กล้ามหน้าท้องนั่นเอง แต่การที่เรา จะมี ซิกแพค ( Six Pack ) นั้นประกอบไปด้วย หลายอย่าง ร่างกายของเรานั้นมี ซิกแพค ( Six Pack ) อยู่แล้ว แต่ที่ไม่เห็น เป็นเพราะว่า ไขมันหล้าท้องของเราบังอยู่ วันนี้ เรามาบอกวิธีสร้าง ซิกแพค ( Six Pack ) ให้กับเพื่อน ๆ กัน

 

สร้างซิกแพค ( Six Pack ) ในแบบฉบับมวยไทย

 

วิธีการสร้าง ซิกแพค ( Six Pack ) ต่อไปนี้ จะเป็นการสร้าง ซิกแพค ( Six Pack ) ฉบับมวยไทย ซวิธีที่จะทำ ก็มีดังต่อไปนี้

 

1. Sit Up ท่าครันช์ และ ชกล่อเป้า

การ Sit Up ท่าครันช์ เป็นท่าพื้นฐาน ที่ใช่ในการสร้าง ซิกแพค ( Six Pack ) ให้กับตัวเรา โดยทำท่าครันช์ 12 – 15 ครั้ง ทำแบบนี้ 3 – 5 เซต จะช่วยในการบริหาร กล้ามเนื้อหน้าท้อง ของเรา ได้เป็นอย่างดี โดยการ Sit Up ท่าครันช์ และ ชกล่อเป้า ยิ่งถ้าเรา มีคู่ซ้อมที่ ช่วยให้เรา สามารถชกล่อเป้าได้ จะเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ แต่ ถ้าหากไม่มีคู่ชก ล่อเป้า เราก็สามารถ ทดแทนได้โดยการชกลม โดยธรรมชาติของร่างกายนั้น จะมีหน้าที่ ใช้ในการบิดตัว งอตัว และ เหยียดตัว เพื่อให้เราสามารถ ชกเป้าได้มากขึ้นนั่นเอง

 

2. Sit Up ท่าครันช์ และ ทุบหน้าท้อง

การสร้าง ซิกแพค ( Six Pack ) ท่าที่ 2 คือ Sit Up ท่าครันช์ และ ทุบหน้าท้อง โดยทำท่าครันช์ 12 – 15 ครั้ง ทำแบบนี้ 3 – 5 เซต ท่านี้ จำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องมีคู่ซ้อม ที่ช่วยในการทุบ ตรงบริเวณหน้าท้อง การทุบจะช่วยในเรื่อง ของการสร้างความคุ้นเคย โดยธรรมชาติของร่างกายเรา จะเกิดการเกร็ง เมื่อมีสิ่งของ หรือ มีอะไรเข้ามากระทบ ที่หน้าท้องของเรา โดยการทุบที่บริเวณ หน้าท้อง จะทำให้กล้ามหน้าท้องของเรา เกิดความแข็งแรง และ มีการพัฒนา ในการสร้างกล้ามเนื้อได้ดี ทำให้เรา มีกล้ามหน้าท้อง ที่แข็งแรง สังเกตได้จากนักมวย สามารถทนแรงเตะ ทนแรงต่อย ของคู่ต่อสู้ได้ 

 

3. ท่าตีเข่า

ทำท่านี้ 12 – 15 ครั้ง ทำแบบนี้ 3 – 5 เซต ท่าตีเข่า จะใช่วยให้เรายริหาร กล้ามเนื้อหน้าท้อง และ กล้ามเนื้อขา ได้เป็นอย่างดี ท่าตีเข่าท่านี้ เป็นท่าที่ช่วย ให้เราบริหารกล้ามเนื้อ หน้าท้องล่างของเรา โดยการตีเข่านั้น ถ้าจะให้ดี เราควรที่จะมีการ ตีเข่าใส่กระสอบทราย แต่ถ้าหากเราไม่มีกระสอบทราย เรา ก็สามารถตีเข่าลมได้ เช่นกัน

 

4. ท่าเตะ

ทำท่านี้ 12 – 15 ครั้ง ทำแบบนี้ 3 – 5 เซต  ท่าเตะ เป็นท่าที่ช่วยบริหาร กล้ามหน้าท้อง ของเราได้เป็นอย่างดี โดยการเตะนั้น จะทำให้ เราบริหารกล้ามหน้าท้อง โดยกล้ามเนื้อเนื้อหน้าท้อง ด้านข้าง และ การบิดตัว จะทำให้เรา ได้เกิดการบิดตัว และ สร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง  

 

5. วิ่ง

การวิ่ง จะเป็นการคาร์ดิโอ หรือ เป็นการเอาไขมัน ออกกจากร่างกายของเรานั่นเอง และ การวิ่ง ทำให้ ซิกแพค ( Six Pack ) เห็นได้ชัดขึ้นนั่นเอง

 

การสร้าง ซิกแพค ( Six Pack ) จำเป็นต้องมี การคาร์ดิโอด้วย เพื่อให้ ซิกแพค ( Six Pack ) ของเรา เห็นชัดขึ้นนั่นเองครับ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เส้นทางของ นักมวย อาชีพ

ทำไมมวยไทย ถึงลดน้ำหนักได้

17 มีนาคม วันนักมวย วันสำคัญของ มวยไทย ( Muay Thai )

17 มีนาคม วันนักมวย วันสำคัญของ มวยไทย ( Muay Thai )

ในวันที่ 17 มีนาคม ของทุกปี ตรงกับวันสำคัญอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับ มวยไทย  ( Muay Thai ) คือ วันนักมวย หรือ วันมวยไทย ซึ่งความเป็นมาของวันนี้ จะเป็นอย่างไร มาติดตามกันครับ

 

ก่อนที่เราจะไปรู้ถึง ที่มาของ วันนักมวย เราจะพาไป ทำความรู้จักกับ "นายขนมต้ม" บุคคลสำคัญของวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) บุคคลหนึ่งที่เป็นที่มาของ วันนักมวย เสียก่อน นายขนมต้ม เกิดวันอังคาร เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ.2293 ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ครั้งกรุงศรีอยุธยาที่บ้านกุ่ม เป็นลูกชายของ นายเกิด และ นางอี่ มีพี่สาวชื่อว่า นางเอื้อง

 

ครอบครัวของ นายขนมต้ม ถูกพม่าฆ่าตายทั้งหมด ทำให้ นายขนมต้ม ต้องอยู่วัดตั้งแต่เล็ก ๆ อายุประมาณ 10 ขวบ เมื่อเป็นหนุ่ม ได้เริ่มฝึก วิชามวยไทย จนในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ กรุงศรีอยุธยา ต้องเสียกรุงให้กับพม่า ทำให้ นายขนมต้ม ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย ที่เมืองพม่าด้วย

 

ที่มาของ วันนักมวย

 

สืบเนื่องมาจาก เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ใน พ.ศ.2310 ชาวไทยทั้งหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมี "นายขนมต้ม" ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยอยู่ที่เมืองพม่า และนายขนมต้มได้สร้างวีรกรรม โดยการชก มวยไทย ( Muay Thai ) กับชาวพม่า จนสร้างชื่อเสียงให้กับ กรุงศรีอยุธยา และชาติไทย

 

สาเหตุที่ วันนักมวย ตรงกับ วันที่ 17 มีนาคมนั้น ได้มีหลักฐานจาก พงศาวดาร กล่าวว่า เมื่อพระเจ้าอังวะ ให้ปฏิสังขรณ์ และก่อเสริมพระเจดีย์เกศธาตุ ในเมืองย่างกุ้ง เป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จในปี พ.ศ.2317 พอถึงวันฤกษ์งามยามดร คือ วันที่ 17 มีนาคม จึงโปรดให้ทำ พิธียกฉัตรใหญ่ ขึ้นไว้บนยอดเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองอย่างมโหฬาร

 

จากนั้น ขุนนางพม่าน ได้กราบทูลต่อ พระเจ้าอังวะว่า "นักมวยไทยมีฝีมือยิ่งนัก" พระเจ้าอังวะ จึงตรัสสั่งให้เอาตัว นายขนมต้ม นักมวยดีมีฝีมือ ตั้งแต่กรุงเก่า มาถวาย พระเจ้าอังวะ ให้จัดมวยพม่า เข้ามาเปรียบ (ชก) กับนายขนมต้ม ต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฎว่า นายขนมต้ม ชกชนะพม่า ไม่ทันถึงยก ก็แพ้ถึง เก้าคนสิบคน ก็สู้ไม่ได้

 

พระเจ้าอังวะ ทอดพระเนตร ยกพระหัตถ์ ตบพระอุระ ตรัสสรรเสริญกับ นายขนมต้มว่า "ไทยมีพิษทั่วตัว แม้มือเปล่าไม่มีอาวุธเลย สู้ได้คนเดียวชนะถึงเก้าคนสิบคน" ฉะนั้น วันมีชัยของ นายขนมต้ม ก็คือ วันที่ 17 มีนาคม จึงถือเป็น เกียรติประวัติของ นักมวยไทย

 

สำหรับ ชาวพระนครศรีอยุธยา ได้สำนึกในบุญคุณของ นายขนมต้ม และถือเป็นเกียรติศักดิ์ คนดีศรีอยุธยา จึงได้พร้อมใจกันสร้าง "อนุสาวรีย์นายขนมต้ม" ไว้ที่บริเวณ สนามกีฬากลาง จังหวัด พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นอนุสติเตือนใจ และให้ลูกหลานไทย ยึดถือเป็นแบบอย่างสืบไป

 

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักการกีฬา กรมพลศึกษา

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เส้นทางของ นักมวย อาชีพ

หลักการป้องกันแรง ของ กระจับนักมวย ( Groin guard )

ฝึกสายตาว่องไว ด้วยมวยไทย  เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร

ฝึกสายตาว่องไว ด้วยมวยไทย เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร

 มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ต้องใช้ ประสาทหลาย ๆ อย่าง ในร่างกาย และ ใช้อวัยวะ หลาย ๆ ส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา มือ เท้า เข่าศอก และ ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ผู้เล่นนั้น จะต้องมีสมาธิ ที่สูงมาก ๆ เพราะ จะต้อง มีการชก การเตะ การใช้ศอก รวมไปถึง การหลบหลีก และ การป้องกันต่าง ๆ ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจากจะใช้สมาธิ ในการต่อสู้แล้ว เรายังต้องใช้สมาธิ ในการป้องกันอีกด้วย ดังนั้น มวยไทย ( Muay Thai ) จึงต้องมีการฝึก ความว่องไว ของสายตา เพื่อใช้ในการการต่อสู้ และ เพื่อใช้ป้องกัน  สำหรับการชกนั่นเอง

 

วิธีการที่จะฝึก ให้นักมวยนั้น มีสายตาที่ว่องไว และ สามารถ มองเห็น สิ่งที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ได้มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้

 

1. การฟันน้ำ

เนื่องจาก ในสมัยอดีต การฝึก ทักษะ ต่าง ๆ ของกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) จำเป็นต้อง อาศัย สิ่งของจำเป็น ที่เรามี เป็น อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการฝึก หาได้ยก และ มีราคาที่สูง ดังนั้น ในการฝึกความว่องไง ของสายตาเราจึงใช้ การฟันน้ำ วิธีการฟันน้ำ เป็นการฝึกสายตาโดยการที่เรานั้น จะไม่มีการ กระพริบตา เวลาที่น้ำกระเด็นใส่หน้า วิธีนี้ เป็นวิธีที่ง่าย ๆ แต่หลาย ๆ คนทำได้ยาก เพราะโดยปกติ ทั่วไปแล้ว การที่วัตถุ หรือ อะไรก็ตาม ลอยเข้ามาใส่หน้าของเรา เราจะมีการป้องกันตัวเอง โดยการ หลับตา การฟันน้ำ จึงเป็นวิธี ที่จะทำให้เรา ไม่หลับตา หากมีการต่อยจริง ๆ หรือ แม้ว่าจะโดนชกไปแล้ว  เราก็ไม่มีการกระพริบตา นั่นเอง 

 

2. ฝึกต่อยลูกมะนาว

ในอดีตนั้น  การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) จะฝึกโดย การผูก มะนาวเอาไว้หลาย ๆ ลูก แล้วทำการต่อย มะนาวแรง ๆ เนื่องจากมะนาว เป็นผลไม้ ที่มีขนาดเล็ก ทำให้เรา ต้องใช้สายตา และ สมาธิในการมอง อย่างมาก การที่เราฝึกต่อยมะนาว ยังทำให้ ร่างกายของเรา ได้ฝึก หลบหลีก ไปในตัวอีกด้วย ดังนั้น การฝึกต่อมะนาวนั้น นอกจาก จะช่วยเพิ่ม ความว่องไว ของสายตาแล้ว การฝึกต่อยมะนาว ยังทำให้เรา ได้ฝึกโยกตัว หลบหลีก หมัด ที่ชกหน้าเรา อีกด้วย และ หากบ่อย ๆ ก็จะทำให้เรา มีความคล่องแคล่ว ในการหลบหลีก สิ่งต่าง ๆ ได้ดี ในปัจจุบัน มีอุปกรณ์ฝึก ที่ใช้แทนมะนาว สามารถหาซื้อได้ง่าย และ มีราคาที่ไม่สูง ทำให้เรา สามารถฝึก ได้โดย ที่เราไม่ต้องผูกมะนาว และ อุปกรณ์ ยังสามารถ ใช้ได้นาน และ ยังสะดวก ต่อการใช้งานอีกด้วย

 

3. การทำแบบทดสอบ สายตา โดยใช้ภาพ

การที่เราจะฝึก ความว่องไว ของสายตานั้น การที่เรา ฝึกมองภาพ หรือ จับผิดภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะทำให้สายตา ของเรา สามารถ มองไว้เร็วขึ้นนั่นเอง โดยการฝึกแบบนี้ เราสามารถ หาแบบทดสอบ ได้จาก อินเทอร์เน็ต เพื่อฝฝึก ความว่องไว ของสายตา และ สมอง การฝึกแบบนี้ จะทำให้ สมองของเรา มีการประมวลผล ต่อภาพ และ ความเร็วได้ดี ดังนั้น แล้ว การฝึกความว่องไวของสายตา เรายังต้องฝึก ความว่องไวของสมองอีกด้วย

 

การฝึกความว่องไว ของสายตา เราสามารถฝึกได้ ด้วยตัวเอง และ สามารถฝึกได้ จากการเรียน ในคลาสมวยไทย และ การฝึกในคลาสเรียนมวย จะทำให้เรา ฝึกได้ถูกวิธี ถูกต้องกว่าการฝึก ด้วยตัวเอง

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เส้นทางของ นักมวย อาชีพ

ทำไมมวยไทย ถึงลดน้ำหนักได้

คุณประโยชน์ มวยไทย ( Muay Thai )

คุณประโยชน์ มวยไทย ( Muay Thai )

เพื่อน ๆ รู้กันไหมคะว่า มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้ง คุณค่า และ ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือ ทางอ้อม วันนี้เราจึงมาสรุป คุณประโยชน์ คร่าว ๆ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันค่ะ

 

ประวัติศาสตร์ มวยไทย ( Muay Thai ) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอพยพ ของประชากรที่อาศัยอยู่ ในมณฑลยูนาน บนฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง ของประเทศจีน โดยตามตำนานของไทย เชื่อว่ามีผู้คนจำนวนมาก ที่เดินทางออกจากมณฑลยูนาน ประเทศจีน มาสู่ประเทศไทย เพื่อค้นหาที่ดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ สำหรับการเกษตร อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการโยกย้าย ของพวกเขา ชาวไทยกลุ่มนี้ ได้ถูกโจมตีโดยโจร และสัตว์ นอกจากนี้ ยังมีโรคต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องเผชิญ เพื่อเพิ่มความสามารถ ในการป้องกันร่างกาย และจิตใจ การรับมือกับความทุกข์ยาก ชาวไทยสยาม จึงได้คิดค้นวิธีการต่อสู้

 

การพัฒนา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาต่อสู้ป้องกันตัว

ในปัจจุบัน นักมวยต้อง สวมนวมขนาด  4  ออนซ์ แต่งกายแบบนักกีฬามวยคือ สวมกางเกงขาสั้น สวมกระจับ สวมปลอกรัดเท้า หรือไม่ก็ได้ เครื่องรางของขลัง ผูกไว้ที่แขนท่อนบนได้ ส่วนเครื่องรางอื่น ๆ ใส่ได้เฉพาะตอนร่ายรำไหว้ครู แล้วให้ถอดออก ตอนเริ่มทำการแข่งขัน

 

ในการแข่งขัน มีกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวที 1 คน กรรมการให้คะแนน ข้างเวที 2 คน จำนวนยกในการแข่งขันมี 5 ยก ยกละ 3 นาที พักระหว่างยก 2 นาที

 

การแข่งขันแบ่งเป็นรุ่น ตามน้ำหนักตัวของนักมวย เหมือนกับหลักเกณฑ์ ของมวยสากล อวัยวะที่ใช้ในการต่อสู้คือ หมัด เท้า เข่า ศอก สามารถออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้ได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยไม่จำกัดพื้นที่ชกแต่ แม่ไม้มวยไทย ที่มีอันตรายสูงบางท่า ถูกห้ามใช้เด็ดขาด อาทิ ท่าหลักเพชร  เป็นท่าจับขาแล้วหักด้วยการนั่งทับ เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม การชกในปัจจุบันส่วนใหญ่ มุ่งเพื่อผลแพ้ชนะ และ มีผลประโยชน์ทางธุรกิจ เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ศิลปะและแก่นแท้ของ มวยไทย ( Muay Thai ) นับวันจะเลือนหายไป ถึงแม้จะมีหลักสูตรการเรียน กันในบางสถาบันการศึกษาก็ตาม เป็นที่น่ายินดีที่ปัจจุบัน มีการเรียน การสอน มวยไทย ( Muay Thai ) ในระดับบัณฑิตศึกษา คือ วิทยาลัยมวยไทยศึกษา และการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี เริ่มเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขามวยไทย ใน พ.ศ. 2546 หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขามวยไทยศึกษา ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 และ ต่อมาพัฒนาเป็นหลักสูตร ในระดับปริญญาเอกชื่อว่า หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขามวยไทยศึกษา ( ปัจจุบันมีการสอน ในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยยกเลิกหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต )

 

จึงเริ่มพัฒนาเข้าสู่ วิชาการเรียนการสอน เพื่อการอนุรักษ์ และ แสวงหาคุณค่า ทางภูมิปัญญาไทย มากขึ้นในสังคมไทยปัจจุบัน โดยมีคณาจารย์ประจำหลักสูตร เช่น

  • ดร. ศักดิ์ชัย ทัพสุวรรณ นายกสมาคม สภามวยไทยสมัครเล่นโลก
  • ดร. แสวง วิทยพิทักษ์ กรรมการเทคนิคผู้ตัดสินมวยไทย จากสนามมวยราชดำเนิน รองศาสตราจารย์
  • ดร. สมพร แสงชัย เจ้าตำรับครูมวย พระยาพิชัยดาบหัก
  • รองศาสตราจารย์ ชัยสวัสดิ์ เทียนวิบูลย์ ครูมวยสยามยุทธ์
  • รองศาสตราจารย์ ดร. เสรี พงศ์พิศ ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิปัญญาไทย

ที่มาช่วยกันสร้างสรรค์จรรโลง ให้องค์ความรู้ของบรรพบุรุษ ที่มีมานานนับสองพันปี ให้อยู่ยั่งยืนตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน

 

สรุปคุณค่า และ ประโยชน์ของ มวยไทย ( Muay Thai )

กีฬาทุกชนิดมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย  และ ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็มีคุณค่าสูง สำหรับผู้เรียนหลายประการ  คือ

  • ร่างกายมีสรรถภาพที่ดี  สมส่วน  มีภูมิต้านทานโรคสูง
  • มีจิตใจเข้มแข็ง  มีความสุขุมรอบคอบ  มานะ อดทน
  • สามารถป้องกันตัว และ เป็นประโยชน์ต่อสังคม ในชีวิตประจำวันได้
  • มีความเชื่อมั่นต่อตนเอง  มีระเบียบวินัย  กล้าหาญ อดทน
  • ดำรงไว้ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยให้ยั่งยืนแพร่หลายตลอดไป
  • มีไหวพริบ เชาว์ปัญญา แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
  • มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่กล้ากระทำในสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ
  • มีความกล้าหาญ
  • ยึดเป็นอาชีพได้

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ คุณค่าของ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่เราได้นำมาเสนอกัน  หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ที่ 3 สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

ฟิตร่างกาย เตรียมตัว ขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย อย่าง นักมวยมืออาชีพ

ฟิตร่างกาย เตรียมตัว ขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย อย่าง นักมวยมืออาชีพ

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่าเหล่า นักมวยมืออาชีพ เค้า ฟิตร่างกาย หรือ ออกกำลังกาย ในแต่ละวันอย่างไร เพื่อเตรียมตัวใน การขึ้นชกบนสังเวียน มวยไทย วันนี้เรามีคำตอบมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปฝึกตามกันแล้วค่ะ

 

หากใครเคยผ่าน หรือมีโอกาสได้ เข้าไปเห็นบรรยากาศ การซ้อมมวย ภายในยิมมวย หรือค่ายมวยต่าง ๆ ก็จะรู้ดีว่า แหล่านักมวยนั้น เขาซ้อมกันอย่าง หนักหน่วงมากเพียงใด เขาจะต้องอดทน ต่อการฝึกซ้อม การควบคุม อาหารการกิน น้ำหนัก เพื่อให้มีร่างกายที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด

 

ท่าไหล่ดัน ( Shoulder Presses )

ท่าไหล่ดัน ( Shoulder Presses ) เป็นท่าที่สร้างกล้ามเนื้อ หัวไหล่ได้อย่างดี โดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลัก คือ ดัมเบล ( Dumbbell ) ถ้าหากไม่มีจะใช้ เป็นขวดน้ำก็ได้ แล้วจับให้มั่นจากนั้น ดันขึ้นเหนือหัว ละลง อย่างต่อเนื่อง

 

วิดพื้นแบบตบมือ ( Clap Press – Up )

วิดพื้นแบบตบมือ ( Clap Press – Up ) เป็นวิธีการ ออกกำลังกายที่ง่าย และสามารถทำตอนไหนก็ได้ ท่านี้ไม่ได้เพิ่มแค่ ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับเรื่องของ Body Balance ที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับนักมวย

 

แพลงค์ ( Plank )

เป็นท่าที่ทำยาก และทรมานที่สุด เพราะต้องอาศัย ความแข็งแรง ของร่างกายหลาย ๆ ส่วน เป็นท่านักมวยทุกคน ให้ความสำคัญ ลองทำควบคู่กับการ Crunches และ Sit Up จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น Plank จะเสริมสร้างความแข็งแรง ของร่างกายส่วนกลาง ให้ทนต่อหมดหนัก ๆ ของคู่ต่อสู้

 

คาร์ดิโอ ( Cardio )

ถ้าอยากมีหุ่นที่ฟิต แบบนักมวย ต้องเริ่มจาก คาร์ดิโอ ( Cardio )  เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ทำโดยการ ซิทอัพ วิ่ง กระโดดเชือก ต้องฝึกแบบการกระโดด ที่หลากหลาย และการฝึกความแข็งแรง ของร่างกายในส่วนต่าง ๆ เช่น การดึงข้อ การบริหารกล้ามเนื้อ หลังแขน การวิดพื้น และการฝึกด้วยลูกบอล เทรนนิ่งในท่าทางต่าง ๆ

 

ฟุ้ตเวิร์ค ( Foot work )

ฟุ้ตเวิร์ค ( Foot work ) ฝึกเพื่อใช้ในการหลบหลีก หมัดของคู่ต่อสู้ ความว่องไวในการ Foot work จะช่วยเพิ่มความสามารถ ในการรับมือ ในการต่อสู้ กับคู่ชกได้อย่างดี

 

ท่าชกเงา ( Shadow Boxing )

ท่าชกเงา ( Shadow Boxing ) เป็นการฝึกชกลม เพื่อให้นักชกฝึกการออกหมัด และท่าทางที่ถูกต้อง การชกลมเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างเทคนิคการชก การรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย และสามารถฝึกที่ไหนก็ได้ ที่ทำให้เราขยับช่วงบนได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น

 

Bag Work

 

( Bag Work ) คือการต่อยกระสอบทราย ที่สามารถฝึก ความแข็งแกร่งของหมัด สายตา และการป้องกัน

 

Skipping

( Skipping ) เป็นการหลบหลีก หมัดของคู่ต่อสู้ อาศัยความว่องไวของ Foot work ทำได้ง่าย ๆ โดย มีเชือกเส้นเดียวกับลานโล่ง ๆ Skipping เป็นสิ่งสำคัญของนักมวย จะขาดไม่ได้ในเวลาซ้อม และยังเป็นท่าที่ใช้รักษาสภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ

 

ท่าวิดพื้น ( Push - Up )

ท่าวิดพื้น ( Push - Up ) เป็นท่าที่ทำยาก สำหรับคนไม่ค่อย ได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายโดย ท่าวิดพื้น ( Push - Up ) จะให้ประโยชน์กับ กล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงเพิ่มแรงผลัก เวลาที่ต้องคลุกวงกับคู่ต่อสู้ จึงเป็นที่นิยมกันในหมู่นักมวย

 

ท่าสควอช ( Squat )

ท่าสควอช ( Squat ) เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายในส่วนล่าง เพราะนักมวยจะต้องมีการยืนที่มั่นคง พร้อมที่ปล่อยหมัดเพื่อรุกผู้ต่อสู้ได้ตลอดเวลา หากทำท่า Squats ร่วมกับท่าบริหารสะโพกส่วนอื่นให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณมีช่วงล่างที่แข็งแรงแน่นอน แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

 

Chin Ups

( Chin Ups ) เป็นการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้ช่วงบนแข็งแรง และสมส่วน จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ช่วงแขน อก ไหล่ ในท่าเดียวกัน แต่ไม่ควรหักโหมเกินไป จนกล้ามเนื้อบาดเจ็บ

 

ท่าเบอร์พี ( Burpees )

ท่าเบอร์พี ( Burpees ) เป็นหัวใจสำคัญ ในการออกกำลังกาย ให้ได้ผล หากใครอยากมีรูปร่างที่สมส่วน  ถ้าทำท่า Burpees อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัว หรือเพิ่มความแข็งแรง ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย

 

บอกกันเลยว่า กว่าจะมาเป็น นักมวยอาชีพนั้น เรียกได้ว่ายากลำบากมาก ต้องมีความอดทน มุ่งมั่น ทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจเลยทีเดียว หากคุณอยากออกกำลังกาย ให้ได้ร่างกายที่แข็งแกร่ง แบบนักมวยอาชีพ ก็ลองดูได้นะ แต่ต้องระวังให้มาก ๆ เพราะอาจจะทำให้เกิด อาการบาดเจ็บได้ ยังไงก็ควรจะอยู่ในการดูแล ของผู้ที่รู้จักวิธีการออกกำลังกาย หรือควรจะให้พอดี กับร่างกายคุณเองนะ

 

หากเพื่อน ๆ สนใจใน มวยไทย ( Muay Thai ) แล้วกำลังหาที่เรียนอยู่เราขอแนะนำ ที่ เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร ( Jaroen Thong Muay Thai Kaosan ) ที่นี่มีบริการสอน มวยไทย ( Muay Thai ) ให้กับทุก ๆ คน เริ่มสอนตั้งแต่ ขั้นพื้นฐาน ต่อให้ไม่รู้จัก มวยไทย ( Muay Thai ) เลย ก็สามารถ มาเรียน มาฝึก ที่นี่ได้ เพราะมีครูฝึกที่เก่ง และ มีประสบการณ์ ในการสอน มวยไทย ( Muay Thai ) มามากมาย คอยช่วยเหลือ และ ถ่ายทอดความรู้ ให้กับเพื่อน ๆ หรือ นักเรียน ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ถูกต้อง การใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก การวอร์มอัพ ก่อนเริ่มเล่น การหายใจ คุณครู และ พนักงาน ที่นี่ทุกคน มีความเป็นกันเอง พร้อมช่วยเหลือเพื่อน ๆ ในเรื่องการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) และ การออกกำลังกายต่าง ๆ อย่างถูกวิธี

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

เส้นทางของ นักมวย อาชีพ

เส้นทางของ นักมวย อาชีพ

แน่นอนว่าทุกกีฬานั้น ถ้าจะให้เราเก่ง หรือ ชำนาญ แน่นอนว่าต้องใช้ความสามารถ หรือ การฝึกอย่างหนัก นั้นรวมไปถึง นักมวย ที่กว่าจะเป็น นักมวยอาชีพ นั้นเขาต้องผ่าน อุปสรรคมากมาย ที่ยากลำบาก

 

                โดย กีฬา มวย ในประเทศไทยของเรา ถือว่าเป็นกีฬาอันดับต้นๆ ที่มีคนรู้จัก และ รวมไปถึง มีให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่สุด แถม ไม่ใช้แค่ ในประเทศ ไทย ของเราเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึง ประเทศ ต่าง ๆ ต่างก็พากันสนใจ ในกีฬา ประเภท นี้กันอย่างมาก และ อาจจะพูดได้ว่า เป็น กีฬา ประจำชาติของเราเลยก็ว่าได้ แถม เราจะเห็นว่า เรามี นักมวย อาชีพ หลายคน ที่ประสบณ์ความ สำเร็จมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ที่รู้จักกันใน ประเทศไทย เอง หรือ ต่างประเทศ ต่างก็มีชื่อเสียง แถมคน เก่ง ๆ เยอะแยะมากมาย แต่กว่าที่เขาจะเป็น นักมวยอาชีพ เนี่ย เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เคย คิดสงสัย กันหรือไม่ และถ้า หากใครเคยผ่าน หรือ อาจจะ มีโอกาสได้เข้าไปเห็นบรรยากาศการซ้อมมวย ภายในยิมมวย หรือค่ายมวยต่าง ๆ ก็จะรู้ดีว่า แหล่านักมวยนั้น เขาซ้อมกันอย่างหนักหน่วงมากเพียงใด เขาจะต้องอดทนต่อการฝึกซ้อม การควบคุมอาหารการกิน น้ำหนัก เพื่อให้มีร่างกายที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด  วันนี้เรามีท่าที่เหล่านักมวยอาชีพเขาใช้ในการสสร้างร่างกายแบบนักมวยมาฝากกัน เริ่มจาก 

 

  • Shoulder Presses  Shoulder Presses โดย มันจะ เป็นท่าที่ สามารถ ไปช่วยในเรื่องของการ สร้างกล้ามเนื้อ บริเวณ หัวไหล่ได้อย่างดี แถมมันยัง มีโดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลัก คือ ดัมเบล (Dumbbell ) ถ้าหากไม่มีจะใช้เป็นขวดน้ำก็ได้ แล้วจับให้มั่นจากนั้นดันขึ้นเหนือหัว ละลง อย่างต่อเนื่อง
  • Clap Press – Up  Clap Press – Up ถือว่า เป็นวิธีการ ออกกำลังกาย ที่ง่าย และ แถมมันยัง สามารถทำตอนไหน ก็ได้ และ ท่านี้ไม่ได้เพิ่มแค่ความ แข็งแรง ของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับเรื่องของ Body Balance ที่จำเป็นอย่างมากสำหรับนักมวย
  • Plank  โดย มันจะ เป็นท่าที่ทำยาก และ แถมมันยังเป็นท่า ที่บอกเลยว่า ทรมานที่สุด เพราะ มัน ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกาย หลาย ๆ ส่วน และมันยัง เป็นท่า นักมวย ทุกคนให้ความสำคัญ ลองทำควบคู่กับการ Crunches และ Sit Up จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น Plank จะเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายส่วนกลาง ให้ทนต่อหมดหนัก ๆ ของคู่ต่อสู้
  • Foot work  Foot work สำหรับการ ฝึกเพื่อใช้ในการหลบหลีกหมัดคู่ต่อสู้ และ รวมไปถึง ความว่องไวในการ Foot work จะ สามารถไป ช่วย ในเรื่องของการ เพิ่มความสามารถ ในการรับมือในการต่อสู้กับคู่ชกได้อย่างดี
  • Bag Work  Bag Work มันก็ คือการต่อยกระสอบทราย ที่ มันจะ สามารถฝึกความแข็งแกร่งของหมัด สายตา และการป้องกัน
  • Burpees  Burpees สำหรับ ท่าต่อไป จะเป็น ท่าที่มีผลต่อ หัวใจ ของเรา และ ถือเป็นท่าที่ สำคัญในการออกกำลังกายให้ได้ ผล หากใครอยากมีรูปร่างที่สมส่วน  ถ้าทำท่า Burpees อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัว หรือเพิ่มความแข็งแรงในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย
  • Push Ups  Push Ups มันจะ เป็นท่าที่ทำยาก และ สำหรับคนไม่ค่อยได้ ออกกำลังกาย เพราะ การออกกำลังกายโดย Push Ups จะให้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงเพิ่มแรงผลักเวลาที่ต้องคลุกวงกับคู่ต่อสู้ จึงเป็นที่นิยมกันในหมู่นักมวย

 

เป็นยังไงกันบ้าง ท่าทางการ ออกกำลังกาย ของนักมวย บอกเลยว่าโหด และ ดุเดือน และสำหรับ ใครที่สนใจ ก็สามารถ นำเอาไปลอง ฝึกกันได้ แต่เราต้องบอกก่อนเลยว่า นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ของท่า ที่มันยังมีอีกมากมาย หลกหลาย ท่าขึ้นอยู่กับว่า เขาจะเลือก ฝึกท่าไหน นั่นเอง

 

กว่าจะมาเป็นนักมวยอาชีพนั้น เรียกได้ว่าต้องอดทน มุ่งมั่น ทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจเลยทีเดียว หากคุณอยากออกกำลังกาย ให้ได้ร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนักมวยอาชีพก็ลองดูได้นะ แต่ต้องระวังให้มากๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ยังไงก็ควรจะอยู่ในการดูแลของผู้ที่รู้จักวิธีการออกกำลังกาย หรือควรจะให้พอดีกับร่างกายคุณเองนะ

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างกล้ามแขน แบบมวยไทย

ฟิตหุ่นสวย ด้วยมวยไทย

ทำไมมวยไทย ถึงลดน้ำหนักได้  เจริญทองมวยไทยข้าวสาร

ทำไมมวยไทย ถึงลดน้ำหนักได้ เจริญทองมวยไทยข้าวสาร

การลด น้ำหนังสิ่งที่เรามักจะนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือ การ วิ่ง และ กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ที่ปัจจุบัน เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และ เหตุใด ทำไม กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ถึงทำให้เราลดน้ำหนักได้

 

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ใคร ๆ ก็สามารถเล่นได้ และ เป็นกีฬา ที่เหมาะกับ คนที่ต้องลดน้ำหนัก เป็นอย่างมาก แล้ว ทำไมกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ถึงทำให้เรา ลดน้ำหนัก ได้ดีกว่า การออกกำลังกาย แบบอื่น

 

1. กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่เราต้องใช้ร่างกายทุกส่วน

 

เนื่องจาก กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่เรานั้น ต้องใช้ทุกส่วนของร่างกาย เพื่อขยับ หรือ ออกอาวุธต่าง ๆ และ กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เรายังต้องอาศัยกล้ามเนื้อ ทุกส่วน เพื่อให้มีความสัมพันธ์กัน ทั้งการเคลื่อนไหว การหลบหลีก และ การออกแรง จึงทำให้ ร่างกาย ของเรานั้น ได้ใช้พลังงาน อย่างเต็มที่ อีกทั้ง กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็น การออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ ( Cardio ) อีกด้วย จึงทำให้ กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) สามารถ ลดน้ำหนักได้ และ กีฬามวยไทย

 

2. กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เผลาญพลังงาน ในร่างกายได้ดีกว่า

 

กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ไม่น่าเบื่อ และ ในการคาร์ดิโอ ( Cardio ) ก็มีหลายรูปแบบ เพราะ ก่อนที่เราจะเริ่มเล่น กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) ได้นั้น เราต้องมีการ วอร์มอัพ ( Warm – up ) ร่างกาย โดยเริ่มจากการวิ่ง กระโดดเชือก และ อื่น ๆ แล้วแต่โค้ช หรือ เทรนเนอร์ คนนั้น ๆ  เพราะฉะนั้นแล้ว ก่อนที่เราจะได้เริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ร่างกายของเราก็ได้ มีการเผาผลาญ พลังงาน และ ไขมัน ( Fats ) ไปบางส่วนแล้ว

ถ้าหาก โปรแกรม การฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ในวันนั้น มีการที่ต้อง ชงนวม หรือ ชกกับคู่ซ้อม ก็ยิ่งทำให้ร่างกายเราเผาผลาญ ได้เยอะขึ้น อีกทั้ง เรายังสนุกไปกับการซ้อม อีกด้วย หรือ ในบางวัน ก็มีการเตะ กระสอบทราย หรือ ชกกระสอบทราย การกระทำเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ เป็นการ ที่ทำให้ร่างกาย ของเราได้ขยับ และ เผาผลาญ ไขมันส่วนเกินไปบางส่วนแล้ว

สังเกตได้ว่า คนที่ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถลดน้ำหนักได้เร็ว และ มีหุ่น ที่กระชับ ฟิต แอนด์เฟิร์ม

 

3. ออกกำลังกายนาน และ ต่อเนื่อง

 

คนที่ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องมีการฝึกซ้อม เป็นระยะเวลาที่นาน และ ต่อเนื่อง ระยะเวลา ในการออกกำลังกายไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญคือ ความต่อเนื่อง ในการออกกำลังกาย ต่างหากที่ ทำให้น้ำหนักของเราลดลง อย่างต่อเนื่อง และ รวดเร็ว

 

แต่ทั้งนี้การที่ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ไม่ควรที่จะ หักโหมเกินไป เพราะ การหักโหมอาจจะทำให้เราบาดเจ็บ จากการ ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ เพราะ ฉะนั้นแล้ว หากอยากให้ น้ำหนักลดเร็ว เราก็ควรทีจะมีการซ้อมอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย และ ต่อเนื่อง หากเราไม่วินัย ในการซ้อม น้ำของเราก็อาจจะไม่ลด ตามที่เราตั้งเป้าไว้ได้ และ ในการฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) เราควรทำตามคำ แนะนำของโค้ช อย่างเคร่งครัด

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

การดูแล ความปลอดภัย ของ นักมวย ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

ฝึกสภาพจิตกับใจมวยไทย

มวยไทย ฝึกรูปแบบไหน ให้ได้ประโยชน์มากที่สุดกันนะ ?

มวยไทย ฝึกรูปแบบไหน ให้ได้ประโยชน์มากที่สุดกันนะ ?

มวยไทย ถือว่าเป็นกิจกรรม การ ออกกำลังกาย ที่ได้ทั้งเหงื่อย ได้ทั้งความแข็งแรงของร่างกาย รวมไปถึง มันยังสามารถ ทำให้ ใคร ๆ หลาย ๆ คนที่ชื่นชอบในการ ออกกำลังกาย ได้ทั้งความสนุก ความตื่นเต้นไปในตัวอีกด้วย นั่นเอง

 

                เราต้อง อธิบายกันก่อนว่า การที่เราจะทำการ ฝึก มวยไทย ( Muay thai ) ในบ้านเราอาจจะ เป็นประสบการณ์ที่สามารถ เปลี่ยนชีวิต ของเราได้ เลยทีเดียว นั้นก็ เพราะ ภายใต้ อากาศที่ ร้อนอบอ้าว นั้นที่จะมี แต่มีความชื้น การซ้อม และ อาหาร ล้วนมีความแตกต่าง กันออกไป และ แม้แต่วิธีการสอน มันก็ยังไม่เหมือนกันวันนี้จะมาตีแผ่การฝึก มวยไทย ( Muay thai ) ที่ใคร ๆ หลาย ๆ คน อาจถูกมองข้ามไป และ ก่อนที่จะเริ่มต้น คุณต้องมั่นใจว่าคุณพร้อมเต็มที่ ไม่เช่นนั้นการ ฝึก มวยไทย ( Muay thai ) ของคุณอาจล้มไม่เป็นท่า

 

การเตรียมความพร้อม ก่อนการเริ่มต้นการ ฝึก มวยไทย

 

                ก่อนที่เราจะทำอะไรก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุด นั้นก็คือ การว่างแผน หรือ การเตรียมความพร้อม เพราะการ ฝึก มวยไทย ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็สามารถเดินเข้าไปชกได้เลย เราควรมีการเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นครูฝึก สนามฝึก หรือ รวมไปถึงเครื่องแต่งกาย ในการ ฝึก วันนี้เราเลยจะ รวบรวม มาให้ทุก ๆ คนได้ศึกษากัน

 

  • สิ่งที่เรา ควรเริ่ม การเตรียม ก่อนเลย นั้นก็คือ การเตรียม ร่างกาย ของเราให้พร้อม เพราะ ถ้า หากคุณต้องการที่จะประสบความ สำเร็จในการฝึก มวยไทย ( Muay thai ) อย่างแท้จริง นั้น สิ่ง ๆ แรก ๆ เลยก็ คือ คุณต้องเตรียมสภาพ ร่างกาย ของเรา ให้พร้อม และ รวมไปถึง การ ออกกำลังกาย ก่อนเสมอ และ คุณจะได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการ วิ่งบนถนน เพาะ นักมวยไทย จะ ทำการวิ่งวันละสองรอบ ซึ่ง ระยะทางมากกว่า ประมาร 12 กิโลเมตร กันเลยทีเดียว และ โดยปกติการวิ่งในตอนเช้าจะใช้เวลานานกว่าการวิ่งในช่วงบ่าย ดังนั้น คุณต้องเตรียมร่างกายให้ดีก่อนเริ่มวิ่ง 
  • การ เลือกค่ายมวย ที่เหมาะสม ในการฝึก และ ใน ขณะที่คุณเตรียมตัว หรือ เตรียมความพร้อม ของร่างกายแล้ว  และ การปรับสภาพร่างกาย นั้น ให้เริ่มหา ค่ายมวย หรือ สนามมวย ที่มีการ รับฝึก และ ให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง ขั้นตอนนี้จะทำให้คุณได้รู้จักค่ายมวยไทยที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณมีจุดประสงค์ในการเรียนมวยไทยเพื่ออะไรก็ตาม คุณต้องหาค่ายที่สามารถช่วยคุณในเรื่องนั้นได้ 
  • ปรับตัวเพื่อรับการฝึกซ้อม  นักมวย ไทย มัก ทำกิจกรรม กระโดดเชือกในช่วง เวลาบ่ายโมง และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอน ฝนตก และมัน อาจใช้เวลานานถึง ประมาณ 30 นาที ตลอด กสนฝึกกระโดดเชือกเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที และ นั้นก็ เพื่อทำให้ ผิวหนัง บริเวณฝ่าเท้า ของเรา เริ่ม ด้านขึ้น และ แต่ถ้าหากเกิดแผลแล้ว ให้ปิดด้วยผ้าพันแผล และ นอกจากนี้คุณจะต้องซิตอัพ เยอะมาก สำหรับ ผิวหนังที่เต็มไปด้วยเหงื่อ ที่จะ สามารถ ไปช่วยในเรื่องของการ ไปสัมผัสกับพื้นผิวอันขรุขระและพื้นผ้าใบ หรือเสื่อออกกำลังกาย ถ้าผิวหนังแห้ง ให้ใช้วาสลีนทาเพื่อลดแรงเสียดทาน  
  • ควรมีการ เตรียมสิ่งของที่จำเป็น ใน การไป ฝึก มวยไทย ( Muay thai ) แน่นอนว่า สิ่ง ที่คุณต้องมีของใช้ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ ต่าง ๆ ในการ ฝุก ยกตัวอย่าง เช่น นวม กางเกงมวย ฟันยาง และ รวมไปถึง สนับแข้ง  และ บ่อยครั้งที่ค่ายจะมีสิ่งของเหล่านี้ให้คุณใช้ แต่คงไม่ดีแน่หากต้องใช้แก้วน้ำและฟันยางร่วมกับคนอื่น
  • ห้าม หรือ ไม่ควร หักโหมเกินไป หรือ ฝืนร่างกาย เกิดความ จำเป็น แน่นอนว่า การฝึก ยิ่งฝึกหนักเท่าไรก็จะทำให้ ร่างกาย ของเรา แข็งแรง มากเท่านั้น แต่ คุณอาจรู้สึกว่าซ้อมได้เต็ม 100 ในวันแรกของการฝึกฝน แต่ในวันที่สองและสาม ความเมื่อยล้าและความเจ็บปวดจะมาเยือน แต่หากคุณเป็นกรณีที่ตรงกันข้าม ก็อย่าหักโหม ขอให้ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าคุณฝืนตัวเอง คุณอาจได้รับบาดเจ็บและไม่ได้ซ้อมอย่างต่อเนื่อง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ศิลปะมวยไทยหมัดเท้าเข่าศอก

ชกกระสอบทรายทุกวัน ก็ลดน้ำหนักได้

กติกา เกี่ยวกับ สนามมวย ที่นายสนามมวย ต้องรู้

กติกา เกี่ยวกับ สนามมวย ที่นายสนามมวย ต้องรู้

สนามมวย พื้นที่สำคัญที่ใช้ในการแข่งขันกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) โดยสนามมวย ในการแข่งขัน จะต้องมีรูปแบบของเวทีที่เป็นไป กติกา ที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ นายสนามมวย และผู้จัดรายการแข่งขันมวย ควรรู้และปฏิบัติตามกติกา  

 

ในการจัดการแข่งขันกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ มวยสากล โดยทั่วไป จะถูกจัดขึ้นที่ เวทีมวย ซึ่งสามารถเรียกได้ทั้ง เวทีมวย, สังเวียนมวย หรือ สนามมวย ล้วนมีความหมายเป็น สถานที่แข่งขันมวย เหมือนกัน แต่หากเป็นไปตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ จะถูกเรียกว่า "สนามมวย" มีความหมายว่า อาคาร สถานที่ หรือบริเวณอื่นใด สำหรับใช้ในการแข่งขันกีฬามวยเป็นปกติ

 

สนามมวย ที่ใช้ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ มวยสากล มีการกำหนดเกี่ยวกับ เวทีมวย ตามมาตรฐานในการจัดตั้งและใช้ในการแข่งขัน โดยยึดข้อกำหนดกติกาเดียวกัน ตามที่ AIBA ( สหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ ) ได้กำหนดไว้ ซึ่งมีข้อกำหนด ดังต่อไปนี้

 

1. เวที คือ สถานที่ที่ประกอบขึ้น เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬามวย โดยต้องสร้างให้แข็งแรง ปลอดภัยได้ระดับ ปราศจากสิ่งกีดขวาง และพื้นเวทีต้องยื่นออกไปนอกเชือกกั้น อย่างน้อย 90 เซนติเมตร

 

2. พื้นเวที ต้องอยู่สูงจากพื้นที่ตั้ง ไม่ต่ำกว่า 1.20 เมตร ไม่เกิน 1.5 เมตร โดยตั้งเสาที่มุมทั้ง 4 ด้าน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10-12.5 เซนติเมตร และสูงขึ้นจากพื้นที่ไม่เกิน 2.85 เมตร พื้นเวทีต้องปูด้วยวัสดุที่มีความนุ่ม เช่น ยาง ผ้าอ่อน ฟองน้ำ หรือวัสดุอื่น ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน มีความหนา ระหว่าง 2.5 เซนติเมตร ถึง 3.75 เซนติเมตร ปูทับด้วย ผ้าใบให้ดึงเรียบ และมิดชิดคลุมพื้นเวทีทั้งหมด

 

3. ในการติดตั้งเวที ต้องให้มุมแดง อยู่ทางซ้ายมือของโต๊ะประธานผู้ตัดสิน มุมน้ำเงินอยู่ตรงข้ามกับมุมแดง ส่วนอีกสองมุมเป็นมุมกลาง

 

4. เชือกกั้นเวทีมี 4 เส้น หุ้มด้วยวัสดุที่อ่อนนุ่มและเรียบ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร ขึงตึงกับเสาทั้ง 4 เส้นของเวที เชือกแต่ละเส้นสูงจากพื้นเวทีขึ้นไปถึงด้านบนของเชือก เส้นล่าง 45 เซนติเมตร เส้นที่ 2 เท่ากับ 75 เซนติเมตร เส้นที่ 3 เท่ากับ 1.05 เมตร และเชือกเส้นบทสุด เท่ากับ 1.35 เมตร ตามลำดับ เชือกทั้ง 4 เส้นของแต่ละด้าน ต้องผูกยึดกันด้วยผ้าเหนียว 2 ชิ้น มีขนาดกว้าง 3-4 เซนติเมตร มีระยะห่างเท่า ๆ กัน ผ้าที่ผูกนั้นต้องยึดแน่น มุมทั้ง 4 ต้องหุ้มนวม หรือวัสดุอื่นให้เรียบร้อย ที่สามารถป้องกันอันตรายแก่นักมวยได้ และต้องมีบันได้มุมแดง และมุมน้ำเงิน เพื่อให้นักมวย พี่เลี้ยง และแพทย์สนาม ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ได้

 

5. ให้ติดกล่องพลาสติก หรือกล่องที่ทำด้วยวัสดุอย่างอื่น ที่มุมกลางทั้งสองมุม (ด้านนอกสังเวียน) มุมละ 1 กล่อง เพื่อให้ผู้ชี้ขาดทิ้งสำลี หรือกระดาษบาง ๆ ที่ซับเลือดแล้ว หรือสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว

 

6. สังเวียน คือ พื้นที่ส่วนหนึ่งของเวทีเป็น รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยวัดจากภายในเชือกกั้น ขนาดเล็ก มีความยาวด้านละ 6.00 เมตร ขนาดใหญ่ มีความยาวด้านละ 6.5 เมตร

 

การจัดการ สนามมวย ให้เป็นไปตาม กฎกติกาเหล่านี้ เพื่อทำการแข่งขัน กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของ “นายสนามมวย” ผู้ทำหน้าที่จัดการ หรือดำเนินกิจการ สนามมวย นั่นเอง และผู้จัดรายการแข่งขันมวย จะต้องช่วยอำนวยความสะดวก ในเรื่องเหล่านี้ด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

หลักการป้องกันแรง ของ กระจับนักมวย ( Groin guard )

การดูแล ความปลอดภัย ของ นักมวย ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

หลักการป้องกันแรง ของ กระจับนักมวย ( Groin guard )

หลักการป้องกันแรง ของ กระจับนักมวย ( Groin guard )

ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) แน่นอนว่า ต้องมีการใช้แรง ต่อสู้ปะทะกัน นักมวย จึงจำเป็นต้องสวมใส่ กระจับนักมวย ที่ช่วยป้องกันแรงกระแทกได้ โดยกระจับนักมวย จะมี หลักการป้องกันแรง ที่ช่วยลดแรงกระแทกได้อย่างไร มาติดตามกันครับ

 

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องใช้พละกำลังในการต่อสู้ เพื่อเอาชนะผู้ต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นจากการออกหมัด เตะ เข่า หรือศอก ก็ล้วนส่งผลทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อร่างกายของคู่ต่อสู้ได้ไม่ว่าจะโดนอวัยวะใดก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าการกระทบกระเทือนจากการต่อสู้นั้น เป็นสิ่งที่นักมวยหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว นักมวย จึงจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์ในการป้องกันตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ คือ " กระจับ"

 

จุดประสงค์ของ กระจับนักมวย

 

กระจับ ( Groin guard ) เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวอย่างหนึ่งในกีฬาชกมวย รวมถึงการต่อสู้ชนิดอื่น กระจับที่นักมวยต้องสวมใส่ เพื่อให้เกิดความกระชับ และป้องกันแรงกระแทกที่จะเกิดบริเวณอวัยวะเพศ เนื่องจากการชกต่อยมวย อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บบริเวณท้องน้อย และช่วงขาหนีบได้ง่าย

 

การป้องกันอวัยวะเพศของ กระจับนักมวย

 

อวัยวะเพศของมนุษย์ เป็นส่วนที่มีความเปราะบางต่อแรงกระแทก และ บริเวณนี้ยังมีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดมาเลี้ยงมาก ทำให้เกิดความเจ็บปวดได้อย่างรุนแรง จึงมีความจำเป็น ที่เรานั้นจะ ต้องหาอุปกรณ์ที่เป็นเกราะป้องกัน มาใช้ในกีฬาที่ต้องปะทะ ร่างกาย กัน และไม่ใช่แค่ มวยไทยหรือมวยสากล ที่ต้องใช้กระจับ ยังมีกีฬา อีกหลายประเภท ที่ต้องใช้ อุปกรณ์ป้องกัน อวัยวะเพศ อีกหลายกีฬา นั่นเอง

 

โดยหากมีแรงมา กระทบกระเทือน ในส่วนของกระจับ ที่ครอบ บริเวณอวัยวะเพศอยู่ กระจับ จะรับแรงกระแทกนั้น และแรงกระแทก จะกระจายตัวไป บริเวณขอบของ กระจับ โดยจะถ่ายแรงไป บริเวณโคนขา (ขาหนีบ) แทนการโดนองคชาต และอัณฑะโดยตรง

 

ลักษณะของ กระจับนักมวย ที่เปลี่ยนไป

 

การใส่กระจับ เพื่อป้องกัน แรงกระแทก บริเวณอวัยวะเพศ มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ โดยในสมัยนั้น กระจับนักมวย มีลักษณะเป็นแค่ถ้วยกระเปาะ (cup) ทำจากโลหะขนาดพอเหมาะ สำหรับปกปิดด้านหน้าของอวัยวะเพศชายและถุงอัณฑะเท่านั้น และใช้เชือกผูกร้อยให้แน่นกับเอวและง่ามขา โดยนักมวยจะผูกกระจับไว้นอกกางเกงชั้นในก่อนจะสวมกางเกงมวยอีกชั้นหนึ่ง ขณะที่กระจับในการแข่งขันสากลแทนที่จะร้อยเชือกแบบเดิมก็มีการนำเอากระเปาะ (cup) ดังกล่าวไปสวมเข้ากับกางเกงสปอตเตอร์ (supporter) ทำให้สวมใส่ได้ง่ายและกระชับขึ้น

 

ส่วนกระจับนักมวย ในปัจจุบัน จะถูกออกแบบให้เหมาะสมสำหรับ นักมวย หรือนักกีฬา มากขึ้น โดยจะมีการผลิตออกมาหลายขนาด เพื่อรองรับกับความแตกต่างของสรีระร่างกาย และขนาดอวัยวะเพศของแต่ละคนให้มีความเหมาะสมและกระชับ โดยกระจับนักมวยของไทย ใส่ในกางเกงและกระจับแนบกับอวัยวะเพศ ทำให้ไม่เห็นกระจับขณะที่ต่อยมวย

 

สำหรับมวยสากล กระจับของนักมวย สวมใส่ไว้ภายนอกกางเกงของนักมวย หรือนักกีฬา โดยกระจับนักมวยแบบมวยสากล นอกจาก จะออกแบบเพื่อช่วยป้องกันการกระทบในบริเวณอวัยวะเพศแล้ว ยังครอบคลุมได้ทั่วทั้งบริเวณท้องน้อย ทำให้มีประสิทธิภาพในการ ป้องกันการบาดเจ็บ ได้เป็นอย่างดี

 

 

กระจับนักมวย เป็นอุปกรณ์ในการป้องกันตัวที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากไม่ใส่กระจับนักมวย อวัยวะเพศที่เป็น จุดเปราะบาง จะได้รับการแรงกระแทกโดยตรง ทำให้ผู้ที่ได้รับแรงกระแทก เกิดความเจ็บปวดอย่างหนักบริเวณอวัยวะเพศได้ รวมถึงเกิดอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เกิดอาการจุก , หน้ามืด , หน้าเขียว , รู้สึกคลื่นไส้ได้ เป็นต้น ซึ่งการได้รับบริเวณนั้น อาจมีผลต่อ การเสื่อม สมรรถภาพทางเพศ ของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข้อดี ข้อเสีย ของกระสอบทรายแต่ละประเภท

การดูแล ความปลอดภัย ของ นักมวย ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

ข้อดี ข้อเสีย ของกระสอบทรายแต่ละประเภท

ข้อดี ข้อเสีย ของกระสอบทรายแต่ละประเภท

อุปกรณ์ที่ใช้ซ้อมมวย ที่เรารู้จักกันดี ก็คงไม่พ้น กระสอบทราย กระสอบทรยานอกจาก จะเอาวไว้เตะเอาไว้ต่อย นอกจากนี้ กระสอบทรายมีข้อดีอะไรบ้าง

 

กระสอบทราย (Sand bag) คือ

กระสอบทราย (Sand bag) เป็นอุปกรณ์ ที่เอาไว้ใช้ในการซ้อมมวย เพื่อฝึกการชก การเตะ ให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้น และ รู้จักการขยับตัว การก้าว การหลบ ปัจจุบัน กระสอบทราย มีอยู่สองประเภท ก็คือ กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag )  และ กระสอบทรายแบบแขวน กระสอบทราย แต่ละแบบก็มี ทั้งข้อดี ทั้งข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป

 

กระสอบทราย (Sand bag) คือ อุปกรณ์ ที่เอาไว้ใช้ซ้อมมวย (Muay) เป็นอุปกรณ์ ที่เอาไว้ใช้ได้ ทั้งต่อย เตะ หลบ การโยกตัว รวมไปถึง ท่าทาง และ ทักษะต่าง ๆ ที่ใช้ในการฝึก อีกทั้ง กระสอบทราย (Sand bag) ยังนำมาใช้ เพื่อสร้างความแข็ง แรง ของกล้ามเนื้อ และ กระดูก ของเรา

 

กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag )

ในปัจจุบัน กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag ) เป็นกระสอบทรายที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก เพราะ ติดตั้งง่าย ไม่มีอุปกรณ์อะไรที่เยอะ เพียงแต่นำมาตั้งพื้น เราก็สามารถ ซ้อมมวยได้ กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag ) ส่วนมาจะทพการบุฟองน้ำ มาเรียบร้อยแล้ว หรือ เรียกง่าย ๆ คือ กระสอบทรายสำเร็จรูป สามารถติดตั้งได้ทันที เพียงแค่ว่าง ตั้งบนพื้น เท่านี้ ก็เป็นอัน ติดตั้งเสร็จ สมบูรณ์ กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag ) ยังเคลื่อนย้ายสะดวก ตั้งตรงไหนก็ได้

 

กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag )

กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag ) เรามักเห็นได้ใน ค่ายมวย หรือ ยิมมวย เนื่องจาก กระสอบทราย แบบแขวน มีราคาที่ถูก ทนทานกว่า กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag ) และ กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag ) ยังใช้งานได้หลากหลาย กว่า กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag ) นอกจากนี้ ยังเพิ่มความหนาแน่ ของกระสอบทรายได้อีก กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag ) ไม่เป็นที่นิยม เป็นเพราะว่า กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag ) มีความยุงยากต่อการติดตั้ง ในการติดตั้ง กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag ) อาจจะต้องมีการเจา หรือ ทำคานเหล็กขึ้นมาใหม่ เพื่อแขวนกระสอบทราย ให้สามารถใช้งานได้

คำแนะนำในการใช้กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag )

หากเพื่อน ๆ คนไหน ที่อยากจะใช้ กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag ) ภายในกระสอบ เราจะต้องใส่ทรายเข้าไป โยมีแกลบเป็นส่วนผสม หากใส่ทรายเยอะเกินไป สำหรับมือใหม่ อาจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ แต่ถ้าหาก ผสมแกลบมากเกินไป ก็อาจจะ ออกกแรกน้อยในการต่อย หรือ เตะ ดังนั้น สำหรับมือใหม่ ควรเลือกผสมทราย ในระดับที่พอดี

 

ทั้งนี้ ในการเลือกใช้ กระสอบทราย (Sand bag) แต่ละแบบ ควรคำนึง ถึงความเหมาะสม ในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ ความสะดวก ในการใช้งาน ราคา  หากต้องการ ใช้งานกระสอบทราย (Sand bag) ที่ความหนาแน่น แบบที่นักมมวยใช้กัน ก็เลือก กระสอบทรายแบบแขนวน ( Hanging Sandbag ) แต่ถ้าหาก เพื่อน ๆ ต้องการกระสอบทราย (Sand bag) เพื่อให้ฝึกซ้อม ในการออกกำลังกาย ก็ควรเลือกใช้ กระสอบทรายแบบตั้งพื้น ( Floor Standing Sandbag ) เพราะ มีความหนาแน่น ที่น้อยกว่าประสอบทรายแขวน ( Hanging Sandbag )

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

การนับคะแนน กีฬา มวยไทย ( MuayThai )

การออกอาวุธด้วย ศอก ตามฉบับ มวยไทย

การดูแล ความปลอดภัย ของ นักมวย ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

การดูแล ความปลอดภัย ของ นักมวย ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา การต่อสู้ที่สามารถสร้างอาการบาดเจ็บ ให้กับ นักมวย ได้ การดูแล ความปลอดภัย ให้กับนักมวย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ของการแข่งขัน

 

การแข่งขัน กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) แน่นอนว่า การแข่งขันของกีฬานี้ ผู้เข้าแข่งขันอย่าง นักมวย จะต้องออกอาวุธไปยัง คู่ต่อสู้ เพื่อทำคะแนน และการถูกโจมตี จากคู่ต่อสู้ นักมวย ย่อมได้รับอาการบาดเจ็บ จากคู่ต่อสู้ได้ ดังนั้น ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การแข่งขัน โดยเฉพาะ นายสนามมวย และผู้จัดรายการแข่งขันมวย จะต้องจัดให้มี มาตรการ เพื่อความปลอดภัยของ นักมวย  ตามระเบียบคณะกรรมการ กีฬามวย ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัย สำหรับ นักมวย พ.ศ.2543 ตามมาตรการ ดังต่อไปนี้

 

มาตรการ การรักษาพยาบาล

 

1. จัดให้มี ห้องปฐมพยาบาล ภายใน บริเวณที่มี การแข่งขัน โดยมีระยะห่างจาก เวทีการแข่งขัน ไม่เกิน 100 เมตร พร้อมด้วย อุปกรณ์ทางการแพทย์ และแพทย์แผนปัจจุบัน หรือพยาบาลวิชาชีพ ตามมาตรฐาน การรักษาพยาบาลเบื้องต้น ตลอดระยะเวลาที่มี การแข่งขันมวย

 

2. จัดให้มี ที่นั่งติดกับ เวทีแข่งขัน สำหรับ แพทย์แผนปัจจุบัน หรือพยาบาลวิชาชีพ ตลอดที่มี การแข่งขัน และในการปฏิบัติหน้าที่ของ แพทย์แผนปัจจุบัน หรือพยาบาลวิชาชีพ  ต้องจัดให้มียา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อการรักษาพยาบาลเบื้องต้น อันเนื่องมาจาก การบาดเจ็บของนักมวย อย่างเพียงพอ

 

3. จัดให้มี พาหนะ สำหรับ ส่งผู้บาดเจ็บ โดยให้จัด เตรียมการไว้ ตลอดเวลาที่มี การแข่งขัน ตั้งแต่ก่อนแข่งขัน อย่างน้อย 30 นาที และหลังจากเสร็จสิ้น การแข่งขัน กีฬามวย คู่สุดท้ายของรายการ ไม่น้อยกว่า 30 นาที

 

มาตรการเกี่ยวกับ น้ำหนักตัวนักมวย และการตรวจสุขภาพ

 

ก่อนทำการแข่งขัน มวยไทย ต้องมีการตรวจสุขภาพนักมวย และชั่งน้ำหนัก ของนักมวย อย่างน้อย 3 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ก่อนมีการแข่งขัน โดยแพทย์ จะทำการชั่งน้ำหนักก่อน และตรวจร่างกาย ตามมาตรฐาน ได้แก่ อุณหภูมิของร่างกาย, ความดันโลหิต, ชีพจร และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งตา หู จมูก ปาก คอ แขน ขา กระดูกข้อมือ ข้อเท้า ซี่โครง มือ แะเท้า รวมถึง การตอบสนองต่อ ระบบประสาท หากนักมวย ไม่ผ่านการรับรอง ความสมบูรณ์ของร่างกาย จากแพทย์ นักมวย จะไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าทำการแข่งขัน

 

มาตรการเกี่ยวกับ อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน

 

ในด้านอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน ก็มีความสำคัญเช่นกัน ที่นักมวย จะต้องปฎิบัติตามกติกา อย่างการแต่งกายให้ถูกหลัก การเลือกใช้ “นวม” ที่เหมาะสมกับนักมวย และการใส่อุปกรณ์ป้องกัน ความรุนแรง อย่าง กระจับ เพื่อป้องกัน การได้รับการกระทบกระเทือน บริเวณ อวัยวะเพศ และการใส่ ฟันยาง เพื่อป้องกัน การได้รับการกระทบกระเทือน บริเวณฟัน และช่องปาก อีกด้วย

 

มาตรการเกี่ยวกับ การปฏิบัติหน้าที่ของ พี่เลี้ยงนักมวย

 

1. ต้องจัดให้มีการอบรม หรือปฐมนิเทศ ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับ การปฐมพยาบาล และมาตรการ ความปลอดภัยของ นักมวย แก่พี่เลี้ยงนักมวย โดยพี่เลี้ยงนักมวย ที่มิได้ผ่านการฝึกอบรม หรือมิได้ผ่านการปฐมนิเทศ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่ ดังกล่าว

 

2. ในระหว่างการแข่งขัน หรือกรณีที่นักมวย ได้รับบาดเจ็บ ถึงหมดสติ ห้ามมิให้ พี่เลี้ยงนักมวย ใช้ยาเวชภัณฑ์ หรือสารอื่นใด ให้นักมวยรับประทาน สูด ดม เพื่อให้นักมวยผู้นั้น ฟื้นสภาพ เว้นแต่ได้รับ คำแนะนำจากแพทย์

 

นอกจากนี้ ยังมี มาตรการป้องกัน การกระทบกระเทือน ระบบประสาท สมอง และชีวิต สำหรับ นักมวยที่ได้รับ ผลกระทบอย่างหนัก จนถึงขั้นหมดสติ หรือในกรณีที่นักมวย ถูกน็อกเอ้าท์ และเทคนิเกิลน็อกเอ้าท์ เพื่อให้นักมวยได้รับการรักษาพยาบาล และหยุดพักผ่อนร่างกาย อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกสภาพจิตกับใจมวยไทย

การนับคะแนน ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ฝึกสภาพจิตกับใจมวยไทย

ฝึกสภาพจิตกับใจมวยไทย

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจาก จะเป็นการฝึก สภาพร่างกายของเราแล้ว ยังช่วยฝึกสภาพจิตใจของเราอีกด้วย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องใช้ ร่างกาย ไหวพริบ การตัดสินใจ และ ความคิดอยู่ ตลอดเวลา ฉะนั้น แล้ว การฝึก กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จึง ได้ประโยชน์ที่ มากกว่าการออกกำลังกาย การได้ ที่เราได้ฝึกฝนมวยไทย นั้น ทำให้เราได้ ประโยชน์หลาย อย่าง มมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

 

1. ลดความเครียด

การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยทำให้ เราลดความเครียดได้ การฝึกกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องมีการออกแรง ใช้ร่างกายทุกส่วน ไม่ว่า การชก การเตะ การตีเข่า การสับศอก หรือ ใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เรา สมองของเรา ไม่ได้โฟกัส ไปที่ความเครียด และ นอกจากนี้ การฝึกกีฬามวยไทย หรือ ออกกำลังกาย ร่างกาย จะหลั่งสารในร่างกายออกมา สารนั้น มีชื่อว่า สารเอ็นโดรฟีน ( Endorphin ) หรือ ที่เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนเรียกกันว่า สารแห่งความสุข นั่นเอง สารเอ็นโดรฟีน ( Endorphin ) จะหลั่ง ออกมา ก็ต่อเมื่อเราออกกำลังกาย ประมาณ 20 ขึ้นไป เมื่อเราออกกำลังกาย ไปแล้ว ก็จะทำให้เรา มีความสุขนั่นเอง

 

2. จิตใจมั่นคง แน่วแน่

ในการฝึก กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ส่งผลต่อ สภาพจิตใจ ทำให้เรา มีสภาพจิตใจ ที่มั่นคง แน่วแน่ เพราะ ในการฝึกกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความอดทน ที่สูง และ ต้องต่อสู้กับความเหนื่อยล้า หากผู้ที่ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) มีจิตใจ ที่ไม่มั่นคง ไม่แน่วแน่ ก็อาจจะ ทำให้การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่เห็นผล และ ทำให้เสียเวลา เพราะฉะนั้น การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจ มาเป็นอย่างดี เพื่อการฝึกที่เห็นผล

 

3. ฝึกความอดทน

ความอดทน เป็นสิ่งที่เราจำเป็น ต้องมีกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของ การงาน หรือ การเล่นกีฬา ก็ตาม เราก็ต้องมีความอดทน ในการฝึก กีฬามวยไทย ( Muay Thai ) นั้น ทำให้ เรา มีความอดทน ที่มากกว่า กีฬาประเภทอื่น ๆ เพราะ กีฬามวยไทย เป็นกีฬาที่ต้องใช้แรง และ เป็นกีฬาที่ต้องการปะทะ อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้ว ผู้ที่ฝึกมวย มักจะ มีความอดทนที่สูง รับแรงกดดัน ได้ดี 

 

4. ควบคุมอารมณ์ ได้ดี

ถึงแม้ว่ากีฬามวยไทย ( Muay Thai ) จะมีการต่อย การเตะ การใช้ความรุนแรง อยู่ตลอดเวลา แต่ รู้หรือไม่ว่า นักชก หรือ ผู้ที่ฝึกกีฬามวยไทยนั้น มีการคงบคุม อารมณ์ได้ดี เพราะ ในการชกมวยบนเวที หรือ การซ้อม แบบ ลงนวมนั้น นักชก หรือ ผู้ที่ฝึกกีฬามวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องมีการฝึก ความคุมอารมณ์ เนื่องจาก หากเราไม่สามารถคุม อารมณ์ตัวเอง ในการชกมวยได้ ก็จะส่งผลให้เรา แพ้ในการแข่งขัน และ ที่แย่ ไปกว่านั้น คือ การเราไม่สามารถ ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ จะทำให้ คู่ชกฝ่ายตรงข้าม จะสามารถมอง เห็นจุดอ่อน ของเราได้

 

5. ทนต่อสภาวะ แรงกดดันได้ดี

การฝึกมวยไทย ให้เราทนต่อสภาวะ แรงกดดันได้ดี ถึงแม้ว่า เราจะไม่ได้ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อเป็นนักชก มืออาชีพก็ตาม การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ทำให้เราทนต่อสภาวะ แรงกดดันได้ดี เพราะ การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ต้องมีการลงนวม มีการออกแรง และ ต้องมีการข้ามขีดจำกัด ของร่างกาย เพราะ ในการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) เราจะโดน ความกดดันจากโค้ช ความกดดันจากคู่ชก และ ความกดดันต่อโค้ชของเรา การทนต่อ สภาวะแรงกดดัน เหล่านี้ จึงเป็นผลดี ส่งผลในหลาย ๆ ด้านชองการใช้ชีวิต ทั้ง ในด้านการทำงาน  การเรียน การออกกำลังกาย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

ต่อย มวยไทย อย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด

ฝึก มวยไทย เป็นประจำได้มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายของเรา

การนับคะแนน ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

การนับคะแนน ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

เพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่เข้าใจ การนับคะแนน ของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) วันนี้เราได้รวบรวม การให้คะแนน การนับคะแนน มาให้เพื่อน ๆ ได้ทำความเข้าใจ จะได้ดูมวยไทย ( Muay Thai ) กันได้อย่างสนุกสนานค่ะ

 

การชกที่ได้คะแนน มีดังนี้

- นักมวยฝ่ายใดใช้ อาวุธมวยไทย ( หมัด - เท้า - เข่า - ศอก ) ได้โดยถูกต้องตามกติกา และกระทำถูก คู่แข่งขันได้มากกว่า ก็เป็นผู้ชนะไป

- นักมวยฝ่ายใด ที่ใช้อาวุธมวยไทย ตามลักษณะ แบบแผนมวยไทย โดยถูกต้องตามกติกา กระทำคู่ต่อสู้ ได้หนักหน่วง ชัดแจ้ง รุนแรง และถูกเป้าหมาย ที่สำคัญเป็นฝ่ายรุก กระทำได้มากกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด ใช้อาวุธมวยไทย กระทำคู่ต่อสู้ ให้เกิดบอบช้ำ บาดแผลที่เป็นอันตรายมากกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด เป็นผู้เดินเข้ากระทำ ( ฝ่ายรุก ) มากกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด เป็นผู้ ( รุก รับ หลบหลีก - ตอบโต้ ) ตามลักษณะ และชั้นเชิงมวยไทย ได้ดีกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด ที่มิได้กระทำฟาล์ว หรือกระทำฟาล์ว น้อยกว่า เป็นฝ่ายชนะ

 

การชกที่ไม่ได้คะแนน มีดังนี้

- การชกที่ละเมิดกติกาข้อหนึ่งข้อใด

- อาวุธที่กระทำไปถูก แขน หรือขา ของคู่แข่งขัน อันเป็นลักษณะ ของการป้องกัน ของคู่แข่งขัน

- อาวุธที่กระทำถูก คู่แข่งขัน แต่เบาเกินไป หรือก็คือไม่มีน้ำหนัก ส่งจากร่างกาย เช่น ตัว ลำตัว หรือไหล่

 

การฟาล์ว

ระหว่างการชก แต่ละยกนั้น ผู้ตัดสินต้องคำนึง ถึงความสำคัญของการฟาล์ว และตัดคะแนนตาม ที่ผู้ชี้ขาดสั่งให้ตัดคะแนน ถ้าผู้ตัดสินเห็นการฟาล์ว อย่างชัดเจน โดยผู้ชี้ขาดไม่ได้สังเกต และตัดคะแนนผู้แข่งขัน ที่กระทำฟาล์วนั้น ผู้ตัดสินจะต้องประเมิน ดูความรุนแรงของการฟาล์ว และตัดคะแนน ไปตามความเหมาะสม พร้อมทั้งระบุไว้ด้วยว่า ทำฟาล์วด้วยเหตุใด

 

เกี่ยวกับการให้คะแนน

- ในแต่ละยก มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน และให้คู่แข่งขัน ลดลงไปตามส่วน คือ ( 987 ) คะแนน

- ในยกที่เสมอกัน จะได้ฝ่ายละ 10 คะแนน

- ผู้ชนะในยกนั้น จะได้คะแนน 10 คะแนน ผู้ที่แพ้ได้ 9 คะแนน ( 10 : 9 )

- ผู้ชนะในยก ที่ชัดเจนมาก จะได้คะแนน 10 คะแนน ผู้ที่แพ้ได้ 8 คะแนน ( 10 : 8 )

- ผู้ชนะในยกนั้น และได้นับ 1 ครั้ง จะได้คะแนน 10 ผู้ที่แพ้ได้ 8 คะแนน ( 10 : 8 )

- ผู้ชนะที่ชัดเจนมาก ในยกนั้น และได้นับ 1 ครั้ง จะได้คะแนน 10 ผู้ที่แพ้ได้ 7 คะแนน ( 10 : 7 )

- ผู้ชนะในยกนั้น และได้นับสองครั้ง จะได้คะแนน 10 ผู้ที่แพ้ได้ 7 คะแนน ( 10 : 7 )

- นักมวยที่กระทำฟาล์ว ต้องไม่ได้คะแนนเต็ม ในยกที่ถูกตัดคะแนน

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ ท่าออกกำลังกาย ของ อาชีพนัก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบง่าย ๆ หากสนใจอยากเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารเข้ามาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทย ( jaroenthong muay thai ) ที่สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กระสอบทราย อุปกรณ์ สำคัญ การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย ตาม นัก มวยไทย มืออาชีพ

ฝึกมวยไทย มือใหม่ควรรู้

ฝึกมวยไทย มือใหม่ควรรู้

ปัจจุบัน มวยไทยเป็น (Muay Thai) เป็นกีฬาที่เราหลาย ๆ คนต่างรู้จักกันดี และ เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คน ต่างอยากหาความรู้ อยากฝึก เพราะ มวยไทย (Muay Thai) เป็นกีฬาที่ทรงเสน่ห์ และ ยังเป็นศิลปะป้องกันตัว

 

มวยไทย (Muay Thai) นั้น นอกจากการที่เราจะฝึก เพื่อเป็นมืออาชีพแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อ ออกกำลังกายได้ และ ยังสามารถฝึกเพื่อเป็นศิลปะป้องกันตัวได้อีก ไม่จะมีจุดประสงค์ แบบไหน การที่เราจะ เริ่มต้นฝึก มวยไทย (Muay Thai) นั้น ต้องเข้าใจหลักพื้นฐาน เบื้องต้น และ การเตรียมพร้อมต่าง ๆ เพื่อ ให้การฝึกมวยไทย (Muay Thai) ของเรานั้น เห็นผลมากที่สุด สิ่งที่มือใหม่ ต้องเตรียมตัว และ เรื่องที่ผู้ที่ ต้องการ ฝึกมวยไทย(Muay Thai) ควรรู้นั้นมีไรบ้าง ไปดูกัน

 

การเตรียมตัว

 

เตรียมร่างกายให้พร้อมกับการฝึกมวยไทย

หากเราต้องการที่จะฝึกมวยไทย (Muay Thai) นั้น เราต้องมีการ เตรียมร่างกาย ให้พร้อม ต่อการฝึก มวยไทย (Muay Thai) และ ก่อนเริ่มต้นฝึกมวยไทย (Muay Thai) ทุกครั้งนั้น ต้องมีการออกกำลังกาย ก่อนที่จะเริ่มการฝึกเสมอ ส่วนการออกกำลังกายนั้น จะเน้น ไปที่การวิ่ง เพื่อฝึกความอึด และ ความอดทนร่างกาย โดยการวิ่งนั้น จะวิ่งประมาณ 10 กิโลเมตร สำหรับมือใหม่ ให้เริ่มวิ่งเท่าที่ไหวก่อน แต่ก็ไม่ควรวิ่งในระยะทาง ที่น้อยเกินไป แต่ถ้าต้องการฝึกแบบนักมวย ก็จะที่รมถนน เพื่อ ให้ร่างกายทนต่อแดด

 

เตรียมอุปกรณ์ หรือ สิ่งของที่จำเป็นต่อการฝึก

การฝึกมวยไทย (Muay Thai) นั้น จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์ส่วนตัว เพราะ ของ หรือ อุปรกรณ์บางอย่างนั้น เราไม่สามารถ ยืม หรือ อาศัยของจากทางค่ายมวย หรือ ยิมได้ สิ่งที่ต้องเตรียมไป เบื้องต้น คือ กางเกงมวย ผ้าพันมือ แองเกิล กระบอกน้ำ ผ้าขนหนู น้ำมันมวย ครีมนวดบรรเทาอาการปวด ยาดม ยาหม่อง เครื่องดื่มผสมเกลือแร่   

 

ไม่หักโหมจนร่างกายไม่ไหว 

เนื่องจากร่างกายเรานั้น มีสภาพร่างกาย ความพร้อมที่ต่างกัน ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรือ ความเหนื่อยล้า จากการฝึก การฝึกมวยไทย (Muay Thai) นั้น เราไม่ควรที่จะหักโหมมากเกินไป เพราะ อาจจะทำให้ร่างกาย ได้รับบาทเจ็บ และ ถ้าหากหักโมมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เรานั้น ไม่อยากฝึก มวยไทย (Muay Thai) 

 

เพิ่มขีดจำกัดให้กับร่างกาย

การฝึก มวยไทย (Muay Thai) นั้น จำเป็นต้องเพิ่มขีดจำกัด ให้กับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายของเรานั้น สามารถเพิ่มความอึด เพิ่มความอดทน เพื่อทำให้เราสามารถฝึกมวยไทย (Muay Thai) หรือ ซ้อม มวยไทย (Muay Thai) ได้นานขึ้น

 

รู้จักท่าพื้นฐานในการฝึก มวยไทย (Muay Thai)

 

ตั้งท่าจดมวย

การตั้งท่าจดมวย  คือ การวางเข่า วางมือให้ถูกต้อง หรือ หาเหลี่ยมมวยนั่นเอง เหลี่ยมของมวยไทยจะมีอยู่ 2 เหลี่ยม คือ เหลี่ยมซ้าย กับ เหลี่ยมขวา

 

วางตำแหน่งของอาวุธ

การวางตำแห่ง อาวุธ คือ การกำหมัด การวางมือ การวางเท้า และ ลำตัว

 

การออกอาวุธ

การใช้ มือ เท้า เข่า ศอก การใช้อาวุธ เหล่านี้ ต้องมีเทรนเนอร์ที่ดี เพื่อ ที่จะได้เรียนรู้ การออกอาวุธที่ถูกต้อง และ ถูกวิธี เพื่อลด อาหารบาดเจ็บ จากการออกอาวุธ

ศิลปะป้องกันตัว หรือ การฝึก มวยไทย (Muay Thai) ต้องอาศัยการฝึกฝน อย่างต่อเนื่อง และ สม่ำเสมอ ที่สำคัญควรหา เทรนเนอร์ที่ดี อุปกรณ์ครบ และ ที่สำคัญควรเลือก ยิม (Gym) ที่ดีที่สะดวก มีคุณภาพ ถ้าหากไม่รู้จะไปที่ใด เราแนะนำ มาฝึกมวยไทย (Muay Thai) ที่ เจริญทอง มวยไทย ยิม (Jaroenthong Muay Thai Gym)

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

พื้นฐาน ท่าออกอาวุธ มวยไทย ( Muay Thai )

ถุงถ่วงน้ำหนัก มวยไทย ( Muay Thai )

แม่ไม้ มวยไทย ที่หาชมได้ยาก

แม่ไม้ มวยไทย ที่หาชมได้ยาก

มวยไทย จัดว่าเป็นศิลปะป้องกันตัวมาแต่โบราณ ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่กาลเวลาค่อย ๆ เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเริ่มมีบทบาทกับคนยุคใหม่มากขึ้น ทำให้คนไทยหลายคนไม่ค่อยเห็นแม่ไม้ มวยไทย เหล่านี้ในปัจจุบัน

 

     แม่ไม้ มวยไทย ที่สำคัญ โบราณาจารย์ผู้ทรงคุณได้จัดแบ่งไว้ คือ การใช้ หมัด ศอก เข่า เท้า มีทั้งรุก และรับ ในจังหวะสถานการณ์ต่าง ๆ กันตั้งเป็นชื่อกล ต่าง ๆ เพื่อการจดจำ ดังนี้

 

          กลแม่ไม้ มวยไทย

กล 1 สลับฟันปลา ( รับวงนอก )

     แม่ไม้กล 1 นี้ เป็นไม้หลัก หรือไม้ครูเบื้องต้น ใช้รับ และหลบหมัดตรงของคู่ปรปักษ์ที่ชกนำอย่างรุนแรง และหนักหน่วง หลบออกวงนอก นอกลำแขนของคู่ปรปักษ์ ทำให้หมัดตรงของผู้ชกเลยหน้าไป

ก. ฝ่ายรุกชกด้วยหมัดตรงซ้าย พร้อมกับตัวเท้าซ้ายสืบไปข้างหน้า หมายชกบริเวณใบหน้าของฝ่ายรับ

ข. ฝ่ายรับ ก้าวเท้าขวาหลบไปทางกึ่งขวา 1 ก้าว พร้อมทั้งโน้มตัวเอนไปทางขวาประมาณ 60 องศา น้ำหนักตัวอยู่บน เท้าขวา ขาขวางอเล็กน้อย ศีรษะ และตัวหลบออกวงนอกของหมัดฝ่ายรุก ทันใดใช้มือขวาจับกำคว่ำที่แขนท่อนบน ของฝ่ายรุก มือซ้าย จับ กำ หงาย ที่ข้อมือของฝ่ายรุก ( ท่าคล้ายจับหักแขน )

 

กล 2 ปักษาแหวกรัง ( รับวงใน )

ก. ฝ่ายรุกชกใบหน้าฝ่ายรับด้วยหมัดซ้ายตรง พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าสืบไปข้างหน้า เฉียงไปทางกึ่งซ้ายเล็กน้อยภายในแขนซ้ายของฝ่ายรุก ตัวเอนประมาณ 60 องศา น้ำหนักตัวอยู่บนเท้าซ้าย ทันใดให้งอแขนทั้ง 2 ขึ้น ปะทะแขนท่อนบน และท่อนล่างของฝ่ายรุกไว้โดยเร็ว หมัดของ ฝ่ายรับทั้งคู่ ชิดกัน ( คล้ายท่าพนมมือ ) ศอกกางประมาณ ๑ คืบ ศีรษะ และใบหน้ากำบังอยู่ระหว่างแขนทั้งสอง ตาคอย ชำเลืองดูหมัดขวา ของฝ่ายรุก

 

กล 3 ชวาซัดหอก ( ศอกวงนอก )

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดตรงซ้ายยังบริเวณใบหน้าของฝ่ายรับ พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายสืบไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าเอนตัวไปทางกึ่งขวา ตัวเอนประมาณ 30 องศา น้ำหนักตัวอยู่บนเท้าขวา ทันใดรีบงอแขนซ้าย ใช้ศอกกระแทก ชายโครงใต้แขนซ้ายของฝ่ายรุก

 

กล 4 อิเหนาแทงกฤช ( ศอกวงใน )

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดซ้ายตรง พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าซ้ายสืบไปข้างหน้า ตัวเอียงไปทางซ้ายเล็กน้อยตัวเอนประมาณ 60 องศา น้ำหนักตัวอยู่บน เท้าซ้าย งอศอกขวา ขนานกับพื้น ตีระดับชายโครงฝ่ายรุก ตอบด้วยแขนซ้าย

 

กล 5 ยกเขาพระสุเมรุ ( ต่อยตั้งหมัดต่ำก้มตัว 45 องศา )

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดซ้ายตรง พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าขวาพร้อมกับย่อตัวต่ำเข้าหาฝ่ายรุก งอเข่าขวา ขาซ้ายตึง ย่อตัวต่ำเอนไปข้างหน้าประมาณ 45 องศา น้ำหนักตัวอยู่บนขาขวา ทันใดนั้น ให้ยืดเท้าขวายกตัวเป็นแหนบ พร้อมกับพุ่งหมัดชกขวาเสยใต้คางของฝ่ายรุก หน้าเงยดูคาง ของฝ่ายรุก แขนซ้ายกำบังอยู่ตรงหน้าเสมอคาง

 

กล 6 ตาเถรค้ำฟัก ( ต่อยคางหมัดสูงก้มตัว 60 องศา )

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดซ้ายตรง พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าซ้ายสืบไปข้างหน้าของฝ่ายรุก ทางกึ่งขวาของวงหมัดภายในของฝ่ายรุกที่ชกมา งอเข่าซ้าย เล็กน้อยใช้หมัดซ้าย ชกใต้คางของฝ่ายรุก แล้วใช้แขนยวาที่งอป้องหมัดซ้ายฝ่ายรุกที่ชกมาให้พ้นตัว

 

กล 7 มอญยันหลัก ( รับต่อยด้วยถีบ )

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดซ้ายตรง พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ ผลักตัวเอนไปทางขวา เอนตัวหนีฝ่ายรุกประมาณ 45 องศา ยืนบนเท้าขวา แขนทั้ง 2 งออยู่ตรงหน้า เหลียวดู ฝ่ายรุก ทันใดนั้น ยกเท้าซ้ายถีบที่ยอดอก หรือท้องน้อยของฝ่ายรุกให้กระเด็นห่างออกไป

 

กล 8 ปักลูกทอย ( รับเตะด้วยศอก )

     ใช้รับการเตะกราดของคู่ต่อสู้ โดยใช้ศอกรับสลับกัน

ก. ฝ่ายรุก ยืนตรงหน้าพอได้ระยะเตะ ยกเท้าขวาเตะกราดไปยังบริเวณชายโครงของฝ่ายรับ จากขวาไปซ้าย โน้มตัว เล็กน้อย งอแขนทั้ง 2 ป้องกันตรงหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบผลักตัวไปทางซ้าย พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายฉากไปข้างหลัง ใช้แขนขวางอศอกขึ้นรับเท้าของฝ่ายรุกที่เตะมา แขนซ้ายงอป้องกันอยู่ตรงหน้าสูงกว่าแขนขวาเพื่อป้องกันพลาดถูกใบหน้า

 

กล 9 จระเข้ฟาดหาง ( รับต่อยด้วยเตะ )

     แม่ไม้นี้ใช้ส้นเท้าฟาดไปทางด้านหลัง เมื่อคู่ต่อสู้พลาดแล้วถลันเสียหลัก จึง หมุนตัวเตะด้วยลูกเหวี่ยงส้นเท้า

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดซ้ายตรง พร้อมกับสืบเท้าซ้ายไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าขวากระโดดไปทางกึ่งขวา ให้พ้นหมัดฝ่ายรุก แขนงอกำบังตรงหน้าแล้วใช้เท้าซ้าย เป็นหลักหมุนตัว เตะด้วยส้นเท้าขวาบริเวณท้องหรือคอ

 

กล 10 หักงวงไอยรา ( ถองโคนขา )

ก. ฝ่ายรุก ยกเท้าขวาเตะกราดไปยังชายโครงของฝ่ายรับ งอแขนทั้ง 2 บังอยู่ตรงหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าขวาเข้าหาฝ่ายรุกตรงหน้าเกือบประชิดตัว ข้างตัวไปทางซ้าย เข่าขวางอ เท้าซ้ายเหยียดตรง ทันใด เอามือซ้ายจับเท้าขวาของฝ่ายรุก ต้องพยายามยกขาฝ่ายรุกให้สูง กันฝ่ายรุกใช้ศอกถองศีรษะ

 

กล 11 นาคาบิดหาง ( บิดขาจับตีเข่าที่น่อง )

ก. ฝ่ายรุก ยกเท้าขวาเตะกราดไปยังบริเวณชายโครงของฝ่ายรับ แขนทั้ง 2 งออยู่ตรงหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบผลักตัวไปทางซ้าย ยืนบนเท้าซ้าย มือซ้ายจับส้นเท้าของฝ่ายรุก มือขวาจับที่ปลายเท้าบิดออกนอกตัว ทันใดนั้น รีบยกเข่าขวาตีที่น่องของฝ่ายรุก

 

กล 12 วิรุณหกกลับ ( รับเตะด้วยถีบ )

     แม่ไม้นี้ ใช้รับการเตะโดยใช้ส้นเท้า กระแทกที่บริเวณโคนขา

ก. ฝ่ายรุก ยกเท้าซ้ายเตะกลาง ลำตัวบริเวณชายโครงของฝ่ายรับ

ข. ฝ่ายรับ รีบยกเท้าซ้ายถีบไปที่ บริเวณโคนขาซ้ายของฝ่ายรุกพร้อมยกแขน ทั้งสองกันด้านหน้า การถีบนั้นต้องถีบให้เร็ว และแรงถึงขนาด ฝ่ายรุกหมุนกลับเสียหลัก

 

กล 13 ดับชวาลา ( ปิดหมัดต่อยตอบ )

     แม่ไม้นี้ใช้แก้การชกด้วยหมัด ตรงโดยชกสวนที่ใบหน้า

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดซ้ายไปยังบริเวณใบหน้าของฝ่ายรับ พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า แขนขวาคุมบริเวณ ปลายคาง

ข. ฝ่ายรับ ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้ากึ่งขวาหลบอยู่นอกหมัดซ้ายของฝ่ายรุก เอี้ยวตัวไปทางขวา ปัด และกดแขนซ้าย ของฝ่ายรุกที่ชกมา ให้เอนไปทางซ้าย กดให้ต่ำลง ทันใดรีบใช้หมัดซ้ายต่อย บริเวณปากครึ่งจมูกครึ่ง หรือที่เบ้าตา ของฝ่ายรุก แล้วพุ่งตัวโดด ไปทางกึ่งขวา

 

กล 14 ขุนยักษ์จับลิง ( รับ - ต่อย - เตะ – ถอง )

     ไม้นี้เป็นไม้สำคัญมาก ใช้แก้ลำคู่ต่อสู้ที่ไวในการต่อย เตะ ถอง ติดพันกัน การปฏิบัติ แบ่งออกเป็น 3 ตอน

ตอนที่ 1

ก. ฝ่ายรุก พุ่งหมัดซ้ายตรงไปยังใบหน้าของฝ่ายรับ พร้อมกับก้าวเท้าซ้ายสืบไปข้างหน้า

ข. ฝ่ายรับ รีบก้าวเท้าซ้ายสืบเท้าเข้าหาตัวฝ่ายรุกตรงหน้า แขนขวาปัดแขนซ้ายฝ่ายรุกให้พ้นจากตัว

ตอนที่ 2

ก. ฝ่ายรุก ยกเท้าขวาเตะกราดบริเวณชายโครงของฝ่ายรับ

ข. ฝ่ายรับ รีบผลักตัว ถอยเท้าซ้ายไปข้างหลัง ราวกึ่งซ้ายย่อตัวใช้ศอกขวาถองที่ขาขวาท่อนบนของฝ่ายรุก

ตอนที่ 3

ก. ฝ่ายรุก งอแขนขวาโน้มตัวถองชกศีรษะของฝ่ายรับ

ข. ฝ่ายรับ รีบยืดตัว งอแขน ให้แขนท่อนบนปะทะแขนท่อนล่างของฝ่ายรุก แล้วรีบผลักตัว ก้าวเท้าขวาไปทางหลัง ประมาณกึ่งขวา

 

กล 15 หักคอเอราวัณ ( โน้มคอตีเข่า )

ก. ฝ่ายรุก ชกด้วยหมัดซ้ายตรง พร้อมกับสืบเท้าซ้ายไปข้างหน้า หมัดขวาคุมอยู่บริเวณคาง

ข. ฝ่ายรับ ก้าวเท้าซ้ายสืบไปตรงหน้าฝ่ายรุกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยกแขนขวาสอดปัดแขนซ้ายของฝ่ายรุก แล้วโดด เข้าเหวี่ยงคอฝ่ายรุก โน้มลงมาโดยแรง แล้วตีด้วยเข่าบริเวณใบหน้า

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

อยากสลายหน้าท้องหันมาฝึก มวย ดูสิ

คำศัพท์ น่ารู้ เกี่ยวกับ มวยไทย ( Muay Thai )

ผู้หญิงฝึกมวยไทยต้องเตรียมตัวอย่างไร

ผู้หญิงฝึกมวยไทยต้องเตรียมตัวอย่างไร

มวยไทย เป็นกีฬาที่นิยมเป็นหมู่มาก ในปัจจุบัน และ ยังเป็นกีฬายอดนิยม ในกลุ่มของผู้หญิงอีกด้วย วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูกันว่า จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

 

ในการเล่น กีฬามวยไทยนั้น เป็นกีฬาที่ต้องมีการ ขยับตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกีฬามวยไทยเป็นกีฬา ที่ต้องมี ทั้งการเตะ การต่อย การใช้ศอก การใช้ อวัยวะเหล่านี้อาจะทำให้เกิดอาการช้ำ หรือ บาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ดังนั้น สาว ๆ ที่จะออกกำลังกายด้วย มวยไทยนั้น ต้องมีการเตรียมตัว หลายอย่างที่มากกว่าร่างกาย

 

สิ่งที่ต้องเตรียม

 

1. นวม

นวม เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก สำหรับการต่อยมวย เพราะ นวมช่วยปกป้อง มือของเราให้มีความปลอดภัย จากคู่ชก และการฝึก สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากมีนวมที่เป็นของตัวเอง เพื่อเอาไว้ฝึก แนะนำ ให้ไปซื้อด้วยตัวเอง เพราะ จะได้รู้ว่านวมขนาดไหนเหมาะกับ และ ควรถามโค้ช หรือ เทรนเนอร์ของเราว่าควร ใช่นวมหนาขนาดไหน เพื่อความถูกต้อง และ  สะดวกต่อการฝึก

 

2. กางเกงมวย

ในการไปคลาสเรียนมวยนั้น ควรที่จะใส่ กางเกงมวย ไม่ควรใส่กางเกงอะไรก็ได้ ไปฝึกกีฬามวย เพราะ กางเกงมวยนั้น ถูกออกแบบมาให้ มีความคล่องตัว โปร่งโล่ง ขยับตัวง่าย เมื่อมีการเตะ หรือ ใช้เข่า จะได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนขาได้สะดวก ปัจจุบัน กางเกงมวยมีการออกก ให้สวย ทันสมัย และ ดูดี ไม่เชย สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นผู้หญิง ก็สามารถใส่กางเกง ชั้นในขายาว ทับเข้าไปได้ เพื่อป้องกัน และ เพื่อความปลอดภัย ของสาว ๆ ที่มาฝึกกีฬามวย

 

3. แองเกิล (Ankle)

แองเกิล (Ankle) อุปกรณ์ ที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กับถึงเท้า แต่เป็นถุงเท้าที่เปิดส้นเท้า และ เปิดนิ้วเท้า อุปกรณ์ชิ้นนี้ อาจจะดูไม่จำเป็นสำหรับการฝึกมวย แต่ แองเกิล (Ankle) มีหน้าที่ ช่วยซัพพอร์ต ข้อเท้าของเรา บางคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น สำหรับการใส่ แองเกิล (Ankle) แต่ จริง ๆ แล้วในการฝึกชกมวย จำเป็นต้องใส่

 

4. ผ้าพันมือ

ผ้าพันมือ อาจจะดูเป็นสิ่งที่ไม่จะเป็นสำหรับ การเรียนชกมวย เพราะ มีนวมอยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วควรมีผ้าพันมือ เพราะ มือของเรานั้น มีกระดูกถุง 27 ชิ้น รวมไปถึงเนื้อเยื่อ และ กระดูกอ่อนโดยรอบ โดยผ้าพันมือ จะช่วยป้องกันมือเรา อีกชั้น อีกทั้งยังช่วย ล็อกไม่ให้กระดูก นิ้ว และ ข้อมือขยับ   

 

5. เสื้อผ้า

ในการฝึกชกมวย หรือ เรียนชกมวยนั้น ควรที่จะสวมใส่ เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ ซับเหงื่อ แห้งเร็ว โดยเฉพาะผู้หญิง ควรสวมใส่สปอตบาร์ เพราะ สปอตบาร์ จะช่วยซัพพอร์ตดีดีกว่า บาร์ทั่วไป

 

6. เครื่องสำอาง

ในการออกกำลังบางคนอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องแต่งหน้า หรือ ให้ความสำคัญ กับเครื่องสำอางมากเพราะ การฝึกชกมวยนั้น มีการวิ่ง หรือ มีกิจกรรมที่ต้อง ออกไปทำกลางแจ้ง นอกสถานที่ จึงจำเป็นที่จะทาครีมกันแดด เพื่อไม่ใช้ผิวโทรม ลิปสติก เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ในกการออกกำลังกาย การที่เรามีการเตรียมพ้อม และ มีความมั่นใจในการฝึกมวยไทยนั้น ทำให้เรารู้สึกสนุก และ อยากที่จะฝึก ต่อ

 

7. ผ้าขนหนู

ผ้าขนหนู เป็นสิ่งที่เราต้องเตรียมไป เพราะผ้าขนหนูเป็น ของส่วนตัว ที่ไม่ควรใช้ร่วมกับคนอื่น ผ้าขนหนูเป็นสิ่งจำเป็น มีไว้เพื่อ ซับเหงื่อ ตามหน้า ตามร่างกาย และ ตามจุดต่าง ๆ

 

8. ยาดม ยาหม่อง และ กระบอกน้ำ

ยาดม ยาหม่อง เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมองข้าม เพราะ การฝึกชกมวยนั้น มีการขยับตัวตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องใช้ยาดมช่วยเผื่อ เพื่อน ๆ บางคนหายใจไม่ทัน กระบอกเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ไม่ควรหวังพึ่งจากทาง ค่ายมวย หรือ ยิมฝึกสอน แต่ควรพกไปเอง เพราะ เพื่อน ๆ บางคนนั้น มีการดื่มน้ำที่ต่างกัน

 

9. ครีมนวด

เนื่องจากกีฬามวย นั้นต้อง มีการเตะ ต่อย ทั้งจากการซ้อม และ จากคู่ต่อสู้  อาจทำให้มีการปวดเมื่อยเมื่อยกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงควรมีติดกระเป๋าเอาไว้

 

ในการเรียนมวยนั้น ต้องมีการเตรียมตัว ทั้งเรื่องภายนอก และ ภายใน ภายนอกเช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์การชกมวย และ อุปกรณ์ส่วนตัวต่าง ๆ ส่วนเรื่องภายในนั้น ต้องมีการเตรียมตัวในเรื่องของ สภาพจิตใต และ วินัยในการฝึกซ้อม เพื่อให้การฝึกนั้นเห็นผล  

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

อยากสลายหน้าท้องหันมาฝึก มวย ดูสิ

คำศัพท์ น่ารู้ เกี่ยวกับ มวยไทย ( Muay Thai )

ท่าออกกำลังกาย ของนัก มวยไทย ( Muay Thai )

ท่าออกกำลังกาย ของนัก มวยไทย ( Muay Thai )

หากเพื่อน ๆ คนไหนที่ อยากแข็งแรง สุขภาพดี อย่างนักมวยมืออาชีพ วันนี้เราได้รวบรวม ท่าออกกำลังกาย ของนัก มวยไทย ( Muay Thai ) มาฝากให้เพื่อน ๆ ได้ลองนำไปทำตาม เพื่อสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรงกันแล้วค่ะ

 

หากใครเคยผ่าน หรือมีโอกาสได้เข้าไปเห็นบรรยากาศ การซ้อมมวยไทย ภายในยิมฝึก หรือค่ายมวยต่าง ๆ ก็จะรู้ดีว่า เหล่านักมวยอาชีพนั้น เขาซ้อมกันอย่าง หนักหน่วงมากเพียงใด เขาจะต้องอดทน ต่อการฝึกซ้อม การควบคุม การออกกำลังกาย อาหารการกิน น้ำหนัก เพื่อให้มีร่างกายที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด

 

ท่าออกกำลังกาย ตามนักมวยอาชีพ

 ท่าไหล่ดัน ( Shoulder Presses )

ท่าไหล่ดัน ( Shoulder Presses ) เป็นท่าที่สร้างกล้ามเนื้อ หัวไหล่ได้อย่างดี โดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลัก คือ ดัมเบล ( Dumbbell ) ถ้าหากไม่มีจะใช้ เป็นขวดน้ำก็ได้ แล้วจับให้มั่นจากนั้น ดันขึ้นเหนือหัว ละลง อย่างต่อเนื่อง

 

วิดพื้นแบบตบมือ ( Clap Press – Up )

วิดพื้นแบบตบมือ ( Clap Press – Up ) เป็นวิธีการ ออกกำลังกายที่ง่าย และสามารถทำตอนไหนก็ได้ ท่านี้ไม่ได้เพิ่มแค่ ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับเรื่องของ Body Balance ที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับนักมวย

 

แพลงค์ ( Plank )

เป็นท่าที่ทำยาก และทรมานที่สุด เพราะต้องอาศัย ความแข็งแรง ของร่างกายหลาย ๆ ส่วน เป็นท่านักมวยทุกคน ให้ความสำคัญ ลองทำควบคู่กับการ Crunches และ Sit Up จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น Plank จะเสริมสร้างความแข็งแรง ของร่างกายส่วนกลาง ให้ทนต่อหมดหนัก ๆ ของคู่ต่อสู้

 

คาร์ดิโอ ( Cardio )

ถ้าอยากมีหุ่นที่ฟิต แบบนักมวย ต้องเริ่มจาก คาร์ดิโอ ( Cardio )  เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ทำโดยการ ซิทอัพ วิ่ง กระโดดเชือก ต้องฝึกแบบการกระโดด ที่หลากหลาย และการฝึกความแข็งแรง ของร่างกายในส่วนต่าง ๆ เช่น การดึงข้อ การบริหารกล้ามเนื้อ หลังแขน การวิดพื้น และการฝึกด้วยลูกบอล เทรนนิ่งในท่าทางต่าง ๆ

 

ฟุ้ตเวิร์ค ( Foot work )

ฟุ้ตเวิร์ค ( Foot work ) ฝึกเพื่อใช้ในการหลบหลีก หมัดของคู่ต่อสู้ ความว่องไวในการ Foot work จะช่วยเพิ่มความสามารถ ในการรับมือ ในการต่อสู้ กับคู่ชกได้อย่างดี

 

ท่าชกเงา ( Shadow Boxing )

ท่าชกเงา ( Shadow Boxing ) เป็นการฝึกชกลม เพื่อให้นักชกฝึกการออกหมัด และท่าทางที่ถูกต้อง การชกลมเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างเทคนิคการชก การรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย และสามารถฝึกที่ไหนก็ได้ ที่ทำให้เราขยับช่วงบนได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น

 

ท่าวิดพื้น ( Push - Up )

ท่าวิดพื้น ( Push - Up ) เป็นท่าที่ทำยาก สำหรับคนไม่ค่อย ได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายโดย ท่าวิดพื้น ( Push - Up ) จะให้ประโยชน์กับ กล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงเพิ่มแรงผลัก เวลาที่ต้องคลุกวงกับคู่ต่อสู้ จึงเป็นที่นิยมกันในหมู่นักมวย

 

ท่าสควอช ( Squat )

ท่าสควอช ( Squat ) เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายในส่วนล่าง เพราะนักมวยจะต้องมีการยืนที่มั่นคง พร้อมที่ปล่อยหมัดเพื่อรุกผู้ต่อสู้ได้ตลอดเวลา หากทำท่า Squats ร่วมกับท่าบริหารสะโพกส่วนอื่นให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณมีช่วงล่างที่แข็งแรงแน่นอน แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

 

ท่าเบอร์พี ( Burpees )

ท่าเบอร์พี ( Burpees ) เป็นหัวใจสำคัญ ในการออกกำลังกาย ให้ได้ผล หากใครอยากมีรูปร่างที่สมส่วน  ถ้าทำท่า Burpees อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัว หรือเพิ่มความแข็งแรง ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ ท่าออกกำลังกาย ของ อาชีพนัก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบง่าย ๆ หากสนใจอยากเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารเข้ามาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทย ( jaroenthong muay thai ) ที่สาขาดังนี้

  • jaroenthong muay thai Khaosan ( สาขาข้าวสาร )
  • jaroenthong muay thai Ratchada ( สาขารัชดา อยู่ติดกับโพไซดอน )
  • jaroenthong muay thai Srinakarin ( สาขาศรีนครินทร์ อยู่ด้านในปั้มบางจาก ถนนศรีนครินทร์ )

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กระสอบทราย อุปกรณ์ สำคัญ การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย ตาม นัก มวยไทย มืออาชีพ

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้าง ซิกแพค ได้

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยสร้าง ซิกแพค ได้

ถ้าพูดถึงร่างกายของคนที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ภาพในหัวต้องไม่พ้นคนที่มีร่างกายแข็งแรง มีกล้ามเนื้อ สำคัญคือต้องมีกล้ามหน้าท้องหรือ ซิกแพค วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการปั้น ซิกแพค ด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

 

          ซิกแพค คืออะไร สามารถเกิดขึ้นตามส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง ?

     ซิกแพค เป็นคำภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า กล้ามหน้าท้องลอนสวยทั้ง 6 มัด สามารถเกิดได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง กล้ามเนื้อนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ถูกสร้างขึ้นมา โดยคนที่สร้างก็คือ มนุษย์ที่มีความต้องการอยากให้หน้าท้อง หรือบอดี้ของตัวเองนั้นมีสุขภาพดี และดูดี ดูน่าสนใจเวลาที่มีคนมองนั่นเอง เรามาดูกันว่า ซิกแพค สามารถเกิดขึ้นตามส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง ซึ่ง ซิกแพค เกิดขึ้นได้แค่บริเวณเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ บริเวณหน้าท้องของมนุษย์ค่ะ แบ่งสลับซ้าย และขวาข้างละ 3 มัด

 

     หมัด เท้า เข่า ศอก คือ คำที่ได้ยินบ่อย ๆ จากกีฬาประจำชาติไทย ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครในโลกไม่รู้จัก มวยไทย ( Muay Thai ) คือกีฬาศิลปะการต่อสู้ที่น่าภาคภูมิใจ แน่นอนที่นักมวยแต่ล่ะคนก็ต้องย่อมมีร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งอาวุธ เพราะ อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด คือ ร่างกายของเรานั่นเอง โดยเฉพาะกล้ามหน้าท้อง หรือ ซิกแพค พวกเขามีวิธีสร้างกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง และดุดันแบบนั้นได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเราไปติดตามรายละเอียดกันเลย

 

          สร้าง ซิกแพค แบบฉบับ มวยไทย ( Muay Thai )

     การสร้าง ซิกแพค เป็นการใช้ท่าบริหารกล้ามเนื้อในเรื่องของการพับตัว บิดตัว โยกตัว งอตัวจากส่วนล่างจนถึงส่วนบนโดยมีท่าพื้นฐานทั้งหมด 5 ท่า คือ

1. ท่า Sit Up และชก

12-15 ครั้ง 1-2 เซต ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง และด้านข้าง

     โดยจะเป็นการ Sit Up และ ชกล่อเป้า ยิ่งถ้าหากมีคู่ซ้อมที่ช่วยให้เราสามารถชกล่อเป้าได้จะยิ่งดีมาก แต่ถ้าหากไม่มี ก็สามารถใช้วิธีชกลมได้ ไม่ต่างกัน โดยธรรมชาติของท่านี้ จะใช้ร่างกายในการบิด งอตัว และ เหยียดตัว เพื่อสามารถชกให้โดนเป้าได้มากขึ้น

 

2. ท่า Sit Up และทุบ

12-15 ครั้ง 1-2 เซต ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง

     เป็นการ Sit Up และทุบ โดยให้คู่ซ้อมทุบตรงส่วนบริเวณหน้าท้อง ในช่วงยกตัว ด้วยเป้าล่อท่านี้จะช่วยในเรื่องของการสร้างความคุ้นเคย โดยธรรมชาติของร่างกายจะเกิดอาการเกร็ง เมื่อมีสิ่งใดมาปะทะตรงบริเวณช่วงหน้าท้อง เป็นการสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อไหวพริบ และ ระบบประสาทอาจเคยสงสัยกันว่า ทำไมนักมวยถึงสามารถทนทานต่อการถูกตีเข่าเป็นเวลานาน ๆ ได้ คำตอบก็คือ ท่านี้นั่นเอง

 

3. ท่า Sit Up และหลบ

12-15 ครั้ง 1-2 เซต ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง และด้านข้าง

     เป็นการ Sit Up และ หลบหมัดของคู่ซ้อมในระหว่างที่ยกตัวขึ้นมา โดยจะได้ทักษะในการหลบหมัดคู่ต่อสู้ พิงเชือก โยกตัว โดยท่านี้จะได้ทั้งในส่วนกล้ามเนื้อทั้งเอว และขา

 

4. ท่าตีเข่า

30 วินาที 1-2 เซต ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง / ด้านข้าง และน่อง

     ท่านี้จะเป็นการใช้ขาช่วงล่างหนักขึ้น โดยใช้ขาข้างที่เราทรงตัว ตีเข่าขึ้นกลางอากาศ ยิ่งเร่ง การทรงตัว และการเขย่งจะยิ่งทำงานหนักขึ้น และเมื่อขึ้นชกกับคู่ต่อสู้ จะช่วยในเรื่องของการหลบหลีก และการทรงตัว ทำให้เรายืนขาได้มั่นคงยิ่งขึ้น

 

5. ท่าเตะข้าง

30 วินาที 1-2 เซต ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง / ด้านข้าง และน่อง

     ท่านี้จะได้กล้ามเนื้อในส่วนของลำตัวด้านข้าง ซึ่งจะแตกต่างจากท่าตีเข่า โดยการใช้แรงมากขึ้น และยืดขามากขึ้น

 

     ซึ่ง 5 ท่าเหล่านี้ คือ เทคนิคขั้นพื้นฐานของการสร้าง ซิกแพค ด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) โดยท่าแรก สำหรับช่วงเริ่มต้น อาจไม่ต้องใช้วิธีการทุบเลยทันที อาจจะเป็นการเกร็งค้างไว้ แล้วค่อยปล่อยลงมา ท่าล่ะ 1-2 รอบ ส่วนคนที่เริ่มชินแล้วแนะนำให้ทำท่าตั้งแต่ 1-5 แล้วค่อยพัก นอกจากได้ ซิกแพค แล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องของ คาร์ดิโอ หรือการมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นด้วย

     กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง ต้องมาพร้อมกับจิตใจที่แข็งแกร่งและมุ่งมั่น การสร้าง ซิกแพค ด้วยมวยไทย ( Muay Thai ) คงไม่ยากเกินกว่าความตั้งใจของเรา แค่คิดว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้เช่นกัน หากใครสนใจอยากเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) เรามีสอนให้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) กับสาขาที่ใกล้ และสะดวกที่สุดได้เลย ซึ่งเรามีทั้งสาขาศรีนครินทร์ สาขาข้าวสาร และสาขารัชดา

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

พัฒนาการของ มวยไทย ในแต่ละสมัย

กระจับ นักมวย สำคัญอย่างไรกันน

ฝึกมวยไทยดีอย่างไร

ฝึกมวยไทยดีอย่างไร

ฝึกมวยไทยดีอย่างไร

 

ปัจจุบันนี้มวยไทยเป็นที่แพร่หลาย ที่ได้รับความนิยมและเป็นกีฬาที่เข้าถึงง่ายใคร ๆ ก็สามารถฝึกได้ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เยอะ ก็สามารถฝึกได้

 

ปัจจุบันกีฬามวยไทยเป็นที่นิยมในสังคมคนรุ่นใหม่ เราเห็นได้ถึง เซเล็ปดารา หรือ คนดังปัจจุบันหันมาฝึกมวยไทย นอกจากจะ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังมีอีกหลายอย่าง เช่น ฝึกความว่องไว  และที่สำคัญไปกว่านั้นยังเป็นศิลปะป้องกันตัว มาดูกันว่าการฝึกมวยไทยนั้น ช่วยให้เราพัฒนาอะไรอีกบ้าง

 

1. ฝึกวินัย

            การฝึกมวยไทยนั้น จำเป็นต้องฝึกทุกวันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และเพื่อให้กล้ามเนื้อจดจำ  การที่เราฝึกซ้ำ ๆ เพราะว่าการฝึกมวยไทยต้องใช้ทั้งความอดทนของร่างกาย และจิตใจ เพราะฉะนั้น การที่เราจะฝึกมวยไทยให้เห็นผลนั้น ต้องมีวินัย มวยไทยมีการฝึกหลายอย่าง ทั้ง ร่างกาย กล้ามเนื้อ ความอึดความอดทน การมีวินัยในการฝึกมวยไทยส่งผล ไปถึงชีวิตประจำวัน ในหลาย ๆ อย่าง

 

2. ลดความเครียด

            การฝึกหรือการเล่นกีฬามวยไทย ต้องอาศัยเพื่อนเพื่อความสนุกในการเล่น และยิ่งมีเพื่อนมากเท่าไหร่ก็ ยิ่งทำให้มีความสนุกมากเท่านั้น เพราะเวลาเล่นร่างกายจะปล่อยสารเอนโดรฟีนออกมา ทำให้เรามีความสุขและสนุกไปกับการฝึกมวยไทย

 

3. มีจิตใจที่มั่นคงแน่วแน่

            กีฬามวยไทยนั้นเป็นกีฬาที่ต้องมีการฝึกจิตใจ เพราะกีฬามวยไทยนอกจากจะใช้ความอดทนในการฝึก ยังต้องมีการฝึกจิตใจเพื่อพร้อมกับการฝึกที่หนัก พร้อมอดทนกับความเหนื่อยล้า จิตใจที่แน่วแน่จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสำหรับการฝึก ถ้าหายเราไม่ฝึกจิตใจให้แข็งแรงเราจะเสียเวลา และ เสียเงินไปกับการฝึกที่ไม่ได้ผลได้

 

4. ฝึกอารมณ์ให้มีความใจเย็น และอดทนต่อความกดดันได้ดี

            หลาย ๆ คน คิดว่าการฝึกมวยจะทำให้เราเป็นคนใจร้อน เนื่องจากการฝึกกีฬามวยไทยนั้น มีการชกต่อย เตะ ทำให้คนที่เห็นนั้น คิดว่ากีฬามวยไทยคือกีฬาที่รุนแรงแต่จริง ๆ แล้วไม่เลย ไม่ใช่อย่างที่คิด หากนักมวยหรือผู้ที่ฝึกมวยไทยท่านใดขึ้นสังเวียนจริง ผู้นั้นต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่สามารถพึ่งพาพี่เลี้ยงได้ และสิ่งแรกที่เราต้องคิดคือ ความชนะ สิ่งที่จะทำให้เราชนะคู่ต่อสู้นั่นก็คือ ความสุขุม ใจเย็น และสมาธิ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราวิเคราะห์คู่ต่อสู้และตัวเราได้ดี หากผู้ชกใจร้อน ก็จะทำให้คาดสติและ อาจแพ้ได้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

พัฒนาการของ มวยไทย ในแต่ละสมัย

กระจับ นักมวย สำคัญอย่างไรกันนะ

เรื่องพื้นฐานในการฝึก มวยไทย

เรื่องพื้นฐานในการฝึก มวยไทย

ในปัจจุบันกีฬามวยไทย เป็นมากกว่ากีฬา เนื่องจากปัจจุบันนี้กีฬามวยไทยเป็นที่แพร่หลายในสังคม มวนไทยถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม เป็นทั้งการออกกำลังกาย และเป็นทั้งศิลปะการป้องกันตัว

 

พื้นฐานในการฝึก

การเริ่มการฝึกมวยไทยนั้น ผู้ที่เริ่มฝึกต้องเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขยับร่างกาย ในส่วนต่าง ๆ เพราะกีฬามวยไทยนั้น เป็นกีฬาที่ต้องใช้การขยับของทุกส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา ศีรษะ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ ในการฝึกมวยไทย นั่นก็คือ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และ ความว่องวัย

 

ก่อนที่ฝึกมวยไทยนั้น เราต้อองรู้หลักพื้นฐานกันก่อนว่า อวัยวะ และ กล้ามเนื้อแต่ ละส่วนของร่างกายเรานั้น มีการเคลื่อนไหว อย่างไร เนื่องจากอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธจึงจำเป็นที่ต้องมีการฝึกให้แข็งแรง ไปดูกันที่ส่วนแรกกันเลย

 

แขน เป็นการ ใช้แขนตั้งแต่ ใต้ศอกยาวลงไปถึงข้อมือ ใช้สำหรับออกท่าทางในการต่อสู้ เช่น ใช้ฟัน สับ กด ปัด เปิด หนีบ

 

หมัด เป็นอาวุธหลักและสำคัญมาก ๆ ในการต่อสู้ ของ มวยไทย เพราะ หมัดใช้ในการชกคู่ต่อสู้ ต้องมีความเร็ว และ รุนแรง ใช้สำหรับ ต่อย ทุบ ชก การใช้หมัดสามารถฝึกฝนด้วยตนเองได้โดย เริ่มจากการชกลม หรือชกกระสอบทราย

 

ศอก เป็นการ งอแขนหรือหนีบแขนให้เกิดมุม เป็นกระดูกเพื่อใช้เป็นอาวุธ ของนักมวย ศอกเป็นอาวุธที่รุนแรง และอันตราย และยังสามารถทำให้ คู้ต่อสู้บาดเจ็บถึงขั้นเลือกออกได้เลย ศอกใช้สำหรับ งัด ฟัน สับ

 

เข่า เป็นการงอขา เพื่อให้เกิดมุม แหลม ใช้สำหรับ การ กระแทก กระทุ้ง ยัด ถ้าไม่ระวังตัวในการต่อสู้ เข่า สามารถทำให้คุณแพ้ ได้เลยทีเดียวและเข่ายังเป็นอีกหนึ่งอาวุธที่น่ากลัวและอันตราย

 

เท้า เป็นการทำโดยการถีบ  เพื่อให้คู่ต่อสู้กระเด็นออกไป การถีบเป็นอาวุธที่ไม่ควรประมาท เพราะ การถีบทำให้เรารักษาระยะในการต่อสู้ การตั้งหลัก หรือ อาจทำให้คุณล้มลงไปนอนกับพื้นได้

 

ศีรษะ/หัว นี้ก็เป็นอีกหนึ่งอาวุธ ที่รุนแรงเหมือนกัน สามารถ ทำให้คู่ต่อสู้ เราน็อคได้เลย ใช้ในการ กระแทก โขก กด แต่ทั้งนี้การใช้ศีรษะในการต่อสู้อาจะทำให้เกิดอันตรายทั้งตัวเองและคู่ต่อสู้ การใช้ศีรษะจึงไม่แนะนำให้ใช้ศีรษะในการต่อสู้

 

นี่เป็นแค่ส่วน หนึ่งของการ ฝึก หรือ การทำความเข้าใจใน ในการฝึกขั้นพื้นฐานของมวยไทย ในการขยับร่างกาย หรือ การใช้ร่างกาย ในการต่อสู้ ยังมีอีกมากมายที่เราต้องใช้ ในการ ฝึกซ้อม เพื่อที่จะทำให้เรา เก่ง และ สามารถ ไปขึ้นชกได้ครับ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกความว่องไวของ สายตา ฉบับ มวยไทย

ท่าการใช้เท้า ใน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อจัดการคู่ต่อสู้

ลดน้ำหนักด้วย มวยไทย

ลดน้ำหนักด้วย มวยไทย

เป็นกระที่ฮิตฮอตมากกับการลดน้ำหนักโดยการฝึกมวยไทย ไม่ว่าจะเพศชาย หรือหญิง เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ก็ต่างก็ใช้มวยไทยเพื่อการลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ฟิตหุ่น และฝึกมวยไทยเพื่อเป็นการป้องกันตัว

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เพื่อน ๆ ที่อ่านบทความนี้ จะไม่รู้จักมวยไทยซึ่งเป็นกีฬาที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าเราปัจจุบันนี้ นอกจากเราจะรู้จักมวยไทยในเรื่องของกีฬาแล้ว อีกหนึ่งกระแสที่มาแรงก็คงไม่แพ้ การฝึกเพื่อลดน้ำหนักหรือฟิตหุ่น เพราะมวยไทยถือว่า เป็นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน และใช้พลังงานสูงมาก จึงเป็นวิธีที่ดี และเหมาะกับการฟิตหุ่น เพราะ การออกกำลังกายโดยใช้ทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นการลดน้ำหนักนอกจากจะใส่ใจ ในเรื่องของการออกกำลังกายจำเป็นต้อง ใส่ใจในเรื่องการควบคุมอาหาร และการพักผ่อนอย่างเพียงพออีกด้วย เพื่อการลดน้ำที่ดี และมีประสิทธิภาพ

 

วิธีกากฝึกให้ได้ผล

1. ควรหาสถานที่ฝึก และและผู้ฝึกสอนที่ดีเพื่อจะได้รู้วิธี และ การออกท่าทางที่ถูกต้อง

2. จริงจังกับการฝึก ไม่เขิล ไม่อาย

3. ไม่กลัวเจ็บ เพราะมวยไทยเป็นกีฬาที่ต้องเตะต่อย อาจจะมีฟกช้ำบ้าง

 

ขั้นตอนในการฝึกมวยไทยเพื่อลดน้ำหนัก

1. การออกกำลังกาย

เริ่มจากการ ออกกำลังกาย ให้ได้อย่างน้อย 45 - 60 นาที ต่อวัน เช่น การปั่นจักยาน 30 นาที หรือ วิ่ง 10 กิโลเมตร กระโดดเชือกในตอนเช้า ต่อยกระสอบทราย หรือ ล่อเป้าอย่างน้อย 3 ยก อย่างต่อเนื่อง ในช่วงเย็น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกวิธีที่ถนัด หรือ จะเลือกเล่นหลาย ๆ รูปแบบก็ได้นะครับ จะได้ไม่รู้สึกเบื่อ จำเจ

 

2. อาหาร

หลักสำคัญอีกหนึ่งประการที่เราไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือ การควบคุมอาหารนั่น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ ลดน้ำหนักได้ดี และเห็นผลเร็ว ดังนั้น จึงควรเลี่ยงอาหารประเภททอด และอาหารที่มีน้ำมันเยอะ กรณีต้องการทานอาหารอาหารที่ใช้น้ำมันในการทอดควรเลือกใช้น้ำมันมะกรอก แทนน้ำมันพืช อาหารอีกหนึ่งประเภทที่เราไม่ควรมองข้ามนั่น คือ คาโบไฮเดรต ส่วนสำคัญที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ถ้าหากทานเยอะเกินไปก็จะทำให้การลดน้ำหนักของเรา เห็นผลช้า และอย่างสุดท้ายที่ต้องใส่ใจคือ โปรตีน เพราะโปรตีนจะช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโต ระบบเผาผลาญในร่างกาย และช่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย อีกทั้งยังช่วยลดอาการเหนื่อยล้า และบาดเจ็บจากการใช้กล้ามเนื้อ

3. การพักผ่อน

การพักผ่อน เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมองข้าม การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลชัดเจน และควรพักผ่อนวันละ 7-8 ชม. เนื่องจากร่างกายของเรามีระบบซ่อมแซมตัวเอง ขณะหลับร่างกายจะผลิตโกรธฮอร์โมนออก เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นการพักฟื้น จากความเหนื่อยล้าที่มาจากการออกกำลังกายอีกด้วย

 

อ่านบาทความเพิ่มเติม

 

เริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้นให้ถูกวิธี

ถุงถ่วงน้ำหนัก มวยไทย ( Muay Thai )

ฝึกความว่องไวของ สายตา ฉบับ มวยไทย

ฝึกความว่องไวของ สายตา ฉบับ มวยไทย

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่านัก มวยไทย นั้น เมื่อคู่ต่อสู่เหวี่ยงหมัด หรือ โจมตีมาหากเราจะหลบหลีก หรือ สวนกลับ นั้นทำได้ไม่ยากแต่ก็ขึ้นอยู่กับการ ฝึกความว่องไวของ ดวงตา หรือ สายตา ด้วยเช่นกัน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งการใช้หมัด เข่า ศอก ใช้สมาธิกับตัวก็เหนื่อยแล้ว ไหนจะต้องระแวดระวังคู่ชก หรือ คู่ต่อสู้อีก ดังนั้นนักมวยจะต้องมีทักษะ ไหวพริบในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึง การมีสายตาที่ว่องไว เพื่อให้สามารถมองเห็น หมัด หรือ การเคลื่อนไหว ของคู่ชก คู่ต่อสู้ ได้อย่างทันท่วงที

 

 

วิธีการฝึกที่ช่วยให้สายตาไว มองการเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ใน มวยไทย ( Muay Thai )

สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) ของเรา มีวิธีการฝึกสายตา ซึ่งแต่ก่อนไม่มีเครื่องมือ จึงใช้วิธีเหล่านี้

 

1. วิธีการฟันน้ำ

วิธีการฟันน้ำ เป็นการฝึกสายตา ไม่ให้กระพริบตา เวลาที่น้ำกระเด็นใส่หน้า ขณะฟันน้ำ วิธีนี้จะทำให้สายตานิ่ง ไม่กระพริบ หากในการต่อยจริง แม้จะโดนหมัด ก็ไม่มีการหลับตา

 

 

2. ฝึกต่อยลูกมะนาว

เนื่องจากในอดีต ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ จึงใช้ลูกมะนาวมาฝึก โดยการผูกลูกมะนาวหลาย ๆ ลูกไว้ แล้วต่อยแรง ๆ จะฝึกสายตาได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญร่างกายเองก็ จะได้ฝึกหลบหลีกในตัวด้วย ฝึกบ่อย ๆ ก็สามารถโยกหลบหมัด ได้อย่างสบาย ร่างกายท่อนบน จะสามารถหลบหลีกได้เอง

 

นอกจากการฝึกสายตา ใน มวยไทย ( Muay Thai ) แล้ว การใช้หมัดก็เป็นสิ่งหนึ่งสำคัญมาก ๆ เป็นอันดับต้น ๆ  ซึ่ง มวยไทย ( Muay Thai ) กับการใช้หมัด มีดังนี้

 

1. หมัดตรงชกนำ

หมัดตรงชกนำ หมายถึง การชกหมัดที่อยู่ด้านหน้า พุ่งไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงจากไหล่ ลำตัว ตั้งตรง และ เท้ายันพื้น เพื่อเป็นหลัก และ แรงส่งออกไป ถ้าจดเหลี่ยมขวา หมัดตรงชกนำ คือ หมัดซ้าย ถ้าจดเหลี่ยมซ้าย หมัดตรงชกนำ คือ หมัดขวา อาจจะชกออกไปโดย ไม่เคลื่อนเท้า หรือ เคลื่อนเท้าไปด้านหน้า ด้านหลัง ข้างซ้าย และ ข้างขวาก็ได้ แต่ส่วนมากเวลาชกไปแล้ว น้ำหนักตัวมักจะตกอยู่บนเท้า ที่อยู่หน้าเสมอ

 

2. หมัดเสย

หมัดเสย ใน มวยไทย ( Muay Thai ) หมายถึง หมัดที่ชกโดยการงอข้อศอก เกร็งข้อศอก หงายหมัดขึ้น วิธีทางของหมัดจะออกจากด้านล่าง สู่ด้านบน ทำมุมฉากกับพื้น หมัดเสยมีสองลักษณะ คือ หมัดเสยนำ และ เสยหมัดตาม หมัดเสยจะใช้ได้ดี เมื่อเป้าหมายอยู่ใกล้ตัว เช่น การเข้าคลุกวงใน แล้วคู่ต่อสู้ก้มต่ำ เป้าหมายที่ชก คือ บริเวณคาง ท้อง หน้าอก และ หน้า

 

3. หมัดโขก

หมัดโขก ใน มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นหมัดเหวี่ยง จากบนลงล่าง เป้าหมายบริเวณขมับ หรือ คาง หมัดโขกเป็นหมัดที่รุนแรง ใช้หมัดตาม เพื่อให้วงเหวี่ยง มีรัศมีกว้างขึ้น เป็นหมัดที่มีทิศทางจากบนลงล่าง แบ่งเป็น หมัดโขกวงกว้าง กับ หมัดโขกวงแคบ หมัดนี้เป็นหมัดที่รุนแรง เพราะอาศัยแรงเหวี่ยง ของไหล่ และ แขน

 

4. หมัดเหวี่ยง หรือ หมัดขว้าง

หมัดเหวี่ยง หรือ หมัดขว้าง ใน มวยไทย ( Muay Thai ) หมายถึง การชกโดยการงอ และ เกร็งข้อศอก ไว้ให้หมัดออกไป เป็นวิธีทางโค้ง ขนานกับพื้นดิน อาจจะคว่ำหมัด หรือ ตั้งหมัดก็ได้ แต่พยายามให้ สันหมัดถูกเป้าหมาย หมัดเหวี่ยง แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ หมัดเหวี่ยงสั้น หมัดเหวี่ยงยาว และ หมัดเหวี่ยงกลับ

 

 

การฝึกฝนจะสำเร็จเห็นผล อย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น ต้องมีวินัยในการฝึก ไม่เช่นนั้นการฝึกของเรา จะก็จะล้มเหลว ไม่มีประสิทธิภาพ นำมาใช้ก็ไม่ได้ หากเพื่อน ๆ คนไหน สนใจอยากฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เราขอแนะนำให้มาที่ เจริญทองมวยไทย ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) นะคะ

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กระสอบทราย อุปกรณ์ สำคัญ การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย ตาม นัก มวยไทย มืออาชีพ

 

ถุงถ่วงน้ำหนัก มวยไทย ( Muay Thai )

ถุงถ่วงน้ำหนัก มวยไทย ( Muay Thai )

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมนักมวยถึงชอบใช้ถุงถ่วงน้ำหนัก หรือกระทั่งเวลาวิ่ง หรือเตะต่อย จะต้องมีถุงทรายถ่วงน้ำหนักตลอด วันนี้เราจะมาบอกเหตุผลว่าถุงถ่วงจำเป็นสำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) ขนาดไหน

 

     การออกกำลังกายนั้นมีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงวิธีออกกำลังกายที่สามารถทำที่บ้าน และทำได้บ่อย ๆ ด้วยการใช้พื้นที่ภายในบ้านไม่มากนัก นอกเหนือจากเครื่องออกกำลังกายต่าง ๆ ที่ใช้ตามฟิสเนตหลากหลายชนิดแล้ว ยังมีวิธีออกกำลังกายด้วยถุงทรายถ่วงน้ำหนัก ซึ่งควรศึกษา และทำความเข้าใจกับท่าการออกกำลังกายให้ถูกต้อง จึงจะได้ประโยชน์กับร่างกายอย่างแท้จริง

 

          ถุงถ่วงน้ำหนัก คืออะไร ?

     ถุงถ่วงน้ำหนักถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของการออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อขา ด้วยการเอาถุงที่มีทรายบรรจุในถุงมาคล้องข้อมือ และข้อเท้าเพื่อถ่วงน้ำหนักไว้ โดยใช้หลักการในการเพิ่มกล้ามเนื้อ คือ ใช้แรงต้านถ่วงในการออกกำลังกายมีคล้องรัดปรับระดับให้กระชับได้ สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มกำลังแขน และขา จึงทำให้เป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้

 

          ประโยชน์ของถุงถ่วงน้ำหนัก

  • ช่วยลดต้นขา ให้ขาเรียว กระชับสัดส่วน
  • ช่วยเพิ่มความทนทานให้กล้ามเนื้อ
  • เหมาะสำหรับนักกีฬา
  • ช่วยฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อหลังการผ่าตัด   
  • เพิ่มกำลังสร้างกล้ามเนื้อ แขน และขา
  • สามารถใช้กับผู้ที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ช่วยบำบัดให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน     
  • ใช้ในการออกกำลังกายต่าง ๆ

 

          มวยไทย ( Muay thai ) จำเป็นต้องมีถุงถ่วงน้ำหนักเพื่ออะไร ?

1. เพิ่มกำลังให้กับร่างกาย

     การใส่ถุงถ่วงน้ำหนัก จะทำให้ร่างกายหนักขึ้น หรือหากใส่เป็นส่วน ๆ ก็จะหนักเป็นส่วน ๆ ไป เช่น ข้อมือ ข้อเท้า ที่นักมวยสามารถ ต่อยได้ให้ครบกำหนด เพราะหากเราจะต่อยให้หนักขึ้น และสามารถรู้สึกได้เลยหลัง ถอดถุงถ่วงทราย แล้วลองต่อยกระสอบทรายอีกครั้ง จะเห็นผลทันทีว่า เราสามารถต่อยได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

2. เพิ่มความเร็วในการปล่อยอาวุธ แม่ไม้ มวยไทย ( Muay thai )

     แน่นอนว่าเราคงเคยเห็นในการ์ตูน ที่ฝึกวิชาแล้วมีถุงถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้ร่างกายนั้นเบาขึ้น ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะ เวลาเรารับอะไรหนัก ๆ แล้ว พอปล่อยหรือถอดออกจะทำให้ร่างกายก็จะทำให้เบา และรู้สึกได้เลยว่าอาวุธที่ปล่อยออกไปนั้นเร็ว และไวขึ้นมาก

3. เพิ่มความแรงของอาวุธ มวยไทย ( Muay thai )

     ความแรงจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่เราถ่วง ว่าเราถ่วงมากน้อยแค่ไหน มวยไทย ( Muay thai ) เขาฝึกแบบนี้จริง ๆ ถ้าอยากจะให้อาวุธของเราแรงขึ้น ก็ยิ่งถ่วงเยอะ แต่จะเสียพลังงานมากพอสมควร

 

          ลักษณะการใช้ถุงทรายถ่วงน้ำหนัก

1. วิ่ง

     หากเราอยากจะวิ่งเพื่อให้ถ่วงน้ำหนักจริง ๆ เราถ่วงไปที่ข้อเท้า และวิ่งในระยะทางที่กำหนด จะสังเกตได้ว่านักมวยที่วิ่งแล้วใส่ถุงถ่วงน้ำหนัก จะช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น ลดน้ำหนักเร็วขึ้น อึดขึ้น สามาระชกมวยได้อด และสร้างกล้ามเนื้อได้ดีมาก

2. กระโดด

     มวยไทย ( Muay thai ) จะต้องถ่วงน้ำหนักไปที่ข้อเท้า กระโดดเพื่อทำฟุตเวิรค์ เพื่อหาจังหวะการปล่อยอาวุธ เพราะฉะนั้นแล้วถุงถ่วงน้ำหนัก สามารถทำให้กระโดดได้เร็ว สูง และกระโดดฟุตเวิรค์ได้อย่างไม่เหนื่อยอีกด้วย

 

          ควรเลือกใช้น้ำหนักของถุงถ่วงน้ำหนักอย่างไร ?

     ถุงทรายข้อมือ และข้อเท้า มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม 2 กิโลกรัม 3 กิโลกรัม และ 4 กิโลกรัม ซึ่งการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้เริ่มจาก 1 กิโลกรัม พอกล้ามเนื้อเริ่มชิน ก็ทำการเพิ่มเป็น 2 กิโลกรัม และเพิ่มต่อไปเรื่อย ๆ

 

          ข้อควรระวังในการใช้ถุงถ่วงน้ำหนัก

     การใช้ถุงถ่วงน้ำหนักก็ดี หรือ ชุดถ่วงก็ดี ต้องระวังถึงเรื่องกระดูก เพราะอาจจะทำให้กระดูกเคลื่อนได้ และหากเราถ่วงไปแล้วออกกำลังกายไม่รู้ลิมิตของตัวเองก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ถุงถ่วงเป็นผลดีในเรื่องของการเพิ่มความเร็ว เพิ่มความแรง ดังนั้น ต้องศึกษาให้ดีที่สุด

 

          ผลดีของการเล่น มวยไทย ( Muay thai )

1. ชกมวยได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย

     เป้าหมายของการต่อยมวยคือ ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกาย และระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้ และความคล่องตัว และยังสามารถเบิร์นไขมันได้ถึง 13 แคลลอรี่ใน 1 นาที การออกกำลังกายด้วยการชกมวยทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้ตั้งแต่ 200-400 แคลอรี่ในเวลาครึ่งชั่วโมง, ขึ้นสังเวียนชกมวย 30 นาทีเบิร์นได้ 400 แคลอรี่, ชกกระสอบทราย 30 นาที เบิร์นได้ 200 แคลอรี่, ชกกับคู่ซ้อม 30 นาทีเผาผลาญได้ 300 แคลอรี่

2. ชกมวยเผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่า

     การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) เพราะการขึ้นชกใน 1 ยกคือ การใช้ร่างกายไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยกคือการทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกายแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงานการใช้ออกซิเจน และไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่ง หรือปั่นจักรยานจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง

3. ชกมวยช่วยให้หน้าท้องแบบราบ

     อยากมีซิกซ์แพ็กชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพแล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะการชกมวยจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝันค่ะ

4. ชกมวยช่วยคลายเครียด

     เมื่อต้องเผชิญกับสารพัดปัญหามาทั้งวัน หรือทะเลาะกับแฟน ไม่พอใจเจ้านาย ลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงาน รู้สึกหงุดหงิดจวนระเบิด ก็เป็นการดีหากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีน และฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมาระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย การต่อยมวยจึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผล และดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงสารเอ็นโดฟินที่หลั่งออกมาก็ช่วยให้มีความสุขขึ้นด้วย

5. ชกมวยช่วยให้บุคลิกสง่างาม

     การชกมวยทำให้การใช้สมอง และร่างกายทำงานสอดประสานกันได้ดีขึ้น กระตุ้นให้การรับรู้ทางร่างกายทำงานดีขึ้น มีความคล่องตัว เพราะต้องใช้การทำงานที่สอดประสานกันระหว่างตา และมือ ทุกครั้งที่ชกกระสอบทราย หรือชกกับเป้าล่อ ต้องใช้สมาธิในการพุ่งเป้าไปที่การเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อให้เกิดการจดจำการเคลื่อนไหว ทั้งจังหวะการขยับเท้า และการออกหมัด ท้าทายการทำงานของกล้ามเนื้อ และจิตใจไปพร้อมกัน ทำให้มีความคล่องแคล่ว ว่องไว มั่นใจ บุคลิกก็สง่างามไปโดยปริยาย

 

     นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม มวยไทย ( Muay thai ) จำเป็นต้องมีถุงถ่วงน้ำหนัก เพราะการฝึกฝนเราต้องใช้พละกำลังเพื่อขึ้นชกต่อยมวย แถมตอนฝึกเราต้องฝึกให้หนักเข้าไปอีก เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเรา ทั้งนี้หากใครอยากเรียนมวย ต่อยมวยก็สามารถติดต่อเรามาได้ตลอด และเรายังมีให้เลือกถึง 3 ที่นั่นก็คือ สาขารัชดา สาขาข้าวสาร และสาขาศรีนครินทร์ สะดวกที่ไหนแวะไปที่นั่นได้นะคะ เรามีบริการครบวงจรทั้งออกกำลังกาย และ มวยไทย ( Muay thai ) มาที่เดียวครบจบทุกรูปแบบ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ฝึก มวยไทย ช่วยสร้างอะไรให้แก่ร่างกายของเราบ้าง

บทบาทของ พี่เลี้ยง ตามกติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

พื้นฐาน ท่าออกอาวุธ มวยไทย ( Muay Thai )

พื้นฐาน ท่าออกอาวุธ มวยไทย ( Muay Thai )

ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ก่อนการเข้าสู่ การฝึกแม่ไม้มวยไทย และลูกไม้มวยไทย นักมวย หรือผู้ฝึกจะต้องฝึก ท่าออกอาวุธ แบบ พื้นฐาน เสียก่อน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ของชนชาติไทยมา ตั้งแต่โบราณ และนับว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยด้วย ในปัจจุบัน มวยไทย ก็ยังคงได้รับความนิยม ทั้งในประเทศ และเป็นที่รู้จักของ ต่างประเทศ ทำให้มีหลายคน มีความสนใจ ต้องการเรียนมวยไทยได้

 

การต่อสู้ของมวยไทย ( Muay Thai ) มีการใช้อวัยวะ 4 ส่วนในร่างกาย เพื่อทำการออกอาวุธ ไปยังคู่ต่อสู้ ได้แก่ มือ (หมัด) เท้า (เตะ) เข่า และศอก ผู้ที่สนใจเรียนมวย หรือนักมวยมือใหม่ จะได้รับการฝึก การออกอาวุธ พื้นฐาน ในแต่ละส่วนก่อน แบ่งได้ ดังต่อไปนี้

 

พื้นฐาน ท่าออกอาวุธ ด้วย  หมัด

 

หมัดตรง คือ การชกหมัด ออกไปตรง ๆ จากการ ตั้งท่าปล่อยหมัดออก ไปยังเป้าหมาย โดยการคว่ำลงให้ขนานกับพื้น อาศัยแรงจากไหล่ สะโพก และเท้า

 

หมัดงัด คือ เริ่มต้นจาก ท่าจรดมวยขวา แล้วย่อตัวลง เท้าแยกห่าง ย่อเข่าซ้ายลง พร้อมกับลดหมัดซ้ายลงและหงายหมัดขึ้น แล้วบิดลำตัวไปทางขวาของตนเอง พร้อมกับ ดึงกระตุกหมัดซ้าย ขึ้นตรง

 

หมัยเสย คือ ชกหมัดในระยะประตัว ทิศทางการเคลื่อนที่ จากล่างขึ้นบน

 

หมัดตวัด คือ การชกหมัด โดยการงอและเกร็งข้อศอกไว้ให้หมัดออกไปเป็นวิถีโค้ง อาจคว่ำ หรือตั้งหมัดก็ได้

 

พื้นฐาน ท่าออกอาวุธ ด้วย ขา

 

เตะตรง คือ การเหวี่ยงเท้าขึ้นตรง ๆ เป็นท่อนเดียวกัน ปลายเท้างุ้ม และเอนตัวไปขั้นหลัง สามารถเตะได้อีกลักษณะ คือ ทำการยกเข่านำขึ้นมาก่อน แล้วจึงยกเท้าท่อนหลังขึ้นตาม ส่วนปลายเท้างุ้ม และเอนตัวไปขั้นหลังเช่นเดียวกัน

 

เตะตัด คือ การเตะที่มีวิถีโค้งขึ้นเล็กน้อย แล้วตัดขนานกับไปกับพื้น สามารถแบ่งย่อยได้เป็น 3 ระดับ คือ ระดับต่ำ ระดับกลาง และรำดับสูง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่แตะไปโดยส่วนใดของเป้าหมาย

 

เตะเฉียง คือ การใช้แรงเหวี่ยงของเท้าเหวี่ยงขึ้นไปในแนวเฉียงจากพื้นสู่เป้าหมาย บริเวณชายโครง ลำตัว หรือปลายคางผู้ต่อสู้

 

เตะตวัด คือ การเตะเหวี่ยง แล้วตวัดเท้า ให้ส้นเท้าปะทะเป้าหมาย

 

พื้นฐาน ท่าออกอาวุธ ด้วย ศอก

 

ศอกตี คือ ศอกที่ตีในลักษณะแนวดิ่งลงสู่พื้น โดยการใช้แรงหมุนจากหัวไหล่กดเฉียงลง ใช้มือที่ตีนั้นเข้าหาลำตัว พร้อมกับใช้แรงส่งจากเท้า การพับข้อศอกตีเฉียงลงกระทบเป้าหมาย สามารถตีได้ทั้งซ้ายและขวา

 

ศอกตัด คือ การพับข้อศอกขึ้นตีศอก ทิศทางขนานกับพื้น โดยใช้แรงเหวี่ยงของแรงกระตุกจากหัวไหล่อย่างรวดเร็ว ใช้แรงส่งมาจากสะโพกแล้วบิดตัวให้มาก จึงจะถึงเป้าหมายอย่างรุนแรง

 

ศอกงัด คือ ศอกที่เราใช้ตีเสยขึ้น หรืองัดขึ้น เป้าหมายไปที่ปลายคาง คิ้ว หรือใบหน้า

 

ศอกกลับ คือ การหมุนตัวตีศอกทางด้านหลัง ส่วนใหญ่มักตีศอกกลับในแนวดิ่ง และศอกกลับในแนวขนาน โดยสามารถเพิ่มความรุนแรงได้จากการหมุนตัวด้วยความเร็วให้สัมพันธ์กับการศอกกลับ

 

พื้นฐาน ท่าออกอาวุธ ด้วย เข่า

 

เข่าตรง คือ เข่าที่เคลื่อนที่จากจุดเริ่ม ไปกระทบเป้าหมายแนววิถีทางตรงดิ่ง

 

เข่าเฉียง คือ การตีเข่า ขึ้นเฉียงทำมุมกับลำตัวคู่ต่อสู้ เป้าหมายบริเวณชายโครง

 

เข่าโค้ง คือ เข่าที่ใช้จะต้องบิดสะโพกคว่ำลงให้ทิศทางของเข่าลอยโค้ง จากบนลงปะทะเป้าหมาย ให้ปลายเท้าเหยียดเป็นเส้นตรงกับขาและเข่า

 

เข่าลอย คือ การตีเข่าขึ้นไปตรง ๆ โดยการกระโดดตัว ลอยพ้นจากพื้น

 

ท่าออกอาวุธเหล่านี้ในแต่ละส่วน เหมาะสำหรับ ผู้ที่พึ่งเริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ที่จำเป็นต้องรู้จัก ท่าออกอาวุธพื้นฐานเหล่านี้ เสียก่อน เพื่อเป็นพื้นฐาน ในการเรียนมวยไทย ( Muay Thai ) และใช้เป็นท่าต่อยอดสู่ขั้นที่สูงขึ้นได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึก มวยไทย ช่วยสร้างอะไรให้แก่ร่างกายของเราบ้าง

บทบาทของ พี่เลี้ยง ตามกติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

ฝึก มวยไทย ช่วยสร้างอะไรให้แก่ร่างกายของเราบ้าง

ฝึก มวยไทย ช่วยสร้างอะไรให้แก่ร่างกายของเราบ้าง

หลายคนที่สงสัยว่า การที่เรา ฝึก มวยไทย มันจะทำให้ร่างกายของเรา แข็งแรงขึ้นได้ แต่มันยังมีอีกหลาย อย่างที่จะไปทำให้ ร่างกาย ของเรา แข็งแรง ขึ้นมาอีกด้วย ไปดูดีกว่า จะมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ ในการ ฝึก มวยไทย 

 

            มวยไทย ถือเป็น กีฬา ที่ได้รับความนิยม อย่างมาก ในปัจจุบัน และไม่ใช้ แค่ในประเทศไทย เท่านั้น ที่ได้รับความนิยม ต่างประเทศ ก็เช่นกัน เพราะ มวยไทย ถือเป็นกีฬา ที่สนุก และแถมยังทำให้ ร่างกาย ของเราแข็งแรงได้ อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ ไปกว่า นั้น มันยังเป็น ศิลปะ ป้องกันตัว ให้กับเราได้อีกด้วย และ มันยังมี อีกมากมาย ที่เราจะได้รับจากการที่เราฝึก มวยไทย เพราะมันไม่ใช่แค่ทำให้ ร่างกาย ของเราแข็งแรงได้เพียง อย่างเดียว แต่มัน ยังทำให้ ร่างกาย ของเรา ได้เสริมสร้าง และพัฒนา ส่วนต่าง ๆ ไปดูกันดีกว่า ว่าการที่เรา ฝึก มวยไทย นั้นมันจะได้อะไร แก่ร่างกาย ของเรากันบ้าง 

 

ได้ความมีวินัย 

 

            แน่นอน อยู่แล้ว ว่าการฝึกซ้อมของ มวยไทย ( Muay Thai )  เป็น ประจำทุกวัน นั้นมันจะไปทำให้ ร่างกาย ของเรา แข็งแรง ขึ้นได้ และ ก็การที่เรา ทำซ้ำ ๆ กันทุกวันในเวลาที่แน่นอนด้วยความตั้งใจ และ ร่างกาย ของเรา พร้อมที่จะซ้อม มวยไทย นี่คือสิ่งที่เป็นการ ฝึกวินัย ให้กับตัวเอง อีกหนึ่งวิธี เลยก็ว่าได้ และการที่เรา  ต้องทำงานทุกวันโดยไม่มีคนมาคอยสั่ง มวยไทย ( Muay Thai ) มันจะ สามารถ ที่จะไป สร้างเสริม วินัยได้เป็นอย่างดี อีกด้วย หรือ กีฬาประเภทอื่น ๆ ที่มันจะ สามารถสร้าง วินัยให้กับ ตัวเองได้ เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น รู้จักการแบ่งเวลาในการ ฝึกซ้อม การที่เรา มีความตรงต่อเวลา และ มันยัง มีอีกมากมาย ที่ กีฬา สามารถ ช่วย ฝึก ความมีวินัย ให้กับเราได้  เพราะ ถ้าหากว่าเรา ไม่มีวินัยในตัวเอง มันก็จะทำให้เรา ไม่ประสบความสำเร็จ ในเรื่อง นั้น ๆ แต่ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มันก็ จะ สั่งสอนระบบในการจัดการของตัวเองโดยอัตโนมัติทำให้เรามีวินัยไปในตัว อีกด้วย นั่นเอง

 

มีความ ฉลาด มีไหวพริบมากยิ่งขึ้น

 

            เราต้องยอม รับเลย ว่า มวยไทย ( Muay Thai ) มันถือว่า เป็นกีฬาที่ ต้องใช้ทักษะในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ร่างกาย จิตใจ และ รวมไปถึง สติปัญญา เราพอจะเห็นได้จากหลาย ๆ การแข่งขันที่ จะมีผู้ชนะจะต้องมีหมดทั้งสามอย่างนี้ควบคู่กันไป และสำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) มันก็ จะสามารถ ไปปลูกฝังให้มีวิธีคิดที่ จะสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็น อย่างดี อีกด้วย นั่นเอง

 

ได้ฝึกความอดทน

 

            แน่นอนว่า การที่เรา ฝึกฝน มวยไทย เป็นประจำทุกวัน นั้น เราต้องยอมแรก กับความ เหนื่อย ความยากลำบาก ในทุก ๆ วัน เพราะ การฝึกฝน มวยไทย มันไม่ใช้ เรื่องที่จะทำกันได้ ง่าย ๆ เพราะ การฝึก มวย เราจำเป็น ต้องใช้ ร่างกาย ของเรา อย่างมากใน การฝึก และถ้าเรา ฝึก เป็นประจำทุกวัน ก็เหมือน เราได้ฝึกความอดทน ไปในตัว และยิ่งเรา ฝึก จนคิดว่า มันเป็นเรื่องปกติ เรื่องอะไร ที่ยากลำบาก กว่านี้ เราก็จะคิดว่า เป็นเรื่องง่าย ๆ หนักกกว่านี้ เรายังเจอมากแล้ว เพราะ ถือว่าเรา ได้ ผ่านการ ฝึก มวยไทย ที่เหนื่อย และยากลำบาก มานั่นเอง

 

ได้ความ สุขุมเยือกเย็น

 

            อย่างคิดว่า การฝึก มวยไทย มันจะทำให้เรา เป็น คนใจร้อน ไม่ใช้เลย เพราะ  เมื่อขึ้นไปบนเวทีแล้วสิ่ง แรก ที่จะ สามารถไป ช่วยเราให้เอาชนะได้ นั้นก็ คือ ความสุขุมเยือกเย็น ที่จะ เป็นการ กล้า ตัดสินใจวิเคราะห์ว่าคู่ต่อสู้จะทำอะไร แล้วเราควรจะทำอะไรต่อ เพื่อให้ได้วิธีที่ถูกต้องรัดกุม มากที่สุด จึงต้องมีความสุขุมเยือกเย็นเป็นอย่างมาก นั่นเอง 

 

            การต่อยมวยนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังสามารถช่วยพัฒนาศักยภาพ และทักษะให้คุณมากขนาดนี้ ส่วนใครที่อยากพัฒนาตัวตนจากการต่อยมวยก็อย่ารอช้า  เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) เป็นยิมมวยต้นแบบที่นำ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" กับ "วิทยาศาสตร์การกีฬา" และ "ความรู้ด้านโภชนาการ" มาผสมผสานเข้าได้ด้วยกัน เป็นศูนย์กลางผู้นำช่วยลดน้ำหนัก ศิลปวัฒนธรรมมวยไทย และเชี่ยวชารด้านโภชนาการ นับว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ได้นำมารวมเป็นหนึ่ง

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

พี่เลี้ยง ตามกติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

รีดไขมัน ลดน้ำหนัก สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

บทบาทของ พี่เลี้ยง ตามกติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

บทบาทของ พี่เลี้ยง ตามกติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

ในขณะการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวยทุกคน จำเป็นต้องมี พี่เลี้ยง คอยดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ ให้กับ นักมวย โดยพี่เลี้ยง จะมีบทบาทตาม กติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) อย่างไรบ้าง มาติดตามกันครับ


 

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวย ที่จะต้องทำการแข่งขันได้ จำเป็นต้องมี ผู้ฝึกสอน และสังกัดค่ายมวย โดยบทบาทของ ผู้ฝึกสอนมวยไทย แน่นอน ก็คือ การถ่ายทอดวิชาความรู้ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ในทุกรูปแบบให้กับลูกศิษย์ หรือนักมวยผู้นั้น ซึ่งบทบาทของ ผู้ฝึกสอน ไม่ได้มีแค่ก่อนการแข่งขัน แต่อย่างมีบทบาทสำคัญต่อการแพ้ชนะของนักมวยในส่วนหนึ่งได้อีกด้วย


 

ในการแข่งขันมวยไทย ( Muay Thai ) ผู้ฝึกสอนนักมวย จะถูกเปลี่ยนบทบาทเป็น "พี่เลี้ยง" ซึ่งจะมีบทบาท และข้อปฏิบัติตามกติกา ดังต่อไปนี้


 

1. พี่เลี้ยง จะแนะนำ ช่วยเหลือหรือส่งเสริมผู้แข่งขันของตนในระหว่างการชกกำลังดำเนินอยู่ไม่ได้ ถ้าพี่เลี้ยงละเมิดกติกา อาจถูกตำหนิโทษ หรือให้ออกจากหน้าที่นักมวยของเขา อาจถูกผู้ชี้ขาดเตือน ตำหนิโทษ หรือให้ออกจากการแข่งขัน อันเนื่องมาจาก การทำผิดของพี่เลี้ยง


 

2. พี่เลี้ยงจะยอมแพ้แทนผู้แข่งขันของตนเช่นโยนฟองน้ำหรือผ้าเช็ดตัวเข้าไปในสังเวียนไม่ได้


 

3. ในระหว่างการชกพี่เลี้ยง จะต้องอยู่ในที่นั่งของตน ก่อนเริ่มการแข่งขันในแต่ละยกให้พี่เลี้ยงนำผ้าเช็ดตัวขวดน้ำ ฯลฯ ออกไปจากขอบสังเวียน


 

4. ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่มุมระหว่างพักยก พี่เลี้ยงต้องตรวจดูเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ของนักมวยของตนให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย พร้อมแข่งขันก่อนสัญญาณของยกต่อไปจะดังขึ้น และถ้ามีเหตุที่นอกเหนือความสามารถพี่เลี้ยงจะต้องรีบแจ้งให้ผู้ชี้ขาดทราบทันที ถ้าพี่เลี้ยงละเมิดกติกาอาจถูกตำหนิโทษหรือให้ออกจากหน้าที่ นักมวยของเขาอาจถูกผู้ชี้ขาดเตือนหรือตำหนิโทษได้


 

5. การให้น้ำนักมวย พี่เลี้ยงจะต้องไม่ให้น้ำนักมวยของตน จนเปียกชุ่มและต้องไม่ทำให้พื้นเวทีเปียกลื่น จนอาจเป็นอันตรายกับคู่แข่งขัน


 

6. พี่เลี้ยง ต้องสวมเสื้อแสดงสัญลักษณ์คณะนักมวยของตนให้สุภาพเรียบร้อย


 

7. ห้ามพี่เลี้ยงใช้วาจาไม่สุภาพ หรือทำร้ายนักมวยของตน ระหว่างการแข่งขัน และภายหลังการแข่งขัน


 

8. ถ้าเป็นการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์เปี้ยน หรือป้องกันตำแหน่ง ให้มีพี่เลี้ยงได้ฝ่ายละ 3 คน แต่ในการพักระหว่างยก พี่เลี้ยงจะเข้าไปในสังเวียนได้ เพียง 2 คนเท่านั้น


 

9. ในการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์เปี้ยน หรือป้องกันตำแหน่งประธานผู้ตัดสินจะต้องจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้ชี้ขาดผู้ตัดสิน ผู้จัดการ และพี่เลี้ยงนักมวย เพื่อเน้นให้ทุกคนทราบว่า การไม่ปฏิบัติตามกติกานี้อาจไม่เพียงถูกตัดคะแนนเท่านั้น แต่ยังอาจถูกตัดสินให้แพ้หรือให้ออกจากการแข่งขัน


 

จากบทบาททั้งหมดเหล่านี้ พี่เลี้ยง หรือผู้ฝึกสอน ถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญอย่างมาก ในการดูแลความเรียบร้อยของนักมวยในเรื่องต่าง ๆ เช่น คอยนวดกล้ามเนื้อ ซับหน้า ซับเลือด ให้น้ำดื่ม พร้อมกับวางแผนแนะนำกลยุทธที่ใช้ในการต่อสู้ ให้กับนักมวยต่อสู้กับคู่แข่งขันได้


 


 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กติกา การจำแนกรุ่น มวยไทย ( Muay Thai )

รีดไขมัน ลดน้ำหนัก สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )


 


 


 

กติกา การจำแนกรุ่น มวยไทย ( Muay Thai )

กติกา การจำแนกรุ่น มวยไทย ( Muay Thai )

ในกติกาของ การแข่งขัน กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวย ทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องมี ช่วงน้ำหนัก อยู่ในรุ่นเดียวกัน จึงจะสามารถแข่งขันกันได้ โดยรุ่นของนักมวย จะสามารถแบ่งได้กี่รุ่น มาติดตามกันครับ

 

การแข่งขัน กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในวันแข่งขัน นักมวยที่จะเข้าแข่งขัน ต้องทำตรวจร่างกาย และชั่งน้ำหนักตัว เพื่อจำแนกรุ่นของนักมวย ให้เข้าแข่งขันกับ นักมวยที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน โดยมีเกณฑ์ในการ จำแนกรุ่น ของนักมวยได้ 17 รุ่น ดังต่อไปนี้

 

1. รุ่นมินิฟลายเวท น้ำหนักต้องเกิน 100 ปอนด์ (45.454 กิโลกรัม) และไม่เกิน 105 ปอนด์ (47.727 กิโลกรัม)

2. รุ่นไลท์ฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 105 ปอนด์ (47.727 กิโลกรัม) และไม่เกิน 108 ปอนด์ (48.988 กิโลกรัม)

3. รุ่นฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 108 ปอนด์ (48.988 กิโลกรัม) และไม่เกิน 112 ปอนด์ (50.802 กิโลกรัม)

4. รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 112 ปอนด์ (50.802 กิโลกรัม) และไม่เกิน 115 ปอนด์ (52.163 กิโลกรัม)

5. รุ่นแบนตั้มเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 115 ปอนด์ (52.163 กิโลกรัม) และไม่เกิน 118 ปอนด์ (53.524 กิโลกรัม)

6. รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 118 ปอนด์ (53.524 กิโลกรัม) และไม่เกิน 122 ปอนด์ (55.338 กิโลกรัม)

7.รุ่นเฟเธอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 122 ปอนด์ (55.338 กิโลกรัม) และไม่เกิน 126 ปอนด์ (57.153 กิโลกรัม)

8. ซูเปอร์เฟเธอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 126 ปอนด์ (57.153 กิโลกรัม) และไม่เกิน 130 ปอนด์ (58.967 กิโลกรัม)

9. รุ่นไลท์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 130 ปอนด์ (58.967 กิโลกรัม) และไม่เกิน 135 ปอนด์ (61.235 กิโลกรัม)

10. ซูเปอร์ไลท์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 135 ปอนด์ (61.235 กิโลกรัม) และไม่เกิน 140 ปอนด์ (63.503 กิโลกรัม)

11. รุ่นเวลเตอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 140 ปอนด์ (63.503 กิโลกรัม) และไม่เกิน 147 ปอนด์ (66.678 กิโลกรัม)

12. รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 147 ปอนด์ (66.678 กิโลกรัม) และไม่เกิน 154 ปอนด์ (69.853 กิโลกรัม)

13. รุ่นมิดเดิลเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 154 ปอนด์ (69.853 กิโลกรัม) และไม่เกิน 160 ปอนด์ (71.575 กิโลกรัม)

14. รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 160 ปอนด์ (71.575 กิโลกรัม) และไม่เกิน 168 ปอนด์ (76.374 กิโลกรัม)

15. รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 168 ปอนด์ (76.374 กิโลกรัม) และไม่เกิน 175 ปอนด์ (79.379 กิโลกรัม)

16. รุ่นฟลายเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 175 ปอนด์ (779.379 กิโลกรัม) และไม่เกิน 190 ปอนด์ (86.183 กิโลกรัม)

17. รุ่นเฮฟวี่เวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 190 ปอนด์ (86.183 กิโลกรัม) ขึ้นไป

 

นอกจากนี้ ยังมีการจำแนกรุ่นของ นักมวยไทย ( Muay Thai ) ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ ได้มีการเพิ่มรุ่น ในการแข่งขันเพิ่มเป็น 3 รุ่น คือ

 

1. รุ่นเปเปอร์เวท น้ำหนักตัว ไม่เกิน 90 ปอนด์ (40.909 กิโลกรัม)

2. รุ่นค็อกเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 90 ปอนด์ (40.909 กิโลกรัม) และไม่เกิน 95 ปอนด์ (43.181 กิโลกรัม)

3. รุ่นพินเวท น้ำหนักตัวต้องเกิน 95 ปอนด์ (43.181 กิโลกรัม) และไม่เกิน 100 ปอนด์ (45.454 กิโลกรัม)

 

จากกติกา การจำแนกรุ่นของ มวยไทย ( Muay Thai ) ทั้ง 2 รูปแบบนี้ จะเห็นได้ว่า มีการใช้หน่วย "ปอนด์" เป็นหลัก ซึ่งคนไทย อาจคุ้นเคยกับหน่วย "กิโลกรัม" มากกว่า แต่การใช้หน่วย "ปอนด์"  นั้น จะเป็นการวัดน้ำหนักที่มีความเป็นสากลมากกว่า จึงใช้หน่วยวัดนี้ เหมือนกับ การจำแนกรุ่นของ มวยสากล เช่นกัน ที่มีการจำแนกรุ่น นักมวย เหมือนกับ มวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งหมด

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

คำศัพท์ น่ารู้ เกี่ยวกับ มวยไทย ( Muay Thai )

รีดไขมัน ลดน้ำหนัก สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

รีดไขมัน ลดน้ำหนัก สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

รีดไขมัน ลดน้ำหนัก สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )

ใครที่อยากมีหุ่นที่ ฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้น การออกกำลังกายด้วยการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) ก็สามารถช่วย รีดไขมัน ลดน้ำหนัก ให้กับผู้เล่นได้อีกวิธี

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย ที่ในปัจจุบันกลายเป็น กีฬาชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันอย่างมาก สำหรับผู้ที่สนใจ ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ และโดยเฉพาะ ผู้ที่ต้องการ ออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ ที่ต้องการกระชับสัดส่วน รีดไขมัน หรือน้ำหนัก การชก มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ถือว่าเป็น การออกกำลังกาย ที่ช่วยในเรื่องเหล่านี้ได้ ด้วยเหตุผล ดังต่อไปนี้

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยเผาผลาญไขมันได้

 

การออกกำลังกายด้วย กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จัดได้ว่าเป็นการออกกำลังกาย ในประเภท คาร์ดิโอ ( Cardio ) แบบ High Intensity Interval Training ( HIIT ) เนื่องจาก เป็นการออกกำลังกาย แบบหนักสลับเบาไปเรื่อย ๆ จากการชกมวย ต่อยมวย หรือออกอาวุธ รูปแบบต่าง ๆ โดยใช้เวลาไม่นาน  แต่จะสามารถเผาผลาญไขมันได้ดี

 

โดยรูปแบบของ การคาร์ดิโอ แบบ High Intensity Interval Training ของ มวยไทย ( Muay Thai ) จะมีข้อดีในเรื่องของ การเผาผลาญไขมันในร่างกาย ได้รวดเร็วกว่า การคาร์ดิโอ แบบ Long Intensity Steady State หรือ LISS ที่เป็น การออกกำลังกาย ที่ใช้แรงน้อยกว่า และในระยะเวลา ที่นานกว่า อีกด้วย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ออกกำลังกายครบทุกส่วน

 

การออกกำลังกาย สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ได้มีแค่การใช้หมัด ชก ต่อยเท่านั้น แต่ยังมีการออกอาวุธอย่างการใช้ ขา เข่า และศอก ที่ช่วยให้ผู้ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ออกกำลังกาย ครอบคลุม ทุกส่วนของร่างกาย จากการออกอาวุธในส่วนต่าง ๆ ได้

 

ด้วยเหตุผลทั้ง 2 ประการนี้ การออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่ง ทางเลือกในการออกกำลังกาย สำหรับ ผู้ที่ต้องการออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนัก รีดไขมัน หรือกระชับสัดส่วนของร่างกายได้ ที่สามารถเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี และครอบคลุม การใช้ กล้ามเนื้อในแต่ละส่วนของร่างกายได้

 

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการ ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ให้ได้ประสิทธิภาพในการ ลดน้ำหนัก รีดไขมัน หรือกระชับสัดส่วน ให้ดีที่สุด ต้องมีการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมในการใช้ชีวิต ในด้านอื่นร่วมด้วย ดังต่อไปนี้

 

ควบคุมอาหาร

 

ถึงแม้ว่าคุณจะ ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ได้ควบคุมอาหาร ที่เป็นต้นเหตุของ การเพิ่มน้ำหนักตัวของคุณได้ การชกมวย ต่อยมวยของคุณ อาจสูญเปล่าได้ โดยเฉพาะ การรับประทานอาหาร ประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน ในปริมาณที่มากเกินไป ที่คุณควร ควบคุมปริมาณ ในการรับประทานอาหาร ประเภทเหล่านี้ให้ได้ และควรเน้นการทานโปรตีน ผัก และผลไม้แทน

 

พักผ่อนให้เพียงพอ

 

เมื่อเรา ออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) มาอย่างหนักหน่วง การพักผ่อน ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพื่อให้ร่างกายของเราได้มีการพักผ่อนที่เพียงพอ จึงจะทำให้ร่างกาย ได้มีการพักผ่อน และปรับเปลี่ยนสมดุลร่างกาย ขณะที่เรานอนหลับได้ โดยในแต่ละวัน ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ต่อเนื่อง 7-9 ชั่วโมง

 

การออกกำลังกาย ด้วยกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ควบคุมอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอ 3 สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องปฏิบัติ ควบคู่กันไป เพื่อทำให้ การลดน้ำหนักของคุณ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การเดินแบบ ย่างสามขุม ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

คำศัพท์ น่ารู้ เกี่ยวกับ มวยไทย ( Muay Thai )

คำศัพท์ น่ารู้ เกี่ยวกับ มวยไทย ( Muay Thai )

คำศัพท์ น่ารู้ เกี่ยวกับ มวยไทย ( Muay Thai )

ในขณะที่ดูการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) คุณอาจจะเคยได้ยิน นักพากษ์มวย ใช้ คำศัพท์ บางอย่าง ที่เกี่ยวกับ มวยไทย และคุณอาจไม่เข้าใจกับความหมายของคำเหล่านั้นได้ วันนี้เราจึงได้รวบรวม คำศัพท์น่ารู้ ที่ใช้ในวงการมวยไทย เพื่อให้คุณเกิดความเข้าใจมากขึ้นกัน

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ประจำชาติไทย ที่มีมาแต่โบราณ ที่ในปัจจุบัน ก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในคนไทย และคนต่างชาติ และมวยไทย ( Muay Thai ) ก็ถูกนำไปใช้ในการแข่งขัน เชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ที่ชื่นชอบ กีฬามวยไทย อีกด้วย เราจึงสามารถเห็น การแข่งขันมวยไทย ( Muay Thai ) ที่มีการฉายออกอากาศผ่าน ช่องโทรทัศน์ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อีกด้วย

 

ในการออกอากาศ การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ผ่านช่องทางโทรทัศน์ ที่มีรูปแบบการนำเสนอ ทั้งภาพ และเสียง ในการรับชม มวยไทย ( Muay Thai ) ให้ได้อรรถรสที่ดี และเกิดความเข้าใจมากที่สุด ผู้ชมมวย จึงควรรับ ทั้งภาพ และเสียง พร้อมกันไปด้วย

 

ในส่วนของ เสียงที่บรรยาย จะมี นักพากษ์มวย คอยพากษ์การต่อสู้รับส่งของ นักมวย ทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ตลอดการแข่งขัน ซึ่งในการพากษ์ อาจมีคำศัพท์ บางอย่าง ในวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) โดยเฉพาะ ที่ผู้ชมอาจไม่เข้าใจ ความหมายของคำนั้นได้ เราจึงรวบรวม คำศัพท์ เกี่ยวกับ การต่อสู้ มวยไทย และที่เกี่ยวข้อง มาให้ดูกันว่า แต่ละคำ มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง ดังต่อไปนี้

 

ออกอาวุธ หมายถึง เป็นการใช้อวัยวะทั้ง 4 เช่น หมัด เท้า เข่า ศอก ในการโจมตีคู่ต่อสู้

เปลี่ยนเสิร์ฟ หมายถึง ราคาพลิกไปอีกมุมหนึ่ง

แต่งตัวช้า หมายถึง กว่าจะประกบตีเข่าได้นาน

เจาะยาง หมายถึง การเตะตัดขา

ยางรั่ว หมายถึง โดนเตะขา จนเจ็บยืนไม่ไหว

เก็บอาการ หมายถึง โดนอาวุธคู่ต่อสู้ แต่ไม่แสดงอาการออกมาว่าเจ็บ

ไร้ราคา หมายถึง มวยชนะกันขาด ไม่มีราคาก่อนจบการแข่งขัน

ซ้ายทั้งแถบ หมายถึง การออกอาวุธเตะต่อย ข้างซ้ายข้างที่ถนัดข้างเดียว

กระดูกคนละเบอร์ หมายถึง มวยคนละชั้น

เก็บอาวุธ หมายถึง การบังอาวุธของคู่ต่อสู้

ฉีดยา หมายถึง นักมวยเป็นรองคู่ต่อสู้ แต่ถ้าชนะได้รับเงินอัดฉีดจากเซียนมวย

ล็อคถล่ม หมายถึง พลิกล็อก มโหฬาร

ขึ้นชั้น หมายถึง นักมวยรุ่นน้องชกกับนักมวยรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียงมาก่อน

กระดูกแข็งโป๊ก หมายถึง นักมวยที่มากไปด้วยประสบการณ์ ผ่านมาทุกเวที ทุกรูปแบบ

แจ้งเกิด หมายถึง นักมวยที่แพ้มากหลายไฟต์ติดต่อกัน แล้วเพิ่งมาชนะไฟต์ล่าสุด

ตีหัวเข้าบ้าน หมายถึง นักมวยที่รู้ว่า ตัวเองชนะ ไม่แลกอาวุธไม่เสี่ยง

เล่นเชิง หมายถึง ไม่เข้ามวยเตะต่อยเบา ๆ

สวมหมวกกันน๊อค หมายถึง การตั้งการ์ด บังหมัดคู่ต่อสู้ ปะทะส่วนหัว

ไล่ไม่จน หมายถึง นักชกที่เป็นรองเดินเข้าทำไม่ได้

ล้มมวย หมายถึง นักมวยที่พยายาม หรือตั้งใจ ทำให้ตนเองเป็นรอง และเป็นฝ่ายแพ้ในการชก ซึ่งการกระทำนี้ถือว่า ผิดกติกามวย และมีความผิดทางกฎหมายด้วย

ส่งซิก หมายถึง การส่งสัญญาณมือไปยัง นักมวย ซึ่งมีหลายกรณีด้วยกัน ทั้งเป็นการส่งสัญญาณให้กับนักมวยของตนเอง หรือรวมไปถึงการส่งสัญญาณไปถึงการล้มมวย

ดึงราคา หมายถึง ใช้เรียกนักมวยที่แกล้งชกให้ตัวเองเป็นรองแ ละกลับมาเป็นต่อในช่วงยกท้าย ๆ ได้

น็อกเอาท์ หมายถึง หมายถึง ทำให้คู่ต่อสู้เกิดอาการบาดเจ็บจากส่วนใดส่วนหนึ่งจนต้องล้มลงกับพื้นแล้วถูกกรรมการนับอาจไม่จำเป็นต้องถึง 10 หากว่านักมวยคนนั้นสู้ต่อไม่ไหว อาการเมื่อล้มลงไปแล้วไม่ดี

 

นี่เป็นเพียงแค่ คำศัพท์พื้นฐาน ส่วนหนึ่งของ ศัพท์มวยไทย ที่ใช้ในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai) ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้จัก และไม่เคยได้ยินคำเหล่านี้ มาก่อนด้วยซ้ำ แต่จากนี้ไปถ้าได้ยินศัพท์เหล่านี้จากในโทรทัศน์ ก็คงไม่ต้องงงกันต่อไปแล้ว

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การเดินแบบ ย่างสามขุม ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

อยากสลายหน้าท้องหันมาฝึก มวย ดูสิ

การเดินแบบ ย่างสามขุม ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

การเดินแบบ ย่างสามขุม ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทยไชยา หนึ่งใน มวยไทย ( Muay Thai )โบราณ 4 ภาค จากภาคใต้ ที่มีเอกลักษณ์ในการเดินที่เรียกว่า ย่างสามขุม ซึ่งจะมีรูปแบบในการเดินอย่างไร มาติดตามกันครับ

 

 "เท้า" ( Foot ) หนึ่งในอวัยวะ ที่ใช้ในการ ออกอาวุธ สำหรับกีฬา มวยไทย ( Muaty Thai ) ในการเตะ และ ถีบ ไปยังคู่ต่อสู้ นอกเหนือจาก มือ (หมัด) ศอก และเข่า ซึ่งเท้า นอกจาก จะมีความสำคัญ ในการออกอาวุธแล้ว ยังมีความสำคัญ ในด้านการเคลื่อนไหวร่างกายในการต่อสู้ และรูปแบบการเคลื่อนที่เท้า ที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง สำหรับกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่มีมาแต่โบราณ ก็คือ ย่างสามขุม

 

ย่างสามขุม คืออะไร?

 

ย่างสามขุม คำว่า "ย่าง" คือ การเดิน ส่วนคำว่า "ขุม" ในที่นี่ เปรียบเสมือนหลุม หรือจุด สามขุม ก็คือ สามหลุมหรือสามจุดนั่นเอง การย่างสามขุม จึงหมายถึง การเดินจุด 3 จุด โดยการ เปลี่ยนตำแหน่ง ของเท้า จากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง

 

ย่างสามขุม หนึ่งใน แม่ไม้มวยไทยไชยา

 

การฝึกซ้อม มวยไทยไชยา ( Chaiya Muay Thai ) มวยโบราณของ ทางภาคใต้ ที่มีเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่าง แม่ไม้มวยไทยไชยา ที่มีกระบวนท่าอยู่ 5 ชุด และแม่ไม้มวยไทยไชยา มี 7 ท่า ได้แก่

 

1. ปั้นหมัด

2. พันแขน

3. พันหมัด

4. กระโดดตบศอก

5. พันหมัดพลิกเหลี่ยม

6. เต้นแร้งเต้นกา

7. ย่างสามขุม

 

รวมไปถึง ยังมี เคล็ดลับในการป้องกันตัวใน มวยไทย ไชยา ( Muay Thai ) 4 ท่า คือ ป้อง ปัด ปิด และเปิด

 

วิธีการ ย่างสามขุม

 

วิธีการ คือ ตำแหน่งจุดยืนแรก จะต้องตั้งท่ากำหมัดสองมือ ให้หมัดซ้ายกำเข้าหาต้ว อยู่ในระดับตํ่ากว่าตาเล็กน้อยและศอกห่างลำตัว ส่วนหมัดขวาให้กำเข้าหาตัว อยู่ในระดับราวนม และศอกแนบลำตัว  การกำหมัด เข้าหาตัว จะทำให้พลังหมัดที่พุ่งออกไป มีแรงส่งกว่าหมัดที่กำออก ถ้าถนัดหมัดซ้ายให้หมัดขวาเป็นหมัดหน้า และหมัดซ้ายอยู่ในระดับราวนมการยืนให้ยื่นเปิดเท้าแบะออก ส้นเท้าทั้งสองห่างกันหนึ่งศอก ถนัดหมัดขวาให้เท้าซ้ายยื่นออก และหันข้างลำตัวเข้าหาคู่ต่อสู้ ถ้าถนัด ซ้ายให้ทำในทางกลับกัน

 

เทคนิคการตั้งท่า

 

การตั้งท่า จะต้องป้องปิด อย่างแนบเนียน ตั้งแต่บั้นเอวจนถึงศีรษะ แต่ช่วงล่างตั้งแต่บั้นเอวลงมาถึงเท้ายังมีช่องว่างอยู่ มวยไทย ( Muay Thai ) จึงต้องย่อตัว ลงเล็กน้อย และเผยอ ปลายเท้า ออกเล็กน้อน เพื่อให้หัวเข่าทั้งสองข้าง ไม่เกิดมุม ที่เสี่ยงต่อ อาการหัก หรือเคล็ด เมื่อถูกคู่ต่อสู้ใช้เท้าถีบขา และการย่อตัว เป็นการลดช่องว่าง ช่วงเอว อันเป็นส่วนอ่อ นระหว่าง ชายโครงกับ กระดูกเชิงกราน ให้แคบลงป้อง ปัดการเตะ ได้ง่าย

 

ประโยชน์ของ การเคลื่อนที่แบบ ย่างสามขุม

 

การย่างสามขุม มีการกำหนดจุด 3 จุด ที่ใช้ในการ เปลี่ยนตำแหน่ง ของเท้า เช่น เท้าซ้ายอยู่หน้า ให้เปลี่ยนไป อยู่ด้านหลัง เป็นการเปลี่ยนเหลี่ยม ของร่างกาย ซึ่งจะมี ประโยชน์ ทำให้ การเคลื่อนไหว เป็นไป อย่างคล่องแคล่ว และสามารถ ป้องปัดหลบหลีก สืบ ถอย ได้อย่างไม่เสียหลัก

 

การฝึกเคลื่อนที่ แบบการย่างสามขุม จะทำให้ ผู้ฝึกมวยไทย มีพื้นฐานที่ดี ในการใช้เท้าเคลื่อนที่ และมีฝึกการทรงตัว ของร่างกาย ได้เป็นอย่างดี และเพื่อเป็น พื้นฐาน สำหรับ การฝึก แม่ไม้มวยไทย ต่อไปได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อยากสลายหน้าท้องหันมาฝึก มวย ดูสิ

เทคนิค การเคลื่อนไหว ของ นักชก มวยไทย ( Muay Thai )

อยากสลายหน้าท้องหันมาฝึก มวย ดูสิ

อยากสลายหน้าท้องหันมาฝึก มวย ดูสิ

สำหรับสาย ๆหรือ คุณผู้ชาย คนไหนที่กำลังลดหุ่นหรือรู้สึกว่าช่วงนี้ หน้าท้องของเรา มีความอ้วนจนเกินไป วันนี้เราจะมาแนะนำกีฬาที่จะช่วยให้เราผอมลงได้ นั่นก็คือการ ชกมวย หรือการฝึก มวย ไปดูดีกว่าว่าจะช่วยได้ยังไง

 

            สำหรับ กิจกรรม กีฬาการ ชกมวย หรือ กีฬาที่เรียกว่า มวย นั้น มันไม่ใช่แค่ กีฬาที่เห็น ทีวีทั่วไปแล้วแต่การชกมวย หรือ การต่อย มวยไทย ( Muay thai ) แต่มัน เป็นได้ทั้งการ ออกกำลังกาย แนวใหม่ที่กำลังฮิตอย่างมาก และตอนนี้สาว ๆก็ชอบมากมาดูกันว่า สาว ๆกับ หนุ่ม ๆ นั้นรู้หรือไม่ว่า  การที่ทำ กิจกรรม ชกมวย ต่อยมวย นั้นมันได้อะไรมากกว่าที่เราคิด และสำหรับ สาย ๆ หรือ หนุ่มที่กำลังมองหา วิธีการ ลดหน้าท้อง ลองมาอ่านบทความ ที่เรากำลังจะบอกแนวทาง การลด และต้องบอกเลยว่า ทั้งสนุก ทั้งมัน แถมมันยัง เป็นการได้ฝึก มวย ไปในตัวอีกด้วย ไปดูดีกว่าว่าจะมีวิธีไหนกันบ้าง 

 

การชก มวย มันให้อะไรกับเราบ้าง                                                                

 

ฝึกหรือหัด ชก มวยไทย ( Muay thai )  ได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย

 

            สำหรับ เป้าหมายของการต่อยมวย หรือ การชกมวย มันก็คือการ ที่ให้ เรานั้นได้ขยับ ทุกส่วนของร่างกายและได้ใช้งาน แถมนอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกาย ของเรา และ นั้นยังรวมไปถึง ระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยัง แถมไป ช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว ได้อีกด้วย

 

ชก มวยไทย ( Muay thai )  ช่วยให้หน้าท้องแบบราบ ด้วยนะ

 

            สำหรับ ใครที่ อยากมีซิกซ์ แพ็คชัด ๆ หรือ ยากมีหน้าท้องที่แบนราบ ลองเลิก ซิทอัพ แล้วหันมาต่อย มวย ดูสิ เพราะ รู้หรือไม่ว่า การทีเรานั้น ทำกิจกรรม ชกมวย จำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลาง ในส่วนของลำตัว ที่สูงอย่างมาก ต้องบิดสะ โพกเพื่อเพิ่มแรง และ ทำการ ส่งให้ออกหมัดได้ หนักขึ้น และ ยังไป เผาผลาญพลังงาน ได้มากกว่าการนอนซิทอัพ กับพื้นและ  เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และ เมื่อมันทำการ เผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้อง ที่สาว ๆอยากจะมีก็ไม่ยาก แถม ยังทำได้รวดเร็ว อีกด้วย นั่นเอง

 

ฝึก มวยไทย ( Muay thai ) ช่วยพัฒนาร่างกายอย่างต่อเนื่อง ได้อย่างรวดเร็ว

 

            การชกมวย หรือ การ ฝึก มวย นั้น มันไม่มีกฎตาย ตัวว่าต้องออกหมัด ไหนก่อน หรือ คงวรที่จะ อับเปอร์คัสจังหวะไหน แต่ต้องเดาทางคู่ชกให้ถูก และต้อง ตามหาจังหวะในการชกเอง และ ทำให้เกิดความท้าทายตลอดเวลา เกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ดังนั้น มันก็จะ หมายความว่า กล้ามเนื้อ จะถูกปลุกให้ตื่นตัวตลอดเวลา และ ร่างกายจึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นั่นเอง

 

ฝึกมวยไทย ( Muay thai ) คือการคาร์ดิโอร่างกายส่วนบน

 

            การ ที่เราจะ ออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอทั่ว ๆ นั้น คนส่วนใหญ่ ที่ออกก็จะ ไปเน้นการ ออกำลังกาย ช่วงล่าง แต่ รู้หรือไม่ว่า สำหรับ การ ชกมวย มันจำเป็นต้องอาศัยการเคลื่อนไหว ของร่างกาย ของเรา ในส่วนบนมากกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสาว ๆ และใครที่กำลัง มองหาการ ออกกำลังกาย แบบผสมผสานหรือ Cross-Training เมื่อเรานั้น เบื่อการวิ่งหรือปั่นจักรยาน หรือ อยากคาร์ดิโอ แต่ไม่อยากใช้ขามากเกินไป ต้องันมาลอง ออกกำลังกาย แบบการ ชกมวย บอกเลยว่า ช่วยได้มากอย่างแน่นอน 

 

            เห็นไหมว่า การออกกำลังกาย ไม่ได้มีการออกกำลังกาย แค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หลายคนอาจจะเลือกการ ออกกำลังกาย ในการวิ่ง หรือ บางคน อาจจะว่ายน้ำ มันก็อยู่ที่คนอยากทำกิจกรรมนั้น ๆ แต่สำหรับใครที่อยาก ออกกำลังกาย แบบ มันๆสนุก ๆ เราอยากแนะนำ มวยไทย ที่บอกเลยว่าช่วยให้ความฝัน ที่เรา อยากผอม อยากมีหน้าท้องที่แบนราบ ก็สามารถทำฝันนั้นให้เป็นจริง ได้อย่างรวดเร็ว นั่นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การออกอาวุธด้วย ศอก ตามฉบับ มวยไทย

เทคนิค การเคลื่อนไหว ของ นักชก มวยไทย ( Muay Thai )

เทคนิค การเคลื่อนไหว ของ นักชก มวยไทย ( Muay Thai )

เทคนิค การเคลื่อนไหว ของ นักชก มวยไทย ( Muay Thai )

ใครที่เคยดูรายการ มวยไทย ( Muay Thai ) ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะดูสด หรือ ดูย้อนหลัง แล้วเห็น การเคลื่อนไหว ต่าง ๆ ของนักชก กันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ วันนี้เราจะมาสอนเกี่ยวกับ เทคนิค การเคลื่อนไหว ของ มวยไทย ( Muay Thai ) กันค่ะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นนอกจากศิลปะการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก ที่เราได้พูดถึงกันไปในหลาย ๆ บทความแล้ว ยังมีในเรื่องของ การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ที่เป็นพื้นฐาน ของการใช้แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งการรุก และ การรับ โดยการเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) มีดังนี้

 

 1. การเคลื่อนไหว ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ในการรุก และ ถอย แบบเป็นเส้นตรง

การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว การรุก หรือ ถอย แบบเดินหน้า หรือ ถอยหลัง โดยการลากเท้า ของ มวยไทย ( Muay Thai ) คือ ถ้ารุกไปข้างหน้า จะเดินหน้า และ ให้เท้าหลังลากตาม เป็นจังหวะ โดยอาจยกเท้า หรือ ไม่ยกก็ได้ ในขณะที่เวลาถอย จะใช้แรงส่งจากเท้าหน้า ให้เท้าหลังก้าวออกไป แล้วเท้าหน้าก้าวตามเป็นจังหวะ โดยอาจยกเท้า หรือ ไม่ยกก็ได้

 

 2. การเคลื่อนไหว ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ในการรุก และ ถอยฉาก

การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ในการรุกเป็นมุมฉาก ของ มวยไทย ( Muay Thai ) คือ การเพิ่มจาก การรุกธรรมดา โดยใช้เท้าที่ไม่ถนัดตั้งนำ เท้าที่ถนัดส่งตาม ต่อจากนั้นใช้เท้า ที่ไม่ถนัด ลากออกไปด้านข้าง ส่งเท้าที่ถนัดตามไป อยู่ด้านหน้าเท้าที่ไม่ถนัด

 

 3. การเคลื่อนไหว ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ในการเคลื่อนที่เป็นวงกลม

การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว ในการเคลื่อนที่เป็นวงกลม ของ มวยไทย ( Muay Thai ) คือ การเคลื่อนที่โดยใช้การรุก และ การถอย แบบการเคลื่อนที่ ของแบบเท้าธรรมดา ในลักษณะเท้านำเท้าตาม ที่เคลื่อนที่ไปด้านหน้า ด้านหลัง ไปทางซ้าย หรือ ไปทางขวา ซึ่ง การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว เป็นวงกลม ให้เคลื่อนที่ตามคู่ต่อสู้ ไปเป็นวงกลม ถ้าจะรุก หรือ ถอยให้ใช้แบบการรุก และ ถอยแบบธรรมดา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโอกาส ของการเคลื่อนที่ด้วย

 

 4. การเคลื่อนไหว ของ มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ การก้าวย่าง

- การก้าวย่าง ของ มวยไทย ( Muay Thai ) คือ การเดิน หรือ ลากเท้า ใช้ในโอกาสทั้งรุก และ ถอย ลักษณะการก้าวย่างใน มวยไทย ( Muay Thai ) นั้น คือ การยกเข่าขึ้นสูง พร้อมทั้งยกแขนขึ้นเป็นแนว การยกเข่าขึ้นให้ติดกับศอก หรือ เกือบติดกับศอก เข่าที่ยกอาจยกก่อน แล้วลากเท้า การเคลื่อนที่ลักษณะนี้เรียกว่า การก้าวย่าง บางครั้งอาจลากเท้า ไปข้างหน้าก่อนยกเข่าขึ้น ซึ่งการที่ยกเข่าขึ้นติดศอก เป็นการป้องกันคู่ต่อสู้ บางครั้ง ใน มวยไทย ( Muay Thai ) อาจทำสลับกันได้ ทั้งด้านซ้ายนำ และ ขวานำ

 

 - การย่างสามขุม ใน สังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) มักได้ยินกันบ่อย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคือ การเดินจุด 3 จุด โดยการเปลี่ยนตำแหน่งของเท้า การเดินให้กำหนดจุด ที่ใช้ในการเปลี่ยนตำแหน่งของเท้า หรือ เป็นการเปลี่ยนเหลี่ยม ของร่างกายนั่นเอง ซึ่งการฝึก การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว แบบ ย่างสามขุมให้ชำนาญ แบบ นักชก มวยไทย ( Muay Thai )  มืออาชีพนั้น จะต้องฝึกการย่ำ การก้าวย่าง และ การย่างสามขุม สามารถนำไปใช้ป้องกัน หลบหลีก บ้างก็ใช้ในการรับ หรือ การรุก

 

- การย่างสุขเกษม ใน สังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) การเคลื่อนที่ โดยการก้าวเท้า ออกไปด้านนอกตัว พร้อมกับการยกตัว ใช้มือปัดลงมาข้างล่าง ในขณะที่อีกมือหนึ่ง ยกขึ้นระดับใบหน้า เพื่อป้องกันอาวุธ ส่วนมือที่ปัดลงมา ใช้ปัดป้องกันในกรณีที่ คู่ต่อสู้ถีบมาหาเรา ในการฝึก การเคลื่อนที่ หรือ การเคลื่อนไหว การย่างสุขเกษม จะต้องบิดสะโพกตามไปด้วย พร้อมกับปัดมือล่างให้ผ่านลำตัว ส่วนเท้าเคลื่อนที่ก้าวไป พร้อมกับการปัดมือผ่านลำตัว

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กระสอบทราย อุปกรณ์ สำคัญ การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai )

ออกกำลังกาย ตาม นัก มวยไทย มืออาชีพ

 

ท่าการใช้เท้า ใน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อจัดการคู่ต่อสู้

ท่าการใช้เท้า ใน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อจัดการคู่ต่อสู้

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับ ท่าการใช้เท้า หรือ การเตะ ถีบ ใน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อจัดการคู่ต่อสู้อย่าง รุนแรง และ เด็ดขาด กันค่ะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ คือ ศาสตร์การใช้อวัยวะ ในร่างกายเป็น อาวุธ เพื่อป้องกันตัว และ จู่โจมคู่ต่อสู้ การเตะ หรือ ถีบ ก็ถือเป็นอาวุธยาว และ หนักหน่วงที่สุด ที่ใช้ได้ทั้งในเกมรุก และ เกมรับ บ่อยครั้งเราจึงเห็นนักสู้ บนสังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) งัดเอาลูกเตะออกมาโชว์อย่างงดงาม และ วันนี้เราจะมาแนะนำ การเตะ ของนักชกหลาย ๆ คนที่รุนแรงใช้จัดการ คู่ต่อสู้ ให้อยู่หมัด

 

1 เตะกลับหลัง ( Spinning Back Kick )

ท่าเตะกลับหลัง ( Spinning Back Kick ) กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว ของอดีตแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต Landslide เอดูอาร์ด โฟลายัง ผู้สร้างชื่อในฐานะ นักกีฬาวูซู ที่เก่งที่สุดในโลก การฟาดส้นเท้า เตะกลับหลัง ( Spinning Back Kick ) อย่างรวดเร็วกลางลำตัว หรือ ศีรษะ ของฝ่ายตรงข้าม มีอานุภาพทำลายล้างร้ายแรง อาจถึงขั้นน็อกคู่ต่อสู้ได้เลยทีเดียว

 

2 เตะข้าง ( Side Kick )

การเตะข้าง ( Side Kick ) ถือเป็นอาวุธเอนกประสงค์ ที่หวังผลได้ทั้งในการโจมตี และ การป้องกันตัว ซึ่งแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต The Passion โจชัว พาซิโอ มักใช้ การเตะข้าง ( Side Kick ) อยู่บ่อยครั้ง ความอันตรายของลูกเตะนี้ อยู่ที่การทำให้คู่ต่อสู้เสียหลัก จนไม่สามารถป้องกันตัว จากการโจมตีซ้ำได้ หรือ ถ้าเตะเข้าเป้าในจุดสำคัญ อย่างท้อง หรือ ชายโครง ก็มีอันจบเกมไว แบบไม่ต้องให้กรรมการนับเลยทีเดียว

 

3. เตะด้วยแข้ง ( Roundhouse Kick )

การเตะด้วยแข้ง ( Roundhouse Kick ) คือ การเตะโดยใช้เท้า วาดขึ้นขนานกับพื้น พร้อมกับบิดสะโพก และ ฟาดแข้ง ลงบนเป้าหมาย ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนล่าง ส่วนกลางลำตัว ก้านคอ หรือ ศีรษะ เตะด้วยแข้ง ( Roundhouse Kick ) เป็นอาวุธสุดอันตราย ที่นักมวยไทยส่วนใหญ่นำมาใช้ อย่างเช่นเจ้าของฉายา ซ้ายสโลไลฟ์ เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี ที่ใช้พลังแข้ง อันหนักหน่วง เตะด้วยแข้ง ( Roundhouse Kick ) น็อกคู่แข่ง แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

 

4. ถีบ ( Push Kick )

ถีบ ( Push Kick ) คือการเตะชนิดหนึ่ง มักถูกใช้เป็นเทคนิคป้องกันตัว แต่นักสู้บางคน ก็สามารถใช้ ถีบ ( Push Kick ) นี้เป็นอาวุธ โจมตีคู่ต่อสู้ ให้ผงะไปได้เหมือนกัน อย่างเช่นที่อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย ( Muay Thai ) รุ่นฟลายเวต The General โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี เอา ถีบ ( Push Kick ) มาใช้ต่อกรกับ ดิ ไอรอนแมน รถถัง จิตรเมืองนนท์ ทำเอาจอมบู๊ชาวไทย หงายหลังไปไม่เป็นเลยทีเดียว

 

5. เตะตัดล่าง ( Low Kick )

ไม่ว่าจะในกีฬา การต่อสู้แบบผสมผสาน ( MMA ) หรือ มวยไทย ( Muay Thai ) การเตะตัดล่าง ( Low Kick ) สามารถเปลี่ยนเกมได้ เป้าของการ เตะตัดล่าง ( Low Kick ) อยู่ที่ขาพับด้านใน และ นอก หาก เตะตัดล่าง ( Low Kick ) ได้อย่างแม่นยำ และ หนักหน่วง ก็สามารถสร้างความเสียหาย ให้แก่คู่ต่อสู้ จนอาจไปต่อไม่ได้เลยทีเดียว

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

 

การวางท่าร่างกาย แบบ มวยไทย เพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้

การวางท่าร่างกาย แบบ มวยไทย เพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้

ในการเรียนวิชา มวยไทย ( Muay Thai ) ก่อนที่นักมวย หรือผู้เรียน จะฝึกการออกหมัด ออกอาวุธ เพื่อใช้ในการต่อสู้ จำเป็นต้องจัดวางท่าร่างกายให้ถูกต้องเสียก่อน ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

 

การตั้งท่า

 

ขั้นแรกของการวางท่า เรียกว่า “การตั้งท่า” ซึ่งในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) มักเรียกว่า “การจด” เป็นการยืนตั้งท่าแบบมวยไทย ( Muay Thai ) โดยเป็นการยืนปักหลัก เพื่อจะเตรียมการใช้หน้ายัน หรือการเหน็บ บางครั้งต้องอาศัยเท้าหลังในการทรงตัวขณะใช้เท่าหน้าถีบหรือเตะ การจดมวยนั้น เท้าหลังวางเกือบขวางกับแนวต้านทาน หรือแนวที่คู่ชก จะทุ่มน้ำหนักเข้ามา และเยื้องเป็นมุมกับเท้าหน้า ซึ่งในมวยสากล เท้าหน้ากับเท้าหลัง แนวชี้เกือบจะชี้ตรงไปข้างหน้า

 

การวางเท้า ให้เริ่มจากระยะห่างในการวางเท้า ให้วางเท้าทั้ง 2 ข้างห่างกันประมาณช่วงไหล่ ให้วางเท้าข้างที่ไม่ถนัดไว้ด้านหน้า ปลายเท้าชี้ไปข้างหน้า ส่วนเท้าข้างที่ถนัดวางเป็นเท้าหลัง วางเท้าให้แบะออกมาทางด้านข้าง เนื่องจาก ต้องใช้เท้าในการรับน้ำหนักตัว  สิ่งสำคัญในการวางเท้า คือ ส้นเท้าทั้ง 2 ข้างต้องเปิดขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว

 

การกำหมัด

 

เป็นทักษะพื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ให้ถูกวิธี เพราะการกำหมัดที่ถูกต้องนั้น สามารถช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกข้อมือหรือนิ้วมือหัก เมื่อชกไปยังเป้าหมาย ทั้งยังเป็นอาวุธสำคัญที่ใช้ในการพิชิตคู่ต่อสู้ โดยวิธีการกำหมัดที่ถูกต้อง ให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้

 

1. ให้ยกมือทั้ง 2 ข้างแล้วกำ นิ้วชี้ , นิ้วกลาง , นิ้วนาง และนิ้วก้อย ไว้ที่ฝ่ามือให้แน่น โดยให้นิ้วทั้ง 4 นิ้วเรียงชิดติดกัน

 

2. ใช้นิ้วหัวแม่มือ วางลงบนนิ้วชี้และนิ้วกลาง แล้วกำหมัดให้แน่น

 

ข้อแนะนำในการกำหมัด คือ ควรเกร็งข้อมือให้เป็นแนวเดียวกันตลอด ไม่ควรงอหรือปล่อยตามสบาย เพราะจะเกิดอันตรายเมื่อชกหรือกระแทก โดยในการชกให้ใช้ " สันหมัด " ซึ่งอยู่บริเวณข้อดัน หรือข้อแรกของนิ้วมื้อทั้ง 4 ที่ถูกกำลง คือ นิ้วชี้ , นิ้วกลาง , นิ้งนาง และนิ้วก้อย ปะทะไปยังเป้าหมายเท่านั้น

 

จากนั้น ให้วางหมัด โดยใช้หมัดหน้า ข้างเดียวกับเท้าหน้า ให้ยกหมัดขึ้นสูงในระดับหางคิ้ว ลดหมัดลงมาทางด้านที่หันไปเล็กน้อย ระยะห่างจากคิ้ว ไม่ควรเกิน 1 คืบ สิ่งที่สำคัญในการวางหมัดหน้า คือ ควรรักษาข้อศอกให้พอประมาณไม่ห่างจากชายโครงมากเกินไป เพราะจะเป็น การเปิดโอกาสให้ คู่ต่อสู้โจมตีได้ง่าย

 

การวางลำตัว

 

ควรวางลำตัวให้ เหยียดตรง ปล่อยตัวตามสบาย ไม่งอเข่า ไม่ก้มลำตัว ไม่เกร็ง หันไหล่ด้านหน้า ให้เกือบเป็นแนวเดียวกันกับ ไหล่ด้านหลัง ลักษณะคล้ายหั นด้านข้างให้คู่ต่อสู้ ในแนวเดียวกับเท้า ทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้คู่ต่อสู้เห็นลำตัวให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกัน จุดสำคัญ จากการโจมตี ของคู่ต่อสู้

 

การตั้งท่า วางตำแหน่งอวัยวะ แต่ละส่วน ทั้งการวางหมัด วางเท้า และการวางลำตัวให้ถูกต้อง จะช่วยให้นักมวย จัดระเบียบร่างกายได้อย่างเหมาะสม ตั้งท่าพร้อมที่จะโจมตีคู่ต่อสู้ และป้องกันการโจมตีจากคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี การจัดท่าเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องยาก หากทำการฝึกจัดท่าบ่อย ๆ จะช่วยทำให้จัดท่าทางได้เป็นอย่างเร็วเร็วได้

 

สำหรับ ในการแข่งขันกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในขณะที่นักมวยอยู่บนเวที และทำการต่อสู้อยู่ มักจะทำการพักอยู่ในท่าทางเหล่านี้ โดยขาจะยกย่ำสลับไปมาซ้ายขวา ให้พร้อม สำหรับการเคลื่อนไหว เพื่อออกอาวุธไปยังคู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้าม รวมถึง พร้อมรับกับการออกอาวุธจากฝ่ายคู่ต่อสู้ อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ขั้นตอนของ นักมวย ก่อนเข้าแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

แนะนำ ท่า มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ต่อสู้ได้ ใช้ออกกำลังกายก็ดี

ขั้นตอนของ นักมวย ก่อนเข้าแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

ขั้นตอนของ นักมวย ก่อนเข้าแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

ในวันที่ทำการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ก่อนทำการแข่งขันจริง นักมวย จะต้องผ่านขั้นตอนใดมาบ้าง ก่อนการแข่งขัน มาติดตามกันครับ

 

ก่อนทำการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ในวันแข่งขันจริง นักมวยที่ต้องการเข้าแข่งขัน จะต้องผ่านขั้นตอน ดังต่อไปนี้

 

การตรวจสุขภาพ

 

ก่อนการทำการแข่งขัน สิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือ ความปลอดภัยของนักมวย นักมวยที่จะได้รับการเข้าแข่งขันได้นั้น จะต้องได้รับการตรวจสุขภาพจากแพทย์ โดยนักมวยต้องได้รับการตรวจสุขภาพร่างกาย อย่างน้อย 3 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 12 ชั่วโมงก่อนการแข่งขัน

 

การตรวจสุขภาพนักมวย แพทย์ต้องทำการตรวจนักมวย อย่างน้องตามมาตรฐาน ดังต่อไปนี้

  • อุณหภูมิของร่างกาย
  • ความดันโลหิต
  • ชีพจร
  • การเต้นของหัวใจ
  • ตา หู จมูก คอ และช่องปาก
  • ตับ ม้าม
  • แขน ขา กระดูกข้อมือ ข้อเท้า ซี่โครง มือ และเท้า
  • การตอบสนองต่อระบบประสาท
  • สภาพทั่ว ๆ ไป

 

หากแพทย์ได้ทำการตรวจสุขภาพของนักมวยเรียบร้อย จะทำการแจ้งผลตรวจ หรือคำรับรองการตรวจสุขภาพให้นักมวย และนายสนามมวยทราบทุกครั้ง ในกรณีที่นักมวย ไม่ผ่านการรับรองจากแพทย์ข้อใดข้อหนึ่ง นักมวยจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำการแข่งขัน แต่หากได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ นักมวยจะได้รับการตรวจ สารต้องห้ามในนักมวยต่อไป โดยแพทย์สนาม

 

การชั่งน้ำหนักตัว

 

ตามระเบียบและกติกามาตรฐาน สำหรับการแข่งขันกีฬามวย ได้มีข้อกำหนดเรื่อง การชั่งน้ำหนักตัว ดังนี้

 

1. นักมวยต้องชั่งน้ำหนักตัว โดยปราศจากเครื่องแต่งกาย หรือสวมกางเกงชั้นในที่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ในวันแข่งขันภายในเวลา 08:00 - 10:00 น. โดยนายสนามมวย อาจเปลี่ยนแปลงกำหนดระยะเวลาดังกล่าวได้ หากมีเหตุผลที่เหมาะสม

2. ก่อนชั่งน้ำหนักตัว นักมวยต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ และได้รับการรับรองว่ามีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์

3. ให้หัวหน้าค่ายมวย ผู้จัดการ หรือผู้แทนนักมวยทั้ง 2 ฝ่ายมีสิทธิร่วมตรวจการชั่งน้ำหนัก

 

การแต่งกาย

 

คณะกรรมการกีฬามวย ได้ออกระเบียบ และกติกามาตรฐาน ที่ใช้สำหรับ การแข่งขันกีฬามวย โดยได้กำหนด การแต่งกายของ นักมวย ที่เข้าแข่งขัน ดังต่อไปนี้

 

1. ต้องสวมกางเกงขาสั้น เพียงครึ่งโคนขา ให้เรียบร้อย ไม่สวมเสื้อ และรองเท้า นักมวยมุมแดง ให้กางเกงสีแดง ชมพู สีเลือดหมู หรือสีขาวที่มีแถบแดงคาด นักมวย มุมน้ำเงิน ใช้กางเกงสีน้ำเงิน และสีดำ ห้ามคาดแถบสีแดง และต้องสวมเสื้อคลุม ตามข้อบังคับ สภามวยไทยโลก ( WBC Muay Thai )

2. ต้องสวมกระจับ ที่ทำขึ้นจาก วัสดุแข็งแรงทนทาน และได้รับ การรับรองจาก สภามวยไทยโลก ( WBC Muay Thai ) เมื่อถูกตีด้วยเข่า หรืออาวุธในการต่อสู้อย่างอื่น ตรงบริเวณอวัยวะเพศ จะไม่ทำให้เกิดอันตราย การผูกกระจับ ต้องผูกปมไว้ด้านหลัง และต้องผูกด้วยเงื่อนตาย เก็บปลายเชือกส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย

3. ไม่ไว้ ผมยาวรุงรัง และห้ามไว้เครา อนุญาตให้ไว้หนวดได้ แต่ต้องยาว ไม่เกิน ริมฝีปาก

4. เล็บเท้า ต้องตัดให้เรียบ และสั้น

5. ต้องสวมมงคล ผ้าประเจียด หรือ รัดเกล้า เฉพาะเวลา ร่ายรำไหว้ครู ก่อนทำ การแข่งขันเท่านั้น เครื่องรางอนุญาต ให้ผูกที่โคนแขน หรือเอว แต่ต้องหุ้มผ้า ให้มิดชิด เรียบร้อย เพื่อป้องกัน มิให้ เกิดอันตราย แก่คู่แข่งขัน

6. อนุญาตให้ใช้ ปลอกยืดรัดข้อเท้ากันเคล็ด สวมข้อเท้าได้ข้างละไม่เกิน 1 อัน แต่ห้ามมิให้เลื่อนปลอกรัดขึ้นไปเป็นสนับแข้ง หรือม้วนพับลงมา และห้ามใช้ผ้ารัดขาและข้อเท้า

7. ห้ามใช้เข็มขัด หรือเครื่องประดับ ที่เป็นวัสดุ ที่ทำให้เกิดอันตราย

8. ห้ามใช้ น้ำมันวาสลิน , น้ำมันร้อน , ไขสมุนไพร หรือสิ่งอื่น ที่ทำให้ คู่แข่งขัน เสียเปรียบ หรือเป็นที่น่ารังเกียจทา บริเวณร่างกาย หรือนวม

9. ฟันยาง ผู้แข่งขันต้องใส่ฟันยาง

 

การไหว้ครู

 

ก่อนเริ่มการแข่งขัน นักมวยต้องร่ายรำไหว้ครู ตามประเพณีอันดีงามของ มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อแสดงความเคาระต่อครู บิดา มารดา รวมทั้ง เป็นการขอพรต่ออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อให้คุ้มครองให้ตนได้รับความปลอดภัยในการแข่งขัน โดยการรำไหว้ครูเริ่มจากนั่ง กราบเบญจางคประดิษฐ์ คุกเข่าถวายบังคม ขึ้นพรหมนั่ง-ยืน ท่ารำ มวยไทย ( Muay Thai ) อาจมีการเดินแปลง ย่างสามขุม การรูดเชือก การบริกรรมคาถา เพื่อสำรวจ ทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละค่ายมวย

 

นอกจากนี้ การไหว้ครู ยังเป็นการอบอุ่นร่างกายของนักมวย เพื่อร่างกายเตรียมพร้อม สำหรับการแข่งขันอีกด้วย เมื่อนักมวย ทำการไหว้ครูเสร็จแล้ว ต้องนำมงคลออกจากศีรษะ และให้เริ่มทำการแข่งขันได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

แนะนำ ท่า มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ต่อสู้ได้ ใช้ออกกำลังกายก็ดี

เทคนิค การเพิ่มน้ำหนัก ด้วย อาหาร ของนัก มวยไทย

แนะนำ ท่า มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ต่อสู้ได้ ใช้ออกกำลังกายก็ดี

แนะนำ ท่า มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ต่อสู้ได้ ใช้ออกกำลังกายก็ดี

เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่สนใจ มวยไทย ( Muay Thai ) คงจะสงสัยกันไม่น้อยใช่ไหมล่ะคะว่า มีท่าอะไรบ้าง วันนี้เราจึงจะมา แนะนำ ท่า มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ต่อสู้ได้ ใช้ออกกำลังกายก็ดี ให้เพื่อน ๆ รู้จักกันค่ะ

 

แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) คือ การผสมผสาน การใช้อาวุธ หมัด เท้า เข่า ศอก เพื่อ การรุก หรือ การรับ ในการต่อสู้ มวยไทย ( Muay Thai ) ซึ่งการจะใช้ศิลปะ แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai )  ได้อย่างชำนาญนั้น จะต้องฝึกฝนการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก เบื้องต้น ให้คล่องแคล่วเสียก่อน จากนั้นจึงหัดใช้ ท่าผสมผสานกันไป รวมถึงการหลบหลีก จึงได้มีการดัดแปลง ให้ง่ายต่อการนำไปใช้ ด้วยการตั้งชื่อท่า มวยไทย ( Muay Thai ) ตามลักษณะ ท่าทาง ให้จดจำได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

15 ท่า แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้น ง่าย ๆ ใช้ต่อสู้ได้ ใช้ออกกำลังกายก็ดี

1. แม่ไม้ มวยไทย ท่า สลับฟันปลา ( รับวงนอก )

2. แม่ไม้ มวยไทย ท่า ปักษาแหวกรัง ( รับวงใน )

3. แม่ไม้ มวยไทย ท่า ชวาซัดหอก ( ศอกวงนอก )

4. แม่ไม้ มวยไทย ท่า อิเหนาแทงกริช ( ศอกวงใน )

5. แม่ไม้ มวยไทย ท่า ยอเขาพระสุเมรุ ( ต่อย ตั้งหมัดต่ำ ก้มตัว 45 องศา )

6. แม่ไม้ มวยไทย ท่า ตาเถรค้ำฟัก ( ต่อยคาง หมัดสูง ก้มตัว 60 องศา )

7. แม่ไม้ มวยไทย ท่า มอญยันหลัก ( รับต่อยด้วยถีบ )

8. แม่ไม้ มวยไทย ท่า ปักลูกทอย ( รับเตะด้วยศอก )

9. แม่ไม้ มวยไทย ท่า จระเข้ฟาดหาง ( รับต่อยด้วยเตะ )

10. แม่ไม้ มวยไทย ท่า หักงวงไอยรา ( ถองโคนขา )

11. แม่ไม้ มวยไทย ท่า นาคาบิดหาง ( บิดขาจับตีเข่าที่น่อง )

12. แม่ไม้ มวยไทย ท่า วิรุฬหกกลับ ( รับเตะด้วยถีบ )

13. แม่ไม้ มวยไทย ท่า ดับชวาลา ( ปัดหมัดต่อยตอบ )

14. แม่ไม้ มวยไทย ท่า ขุนยักษ์จับลิง ( รับ-เตะ-ต่อย-ถอง )

15. แม่ไม้ มวยไทย ท่า หักคอเอราวัณ ( โน้มคอตีเข่า )

 

หากเพื่อน ๆ สนใจใน มวยไทย ( Muay Thai ) แล้วกำลังหาที่เรียนอยู่เราขอแนะนำ ที่ เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร ( Jaroen Thong Muay Thai Kaosan ) ที่นี่มีบริการสอน มวยไทย ( Muay Thai ) ให้กับทุก ๆ คน เริ่มสอนตั้งแต่ ขั้นพื้นฐาน ต่อให้ไม่รู้จัก มวยไทย ( Muay Thai ) เลย ก็สามารถ มาเรียน มาฝึก ที่นี่ได้ เพราะมีครูฝึกที่เก่ง และ มีประสบการณ์ ในการสอน มวยไทย ( Muay Thai ) มามากมาย คอยช่วยเหลือ และ ถ่ายทอดความรู้ ให้กับเพื่อน ๆ หรือ นักเรียน ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ถูกต้อง การใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก การวอร์มอัพ ก่อนเริ่มเล่น การหายใจ คุณครู และ พนักงาน ที่นี่ทุกคน มีความเป็นกันเอง พร้อมช่วยเหลือเพื่อน ๆ ในเรื่องการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) และ การออกกำลังกายต่าง ๆ อย่างถูกวิธี

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

เทคนิค การเพิ่มน้ำหนัก ด้วย อาหาร ของนัก มวยไทย

เทคนิค การเพิ่มน้ำหนัก ด้วย อาหาร ของนัก มวยไทย

การจะขึ้นแข่งขัน หรือ ขึ้นชก มวยไทย นั้นย่อมมีการชั่งน้ำหนัก เพื่อจำกัดน้ำหนักในแต่ละรุ่นใช่ไหมคะ ที่ผ่านมาเพื่อน ๆ คงได้เห็นการรีดน้ำหนักของเหล่านักมวยไปแล้ว วันนี้เราจึงมาบอก เทคนิค การเพิ่มน้ำหนัก ด้วย อาหาร ของนักมวยกันค่ะ

 

แน่นอนว่าการเป็นนักกีฬา การลดน้ำหนัก หรือ การเพิ่มน้ำหนัก เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์นั้นเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนคงเคยคุ้นชินกันอยู่แล้ว แต่นักกีฬานั้น ไม่ได้เพิ่มน้ำหนัก ด้วยวิธีที่ผิดต่อหลักสุขภาพ เช่น อยากเพิ่มน้ำหนักงั้นหรอ งั้นไปกินข้าวขาหมูกันวันล่ะ 3 มื้อ กันไหม แน่นอนว่าหากใช่วิธีนี้ การเพิ่มน้ำหนัก ย่อมต้องได้ผลสำเร็จ อย่างงดงามแน่นอน แต่สิ่งที่เสียไปนั้นคือ สุขภาพของนักกีฬานั่นเอง วันนี้เราจึงได้รวบรวม เมนูอาหาร ที่สามารถช่วยเพิ่มน้ำหนักได้ และ ยังดีต่อสุขภาพ ในแบบฉบับนักกีฬามาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ

 

 

1. นม ( Milk )

นม ( Milk ) เป็นแหล่ง โปรตีน ชั้นดี ที่ให้ทั้ง เคซีน และ เวย์โปรตีน ที่ดีต่อผู้ที่ต้องการ เพิ่มน้ำหนักตัว จากการศึกษา ระบุว่าการดื่ม นม ( Milk ) ควบคู่ไปกับ การออกกำลังกาย แบบยกน้ำหนัก จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อได้ จึงอาจดื่ม นม ( Milk ) ประมาณ 1-2 แก้ว โดยเลือกดื่ม นม ( Milk ) ร่วมกับมื้ออาหาร หรือดื่ม นม ( Milk ) ก่อน และ หลัง การออกกำลังกายก็ได้

 

2. ไข่ ( Egg )

ไข่ ( Egg ) เป็นอาหารเพิ่มน้ำหนัก ที่ดีต่อสุขภาพ อย่างมาก เพราะประกอบด้วย โปรตีน ที่มีคุณภาพ และ ไขมันชนิดที่ดี โดยสารอาหารส่วนใหญ่ จะอยู่ที่ ไข่แดง ผู้ที่มีสุขภาพดี สามารถรับประทาน ไข่ ( Egg ) ได้ทุกวัน วันละ 1 ฟอง ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ อาจต้องจำกัดจำนวน ไข่แดง ให้ไม่เกินสัปดาห์ละ 3 ฟอง เพราะอาจส่งผลต่อ ระดับคอเลสเตอรอลในเลือด แต่สามารถรับประทาน ไข่ขาว ได้ตามปกติ เพราะไม่มีคอเลสเตอรอล

 

3. ข้าว ( Rice )

ข้าว ( Rice ) เป็นแหล่ง คาร์โบไฮเดรต ที่หารับประทานได้ง่าย ซึ่งข้าวสวย 1 ถ้วยที่ให้พลังงาน 190 แคลอรี่ มีคาร์โบไฮเดรต 43 กรัม และ ประกอบด้วย ไขมันอีกเล็กน้อย

 

4. พืชตระกูลถั่ว เช่น อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย หรือถั่วลิสง เป็นต้น

ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการ เพิ่มน้ำหนัก และ ให้พลังงานสูง โดยถั่ว อัลมอนด์ ( Almond ) 1 กำมือ จะประกอบด้วย โปรตีน ประมาณ 7 กรัม และ ไขมันชนิดที่ดี ประมาณ 18 กรัม ทั้งนี้ สามารถรับประทานได้ทั้ง พร้อมมื้ออาหาร หรือ รับประทาน เป็นของว่างกินเล่น ก็ได้ หรือ อาจใช้ เนยถั่ว ( Peanut Butter ) เป็นส่วนผสมของ สมูทตี้ ทาขนมปัง และ รับประทาน ร่วมกับโยเกิร์ต ก็ได้เช่นกัน

 

5. เนื้อแดง เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อแกะ เป็นต้น

เนื้อสัตว์เหล่านี้ เป็นแหล่ง ครีเอทีน จากธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารอาหาร ที่ขึ้นชื่อว่า มีประโยชน์ต่อการสร้างกล้ามเนื้อ และ ยังประกอบไปด้วย กรดอะมิโน อย่าง ลิวซีน ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วย โดยการรับประทาน เนื้อแดงติดมัน จะสามารถให้พลังงาน และ เพิ่มน้ำหนักได้มากกว่า การรับประทานเนื้อแดงไร้มัน

 

6. มันฝรั่ง ( Potato )

มันฝรั่ง ( Potato ) รวมถึงอาหาร จำพวกแป้ง ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ข้าวโพด มันหวาน พืชตระกูลถั่ว ข้าวโอ๊ต ควินัว เป็นต้น นอกจากจะให้ คาร์โบไฮเดรต และ พลังงาน ที่เป็นประโยชน์ ต่อการเพิ่มกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยกักเก็บ ไกลโคเจน ( Glycogen ) ในกล้ามเนื้อ และ เป็นแหล่งพลังงาน ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย

 

7. แซลมอน ( Salmon )

แซลมอน ( Salmon ) เพียง 170 กรัม ให้พลังงานถึง 350 แคลอรี่ และ ยังประกอบไปด้วย กรดไขมันโอเมก้า 3 ประมาณ 4 กรัม และ โปรตีน 34 กรัม ซึ่งจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ และ เพิ่มน้ำหนักได้

 

8. เวย์โปรตีน ( Whey Protein )

เป็นทางเลือก แหล่งอาหาร ประเภท โปรตีน ที่นิยมในเหล่านักกีฬา หรือ คนที่ชอบออกกำลังกาย แล้วต้องการ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่ง เวย์โปรตีน ( Whey Protein ) ทำมากจาก นม และ อุดมไปด้วย กรดอะมิโน ที่มีส่วนช่วยกระตุ้น การสร้างกล้ามเนื้อ โดยสามารถรับประทานได้ ทั้งก่อน หรือ หลัง ออกกำลังกาย หรือ ใช้เป็นส่วนผสม ในเมนู สมูทตี้ แล้วดื่มระหว่างวัน ก็ได้เช่นกัน

 

9. ขนมปังโฮลเกรน ( Whole Grain )

ขนมปังโฮลเกรน ( Whole Grain ) เป็นอาหารที่อุดมไปด้วย คาร์โบไฮเดรต เพราะทำมาจาก ธัญพืชไม่ขัดสี หากรับประทานร่วมกับ อาหารที่มี โปรตีนสูง จะช่วยเพิ่มน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

 

10. อะโวคาโด ( Avocado )

อะโวคาโด ( Avocado ) เป็นผลไม้ ที่เต็มไปด้วย ไขมันชนิดที่ดี และ ให้พลังงานสูง ซึ่ง อะโวคาโด ( Avocado ) 1 ลูกใหญ่ จะให้พลังงานถึง 332 แคลลอรี่ ไขมัน 29 กรัม ไฟเบอร์ 17 กรัม ทั้งยังมีวิตามิน และ เกลือแร่สูง อีกด้วย

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

 

สหพันธ์มวยไทยในยุโรป มีประเทศอะไรบ้าง

สหพันธ์มวยไทยในยุโรป มีประเทศอะไรบ้าง

เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ได้นิยมแค่ในประเทศไทย แต่ในต่างประเทศ เช่น ประเทศแถบตะวันตก หรือ ยุโรป ก็เป็นที่นิยมอย่างมากเช่นกัน มาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีประเทศอะไรบ้างที่เป็น สหพันธ์มวยไทยในยุโรป

 

ความนิยมของ มวยไทย ( Muay Thai ) ในยุโรป

ในปัจจุบัน มวยไทย ( Muay Thai ) กำลังได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ในปี 2013 จากสถิติการค้นหาสูงสุด ในเว็บไซต์ Google จากประชากรทั่วโลกพบว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ในแถบประเทศทางตะวันตก เมื่อเดือน ธันวาคม ปี 2016 มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับการยอมรับว่า เป็นกีฬาโอลิมปิกโดย นาย คิด แม็คคอนเนลล์ ผู้อำนวยการด้าน

กีฬา ของคณะกรรมการ โอลิมปิกสากล ( IOC ) ได้รับรอง มวยไทย ( Muay Thai ) บรรจุเข้าเป็นหนึ่งในชนิดกีฬา ที่จะใช้ทำการแข่งขัน มหกรรมกีฬานานาชาติ โอลิมปิก ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งทั้งนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นจะได้รับเงินช่วยเหลือ 25,000 เหรียญสหรัฐ จาก โอลิมปิกสากล ( IOC ) ด้วยเหตุผล มวยไทย ( Muay Thai ) มีองค์กรในแต่ละชาติ ไม่ต่ำกว่า 135 ประเทศ

ทั่วโลก รวมทั้งนักมวยเกือบ 4 แสนคน ขึ้นทะเบียนนักกีฬา ในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ จากทุกแขนงของกีฬาการต่อสู้ ได้เห็นพ้องต้องกันว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะป้องกันตัว ที่สามารถทำให้ ผู้ที่เรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว ได้พัฒนา และ มีทักษะการต่อสู้รอบด้าน ที่ใช้อาวุธทั้ง หมัด ขา เข่า และ ศอก อีกทั้งเป็นศิลปะ การต่อสู้ป้องกันตัว ของไทยที่มีมาอย่างช้านาน และ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ จากความเป็นเอกลักษณ์ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม และ ได้รับการยกย่อง อย่างกว้างขวางทั่วโลก จนปัจจุบันมีการเกิดขึ้นของ ค่ายมวยไทย ในต่างประเทศ จำนวนมากทั่วโลก ทั้งใน เอเชีย อเมริกาใต้ อเมริกาเหนือ และ ยุโรป เป็นต้น

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับการยอมรับ อย่างแพร่หลาย ในประเทศสหภาพยุโรป ทำ ให้มีการจัดตั้ง สหพันธ์มวยไทยในยุโรป ( European MuaythaiFederation : EMF ) เนื่องจากจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ของความนิยม ความสนใจ และ การก่อตั้งสมาคมนิยม มวยไทย ( Muay Thai ) ขนาดย่อม ในแต่ละประเทศในยุโรป โดยจุดประสงค์ ของสหพันธ์ คือ การส่งเสริมการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ให้เกิดขึ้น ผ่านการจัดการแข่งขันที่ดี และ ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป พัฒนาครูผู้สอน มวยไทย ( Muay Thai ) และ ผู้ตัดสินให้เป็นไปตาม มาตรฐานประชาสัมพันธ์ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) รวมถึงการอนุรักษณ์ และ รักษารากฐาน ความเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ให้แปรผัน ประเทศสมาชิก ของ สหพันธ์มวยไทยในยุโรป ( European MuaythaiFederation : EMF ) จำ นวน 39 ประเทศ ได้แก่

 

- Armenia

- Austria

- Azerbaijan

- Belarus

- Belgium

- Bosnia and Herzogovina

- Bulgaria

- Croatia

- Cyprus

- Czech Republic

- Denmark

- England

- Estonia

- Finland

- France

- Georgia

- Germany

- Greece

- Hungary

- Ireland

- Israel

- Italy

- Latvia

- Lithuania

- Moldova

- Monaco

- Netherlands

- Norway

- Poland

- Portugal

- Russia

- Serbia

- Slovakia

- Slovenia

- Spain

- Sweden

- The FYR of Macedonia

- Turkey

- Ukraine

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

 

การล้มมวย การทุจริตในกีฬา มวยไทย

การล้มมวย การทุจริตในกีฬา มวยไทย

เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวที่ถือได้ว่าสะเทือน วงการ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นอย่างมาก เมื่อนักมวยชื่อดังอย่าง ฟ้าวันใหม่ ได้ทำ การล้มมวย ขณะทำการแข่งขัน ซึ่งวันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ การล้มมวย และบทลงโทษกัน

 

การล้มมวย คืออะไร?

 

การล้มมวย ถือได้ว่าเป็น รูปแบบในการทุจริตอย่างหนึ่ง ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) โดย กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในประเทศไทยเรา มีกฎหมายที่ใช้ใน วงการมวย โดยเฉพาะ คือ พระราชบัญญัติ กีฬามวย พ.ศ.2542 เพื่อดูความเรียบร้อยให้กับ บุคลากรในวงการ มวยไทย ( Muay Thai ) โดย พระราชบัญญัติ กีฬามวย พ.ศ.2542 ตามมาตรา 3 ได้ระบุ ความหมายของ การล้มมวย ไว้ว่า...

 

" การเข้าแข่งขัน กีฬามวย โดยแสร้งชกแพ้ และให้หมาย รวมถึง การเข้าแข่งขันกีฬามวย โดยได้มีการกําหนด ผลการแข่งขันไว้ เป็นการล่วงหน้า หรือมีเจตนา เพื่อให้ผลการแข่งขันกีฬามวยเป็นไปตามที่กําหนดผลล่วงหน้า "

 

กรณีที่ถือเป็น การล้มมวย

 

ตามพระราชบัญญัติ กีฬามวย พ.ศ.2542 ได้มีการกำหนด กฎหมาย ที่เกี่ยวกับ การล้มมวย ไว้ 4 มาตรา ดังต่อไปนี้

 

  • มาตรา 48 ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่นักมวยหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยกระทําการล้มมวย

 

  • มาตรา 49 ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสิน ไม่ตัดสินตามระเบียบ และกติกาการแข่งขันอย่างถูกต้องเที่ยงธรรม

 

  • มาตรา 50 ห้ามมิให้นักมวยรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สําหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยกระทําการล้มมวย

 

  • มาตรา 51 ห้ามมิให้ผู้ตัดสินรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สําหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินไม่ตัดสินตามระเบียบและกติกาการแข่งขันอย่างถูกต้อง

 

บทลงโทษของ การล้มมวย

 

ตามพระราชบัญญัติ กีฬามวย พ.ศ.2542 หมวด 5 ได้มีการกำหนด บทกำหนดโทษ จากกรณี การล้มมวย เป็น 2 มาตรา ดังนี้

 

  • มาตรา 59 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 48 มาตรา 49 หรือมาตรา 50 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

  • มาตรา 60 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 51 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 10 ปี หรือไม่เกิน สองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ซึ่งจากกรณีของ ฟ้าวันใหม่ นั้น ที่ได้ทำการตกลง ล้มมวย ด้วยตัวนักมวยเอง จึงมีความผิดตามมาตรา 50 ที่ว่า "ห้ามมิให้นักมวยรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สําหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยกระทําการล้มมวย" เมื่อผิดกฎหมาย ในมาตรานี้ จึงมี บทกำหนดโทษ ตามมาตรา 59 คือ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 

สำหรับ ผู้ที่ว่าจ้าง นักมวย ให้มี การล้มมวย จะมีความผิด ในมาตรา 48 ที่ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่นักมวยหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยกระทําการล้มมวย" และมีบทกำหนดโทษ คือ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 59 เช่นเดียวกับ นักมวย ที่ได้รับการ จ้างล้มมวย

 

ปัญหา การล้มมวย ถือได้ว่ามีความเกี่ยวเนื่องมาจาก เรื่องการพนัน ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบัน มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่คลุกคลีกับ การแข่งขัน ในวงการมวย มีจุดประสงค์ ที่ต้องการ เล่นการพนัน เพื่อมุ่งผลประโยชน์ ที่จะได้รับ ทางด้านทรัพย์สิน เป็นหลัก โดยผู้นั้น จะทำการว่าจ้าง นักมวย ให้ทำการล้มมวย เพื่อให้ได้รับ ค่าจ้าง หรือ ผลประโยชน์ด้านอื่น ๆ ได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

หนทางสู่ การเป็น นักมวย อาชีพ

รวมท่ายืดกล้ามเนื้อของ นักมวย

หนทางสู่ การเป็น นักมวย อาชีพ

หนทางสู่ การเป็น นักมวย อาชีพ

นักมวย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง อาชีพ ที่สามารถทำเป็นอาชีพหลัก เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ ยิ่งถ้าหากในไปแข่งขันในเวทีใหญ่ ๆ หรือในระดับโลก ก็จะยิ่งสร้างรายได้ให้กับ นักมวย ได้เป็นอย่างดี แต่การจะเป็น นักมวยได้ จะต้องทำมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง มาติดตามกันครับ

 

หาค่ายมวยก่อน เป็นอันดับแรก

 

ผู้ที่สนใจอยากเป็น นักมวย สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การหา ค่ายมวย ที่เปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนในการสอน มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อทำ การฝึกซ้อมมวยในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่ ผู้ฝึกสอน ของค่ายมวยนั้น ๆ ได้มีโปรแกรมการจัดฝึกไว้ให้ ซึ่งค่ายมวย จะมีความพร้อม ในเรื่องต่าง ๆ สำหรับนักมวย ทุกประการ โดยเฉพาะใน เรื่องของอุปกรณ์ในการซ้อมมวย ที่มีครบครัน พร้อมทั้ง ครูฝึกมวย ที่มีความชำนาญ มวยไทย ( Muay Thai ) อย่างแน่นอน

 

และอีกประการสำคัญ คือ นักมวยทุกคน จำเป็นต้องมีสังกัด ค่ามมวย เป็นของตนเองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการบังคับทางกฎหมาย ที่ได้มีการระบุไว้ใน พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 เพราะหาก นักมวย ไม่มีค่ายมวย และไม่มีครูฝึกมวย จะผิดกฎหมาย และไม่สามารถ เข้าแข่งขัน เป็นนักมวยอาชีพได้

 

ฝึกซ้อมมวยตามโปรแกรม

 

เมื่อเข้ามาเป็น นักมวย ของค่ายมวย ที่สนใจได้แล้ว คุณต้องได้รับ การฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai ) ตามที่ได้มีการกำหนดไว้ ให้เป็นอย่างดี ในบางค่ายมวย ที่มีโปรแกรมฝึกอย่างจริงจัง อาจให้นักมวยในค่าย มาซ้อมอย่างเดียว ส่วนเรื่องความเป็นอยู่อื่น ๆ ค่ายมวย จะเตรียมพร้อมไว้ให้กับ นักมวย ในทุกด้าน เช่น ที่พัก สำหรับนักมวย ภายในค่าย , อาหารแต่ละมื้อ เพื่อควบคุมอาหาร นักมวย , ชุดซ้อมมวย  เป็นต้น

 

ลงทะเบียนเป็นนักมวย

 

เมื่อคุณ ได้รับการฝึกจาก ค่ายมวย เป็นอย่างดีแล้ว และต้องการ เข้าแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวย จะต้อง ได้รับการ ลงทะเบียนเป็น นักมวย ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เสียก่อน โดยในส่วนนี้ ค่ายมวย หรือผู้ฝึกสอน อาจช่วยในการดำเนินการได้ เพราะ หัวหน้าค่ายมวย และผู้ฝึกสอน ก็จำเป็นต้อง ลงทะเบียน เพื่อขอบัตรประจำตัว เป็นผู้ฝึกสอน หรือหัวหน้าค่ายมวย ตามที่กฎหมาย กำหนดไว้แล้ว เช่นเดียวกัน กับนักมวย

 

การลงทะเบียนเป็นนักมวย นักมวยต้องคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

 

1. มีสัญชาติไทย

2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี บริบูรณ์ หากนักมวย เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถ จดทะเบียนได้ หากได้รับความยิมยอม เป็นหนังสือจากผู้แทนโดยชอบธรรม

3. ไม่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง หรือติดยาเสพติดให้โทษ หรือเป็นโรค ที่คณะกรรมการกีฬามวยกำหนด

4. ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสียหาย ซึ่งคณะกรรมการ เห็นว่าจะนำมา ซึ่งความเสื่อมเสียแก่วงการกีฬามวย

 

เอกสารที่ใช้ในการขอจดทะเบียนเป็น นักมวย มีดังนี้

 

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / ข้าราชการ / พนักงานของรัฐ

2. สำเนาทะเบียนบ้าน

3. รูปถ่ายขนาด 2.5 X 3 ซม. จำนวน 2 ใบ

4. หนังสือรับรองต้นสังกัดค่ายมวย

5. ใบรับรองแพทย์ ( จากโรงพยาบาลของรัฐ )

6. เอกสารอื่น ๆ ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เห็นว่าเกี่ยวข้อง

 

ช่องทางในการยื่นขอลงทะเบียนเป็น นักมวย

ผู้ที่ประสงค์ ยื่นคำขอจดทะเบียน และขอมีบัตรประจำตัว นักมวย สามารถยื่นคำร้องขอได้ 3 รูปแบบ ได้แก่

 

1. สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย

ที่อยู่ : เลขที่ 286 ถ.รามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพ 10240

เบอร์โทรศัพท์ 02-1867111 , โทรสาร 02-1867509

 

2. สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยประจำจังหวัด ทั่วประเทศ

 

3. ยื่นคำร้องขอทางออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ที่ www.muaythai.world

 

เพียงคุณมีคุณสมบัติครบ เอกสารสารพร้อม และลงทะเบียนตามช่องทางที่รองรับ คุณจะได้รับ บัตรประจำตัวนักมวย และเป็น นักมวย แบบถูกกฎหมายได้ ที่สามารถเข้าแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) และยึดเป็นอาชีพได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

รวมท่ายืดกล้ามเนื้อของ นักมวย

การนับคะแนน กีฬา มวยไทย ( MuayThai )

รวมท่ายืดกล้ามเนื้อของ นักมวย

รวมท่ายืดกล้ามเนื้อของ นักมวย

ขึ้นชื่อว่า นักมวย หรือ มวยไทย แน่นอนว่าใคร ๆหลายคนคงนึกถึงคนที่ หุ่นดี ๆ กล้ามแน่นๆ กันอย่างแน่นอน และวันนี้เราจะมา แนะนำท่ายืดกล้ามเนื้อ ในแบบ ฉบับ ของ นักมวย

 

            การออกกำลังกาย ถือว่าเป็น กิจกรรม ที่ดีอย่างมากต่อร่างกาย ของเรา เพราะ แน่นอนว่า มันสามารถ ช่วยให้ ร่างกายของเรา แข็งแรงได้แล้ว แถมมันยัง ช่วยให้ เรามีหุ่นที่สวย ได้อีกด้วย และ ถ้าให้พูดถึง นักมวย หรือ คนที่เล่นกีฬา ประเภท มวยไทย ใคร ๆ หลาย ๆ ท่านคงจะนึกคน ที่มีหุ่นดี ๆ กล้ามแน่นๆ กันอย่างแน่นอน เพราะ กีฬา มายไทย นั้น เป็น กีฬา ที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกาย อย่างมาก เพราะเป็นกีฬา ที่ต้อง ใช้ทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ตลอดจนถึง เท้ากันเลยทีเดียว ทำให้ มวยไทย เป็นกีฬา ที่ใครฝึกมวย นั้นจะร่างกายที่แข็งแรงอย่างมาก นั้นเอง และวันนี้เราจะเอา ท่าทางการ ยืด กล้ามเนื้อ ของ นักมวย มาแนะนำ กัน ที่จะมีทั้งท่ายากๆ ไปจนถึงท่า ง่าย ๆ ไปดูกันดีกว่า ว่าจะมีท่าอะไรกันบ้าง

 

รวมท่ายืดกล้ามเนื้อของ นักมวย

 

ท่าไหว้ครู

 

เริ่มกันด้วย ท่าแรก ๆ เป็นท่าที่ ใคร ๆ หลาย ๆ คงจะคิดว่า จะเป็นท่ายืดกล้ามเนื้อ ของนักมวย ไปได้ยังไง สำหรับ ท่าไหว้ครู้ นั้น จะเป็นการ เริ่มต้นด้วยการไหว้ครู เพื่อแสดงความเคารพต่อครูอาจารย์ พร้อมยืดเส้นสายให้พร้อมกับการต่อสู้ ด้วย นั้นเอง

 

การชก

 

            อันนี้เป็น ท่าทาง แต่ นักมวย หรือ คนทั่วไปก็ น่าจะรู้กันอยู่แล้ว ว่าการ ชก หรือ การออกหมัดนั้น ต้อง ออกเป็นชุดท่าที่รวมศิลปะการต่อย ไม่ว่าจะเป็น การใช้ศอก ออกหมัด เช่น หมัดตรง หมัดงัด หมัดตวัด ศอกกลับ โดยผู้เล่นจะเริ่มใช้แรงมากขึ้นเพื่อเผาผลาญพลังงาน 

 

ลูกเตะ

 

            จะเป็นชุดท่าที่ เน้นการ เตะ หรือ การใช้ เท้า เป็นหลัก และยัง เป็นลักษณะเฉพาะของ มวยไทย ไม่ว่าจะเป็น  การเตะตรง เตะเฉียง เตะตัด หรือ การกลับหลังเตะ โดยมีกระสอบทรายเป็นอุปกรณ์ เป็นหลักในการ เตะ นั้นเอง

 

เพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ

ต่อมาเป็น การ เพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ จะเป็นชุดท่าทาง เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ในส่วน ของบริเวณของลำตัวส่วนล่าง โดยจะได้ในส่วนของ บริเวณ ขา น่อง สะโพก ฯลฯ โดยท่าที่ใช้ เช่น สควอท ลังจ์ เป็นหลัก

 

ท่าฝึก กล้ามเนื้อ แกนกลางลำตัว

 

            ต่อไป จะเป็นการ ท่ายืด รวมไปถึง ท่าออกกำลังกาย ที่จะเป็นชุดท่าเพื่อเพิ่ม ความแข็งแรง ของใน ส่วนกลางลำตัวอันเป็นหัวใจหลัก และการ เคลื่อนไหวของร่างกาย และ โดยท่านี้ทำให้การ ออกอาวุธใน กีฬา มวยไทยจะ มีพลังอย่างมาก และ หนักหน่วง  อย่างมาก  ที่เราจำเป็น ต้องใช้ ความแม่นยำมากขึ้น  ท่าสุดท้ายจะเป็นท่าที่สำคัญ มากๆเลยนะครับเพราะว่า จะกลับเข้าสู่โหมดปกติที่ทำให้กล้ามเนื้อมีภาวะปกติได้ นั้นเอง

 

ท่ายืด กล้ามเนื้อ                         

 

            ท่า ที่เราจะบอก ท่าสุดท้าย นั้นก็คือ ท่ายืด กล้ามเนื้อ ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อ ก็เพื่อนำร่างกาย ของเร นั้นไปสู่ภาวะปกติ เพื่อลดความเสี่ยง ต่อการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ หรือก็คือ การที่เรา ว่อมร่างกาย หรือ ยืดร่างกาย ในท่าทาง ต่างๆ เพื่อให้ กล้ามเนื้อ ได้ชิน กับการ ออกกำลังกาย นั้นเอง

 

            เป็นยังไงกันบ้าง กับท่าทาง หรือ ท่ายืด ของ นักมวย ก็จะมีทั้งรูปแบบ ที่ง่าย ๆ มากๆ ไปจนถึงแอบยากแต่ไม่ยากมากเท่าไร สำหรับ ใครที่สนใจ อย่างลองฝึก เราก็อยากแนะนำ เจริญทอง มวยไทย ยิม ที่เป็นยิมมวยต้นแบบที่นำ " ศิลปะแม่ไม้มวยไทย " กับ " วิทยาศาสตร์การกีฬา " แถมยังมี " ความรู้ด้านโภชนาการ " ที่ได้ถูกนำมาผสมผสานเข้าได้ด้วยกัน เป็นศูนย์กลางผู้นำช่วยลดน้ำหนัก ศิลปวัฒนธรรมมวยไทย และเชี่ยวชารด้านโภชนาการ นับว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ได้นำมารวมเป็นหนึ่งเดียวและยังมี MW WELLNESS เป็นที่ให้คำปรึกษา

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

การนับคะแนน กีฬา มวยไทย ( MuayThai )

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ มือใหม่

 

การนับคะแนน กีฬา มวยไทย ( MuayThai )

การนับคะแนน กีฬา มวยไทย ( MuayThai )

1...2...3 น็อค ดีใจกับคนชนะด้วย แต่ว่ามันตัดสินกันยังไงล่ะ หลาย ๆ คนที่พึ่งเคยดู กีฬา มวยไทย ( MuayThai ) ครั้งแรกก็อาจจะกำลังงงกับ การนับคะแนน ใช่ไหมล่ะคะ วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกันแล้วค่ะ

 

มวยไทย เป็นกีฬาแบบไหน ?

มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ อันเป็นเอกลักษณ์ ของประเทศไทย ที่มีมาแต่โบราณ มีความโดดเด่นด้านเทคนิค การกอดคอต่อสู้ ซึ่งเป็นการใช้ทั้งกาย และใจ สำหรับการต่อสู้ ที่ใช้ร่างกายเป็นอาวุธ โดยเป็นที่รู้จักว่าเป็น ( นวอาวุธ ) ซึ่งประกอบด้วย การโจมตีจากร่างกายทั้ง หมัด ศอก เข่า และเท้า หากมีการเตรียมพร้อม ด้านร่างกายดี จะก่อให้เกิดอาวุธที่มีอานุภาพ มวยไทยได้เป็นที่แพร่หลาย ในระดับนานาชาติในช่วงศตวรรษที่ยี่สิบ เมื่อเหล่านักมวยไทย สามารถเป็นฝ่ายชนะ นักต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในแขนงอื่น ซึ่งการแข่งขันมวยไทย ในระดับอาชีพ ได้รับการดูแลโดย สภามวยไทยโลก

 

การให้คะแนนของกีฬามวยไทยนั้น ต้องให้ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

การชก หมายถึง อวัยวะ ( นวอาวุธ ) ที่ใช้ในการต่อสู้ คือ หมัด เท้า เข่า ศอก เท่านั้น

 

การชกที่ได้คะแนน มีดังนี้

- นักมวยฝ่ายใดใช้ อาวุธมวยไทย ( หมัด - เท้า - เข่า - ศอก ) ได้โดยถูกต้องตามกติกา และกระทำถูก คู่แข่งขันได้มากกว่า ก็เป็นผู้ชนะไป

 

- นักมวยฝ่ายใด ที่ใช้อาวุธมวยไทย ตามลักษณะ แบบแผนมวยไทย โดยถูกต้องตามกติกา กระทำคู่ต่อสู้ ได้หนักหน่วง ชัดแจ้ง รุนแรง และถูกเป้าหมาย ที่สำคัญเป็นฝ่ายรุก กระทำได้มากกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด ใช้อาวุธมวยไทย กระทำคู่ต่อสู้ ให้เกิดบอบช้ำ บาดแผลที่เป็นอันตรายมากกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด เป็นผู้เดินเข้ากระทำ ( ฝ่ายรุก ) มากกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด เป็นผู้ ( รุก – รับ – หลบหลีก - ตอบโต้ ) ตามลักษณะ และชั้นเชิงมวยไทย ได้ดีกว่า เป็นฝ่ายชนะ

- นักมวยฝ่ายใด ที่มิได้กระทำฟาล์ว หรือกระทำฟาล์ว น้อยกว่า เป็นฝ่ายชนะ

 

 

การชกที่ไม่ได้คะแนน มีดังนี้

- การชกที่ละเมิดกติกาข้อหนึ่งข้อใด

- อาวุธที่กระทำไปถูก แขน หรือขา ของคู่แข่งขัน อันเป็นลักษณะ ของการป้องกัน ของคู่แข่งขัน

- อาวุธที่กระทำถูก คู่แข่งขัน แต่เบาเกินไป หรือก็คือไม่มีน้ำหนัก ส่งจากร่างกาย เช่น ตัว ลำตัว หรือไหล่

 

การฟาล์ว

ระหว่างการชก แต่ละยกนั้น ผู้ตัดสินต้องคำนึง ถึงความสำคัญของการฟาล์ว และตัดคะแนนตาม ที่ผู้ชี้ขาดสั่งให้ตัดคะแนน ถ้าผู้ตัดสินเห็นการฟาล์ว อย่างชัดเจน โดยผู้ชี้ขาดไม่ได้สังเกต และตัดคะแนนผู้แข่งขัน ที่กระทำฟาล์วนั้น ผู้ตัดสินจะต้องประเมิน ดูความรุนแรงของการฟาล์ว และตัดคะแนน ไปตามความเหมาะสม พร้อมทั้งระบุไว้ด้วยว่า ทำฟาล์วด้วยเหตุใด

 

เกี่ยวกับการให้คะแนน

- ในแต่ละยก มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน และให้คู่แข่งขัน ลดลงไปตามส่วน คือ ( 9 – 8 – 7 ) คะแนน

- ในยกที่เสมอกัน จะได้ฝ่ายละ 10 คะแนน

- ผู้ชนะในยกนั้น จะได้คะแนน 10 คะแนน ผู้ที่แพ้ได้ 9 คะแนน ( 10 : 9 )

- ผู้ชนะในยก ที่ชัดเจนมาก จะได้คะแนน 10 คะแนน ผู้ที่แพ้ได้ 8 คะแนน ( 10 : 8 )

- ผู้ชนะในยกนั้น และได้นับ 1 ครั้ง จะได้คะแนน 10 ผู้ที่แพ้ได้ 8 คะแนน ( 10 : 8 )

- ผู้ชนะที่ชัดเจนมาก ในยกนั้น และได้นับ 1 ครั้ง จะได้คะแนน 10 ผู้ที่แพ้ได้ 7 คะแนน ( 10 : 7 )

- ผู้ชนะในยกนั้น และได้นับสองครั้ง จะได้คะแนน 10 ผู้ที่แพ้ได้ 7 คะแนน ( 10 : 7 )

- นักมวยที่กระทำฟาล์ว ต้องไม่ได้คะแนนเต็ม ในยกที่ถูกตัดคะแนน

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

การออกอาวุธด้วย ศอก ตามฉบับ มวยไทย

การออกอาวุธด้วย ศอก ตามฉบับ มวยไทย

ศอก หนึ่งในอวัยวะที่ใช้ออกอาวุธ สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถือได้ว่าเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดของ มวยไทย เลยทีเดียว เพราะจะใช้ได้เฉพาะใน ระยะประชิดคู่ต่อสู้ ด้วยการใช้ศอก จะมีรูปแบบใดบ้าง มาติดตามกันครับ

 

การใช้ศอก ในกีฬา มวยไทย ( Muay ) เรียกว่า การตีศอก หรือ การฟันศอก ซึ่งเป็นอวัยวะที่ใช้ออกอาวุธที่มี ความแรงและเป็นอันตรายได้ เพราะ ศอก เป็นอวัยวะที่มี กระดูกแหลมคม และแข็งแกร่ง เมื่อรวมกับ แรงในการออกอาวุธ จะทำให้มี ความรุนแรง มากยิ่งขึ้น หากหากโดนศอก เข้าอย่างจัง อาจถึงขั้น เสียชีวิตได้ โดยการใช้ศอก หรือ การตีศอก มีรูปแบบของการใช้ ดังนี้

 

ศอกตี

 

ศอกที่ตีในลักษณะแนวดิ่งลงสู่พื้น โดยการใช้แรงหมุนจาก หัวไหล่กดเฉียงลง ใช้มือที่ตีนั้น หันเข้าหาลำตัว พร้อมกับใช้อรงส่งจากเท้า เป้าหมายใน การตีศอก คือ ใบหน้า และศีรษะของคู่ต่อสู้

 

ศอกตัด

 

ศอกลักษณะนี้ จะตีในแนว ขนานกับพื้น โดยใช้ การเหวี่ยง ของแรงกระตุก จากหัวไหล่ อย่างรวดเร็ว ใช้แรงส่งมา จากสะโพก แล้วบิดตัวให้มาก จึงจะถึงเป้าหมาย อย่างรุนแรง มือและ ข้อศอกที่ตี อยู่ในระดับเสมอกับปาก เป้าหมายการ ตีเข้าที่ใบหน้า ของคู่ต่อสู้

 

ศอกงัด

 

เป็นศอก ที่ใช้ตีเสยขึ้น โดยการงัดขึ้นตรง ๆ หรือบางครั้ง อาจเฉียงเล็กน้อย การงัดให้ย่อตัวลง เพื่อที่จะ ใช้แรงส่งจากเท้า ใช้เมื่อคู่ต่อสู้ จะเข้ามาจับคอตีเข่า ให้ใช้ศอกงัด เข้าที่เป้าหมาย คือ ปลายคางของ คู่ต่อสู้

 

ศอกพุ่ง

 

ศอกที่ตั้งไว้ ตรงข้ามกับคู่ต่อสู้ หรือที่คู่ต่อสู้ จะรุกเข้ามา ท่านี้ต้อง พับข้อแขน ให้ปลายศอก ส่วนแหลมชี้ไปข้างหน้า ให้ศอก ขนานกับพื้น ควรใช้ศอกที่อยู่ด้านหน้า เพรา ะอยู่ใกล้กว่า และศอกพุ่ง ออกไปตรง ๆ ใช้การสืบเท้า อาศัยแรงส่ง จากเท้าหลัง เข้าหาคู่ต่อสู้ เป้าหมาย ของการ ตีศอกพุ่ง คือ ใบหน้าของ คู่ต่อสู้

 

ศอกกระทุ้ง

 

เป็นการตีศอกที่เกิดจาก การตีศอก ที่ผิดพลาด พร้อมกับ กระชากศอกกลับ คืนมายังเป้าหมาย ในลักษณะเดิม กระทุ้ง กลับเฉียงไป ข้างลำตัว โดยใช้ แรงส่งจากเท้า ใช้เมื่อคู่ต่อสู้ เข้ามาประชิดตัว ทางด้านหลัง หรือถูกกอดปล้ำ เป้าหมายของ ศอกกระทุ้ง มักจะเป็น บริเวณลำตัว ของคู่ต่อสู้

 

ศอกกลับ

 

เป็นการตีศอก โดยการหมุนตัว ตีศอกออกไป ทางด้านหลัง ส่วนใหญ่ มักตีศอกกลับ ในแนวดิ่ง และศอกกลับแนวขนานกับพื้น สามารถ เพิ่มความรุนแรง ให้มากขึ้นได้ จากการ หมุนตัว ด้วยความเร็ว ที่สัมพันธ์กับ การตีศอก เป้าหมาย ของการตีศอก รูปแบบนี้ มักอยู่ที่ ใบหน้า และศีรษะ ของผู้ต่อสู้

 

ในการแข่ง มวยไทย ( Muay Thai ) ส่วนใหญ่ นักมวย แทบไม่ได้ใช้ ระยะในการ ง้างศอก เพราะ การจู่โจมคู่ต่อสู้ หรืออกอาวุธ ด้วยศอกนั้น ต้องทำได้อย่า งรวดเร็ว และว่องไส ซึ่งการที่จะทำเช่นนั้นได้ นักมวย จะต้องสามารถออกแรง ในระยะสั้น ให้ได้ จึงจะมีประสิทธิภาพ ในการออกอาวุธ ไปยังคู่ต่อสู้ ด้วยการตีศอก ซึ่งการใช้ศอกจู่โจมแบบ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถูกต้อง ใช้ตรงปลายข้อศอกที่แหลม และแคบใน การสัมผัสเป้าหมาย

 

หากใครที่กำลังมองหา สถานที่เรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถติดต่อ ขอรายละเอียดได้ที่ “เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) มีทั้งหมด 3 สาขา คือ สาขาศรีนครินทร์ , สาขารัชดา และสาขาข้าวสาร

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กระสอบทราย ชกมวย มีประเภทใดบ้าง

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ มือใหม่

กระสอบทราย ชกมวย มีประเภทใดบ้าง

กระสอบทราย ชกมวย มีประเภทใดบ้าง

กระสอบทราย อุปกรณ์ ในการซ้อมของ กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ที่หลายคนรู้จักกันดี ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ซ้อมมวย สำหรับนักมวย หรือผู้ที่ต้องการ ชกมวย และหลายคน อาจกำลังสนใจหาซื้อ กระสอบทราย เพื่อฝึกซ้อม มวยด้วยตัวเอง ซึ่งกระสอบทราย จะมีประเภทใดบ้าง มาติดตามกันครับ

 

กระสอบทราย ( Punch bag )  อุปกรณ์การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สามารถทำได้ทั้งต่อย เตะ และการฝึกท่าต่าง ๆ ได้ สำหรับมวยไทย และมวยสากล ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อของผู้เล่น และยังช่วยเพิ่มศักยภาพ รวมถึง ช่วยพัฒนา ความสามารถ ทั้งด้านการ เตะ ต่อย ให้แก่นักมวย ได้เป็นอย่างดี ซึ่งกระสอบทราย มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ กระสอบทรายแบบแขวน และกระสอบทราย แบบตั้งพื้น ซึ่งกระสอบทราย ทั้ง 2 ประเภท มีความแตกต่างกัน ดังนี้

 

กระสอบทราย แบบแขวน

 

เป็นกระสอบทราย ที่นิยมใช้กันมา อย่างยาวนาน ตามค่ายมวย หรือยิมมวยต่าง ๆ เพื่อใช้ซ้อม สำหรับ นักมวยในค่าย การใช้ กระสอบทราย แบบแขวน จำเป็นต้องมีการติดตั้ง ตัวของกระสอบทราย ให้มีความสูงของพื้นที่อย่างน้อย 3 เมตร จึงมี ข้อจำกัดในเรื่องของ การติดตั้ง ที่สามารถใช้ได้ เฉพาะพื้นที่กว้าง และมีความสูง เมตร จึงไม่สามารถใช้ในพื้นที่ที่มีเพดานไม่สูงได้

 

นอกจากนี้ ในการติดตั้ง กระสอบทราย แบบแขวน มีความจำเป็น ต้องทำการเจาะเสา , เจาะกำแพง หรือยึดเหล็กใหม่ อีกด้วย ซึ่ง ทำให้เสียเวลาในการติดตั้งกระสอบทราย และมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเพิ่มเติมได้ ถึงแม้ว่า กระสอบทราย จะมีราคาถูกกว่า กระสอบทราย แบบตั้งพื้นก็ตาม

 

ในการเลือกซื้อ กระสอบทราย  แบบแขวน ต้องดูเรื่องของเนื้อภายใน กระสอบทราย ให้ดีด้วย เนื่องจาก กระสอบทราย แบบแขวน ในรูปแบบเก่า ก่อนที่จะทำการติดตั้งกระสอบทรายนั้น จะต้องทำการยัดทราย หรือเศษผ้าใส่ในตัวกระสอบก่อน  ถ้าเลือกเป็นทรายที่ยัดเข้าไป ก็จะทำเกิดปัญหาในเรื่องของน้ำหนัก และตะขอที่จะใช้แขวน เพราะต้องมีความแข็งแรงมั่นคงมาก ๆ จึงจะสามารถ รองรับแรง และน้ำหนักได้ เท่านั้นยังไม่พอ กระสอบทรายแบบแขวน อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากการฝึกซ้อม เพราะ มีการใช้ ทรายจริง ทำให้นักมวย ต้องใส่นวมชก กับกระสอบทราย เท่านั้น

 

ด้วยเหตุผลนี้ กระสอบทราย แบบแขวน รูปแบบใหม่ จึงมีการปรับเปลี่ยนด้วยการใช้ผ้า ซึ่งมีน้ำหนักเบา และปลอดภัยกว่า การใช้ทราย แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องทำการ ยัดกระสอบก่อนแขวนอยู่ดี ซึ่งไม่ว่าจะ ยัดด้วยเศษผ้าหรือทราย เมื่อใช้งาน กระสอบทรายไปซักระยะ ตัวกระสอบ ก็จะเกิดการยุบตัวได้ ตามการใช้งาน

 

กระสอบทราย แบบตั้งพื้น

 

กระสอบทราย รูปแบบนี้ เริ่มมีความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากมี ขั้นตอนในการติดตั้งง่าย ประหยัดเวลา ไม่ต้องยัดของใส่กระสอบ เนื่องจาก กระสอบทราย แบบตั้งพื้น ส่วนใหญ่ ทำจากการบุฟองน้ำ และหุ้มมาให้เรียบร้อยแล้ว สามารถนำวางในพื้นที่ที่ต้องการใช้ซ้อมได้เลย แต่ควรเผื่อพื้นที่ไว้เล็กน้อยด้านละ 2 เมตร (กระสอบทรายแบบตั้งพื้น มีความสูงไม่เกิน 2 เมตร) และสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

 

กระสอบทราบแบบตั้งพื้น จึงมีข้อดี ที่เห็นได้ชัด คือ สามารถ เคลื่อนที่ย้ายตำแหน่งที่ตั้งได้ สามารถซื้อมาและใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็น ติดตั้งเพิ่มเติม และไม่ต้องยัดทราย หรือเศษผ้าเข้าไปในกระสอบ เหมือนกับ กระสอบทราย แบบแขวน รวมถึง ตัวบุฟองน้ำ ที่อยู่ภายในกระสอบทราย ทำให้สามารถฝึกซ้อมได้แบบมือเปล่า ไม่ต้องใส่นวมก็ยังได้

ข้อเสียของ กระสอบทรายแบบตั้งพื้น คือ ราคาแพงกว่า กระสอบทรายแบบแขวน โดยอาจมีราคาต่างกันถึง 1,000 – 5,000 เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ กระสอบทรายแบบตั้งพื้น จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้งเพิ่มเติม เมื่อเทียบกับแบบแขวน

 

ความเหมาะสมในการใช้งาน

 

กระสอบทราย แบบแขวน เหมาะสำหรับ การใช้ฝึกซ้อม ภายในค่ายมวย หรือยิมมวย เนื่องจาก มีพื้นที่กว้างขวาง ทำให้ติดตั้ง กระสอบทรายแบบแขวนได้ง่าย และเหมาะใน การฝึกสำหรับ นักมวย เพราะ กระสอบทราย แบบแขวน มีเนื้อของกระสอบทราย ที่มีความหนักแน่น จึงสร้างความแข็งแรง ให้กับ กล้ามเนื้อของ นักมวยได้เป็นอย่างดี

 

ส่วนผู้ที่ต้องการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ภายในบ้าน ควรเลือก กระสอบทราย แบบตั้งพื้น ที่สามารถ เคลื่อนย้ายได้ง่าย ใช้งานได้ทันที และเนื้อภายใน กระสอบทราย ยังมีความนุ่มและปลอดภัย มากกว่ากระสอบทราย แบบแขวน นั่นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ มือใหม่

ผู้หญิงไปฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องพกอะไรบ้าง

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ มือใหม่

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ มือใหม่

เพื่อน ๆ คนไหนที่เริ่มสนใจ อยากลอง ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ดูบ้างคะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มฝึกอย่างไร วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) แบบ มือใหม่ ให้เพื่อน ๆ ได้ลองอ่าน และ นำไปทำตามดูนะคะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาประจำชาติไทย ที่เป็นที่รู้จัก และ ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลายไปทั่วโลก นอกจากจะฝึก มวยไทย ( Muay Thai )  เพื่อเป็น นักมวยมืออาชีพ แล้ว มวยไทย ( Muay Thai )  ยังเล่นเป็นกีฬา สำหรับคนที่ออกกำลังกาย ได้อีกด้วย เพราะกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )  นั้นช่วยออกกำลังกาย ได้ทุกสัดส่วน ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ให้ทุกส่วนของร่างกาย นอกจากจะได้ ร่างการที่แข็งแรงแล้ว ยังได้ความรู้ และ เทคนิค ในการป้องกันตัว กลับไปอีกด้วย

 

 

การฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นแน่นอนว่า จะสามารถไปช่วยส่งเสริม ความแข็งแกร่ง ให้กับร่างกาย ของเราได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ กล้ามเนื้อ และ ยังทำให้ กล้ามเนื้อ กระชับ และ นอกจากนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นกีฬา หรือ กิจรรมการ ออกกำลังกาย ที่จะเน้น ไปที่ร่างกาย ช่วงบน ช่วงกลาง และ ยังรวมไปถึง ช่วงล่าง หรือ จะให้พูดก็คือ มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นเป็น กีฬา ที่ช่วยให้ร่างกาย แถบจะทุกส่วนของเรา แข็งแรง ขึ้นได้นั้นเอง เป้าหมายของการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) คือ ให้ทุกส่วนของ ร่างกาย ของนั้น ได้ใช้งาน และ นอกเหนือไปจาก การกระตุ้นความแข็งแรง ของ ร่างกาย ของเราแล้ว ยังจะไปช่วย ระบบไหลเวียนโลหิต และ การฝึกชก มวยไทย ( Muay Thai ) ยังช่วยเพิ่ม การฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงาน ประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และ ความคล่องตัว ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นั้นเอง

 

 

เพื่อน ๆ หลาย ๆ คน คงอยากจะลองเล่น มวยไทย ( Muay Thai ) ดู แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ต้องทำอะไรบ้าง แล้ว มวยไทย ( Muay Thai ) เหมาะกับใครบ้าง ง่าย ๆ เลยก็ คือ มวยไทย ( Muay Thai )  นั้นเหมาะสำหรับ ทุกคนที่สนใจ และ อยากออกกำลังกาย เพื่อน ๆ สามารถฝึกเองที่บ้าน จากการดูยูทูป สอน มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ จะสมัครเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) กับยิม หรือ ฟิตเนส สักที่ก็ได้ ค่ะ

 

 

ที่ เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร ( Jaroen Thong Muay Thai Kaosan ) ที่นี่มีบริการสอน มวยไทย ( Muay Thai ) ให้กับทุก ๆ คน เริ่มสอนตั้งแต่ ขั้นพื้นฐาน ต่อให้ไม่รู้จัก มวยไทย ( Muay Thai ) เลย ก็สามารถ มาเรียน มาฝึก ที่นี่ได้ เพราะมีครูฝึกที่เก่ง และ มีประสบการณ์ ในการสอน มวยไทย ( Muay Thai ) มามากมาย คอยช่วยเหลือ และ ถ่ายทอดความรู้ ให้กับเพื่อน ๆ หรือ นักเรียน ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ถูกต้อง การใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก การวอร์มอัพ ก่อนเริ่มเล่น การหายใจ คุณครู และ พนักงาน ที่นี่ทุกคน มีความเป็นกันเอง พร้อมช่วยเหลือเพื่อน ๆ ในเรื่องการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) และ การออกกำลังกายต่าง ๆ อย่าถูกวิธี

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

ผู้หญิงไปฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องพกอะไรบ้าง

ผู้หญิงไปฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ต้องพกอะไรบ้าง

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาการต่อสู้ที่มีมาอย่างยาวนาน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปก็ยิ่งทำให้มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยหันมาสนใจ มวยไทย ( Muay Thai ) มากยิ่งขึ้น เรามาดูของที่ผู้หญิงต้องพกเวลาไปฝึกมวยกันค่ะ

 

สิ่งจำเป็นสำหรับสตรีที่ต้องการฝึกฝน มวยไทย ( Muay Thai )  แบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ ๆ คือ

1. อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการชกมวย

2. เครื่องแต่งกายที่เหมาะสม

3. เครื่องสำอางที่จำเป็น

 

1. อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการชกมวย สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) ประกอบด้วย

  • ผ้าพันมือ มวยไทย ( Muay Thai )  – ใช้สำหรับพันรอบมือก่อนสวมนวม ช่วยป้องกันไม่ให้มือได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย
  • นวมมือ มวยไทย ( Muay Thai )  – เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน มีน้ำหนักขนาดต่าง ๆ กัน ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับขนาดของผู้ฝึก และเป็นไปตามกติกาการแข่งขัน
  • กางเกง มวยไทย ( Muay Thai )  – เป็นเครื่องแบบในการแข่งขัน ลวดลายสีสันมีให้เลือกมากมาย ตามรสนิยมของผู้ใช้
  • แองเกิลข้อเท้า – ช่วยป้องกันข้อเท้าพลิกหรือเคล็ด ลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้
  • สนับเข่า สนับศอก – สำหรับมือใหม่ช่วยป้องกันเวลาล้มหรือแรงปะทะต่าง ๆ

 

2. เครื่องแต่งกาย มวยไทย ( Muay Thai )

  • เสื้อนักมวยหญิง – อาจเป็นเสื้อกล้าม หรือเสื้อที่ออกแบบมาสำหรับการชกมวยโดยเฉพาะ
  • กางเกงซับใน – เพื่อป้องกันไม่ให้โป๊ เวลายกขา เข่า หรือเตะ
  • สปอร์ตบรา – เพื่อปกปิด และกระชับหน้าอก ต้องไม่อึดอัดจนหายใจลำบาก หรือหลวมเกินไปจนรู้สึกไม่คล่องตัว

 

3. เครื่องสำอาง

  • ครีมกันแดด – ในการซ้อมมวย อาจต้องมีการวิ่งออกไปภายนอกซึ่งต้องเจอกับแสงแดด และฝุ่นละอองต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องทาโลชั่นกันแดดเพื่อป้องกันผิวเสื่อมโทรม
  • ลิปสติก – ลิปสติกเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทาลิปเพิ่มความมั่นใจก็ดีนะ
  • ดินสอเขียนคิ้ว – มีคำกล่าวว่า “คิ้วเป็นมงกุฎของหน้า” ดังนั้น การมีคิ้วที่สวยงามจึงทำให้ใบหน้าโดยรวมดูดีขึ้น บางคนอาจเลือกสักคิ้วถาวรเพื่อประหยัดเวลา และคิ้วไม่หายไปกับเหงื่อ

 

สิ่งที่คุณอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับ  มวยไทย ( Muay Thai ) มี ดังนี้

1.  มวยไทย ( Muay Thai )  ถูกเรียกว่า "ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9" เพราะว่ามีการต่อสู้โดยใช้อาวุธบนร่างกาย 9 อย่าง ( นวอาวุธ ) คือ หมัด 2 / ศอก 2 / เข่า 2 / เท้า 2 และ หัว 1

2. ปัจจุบันชาวต่างชาติ มักจะรู้จัก มวยไทย ( Muay Thai )  ในนาม Art of Eight Limbs ( ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 ) เพราะ กติกา มวยไทย ( Muay Thai ) ปัจจุบัน ตัดการใช้หัวโขกออกไป และ ไปเรียก Lethwei ( มวยพม่า ) ว่าเป็น Art of Nine Limbs ( ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9 ) แทน เพราะยังสามารถใช้หัวโขกได้

3.  มวยไทย ( Muay Thai ) ในอดีตใช้คาดเชือกในการพันมือเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของมือ แต่กติกาไม่ได้กำหนดว่า ต้องคาดเชือกแต่อย่างใด นักสู้สามารถเข้าต่อสู้ โดยใช้มือเปล่าก็ได้

4. สนามมวยแห่งแรกถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2462 คือ สนามมวยสวนกุหลาบ ซึ่งดำเนินการโดยประชาชน ภายในบริเวณวังสวนกุหลาบ

5. สนามมวยราชดำเนิน หรือ เวทีมวยราชดำเนิน ( Rajadumnern Stadium ) นับเป็นเวทีมวยระดับมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทยก่อตั้งขึ้นโดยดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม และมีการแข่งขันนัดแรกในปี 2488

6.  มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับความนิยมในทุกชนชั้นในประวัติศาสตร์ พระเจ้าเสือได้ปลอมพระองค์เป็นสามัญชน ออกไปชกมวยกับนักมวยฝีมือดีของอำเภอวิเศษไชยชาญ และสามารถชกชนะนักมวยเอกถึง ๓ คน ได้แก่ นายกลาง หมัดตาย นายใหญ่ หมัดเหล็ก และ นายเล็ก หมัดหนัก โดยทั้ง 3 คนได้รับความพ่ายแพ้อย่างบอบช้ำ

7. ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการจัดแข่งขันมวยคาดเชือกหน้าพระที่นั่ง ณ บริเวณหน้าพลับพลาทรงธรรม สวนมิสกวัน ในงานศพของพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช โดยให้หัวเมืองทั่วประเทศคัดเลือกนักมวยฝีมือดีเข้าแข่งขัน จำนวน 3 คน คือ

นายปล่อง จำนงทอง จากเมืองไชยา เป็น “หมื่นมวยมีชื่อ”

นายกลึง โตสะอาด จากเมืองลพบุรี เป็น “หมื่นมือแม่นหมัด”

นายแดง ไทยประเสริฐ จากเมืองโคราช เป็น “หมื่นชงัดเชิงชก”

 

     ของใช้ต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้อาจมีความสำคัญมากน้อยต่างกันในแต่ละบุคคล แต่สิ่งสำคัญคือ “ใจรัก” ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการเรียน มวยไทย ( Muay Thai )  เพราะจะทำให้เกิดการฝึกฝนได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ถอดใจเอาง่าย ๆ หากใครยังไม่รู้ว่าจะซื้อชุดมวยแบบผู้หญิงใส่กันได้ที่ไหน ที่ muaythaistreetshop มีจำหน่ายอุปกรณ์ เสื้อผ้า นวม สำหรับคน ชกมวย ด้วยนะ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งแบบรุก และแบบรับ

ฝึกพันข้อมือ ฉบับ มวยไทย ( Muay thai )

การแต่งกาย ของ นักมวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยโบราณ

การแต่งกาย ของ นักมวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยโบราณ

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน การแต่งกายของ นักมวยไทย ในสมัยโบราณ จึงมีความแตกต่างจาก สมัยปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยการแต่งกายของนักมวยไทย ในสมัยโบราณ จะมีรูปแบบเป็นอย่างไร มาติดตามกันครับ

 

การแต่งกายของ นักมวยไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ไม่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจนนัก แต่เมื่อใน สมัยกรุงศรีอยุธยา พบหลักฐาน ปรากฎว่า นักมวยไทย สวมกางเกงผ้าฝ้าย หูรูดเหน็บชายด้านหลัง สวมเสื้อยันต์ และการแต่งกายในลักษณะนี้ ถือปฏิบัติมาจนถึง สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น  การแต่งกาย ของ มวยไทย ( Muay Thai ) สมัยโบราณ ประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ คือ เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย หมัด และ เครื่องรางของขลัง

 

เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย

 

เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย คือ กางเกง ซึ่งในสมัยก่อน ไม่มีกางเกง ที่ใช้สวมใส่เฉพาะ เวลาขึ้นชกมวย ส่วนมากนักมวยจะสวม กางเกงขาสั้น ยาวประมาณแค่เข่า เป็นกางเกง ที่ใช้โดยทั่วไป ในชีวิตประจำวัน ตัวกางเกงไม่มีขอบกางเกง ใช้ผ้าขาวม้าพัน ให้หนาคาดทับ ระหว่างขาใช้แทนกระจับ และคาดเอว เพื่อให้กางเกงไม่หลุดเวลาขึ้นชก

 

นักมวยสมัยก่อน อาจมีการใส่ เสื้อยันต์ ที่ใช้ผ้าดิบสีแดง หรือสีขาว ตัดเป็นเสื้อกั๊ก คอกลมแขนกุด เขียนอักขระเลขยันต์ และรูปภาพต่าง ๆ ใช้สวมทับ เสื้อชนิดอื่น หรือสวมเพียงตัวเดียว เพราะเชื่อว่า จะช่วยป้องกันศาสตราวุธทุกชนิด แต่ส่วนใหญ่ เวลาชกมวย มักไม่ค่อยสวมเสื้อยันต์ แต่จะใช้เครื่องรางชนิดอื่นแทน

 

การสวมหมัด

 

การสวมหมัดในที่นี้ หากเทียบการแต่งกายในปัจจุบัน ก็คือ นวม ซึ่งในสมัยโบราณใช้การ "คาดเชือก" ที่ถือเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างหนึ่งของ มวยไทย ( Muay Thai ) เลยทีเดียว โดยการคาดเชือกที่มือ ใช้ด้ายดิบพันสันหมัด และข้อมือ ความยาว และลักษณะการพัน จะแตกต่างกันไป ตามภูมิลำเนา บ่งบอกถึงลักษณะ การใช้หมัด และศอกอีกด้วย ซึ่งการคาดเชือก จะช่วยให้ กระดูกนิ้วมือไม่เคล็ดง่าย และทำให้หมัดแข็ง เพิ่มน้ำหนักหมัดให้หนักแน่นกว่าหมัดธรรมดา บางคนอาจพันด้ายขนาดยาว เพราะต้องการใช้ หมัดบังหน้าด้วย

 

เครื่องรางของขลัง

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยโบราณ มีเครื่องรางของขลังอยู่ด้วยกันหลากหลาย ดังนี้

 

  • มงคล :  ทำจากสายสิญจ์หรือผ้าดิบ ที่เกจิอาจารย์เป็นผู้เขียนอักขระหัวใจมนตร์  คาถา และเลขยันต์ แล้วถักหรือม้วนพันด้วยด้ายหรือด้ายสายสิญจน์ ห่อหุ้มด้วยผ้าซึ่งผ่านพิธีกรรมจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมทำเป็นวงสำหรับสวมศีรษะ โดยรวบเป็นหางยาวไว้ข้างหลัง มงคล ถือเป็นเครื่องรางให้สิริมงคล และคุ้มกันอันตรายใช้สวมศีรษะในขณะชก

 

  • ประเจียด : ใช้ผ้าสาลู ( ผ้าขาวบางเนื้อดี ) หรือผ้าดิบ สีขาวหรือสีแดง ตัดเป็นสามเหลี่ยม ลงเลขยันต์ มหาอำนาจ ส่วนใหญ่ จัดอยู่ในชุดวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด กำลังตัวหรือคุ้มกำลัง ภาษาที่ใช้เขียนมักเป็นอักขระโบราณ ที่พระครู หรือเกจิอาจารย์ จะเป็นผู้เขียน และทำพิธี ม้วนหรือถัก พันด้วยด้ายอาจใส่ว่าน ตระกรุด หรือเครื่องรางของขลังชนิดอื่น ไว้ข้างในผ้าประเจียดก็ได้ เป็นเครื่องรางคุ้มกันตัว ใช้ผูกติดกับต้นแขน ตลอดเวลา การแข่งขันชกมวย

 

  • ผ้ายันต์ : ผ้าดิบหรือผ้าเนื้อบาง สีขาวหรือสีแดงเขียนอักขระเลขยันต์และรูปภาพต่างๆ โดยเกจิอาจารย์ที่เชื่อถือว่ามีคาถาอาคมแก่กล้า วิธีทำคล้ายผ้าประเจียดแต่ผ้ายันต์มักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้พกติดตัวหรือพันเป็นผ้าประเจียดก็ได้

 

  • พระเครื่อง : ทำด้วยโลหะ ผงปูน ดิน หรืออาจใช้วัตถุหลายชนิดจากแหล่งต่างๆ เพื่อเพิ่มความขลัง แล้วทำพิธีพุทธาพิเศกลงเลขยันต์ มีพิธีกรรม ที่รวมการบวงสรวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย การบริกรรมคาถาอาคมต่าง ๆ นักมวย จะพกพระเครื่องติดตัว โดยพันไว้ในมงคล หรือผ้าประเจียด บ้างก็ใช้อมไว้ในปากเวลาชก แต่วิธีนี้ไม่ค่อยนิยม เพราะอาจเป็นอันตรายต่อตนเองได้

 

  • ตะกรุด : ใช้แผ่นโลหะบางรูปสี่เหลี่ยม เช่น ทอง เงิน นาก ทองแดง หรือใบลาน และกระดาษสา ลงเลขยันต์ คาถาอาคมเช่นเดียวกับลงผืนผ้า เพื่อทำประเจียด แล้วม้วนให้กลม ตรงกลางเว้นช่องว่างสำหรับใช้สายเชือกร้อยสำหรับคาดบั้นเอว คล้องคอ หรือคาดไว้ที่ต้นแขน หากใส่ในมงคลหรือประเจียดมักจะใช้ตะกรุดขนาดเล็ก

 

  • พิสมร : ทำด้วยแผ่นโลหะ หรือใบลาน รูปสี่เหลี่ยม ลงเลขยันต์ มีที่ร้อยสายแต่โดยมาก ไม่ม้วนให้กลมอย่างตะกรุด ต้องผ่านพิธีกรรม เช่นเดียวกับตะกรุด

 

  • แหวนพิรอด : ทำด้วยกระดาษสา หรือถักด้วยหวาย ผ่านพิธีกรรมแล้วลงรักปิดทองเรียกว่า “กำลังพิรอด” ใช้สวมต้นแขน หรือ แขวนพิรอดใช้สวมนิ้ว เป็นของวิเศษหายาก และเชื่อว่ามีอานุภาพมาก

 

  • ว่าน : เป็นพืช ที่มีสรรพคุณหลายอย่าง บางชนิดเชื่อว่า ทำให้ผิวหนัง ทนความร้อน หรือ หนังเหนียว จึงนิยมนำมาเป็นเครื่องรางของขลัง โดยการปลุกเสกคาถาอาคม เช่นเดียวกับ เครื่องรางของขลังชนิดอื่น ใช้พกติดตัวใส่ในมงคล ประเจียด หรือใช้เป็นส่วนผสม ในการทำพระเครื่อง

 

การแต่งกายของ นักมวยไทย ในปัจจุบัน มีความเปลี่ยนแปลงไปจาก ในสมัยโบราณอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของ เครื่องรางของคลัง ที่นักมวยไทย สมัยโบราณ ใช้เพื่อเป็นสิริมงคลและคุ้มครองตนเอง แต่ในปัจจุบัน มีการใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม เพื่อป้องกันอันตรายแก่นักมวยอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น อย่างการใช้ นวม กระจับ หรือฟันยาง เป็นต้น

 

ขอบคุณรูปภาพจาก Freepik

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การรีดน้ำหนัก แบบ นักชก มวยไทย ( Muay Thai )

การดูแลรักษา อุปกรณ์มวยไทย หลังใช้งาน

การดูแลรักษา อุปกรณ์มวยไทย หลังใช้งาน

การดูแลรักษา อุปกรณ์มวยไทย หลังใช้งาน

สวัสดีค่ะ ใครคนไหนที่มี อุปกรณ์มวยไทย ที่ใช้อยู่บ้างคะ ไม่ว่าจะเป็น นวมมวย กระสอบทราย และ อื่น ๆ แล้วมีมีวิธีดูแลรักษาอย่างไรกันบ้างคะ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ การดูแลรักษา อุปกรณ์มวยไทย หลังใช้งาน กันค่ะ

 

การรักษาความสะอาด ของอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นเป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่จำเป็นอย่างมากใน กีฬาต่าง ๆ และ รวมกีฬา มวยไทย ( Muay thai ) ด้วยเช่นกัน มวยไทย ( Muay thai ) นั้นก็มีอุปกรณ์มวยไทย มากมายหลายแบบ อย่าง นวมมวย ฟันยาง เฮดการ์ด หรือ กระสอบทราย และ อื่น ๆ อีกมากมาย แต่จะรักษาอุปกรณ์ยังไงให้ คงทน อยู่กับเราไปนาน ๆ เรามีคำตอบค่ะ

 

มวยไทย ( Muay Thai ) หรือ กีฬามวย นั้น คือ ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ( Martial Art ) และ เป็น กีฬาประจำชาติไทย ( National Sport of Thailand ) มายาวนาน ตั้งแต่สมัยโบราณ มวยไทย ( Muay thai ) ถือเป็นศิลปะการต่อสู้ ที่ร้ายกาจ รุนแรง เพราะ ในสมัยก่อนนั้น มวยไทย ( Muay thai ) ก็เป็นอีกศิลปะการต่อสู้ ที่มักพบเจอได้ในสงคราม ซึ่งแตกต่างจากศิลปะการต่อสู้ ของชนชาติอื่นใด เพราะ มวยไทย ( Muay thai ) เป็นการต่อสู้ ด้วยร่างกาย ใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จนกลายเป็นอาวุธ ได้หลากหลายชนิด เช่น หมัด ศอก เข่า เท้า ของนักมวย เข้าทำอันตรายคู่ต่อสู้ โดยปราศจาก การใช้อาวุธวัตถุใด ๆ นอกจากร่างกาย

 

ประโยชน์ของ มวยไทย ( Muay thai )

1. ด้านร่างกาย

การฝึก มวยไทย ( Muay thai ) เก็บไว้เป็น ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ( Martial Art ) นั้นก็เป็นการ ออกกำลังกาย อย่างหนึ่ง ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง การเคลื่อนไหว ในอิริยาบถต่าง ๆ รวดเร็ว และ ว่องไว ทำให้ไม่เป็นเฉื่อยชา และ สรีระที่สมส่วน ทำให้มีความทรหด อดทน

 

2. ด้านจิตใจ

นอกจากการ ออกกำลังกาย แล้ว มวยไทย ( Muay thai ) ทำให้จิตใจผ่องใส และ ยังทำให้มีจิตใจกล้าหาญ ทำให้มีความเข็มแข็ง อดทน และ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ทำให้มีไหวพริบ ความเฉลียวฉลาด มีน้ำใจนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และ รู้จักการอภัยให้แก่กัน

 

3. คุณค่าด้านสังคม

ผู้ที่ได้รับการฝึกฝน มวยไทย ( Muay thai ) ที่ถือ เป็น กีฬาประจำชาติไทย ( National Sport of Thailand ) จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับ การอบรมให้มีระเบียบวินัย การเคารพใน กฎ - กติกา เชื่อฟังผู้ฝึกสอน และ ผู้ตัดสิน มีมารยาทที่ดี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา สุจริต ยุติธรรม เป็นนักสู้ที่ดีซึ่งสิ่งต่าง ๆ เป็นพื้นฐาน ของการอยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุข ในสังคมไทย

 

 การบำรุงรักษา อุปกรณ์มวยไทย

1. อุปกรณ์ มวยไทย ( Muay thai ) สำหรับการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) นั้นส่วนมาก ทำมาจากหนัง การเก็บรักษา ต้องระมัดระวัง ไม่ให้เปียกชื่น หลังการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) ควรทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และ ผึ่งลมหรือ แดดอ่อน ๆ ห้ามผึ่งแดด จนหนังแข็ง และ กรอบ อาจทำให้ อุปกรณ์มวยไทย เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

 

2. เชือกฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) การเก็บเชือกกระโดด ควรจัดเก็บให้เรียบร้อย ไม่ควรวางกองบนพื้น อาจทำให้สะดุดได้

 

3. กระจับนวม มวยไทย ( Muay thai ) สำหรับการฝึกซ้อม หลังจากใช้ฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay thai ) เสร็จแล้ว ควรจัดเก็บให้เข้าที่ ไม่วางทิ้ง ทำให้  กระจับนวม มวยไทย ( Muay thai ) เสียหายได้

 

4. กระจับเหล็ก ใช้สำหรับการแข่งขัน มวยไทย ( Muay thai ) การใช้กระจับเล็ก ต้องเลือกบาร์ หรือ ขนาดให้พอเหมาะ กับอวัยวะของนักมวย เพราะถ้า กระจับคับเกินไป กระจับอาจหนีบ อวัยวะได้

 

5. ผ้าพันมือ มวยไทย ( Muay thai ) เมื่อฝึกซ้อมเสร็จแล้ว ให้ผึ่งแดดให้แห้ง แล้วเก็บม้วน ผ้าพันมือ มวยไทย ( Muay thai ) ให้เรียบร้อย เพื่อง่ายต่อการใช้ครั้งต่อไป

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

ทักษะ การใช้เข่า ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ทักษะ การใช้เข่า ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai )

ในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) การใช้เข่า ก็เป็นอีกหนึ่งการออกอาวุธที่สำคัญในกีฬาประเภทนี้ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ ทักษะการตีเข่า ในกีฬามวยไทย ในรูปแบบต่าง ๆ กัน

 

การใช้เข่า ในกีฬามวยไทย

 

เข่า หนึ่งในอวัยวะที่ใช้ในการออกอาวุธ ในกีฬา มวยไทย ( Mauy Thai ) โดยเข่านั้น เป็นอาวุธสั้นรองจาก การเตะ จึงใช้ได้ผลดีในระยะประชิดมากกว่าในระยะไกล เช่น เข่าคลุกวงในกอดปล้ำตีเข่า โยนเข่าและแทงเข่า การใช้เข่าในกีฬามวยไทย

 

การใช้เข่า สามารถเรียกได้อีกอย่างว่า "การตีเข่า" หมายถึง การยกเท้าขึ้นแล้วงอเข่า ให้เป็นมุมฉากหรือมุมแหลม ใช้ส่วนเข่าด้านหน้า หรือด้านข้าง (ด้านใน) กระแทกไปยังเป้าหมายที่ต้องการ โดยเป้าหมายของการตีเข่า คือ บริเวณต้นขา ท้อง ชายโครง ลำตัว หน้าอก และทวารหนัก หากตีเข่าสูงขึ้นไปจะมีเป้าหมาย คือ ต้นแขน ปลายคาง และใบหน้า การใช้เข่าตีหรือกระแทกขึ้นไป ขณะตั้งท่าอยู่ และบางโอกาสการใช้เข่าจะต้องใช้มือทั้ง 2 ข้างจับที่คอคู่ต่อสู้ เพื่อใช้เข่าออกอาวุธได้ถนัดและปะทะอย่างรุนแรง

 

การใช้เข่า ในกีฬามวยไทย มีรูปแบบ ดังนี้

 

เข่าตรง หรือ เข่าโหน

 

เป็นการยกเข่า หรือกระแทกยกขึ้นไป โดยการงอเข่า เป็นมุมแหลม โดยใช้ส่วนที่เป็นหัวเข่ากระทบเป้าหมาย และให้ปลายเท้าของเข่าที่ยกขึ้น ตีชี้ไปทางข้างหลัง นิยมใช้ท่านี้ในระยะประชิกตัว เป้าหมายของการตีเข่าท่านี้ ได้ แก่ บริเวณท้อง คาง และใบหน้าของคู่ต่อสู่ สามารถตีได้ทั้งเข่าซ้าย หรือเข่าขวาแล้วแต่ถนัด

 

สิ่งสำคัญของการใช้ เข่าตรง คือ มือทั้งสองข้าง ต้องยกขึ้นสูง เพื่อป้องกันการตีเข่าในลักษณะเข่าโหน มือทั้ง 2 ที่โน้มคอลงมานั้น ควรใช้แขนและศอกชิดกัน เพื่อป้องกัน ซึ่งเข่าตรง สามารถแบ่งย่อยได้เป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ เข่าตรงตีนำ และเข่าตรงตีตาม ส่วนเข่าโหน คือการตีเข่าโดยใช้มือทั้ง 2 ข้าง จับท้ายทอยของคู่ต่อสู้ดึงและโน้มคอลงมา พร้อมกับตีเข่า ไปยังเป้าหมาย

 

เข่าเฉียง

 

เป็นการตีเข่าในลักษณะที่เฉียงขึ้น ให้เข่าปะทะกับเป้าหมาย ด้วยการใช้แรงเหวี่ยงจากสะโพก เป้าหมายตีเข่าเฉียงอยู่ที่บริเวณ ชายโครง ท้อง หน้าอก คาง และใบหน้า การตีเข่าเฉียง ด้านที่ใช้ตีเข่า จะตรงข้ามกับเป้าหมาย คือ ถ้าตีเข่าซ้าย จะต้องใช้เข่าเฉียง เข้าปะทะ เป้าหมายทางด้านขวา หรือถ้าตีเข่าขวา จะต้องใช้เข่าเฉียง เข้าปะทะ เป้าหมายทางด้านซ้าย

 

การใช้เข่าเฉียง หากเข้ากอดรัด แล้วจับคู่ต่อสู้ไว้ให้แน่น แล้วดึงมาทางด้านข้างที่จะตีเข่า ปลายเท้าชี้ลงสู่พื้นไปทางด้านหลัง วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความรุนแรงของการตีเข่ามากขึ้นได้

 

เข่าตัด

 

การตีเข่าที่มีทิศทางการตีเข่าผ่านจากซ้ายไปขวา หรือจากขาวไปซ้าย ในทิศทางที่ขนานกับพื้น หรือเป็นแนวเดียวกัน หรือตีตัดลงมาหาพื้น โดยที่ปลายเท้า ชี้ไปทางด้านหลัง ให้ใช้แรงเหวี่ยงจากสะโพก เหวี่ยงตัดเข้าหาลำตัว ให้ส่วนของหัวเข่าปะทะกับเป้าหมายที่บริเวณต้นขา หรือชายโครงของคู่ต่อสู้

 

สิ่งสำคัญในการตีเข่าตัด ให้ใช้แรงบิดจากเอว พร้อมแรงดึงเข้าหา แล้วตี จึงจะมีแรงกระแทกมาก นอกจากนี้ การตีเข่า อาจจะใช้ การเหวี่ยงให้คู่ต่อสู้เสียหลักก่อน แล้วจึงตีเข่าสวน ซึ่งบางครั้ง การตีเข่าตัดขึ้นเป็นวงโค้ง จากด้านบนลงมาด้านล่าง จะเรียกลักษณะการตีเข่านี้ว่า "เข่าโค้ง"

 

เข่าลา

 

เป็นการตีเข่า โดยใช้บริเวณเข่าและแข้ง ปะทะเป้าหมาย ระยะการใช้เข่าลาอยู่ในระยะกลาง การตีเข่ารูปแบบนี้ ไม่ต้องจับคอ แต่ตีเฉียงในลักษณะคล้ายกับการเตะเฉียง อาจพับเข่าลงเล็กน้อย เป้าหมายให้ตีเข่าเข้าที่ท้อง และชายโครงของคู่ต่อสู้

 

เข่าลอย

 

เป็นการยกเข่าขึ้นทำมุม โดยการชี้ปลายเท้าไปทางข้างหลัง แล้วใช้เข่าพุ่งเข้าปะทะเป้าหมาย พร้อมกับยกดัดเท้าอีกข้างที่เป็นฐาน ให้ดีดพุ่งขึ้นลอยพ้นจากพื้น พุ่งไปยังเป้าหมายที่ต้องการ อย่างบริเวณ อก ลิ้นปี่ คาง และใบหน้า โดยสามารถใช้เข่านำ หรือเข่าตามก็ได้ การใช้เข่าลอย ในบางครั้ง อาจจะใช้พุ่งเข่าหน้าไปก่อน แล้วตามสลับเข่าหลัง เป็นเข่าหน้าเข้าปะทะเป้าหมายก็ได้

 

เข่าน้อย

 

เป็นการตีเข่าขณะที่เข้ากอดรัดคอ สะพายแล่ง หรือเอวร่วมกับคู่ต่อสู้ ให้ตีเข่าเข้าที่บริเวณต้นขา หรือท้องน้อยของคู่ต่อสู้เร็ว ๆ เน้นหลาย ๆ ครั้ง เป็นการรบกวนคู่ต่อสู้ให้ขัดเท้า และปวดเท้า หากถูกตีเข่าน้อยหลาย ๆ ครั้ง อาจจะทำให้คู่ต่อสู้ เสียเหลี่ยมได้ จึงนิยมใช้เมื่อคลุกวงใน

 

การตีเข่า ถือได้ว่าเป็น อาวุธในร่างกายที่มีพลัง และมีอานุภาพรุนแรงมาก นักมวย ควรใช้ให้คล่องและปรับได้หลากหลาย จึงจะได้เปรียบเชิงมวยในการต่อสู้ได้

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งแบบรุก และแบบรับ

สังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ได้ มาตรฐาน

สังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ได้ มาตรฐาน

สังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ได้ มาตรฐาน

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นได้รับความสนใจ ในทุกช่วงอายุ รวมถึงชาวต่างชาติ ที่ตั้งใจมาฝึก มวยไทย เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ และ ป้องกันตัว ซึ่งการมี สังเวียน หรือ เวทีมวย ที่ได้ มาตรฐาน ก็เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการฝึกซ้อม มวยไทย เหมือนกัน

 

 ในสมัยก่อนนั้น ผู้คนจะฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อใช้ป้องกันตัว และ นำไปใช้ใน การต่อสู้ หรือ สงคราม แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน บ้านเมืองมีความสงบขึ้น มวยไทย ( Muay Thai ) ได้กลายมาเป็น กีฬาการต่อสู้ ที่ใช้อวัยวะของร่างกาย ให้เป็นประโยชน์ จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจากฝึกเพื่อ สืบสานวัฒนธรรมแล้ว ยังได้กลายเป็นการฝึก เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ เพื่อออกกำลังกาย หรือ ใช้ลดน้ำหนัก อีกด้วย

 

 ตามหลัก กติกาสากลแล้ว สนามมวย หรือ สังเวียนมวย ( Boxing Ring ) ที่ได้มาตรฐาน จะต้องมีลักษณะดังนี้

1. สนามมวย หรือ สังเวียนมวย ( Boxing Ring ) ต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดเล็กด้านละ 6.10 ม. ( 20 ฟุต ) ขนาดใหญ่ด้านละ 7.32 ม. ( 24 ฟุต ) วัดจากข้างในเส้นเชือก และ พื้นสังเวียนสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 0.91 ม. ( 3 ฟุต ) แต่ห้ามเกิน 1.22 ม. ( 4 ฟุต )

 

2. เชือกกั้น ของ สนามมวย หรือ สังเวียนมวย ( Boxing Ring ) ต้องมีเชือก 4 เส้น และ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ของเชือกไม่ต่ำกว่า 1.5 นิ้ว โดยจะขึงติดกับเสาที่มุม สูงจากพื้นเวทีขึ้นไป 16 / 32 / 48 และ 60 นิ้ว ตามลำดับ ทั้งนี้ให้หุ้มเชือกด้วยวัสดุ ที่มีความเรียบ อ่อนนุ่ม และ เชือกในแต่ละด้าน ของ สนามมวย หรือ สังเวียนมวย ( Boxing Ring ) จะต้องผูกยึดกัน ด้วยผ้าเหนียวสองชิ้น โดยมีขนาดกว้าง 1-1.5 นิ้ว และ มีระยะห่างที่เท่ากัน ซึ่งผ้าที่ผูกนั้น ต้องไม่ลื่นไปตามเชือก

 

3. พื้นสังเวียน หรือ พื้นสนาม ต้องมีความปลอดภัย เรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ และ ต้องยื่นออกไปนอกเชือก อย่างน้อย 20 นิ้ว และ ต้องปูด้วยผ้าสักหลาด ยาง หรือ วัสดุอื่น ๆ ที่เหมาะสม โดยจะต้องมีลักษณะยืดหยุ่นได้ และ มีความหนาไม่น้อยกว่า 1.5 นิ้ว พร้อมปูทับด้วย ผ้าตึงคลุมพื้นเวทีทั้งหมด

 

4. มุม สนามมวย หรือ สังเวียนมวย ( Boxing Ring ) ต้องตั้งเสาที่มุมทั้งสี่มุม โดยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว และ สูงขึ้นไปจากเวที 60 นิ้ว พร้อมทั้งหุ้มนวม ที่มุมภายในเชือก ให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย กับนักมวย และ มุมแดง จะอยู่ใกล้กับ ประธาน กรรมการ

 ควบคุมการแข่งขัน หรือ ประธานคณะลูกขุน

 

5. บันได จะมี 3 บันได และ ต้องมีความกว้าง ไม่น้อยกว่า 3 ฟุต ไว้ที่มุมต้องข้ามของ สนามมวย หรือ สังเวียนมวย ( Boxing Ring ) สองบันได เพื่อให้นักมวย และ พี่เลี้ยงขึ้นลง ส่วนอีกบันไดหนึ่งนั้นให้อยู่ที่ มุมตรงกลางสำหรับผู้ชี้ขาด และ แพทย์

 

6. ต้องมีกล่องพลาสติก ที่มุมกลางทั้งสองมุม นอก สนามมวย หรือ สังเวียนมวย ( Boxing Ring ) ให้ติดล่องพลาสติก มุมละกล่อง เพื่อให้ผู้ชี้ขาดทิ้งสำลี หรือ กระดาษบาง ๆ ที่ซับเลือดแล้ว

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งแบบรุก และแบบรับ

มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งแบบรุก และแบบรับ

ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งแบบรุก และแบบรับ ตามแบบฉบับเป็นการเลือกใช้ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) และกลวิธีต่าง ๆ มาผสมผสานกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

     “ ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) ” ที่ใช้ในการชก มวยไทย ( Muay Thai )  ได้แก่ หมัด เท้า เข่า และศอก ซึ่ง การใช้หมัดชกคู่ต่อสู้ เรียกว่า “ ไม้หมัด ” การใช้เท้าเตะคู่ต่อสู้เรียกว่า “ ไม้เตะ ” การใช้เท้าถีบเรียกว่า “ ไม้ถีบ ” การใช้เข่าเรียกว่า “ ไม้เข่า ” การใช้ศอกเรียกว่า “ ไม้ศอก ” และยังมีการแบ่งตามลักษณะความสั้น-ยาวของการใช้ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ไม้สั้น และ ไม้ยาว อีกด้วย

 

ศิลปะการรุก

     ไม้รุก คือ การใช้ไม้มวยต่าง ๆ มาประกอบกัน เพื่อการโจมตีคู่ต่อสู้ มีทั้งการหลอกล่อ และเข้าสู้กันจริง โดยทั่วไปไม้นำของไม้รุกจะเป็นไม้ยาว มีความรวดเร็ว รัดกุม มีหลักมั่นคง และสามารถใช้ไม้อื่นต่อไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ไม้จังหวะแรกว่าได้ผลดีหรือไม่ จึงนิยมใช้ไม้มวยแบบสลับบนล่าง หรือ ซ้ายสลับขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้พะวง ถ้าใช้ไม้รุกเฉพาะส่วน หรือ ส่วนล่างอย่างเดียว จะง่ายต่อการป้องกันแก้ไข

     โดยทั่วไปไม้รุก มีตั้งแต่ 1 จังหวะจนไม่จำกัดจำนวน แต่ที่นิยมใช้และได้ผลดี รวมทั้งฝึกหัดได้ง่าย คือ ไม้รุก 1 จังหวะ, 2 จังหวะ และ 3 จังหวะ

- ไม้รุก 1 จังหวะ : การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวยเพียงอย่างเดียว เช่น การชกหมัดตรงขวา เตะขวา โยนเข่าขวาหรือด้านที่ถนัดที่สุด

- ไม้รุก 2 จังหวะ : การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวย 2 จังหวะ โดยจังหวะที่ 1 เป็นไม้หลอก เพื่อให้คู่ต่อสู้เสียหลัก แล้วตามด้วยใช้ไม้จริงในจังหวะที่ 2 แต่ต้องตามกันไปอย่างรวดเร็ว

- ไม้รุก 3 จังหวะ : การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวยจังหวะที่ 1,2 และ 3 ติดต่อกัน เช่น ต่อยหมัดนำ หมัดตรง แล้วเตะตาม หากฝึกจนเกิดความชำนาญจะสามารถใช้ไม้สั้น เช่น ศอก เข่า หมัดตวัด หมัดงัด เป็นไม้นำได้เช่นกัน

 

ศิลปะการรับ

      ไม้รับ คือ การนำเอาไม้มวยต่าง ๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขการจู่โจมของฝ่ายรุก ไม้มวยชนิดหนึ่งอาจแก้การจู่โจมของไม้มวยชนิดเดียวกัน หรือต่างชนิดได้ หรือแก้ทีละไม้ เช่น แก้การต่อย แก้การเตะ แก้การถีบ แก้การศอก แต่ในการชกมวยจริง ๆ ไม่ได้ชก หรือเตะเพียงจังหวะเดียว แต่จะรุกเป็นชุด จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขการจู่โจม เช่น การถอยออกให้พ้นระยะ เพื่อไม่ให้ถูกอาวุธของคู่ต่อสู้ การหลบหลีก การปัดป้อง และการตอบโต้ ซึ่งมีทั้งการชิงลงมือก่อน การถอยแล้วตอบโต้ การหลบหลีกแล้วตอบโต้

1. การหลอกล่อ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้คู่ต่อสู้เข้าใจผิด หรือเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางได้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะต่าง ๆ โดยไม่เคลื่อนที่ไปจากที่เดิม แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ

- หลอกด้วยสายตา : มองสูงแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่ต่ำ หรือ มองต่ำแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่สูง

- หลอกด้วยศีรษะ : การเคลื่อนไหวศีรษะไปมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้หลงทาง

- หลอกล่อด้วยการเคลื่อนไหวลำตัว : การอาศัยความอ่อนตัว เช่น การโยกเอวหรือโยกลำตัวไปทางซ้ายและขวา

2. การถอยให้พ้นระยะ คือ การถอยให้ห่างจากคู่ต่อสู้ อาจกระโดดเคลื่อนเท้าถอยหลัง หรือก้าวถอยหลัง แต่ต้องให้พ้นระยะไม้มวยของคู่ต่อสู้ ในการถอยเมื่อพ้นระยะแล้ว จะต้องอยู่ในท่าที่พร้อมจะตอบโต้คู่ต่อสู้ทันที

3. การโยกตัวหรือการเอนตัวให้พ้นระยะ คือ การโยกตัวหรือเอนตัวออกให้พ้นระยะคู่ต่อสู้

4. การหลบหลีก คือ การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อหลบหลีกไม้มวยของคู่ต่อสู้ที่จู่โจมมา อาจใช้วิธีก้มตัวหลบด้านซ้าย และขวา

5. การปัดให้เบี่ยงเบนออกไป คือ การใช้มือหรือแขนปัดไม้มวยไปยังเป้าหมายอื่น

6. การปัดป้อง คือ การใช้ส่วนต่าง ๆ ที่แข็งแรงของร่างกายปัดป้องอวัยวะที่เป็นจุดอ่อนของร่างกาย เช่น การใช้เข่าปัดป้องท้อง รวมถึงบริเวณลำตัว การใช้ศอกและเข่าบริเวณหน้าอก

7. การบังเกาะจับ คือ การบังไม่ให้ไม้มวยคู่ต่อสู้ปะทะกับตัวเรา การบังนั้นจะต้องอาศัยการผ่อนแรงถูกจังหวะ และเหมาะสมจึงจะได้ผลดี เมื่อบังเกาะจับได้แล้ว ก็สามารถใช้ไม้มวยตอบโต้ได้ทันที

8. การทำให้ล้ม ใน มวยไทย ( Muay Thai ) มีหลายแบบ แต่ที่ถูกต้องตามกติกาคือ ใช้วิธีการบังเกาะจับแล้วผลักให้ล้ม หรือการกอดรัดแล้วเหวี่ยงให้ล้ม

     และนี่คือ ศิลปะการรุก ( ไม้รุก ) และศิลปะการรับ (ไม้รับ) ที่น่าสนใจของ มวยไทย ( Muay Thai ) เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่จริง ๆ แล้วต้องอาศัยความชำนาญจากการหมั่นฝึกซ้อม เพื่อให้เลือกใช้ไม้ มวยไทย ( Muay Thai )  และกลวิธีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ฝึกพันข้อมือ ฉบับ มวยไทย ( Muay thai )

อาชีพ มวยไทย ไม่ได้เป็นกันได้ง่าย ๆ

รำมวย ก่อนขึ้นชก มีความหมายอย่างไรกับ มวยไทย

รำมวย ก่อนขึ้นชก มีความหมายอย่างไรกับ มวยไทย

สำหรับ มวยไทย นั้นเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ใช้แค่ในประเทศไทยเพียงอย่างเดียวแต่ยังรวมไปถึงต่างปกระเทศอีกด้วยแต่มีใครเคยสงสัยไหมว่าทำไมนักมวยจึงต้องการมี รำมวย ก่อนชก วันนี้เราจะไปหาคำตอบกัน

 

                มวยไทย นั้น นับได้ว่าเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคนต่างประเทศต่างก็พากันให้ความสนใจ ดดถมยังได้มีโรงยิม หรือ ค่ายมวย เปิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน เพื่อที่จะสร้าง นักมวย หรือ ฝึกมวย นักมวยที่มีความสามารถ ออกมาแข่งขัน และทำให้ มวยไทย นั้นเป็นกีฬา ที่เป็นที่ยอมรับกันในหลายๆ ประเทศ แถมมวยไทย ยังเป็นศิลปะ การต่อสู้ของไทย ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความเป็นมา หรือ ท่าทางการต่อสู้ ล้วนแล้ว เป็นเสน่ห์ ที่ทำให้ ใครๆ หลายๆ คนหลงรักในกีฬา มวยไทย และที่สำคัญไปกว่านั้น มวยไทย ถือเป็นกีฬา ที่ต้องมีความเคารพ ไม่ว่าจะเป็น คู่ต้อสู้ หรือ ครูผู้ที่ฝึกสอน นั้นจึงเป็นที่มาของการ รำมวย ก่อนที่จะมีการ ชก

                เคยนึกสงสัย กันไหมว่า ทำไมถึงต้องมีการ รำไหว้ครู แล้วทำไมต้องมีท่าทางต่างๆ ในการรำเรา ต้องบอกก่อนเลยว่า การทำความเคารพก็เป็นเอกลักษณ์ที่สวยงาม ของคนไทยมาดั่งเดิมอยู่แล้วนั้นจึงทำให้ มวยไทย มีเสน่ห์ และยังเป็นกีฬา ที่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นกีฬาประจำชาติไทย ดังนั้นการ รำไหว้ครู ของ มวยไทยนั้น ที่เป็นจารีตประเพณีสำคัญในการแสดงความเคารพ และแถม ยังเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งผู้เรียนฝึกฝนจะต้องมีการขึ้นครู เป็นสิ่งแรกด้วยเช่นกัน และ การไหว้ครูก่อนที่จะมีการแข่งขัน หรือ ก่อนเริ่มการ ชกของ มวยไทย ถือว่าเป็นข้อแตกต่างจากกีฬาอื่นๆ โดยเฉพาะ กีฬา ต่อสู้ ที่ใช้การชก อย่าง " คิกบ็อกซิง " ( kick boxing ) ที่ได้มีการลอกเลียนแบบการ ชกมวย ของไทย ต้องบอกเลยว่า แทบจะเหมือนกันทุกอย่างเพียงแต่ไม่ให้ใช้ ศอกในการชกบนสนาม และ ไม่มีการไหว้ครูก่อนเริ่ม ดังนั้น ในการรำไหว้ครูจึงถือเป็นจุดเด่น และ เอกลักษณ์ของกีฬามวยไทยอย่างแท้จริง นั้นเอง และแถมยังเป็น ความงดงาม ที่ก็ ในลายๆประเภท ไม่มีอีกด้วย

 

ยศ เรืองสา ได้กล่าวถึงข้อควรปฏิบัติของผู้ฝึกมวย ในหนังสือ ตำรามวยไทยตำรับพระเจ้าเสือว่า นักมวยมีข้อพึงปฏิบัติดังนี้

 

๑) จงทำตน เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน

๒) จงสุภาพ ต่อคนทั่วไป

๓) จงเป็นผู้มี สันติธรรมไม่พาลเกเร

๔) จงเป็นผู้ซื่อสัตย์ ต่อตัวเอง และ ผู้อื่น

๕) ต้องเป็นผู้มีมานะบากบั่น ไม่ย่อท้อต่อทุกสิ่ง

๖) จงเป็นผู้เสียสละต่อหมู่ชน เมื่อประเทศชาติต้องการ

๗) จงสร้างแก่นแท้ของจิตใจให้ แกร่งกร้าวเยี่ยงเหล็กเพชร

๘) จงเป็นผู้เห็นธรรมในหลักพระพุทธศาสนา และ มีศีลธรรมประจำใจ

๙) ต้องเป็นคนตรงต่อเวลา รักชื่อเสียง และ ค่ายคณะของตน

๑๐) ต้องออกกำลังกายอยู่ เสมอเป็นประจำ

๑๑) ต้องไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้ในทางผิดกติกา และ ศีลธรรม

๑๒) ต้องเคารพกฎหมาย ของบ้านเมือง

 

นอกเหนือจากการ ขึ้นครู นั้น ก็จะมีการ ครอบครู นั้นหมายถึงว่า การที่ศิษย์ได้ศึกษาศิลปะ มวยไทย จนหมดสิ้นแล้ว และ ยังสามารถถ่ายทอดวิชาให้แก่ผู้อื่นได้ ก็จะทำพิธีครอบครูให้ นั้นเอง

 

ประโยชน์จากการร่ายรำไหว้ครู

 

๑) เป็นการ ปลูกฝังนิสัยให้ของ นักมวย นั้นก็ คือให้มีความ รู้จักรัก เคารพครูอาจารย์ บิดามารดา ผู้ให้กำเนิดมวยไทย

๒) เป็นการ ปลูกฝังจิตสำนึกให้ ตระหนักใน คุณค่าของศิลปะ แม่ไม้ มวยไทย เกิดความรัก และ หวงแหนที่จะอนุรักษ์ให้คงไว้สืบไป

๓) เป็นการสร้าง กิจกรรมเผยแพร่เอกลักษณ์ และ ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติได้อย่างสง่างาม สมศักดิ์ศรี และยังเป็นความงดงามของศิลปะ การต่อสู้ของไทย

 

โดยหัวใจ หลักๆของการร่าย รำไหว้ครู นั้น นั้นก็คือ การระลึกถึงพระคุณ ของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ที่ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชา หรือ ผู้ที่ค่อนสอน ค่อนฝึก ให้กับเรา และ ระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยปกป้องคุ้มครอง รักษาให้รอดพ้นจากภัยอันตราย ที่ตะเกิดขึ้นกับเรา และใน ส่วนการ ร่ายรำ นั้น ถือเป็นการแสดงถึงความฮึกเหิม ทำให้ คู้ต่อสู้กลัว ปลุกใจ และทำให้ ไม่เกรงกลัวคู่ต่อสู้ และถือยัง เป็นการอบอุ่นร่างกาย ของเรา ได้ยืดเส้นยืดสายไปด้วยในตัว รวมทั้งได้ดูชั้นเชิงคู่ต่อสู้ ดูสถานที่ในการหลบหลีก ขณะเข้าโรมรันพันตูกับคู่ต่อสู้ อีกด้วย

 

มวยไทย นั้นถือเป็นกีฬา ที่งดงาม และ สวยงามแถมยังมี ประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ของคนไทย ทำให้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือ คนต่างประเทศ ต่างให้ความสนใจ และ รักษา กีฬาประเภทนี้ไว้ ให้ ลูกๆ หรือ คนรุ่นหลังได้ศึกษา ได้ฝึกวิชาการต่อสู้ สำหรับคนที่สนใจ สามารถลองศึกษา หาความรู้ หรือ ลองไปฝึกในค่ายมวย เพื่อลองเรียนรู้ ว่า มวยไทย ทำไมถึงมีคนสนใจมากมาย ขนาดนี้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

รูปแบบการออก หมัด สำหรับ มวยไทย

ไม่เป็น มวย แต่อย่าฝึก มวย เริ่มจากกอะไรดี

 

ประเพณี เกี่ยวกับ มวยไทย

ประเพณี เกี่ยวกับ มวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน จึงมีประเพณีอันดีงามเกี่ยวกับมวยไทยเกิดขึ้นด้วย โดยเฉพาะ ประเพณี ที่แสดงถึงความเคารพ นบน้อม และคารวะต่อครูบาอาจารย์ ผู้สั่งสอนวิชามวยไทยให้แก่ลูกศิษย์

 

การขึ้นครู

 

เป็นพิธีขั้นแรก ที่ศิษย์จะมาไหว้ครู เพื่อมาฝากตัว เป็นศิษย์ การไหว้ครู ถือว่าเป็น ประเพณีที่สำคัญของ มวยไทย และถือว่า เป็นพิธีการ อันศักดิ์สิทธิ์ สมัยโบราณกาล " ขึ้นครู " เปรียบเสมือน พิธีการมอบตนเอง ในลักษณะ ขออยู่ ใต้บังคับบัญชาของ ครูมวย เพื่อร่ำเรียนวิทยาการ ในฐานะคนที่ว่าง่าย , สอนง่าย และกล้าหาญ เพื่อเตรียมตัว และปรับปรุงตน สู่ความเป็น ทหารพระราชา นักมวยจะต้องมีครู ต้องเคารพ และเทิดทูนครู เพราะการที่ครู จะยอมรับศิษย์ แต่ละคน ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจาก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ของคนไทย ที่เป็นมรดก สืบทอดกันมา แต่โบราณกาล

 

ในอดีต ผู้สมัครเป็นศิษย์ จะมีความรู้สึกว่า ยากแสนยาก กว่าจะได้เรียนรู้ ถึงศาสตร์ชิ้นนี้ได้ เพราะในสมัยนั้นครูอาจารย์ที่เชี่ยวชาญ มีอยู่ไม่มากนัก อีกประการหนึ่ง ท่านก็ไม่ได้คิด ค่าสอนหรือ มีค่าตอบแทนแต่อย่างใด ผู้มีประสงค์ จะศึกษาเล่าเรียน ต้องฝาก เนื้อฝากตัวกับครู คอยปรนนิบัติ อยู่เป็นเวลานาน จนกว่าจะได้รับการถ่ายทอด วิชามวยไทย จนครบถ้วน ด้วยเหตุนี้ ครูและ ศิษย์มวยไทย ในสมัยก่อนนั้น จึงมี ความสัมพันธ์กัน อย่างแนบแน่น ดุจบิดามารดา

 

พิธีไหว้ครูมวยไทย

 

เป็นเอกลักษณ์ ของมวยไทย ( Muay Thai ) ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ที่ก่อนนักมวยทำ การแข่งขัน จะมีการร่ายรำไหว้ครูมวย ซึ่งเป็น วัฒนธรรมไทยแท้ ที่สืบสานมายาวนาน จนกลายเป็น อัตลักษณ์ ของความเป็น "มวยไทย" สาเหตุที่ศิษย์ต้องมี ความกตัญญต่อ ครูอาจารย์นั้น เป็นเพราะ วิชามวยไทย ( Muay Thai ) เมื่อครั้งโบราณ มีการฝึกฝนไว้ ป้องกันอันตราย จากคู่ต่อสู้ ซึ่งในการฝึกซ้อม หากไม่มี ครูอาจารย์ ที่ชำนาญ คอยสอนสั่ง ผู้ฝึกมวย อาจพลาดพลั้ง และเกิดอันตรายได้ ดังนั้น ศิษย์จึงต้อง เชื่อฟังครู และศรัทธาครู เพื่อให้ การฝึก เป็นไปด้วยดี

 

ขณะเดียวกัน ครูผู้อบรม สั่งสอน ต้องทุ่มเท แรงกายแรงใจ จนกว่าศิษย์จะเชี่ยวชาญ ชำนาญได้ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปี เพราะการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หากครูไม่มีความรัก และความเมตตา ต่อศิษย์ ไม่เอาใจใส่ใน การฝึกฝนของศิษย์ อาจเป็นอันตราย ถึงแก่ชีวิตได้ ด้วยความเคารพรัก และแสดงออก ถึงความเชื่อ ความศรัทธาต่อครูบาอาจารย์ การไหว้ครู จึงเกิดขึ้นคู่กับ มวยไทย ( Muay Thai ) มาแต่อดีตกาล จนกลายเป็นประเพณี ที่สืบทอดกันมา ในวงการมวยไทย ตลอดมา

 

พิธีครอบครู

 

การที่ศิษย์ ได้ศึกษาศิลปะมวยไทย จนสำเร็จแล้ว และสามารถ ถ่ายทอดวิชา ให้แก่ผู้อื่นได้ ครูพอใจจะให้เป็นครูมวยต่อไป ก็จะทำพิธีครอบครูให้ เพื่อสืบทอด ศิลปะมวยไทยของ ครูมวยสายนั้น โดยจะทำพิธีครอบครู ในวันพฤหัสบดี ก่อนเที่ยง ที่บ้านของครูมวย หรือในโบสถ์

 

พิธีไหว้ครู ที่จัดขึ้น เป็นประจำ ทุกปี เป็นการแสดงออก ถึงความกตัญญู ต่อครูอาจารย์ เป็นวัฒนธรรมไทยแท้ ที่สืบสานมายาวนาน อันจะเป็น พิธีใหญ่ จัดปีละครั้ง ตามแต่ครูจะกำหนด ในพิธี จะมีการตั้งโต๊ะแต่งเครื่องสังเวยเทวดา และบูชาครูอาจารย์ ที่ล่วงลับไปแล้วทุ กท่าน รูปแบบ และพิธีการไหว้ครู จะแตกต่างกันในแต่ละสำนัก แล้วแต่ครูอาจารย์ ของสำนักนั้น กำหนดขึ้น และมีการปฏิบัติ สืบต่อกันมา

 

ประเพณีการขึ้นครู และพิธีครอบครู นับวันยิ่งค่อย ๆ เลือนหายไป ตามกาลเวลา อันเนื่องมาจาก สภาพสังคมในปัจจุบันที่ เปลี่ยนไป และแตกต่างจากในอดีตมาก  แต่ประเพณี การไหว้ครูมวยไทย ก็ยังสามารถเห็นได้อยู่ในการแข่งขัน มวยไทยที่การแข่งขัน จะมีการไหว้ครูมวยไทย เพื่อระลึกถึ งบุญคุณของ ครูมวยไทย นั่นเอง

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกพันข้อมือ ฉบับ มวยไทย ( Muay thai )

อาชีพ มวยไทย ไม่ได้เป็นกันได้ง่าย ๆ

ฝึกพันข้อมือ ฉบับ มวยไทย ( Muay thai )

ฝึกพันข้อมือ ฉบับ มวยไทย ( Muay thai )

อวัยวะสำคัญที่สุดในการชก มวยไทย ( Muay thai ) คือ ข้อมือ เพราะฉะนั้นการพันข้อมือเป็นสิ่งสำคัญ ป้องกันทั้งข้อต่อ และข้อมือ กระดูด ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย รวมไปถึงซัพพอท สันหมัดอีกด้วย

 

     มวยไทย ( Muay Thai ) คือ ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ( Martial Art ) และเป็นกีฬา ( Sport ) ประจำชาติไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่ร้ายกาจ รุนแรง มหัศจรรย์ แตกต่างจากศิลปะการต่อสู้ของชนชาติอื่นใด เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธธรรมชาติ ใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นอาวุธได้หลากหลายชนิดมากกว่า เช่น หมัด ศอก เข่า เท้า เข้าทำอันตรายคู่ต่อสู้ โดยปราศจากการใช้อาวุธวัตถุใด ๆ จากภายนอก

     ศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธมือเปล่า ทั้งในระยะห่างตัว ระยะใกล้ตัว และระยะประชิดตัว จนได้รับการยอมรับว่า เป็นการต่อสู้ที่ผสมผสานของศาสตร์ และศิลป์ได้อย่างสวยงาม และอันตรายยิ่ง

     ในปัจจุบัน มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับการยอมรับ และแพร่หลายไปทั่วโลก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นทั้งศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตนเอง ( Self defense ) และเป็นทั้งกีฬาสมัครเล่น และอาชีพ ( Amateur and professional )

     เรียกได้ว่า มวยไทย ( Muay thai ) กับคนไทย ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน จนปัจจุบันกลายเป็นกีฬาที่ใครหลายคนเลือกฝึกเพื่อเสริมความแข็งแรงให้ตัวเอง ใช้ป้องกันตัว รวมถึงลดน้ำหนักด้วย แต่ก่อนที่จะชก มวยไทย ( Muay thai ) นั้น การเตรียมตัวให้พร้อมถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมไปถึงการพันข้อมือก่อนใส่นวมด้วย ว่าแล้วกระปุกดอทคอมจึงหยิบวิธีพันข้อมือที่ถูกต้องมาแนะนำค่ะ

 

1. ทำไม มวยไทย ( Muay thai ) นักมวยต้องพันข้อมือ

    เหตุผลที่นักมวยทั้งมือใหม่ และมืออาชีพต้องพันข้อมือนั้น ก็เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับจากการชกมวย ซึ่งถือว่ามือเป็นอวัยวะที่สำคัญสุด ๆ ของกีฬาประเภทนี้ ที่อาศัยการชกเป็นหลักนั่นเอง โดยการพันมือจะช่วยป้องกันทั้งข้อต่อ และกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย หากมีการชกซ้ำไปซ้ำมา รวมถึงซัพพอร์ตข้อมือ นิ้ว และสันหมัดด้วย

2. ประเภทของผ้าพันข้อมือของ มวยไทย ( Muay thai )

     ผ้าพันข้อมือแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • ผ้าพันมือแบบคอตตอน เป็นผ้าพันมือที่นิยมใช้ในการฝึกซ้อม มีความยืดหยุ่นสูง มาพร้อมกับตีนตุ๊กแก ช่วยให้ไม่หลุดง่าย
  • ผ้าพันมือแบบเม็กซิกัน ผ้าประเภทนี้จะดูคล้ายกับแบบแรก แต่มีความแตกต่างกันตรงวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งผ้าพันมือแบบเม็กซิกันจะใช้ผ้าทอผสมกับเส้นใยอีลาสติก ที่ให้ความยืดหยุ่นพอสมควร แต่น้อยกว่าแบบแรก
  • ผ้าก๊อซ หรือ ผ้าพันแผลที่หลายคนรู้จักกันดี เป็นผ้าที่มักใช้พันข้อมือร่วมกับเทปกาว เพื่อลงแข่งขันชกมวยแบบจริงจังมากกว่าการฝึกซ้อม ทั้งยังเป็นแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งด้วย

 

วิธีพันข้อมือ มวยไทย ( Muay thai ) ของนักมวยที่ถูกต้อง

1. เลือกใช้ผ้าพันมือแบบมีห่วงสำหรับสอดนิ้วโป้ง และมีตีนตุ๊กแก ซึ่งจะช่วยให้พันข้อมือได้สะดวกยิ่งขึ้น

2. เริ่มจากนำนิ้วโป้งสอดเข้าไปในห่วงของผ้าพันมือให้เรียบร้อย

3. จากนั้นให้พันวนรอบด้านหลังมือ พร้อมดึงผ้าให้ตึง

4. ต่อมาให้พันบริเวณข้อมือสัก 3-4 รอบ ขึ้นอยู่กับความยาวของผ้าพันมือที่เลือกใช้ เพราะยิ่งยาวก็ยิ่งพันได้หลายรอบ ซึ่งช่วยซัพพอร์ตข้อมือได้ดีกว่า

5. แล้วให้ขยับขึ้นมาพันรอบฝ่ามือสัก 3-4 รอบเช่นกัน ซึ่งในการพันแต่ละรอบ ควรดึงผ้าให้ตึงอยู่เสมอ

6. จากนั้นให้พันผ้าเป็นรูปตัว X โดยพันไขว้ขึ้นเข้าไปในช่องระหว่างนิ้วก้อย และนิ้วนาง แล้วพันกลับขึ้นมาทางช่องระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง

7. พันเป็นรูปตัว X เข้าไปในช่องระหว่างนิ้วที่เหลือ ซึ่งก็คือระหว่างนิ้วนาง และนิ้วกลาง กับระหว่างนิ้วกลาง และนิ้วชี้

8. ดึงผ้าให้ตึง แล้วพันผ้ารอบนิ้วโป้ง 1 รอบ

9. ต่อมาให้พลิกฝ่ามือขึ้นเพื่อพันผ้าสำหรับล็อกนิ้วโป้ง โดยการพันที่ข้อมือ และนิ้วโป้งตามภาพ

10. จากนั้นก็พันผ้ารอบฝ่ามืออีก 3-4 รอบ พันให้แน่นเข้าไว้ ส่วนผ้าที่เหลือให้ใช้พันข้อมือสลับกับฝ่ามือจนสุด แล้วปิดทับด้วยตีนตุ๊กแก ก็เป็นอันว่าเสร็จ

 

ประโยชน์ของการพันข้อมือ

  • ช่วยรองรับแรงกระแทกต่อข้อต่อร่างกาย
  • ช่วยยึดข้อต่อ และกระดูกฝ่ามือให้อยู่กับที่ ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย
  • ช่วยปกป้องข้อมือ นิ้วโป้ง และสันหมัด
  • ช่วยดูดซับเหงื่อ จึงลดกลิ่นอับชื้นที่ไม่พึงประสงค์ในนวม
  • ช่วยห่อหุ้มมือให้เต็มนวมต่อยมวย

 

     เมื่อได้ทราบอย่างนี้แล้ว ใครที่อยากลองออกกำลังด้วยการฝึกชกมวยบ้างละก็ ลองใช้วิธีพันข้อมือข้างต้นกันได้เลย บอกเลยว่าช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่มือได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากฟิตร่างกายกับ มวยไทย ขอแนะนำ เจริญทองมวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) มีเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิด

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

อาชีพ มวยไทย ไม่ได้เป็นกันได้ง่าย ๆ

ต่อย มวยไทย อย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด

อาชีพ มวยไทย ไม่ได้เป็นกันได้ง่าย ๆ

อาชีพ มวยไทย ไม่ได้เป็นกันได้ง่าย ๆ

กีฬามวยในประเทศไทยของเรา ถือว่าเป็นกีฬาอันดับต้น ๆ ที่มีคนรู้จัก และให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่สุด มาดูกันว่าดว่าจะเป็นอาชีพ มวยไทย เนี่ย เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง

 

     กีฬา มวยไทย และนักกีฬา มวยไทย มีชื่อเสียงในระดับสากลที่ทั่วโลกยอมรับมานานตั้งแต่อดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เพราะเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ด้วยมีเทคนิคการใช้ท่าทางการต่อสู้ที่สวยงาม สามารถใช้อาวุธได้ทั้งหมัด ศอก เข่า และเท้า และมีการปะทะที่รุนแรงกว่าการต่อสู้ที่ ชาวต่างชาติจะรู้จัก และคุ้นเคยกับมวยแบบ kick boxing  จึงได้รับความสนใจ และชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเข้ามาฝึกการชก มวยไทย

 

มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ที่มีอาวุธรอบตัวนั้นจริงหรือไม่ ?

     คำว่า มวยไทย มีอาวุธรอบตัว เป็นความจริงที่พิสูจน์มาแล้วจากนักกีฬาหลายรุ่น ด้วยศิลปะการใช้เท้า หมัด เข่า และศอก เป็นพื้นฐานที่ครูมวยในอดีตได้คิดค้นท่วงท่าต่าง ๆ ขึ้นมาใช้ จากนั้นจึงได้มีการบันทึกด้วยภาพ และการเขียนเอาไว้ให้นักกีฬารุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์

1. การใช้เท้า ที่มีทั้งการเตะ และการถีบ ในการเตะจะใช้การเตะเฉียงสามารถเตะได้ด้วยเท้าหน้า และหลัง นอกจากนี้ยังมีการเตะตรง เตะตัด การเตะแบบตวัดเท้า และการเตะกลับหลัง การถีบก็สามารถถีบตรง หรือถีบข้างได้ จะเป็นอาวุธที่มีความรุนแรงมากถ้าหากถีบโดนบริเวณสำคัญ ๆ อย่าง ลิ้นปี่ หน้า และศีรษะ

2. การใช้เข่า โดยการโน้มตัวคู่ต่อสู้เข้ามาแล้วพุ่งเข่าเข้าปะทะกับส่วนที่ต้องการ โดยเฉพาะบริเวณที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนอย่างลิ้นปี่ ท้องน้อย และหน้าขา เป็นต้น นับว่าเป็นอาวุธที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดถ้าหากใช้งานได้อย่างชำนาญ

3. การใช้ศอก ทั้งศอกตีและศอกตัด ใช้ในระยะประชิด โดยมีเป้าหมายบริเวณสำคัญ คือ ใบหน้า ทั้งคิ้ว ปลายคาง และโหนกแก้ม อาจจะรุนแรงถึงขั้นชนะน็อคเอาท์ได้

4. การใช้หมัด หรือกำปั้นเข้าโจมตีเป้าหมายได้หลากหลาย ส่วนความหนักเบาของอาวุธอย่างหมัด ขึ้นอยู่กับความชำนาญ และเทคนิคการใช้ของนักกีฬาแต่ละคน มีหลายคนที่ได้รับฉายาว่าหมัดหนัก อย่างเขาทราย กาแล็คซี ได้รับฉายาว่า “ซ้ายทะลวงไส้” เพราะใช้หมัดซ้ายได้อย่างหนักหน่วงและคล่องแคล่ว

 

     หากใครเคยผ่าน หรือมีโอกาสได้เข้าไปเห็นบรรยากาศการซ้อม มวยไทย ภายในยิมมวย หรือค่ายมวยต่าง ๆ ก็จะรู้ดีว่า แหล่านักมวยนั้น เขาซ้อมกันอย่างหนักหน่วงมากเพียงใด เขาจะต้องอดทนต่อการฝึกซ้อม การควบคุมอาหารการกิน น้ำหนัก เพื่อให้มีร่างกายที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด วันนี้เรามีท่าที่เหล่านักมวยอาชีพเขาใช้ในการสสร้างร่างกายแบบนัก มวยไทย มาฝากค่ะ

  • Shoulder Presses

Shoulder Presses เป็นท่าที่สร้างกล้ามเนื้อหัวไหล่ได้อย่างดี โดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลัก คือ ดัมเบล ( Dumbbell ) ถ้าหากไม่มีจะใช้เป็นขวดน้ำก็ได้ แล้วจับให้มั่นจากนั้นดันขึ้นเหนือหัว ละลง อย่างต่อเนื่อง

  • Clap Press – Up

Clap Press – Up เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ง่าย และสามารถทำตอนไหนก็ได้ ท่านี้ไม่ได้เพิ่มแค่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับเรื่องของ Body Balance ที่จำเป็นอย่างมากสำหรับนัก มวยไทย

  • Plank

เป็นท่าที่ทำยาก และทรมานที่สุด เพราะต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายหลาย ๆ ส่วน เป็นท่านักมวยทุกคนให้ความสำคัญ ลองทำควบคู่กับการ Crunches และ Sit Up จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น Plank จะเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายส่วนกลาง ให้ทนต่อหมดหนัก ๆ ของคู่ต่อสู้

  • คาร์ดิโอ ( Cardio )

ถ้าอยากมีหุ่นที่ฟิตแบบนักมวย ต้องเริ่มจาก คาร์ดิโอ ( Cardio )  เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ทำโดยการ ซิทอัพ วิ่ง กระโดดเชือก ต้องฝึกแบบการกระโดดที่หลากหลาย และการฝึกความแข็งแรงของร่างกายในส่วนต่าง ๆ เช่น การดึงข้อ การบริหารกล้ามเนื้อหลังแขน การวิดพื้น และการฝึกด้วยลูกบอลเทรนนิ่งในท่าทางต่าง ๆ

  • Foot work

Foot work ฝึกเพื่อใช้ในการหลบหลีกหมัดคู่ต่อสู้ ความว่องไวในการ Foot work จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับมือในการต่อสู้กับคู่ชกได้อย่างดี

  • Shadow Boxing

Shadow Boxing เป็นการฝึกชกลม เพื่อให้นักชกฝึกการออกหมัด และท่าทางที่ถูกต้อง การชกลมเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างเทคนิคการชก การรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย และสามารถฝึกที่ไหนก็ได้ ที่ทำให้เราขยับช่วงบนได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น

  • Bag Work

Bag Work คือการต่อยกระสอบทราย ที่สามารถฝึกความแข็งแกร่งของหมัด สายตา และการป้องกัน

  • Skipping

Skipping เป็นการหลบหลีกหมัดของคู่ต่อสู้ อาศัยความว่องไวของ Foot work ทำได้ง่าย ๆ โดย มีเชือกเส้นเดียวกับลานโล่ง ๆ Skipping เป็นสิ่งสำคัญของนักมวย จะขาดไม่ได้ในเวลาซ้อม และยังเป็นท่าที่ใช้รักษาสภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ

  • Push Ups

Push Ups เป็นท่าที่ทำยาก สำหรับคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายโดย Push Ups จะให้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงเพิ่มแรงผลักเวลาที่ต้องคลุกวงกับคู่ต่อสู้ จึงเป็นที่นิยมกันในหมู่นักมวย

  • Squats

Squats เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายในส่วนล่าง เพราะนักมวยจะต้องมีการยืนที่มั่นคง พร้อมที่ปล่อยหมัดเพื่อรุกผู้ต่อสู้ได้ตลอดเวลา หากทำท่า Squats ร่วมกับท่าบริหารสะโพกส่วนอื่นให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณมีช่วงล่างที่แข็งแรงแน่นอน แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

  • Chin Ups

Chin Ups เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้ช่วงบนแข็งแรง และสมส่วน จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ช่วงแขน อก ไหล่ ในท่าเดียวกัน แต่ไม่ควรหักโหมเกินไปจนกล้ามเนื้อบาดเจ็บ

  • Burpees

Burpees เป็นหัวใจสำคัญในการออกกำลังกายให้ได้ผล หากใครอยากมีรูปร่างที่สมส่วน  ถ้าทำท่า Burpees อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัว หรือเพิ่มความแข็งแรงในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย

 

     บอกเลยว่ากว่าจะมาเป็น อาชีพ มวยไทย นั้น เรียกได้ว่าต้องอดทน มุ่งมั่น ทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจเลยทีเดียว หากคุณอยากออกกำลังกาย ให้ได้ร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนักมวยอาชีพก็ลองดูได้นะ แต่ต้องระวังให้มาก ๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ยังไงก็ควรจะอยู่ในการดูแลของผู้ที่รู้จักวิธีการออกกำลังกาย หรือควรจะให้พอดีกับร่างกายคุณเองนะ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ต่อย มวยไทย อย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด

เริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้นให้ถูกวิธี

ฟันยาง ช่วยลดอันตราย ภายใน ช่องปาก นักมวย

ฟันยาง ช่วยลดอันตราย ภายใน ช่องปาก นักมวย

ใส่ ฟันยาง ( Mouth Guard ) ที่เราเห็นกันใน นักมวย ไม่ได้ใส่กันเล่น ๆ รู้หรือไม่ ฟันยาง ( Mouth Guard ) เป็นสิ่งที่ นักมวย ใส่เพื่อ ช่วยลดอันตราย ที่เกิดจากการกระทบ ภายใน ช่องปาก นั่นเอง

 

ฟันยาง ( Mouth Guard ) คืออะไร

ฟันยาง ( Mouth Guard ) คือ อุปกรณ์ที่สวม เพื่อปกป้องฟัน ฟันยาง ( Mouth Guard ) เป็นอุปกรณ์กีฬาที่สำคัญ สำหรับทุกคน ที่เล่นกีฬาที่มีการตก กระทบ กระแทก หรือ มีวัตถุที่ลอย อาทิเช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล เบสบอล ฮอคกี้ สเกตบอร์ด ยิมนาสติก จักรยานภูเขา และ กิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถทำให้เกิด ความบาดเจ็บกับปาก

 

 

ความสำคัญของ ฟันยาง ( Mouth Guard )

ฟันยาง ( Mouth Guard ) คือ อุปกรณ์ที่สวม เพื่อปกป้องฟัน  เป็นอุปกรณ์กีฬา ที่สำคัญสำหรับผู้เล่นกีฬา มวยไทย มวยสากล ฟุตบอล รักบี้ เทควันโด บาสเกตบอล  สวมใส่ ฟันยาง ( Mouth Guard ) เพื่อป้องกัน ไม่ให้ฟันหัก การกัดริมฝีปาก และ ความบาดเจ็บอื่น ๆ ต่อปาก ซึ่งหากฟันหัก ก็จะเป็นสาเหตุ ทำให้ริมฝีปากเป็นแผล และ ทำอันตรายให้กับส่วนอื่น ๆ ในช่องปากได้

 

 

ระยะเวลาใช้งานของ ฟันยาง ( Mouth Guard )

ฟันยาง ( Mouth Guard ) จะรู้ได้อย่างไร ว่าเราจะควรหมดอายุ ในช่วงไหน แต่สัมผัสได้เลย เช่น ใช้แล้วรู้สึกแข็งแปลก ๆ หรือ ควรเปลี่ยน ฟันยาง ( Mouth Guard ) ทุก ๆ 6 เดือนเพื่อความมั่นใจ

 

 

การเล่นกีฬานั้น ทุก ๆ คนควรสร้าง ความปลอดภัย ให้กับตนเองด้วยการใส่ ฟันยาง ( Mouth Guard ) สำหรับนักกีฬา เปรียบเหมือนการ ใส่หมวกกันน็อคป้องกัน การเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตาม แต่เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หมวกกันน็อค ก็ช่วยรักษาชีวิต ของผู้ใช้ได้มากมาย

 

 

ฟันยาง ( Mouth Guard ) สำหรับนักกีฬาก็เช่นกัน สามารถป้องกันฟัน ขากรรไกร ข้อต่อขากรรไกร และ สมองได้ การเล่นกีฬามีความเสี่ยง เราทุกคนจึงควร ป้องกันตนเอง โดยการใส่ ฟันยาง ( Mouth Guard ) ในขณะเล่นกีฬา และ การทำ ฟันยาง ( Mouth Guard ) ก็ทำได้ไม่ยาก ควรเข้ารับปรึกษา กับทันตแพทย์ประจำตัวท่าน

 

 

ประเภทของ ฟันยาง ( Mouth Guard ) มีอะไรบ้าง

ไม่ว่าคุณจะเลือก ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดใดก็ตาม ควรเป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่น คงทนต่อการฉีกขาด และ มีความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ฟันยาง ( Mouth Guard )  ควรจะมีขนาดพอดีปาก และ ไม่รบกวนการพูด หรือ การหายใจ ฟันยาง ( Mouth Guard ) มี 3 ชนิดดังนี้

 

 

ฟันยาง ( Mouth Guard ) แบบสั่งทำขึ้นเฉพาะ

ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดนี้จะทำขึ้นทีละชิ้น โดยทันตแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งไม่เป็นการแปลก ที่ ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดนี้ จะให้ความสบาย ในการสวมใส่ที่สุด และ ปกป้องได้ดีที่สุด ทันตแพทย์จะต้องทำการ พิมพ์ฟันของคุณ เพื่อสร้าง ฟันยาง ( Mouth Guard ) เนื่องจากเป็นชนิดที่ใส่ พอดี และ สบายกว่า นักกีฬามักจะเลือกใช้ อย่างไรก็ตาม ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดนี้จะมีราคาแพง

 

 

ฟันยาง ( Mouth Guard ) กึ่งสำเร็จรูป

ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดนี้ จะเป็นแบบที่ขึ้นรูปมาก่อน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน รูปทรงได้ด้วย การต้มในน้ำ และ กัด เพื่อให้พอดีกับปากของเรา ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดนี้สามารถ หาซื้อได้ตามร้าน จำหน่ายอุปกรณ์กีฬาทั่วไป และ จะให้ความพอดีกว่า ฟันยาง ( Mouth Guard ) แบบทั่วไป ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ ฟันยาง ( Mouth Guard ) ที่มีขนาดพอดีกับปากที่สุด

 

 

ฟันยาง ( Mouth Guard ) สำเร็จรูป

ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดนี้ราคาไม่แพง และ มาในรูปแบบ ฟันยาง ( Mouth Guard ) ที่สามารถสวมใส่ได้ทันที แต่อย่างไรก็ตาม ฟันยาง ( Mouth Guard ) ชนิดนี้จะไม่พอดี กับปากมากนัก และ อาจดูเทอะทะ ทำให้การพูด หรือ หายใจลำบาก

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

 

ต่อย มวยไทย อย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด

ต่อย มวยไทย อย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด

วิธีต่อย มวยไทย ที่ถูกต้องจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจหลักพื้นฐานก่อน หลายคนใจร้อน และฝึกแบบฉาบฉวย จึงนำพาไปสู่ ความผิดพลาดได้ ทำให้ไม่สามารถเป็นนักมวยที่เก่งได้

 

มวยไทย คืออะไร ?

     ศิลปะการต่อสู้มือเปล่าของประเทศไทย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศาสตร์การโจมตีทั้งแปด ซึ่งรวม สองมือ สองเท้า สองศอก และสองเข่า ( บางตำราอาจเป็น นวอาวุธ ซึ่งรวมการใช้ศีรษะโจมตี หรือ ทศอาวุธ ซึ่งรวมการใช้บั้นท้ายกระแทกโจมตีด้วย ) มวยไทย ในสมัยก่อน ต่างจากปัจจุบันมาก ซึ่ง มวยไทย สมัยก่อน ใช้ในยามออกศึก และสามารถฆ่ากันได้ง่าย ๆ และมีการจับทุ่ม หักแขน หักขา ล๊อค และสมัยก่อนเวลามีงานวัด เขาจะจัดงานชกมวย ขึ้น แต่จะไม่ใส่นวม ส่วนใหญ่เอาเชือดมามัดมือ เรียกกันว่า มวยคาดเชือก

     ซึ่งพื้นฐานที่สำคัญเริ่มตั้งแต่แม่ไม้ มวยไทย และกลมวยเพื่อนำไปสู่การมีทักษะในขั้นสูงต่อไป เราได้รวมรวมหลักการที่สำคัญในการฝึก มวยไทย มาให้ได้ฝึกกัน ดังนี้

 

การตั้งท่าจดมวย

     การตั้งท่าจดมวย คือ การวางเข่า การวางมือให้ถูกต้องตามหลักการฝึก โดยในการจดมวยนั้นจะต้องทราบเหลี่ยมมวยด้วย เหลี่ยมมวย คือ การแสดงการใช้มือ และเท้าที่ถนัด ออกมาให้เห็น โดยปกติมวยจะมี 2 เหลี่ยม คือ เหลี่ยมซ้าย และเหลี่ยมขวา

    เหลี่ยมซ้าย คือ การยื่นหมัดขวาไปข้างหน้าสูงเหนือระดับหางคิ้ว ในขณะที่เท้าขวายื่นไปข้างหลัง หมัดซ้ายชิดคาง เท้าซ้ายอยู่ด้านหลัง ลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็ง และปล่อยตัวตามสบาย โดยให้น้ำหนักอยู่ที่เท้าซ้าย ในขณะที่ระยะห่างของเท้าทั้งสองข้าง 1 ช่วงตัว สายตามองผ่านมือไปยังคู่ต่อสู้ตลอดเวลา

     เหลี่ยมขวา คือ การยื่นหมัดซ้ายไปข้างหน้าสูงเหนือระดับหางคิ้ว และเท้าซ้ายยื่นไปข้างหลัง แขนซ้ายขนานกับลำตัว หมัดขวาชิดคาง เท้าขวาอยู่ด้านหลัง ลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็ง และปล่อยตัวตามสบาย โดยให้น้ำหนักอยู่ที่เท้าขวา สายตามองผ่านมือไปยังคู่ต่อสู้ตลอดเวลา

 

การวางตำแหน่งอวัยวะ

     การวางตำแหน่งของอวัยวะที่ได้จดมวย คือ การกำหมัด วางเท้า มือ และลำตัว

     การกำหมัดที่ถูกต้อง คือ แบมือให้นิ้วมือทั้ง 4 เรียงชิดติดกัน แล้วพับนิ้วทั้ง 4 นิ้วเข้าหาอุ้งมือ แล้วกดทับด้วยนิ้วหัวแม่มือลงทาบ ในลักษณะเฉียงกับนิ้วชี้และนิ้วกลาง เพื่อให้หมัดที่กำกระชับแน่น โดยไม่เกร็ง

 

การใช้หมัด เท้า เข่า ศอก

1) การใช้หมัด

     หมัดตรง คือ การใช้หมัดที่ถนัดมุ่งไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงจากหัวไหล่ ลำตัว เอว และเท้ายันพื้น ให้ทุกส่วนประสานกันเพื่อความรุนแรงโดยน้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าหน้า ใช้แรงส่งจากเท้าหลัง และสะโพก หัวไหล่ หมัดตรง

     หมัดตัด คือ การใช้หมัดเหวี่ยงในลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลม โดยเล็งไปที่ บริเวณลำตัว ใบหน้า หรือศีรษะของคู่ต่อสู้ ผู้รู้บางคนอาจเรียกว่า “หมัดเหวี่ยง” ซึ่งแบ่งออกเป็น หมัดเหวี่ยงสั้นและหมัดเหวี่ยงยาว

     หมัดเหวี่ยงสั้น คือ การเหวี่ยงวงแคบ

     หมัดเหวี่ยงยาว คือ การเหวี่ยงวงกว้าง

     หมัดตวัด คือ การใช้สันหมัดกดลงบริเวณอวัยวะสำคัญของคู่ต่อสู้ ในลักษณะเหยียดแขนออกไป พร้อมชกตวัดวงแคบ

     หมัดเสย คือ การใช้หมัดชกเข้าหาคู่ต่อสู้โดยงอศอก เกร็งข้อศอกหงายหมัด แล้วพุ่งหมัดยกขึ้นสู่เป้าหมาย ได้แก่ ปลายคาง ดั้งจมูก หรือใบหน้าคู่ต่อสู้ หมัดเสย

 

2) การใช้เท้า จะแบ่งออกเป็น 2 ไม้ คือ การเตะ และการถีบ

     การเตะ คือ การใช้อวัยวะส่วนขาตั้งแต่เอวลงไปจนถึงปลายเท้า ทั้งนี้การแตะของ มวยไทย นิยมใช้หน้าแข้งแตะเพราะเป็นส่วนที่แข็งเปรียบเสมือนการหวดด้วยไม้

     เตะตรง คือ การเตะเสยจากพื้นขึ้นไปส่วนบนในลักษณะตั้งฉากกับพื้น

     เตะตัด คือ การเตะที่ใช้เท้าวาดขึ้นขนานกับพื้น สามารถเตะตัดได้ทั้งส่วนล่างของลำตัว และส่วนบนของอวัยวะ

     เตะตวัด หรือเตะเฉียง คือ การเตะที่ทิศของการเตะจะเฉียงลงพื้นสู่เป้าหมาย

     กลับหลังเตะ คือ การหมุนตัวหันหลังให้คู่ต่อสู้ แล้วเหวี่ยงขาที่วางอยู่ด้านหลัง ให้ส้นเท้าปะทะเป้าหมาย

     การถีบ คือ การใช้ปลายเท้า ฝ่าเท้า หรือส้นเท้าปะทะคู่ต่อสู้ ปลายเท้าปะทะคู่ต่อสู้

     การถีบตรง คือ การถีบออกไปตรง ๆ ให้ปลายเท้า ส้นเท้า หรือฝ่าเท้าปะทะเป้าหมายในส่วนต่าง ๆ ของคู่ต่อสู้ โดยอาจเหยียดเท้าตรง หรืองอเท้าเข้าถีบก็ได้

     การถีบข้าง คือ การใช้ปลายเท้าถีบออกไปด้านข้างของลำตัว โดยเอียงศีรษะออกไปห่างจากลำตัว

    การกลับหลังถีบ คือ การถีบตรงออกไปด้านหลัง อาจเหยียดขาตรง หรืองอขาแล้วเหยียดตรงออกไปยังเป้าหมาย

     การกระโดดถีบ คือ การสืบเท้าที่ไม่ถนัดออกไป 1 จังหวะ แล้วลอยตัวใช้เท้าที่ถนัดพุ่งไปยังเป้าหมายของคู่ต่อสู้

     การถีบจิก คือ การใช้ปลายเท้าที่ถนัดจิกไปบริเวณหน้าท้อง หรือลิ้นปี่ของคู่ต่อสู้ โดยอาศัยแรงส่งจากเท้าที่ไม่ถนัด

     การออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย ที่ถูกวิธี เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อของเราได้รูป และ ลดอาการบาดเจ็บได้ อยากเรียน มวยไทย สามารถสอบถามได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( jaroenthongmuaythai gym ) มีทั้งสาขาข้าวสาร สาขาศรีนครินทร์ และสาขารัชดา

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

เหตุผลที่ชาวต่างชาติสนใจ มวยไทย ( Muay Thai )

ศาสตร์แห่งอาวุธ ทั้ง 8 ของ มวยไทย

ศาสตร์แห่งอาวุธ ทั้ง 8 ของ มวยไทย

ศาสตร์แห่งอาวุธ ทั้ง 8 ของ มวยไทย

มวยไทย ศิลปะป้องกันตัวของไทยที่ยังมีความคงดำรงอยู่ไม่เสื่อมคลายตามยุคสมัย และในปัจจุบัน ยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ซึ่งชาวต่างชาติ มักรู้จักมวยไทยในนามของ Art of Eight Limbs หรือ ศาสตร์แห่งอาวุธ ทั้ง 8 นั่นเอง

 

ที่มาของชื่อ “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8

 

หลายคนคงทราบกันดีว่า มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการป้องกันตัวที่มีท่าออกอาวุธ โดยการใช้ หมัด เท้า เข่า และศอก เพื่อใช้ในการป้องกันตัวหรือต่อสู้กับคู่ตรง ซึ่งนี่เป็นที่มาของ ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 เนื่องจาก หากนับอวัยวะ ทั้ง 4 อวัยวะ รวมกันทั้ง 2 ของ ก็จะเท่ากับ 8 นั่นเอง ได้แก่ หมัด 2 , ศอก 2 , เข่า 2 และ เท้า 2

 

แต่ก่อนที่จะมาเป็น ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 เหล่านี้ มวยไทยเคยถูกเรียกว่า ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9 ( Art of nine Limbs ) มาก่อน เนื่องจาก มวยไทยในสมัยก่อน มีการใช้หัวโขกในการต่อสู้ด้วย หัว จึงนับว่าเป็นอาวุธอย่างหนึ่ง นั่นเอง แต่เมื่อมีการยกเลิกไม่ให้ใช้ “หัว” ในการต่อสู้ จึงเหลือเพียง ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 ไว้ ส่วนศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9 นั่นสามารถใช้เรียกแทน มวยของพม่าได้ เพราะ มวยพม่ายังใช้หัวในการโขกได้อยู่

 

อาวุธที่ 1 และ 2 : หมัดซ้าย หมัดขวา

 

หมัด  เป็นการออกอาวุธโดยใช้มือ กำหมัด และพุ่งไปยังเป้าหมาย โดยหมัด ถือได้ว่าเป็นอาวุธมวยไทย ที่ใช้บ่อยที่สุดในการแข่งขันมวย และมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ มวยสากลสมัครเล่น และ มวยสากลอาชีพ เพราะ นักมวยไม่สามารถใช้ เท้า เข่า ศอก ได้อย่าง มวยไทย ( Muay Thai ) ดังนั้น นักมวยสากล จำเป็นต้องมีทักษะ ในการใช้หมัด หลากหลายแบบ โดยหมัดนั้น จะใช้แรงส่งจาก หัวไหล่ สะโพก และ ขา มายังกำปั้น เพื่อหวังโจมตีระยะกลาง และหนักแน่นพอ ที่จะล้มคู่ต่อสู้

 

ด้านความอันตรายของการใช้หมัด ถือว่าไม่ได้รุนแรงเท่า ศอก เข่า เท้า เพราะหมัด จะต้องอาศัยกล้ามเนื้อ บริเวณหัวไหล่ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อ ส่วนที่ไม่ได้ใหญ่มาก น้ำหนัก และความแรง จึงไม่อาจเทียบเท่ากับส่วนอื่น ๆ

 

อาวุธที่ 3 และ 4 : ศอกซ้าย ศอกขวา

 

ศอก เป็นอาวุธโจมตี ที่ใช้พื้นที่น้อย แต่กลับมีอันตรายมากสุด และทุกคนต่างลงความเห็น เป็นเสียงเดียวกันว่า ศอก คือ อาวุธที่อันตราย มากสุดของ มวยไทย ( Muay Thai ) สาเหตุที่ศอกมีอันตรายมากที่สุดนั่น ก็เพราะว่า อาวุธศอก มีพื้นผิวสัมผัสน้อย ยิ่งพื้นที่การตีน้อย และรวดเร็ว จึงเกิดค่าความดันที่สูงมาก

 

นอกจากนี้ ศอกยังเป็นบริเวณ ที่แหลมคม มีความแข็งของกระดูก  ทำให้เกิดแผล บริเวณใบหน้า ได้ง่ายกว่าอาวุธทุกชนิด เมื่อโดนแรงจากปลายศอก เข้าไปกระทบผิวหนังใบหน้า ความดันที่มีค่าสูง จึงส่งผลให้เกิดแผลแตกได้ง่าย และทำให้สมองมึนงงไป จนถึงขั้นสลบ และสามารถทำให้ ชนะน็อคเอาท์ได้ หรือหากเป็นแผลแตก เหนือเบ้าตา จะส่งผลต่อการมอง เห็นของนักมวยอีกด้วย

 

อาวุธที่ 5 และ 6 : เข่าซ้าย เข่าขวา

 

เข่า เป็นอาวุธมวยไทย ที่มีความหนักหน่วง เนื่องจาก ใช้แรงส่งจากสะโพก โดยใช้ส่วนของ หัวเข่าด้านหน้า หรือ ด้านข้างหัวเข่า ซึ่งเป็นมุมแหลม และแข็งแรง เข้าปะทะในส่วนนิ่ม ของร่างกาย เช่น หน้าขา ท้อง ชายโครง ลำตัว หน้าอก หรือแม้แต่ปลายคาง

 

ถึงแม้ว่า เข่า จะมีความหนักหน่วง มีเหลี่ยมของเข่า ที่กระแทกเข้าที่ส่วน ลำตัวของร่างกาย แต่เข่าไม่ใช่อาวุธที่อันตรายสุด เพราะส่วนมากแล้ว ร่างกายของนักมวยไทย ถูกฝึกฝนกล้ามเนื้อ ให้แข็งแรง ทนทาน พร้อมรับน้ำหนัก และแรงกระแทกจากเข่าอยู่แล้ว

 

อาวุธที่ 7 และ 8 : เท้าซ้าย เท้าขวา

 

อาวุธสุดท้าย คือ เท้า เป็นอาวุธที่โจมตีระยะไกล ได้ทั้งรูปแบบเตะ และ ถีบ เท้า จึง ถือเป็น อวัยวะสำคัญสำหรับ การชกมวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งในจังหวะรุก และรับ แถมยังมีพลังโจมตี มากพอที่จะทำให้ คู่ต่อสู้น็อคเอาท์ได้ทันที ในชั่วพริบตาหากโดนเตะ เข้าที่ก้านคอ เนื่องจากบริเวณของต้นคอ เป็นศูนย์รวมระบบประสาท ที่เป็นส่วนที่สำคัญ นอกจาก เท้าแล้ว มีอีกอย่างที่น่ากลัวคือ แข้ง เพราะมีน้ำหนัก และความรุนแรง หากใครโดนก็เหมือน ถูกท่อนไม้ตีเลยทีเดียว

 

อาวุธเท้าในมวยไทย มีความแรงเกิดจากแรงขา และการหมุนของสะโพก สามารถโจมตีได้หลายแบบ นอกเหนือจากเตะก้านคอ ยังใช้เตะตัด เตะเฉียง การถีบ ดังนั้น การเตะที่ดีต้องอาศัยจังหวะ ความเร็ว การทรงตัว การเคลื่อนที่ที่ดี เพื่อให้การเตะ นั้นออกมาสมบูรณ์ นอกจากนี้ เท้า ยังถูกใช้ในการแข่งขันอยู่ตลอดในการยืน ทรงตัว และเคลื่อนที่ไปยังคู่ต่อสู้

 

อาวุธเหล่านี้ ต่างมีจุดเด่น ท่าทาง และพลังในการโจมตี ที่แตกต่างกันไปเฉพาะตัว ซึ่งนักมวย แต่ละคนก็จะมีความถนัดในการออกอาวุธแต่ละส่วนที่ใช้ในการต่อสู้ เพื่อเอาชนะคู่แข่งที่แตกต่างกันไปด้วย

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึก มวยไทย เป็นประจำได้มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายของเรา

รูปแบบการออก หมัด สำหรับ มวยไทย

ฝึก มวยไทย เป็นประจำได้มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายของเรา

ฝึก มวยไทย เป็นประจำได้มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายของเรา

สำหรับกีฬา ที่ขึ้นชื่อว่า มวยไทย นั้นแน่นอนว่าจะเป็นกีฬาหรือกิจกรรม ที่ใครๆหลายท่านคงจะรู้จักชื่อกันดีอยู่แล้ว แต่วันนี้เราจะมาอิบายประโยชน์ของการฝึกการซ้อม มวยไทย ว่าส่งผลอะไรให้แก้ร่างกายของเราบ้าง

              

            มวยไทย นั้นถือเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ใช้แค่ ประเทศไทย เพียงอย่างเดียวที่ได้รับความนิยม แต่รวมไปถึง หลายๆประเทศ ที่ได้ให้ความสนใจในกีฬาประเภทนี้ ไม่น้อยเลยทีเดียว และแถมได้เอาไปทำ ภาพยนตร์ หรือ สื่อต่างๆ เช่นเอาท่าทาง การต่อย หรือ ศิลปะการต่อสู้ ของมวยไทย เอาไปทำเป็นเกม แต่ถึงอย่างไร มวยไทย ก็เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น ในกลุ่ม เด็ก หรือ รวมไปถึงผู้สูงอายุ เพราะด้วย เป็นกิจกรรม ออกกำลังกาย ที่สนุก และ ได้เผาผลาญพลังงาน ทำให้ กีฬามวยไทย เป็นที่นิยมได้ นั้นเอง

 

            วันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงประวติ ของ มวยไทย แต่เราจะมาพูดถึงประโยชน์ ของ มวยไทย ที่จะส่งผลดรอย่างไร ให้กับร่างกายของเรา และรวมไปถึงเรื่องต่างๆ ไปดูกันดีกว่าว่า มวยไทย มันดีอย่างไรและให้อะไรแก่เราบ้าง

 

มวยไทย สามารถช่วย พัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม ได้เป็นอย่างดี

 

          การฝึก มวยไทย นั้นแน่นอนว่า จะสามารถไปช่วยส่งเสริม ความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย ของเราได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ กล้ามเนื้อ และยังทำให้ กล้ามเนื้อ กระชับ และนอกจากนี้ มวยไทย ยังเป็นกีฬา หรือ กิจรรมการ ออกกำลังกาย ที่จะเน้น ไปที่ร่างกาย ช่วงบน ช่วงกลาง และยังรวมไปถึง ช่วงล่าง หรือจะให้พูดก็คือ มวยไทย นั้นเป็น กีฬา ที่ช่วยให้ร่างกาย แถบจะทุกส่วนของเรา แข็งแรง ขึ้นได้นั้นเอง เป้าหมายของการฝึก ต่อยมวย คือ ให้ทุกส่วนของ ร่างกาย. ของนั้น ได้ใช้งาน และ นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของ ร่างกาย ของเราแล้ว ยังจะไปช่วย ระบบไหลเวียนโลหิต และ การชกมวยยังช่วยเพิ่ม การฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงาน ประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นั้นเอง

 

มวยไทย ช่วยในเรื่องของการ เผาผลาญ พลังงานของร่างกาย

 

          แน่นอนว่าการออกกำลังกาย ทุกชนิดนั้น ช่วยในเรื่องของการ เผาผลาญพลังงานของร่างกาย ของเราได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า มวยไทย นั้นเป็นกีฬาที่จัดอยู่ในกีฬา ที่เผาผลาญ พลังงานของร่างกาย ได้ดีเลยทีเดียว ด้วย การที่ มวยไทย นั้นเป็นกีฬา ที่ใช้แถบจะทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ยาวลงมาถึงเท้า ถือว่าใช้แทบทุกส่วนเลย นั้นจึงทำให้ มวยไทย เป็นกีฬา ที่เผาผลาญพลังงานให้กับร่างกายของเรา ได้มากนั้นเอง และ การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ให้กับร่างกาย ของเราได้อย่าง รวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยาน จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง สามารถเบิร์นไขมันได้ถึง 13 แคลอรี่ใน 1 นาที  เลยทีเดียว

 

มวยไทย ช่วยในเรื่อง คลายเครียดได้ดี

 

          สำหรับ ท่านใดที่กำลัง เจอปัญหาชีวิต หรือ เจอเรื่องแย่ๆทำให้รู้สึกเครียด หรือ รู้สึกหงุดหงิดอยากระบายมันออกมาแต่ไม่รู้จะไประบายที่ไหน เราอยากแนะนำ ให้ลองมาฝึก มวยไทย เพราะ จะทำให้เรา ได้ระบายความเครียด หรือ เรื่องที่กดดัน ออกมาได้อย่างเต็มที ลอง มา ชกกระสอบทราย ระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีนและฮอร์โมนต่าง ๆ ที่อยู่ในร่างกาย ของเรา จะ หลั่งออกมา ระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย การต่อยมวยจึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพ

 

มวยไทย สามารถไป ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและ หลอดเลือด 

 

              มวยไทย หรือการ ฝึกมวย นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งชนิด ที่จะกีฬาที่ช่วยให้เรามีปอดที่ใหญ่ขึ้นแข็งแรงขึ้นและยีง สามารถไป กระตุ้นการทำงานของระบบ หัวใจและหลอดเลือดของเรา ได้เป็นอย่างดี อีกด้วย เพราะการที่จะทำเช่นนั้นได้เราจะต้อง ออกกำลังกาย ให้หัวใจและปอดมีความเครียดในระดับปานกลาง ซึ่งทำให้หัวใจและปอดของคุณทำงานได้ดีขึ้นส่งผลให้ระบบการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

            เป็นยังไงกันบ้าง กับประโยชน์ ที่น่าสนใจ ที่จะส่งผลให้ร่างกาย ของเราโดยตรง ด้วยการ ฝึก มวยไทย เห็นแล้วรู้สึกอยากลอง ฝึก มวยไทย กันมาบ้างหรือยัง แต่นี้เป็นเพียงสิ่งที่เรายกตัวอย่างมา บอกเล็ๆ น้อยๆ เท่านั้น ยังมีอีกประโยชน์ อีกมากมาย สำหรับ การฝึก มวยไทย ที่เราไม่ได้เอามาพูด ไม่ว่าจะเป็น การฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม การฝึกให้ร่างกายของเรามีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รวดเร็ว สามารถ ช่วยใน เรื่องสมาธิ ลดความเครียดและความวิตกกังวล เป็นต้น ยังมีอีกมากมาย เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไร การที่เราจะ ออกกำลังกายหนักแค่ไหน เราก็ควรที่จะ พักผ่อน และหาอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ของเรามารับประทาน เพื่อให้ร่างกาย ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ไปเลี้ยงร่างกาย แค่นี้เราก็จะมีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งในทุกๆ วัน

                                                                                                                  

 

อ่านบทควาเมพิ่มเติม

 

เคล็ดลับการเลือกกระสอบทราย

ที่มาที่ไปแม่ไม้มวยไทย

รูปแบบการออก หมัด สำหรับ มวยไทย

รูปแบบการออก หมัด สำหรับ มวยไทย

มือ เป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญที่ใช้ออกอาวุธอย่าง " หมัด " สำหรับ มวยไทย ( Muay Thai )  ซึ่งรูปแบบในการออกหมัด เพื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู้นั้น มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ

 

หมัด หนึ่งในอาวุธสำหรับ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ใช้ในการต่อสู้คู่แข่งขัน ซึ่ง หมัด ถือได้ว่าเป็นอาวุธที่ถูกปล่อยมากที่สุดในสังเวียนเลยก็ว่าได้ หากเทียบกับ เข่า ศอก และเท้า การออกหมัดของนักมวยนั้น ไม่ใช่แค่เพียงใส่แรงชกไปหาคู่ต่อสู้ แต่ยังมีรูปแบบของทิศทางในการออกหมัดที่แตกต่างกันด้วย ดังนี้

 

1. หมัดตรงชกนำ

 

เป็นการปล่อยหมัด ที่อยู่ด้านหน้าพุ่งไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงส่ง ที่มาจากหัวไหล่ ลำตัว ตั้งตรง และเท้ายันพื้น เพื่อเป็นหลักและแรงส่งออกไป ถ้าจดเหลี่ยมขวาหมัดตรงชกนำ คือ หมัดซ้าย ถ้าจดเหลี่ยมซ้าย หมัดตรงชกนำ คือ หมัดขวา  อาจจะชกออกไป โดยไม่เคลื่อนเท้า หรือ เคลื่อนเท้าไปด้านหน้า ด้านหลัง ข้างซ้าย และข้างขวาก็ได้ ส่วนมากเวลาชกไป แล้วน้ำหนักตัว มักจะตกอยู่บนเท้าที่อยู่หน้าเสมอ

 

2. หมัดตรงชกตาม

 

หมัดตรงชกตาม จะเป็นการใช้หมัดอีกข้างของหมัดชกนำ ปล่อยเป็นแนวตรงไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงจากหัวไหล่ ลำตัวและเท้า ส่งแรงไปที่หมัดถ้าจดเหลี่ยมขวา หมัดตรงชกตาม คือ หมัดขวา ถ้าจดเหลี่ยมซ้ายหมัดตรงชกตามคือหมัดซ้าย เมื่อหมัดตรงชกตามพุ่งออกไป ลำตัว เอว และสะโพกจะบิดคว่ำลงเท้าหลังจะส่งแรงน้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าหน้า อาจจะสืบเท้าไปข้างหน้า ถ้าชกถอยหลัง หรือฉากออกข้างชกหมัดตรงชกตามก็ได้ส่วนมากแล้ว ถ้าเดินหน้าหมัดตรงชกตาม จะหนักหน่วง และรุนแรงกว่าหมัดชกนำ

 

3. หมัดขว้าง หรือ หมัดเหวี่ยง

 

การปล่อยหมัด โดยการงอ และเกร็งข้อศอกไว้ให้หมัดออกไป เป็นวิธีทางโค้งขนาน กับพื้นดินอาจจะคว่ำหมัด หรือ ตั้งหมัดก็ได้ แต่พยายามให้สันหมัดถูก เป้าหมายหมัดเหวี่ยงแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ หมัดเหวี่ยงสั้น หมัดเหวี่ยงยาว และหมัดเหวี่ยงกลับ

 

4. หมัดเหวี่ยงสั้น หรือ หมัดขว้างสั้น

 

จะใช้ในตอนที่คู่ต่อสู้อยู่ในจะหวะปิดป้องกัน ได้ดีเมื่อคู่ต่อสู้ปิดป้องกำบังต่าง ๆ เช่น คู่ต่อสู้ยกมือป้องกันใบหน้าตรง ๆ ถ้าชกหมัดตรงก็จะถูกมือและท่อนแขนของคู่ต่อสู้ยกกันไว้ ดังนั้น ควรใช้หมัดเหวี่ยงสั้น เพราะหมัดนี้ จะโค้งผ่านเลยแขนคู่ต่อสู้เข้าสู่ใบหน้า หรือปลายคางทางข้างซ้าย หรือข้างขวาก็ได้ หมัดเหวี่ยงสั้นอาจจะมีวิธีทางของหมัดไม่ขนานพื้น คือ อาจจะเฉียงขึ้น หรือ เฉียงลงสู้พื้นบ้างก็ได้ตามแต่ความเหมาะสมของสถานการณ์และอาจจะกระทบเป้าหมาย โดยการคว่ำสันหมัด

 

5. หมัดเหวี่ยงยาว หรือ หมัดขว้างยาว

 

เป็นการชก โดยการเหยียดแขนยาวออกไป เกร็งแขนให้ตึง คว่ำมือ พยายามให้สันหมัดถูกเป้าหมาย โดยเหวี่ยงออกไปเป็นวงกว้างให้วิธีทางขนาน กับพื้นดินหมัดเหวี่ยงยาวให้ชกเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปเป้าหมายชก คือ ปลายคาง หน้า และคอ

 

6. หมัดเสย

 

เป็นการกำหมัดให้แน่นและงอข้อศอก เกร็งข้อศอก หงายหมัดขึ้น และปล่อยหมัดจากล่างพุ่งขึ้นวิถีตั้ง ทำมุมฉากกับพื้น การปล่อยหมัดก็จะมี2แบบ คือ หมัดเสยนำ และ เสยหมัดตาม หมัดเสยจะใช้ได้ดีเมื่อเป้าหมายอยู่ใกล้ตัว เช่น การเข้าคลุกวงในแล้วคู่ต่อสู้ก้มต่ำเป้าหมายที่ชก คือ บริเวณคาง ท้อง หน้าอกและหน้า

 

7. หมัดโขก

 

จะเป็นการเหวี่ยงหมัด จากบนลงล่างเป้าหมาย บริเวณขมับ หรือ คางหมัดโขกเป็นหมัดที่รุนแรงใช้หมัดตาม เพื่อให้วงเหวี่ยงมีรัศมีกว้างขึ้น หมัดโขก เป็นหมัดที่มีทิศทางจากบนลงล่างแบ่งเป็นหมัดโขกวงกว้างกับหมัดโขกวงแคบหมัดนี้เป็นหมัดที่รุนแรง เพราะ อาศัยแรงเหวี่ยงของไหล่และแขน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การรีดน้ำหนักตัว ตามแบบฉบับ นัก มวยไทย

มวยไทย ใน สังเวียน 8 เหลี่ยม

มวยไทย ใน สังเวียน 8 เหลี่ยม

มวยไทย ใน สังเวียน 8 เหลี่ยม

เพื่อน ๆ รู้จัก MMA ( Mixed Martial Arts ) หรือ มวยกรง กันไหมคะ เป็นกีฬาชนิดหนึ่ง ที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก มาต่อสู้กันแบบไม่อาวุธ อยู่บน สังเวียน 8 เหลี่ยม และ มวยไทย เอง ก็สามารถ ขึ้นชกบนสังเวียนนี้ได้เหมือนกัน

 

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ บนสังเวียนที่ ได้รับความนิยมมาก แต่ด้วยวิธีการชก ที่เปลี่ยนแปลงไป มีทั้งการชกแบบปกติ กับการชกแบบแท็คติค ที่อาศัยการเข้าคลุกวงใน กอด รัด เหวี่ยง ทุ่ม จนทำให้เสน่ห์ ของ มวยไทย ( Muay Thai ) บางครั้ง หายไปแบบไม่น่าสนใจ น้อยคู่มาก ที่จะเป็นการชกมวย แบบฟาดปาก แลกหมัดกันแบบ สู้ไม่ถอยจริง ๆ นั่นทำให้ฝ่าย จัดการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) เริ่มมองหา วิธีการต่อสู้แบบใหม่ เพื่อตอบสนอง คนดูให้มากขึ้น จึงออกมาในชื่อ ที่เราเรียกว่า มวยกรง

 

 

ประวัติ ความเป็นมาของ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts )

มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) นั้น เป็นสังเวียนต่อสู้บน เวที 8 เหลี่ยม ลักษณะจะมีลูกกรง ล้อมรอบเวที ส่วนชื่อการแข่งขัน ก็เปลี่ยนแปลงไป ตามองค์กรของตัวเอง และ สปอนเซอร์ หากจะย้อนไป ตามที่เช็คได้ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1993 ณ รัฐโคลโรราโด สหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าความเข้มข้น สะใจของการต่อสู้บนสังเวียน ได้ทำให้ เวทีการแข่งขัน มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) นี้ แพร่หลายไปทั่ว สหรัฐอเมริกา และ หลายประเทศ อย่างบราซิล อิตาลี เป็นต้น

 

 

การต่อสู้ บนสังเวียน มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ทั้งหมดเป็นของจริง

จุดเด่นของการต่อสู้ แบบ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ก็คือ นักสู้ที่เข้าไปในกรง สามารถงัดเอาศิลปะ การต่อสู้อะไรก็ได้ออกมา ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) คาราเต้ ยูโด มวยปล้ำ และ อีกมากมาย แต่จะไม่ใช้อาวุธ แต่ใช้ร่างกายได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นหมัด เท้า เข่า ศอก จับทุ่ม จับกด สามารถเอามา ใช้ได้หมด เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ ตรงหน้าให้ได้ นั่นทำให้การต่อสู้นั้น ค่อนข้างเข้มข้น จนเลือดสาดกระจายเต็มเวที เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก คนดูจะรู้สึกได้ถึง ความน่าหวาดเสียว ของกระบวนท่า ความเจ็บปวด เสียงเนื้อกระทบกัน และ อีกมากมาย แม้จะดูว่ารุนแรง แต่มัน กลับกลายเป็นเสน่ห์ ที่ไม่น่าเชื่อของ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ไปในที่สุด

 

 

กรง 8 เหลี่ยม ไม่ได้ป้องกันแค่ผู้ชม

มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) อาจจะมองว่า เป็นการต่อสู้ แบบไม่ให้ออกมา หากไม่มีใคร ยอมแพ้เสียก่อน แต่ความจริงแล้ว กรง นั้นมีไว้เพื่อป้องกัน อันตราย ต่อนักชกเองมากกว่า กรงนั้นจะไม่เหมือนเชือก ที่อาจจะมีนักสู้ ยืมแรงจากการพิงเชือก มาเพื่อสร้างน้ำหนักให้กับตัวเอง จนเกิดอันตรายได้ แบบสองเท่า อีกทั้งกรงนั้นยังเป็นจุดกั้น ระหว่างนักแข่ง กับช่างกล้อง ให้ไม่อยู่ใกล้กันด้วย ลองนึกภาพช่างภาพ โดนลูกหลงดูสิ บางทีอาจจะถึง ขั้นบาดเจ็บได้เลยนะ อีกทั้งลักษณะกรง 8 เหลี่ยม จะเป็นการป้องกัน ไม่ให้มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบมากจนเกินไป ระหว่างการต่อสู้ด้วย

 

 

ผลแพ้ชนะ ดูกันอย่างไร ?

สำหรับผลการตัดสิน แพ้ - ชนะ ของ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ก็จะขึ้นกับองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่ การชนะคะแนน หลังจากชกกัน ครบยกตามที่กำหนด ซึ่งหากเป็น การแข่งขันทั่ว ไปจะมี 3 ยก แต่หากเป็นการแข่งขัน มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ไฟล์ชิงแชมป์ หรือ ไฟล์นัดพิเศษ จะแบ่งเป็น 5 ยก ส่วนผลการตัดสินผล แพ้ - ชนะ จะประกอบไปด้วย

1. การชนะน็อคเอาท์คู่ต่อสู้ หรือ คู่ต่อสู้ไม่สามารถ แข่งขันต่อได้

2. การทำให้คู่ต่อสู้ เอ่ยปากยอมแพ้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ นักสู้จะใช้ท่าล็อคคู่ต่อสู้ ส่งผลให้อีกฝ่ายเจ็บปวด จนทนไม่ได้

3. ผู้ชี้ขาดบนเวที สั่งยุติการแข่งขัน ถ้าเห็นสมควรว่าอันตราย

4. ผู้แข่งขัน ไร้สมรรถภาพ ในการตอบโต้ หรือ ป้องกันตัว

 

ส่วนผู้ที่สนใจ ใคร่ฝึกฝนศิลปะป้องกันตัว ด้วยมือเปล่าแขนงนี้ อย่างเช่น มวยไทย ( Muay Thai ) ในบ้านเราก็มีสำนัก ยิม และ ค่าย ที่เปิดสอนอยู่หลายแห่ง ไม่เพียงเท่านั้น ก็ยังมีสังเวียนการต่อสู้ วนเวียนเข้ามา เปิดการแข่งขัน อยู่ด้วยเช่นกัน มีเหล่าบุรุษ และ สตรี สัญชาติไทยหลายท่าน ที่เคยขึ้นสังเวียนประลอง สร้างชื่อเสียง ให้กับประเทศ มาแล้วมากมาย ไปจนถึงคว้า เข็มขัดแชมป์เปี้ยน ในบางรุ่นด้วย ยิ่งคนไทยไปได้สวย บนรายการนักสู้ มวยกรง หรือ MMA ( Mixed Martial Arts ) ที่มีความหลากหลายแบบนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ของเรามีความสามารถแค่ไหน อนาคตหวังว่า จะมีนักมวยไทย หรือ นักสู้ไทย ประสบความสำเร็จ บนเวทีนี้กันเยอะมากขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

ไม่เป็น มวย แต่อย่าฝึก มวย เริ่มจากกอะไรดี

ไม่เป็น มวย แต่อย่าฝึก มวย เริ่มจากกอะไรดี

หนุ่ม สาวๆ คนไหนที่อยากหันมาซ้อมมวยไทย แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆอยู่ ลองมาอ่าน บทความนี้อาจจะเปลี่ยนความคิด ของคุณ เพราะ การซ้อม มวย นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คุณกคิด

 

มวย หรือ มวยไทย นั้นเป็นกีฬา ที่ยอมรับว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ใช้แค่ในประเทศไทย เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึง ประเทศต่างๆ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศอเมริกา หรือ ประเทศต่างๆ ต่างก็พากันให้ความสนใจ ในกีฬา ประเภท นี้ เพราะ มวยไทย จัดอยู่ในกีฬาประจำชาติ ไทย และยังเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม ไม่ใช้แค่ การออกกำลังกาย เพียงอย่างเดียว ยังสามารถ นำมาป้องกัน และ ฝึกการต่อสู้ได้อีกด้วย และ มวยไทย นั้นยังเป็นกีฬา ที่สื่อต่างๆ พากันให้ความสนใจ จนได้เกิดเป็นภาพยนตร์ หรือ เกม ให้ผู้ที่สนใจได้ชม ได้เล่น จนทำให้ มวยไทย เป็นที่นิยม อย่างมากในปัจจุบัน

 

สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ หรือ เด็กๆ คนไหน ที่อยากมาลองฝึก มวย หรือ ฝึกมวยไทยนั้น แต่ก็ยังกลัวๆ กล้าๆ อยู่เพราะ กลัวตัวองจะฝึกไม่ไหว กลัวเจ็บ แต่เราอยากให้คุณเปลี่ยนความคิด นั้นเพราะ การฝึก มวย นั้นก็เหมือนการ ออกกำลังกาย ที่ได้ขยับ ร่างกาย ในทุกๆส่วน ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ลงมาจนถึงเท้า แถบ จะใช้ทุกส่วนของร่างกาย และสำหรับ ท่านใด ที่กำลังคิดว่า ฝึก มวย อาจจะเจ็บตัว ความคิดนั้น อาจเป็นเรื่องที่ผิด เพราะ การที่เราไปฝึก มวย นั้นเราไม่ได้ จำเป็นที่เราจะต้องไปต้อย หรือ ต่อสู้กับใคร เพียงแค่เรา อยากฝึก มวย สนใจในศิลปะการ ต่อสู้ และถึงเราจะฝึก ไปนาน แค่ไหนเราก็ไม่จำเป็นต้องออกไปต่อสู้ เราแค่ฝึก ให้รู้และได้ออกกำลังกาย เท่านั้นเอง และสำหรับท่านใดที่สนใจ และอย่างรู้ว่า ควรเริ่มจากอะไรก่อนนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำ วิธีการใช้ อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ของเราว่าเราต้องใช้ ส่วนไหน เป็นอาวุธ กันบ้างไปดูกัน

 

ท่อนแขน    หมายถึงแขน ท่อนล่างตั้งแต่ใต้ศอกยาวลงไปถึงข้อมือ ใช้สำหรับ ฟัน สับ กด ปัด เปิด หนีบ

 

ฝ่ามือ    หมายถึงด้านในที่มีลายมือ ใช้ผลัก ปัด ตบ กระแทก กด รัด บีบ

 

นิ้วมือ    หมายถึงนิ้วมือทั้งห้านิ้ว ใช้ทิ่ม ควัก จับ กด จิก บีบ

 

หมัด    หมายถึงการรวมนิ้วมือทั้งห้านิ้วด้วยการกำมือ ใช้ต่อย ทุบ กระทุ้ง กระแทก เขก โขก กด เหวี่ยง ดัน

 

ศอก    หมายถึงการงอแขนให้เป็นมุม ใช้กด กระแทก งัด แทง ปัก ฟัน สับ เฉือน เหวี่ยง รับ วาง

 

สันมือ   หมายถึงด้านข้างของฝ่ามือ ทางด้านโคนนิ้วก้อยจนถึงข้อมือ ใช้สับ ฟัน กระแทก ปัด

 

ส้นมือ    หมายถึงบริเวณข้อมือด้านในที่มีลายมือ ใช้ผลัก กระแทก หลังมือ    มือทางด้านที่ไม่มีลายมือ ใช้ตบ ปัด เปิด

 

หลังมือ    มือทางด้านที่ไม่มีลายมือ ใช้ตบ ปัด เปิด

 

เข่า   หมายถึงการทบขาท่อนบนกับท่อนล่างจนกลายเป็นมุมแหลม ใช้กด กระแทก กระทุ้ง ยัด โยน เหวี่ยง รับ

 

            ยังมีอีก หลากหลายอาวุธ ที่นักมวย ใช่ในการต่อสู้ หรือ การฝึกซ้อม แต่วันนี้เราจะยกตัวอย่าง ให้พอเข้าใจกันก่อน ว่า อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกาย นั้นใช่อย่างไรกันบ้าง และยังมีสิ่งสำคัญ ที่ คนอยากจะฝึก มวย หรือ ซ้อม มวย ควรจะรู้ไว้ ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรกันบ้าง

 

อุปกรณ์ใน การ ชกมวย 

 

            อุปกรณ์ สำหรับการ ต่อยมวย หรือ ฝึก มวย นั้นเป็นสิ่งสำคัญ อย่างมาก เพราะ เป็นสิ่งที่สามารถ ไปช่วยเราให้ลดอาการบาดเจ็บ และ ช่วยให้เรามีการฝึกร่างกายในช่วยต่างๆ ที่อุปกรณ์ช่วยได้แต่ละส่วน นั้นเอง

 

มีเทรนเนอร์ดี

 

สำหรับ การมีเทรนเนอร์ นั้นจะสามารถ ช่วยสอนเบสิค เบื้องต้น สำหรับการ ฝึก มวย ไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนไหว การป้องกัน การยืนตำแหน่งยามอยู่บนเวที รวมถึงความแคล่วคล่องว่องไว

 

สัญชาตญาณ

 

ก็ จริงอยู่ว่า การที่เรามี เทรนเนอร์ ที่ดี หรือพี่เลี้ยงที่ดี นั้นจะสามารถไปจัดการ วางแผนให้คุณก่อนขึ้นชก และระหว่างพักยก หรือ การซ้อมของคุรได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อขึ้นออกไปตะบันกับคู่แข่งบนเวที คุณคือคนที่กำหนดทุกอย่าง บางทีอาจไม่มีเวลาคิดด้วยซ้ำ มันคือสิ่งที่อยู่ในตัวคุณที่หากมาถูกที่ถูกเวลา ก็สามารถพาคุณไปสู่ชัยชนะได้เช่นกัน

 

ฝึกฝนจิตใจ

 

            สำหรับ การเริ่มที่จะฝึก มวย หรือ ซ้อมมวย นั้น เราควรที่จะมีจิตใจ แนวแน่ ตั้งใจ มีความรัก ในกีฬา ไม่ใช่แค่การต่อสู้ด้วยพละกำลังเท่านั้น แต่มันยังวัดถึงความสามารถด้านกระบวนความคิด การตัดสินใจในสถานการณ์เฉพาะหน้าเพียงเสี้ยววินาที ของเราเพราะ หากเรามีทั้งหมดนี้ ก็จะทำให้การซ้อม หรือ การฝึก นั้นเป็นไปได้อย่างรายรื่นนั้นเอง

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

ฟิตหุ่นสวย ด้วยมวยไทย

มาเรียนรู้พื้นฐานเบี้องต้นของ มวยไทย ก่อนฝึกจริงกันเถอะ

เริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้นให้ถูกวิธี

เริ่มฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) เบื้องต้นให้ถูกวิธี

การเริ่มฝึกวิชา มวยไทย ( Muay Thai ) ควรมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเสียก่อน เพื่อให้ใช้หมัด เท้า เข่า ศอก ได้อย่างถูกวิธี ซึ่งหลักการสำคัญในการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) มีดังนี้

 

1. การตั้งท่าจดมวย

     การตั้งท่าจดมวย คือ การวางเข่า การวางมือ ให้ถูกต้องตามหลักการฝึก โดยการจดมวยจะต้องทราบเหลี่ยมมวย หรือ การแสดงการใช้มือ และเท้าที่ถนัดออกมาให้เห็น นั่นเอง มี 2 เหลี่ยม ได้แก่ เหลี่ยมซ้าย และเหลี่ยมขวา

 

2. การวางตำแหน่งอวัยวะ

     การวางตำแหน่งของอวัยวะที่ได้จดมวย คือ การกำหมัด วางเท้า มือ และลำตัว ซึ่งการกำหมัดที่ถูกต้อง คือ แบมือ ให้นิ้วมือทั้ง 4 เรียงชิดติดกัน แล้วพับนิ้วทั้ง 4 นิ้วเข้าหาอุ้งมือ แล้วกดทับด้วยนิ้วหัวแม่มือ ลงทาบ ในลักษณะเฉียงกับนิ้วชี้ และนิ้วกลาง เพื่อให้หมัดที่กำกระชับแน่น โดยไม่เกร็ง

 

3. การใช้หมัดใน มวยไทย ( Muay Thai )

     การใช้หมัดใน มวยไทย ( Muay Thai ) มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ เริ่มจาก “หมัดตรง” คือ การใช้หมัดที่ถนัดมุ่งไปยังเป้าหมาย อาศัยแรงจากหัวไหล่ ลำตัว เอว และเท้ายันพื้น ให้ทุกส่วนประสานกัน

     หมัดต่อมา “หมัดตัด” คือ การใช้หมัดเหวี่ยงในลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลม โดยเล็งไปที่บริเวณลำตัว ใบหน้า  หรือศีรษะของคู่ต่อสู้ มีทั้งหมัดเหวี่ยงสั้น หรือการเหวี่ยงวงแคบ และหมัดเหวี่ยงยาว หรือการเหวี่ยงวงกว้าง

     หมัดถัดมา “หมัดตวัด” คือ การใช้สันหมัดกดลงบริเวณอวัยวะสำคัญของคู่ต่อสู้ ในลักษณะเหยียดแขนออกไป พร้อมชกตวัดวงแคบ และหมัดสุดท้าย “หมัดเสย” คือ การใช้หมัดชกเข้าหาคู่ต่อสู้โดยงอศอก เกร็งข้อศอก หงายหมัด แล้วยกขึ้นสู่เป้าหมาย เช่น ปลายคาง ดั้งจมูก หรือใบหน้าคู่ต่อสู้

 

4. การใช้เท้าใน มวยไทย ( Muay Thai )

     การใช้เท้า ใน มวยไทย ( Muay Thai ) จะแบ่งออกเป็น 2 ไม้ คือ การเตะ และการถีบ ซึ่ง การเตะ คือ การใช้อวัยวะส่วนขาตั้งแต่เอวลงไปจนถึงปลายเท้า แต่การแตะของ มวยไทย ( Muay Thai ) นิยมใช้หน้าแข้งเตะ เพราะเป็นส่วนที่แข็งเปรียบเสมือนการหวดด้วยไม้ การเตะแบกแยกย่อยได้อีกเป็น เตะตรง เตะตัด เตะตวัด หรือเตะเฉียง  และกลับหลังเตะ ส่วนการถีบ คือ การใช้ปลายเท้า ฝ่าเท้า หรือ ส้นเท้า ปะทะคู่ต่อสู้ แบ่งย่อยได้เป็น ถีบตรง ถีบข้าง กลับหลังถีบ กระโดดถีบ  ถีบจิก

 

5. การใช้เข่าใน มวยไทย ( Muay Thai )

     การใช้เข่าใน มวยไทย ( Muay Thai ) คือ การใช้อวัยวะส่วนที่เป็นข้อต่อระหว่างกระดูกขาส่วนบนกับกระดูกขาส่วนล่าง แล้วงอพับขา กระทุ้งไปยังเป้าหมายของคู่ต่อสู้ โดยการใช้เข่าของใน มวยไทย ( Muay Thai ) นิยมพับปลายเท้าลงให้เกือบขนานกับลำแข้ง เพื่อความเร็ว และความคล่องตัว มีทั้งเข่าตรง เข่าเฉียง เข่าโค้ง เข่าโยน เข่าลอย

 

6. การใช้ศอกใน มวยไทย ( Muay Thai )

     มาถึงอาวุธสุดท้าย การใช้ศอกใน มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นหนึ่งในการใช้อาวุธที่รุนแรงที่สุด และมีการห้ามให้ใช้ในรายการมวยบางแห่ง การใช้ศอกขั้นพื้นฐานมีลักษณะ ดังนี้

- ศอกตี หรือ ศอกสับ ใช้วิธีการตีศอกจากบนสู่ล่าง เฉียงซ้ายคล้ายมุมฉาก บางครั้งอาจบิดตัวตี โดยมีแรงส่งจากไหล่ ลำตัว และเท้า

- ศอกตัด คือ การตีศอกตัดขนานไปสู่เป้าหมาย

- ศอกงัด คือ การตีศอกจากกลาง งัดขึ้นไปข้างบน ตรงเป็นมุมฉาก

- ศอกกระทุ้ง คือ การใช้ศอกพุ่งออกไปด้านหลัง ในลักษณะกระทุ้ง แก้ไขสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ประชิดเข้ามาด้านหลัง

- ศอกกลับ คือ การหมุนตัวตีศอก กลับไปทางด้านหลัง ตามจังหวะที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนตามเท้า

- ศอกคู่ คือ การตีศอกด้วยแขนสองข้าง

 

     ศิลปะการใช้หมัด เท้า เข่า ศอก ของ มวยไทย ( Muay Thai ) หากอยากชำนาญต้องทำการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และถูกท่าถูกวิธี เพื่อให้คู่ต่อสู้จับทางได้ยาก หากใครสนใจอยากเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) เจริญทองมวยไทยยิม ( jaroenthongmuaythai Gym ) ยินดีต้อนรับ เรามีสาขาให้บริการถึง 3 สาขา ไม่ว่าจะเป็นสาขาข้าวสาว ศรีนครินทร์ และรัชดา ใครสะดวก หรืออยู่ใกล้สาขาไหนก็จัดเลย

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

เหตุผลที่ชาวต่างชาติสนใจ มวยไทย ( Muay Thai )

มารยาทในการชก มวยไทย ที่เราควรรู้ไว้

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย

สวัสดีค่ะใครสนใจประวัติศาสตร์ มวยไทย ( Muay Thai ) บ้างคะกว่าจะมาเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) ในทุกวันนี้ต้องย่อมมีครู หรือ ผู้ฝึกสอนเผยแพร่วิชา วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ บุคคลสำคัญของ มวยไทย ( Muay Thai ) กันค่ะ

 

 

บุคคลสำคัญ มวยไทย ( Muay Thai ) แต่ละยุคสมัย ในประวัติศาสตร์

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยกรุงศรีอยุธยา

สมัยกรุงศรีอยุธยา เริ่มประมาณ พ.ศ.1988 - 2310 ระยะเวลา 417 ปี บางสมัย ก็มีศึกกับ ประเทศใกล้เคียง เช่น พม่า และเขมร ดังนั้นชายหนุ่ม สมัยกรุงศรีอยุธยา จึงต้องฝึกฝน ความชำนาญ ในการต่อสู้ ด้วยอาวุธ และ ศิลปะป้องกันตัว ด้วยมือเปล่า โดยมีครูผู้เชี่ยวชาญ ทางการต่อสู้ เป็นผู้สอน การฝึกเริ่มจากในวัง ไปสู่ประชาชน สำนักดาบพุทธไทสวรรค์ เป็นสำนักดาบ ที่มีชื่อเสียงสมัยอยุธยา มีผู้นิยมไปเรียนมาก ซึ่งในการฝึก จะใช้อาวุธจำลอง คือ ดาบหวายเรียกว่า กระบี่กระบอง นอกจากนี้ยังต้องฝึก การต่อสู้ป้องกันตัว ด้วยมือเปล่า เรียกว่า มวยไทย ( Muay Thai ) ควบคู่กันไปด้วย ในสมัยนี้ วัดยังคงเป็น สถานที่ให้ความรู้ ทั้งวิชาสามัญ และ วิชาปฏิบัติ ในเชิงอาวุธ ควบคู่กับ มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วย และ บุคคลสำคัญ ของกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ในยุคสมัยนี้ก็คือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ( พระเจ้าเสือ ) นั่นเองค่ะ

 

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ( พระเจ้าเสือ ) กษัตริย์แห่ง มวยไทย ( Muay Thai )

สมัยอยุธยา สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ โปรดการชก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นอย่างมาก เคยทรงปลอมพระองค์ มาชกมวยกับชาวบ้าน และ ชนะนัก มวยไทย ( Muay Thai ) ฝีมือดี ของเมือง วิเศษไชยชาญ อีกทั้งชนะ นักมวย เอกถึง 3 คน เมื่อพระมหากษัตริย์ โปรดการชก มวยไทย ( Muay Thai ) เช่นนี้ ทำให้มีการฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) กันอย่างแพร่หลาย ในราชสำนัก ขยายไปสู่บ้าน และวัด โดยเฉพาะวัด ถือเป็นแหล่ง ประสิทธิ์ประสาท วิชา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นอย่างดี รวมถึงขยายวงกว้าง ไปสู่สามัญชนมาก แม้ท่านจะทรงสวรรคต แต่ มวยไทย ( Muay Thai ) ตำรับพระเจ้าเสือ อันแข็งแกร่งยังได้รับ การถ่ายทอด ให้คนรุ่นหลัง ได้เรียนรู้ ฝึกฝน จนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งวันเสด็จขึ้น เสวยราชสมบัติ ของ พระเจ้าเสือ คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็น วัน มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วย

 

 

มวยไทย ( Muay Thai ) สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

หลังจาก พ่ายแพ้ แก่พม่า เป็นครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 มีนักมวย ที่ขึ้นชื่อ สองคน ได้แก่ นายขนมต้ม และ นายทองดีฟันขาว หรือ พระยาพิชัยดาบหัก นั่นเอง

 

นายขนมต้ม ยอดนักสู้ ผู้เชิดชูเชิง มวยไทย ( Muay Thai ) ให้เป็นที่ประจักษ์ แก่ชาวต่างชาติ

ในตอนเด็กนั้น ๆ นายขนมต้ม เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในวัด ด้วยสาเหตุที่ว่าพ่อ และแม่ ถูกพม่าสังหาร จนถึงแก่ชีวิต ทั้งสองคน จนเมื่อพม่าตี กรุงศรีอยุธยา นายขนมต้ม กลายเป็นหนึ่ง ในเชลยศึก ที่ถูกกวาดต้อน ไปยัง ประเทศพม่า กษัตริย์แห่งพม่า ได้ทรงจัดงานสมโภช เจดีย์ชเวดากอง และทรงโปรด ให้มีการแข่งขัน ชกมวยระหว่าง ชาวสยาม และ ชาวพม่า สุกี้พะนายกองคัด นายขนมต้ม ขึ้นชก และสามารถชกชนะ นักมวยพม่าถึง 10 คนโดยมิยอมถอย แม้แต่ก้าวเดียว จนพระเจ้ามังระปูบำเหน็จ แต่งตั้งให้เป็นข้ารับใช้ ในกรุงอังวะแต่ นายขนมต้ม ปฏิเสธ และขอให้ปลดปล่อยตน และเชลยคนไทยทั้งหมด เป็นอิสระ เพื่อกลับบ้านเกิด พระเจ้ามังระ ยอมทำตามความประสงค์ ให้ทุกคน ได้กลับมายัง บ้านเกิด ก็คือแผ่นดินไทย ที่มีกรุงธนบุรี เป็นราชธานีนั่นเอง เหตุการณ์ที่ นายขนมต้ม สามารถเอาชนะ นักมวยพม่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2317 นั้น ทำให้ได้มีการกำหนด ให้วันดังกล่าว เป็น วัน มวยไทย ( Muay Thai ) อีกด้วย

 

 

นายทองดีฟันขาว นัก มวยไทย ( Muay Thai ) สู่นักรบของชาติ ผู้พลิกปรากฏการณ์ มวยแห่งชาติ

นายทองดีฟันขาว คืออีกหนึ่งครู มวยไทย ( Muay Thai ) สำคัญแห่งประวัติศาสตร์ เดิมชื่อ จ้อย เป็นเด็กชายที่มีนิสัยกล้าหาญ อดทน ชอบชก  มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นชีวิตจิตใจ ต่อมาได้ศึกษา วิชาหมัดมวย กับครูเที่ยงที่บ้านท่าเสา แต่เพราะไม่เคี้ยวหมากพลู เหมือนคนสมัย นั้นครูเที่ยงจึงเรียกว่า นายทองดีฟันขาว  นายทองดีเดินทาง ไปเรียนการต่อสู้ จากหลาย ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย ( Muay Thai ) มวยจีน หรือเชิงดาบ จนความสามารถเลื่องลือ ภายหลังถวายตัว เป็นทหารคนสนิท ของพระเจ้ากรุงธนบุรี และได้รับสมญานามว่า พระยาพิชัย

 

นายทองดีฟันขาว หรือ พระยาพิชัยดาบหัก ได้สร้างมรดก อันควรแก่การยกย่อง สืบทอดมาถึงปัจจุบัน นอกจากจะเป็นเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ความรักชาติแล้ว ยังสร้าง มวยพระยาพิชัย ที่มีจุดเด่นคือ เป็นทั้งมวยอ่อน และมวยแข็ง รุก - รับ ตามแต่สถานการณ์ การออกไม้จะรวดเร็ว รุนแรง เผด็จศึกอย่างรวดเร็ว เมื่อมีโอกาส สามารถ ปกป้อง ตนเอง รู้วิธีรับก่อนรุก เรียนแก้ก่อนผูก เรียนรู้ จุดอ่อน จุดแข็ง ของตนเอง และ คู่ต่อสู้อีกด้วย

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

เหตุผลที่ชาวต่างชาติสนใจ มวยไทย ( Muay Thai )

เหตุผลที่ชาวต่างชาติสนใจ มวยไทย ( Muay Thai )

มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่คนให้ความสนใจกันมาก เป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย และรู้จักกันมาถึงทุกวันนี้ มาดูเหตุผลที่ชาวต่างชาติสนใจ มวยไทย ( Muay Thai ) กันค่ะ

 

     มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาต่อสู้ที่มีรูปแบบสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรับ หรือรุกก็มีท่าทีที่ดูสวยงาม ถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งได้เลย  มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นเราสามารถใช้ หมัด เท้า เข่า ศอกได้หมด ซึ่งอาวุธของ มวยไทย ( Muay Thai ) ถือว่าเป็นอาวุธที่ร้ายแรงได้เลย เพราะเป็นอาวุธที่สามารถฆ่าคนได้เลยทีเดียว อย่างเช่น ท่าฤาษีบดยา เป็นการเอาศอกจามไปบนหัวผู้ต่อสู้ หากโดนตรงจุด อาจทำให้สลบ หรือถึงขั้น เสียชีวิต ก็เป็นไปได้ นี่เป็นแค่ ท่าหนึ่ง ในแม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) และยัง มีอีกหลายท่า ที่ไม่ได้กล่าวถึง เพราะคงยาว แม่ไม้ มวยไทย ( Muay Thai ) มันมีท่าเยอะมาก และแต่ละท่าก็มีความสวยงามมากแตกต่างกันไป และยังเป็นกีฬาที่ดุเดือดมาก เพราะพลาดนิดหนึ่งอาจหน้าแตกโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเหตุผลนี้จึงทำให้มีผู้คนทั้งชาวไทย และต่างชาติ ที่รักการต่อสู้มาสนใจ มวยไทย ( Muay Thai ) กันมากขึ้น ถือได้ว่าเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมาก ในปัจจุบันเลย

 

          ความนิยมของ มวยไทย ( Muay Thai )

     ในปัจจุบันนี้ พูดได้ไม่เต็มปาก ว่าคนไทย เป็นที่หนึ่งของ มวยไทย ( Muay Thai )  เพราะตอนนี้ ชาวต่างชาติที่เก่งกว่านัก มวยไทย ( Muay Thai ) ก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น เพราะกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) ของเราไม่ปิดกั้นคนที่สนใจ ใครที่สนใจก็มาเรียนได้ ซึ่งเหตุนี้ จึงทำให้มีชาวต่างชาติที่รักการต่อสู้หันมาสนใจเรียนกันมาก พอได้เรียน ก็อยากจะลองวิชา เลยไปขึ้นชก พอได้ขึ้นครั้งหนึ่ง ก็ทำให้ติดใจ ไม่ว่าผล จะแพ้ หรือชนะ คนที่รักการต่อสู้พอได้ขึ้นชก มวยไทย ( Muay Thai ) แล้ว เชื่อได้เลยว่า ต้องติดใจกันทุกคน ถึงแม้มันจะเจ็บมากและค่าตอบแทนก็น้อย แต่การได้สู้ กับคนที่เก่งกว่า หรือคนที่ชอบ อะไรแบบเดียวกัน มันคือความสุข ของคนที่รักการต่อสู้ซึ่ง ตอบได้เลยว่า คนที่ไม่ชอบ เขาก็จะมองพวกเราบ้า แต่กับคนคนที่ชอบ การต่อสู้ ถ้าถามว่าคุณชอบกีฬาอะไรมากที่สุด เขาจะตอบเป็นเสียงเดียวกันก็คือ “ มวยไทย ( Muay Thai ) ”

     มวยไทย ( Muay Thai ) มีเอกลักษณ์ ที่เด่นก็คือ อาวุธ และท่าทาง ที่ใช้ในการต่อสู้ ซึ่งมีรูปแบบ ไม่เหมือนแบบอื่น ซึ่งอาวุธ แต่ละอย่าง ที่ออกมานั้น ล้วนแต่อันตราย โดนที มีหลับคาเวที ซึ่งปัจจุบันนี้ คนที่ใช้ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ แค่คนไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติ ก็เริ่มใช้ได้ เหมือนกันแล้ว แต่การใช้พิษ สงยังไม่เท่าคนไทย เพราะการศอก และเข่า ยังสู้คนไทยไม่ได้ ซึ่งอันนี้แหล่ะ คือไม้เด็ดของ มวยไทย ( Muay Thai )  เป็นอาวุธ ที่คนไทยใช้แล้ว มีประสิทธิภาพมาก เพราะชาวต่างชาติ ยังใช้ได้ไม่ดีเท่า ซึ่งสองอาวุธนี้ เป็นการใช้ ระยะประชิดซึ่ง ชาวต่างเป็นนักมวย ที่ใช้หมัด และเตะหนัก เวลาขึ้นชก ชาวต่างชาติ ก็พยายาม ให้อยู่ในระยะ ที่ตัวเองชกได้ แต่พอคนไทย ได้เข้าไปล็อกคอ ตีเข่า เมื่อไร เป็นอันเสร็จทุกหลาย ซึ่งสิ่งนี้ ชาวต่างชาติ ยังเลียนแบบไม่ได้ ถึงแม้ จะเรียนมาแต่ลักษณะ บางอย่าง ก็เลียนแบบไม่ได้ จึงทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นอาวุธที่คู่คนไทยตลอดไป

 

          กฎข้อบังคับการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )

     กฎข้อบังคับการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) การแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )  จำนวนยกในการแข่งขันทั้งหมดมี 5 ยก ยกละ 3 นาที พักระหว่างยก 2 นาที จะไม่มีการเพิ่มรอบโดยไม่ได้รับอนุญาต นักมวยจะต้อง ใช้นวมขนาดไม่น้อยกว่า 6 ออนซ์ ( 172 กรัม ) ซึ่งนวมที่สวม ใส่จะต้องไม่ถูกบีบ หรือบดเพื่อเปลี่ยนรูปทรงของนวม

 

          ระเบียบการสำหรับการแข่งขันชก มวยไทย ( Muay Thai )

- ต้องสวมกางเกงขาสั้นเพียงครึ่งโคนขาให้เรียบร้อยไม่สวมเสื้อ และรองเท้านักมวยมุมแดงให้กางเกงสีแดง ชมพู สีเลือดหมู หรือสีขาวที่มีแถบแดงคาด นักมวยมุมน้ำเงินใช้กางเกงสีน้ำเงิน และสีดำ ห้ามคาดแถบสีแดง และต้องสวมเสื้อคลุมตามข้อบังคับสภาพ มวยไทย ( Muay Thai ) โลก

- ต้องสวมกระจับที่ทำขึ้นจากวัสดุแข็งแรงทนทาน และได้รับการรับรองจากสภา มวยไทย ( Muay Thai ) โลก เมื่อถูกตีด้วยเข่าหรืออาวุธในการต่อสู้อย่างอื่น ตรงบริเวณอวัยวะเพศจะไม่ทำให้เกิดอันตราย การผูกกระจับต้องผูกปมไว้ด้านหลัง และต้องผูกด้วยเงื่อนตาย เก็บปลายเชือกส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย

- ห้ามไว้ผมยาวรุงรัง และห้ามไว้เครา อนุญาตให้ไว้หนวดได้แต่ต้องยาวไม่เกินริมฝีปาก เล็บเท้า ต้องตัดให้เรียบและสั้น

- ต้องสวมมงคลผ้าประเจียด หรือรัดเกล้า เฉพาะเวลาร่ายรำไหว้ครู ก่อนทำการแข่งขันเท่านั้น เครื่องรางอนุญาตให้ผูกที่โคนแขน หรือเอว แต่ต้องหุ้มผ้าให้มิดชิดเรียบร้อย เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายแก่คู่แข่งขัน

- อนุญาตให้ใช้ปลอกยืดรัดข้อเท้ากันเคล็ด สวมข้อเท้าได้ข้างละไม่เกิน 1 อัน แต่ห้ามมิให้เลื่อนปลอกรัดขึ้นไปเป็นสนับแข้งหรือม้วนพับลงมา และห้ามใช้ผ้ารัดขาและข้อเท้า

- ห้ามใช้เข็มขัดหรือสิ่งที่เป็นโลหะ สร้อย ฯลฯ

- ห้ามใช้น้ำมันวาสลิน น้ำมันร้อน ไขหรือสมุนไพร หรือสิ่งอื่นที่ทำให้คู่แข่งขันเสียเปรียบหรือเป็นที่น่ารังเกียจทาร่างกายหรือนวม

- ฟันยาง ผู้แข่งขันต้องใส่ฟันยาง

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

มารยาทในการชก มวยไทย ที่เราควรรู้ไว้

กระจับ นักมวย สำคัญอย่างไรกันนะ

บทบาทหน้าที่ของ พี่เลี้ยงนักมวย

บทบาทหน้าที่ของ พี่เลี้ยงนักมวย

เบื้องหน้าความสำเร็จของนักมวย ล้วนมีผู้อยู่เบื้องหลังที่สำคัญอย่าง พี่เลี้ยงนักมวย ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็นบทบาทได้ ในช่วงที่มีการพักยกของการแข่งขัน พี่เลี้ยงนักมวย จะคอยมาดูแลนักมวย แต่แท้จริงแล้วมีบทบาทที่มากกว่านั้น

 

ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทใด นักกีฬาย่อมมีผู้ฝึกสอนของศาสตร์กีฬานั้น ๆ เฉกเช่นการเรียนการสอนทั่วไป ที่ต้องมีครูกับศิษย์ ซึ่งผู้ฝึกสอนในทางกีฬาสามารถเลี้ยงได้หลายอย่าง เช่น ครู อาจารย์ โค้ช  ครูฝึก พี่เลี้ยง เป็นต้น สำหรับมวยไทยก็เช่นกัน การที่นักมวยจะมีความรู้ ความสามารถได้ จะต้องได้รับการถ่ายทอดวิชาการต่อสู้และศาสตร์ต่าง ๆ ของมวยไทยมาจาก ครูมวย หรือ พี่เลี้ยง นั่นเอง โดยมวยไทยในสมัยก่อน มีการเรียกผู้ที่ฝึกสอนมวยไทยให้แก่ศิษย์ว่า "ครูมวย" และในสมัยปัจจุบันมีความหลากหลายในการเรียกมากขึ้น เช่น โค้ช หรือ พี่เลี้ยง แล้วแต่นักมวยจะเรียกกัน

 

ก่อนการแข่งขันมวยไทย พี่เลี้ยงจะมีหน้าที่ ฝึกสอนมวยให้แก่นักมวยที่ตนดูแล พี่เลี้ยงที่ดีจะต้องสามารถวิเคราะห์นักมวยของตนเองได้ ว่ามีจุดแข็งและจุดอ่อนอะไรบ้าง เพื่อชูจุดแข็งในการเอาชนะคู่ต่อสู้ และพัฒนาจุดอ่อนไม่ให้มีความบกพร่องได้ หากมีการแข่งขันมวยไทย พี่เลี้ยงนักมวย จะต้องคอยวางแผนการชกให้กับนักมวยล่วงหน้า รวมถึงวิเคราะห์จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ล่วงหน้าอีกด้วย

 

เมื่อทำการแข่งขัน พี่เลี้ยงนักมวย จะมีเวลากับนักมวยเฉพาะเวลาพักยก หน้าที่ของพี่เลี้ยงนักมวย จะต้องเข้ามาดูแลจัดการความเรียบร้อยของนักมวย คอยนวดกล้ามเนื้อ ซับหน้า ซับเลือด ให้น้ำดื่ม พร้อมกับบอกแผนการชกยกต่อไปว่าควรมีการเล่นอย่างไร ใช้กลยุทธใดในการจัดการกับคู่ต่อสู้ รวมถึงต้องให้กำลังใจและเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าก่อนนักมวยจะไปแข่งต่อ

 

ในการแข่งขันมวยไทย ผู้แข่งขันแต่ละคนให้มีพี่เลี้ยงได้ 2 คน โดยพี่เลี้ยงจะต้องปฏิบัติตามกติกา  ดังต่อไปนี้

 

1. พี่เลี้ยงจะแนะนำ ช่วยเหลือหรือส่งเสริมผู้แข่งขันของตนในระหว่างการชกกำลังดำเนินอยู่ไม่ได้ ถ้าพี่เลี้ยงละเมิดกติกา อาจถูกตำหนิโทษ หรือให้ออกจากหน้าที่นักมวยของเขา อาจถูกผู้ชี้ขาดเตือน ตำหนิโทษ หรือให้ออกจากการแข่งขัน อันเนื่องมาจากการทำผิดของพี่เลี้ยง

 

2. พี่เลี้ยงจะยอมแพ้แทนผู้แข่งขันของตนเช่นโยนฟองน้ำหรือผ้าเช็ดตัวเข้าไปในสังเวียนไม่ได้

 

3. ในระหว่างการชกพี่เลี้ยง จะต้องอยู่ในที่นั่งของตน ก่อนเริ่มการแข่งขันในแต่ละยกให้พี่เลี้ยงนำผ้าเช็ดตัวขวดน้ำ ฯลฯ ออกไปจากขอบสังเวียน

 

4. ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่มุมระหว่างพักยก พี่เลี้ยงต้องตรวจดูเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ของนักมวยของตนให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย พร้อมแข่งขันก่อนสัญญาณของยกต่อไปจะดังขึ้น และถ้ามีเหตุที่นอกเหนือความสามารถพี่เลี้ยงจะต้องรีบแจ้งให้ผู้ชี้ขาดทราบทันที ถ้าพี่เลี้ยงละเมิดกติกาอาจถูกตำหนิโทษหรือให้ออกจากหน้าที่ นักมวยของเขาอาจถูกผู้ชี้ขาดเตือนหรือตำหนิโทษได้

 

5. การให้น้ำนักมวย พี่เลี้ยงจะต้องไม่ให้น้ำนักมวยของตน จนเปียกชุ่มและต้องไม่ทำให้พื้นเวทีเปียกลื่น จนอาจเป็นอันตรายกับคู่แข่งขัน

 

6. พี่เลี้ยงต้องสวมเสื้อแสดงสัญลักษณ์คณะนักมวยของตนให้สุภาพเรียบร้อย

 

7. ห้ามพี่เลี้ยงใช้วาจาไม่สุภาพ หรือทำร้ายนักมวยของตน ระหว่างการแข่งขัน และภายหลังการแข่งขัน

 

8. ถ้าเป็นการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์เปี้ยน หรือป้องกันตำแหน่ง ให้มีพี่เลี้ยงได้ฝ่ายละ 3 คน แต่ในการพักระหว่างยก พี่เลี้ยงจะเข้าไปในสังเวียนได้เพียง 2 คนเท่านั้น

 

9. ในการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์เปี้ยน หรือป้องกันตำแหน่งประธานผู้ตัดสินจะต้องจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้ชี้ขาดผู้ตัดสิน ผู้จัดการ และพี่เลี้ยงนักมวย เพื่อเน้นให้ทุกคนทราบว่า การไม่ปฏิบัติตามกติกานี้อาจไม่เพียงถูกตัดคะแนนเท่านั้น แต่ยังอาจถูกตัดสินให้แพ้หรือให้ออกจากการแข่งขัน

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

การแต่งกายตามกติกาของ นักมวย

ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อกาย ดีต่อใจ

มารยาทในการชก มวยไทย ที่เราควรรู้ไว้

มารยาทในการชก มวยไทย ที่เราควรรู้ไว้

มวยไทย เป็นกีฬาที่ต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้ เพื่อเอาชนะ แต่สำหรับการต่อสู้นั้นก็ต้องมี กฎกติกามารยาท ในการขึ้นชกแต่ละครั้ง วันนี้เราไปเรียนรู้ กฎกติกามารยาท ของ มวยไทย ดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง

 

            มวยไทย เป็นกีฬา ที่ต้องใช้การ การต่อสู้ในการที่จะชนะ การแข่งขัน และเราต้อต่อสู้ กับคู่ต่อสู้ มากหน้าหลายตา และทำการต่อสู้กันเพื่อเอาชนะ ดังนั้น กีฬา ที่มีการต่อสู้ ของคน สอง คนก็ต้องมี กฎกติกามารยาท ในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่มวยไทย เพียงอย่างเดียว ยังรวมไปถึง กีฬา ประเภท อื่นๆ ด้วยที่มีการต่อสู้ เพราะ ถ้ากีฬาไหน ที่มีการต่อสู้ แล้วไม่ทำตาม กฎกติกามารยาท ก็จะถูกวิจารณ์ หรือ ถูกตัดสินแพ้ หรือ อาจถูก แบนออกจากการแข่งขัน ได้ นั้นเอง

 

            นักมวย นั้นแต่ละคนนั้น คงจะรู้ กันดีอยู่แล้วว่า กฎกติกามารยาท ในการชกมวยนั้น มีอะไรกันบ้าง เพราะ นักมวย คงจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าถ้าไม่ทำตาม กฎกติกามารยาท นั้น จะส่งผลเสียอะไรแก นักมวย บ้าง แต่สำหรับท่านใด ที่กำลัง หันมาสนใจ มวยไทย หรือ กำลัง เป็นนักมวย มือใหม่ วันนี้เราจะเอา กฎกติกามารยาท มาอธิบาย ให้ฟังกันบ้าง มารยาท แบบไหน ที่ควรทำ หรือ ไม่ควรทำ ในการชกมวย

 

มารยาทในการชก มวยไทย

 

1. นักมวย นั้นจะ เคารพในกฎกติกาการ ชกมวยไทยอย่างเคร่งครัด และต้องทำตาม กฎกติกามารยาท ทุกประการ

 

2.เคารพ เชื่อฟัง และปฏิบัติตามคำแนะนำ และคำตักเตือน ของผู้ตัดสินอย่างเคร่งครัด 

 

3.ไม่แสดง หรือ ห้ามแสดง กิริยาอาการอันไม่สุภาพ ต่อคู่แข่งขัน หรือผู้ชม เช่น ถ่มน้ำลาย ตะโกนด่าผู้ชม หรือ การทำผิดกฎที่ไม่เหมาะสม   

 

4.ไม่แสดงปฏิกิริยา คัดค้าน ไม่พอใจ หรือ ไม่เชื่อฟัง ในการตัดสินของผู้ตัดสินทุกกรณี เช่น ไม่ยอมลงจากเวที ทำร้ายร่างกายผู้ตัดสิน ด่าว่าผู้ตัดสิน หรือทำร้ายผู้ตัดสิน  

 

5.ไม่พยายามซ้ำเติม คู่แข่งขันที่ด้อยกว่า ทั้งที่มีโอกาสกระทำได้ โดยไม่ผิดกติกา 

 

6.มีน้ำใจนักกีฬา เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ไม่มีทางสู้แล้วก็พยายามทำให้คู่ตู่สู้ บอบช้ำอีกต่อไป 

 

7.ให้เกียรติและเคารพนักมวย รุ่นพี่ก่อนและหลังการต่อสู้ทุกครั้ง 

 

8.ตามประเพณีนิยม ก่อนการแข่งขันนักมวยต้องทำการไหว้ครู และ ต้องมีการร่ายรำตามศิลปะมวยไทย เ

 

9. ไม่ทำการ ล้มมวย หรือ ทำการไม่เหมาะสมนขณะแข่ง

 

 

สิ่งที่ไม่ควรทำในการชก มวยไทย                               

 

การที่ นักมวย นั้นไม่ ปฏิบัติตาม กฎกติกามารยาท ในการชกมวยนั้น จะถือว่า ฝ่าฝืน กระทำผิดโดนเจตนา ไม่ว่าจะด้ยวิธีใด ถือว่าเป็นการชก ที่น่ารังเกียจ และไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ผิดวิสัยของลูกผู้ชาย  และถือว่า ไม่ให้เกียรติ ต่อกีฬา มวยไทย หรือ นักชก

 

1.ใช้ศีรษะกระแทก กัด ควัก หรือกดลูกตา จิกผม ถ่มน้ำลายใส่คู่ต่อสู้ หรือ พยายามโกง ในการแข่งขัน

 

2.ปล้ำโดยแกล้งล้มทับ กดศอก หรือ เข่าซ้ำคู่ต่อสู้ขณะคู่ต่อสู้ลม หรือเหวี่ยงทุ่มในลักษณะของยูโดหรือมวยปล้ำ

 

3.ล๊อคคอหรือ ล็อคแขนขา ขัดขา เกี่ยวขา ปัดขา หนุนขา หรือยกทุ่มคู่ต่อสู้

 

4.จับ โหนพิงเชือกแล้วชก เตะ ถีบ ฯลฯ 

 

5.ซ้ำเติมคู่ต่อสู้ขณะล้ม หรือการเข้าไปเตะซ้ำ

 

6.แกล้งล้ม โดยเจตนาชกในลักษณะสมยอมเพื่อสินจ้างรางวัล หรือ การล้มมวยนั้นเอง 

 

7.แสดงกิริยา หรือ กล่าววาจา คำพูด ที่ไม่สุภาพขณะแข่งขัน 

 

8.ตีเข่าที่บริเวณกระจับคู่ต่อสู้ 

 

9.ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลบหลีกการกระทำของคู่ต่อสู้โดยมิชอบ เช่น แกล้งล้มมุดออกนอกเชือก สอดขาออกนอกเชือกหรือหลบอยู่หลังผู้ตัดสิน หรือ การซ้อนอาวุธ เข้ามาในการ ชก

 

สำหรับ กฎกติกามารยาท เป็นสิ่งที่ควรทำตามอย่างเคร่งครัด ควรเคารพ ใน กฎกติกาที่มีการตั้งไว้ ควรให้เกียรติคู่ต่อสู้ และที่สำคัญ ต้องมีน้ำใจ นักกีฬา ซื่อสัตย์ สุจริต ก็จะส่งผลดีให้กับ ตัวนักกีฬา และค่าย ของตนเอง และยังส่งผลดี ต่อคนดู สำหรับ ใครที่อยากเป็น นักมวย หรือ สนใจในการ ชกมวย เราก็ควร ต้องมีน้ำใจนักกีฬา กันทุกคน เพื่อวงการ มวย จะได้เฟื่องฟูและ กลับ มาหน้าดูหน้าสนับสนุนเหมือนเดิม 

 

 

 

อ่านบทความเพ่อมเติม

 

รู้หรือไม่ ทำไมต้องรำมวยก่อนชก

ออกกำลังกายในร่ม หนีฝน หนีฟ้า มีอะไรบ้าง

การแต่งกายตามกติกาของ นักมวย

การแต่งกายตามกติกาของ นักมวย

กติกามวยไทยในปัจจุบันได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนครอบคลุมทุก ๆ เรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับมวยไทยและผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งรวมไปถึง การแต่งกายที่ถูกต้องของ นักมวย ผู้เข้าแข่งขันอีกด้วย

 

สำหรับกติกามวยไทย ในเรื่องการแต่งกาย มีดังต่อไปนี้

 

1. ต้องสวมกางเกงขาสั้น เพียงครึ่งโคนขาให้เรียบร้อย ไม่สวมเสื้อและรองเท้า นักมวยมุมแดง ให้กางเกงสีแดง ชมพู สีเลือดหมู หรือสีขาวที่มีแถบแดงคาด นักมวยมุมน้ำเงินใช้กางเกงสีน้ำเงิน และสีดำ ห้ามคาดแถบสีแดง และต้องสวมเสื้อคลุม ตามข้อบังคับสภาพมวยไทยโลก

 

2. ต้องสวมกระจับ ที่ทำขึ้นจากวัสดุแข็งแรงทนทาน และได้รับการรับรองจาก สภามวยไทยโลก เมื่อถูกตีด้วยเข่า หรืออาวุธในการต่อสู้อย่างอื่นตรงบริเวณอวัยวะเพศ จะไม่ทำให้เกิดอันตราย การผูกกระจับ ต้องผูกปมไว้ด้านหลัง และต้องผูกด้วยเงื่อนตาย เก็บปลายเชือกส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย

 

3. ห้ามไว้ผมยาวรุงรัง และห้ามไว้เครา อนุญาตให้ไว้หนวดได้แต่ต้องยาวไม่เกินริมฝีหาก เล็บเท้า ต้องตัดให้เรียบและสั้น

 

4. ต้องสวมมงคลผ้าประเจียด หรือรัดเกล้า เฉพาะเวลาร่ายรำไหว้ครู ก่อนทำการแข่งขันเท่านั้น เครื่องรางอนุญาตให้ผูกที่โคนแขน หรือเอว แต่ต้องหุ้มผ้าให้มิดชิดเรียบร้อย เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายแก่คู่แข่งขัน

 

5. อนุญาตให้ใช้ปลอกยืดรัดข้อเท้ากันเคล็ด สวมข้อเท้าได้ข้างละไม่เกิน 1 อัน แต่ห้ามมิให้เลื่อนปลอกรัดขึ้นไปเป็นสนับแข้งหรือม้วนพับลงมา และห้ามใช้ผ้ารัดขาและข้อเท้า

 

6. ห้ามใช้เข็มขัดหรือสิ่งที่เป็นโลหะ สร้อย ฯลฯ

 

7. ห้ามใช้น้ำมันวาสลิน น้ำมันร้อน ไขหรือสมุนไพร หรือสิ่งอื่นที่ทำให้คู่แข่งขันเสียเปรียบ หรือเป็นที่น่ารังเกียจทาบริเวณร่างกายหรือนวม

 

8. ฟันยาง ผู้แข่งขันต้องใส่ฟันยาง

สำหรับ ฟันยาง เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ที่จะช่วยป้องกันฟันของนักมวย ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกแรงกระแทกที่กระทบบนในหน้า

 

สำหรับ เครื่องแต่งกายของผู้แข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) ในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย ผ้าพันมือ สนับศอก สนับหน้าแข้ง ปลอกรัดข้อเท้า กระจับ กางเกง นวม ฟันยาง เกราะอ่อนป้องกันลำตัว ศีรษะ และหน้าแข้ง ซึ่งการใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกายที่กล่าวมา เป็นผลมาจากการประชุมของประเทศสมาชิก สหพันธ์สมาคมมวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ ที่ต้องการจะหามาตรการป้องกันอันตราย และให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่นักมวยชาติที่เข้าแข่งขันทุกคน

 

ส่วนเครื่องรางของขลังที่ นักมวยไทยในสมัยปัจจุบันยังคงใช้อยู่ ได้แก่ มงคล และ ประเจียด โดยนักมวยจะสวมมงคลไว้บนศีรษะตั้งแต่แต่งตัวเสร็จจนขึ้นเวทีและจะถอดออกเมื่อทำพิธีไหว้ครูและร่ายรำมวยไทยเรียบร้อย ส่วนประเจียดนักมวยสามารถคาดไว้ที่ต้นแขนตลอดเวลาการชกแข่งขันได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กระจับ นักมวย สำคัญอย่างไรกันนะ

อาวุธป้องกันตัวในแบบฉบับ มวยไทย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก doisaketwittayakomsports

กระจับ นักมวย สำคัญอย่างไรกันนะ

กระจับ นักมวย สำคัญอย่างไรกันนะ

อุปกรณ์ นักมวย นั้นแน่นอนว่า มีมากมายหลากหลายชนิดแต่กต่างกันไปและแต่ละอย่างนั้นจะมีความสำคัญในเรื่องต่างๆที่แตกต่างกันและวันนี้เราจะมาพูดถึงกระจับ นักมวย ว่ามีความสำคัญอย่างไรกันนะ

 

กระจับ (กระจับนักมวย) คืออะไร

 

กระจับ นั้น มันคืออุปกรณ์ ที่จะสามารถช่วย ป้องกันตัวอย่างหนึ่งในกีฬา ชกมวย หรือ รวม ถึงศิลปะต่อสู้ชนิดอื่น ที่ นักมวย นั้นจะต้อง ทำการสวมใส่เพื่อให้เกิดความ กระชับ และป้องกันแรงกระแทกที่จะเกิดบริเวณ อวัยวะเพศ  ของเรานั้นเอง และเนื่องจากในกีฬาประเภท นี้นั้น จะความเสี่ยงที่จะพลาดพลั้งทำให้บาดเจ็บ บริเวณ ท้องน้อย และ ช่วงขาหนีบได้ง่าย แม้จะมีกติกากำหนดห้ามไว้แล้วก็ตาม เช่น กีฬามวย นั้นจะมีกติกาห้ามชกใต้เข็มขัด เป็นต้น นั้นเอง และ ในปัจจุบัน นั้น จะมีการออกแบบ กระจับ นักมวย มีการออกแบบ ในหลาย ลักษณะที่แตกต่างกันออกไปนั้นเอง และ กระจับของ นักมวย จะถูกออกแบบมา ให้เหมาะสม กับการใช้งาน เพื่อที่จะป้องกัน อวัยวะเพศชาย ของเราไม่ให้ได้รับความเสียหาย ถึงจะมี กติการ ออกมาว่า ห้ามชก หรือ เตะใต้เข็มขัด แต่ถึงอย่างไร ในสนาม หรือ การแข่งขัน นั้น อาจมีการพลาดไปโดน ได้ดังนั้น กระจับ มวยถือเป็น อุปกรณ์ที่สามารถ ช่วยเซฟ อวัยวะเพศชาย ของเรา ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บได้เป็นอย่างดีนั้นเอง

 

ใน ปัจจุบัน กระจับ นั้นได้ถูกออกแบบให้เหมาะสมสำหรับ นักกีฬา มากขึ้น โดยจะมีการผลิตออกมาเป็นการเฉพาะที่จะ ให้เหมาะสมกับสรีระ ร่างกาย ของแต่ละคน และแถมยัง มีประสิทธิภาพในการ ป้องกันการบาดเจ็บ ได้สูงสุด เช่น กระจับในกีฬา มวย สากลจะออกแบบให้ครอบคลุมได้ทั่วทั้งบริเวณท้องน้อย และยังเป็นเซฟี้ในร่างกาย เราอย่างดีนั้นเอง

 

ประโยชน์ด้านความปลอดภัย

 

เนื่อง จากบริเวณ อวัยวะที่ใช่ในการ สืบพันธุ์ของทั้งเพศชาย และ เพศหญิงนั้น จะมีความเปราะบางต่อแรงกระแทก และ บริเวณนี้ยังมีเส้นประสาท รับความเจ็บปวดมา เลี้ยงมากทำให้เกิดความเจ็บปวดได้อย่างรุนแรง จึงมีความจำเป็น ที่เรานั้นจะ ต้องหาอุปกรณ์ที่เป็นเกราะป้องกันมาใช้ในกีฬาที่ต้องปะทะ ร่างกาย กัน และไม่ใช่แค่ มวยไทย ที่ต้องใช้กระจับ ยังมีกีฬา อีกหลายประเภท ที่ต้องใช้ อุปกรณ์ป้อง อวัยวะเพศ อีกหลายกีฬา นั้นเอง

 

กระจับ ถูกสร้างมาจากอะไร

 

          กระจับ นั้นจะถูกผลิต มาจากแผ่นโฟม พลาสติกหุ้นด้วยหนัง เพื่อ ทำทำให้มีการ ดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น จะต่างจากโลหะ และติดแถบยางยืด แบบในตัวกางเกงสปอตเตอร์ ทำให้ สามารถ ใส่ขณะฝึกซ้อมได้ง่าย นั้นเอง และสามารถใส่ทับกางเกงมวย ไว้ภายนอกได้ และแถมยัง มีการผลิตกระจับเฉพาะ สำหรับ นักกีฬาเพศหญิง อีกด้วยนะจะบอกให้

 

กระจับช่วยป้องกัน อัณฑะ แตกจริงได้จริงหรือไม่

 

ตอบเลยว่า สามารถช่วยได้จริง เพราะการโดน ชก หรือ ลูกเตะ ที่เข้าเป้า สามารถ ทำให้ อัณฑะของเราปวดบวม หรือ ถึงขั้นรุนแรง สามารถที่จะแตกได้เลยก็มีเหมือนกัน นั้นเอง ดังนั้น กระจับ สามารถช่วย ป้องกันได้ดีอย่างแน่นอน  เพราะยิ่งโดนแรงเท่าไร ลอง คำนวณความ เจ็บปวด   เพราะฉะนั้นแล้ว กระจับจึงเป็นสิ่งสำคัญ อันดับแรกๆเลยก็ว่าได้ และยังเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ ที่ต้องเช็คก่อนขึ้นชกมวย ไม่งั้นแล้วหากพลาดขึ้นมา ถึงกับจุกได้เลย ไม่สามารถต่อยได้เลย นะจะบอกให้

 

ประโยชน์ด้านความปลอดภัย ของ กระจับ นักกีฬา

 

เนื่องจากบริเวณ อวัยวะ เพศของเรานั้น จะมีไว้สืบพันธุ์ของทั้ง เพศชาย และ เพศหญิง มีความเปราะบางต่อแรงกระแทก และ บริเวณนี้ยังมีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดมาเลี้ยงมากทำให้เกิดความเจ็บปวด ได้อย่างรุนแรงกว่าที่คุณคิดดังนั้นทำให้ มีความจำเป็นต้องหาอุปกรณ์ที่เป็น เกราะป้อง กันมา ใช้ใน กีฬาที่ต้องปะทะร่างกายกัน ในกีฬา ชกมวย การโดนต่อยถูกไข่ด้วยหมัดแม้จะ ใส่นวม ก็อาจทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ได้นั้นเอง  โดยแรง ชกอาจ ทำให้ อัณฑะแตก ( Testicular rupture ) หรือ องคชาติหัก ( penile fracture )ได้นั้นเอง ดังนั้น กระจับจึงช่วยเป็นเกราะป้องกันแรงกระแทกโดยตรง ได้เป็นอย่างดีและ นอกจากนี้ผลจากการครอบรัดอวัยวะเพศ อย่างแน่นหนา ที่จะไปช่วย ในเรื่องของการ ป้องกันการขาดเลือดจากการบิดหมุนของ อัณะฑะ( Testicular torsion )ซึ่งพบบ่อยใน กีฬา ที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรง กระจับนั้น ไม่ใช้แค่เป็นกรป้องกัน ในกีฬามวยไทย อย่างเดียว ยังรวมไปถึง ก็ฬาอื่นๆ ที่เป็นการต่อสู้ หรือ อาจมีความรุนแรง นั้นเอง

 

ดังนั้น เราบอกได้เลยว่า กระจับนักมวย นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการที่จะป้องกัน เราจาก อันตรายจากการต่อยมวย และการชกมวยนั้น ยังมีอีกหลายอุปกรณ์ ที่สามารถ ช่วยป้องกัน ร่างกาย ของเราได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟันยาง ผ้าพันมือ หรือรวมไปถึง นวมก็คือ สิ่งป้องกันมือเราได้อย่างดีนั้นเอง 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

สร้างสมดุลของ ร่างกาย ได้ง่ายๆด้วย มวยไทย

รวมท่าทางการต่อสู้ของ มวยไทย

ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อกาย ดีต่อใจ

ฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) ดีต่อกาย ดีต่อใจ

การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) จะทำให้ผู้เล่น มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง รวมถึงทางด้านอารมณ์ ดังต่อไปนี้

 

 

ฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายทุกส่วน

กีฬามวยไทย ( muay thai ) เป็นกีฬาที่ต้องใช้แรงและกำลังของกล้ามเนื้อเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องอาศัยการฝึกร่างกายของเรา ให้แข็งแกร่งทุกสัดส่วนทั้งช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงล่าง เพราะในการชกมวยจริงๆ นั้น ขาของคุณจะต้องไวมีฟุตเวิร์คที่ดีตลอดช่วงเวลาที่อยู่บนสังเวียน เพื่อที่จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างพลิ้วไหว มีช่วงกลางลำตัวที่แข็งแกร่งที่สามารถรับการโจมตีจากการออกอาวุธของคู่ต่อสู้ได้ และมีแขนที่ทรงพลังเพื่อเอาไว้ออกอาวุธที่มีพลังในการโจมตีสูง

 

 

ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค

การชกมวย ทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาขณะเล่น จึงช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิตให้มีการทำงานได้ดี ทั้งหัวใจและหลอดเลือด ที่ส่งผลต่อการสูบฉีดโลหิตเต็ม ๆ ทำให้ผู้ที่เล่นกีฬามวยไทยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น

 

 

สร้างสมดุลให้กับร่างกาย

เพราะเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทุกสัดส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสายตา สมาธิ และปัญญา ทำให้นอกจากจะทำให้ห่างไกลโรคภัยแล้ว ร่างกายยังมีความสมดุลซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสร้างกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี รับรองว่าออกกำลังกายด้วยการชกมวย สามารถทำให้ผอมและตอบสนองความไวได้ดี

 

 

มีความสุข ลดความเครียด

การเล่นกีฬามวยไทย ทำให้เกิดความสนุกสนาน ร่าเริงในการเล่นได้ และยิ่งเล่นมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งหลั่งฮอร์โมนเอนโดรฟีนที่ ทำให้เรามีความสุขยิ่งขึ้น และยังลดความเครียดลงได้ รวมถึงยังช่วยทำให้ร่างกายไม่แก่เร็ว

 

 

มีจิตใจที่แน่วแน่

กีฬามวยไทย เป็นกีฬาที่ต้องใช้สติ สมาธิ และปัญญาในการเล่นกับฝ่ายตรงข้าม ทำให้ผู้เล่นมีพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ คือ มีเชาวน์ไว ไหวพริบดี ตัดสินใจได้ฉับพลัน มีความสุขุม รอบคอบ และเยือกเย็น มวยไทย จึงเป็นการฝึกตนเองให้สามารถควบคุมอำนาจในจิตใจและอารมณ์ได้มากขึ้น

 

 

ฝึกควบคุมความกดดันได้ดี

หากผู้เล่นทำการแข่งขันมวยไทยบนสังเวียนจริง  นักเล่นต้องช่วยเหลือตนเอง ไม่สามารถที่จะพึ่งพิงพี่เลี้ยงได้อีกต่อไป บนเวทีมีคู่ต่อสู้ประจันหน้าอยู่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนแรงกดดันที่นักมวยต้องแบกรับอยู่ตลอดเวลา นักมวยจึงต้องมีสติ และสมาธิอย่างมากขณะเล่น ต้องควบคุมความกดดันจากตนเองและภายนอกให้ได้ เพื่อชกมวยตามแผนที่ตนเองวางไว้

 

 

การฝึกมวยไทยเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผู้เล่นมีพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ที่ดีอยู่เสมอ นอกจากนี้ กีฬามวยไทย ยังมีประโยชน์ในแง่ของศิลปะป้องกันตัว ที่จะทำให้บุคคลสามารถป้องกันอันตราย ที่จะเกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของตนได้ เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ตนเอง เมื่ออยู่ในสังคมได้อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย กีฬาที่ได้มากกว่าการออกกำลังกาย

อยากหุ่นสวยลองมาฝึก มวยไทย ดูสิ

อยากหุ่นสวยลองมาฝึก มวยไทย ดูสิ

อยากหุ่นสวยลองมาฝึก มวยไทย ดูสิ

สำหรับ หนุ่มสาวๆ ท่านใด กำลังมองหาวิธีฟิตหุ่นให้ออกมาดูดีมีเอวมีกบ้ามหน้าท้อง วันนี้เราจะมาแนะนำการออกกำลังกาย ที่เรียกกันว่า มวยไทย

 

มวยไทย

 

          คือกีฬาชนิดหนึ่งที่ เป็นการ ออกกำลังกาย โดยการใช้ ร่างกาย ทุกส่วนในการ ออกกำลังกาย แต่ละครั้ง และ มวยไทย ยังเป็น ศิลปะ ป้องกันตัว เป็นการต่อสู้ มวยไทย ยังเป็นกีฬา ประชาติ ไทยอีกด้วย มวยไทย นั้น มีมาตั้งแต่ สมัยโบราณ เป็น ศิลปะ การต่อสู้ที่ มีความรุนแรงสวยงาม และ มหัศจรรย์  แตกต่าง กับการต่อสู้ ของชนชาติอื่นๆ เช่น ยูโด คาราเต้ ซูโม่ เพราะว่า มวยไทย เป็นการ ใช้ร่างกาย เป็นอาวุธ ในการต่อสู้ แทบจะทุกส่วน ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ศอก เข่า เท้า มือ รวมไปถึง ศีรษะ เป็นการ ใช้ อวัยวะ ของร่างกาย มาต่อสู้โดย ปราศจากการใช้อาวุธ ใดๆ จากภายนอก แต่ถึงจะใช้ร่างกาย เป็นอาวุธ กับมีความรุนแรง และ สามารถ ทำให้คู่ต่อสู้ ได้รับบาดเจ็บ ถึงชีวิต เลยก็มี ก็ขึ้นอยู่กับ การฝึกซ้อม และ การฝึกร่างกาย แต่ถึงอย่างไร มวยไทย ก็ไม่ใช้กีฬา น่ากลัว อย่างที่คิด ถึงจะเป็นกีฬา ประเภท ต่อสู้ รุนแรง แต่ถ้าเรา ฝึกท่าทาง มวยไทย เหมือนให้เป็นการ ออกกำลังกาย เราก็ จะได้ ทั้งสกิล การป้องกันตัว และ แถมยังได้ ร่างกาย ที่แข็งแรง อีกด้วย เราฝึกหรือซ้อม มวยไทย นั้น ไม่จำเป็นต้องไป ต่อสู้หรือไปชกต้อยกับใคร เราฝึกเพื่อ อยากเรียนรู้ หลงใหลในศิลปะกาต่อสู้ หรือ อยาก ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกาย เราแข็งแรง ก็สามารถทำได้

 

ออกกำลังกาย ด้วยการฝึก มวยไทย

 

          มวยไทย ถือเป็น การออกกำลังกาย ที่เราต้องใช้ แทบจะทุกส่วนของร่างกาย ในการฝึกแต่ละครั้ง เป้าหมาย ของการฝึก หรือ ให้ร่างกายของเรา นั้นมีความแข็งแรง และนอกเหนือไปจากการให้ร่างกาย ของเรานั้นแข็งแรง แล้วยังรวมไปถึงการทำการกระตุ้น ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย ให้ทำงานได้ดีอีกด้วย และการ ฝึก มวยไทย นั้น ยังไปช่วยเพิ่ม ทักษะ ที่เกี่ยวกับ การทรงตัว ความเร็ว ไหวพริบ และ สมาธิ ให้กับ เราได้เป็นอย่างดี การฝึกซ้อม ของ มวยไทย นั้น จะช่วยให้คุณได้ใช้ กล้ามเนื้อ ทุกส่วนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การฝึก มวยไทย จึงเป็น ทางเลือก ให้กับคนที่อยาก ลดน้ำหนัก ได้เป็นอย่างดี แถม ยังเป็นการเบิร์นไขมันที่สะสม อยู่ในร่างกาย เราได้อย่างรวมเร็ว อีกด้วย และ ยังเป็นกีฬา ที่จะทำให้คุณ สนุก คลายความเครียด ได้ดีอีกด้วยนะ

 

ฝึก มวยไทย เป็นการออกกำลังกายที่สามารถ เผาผลาญพลังงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพ

 

          การฝึก มวยไทย เป็นทางเลือกให้กับคน ที่ต้องการ ออกกำลังกาย ในรูปแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) ที่จะเป็นการ ออกกำลังกาย ประเภทที่จะช่วย สร้างความแข็งแรง ของร่างกาย ความรวดเร็ว และแถมยังไปช่วยให้ร่างกาย ของเรานั้น มีพลังมากขึ้น การออกกำลังกาย ประเภทนี้ ยังไปช่วย ในการกระตุ้นการเผาผลาญ ในร่างกาย ของเรา ได้อย่างรวมเร็ว เมื่อถ้า นำมาเทียบกับการวิ่งหรือ การปั่นจักรยาน จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง นั้นเอง

 

ฝึก มวยไทย ช่วยให้หุ่นดี หน้าท้องแบบราบ

 

          การที่เรา ฝึกหรือ ซ้อมมวยไทยนั้น แน่นอนว่า สามารถทำให้ร่างกายของเรา มีหุ่นที่สวยงาม และมีหน้าท้องที่แบบราบได้อย่าแน่นอน เพราะว่า การซ้อมมวย หรือ การฝึก มวยไทย แต่ละครั้งนั้น เราจำเป็นต้องมีร่างกาย หรือ พลังงาน ที่เยอะมากๆ ดังนั้น การฝึกแต่ละครั้ง เราจะสามารถ เผาผลาญพลังงาน ได้อย่างมากมาย และ ทำให้ เรามีหุ่นที่สวย และ น้ำหนักที่จะลดลงอย่างไม่น่าเชื่อนั้นเอง

 

            ดังนั้น สาวๆ หรือ หนุ่ม ทานใด ที่กำลังมองหาวิธีการลดน้ำหนัก หรือ การที่จะหุ่น ทำให้มีหุ่นที่สวยงาม ลอง หันมาฝึก มวยไทย หรือ ออกกำลังกาย ต่อย มวยดูสิรับลองว่า จะได้ทั้งความสนุก ได้เหงื่อ แถมยังได้ระบายความเคลียด ได้ดีอีกด้วยนะ และยังเป็นกีฬาที่สามารถ นำมาป้องกันตัวและ ดูเท่อีกด้วยนะจะบอกให้

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

 

พัฒนาการของ มวยไทย ในแต่ละสมัย

มวยไทยโบราณ 4 ภาค

muaythaiera

พัฒนาการของ มวยไทย ในแต่ละสมัย

มวยไทย เป็นกีฬาประจำชาติไทยที่มีประวัติศาสตร์มาช้านาน ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้สรรสร้างไว้เป็นศิลปะป้องกันตัว ป้องกันบ้านเมือง เพื่อให้ชาติไทยอยู่ยงคงความเป็นเอกราชมาได้จนถึงปัจจุบัน

 

สมัยสุโขทัย (พ.ศ. 1781 - 1921)

ในสมัยนี้ การต่อสู้มือเปล่าด้วยวิชามวยไทย มีใช้อยู่ในการต่อสู้กับข้าศึก และเป็นการใช้ร่วมกับอาวุธต่าง ๆ สถานที่ที่เป็นสำนักฝึกสอนมวยไทยในสมัยนี้ ได้แก่ วัด บ้าน สำนักราชบัณฑิต ที่เปิดสอนวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวรวมอยู่ด้วย

 

 

สมัยอยุธยา (พ.ศ. 1893 - 2310)

สมัยนี้การถ่ายทอดวิชาการต่าง ๆ มาจากสมัยสุโขทัยอย่างต่อเนื่องกัน เช่น การฆ่าสัตว์ การคล้องช้าง การฟ้องรำ และการละเล่นต่าง ๆ และวัดก็คงเป็นสถานที่ให้ความรู้ ทั้งสามัญและฝึกความชำนาญในเชิงดาบ กระบี่กระบอง กริช มวยไทย ยิงธนู เป็นต้น

 

ต่อมาใน พ.ศ.2174 - 2233 สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นับว่าเจริญที่สุด มีนายขนมต้ม ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์มวยไทยสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน นายขนมต้ม จึงเป็นนักมวยเอกคนแรกของไทย ที่ได้ประกาศฝีมือลายมือมวยไทยในต่างแดน และยังเปรียบเสมือนกับเป็น "บิดาวิชามวยไทย" มาจนถึงทุกวันนี้

 

 

สมัยกรุงธนบุรี (พ.ศ. 2314)

พม่ายกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ และมาตีเมืองพิชัย พระยาพิชัยดาบหัก (นายทองดีฟันขาว) ซึ่งพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเข้าตากสิน) ได้โปรดให้ครองเมืองพิชัยอยู่นั้น ได้นำทัพออกต่อสู้กับพม่าจนดับหัก แต่ก็สามารถป้องกันเมืองพิชัยเอาไว้ได้ ประชาชนทั่วไปจึงเรียกว่า "พระยาพิชัยดาบหัก" ตั้งแต่นั้นมา ซึ่งต่อมาพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้แต่งตั้งนายทองดีไปครองเมืองพิชัย และมีความชอบได้เป็นถึงพระยาพิชัย ต่อมาคนในตระกูลของพระยาพิชัยดาบหักก็ได้รับราชการมาตั้งแต่สมัยนั้นจนถึงรัชกาลที่ 6 ก็ได้พระราชทานนามสกุลว่า วิชัยขัทคะ แปลว่า ดาบวิเศษของพระวิชัย

 

 

สมัยกรุงรัตนโกสินทร์

ในปีพ.ศ. 2325 ในระยะต้น รัชกาลที่ 1-5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นกษัตริย์ไทยที่ทรงโปรดการกีฬามาก เช่น สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (ร.1) ทรงโปรดกีฬามวยไทยเป็นอย่างมาก ในสมัยนั้นได้มีฝรั่งสองคนพี่น้องเข้ามาหาคู่ชกมวยชนิดมีเดิมพัน พระองค์ได้จัดส่งหมื่นผลาญ นักมวยผู้เก่งกาจขึ้นชกกับฝรั่งสองพี่น้อง แม้หมื่นผลาญจะมีร่างกายเล็กเสียเปรียบฝรั่งมาก แต่ด้วยศิลปะะมวยไทย อาวุธหมัด เท้า เข่า ศอก ฝรั่งสองพี่น้องจึงพ่ายแพ้ยับเยินกลับไป

 

ในสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) ได้โปรดให้พระเจ้าลูกยาเธอหลายพระองค์หัดเล่นกระบี่กระบอง พระองค์มีความชำนาญในกีฬามวยไทย จึงจัดให้มีการแข่งขันชกมวยขึ้นในชนบทและในกรุง นอกจากนี้ ได้ทรงแต่งตั้งผู้มีฝีมือในกีฬามวยไทยให้เป็นหัวหน้าในการจัดกีฬาและให้ยศตำแหน่งด้วย

 

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 แม้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 พ.ศ.2463 แต่ก็ได้เกิดสนามมวยขึ้นครั้งแรก ระบุว่าได้มีสนามมวยสวนกุหลาบ เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2463 คือ สนามมวยสวนกุหลาบ จัดให้มีการชกมวยไทยเป็นประจำ เมื่อแรกเริ่มนั้นให้นักมวยชกกันบนพื้นดิน ผู้ดูนั่งและยืนอยู่รอบบริเวณสังเวียน ซึ่งกว้างกว่า 20 เมตร มีการขีดเส้นกำหนดให้นั่งห้ามล้ำเข้าไปในเขตสังเวียน

 

ด้านนักมวย คาดเชือกที่พันมือด้วยด้ายดิบ สวมมงคล แม้ขณะชกก็ต้องสวมอยู่ มีผ้าประเจียดมัดไว้ที่ต้นแขนซ้ายและขวา สวมกางเกงขาสั้นมีผ้าพาดทับอย่างแน่นหนาตรงบริเวณอวัยวะสำคัญปกคลุมมาจนถึงด้านบนตรงเอว ไม่สวมเสื้อและปลายเท้าเปลือยเปล่า กรรมการแต่งกายด้วยผ้าม่วง นุ่งโจงกระเบน สวมถุงเท้าขาวเสื้อราชประแตน

 

ในสมัยปัจจุบัน ได้ทำการแข่งขัน ณ เวทีราชดำเนินและเวทีลุมพิณีเป็นประจำ และยังมีเวทีมวยที่เปิดการแข่งขันถาวรและชั่วคราวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกมากมาย ปัจจุบันมีพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 มีสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ได้จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. นี้ให้มีหน้าที่ส่งเสริม คุ้มครอง สนับสนุนและควบคุมกิจการมวยไทยในประเทศไทยให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฏหมายอีกด้วย

 

กีฬามวยไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามบริบททางสังคม โดยในขณะนี้ มวยไทย ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่ทำรายได้ให้แก่คนกลุ่มหนึ่ง ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ ทำให้คนสนใจฝึกหัดมวยไทยกันอย่างจริงจัง เพื่อเป็นอาชีพของตนเอง มีรายได้พอเลี้ยงชีพได้อย่างหนึ่ง โดยมีเงินจากการแข่งขันเป็นรางวัลตอบแทน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมพลศึกษา

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทยโบราณ 4 ภาค

อาวุธป้องกันตัวในแบบฉบับ มวยไทย

อาวุธป้องกันตัวในแบบฉบับ มวยไทย

อาวุธป้องกันตัวในแบบฉบับ มวยไทย

มวยไทย นั้น คือเป็นกีฬา ที่เน้นเป็นการ ต่อสู้เป็นหลัก ต่อสู้เพื่อชัยชนะ หรือ การต่อสู้เพื่อการ แข่งขันแต่ มวยไทย เป็นกีฬา ที่ใช้  ร่างกาย ในการต่อสู้ ไปดูดีกว่า อาวุธป้องกันตัวในแบบฉบับ มวยไทย เป็นยังไงดูกัน

                                             

                เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า มวยไทย เป็นการใช้ศิลปะ การต่อสู้ ที่ใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ในการต่อสู้ เพราะ ในการ ต่อสู้ของ มวยไทย นั้น เป็นการผสมผสาน การเคลื่อนไหว ด้วยจังหวะ และ โอกาส ในการต่อสู้ และ ต้องพละกำลังที่จะสามารถ ที่ทำให้เกิดแรง ในการต่อสู้ หรือ ออกท่าทาง แต่ละครั้ง การจู่โจมคู่ต่อสู้และป้องกันตัว นั้น ดังนั้นการฝึกหัดฝึก มวยไทย สำหรับ ผู้เรียนจึงควรต้องเรียนรู้ อย่างลึกซึ้ง ว่า เกี่ยวกับการใช้ อวัยวะ ของร่างกาย ของเรา ในการต่อสู้ และ เราจะแบบ ออก เป็นแต่ละส่วน ของร่างกาย เช่น หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอาวุธหลักๆ ของร่างกาย ในการใช้ต่อสู้ ของ มวยไทย หลายคนคงคิดสงสัยว่า มันจะสามารถ ทำความรุนแรง หรือ อันตราย ใส่คู่ต่อสู้ได้ อย่างไร แต่อย่าประมาท เพราะ หมัด เท้า เข่า ศอก นั้น เป็นอาวุธ ที่สำคัญมากๆ ของ มวยไทย เพราะ ใครที่โดน คนเป็นมวย ชก สามารถ ทำให้ ล้มทั้งยืนได้เลยทีเดียว เราจะมา ขยาย รายละเอียด ของ อาวุธของ มวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอย่างไร และ เป็นอาวุธ ให้ มวยไทย ได้อย่างไร ไปดูกัน

 

การใช้ หมัด

การใช้หมัดโดยทั่วไปเรียกกันว่า กำปั้น นัก มวยไทย ใช้เพื่อชกคู่ต่อสู้ซึ่งในศิลปะมวย เพื่อให้คู่ต่อสู้ ได้รับบาดเจ็บ และ หมัด นั้น เป็น หัวใจ สำคัญ ของอาวุธ แม่ไม้ มวยไทย เลยก็ว่าได้ การชกหมัด การชกหมัดมีหลายวิธีการนำมาใช้ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส ของแต่ การต่อสู้นั้น เพราะ เราไม่อาจจะรูได้เลย ว่าคู่ต่อสู้ จะมาในรูปแบบไหน ต้องเตรียมพร้อม รับมืออยู่ตลอดเวลา และ สามารถ แบ่งได้ก็คือ

การชกหมัดตรง หมัดตรง นั้นสามารถชกได้ ทั้งหมัดหน้า และ หมัดหลัง การชกหมัดตรง หมัดหน้านั้นนิยมเรียกกันว่า หมัดแย็บ ที่มีความรวดเร็ว และรุนแรง แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ การฝึกร่างกาย และ การฝึก มวยไทย ยิ่งฝึกมาก ความสามารถ ในการต่อสู้ก็ยิ่ง มีมากขึ้นเท่านั้น

 

การใช้เท้า

                โดยทั่วไปของ มวยไทย การใช้เท้า จะเป็นการทำให้ คู่ต่อสู้ เสียจังหวะ และสามารถ ทำให้เรา มีโอกาส ออกหมัดใส่คู่ หรือ สวนกลับได้นั้นเอง การใช้เท้านั้น ส่วนมาก จะเป็น การทีบ การเตะ ที่จะทำให้ คู่ต่อสู้เสียหลักได้นั้นเอง อาวุธสำหรับเก็บคู่ต่อสู้ได้เพราะการถีบ ที่รุนแรง บริเวณใบหน้า ทำให้สายตา และศีรษะ นั้นสามารถได้รับความ บาดเจ็บ ได้ การถีบรุนแรงบริเวณลิ้นปี่ และ บริเวณ ท้องน้อยทำให้เกิดอาการจุกเสียดได้  และการถีบที่รุนแรงบริเวณต้นขา และ หัวเข่าที่คู่ต่อสู้ นั้นเตะมาทำให้กล้ามเนื้อหรือเข่าพลิกได้เช่นกันการถีบทำได้โดยใช้เท่าหน้าและเท้าหลัง นั้นเอง เห็นไหมว่า การใช้ เท้า ถือว่า เป็น อาวุธ ที่อันตรายมากๆ ของ มวยไทย เลยก็ว่าได้

 

การใช้ เข่า

                อาวุธ ของ มวยไทย ที่เราได้พูดถึง นั้น ไม่ว่า จะเป็น หมัด เท้า ยังมีอาวุธที่ถือได้ ว่ารุนแรงและ อันตราย ที่สุดก็คือ เข่า เพราะ เข่า นั้น เป็นการใช้ อวัยวะที่มีมุม และ มีความแข็งแรงมากๆ นั้น คือ หัวเข่า เข้าไปปะทะ ที่ ร่างกาย ของคู่ต่อสู้ แต่ การที่เราจะใช้ เข่า ทำร้ายคู่ต่อสู้นั้น ถือว่ามีโอกาส ที่น้อยมากๆ เพราะ ไม่มีคู่ต่อสู้ คนไหน ที่จะเปิดโอกาส ให้เราใช่ เข่า อย่างแน่นอน ดังนั้น การที่เราจะใช้ เข่า ในการต่อสู้นั้น ต้องอาศัยโอกาส และวิธีการ ต่างๆ เช่น กอด รัด ปล้ำ และเหนื่ยวรั้งคู่ต่อสู้มาตีเข่าให้ได้ นั้นเอง โดยธรรมชาติ นั้น การทำแบบนี้ เป็นเรื่องที่หา โอกาส และ ทำยากมากๆ หรือ สำหรับ บางคน ที่กำลัง เช่น กอด รัด ปล้ำ และเหนื่ยวรั้ง คู่ต่อสู้นั้น อาจไปโดน คู่ต่อสู้ ทำใส่สะเอง การ ตีเข่า จึงเป็นศิลปะขั้นสูงอีกอย่างหนึ่งในกีฬาประเภท มวยไทย นั้นเอง

 

การใช้ ศอก

                ศอกเป็นอาวุธอันตราย ไม่แพ้ไปกว่า หมัด เท้า เข่า เลยทีเดียว เพราะ ศอกนั้น เป็นมุมที่แข็งแกรง อีก หนึ่งมุม ของร่างกายของเรา และ แถมยังเป็นอาวุธ ที่อันตรายมากๆ ในระยะประชิต ที่จะสามารถ ทำคู่ต่อสู้ น็อคได้เลยทีเดียว

 

                เป็นยังไงกันบ้าง กับ อาวุธป้องกันตัวในแบบฉบับ มวยไทย เห็นไหมว่า มวยไทย นั้น ใช้ทุกส่วนของร่างกาย ของเรา มาเป็น อาวุธ ที่รุงแรง และแข็งแกร่ง ในการต่อสู้จริงๆ แต่ถึงอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการ ฝึกฝน ร่างกาย และ หมั่นซ้อม มวยไทย เป็นประจำ การฝึกฝน และ ซ้อม มวยไทย นั้น เป็นการ ออกกำลังกายที่ดีมากๆ แถมยังได้ ศิลปะการป้องกันตัวได้อีกต่างหาก นะจะบอกให้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

ศาสตราวุธของมวยไทยที่อันตรายที่สุด

เปิดประวัติ มวยไทย

มวยไทย กีฬาที่ได้มากกว่าการออกกำลังกาย

มวยไทย กีฬาที่ได้มากกว่าการออกกำลังกาย

สำหรับ มวยไทย นั้นถือได้ว่าเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมากๆและ มวยไทย นั้นไม่ใช่เป็นแค่กีฬาออกกำลังกายแต่ยังเป็นการฝึกการป้องกันตัวแถม เป็นการก้ามข้ามขีดจำกัดของตัวเองอีกด้วยนะจะบอก

 

มวยไทย ถือเป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม และมีคนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นคนในประเทศ หรือ คนต่างประเทศ ต่างพากัน ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ ชาวต่างชาติ ที่ให้ความสนใจ กันอย่างจริงจัง ถึงขนาดมีค่ายมวย หรือ การแข่งขัน มวยไทย อยู่ที่ต่างประเทศกันเลยก็มี เพราะ ด้วยความน่าสนใจ และ ประวัติอันยาวนาน ที่มีมาอย่างช้านาน ทำให้กีฬา ที่มีชื่อว่า มวยไทย ได้รับความนิยม กันอย่างแพร่หลายกันเลยทีเดียว

 

ด้วยความนิยม และ คนที่ชื่นชอบในกีฬา มวยไทย นั้น มีมากหมาย หลากลาย เชื้อชาติ ทำให้ มวยไทย ได้เป็นที่ยอมรับ และ เป็นที่นิยมไม่ใช้แค่ วงการกีฬา แต่ยังรวมไปถึง วงการภาพยนตร์ และ วงการเกมที่ได้รับความนิยม และได้ไปผลิต เป็นสื่อต่างๆ มากมาย เช่นวงการเกม ก็ได้นำเอาศิลปะ การต่อสู้มาเป็นท่าทางในเกม และ ได้นำเอานักกีฬา มวยไทย ชื่อดังไปทำเป็นเกมก็มีมาให้เห็นกันแล้ว แต่ก็ไม่ใช่แค่ วงการเกมเพียงอย่างเดียว วงการภาพยนตร์ ก็ได้นำเอา มวยไทย ไปทำเป็น หนัง หรือ ผลิตเป็นสื่อ ให้ผู้คนได้รับชม และ ดูกันอย่างมากมาย นั้นจึงทำให้ มวยไทย ประเภทนี้นั้น ได้รับความนิยม และ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายนั้นเอง

มวยไทย ไม่ใช่แค่เป็นกีฬา ที่ใครๆมองว่า เป็นกีฬาการต่อสู้ เป็นกีฬาที่มีความรุนแรง แต่กีฬา ประเภท ชกมวย ต่อยมวย นั้น ยังมีความหมายอีกมากมาย เช่น ศิลปะท่าทางอันสวยงาม ประวัติความเป็นมาที่ถ้าใครรู้แล้วอาจจะชื่นชอบกีฬา ประเภทนี้เลยก็ได้และ การออกกำลังกายด้วยกีฬา มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่ทำให้ร่างกาย ของเรา แข็งแรง และ สามารถทำให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้ อีกด้วย เราไปดูกันดีกว่าว่า มวยไทย นั้น ให้อะไรกับเราบ้าง

 

มวยไทย ช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม

           

                การ ชกมวย นั้นสามารถ ช่วยเสริมสร้างความ แข็งแกร่ง ของกล้ามเนื้อ และ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ นอกจากนี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ยัง จะเป็นกีฬา ที่เน้น เรื่องของร่างกาย แทบจะทุกส่วนของร่างกายเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนบน ส่วนล่าง หรือ กลางลำตัว เป้าหมายของการต่อยมวย นั้นก็ คือ ทำให้ทุกส่วนของ ร่างกาย ของเรา ได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความ แข็งแรง ของร่างกาย ของเรา และระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชก มวย ยังช่วย เพิ่มการ ฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงาน ประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

มวยไทย ช่วยลดความเครียดได้ดี

 

            การที่เราต้อง เจอกับปัญหา ทุกวันที่เข้ามาหาคุณ สำหรับใครๆ หลายๆ ท่าน ที่ออกจากบ้านไปทำงาน หรือ ไปเรียน ต่างคนก็ต่างเจอปัญหา ที่ทำให้ชีวิต ของเราเกิดความเครียด ไม่มีความสุข และ สำหรับใครๆ ที่กำลังมองหา วิธีการระบายความเครียด เพราะการฝึก มวยไทย เป็นการที่เราได้ออกแรงระบายความเครียดได้เป็นอย่างดี เราลอง ชกกระสอบทรายระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีนและฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมา ระหว่างการใช้แรง และสามารถ ส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกายของเราได้อีกด้วย การ ต่อยมวย นั้นจึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพ ของเรานั้นเอง

 

มวยไทย คือศิลปะป้องกันตัว

 

          สำหรับสาวๆคนไหน ที่กำลังมองหา ศิลปะ การป้องกันตัวแล้วละก็ เราขอแนะนำ มวยไทย เป็นกีฬา ที่บอกได้เลยว่า ใครหน้าไหน พอรู้ว่าเราเป็นมวย แทบจะไม่กล้ายุ่งกับเรา เพราะ สาวๆ คนไหนที่ เคยฝึกหรือผ่านการฝึก มวยไทย มาแล้ว คงจะรู้ดีว่า มวยไทย นั้น สามารถ ทำท่าทางในการฝึก มาใช้จริงได้นั้นเอง เพราะ มวยไทย ถือเป็น ศิลปะการ ป้องกันตัวที่ ช่วยตัวเราจากอันตรายได้จริงๆ นะจะบอกให้

 

            เป็นยังไงกันบ้าง สำหรับความรู้เกี่ยวกับ มวยไทย ที่ใครๆ หลายๆ ท่านที่ได้อ่านแล้ว อยากจะลองฝึก หรือ ลองเข้ามาศึกษา วงการ มวยไทย กันมาบ้างรึยัง เรากล้าพูดเลยว่า มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่สามารถ สร้างความสนุก สร้างร่างกาย ของเรา ได้ดีและ แถมยัง เป็นกีฬา ที่สามารถ สร้างรายได้อาชีพ ให้เราอีกด้วย สำหรับ ใครที่สนใจ ในเรื่อง ของ มวยไทย ลอง ศึกษา เพื่อจะหลงรัก ในศิลปะการต่อสู้ของไทย เราที่มีชื่อว่า มวยไทย ก็เป็นไปได้นะ

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

มาต่อยมวย สร้างหน้าท้องที่แข็งแกร่ง กันเถอะ

วิธีต่อยมวยไทย เพิ่มผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกาย

รวมท่าทางการต่อสู้ของ มวยไทย

รวมท่าทางการต่อสู้ของ มวยไทย

 

แน่นอนว่า มวยไทย เป็น ศิลปะการต่อสู้ ที่ต้องใช้พลังกำลัง และ ความอดทนอย่างมาก มวยไทย ถือได้เลยว่า เป็นการต่อสู้ ที่ต้องใช้ทุกส่วนของร่ายกาย ไม่ว่าจะเป็น หมัด ศอก เข่า เท้า วันนี้เราจะมาแนะนำว่า แต่ละส่วนนั้นใช้แบบนั้นกันบ้างไปดูกัน

 

                มวยไทย เป็น การออกกำลังกาย ของร่ายกาย ที่ใช้แทบ จะทุกส่วนของร่ายกาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ยาวไปตลอดจน ถึงเท้าของเราเลยที่เดียว และ ยังเป็นกิจกรรม ที่เรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี และยังเป็น กีฬา ประจำประเทศไทยอีกด้วย เพราะ ต่างชาติ ให้ความสนใจ มวยไทย เป็นจำนวนมาก ด้วยการแข่งขันสุดมัน ดุเดือด กับเงินรางวัล ที่มากมาย ทำให้ มวยไทย เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม อย่างมาก วันนี้ เราจะมา แนะนำ ท่าทาง เบื้องต้น ของการ ชกมวย ไปดูกันดีกว่า แต่ละส่วนของร่างกาย นั้น ใช้อะไรกันบ้าง และ ขยับ ออกท่าทางอย่าไร

 

หมัด

เป็นการออกหมัด ที่เรียกเลยว่า เป็นการออกท่าทาง ที่ง่ายที่สุด ของการ ฝึก มวยไทย เพราะ การออกหมัด ไปข้างหน้านั้น อาจดูเป็นเรื่องง่าย แต่ เราต้องออกแรง ให้ร่างกาย ส่งแรงไปที่หมัดของเรา ทำให้เกิดแรง ที่หมัดออกไปสู่คู่ต่อสู้ของเรานั้นเอง เริ่มง่ายๆ ให้เรายืดปลายเท้า ห่างกันพอประมาณ กำหมัด ทั้งสองข้างให้แน่นๆ แล้วเอาขึ้นมา อยู่ที่ระดับอก เก็บศอกแนบลำตัว ตามองตรงไปข้างหน้า ก้าวเท้า ซ้ายเล็กน้อยพร้อมชก หมัดขวา ไปด้านหน้าให้แขนเรานั้น ขนานไปกับ พื้นดิน ให้เปิดสนเท้าขวาทิ้งน้ำหนักไปทาง เท้าซ้าย จากนั้นให้เรากลับมา อยู่ที่ท่าเตรียม ให้ทำแต่สลับด้านไปด้านมา ไปเลื่อยๆ เพิ่มความเร็ว และ ความแรงไปเรื่อยๆ ในแต่ละครั้ง

 

ศอก

ศอก ถือเป็นอาวุธ ชิ้นสำคัญ อีกชิ้น ของการออกท่าทาง การต่อสู้ของ มวยไทย ด้วยความแข็งของกระดูกที่อยู่ตรงศอก ของเรา ทำให้ ท่านี้เป็นท่าที่ อันตราย และรุนแรงเลยทีเดียว อาจทำให้เลือดตกยางออกกันได้เลย สำหรับท่านี้ ให้เราเริ่มต้นจาก การทำท่าเตรียม  ด้วยการกำหมัด ทั้งสองข้างไว้ที่ระดับอกของเรา จากนั้น ให้เราก้าวเท้าขวา ไปด้านขวา ตามด้วยการเหวี่ยง แขนซ้าย ให้ข้อศอกตั้งฉาก กับหมัดขวา และ ให้บิดลำตัวเพียงเล็กน้อย บิดส้นเท้าซ้าย แล้วกลับมาท่าเตรียม ทำสลับ และเพิ่มความเร็ว และ ความแรงไปเรื่อยๆ ศอก นั้น สามารถ เป็นท่าได้หลายท่า ของ มวยไทย แล้วแต่การต่อสู้ และ โอกาส ของการต่อสู้นั้นๆ

 

เท้า

เท้า เรา ในการ ชกมวยนั้น เป็น อาวุธ ที่จำเป็นอย่างมาก ในกีฬา มวยไทย ถึง มวยสากล นั้นจะมี กฎกติกา ที่ห้ามใช้เท้า แต่มวยไทย นั้น ถือว่าเป็นอาวุธที่สำคัญมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการ แตะ การถีบ ล้วนแล้ว เป็นอาวุธที่รุนแรง และ อันตรายอย่างมาก ในการต่อสู้ด้วยมือป่าว การใช้เท้าในการ ถีบ นั้น ให้เราเริ่มจากการ กำหมัด ทั้งสองข้าง ให้ตั้งฉากอยู่ในระดับ อกของเรา และแนบแขนชิด ลำตัวเอาไว้ ตามองตรงไปข้างหน้า หลังจากนั้น ให้งอเข่าเล็ก เพียงเล็กน้อย พร้อมกับออกท่า เตะขาออกไปข้างหน้า แต่ปลายเท้านั้น ต้องตั้งฉาก เท่าที่เราจะทำได้ และ กลับมาสู่ท่าเตรียม ให้ทำแบบนี้ ฝึกไปเรื่อยๆ

 

เข่า

เข่านั้น เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างในการ ต่อสู้ มวยไทย นั้น ใช้ทุกส่วนของร่ายกาย ตั้งแต่ ศีรษะ เราไปจนถึงเท่ากันเลยทีเดียว รวมไปถึงเข่า เป็นอาวุธ ที่รุนแรง อีก หนึ่งวิธี ให้เรา เริ่มต้นด้วยการกำหมัดทั้งสองข้าง แล้วให้ตั้งฉากกับหน้าอก ของเรา หลังจากนั้นให้ แนบแขนให้ชิดลำตัวเช่นเดิม แล้วจากนั้นให้ยกเข่าขวาขึ้นสูงเท่าที่เราจะสามารถ ทำได้ พร้อมกับเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย และให้กลับมาที่ท่าเริ่มต้น ฝึกไปเรื่อยๆ แต่ละครั้ง ให้ฝึก ความเร็ว ความรุนแรงไปเรื่อยๆ

 

                มวยไทย นั้น ถึงเราจะใช้ หมัด ศอก เท้า เข่า หรือ ศีรษะ แล้ว แต่ละ ท่านั้น จะมี ท่าทาง และ ชื่อท่าของตัวมันด้วยเช่นกัน เช่น สลับฟันปลา ปักษาแหวกรัง ชวาซัดหอก อิเหนาแทงกฤช ยกเขาพระสุเมรุ จระเข้ฟาดหาง แต่ละท่านั้น คงเคยคุ้นหูคุ้น ชื่อกันมา แล้ว เพราะแต่ละท่า ได้รับความนิยม ไปใช้ใน ภาพยนตร์  หรือ เกม ส่วนใหญ่ และ แต่ละท่านั้น ก็มีพื้นฐาน มา หมัด ศอก เท้า เข่า หรือ ศีรษะ ทั้งนั้น อยู่ที่ความคิด และ จินตนาการ ให้การ ออกท่าทาง ของตัวคุณเอง ฝึกซ้อมบ่อยๆ แล้วเราจะ ขยับร่างกาย ได้อย่าง คล่องแคล่ว ว่องไว  

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

มวยตับจากคืออะไร

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

สร้างสมดุลของ ร่างกาย ได้ง่ายๆด้วย มวยไทย

สร้างสมดุลของ ร่างกาย ได้ง่ายๆด้วย มวยไทย

มวยไทย ( Muay thai ) ถือได้เลย ว่าเป็นกีฬา อีกหนึ่งประเภท ที่ต้องใช้ความสามารถ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น สมาธิ ความเร็ว ความแข็งแรง และ ยังช่วย สร้างสมดุลร่างกาย ให้กับร่างกาย ของเราได้ เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่ได้ รับความนิยม อยากมากมาย และ เป็นที่นิยม ของ ใครๆ หลายๆ ท่าน เป็นอย่างดี ในการ ทำกิจกรรม ออกกำลังกาย เพราะ การ ฝึก มวยไทย ( Muay thai ) เป็นการ ที่เราต้อง ใช้ ออวัยวะของร่างกาย แทบจะทุกส่วน เลยก็ว่าได้ ไม่ว่า จะเป็น ศีรษะ ไปจนถึง เท้า ไม่ใช่แค่ อวัยวะ เพียง อย่างเดียว เราต้อง มีร่างกาย ที่แข็งแรง อีกด้วย มวยไทย ( Muay thai ) ต้องใช้ทั้ง ความเร็ว ความอดทน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพราะ กีฬา มวยไทยคือ การที่เรา ต้องออกไปต่อสู้ กับคู่ต่อสู้ ซึ่ง สามารถ ทำให้เรา ได้รับบาดเจ็บ ได้นั้นเอง แต่ ถ้าเรา ยิ่ง ฝึกซ้อม ร่างกาย มาเป็นอย่างดี แน่นอนว่า ร่างกาย ของเรา จะมีความทนทาน แข็งแรง และ ยังไปช่วย สร้าง สมดุล ร่างกาย ได้ดี และ มีประสิทธ์ภาพอย่างมาก เราไปดูดีกว่า กีฬา มวยไทย ( Muay thai ) นั้น จะสามารถ สร้าง สมดุล ให้กับ ร่างกาย ของเรา ได้อย่างไร

 

สร้างสมดุลให้ ร่างกาย ด้วย มวยไทย

 

            การฝึก หรือ การซ้อม มวยไทย นั้น เป็นที่รู้กันดีว่า มวยไทย เป็นกีฬา ที่ต้องใช้ ความอดทนของ ร่างกาย แทบจะทุกส่วนเลย ไม่ว่าจะเป็น ความเร็ว สมาธิ ความว่องไว และ ปัญญา การที่เรา ฝึก หรือ ซ้อม มวยไทย ทุกวันนั้น ไม่ใช้แค่จะทำให้ ร่างกาย ของเรา แข็งแรง ยังไปทำให้ร่างกาย ของเรา มีความ สมดุล อีกด้วย อีกทั้ง ยังไปช่วยสร้าง กล้ามเนื้อ ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ได้เป็นอย่างดี รับลองได้เลย ใคร ที่กำลังฝึก มวยไทย อยู่นั้น คุณจะได้ ทั้งความว่องไว สมาธิ ไหวพริบ เพิ่มมากขึ้นแน่นอน

 

มวยไทย ช่วยลดความเครียด

 

          ในแต่ ละ วันนั้น แน่นอนว่า เราต้องพบ ต้อง เจอ กับ อะไรหลายๆ ที่เข้ามาหาเราในแต่ละวัน ความเครียด ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเครียด จากการ ทำงาน ความเครียด จากเรื่องเรียน เรื่องแฟน เรื่องเพื่อน หรือ เรื่อง ครอบครัว เรา มักจะมีความเครียด สะสม อยู่ในตัวกันทั้งนั้น ถ้าเราอยากระบาย ความเครียด แถม ยังได้ประโยชน์ ให้แก่ ร่างกาย ของเรา เราขอแนะนำ ลองไป ซ้อม มวยไทย ดูสิ เพื่อช่วยให้คุณ หายเครียดได้นะ เพราะ การ ฝึก หรือ การซ้อม มวยไทย นั้น เป็นการ ออกกำลังกาย ที่ ได้ทั้ง ความสนุก ได้ใส่อารมณ์ ได้เต็มที่ ยิ่งเราได้ ปล่อย หมัด หรือ ปล่อยลูกเตะ ใส่ กระสอบทราย แล้วละก็ อาจทำให้ เราได้ระบายอารม ได้อย่างเต็มที่  เพราะ ถ้ายิ่งเรา ออกกำลังกาย มากเท่าไหร่ ร่างกาย ขอเราก็ จะหลั่ง ฮอร์โมนเอนโดรฟีนที่ทำให้เรามีความสุข ได้นั้นเอง ดังนั้นการชก มวย จะทำให้ ร่างกาย หลั่งฮอร์โมนประเภทนี้ออกมา ได้อย่างเต็มทีอีกด้วย

 

มวยไทย ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

 

          สำหรับการ ออกกำลังกาย ในการ ซ้อม หรือ การฝึก มวยไทย นั้น จะสามารถ ช่วยให้เรา เผาผลาญแคลอรี่ ในร่างกาย ของเราได้อย่างรวดเร็ว สำหรับ หนุ่มๆ สาวๆ ที่กำลัง มองหาวิธี ลดความอ้วนอยู่ เราขอแนะนำ ลองมา ฝึก มาซ้อม มวยไทย ดูสิ เราจะได้ ทั้ง หุ่นที่ดี กล้ามเนื้อ ที่แข็งแรง และ รับลองได้เลย ว่า จะช่วยคุณลดความอ้วน ได้เป็น อย่างดี แน่นอน

 

เป็นยังไง กันบ้าง กับการ ออกกำลังกาย ด้วย กีฬา ประเภท มวยไทย ที่จะได้ ทั้ง ความแข็งแรง ได้ ทั้ง สมาธิ ที่เพิ่มมากขึ้น แถม ยังได้ หุ่น กล้ามเนื้อที่เพิ่ม ขึ้นอีกด้วย แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าเราจะ ออกกำลังกาย แบบไหน ไม่ว่าจะ วิ่ง จะ เตะบอล เล่นบาส ก็สามารถ ทำให้ ร่างกาย สร้างความสมดุล ได้เหมือนกัน ถ้า เราทำมันทุกวัน อดทน และ ขยัน แน่นอนว่า จะสามารถ ทำให้ ร่างกาย ของเราแข็งแรง ได้อย่างแน่นอน แล้วก็ ที่สำคัญ อย่างลืม พักผ่อน ให้เพียงพอ รับประทาน อาหารที่มีประโยชน์ ด้วยละ

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

 

เรื่องง่ายๆที่นักชกควรรู้! พันข้อมืออย่างไร ไม่ให้เจ็บมือ

 

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

มาเรียนรู้พื้นฐานเบี้องต้นของ มวยไทย ก่อนฝึกจริงกันเถอะ

มาเรียนรู้พื้นฐานเบี้องต้นของ มวยไทย ก่อนฝึกจริงกันเถอะ

มวยไทย ถือได้เลยว่า เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นไทย หรือ ต่างประเทศ ต่างพากันสนใจใน กีฬา ประเภท วันนี้เราจะแนะนำ ความรู้ พื้นฐาน เบี้องต้นของ มวยไทย ก่อนจะฝึกจริง ไปดูกันมีอะไรบ้าง

 

 

            มวยไทย ถือได้เลยว่า เป็นศิลปะการ ต่อสู้ ที่ใช้พละกำลัง มากมาย ในการขึ้นชก แต่ละครั้ง และมวยไทย ถือได้เลยว่า เป็นกีฬา ที่มีประวัติติศาสตร์ ที่มีมาอย่าง ยาวนาน มีประวัติ ความเป็นมามากมาย และ แถม ผู้คน ชอบเอา เรื่องราวของ มวยไทย มาสร้างเป็น หนัง หรือ ภาพยนตร์ รวมไปถึง เกม ก็เคยมี คนต่างชาติ นำเอา ศิลปะการต่อสู้ ของมวยไทย ไปใส่ไว้ในเกมต่างๆ รู้แบบนี้คงพอ เข้าใจกันแล้วว่า มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่ได้รับความนิยา มากมาย ไม่ใช่ แค่การต่อสู้ ธรรมดาๆ แต่เป็น กีฬา ที่มีประวัติ ศิลปะ ที่สวยงาม อีกด้วย

 

การฝึก มวยไทย นั้น เป็น  ฝึกให้ร่างกาย ของเรา ได้ฝึกทั้ง ความอดทน ความแข็งแรง สมาธิ รวมไปถึง การก้าวข้ามขีดจำกัด ของตัวเอง เพราะ ในการฝึก หรือ การซ้อม มวยไทย นั้น ทั้งหนัก และ นาน กว่าจะได้ร่างกาย ที่พร้อม ขึ้นสังเวียน เพื่อไปขึ้นชก กับคู่ต่อสู้ แต่ สำหรับ ใครๆ หลาย ท่าน ที่อยาก ฝึก มวยไทย เพราะ อยากมีประสบ การ หรือ ชื่นชอบ ในศิลปะการต่อสู้ในแบบ มวยไทย เราไม่จำเป็นต้อง ฝึกหนัก เหมือนกับ นักมวย อาชีพ เพียง ขยัน และ อดทนในการฝึก เริ่ม จาก ฝึกครั้งพื้นฐานไป เรื่อยๆ ถือได้เลยว่า เป็นการ ออกกำลังกาย ที่ดี และ เรียกเหงื่อ ได้ดีเลยทีเดียว

 

ผู้ที่ จะเริ่มฝึก มวยไทย นั้น จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีความ เข้าใจเกี่ยวกับ การฝึก ขยับร่างกาย ต่างๆ เพราะ มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่เราต้อง ขยับร่างกาย ทั้ง ร่ายกาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ แขน ขา เข่า รวมไปถึง เท้า และ ความ แข็งแรง ของ ร่างกาย ความเร็ว ดังนั้น การฝึก มวยไทย นั้น เราต้องมาเรียนรู้พื้นฐานกัน ก่อนว่า อวัยวะ แต่ละส่วนของ ร่างกาย เรานั้น ขยับ ยังไง เป็นขั้นพื้นฐาน ในการเรียนรู้การ ฝึกมวยไทย

 

อวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ล้วนแล้วเป็นอาวุธ ในการต่อสู้ ของ มวยไทย แต่ละ อวัยวะ นั้น จะต้องมีความแข็งแรง และ รวมเร็ว ในการขยับร่างกาย แต่ละครั้ง เราจะมาบอก อวัยวะแต่ละส่วนของ ร่างกาย ที่ใช้เป็น อาวุธ ในการต่อสู้ ของมวยไทย

 

ท่อนแขน เป็นการ ใช้แขน ท่อนล่างตั้งแต่ ใต้ศอกยาวลงไปถึงข้อมือ ใช้สำหรับ ออกท่าทาง การต่อสู้ เช่น ใช้ฟัน สับ กด ปัด เปิด หนีบ

 

ฝ่ามือ เป็นการขยับฝ่ามือ ใช้สำหรับ ในการ ผลัก ปัด ตบ กระแทก รัด หรือ บีบ คู่ต้อสู้

 

หมัด เป็น อาวุธ ในการต่อสู้ ที่สำคัญมากๆ ในการ ต่อสู้ ของ มวยไทย เพราะ เป็น อาวุธสำคัญ ในการชกคู่ต่อสู้ ต้องมีความเร็ว และ รุนแรง ใช้สำหรับ ต่อย ทุบ กระทุ้ง กระแทก ชก

 

ศอก เป็นการ งอแขนเราให้เกิดมุม จะเป็นกระดูก ของกล้ามเนื้อ เป็นอาวุธ ต่อสู้ของ นักมวย ที่รุนแรง และอันตรายๆ สามารถ ทำให้ เลือกตกยางออกได้เลย ช้ำสำหรับ กระแทก งัด แทง ปัก ฟัน สับ

 

เข่า เป็นการ ทบขาท่อนบน และ ท่อนล่าง ให้เกิดมุม แหลม ช้ำสหรับ การ กด กระแทก กระทุ้ง ยัด โยก ถ้าไม่ระวังตัวในการต่อสู้ เข่า สามารถทำให้คุณแพ้ ได้เลยทีเดียว

 

ฝ่าเท้า เป็นการทำให้ คู่ต่อสู้สามารถ กระเด็นออกไปได้ ไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะ อาจทำให้คุณล้มลงไปนอนกับเพื้นได้นะ

 

ศีรษะ นี้ก็เป็นอีกหนึ่ง อาวุธ ที่ รุนแรง เหมือนกัน สามารถ ทำให้คู่ต่อสู้ เราน็อคได้เลย ใช้ในการ กระแทก โขก กด

 

            นี้เป็น แค่ส่วน หนึ่งของการ ฝึก หรือ การเข้าใจใน ท่าทางของ มวยไทย เป็นแค่ พื้นฐาน ในการขยับร่างกาย หรือ การใช้ร่างกาย ในการ ต่อสู้ ยังมีอีกมากมาย ที่เราต้องใช้ ในการ ฝึกซ้อม เพื่อที่จะทำให้เรา เก่ง และ สามารถ ไปขึ้นชกได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

 

อาหารที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่ง

5 นักมวยในตำนานขวัญใจคนไทย

มวยไทย กับการฝึกทักษะให้กับร่างกาย

มวยไทย กับการฝึกทักษะให้กับร่างกาย

สำหรับ หนุ่ม หรือ สาวๆ ท่านใด ที่อยากได้หุ่นที่สวยดูดีและอยากเสริมสร้างฝึก ทักษะให้กับร่างกายของเรา วันนี้เราจะมาแนะนำ กิจกรรม มวยไทย ที่จะช่วยฝึกทักษะให้กับร่างกายของเรา

 

มวยไทย นั้น ถือเป็นกีฬา ที่ได้รับ ความนิยม ที่คนช่วยใหญ่ ให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือ กลุ่ม คนชรา ก็ให้ความสนใจ มวยไทย ไม่ว่าจะเป็นการ ฝึกซ้อม การชมในความบันเทิง แถม มวยไทยนั้น ยังเป็นที่นิยม ในกลุ่มสื่อในหลายๆกลุ่ม เช่น กลุ่มภาพยนตร์ การ์ตูน รวมไปถึง เกม ก็ได้เอา มวยไทย หรือ ศิลปะ ท่าทางการต่อสู้ ต่างๆ นำไปใช้ หรือ นำไป ทำเป็นหนัง ให้คนได้ชม กัน และแถมยังได้ความนิ ยมมากมาย ทำให้ ต่างชาติ มีคนสนใจในการ ฝึกมวยไทย และ มวยไทยนั้น ยังมีประวัติ อันยาวนาน ตั้งแต่ ใน สมัยกรุงสุโขทัย และยังถือว่า มวยไทย ยังเป็น กีฬา ประจำชาติไทยอีกด้วย

 

การฝึก มวยไทย นั้น เป็นการออกกำลังกาย ที่ต้อง ใช้ทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ลงมาจนถึง เท้าของเรา ที่ต้อง ใช่ทุกส่วน ทั้งประสาทสัมผัส ความเร็ว ไหวพริบ และต้องเป็นคน ช่างสังเกต เพราะ การ ฝึกมวยไทย แต่ละครั้ง ต้องใช่พลังงาน อยากมาก ยิ่ง สำหรับ คนที่ เป็นนักมวย อาชีพแล้ว ต้องฝึกซ้อม ไปแข่ง หรอ ขึ้นสังเวียน เพื่อที่จะไปล้ม คู่ต่อสู้ ให้ได้ ดังนั้น ต้องใช่ความสามารถ ทั้งร่างกาย และ จิตใจ ที่สูงมาก และ วันนี้เราจะมาบอกว่า มวยไทย ฝึกทักษะ อะไรให้กับเรากันบ้างไปดูกัน

 

1.มวยไทย ช่วยฝึกวินัย

            สำหรับ นักมวย หรือ คนที่ฝึกซ้อมมวย แล้ว จำเป็น ที่จะต้อง ฝึกมวย ซ้ำๆ กันไป ในทุกๆ วัน ย้ำว่า ต้องฝึก และ ออกกำลังกาย ทุกวันจริงๆ เพื่อให้ร่างกาย มีความแข็งแรง และ สร้างกล้ามเนื้อ ให้กับร่างกาย ที่สำคัญ ต้องดูแลร่างกาย ให้พร้อม อยู่เสมอ เพื่อที่จะไปแข่ง หรือ จะไปขึ้นสังเวียน ดังนั้น มวยไทย จะเป็นคนที่ตรงต่อเวลา มีวินัยในการ ซ้อม นั้นเอง

 

2. มวยไทย ช่วยฝึกความมีไหวพริบ

 

            มวยไทย นั้น เป็นกีฬา ที่ต้องใช่ความสามารถ ทุกส่วนของร่างกาย และ ไหวพริบ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการ ฝึก มวยไทย  เพราะ ในการฝึก แต่ละครั้ง เราต้องมี สติ ไหวพริบ สมาธิจดจ่อ กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งเราฝึกซ้อม มวยไทย  เป็นประจำอย่าต่อเนื่อง ทุกวัน แน่นอนว่า ไหวพริบ สติ สมาธิ เราจะดีมากขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอน

 

3.มวยไทย ช่วยฝึกความอดทน

 

            กีฬา มวยไทย เป็นกีฬา ที่ต้องใช่ความอดทน เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการ ฝึกซ้อม การแข่งขัน ในแต่ละ การฝึกเราต้อง ใช้ร่างกาย ในการฝึกเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการ ชก การออกหมัด การขยับตัวไปมา นั้นเป็นการ ฝึกความอดทนไปในตัว แน่นอนเลยว่า การฝึก มวยไทย นั้น สามารถ ช่วยฝึกความอดทนได้ดีเลยทีเดียว

 

4. มวยไทย ช่วยในการตัดสินใจ

 

            มวยไทย แม้จะวางแผนก่อนชกไว้ดียังไง ยังไงก็ตาม แต่เมื่อ เราขึ้นชกจริงก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากคู่ต่อสู้อาจเตรียมรับมือไว้แล้ว ทำให้เราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา และต้องตัดสินใจ และหาวิธี แก้ไข้เปลี่ยนรูปแบบการชกใหม่ หรือเปลี่ยนแผนในการชกใหม่ ทำให้การต่อยมวยทำให้เรากลายเป็นคนที่กล้าจะตัดสินใจ

 

5. มวยไทย ทำให้ทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี

            กีฬามวย เป็นกีฬา ที่ต้อง แข่งขัน ใช้ความสามารถ ของตัวเองที่สูงมาก เพราะ การแข่งขัน หรือ การขึ้นสังเวียน แต่ละครั้ง เราต้องเจอกับคู่ต่อสู้ ของเรา แบบ ตัวต่อตัว และคนดูอีกมากมาย ที่พร้อมให้คุณได้รับแรงกดดัน ที่สูงมากๆ ยังไม่รวมถึงคู่ต่อสู้ ที่จะสร้างแรงกดดัน ให้คุณได้เป็นอย่างดี แต่การที่คุณเจอสิ่งเหล่านี้ บ่อยๆ หรือ มีประสบการ ในการแข่งที่เยอะ ความกดดันเหล่านี้ก็จะหายไป และสามารถ ทนแรงกดดันได้ดีกว่า คนทั่วไปนั้นเอง

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

อินเทรนด์ง่ายๆ ด้วยกีฬามวย

 

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

พื้นฐานการเล่นมวยไทย

พื้นฐานการเล่นมวยไทย

ปัจจุบันมวยไทยมีความนิยมมากขึ้น แต่การจะเล่นมวยไทยไม่ได้จะเล่นง่าย ๆ ต้องมีการฝึกฝน ดั่งเช่นกีฬาอื่น ๆ ก็ต้องมีการฝึกเช่นกัน วันนี้เราจึงมาแนะนำพื้นฐานการเล่นมวยไทย เพื่อให้คุณเป็นนักมวยที่ดี โดยใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก

 

          การตั้งท่าจดมวย

     ท่าจดมวย ถือว่าเป็นพื้นฐานของการฝึกมวยไทย หมายถึง การวางเข่า เป็นการวางมือให้ถูกต้องตามหลักการฝึกมวยไทย ซึ่งในการจดมวยนั้น ต้องทราบเหลี่ยมมวยด้วย เหลี่ยมมวย หมายถึง การแสดงการใช้มือและเท้าที่ถนัด ออกมาให้เห็น โดยปกติมวยจะมี ๒ เหลี่ยม คือ เหลี่ยมซ้าย และเหลี่ยมขวา เหลี่ยมซ้าย ก็ถือว่าเป็นพื้นฐานของการฝึกมวยไทยเช่นกัน หมายถึง การยื่นหมัดขวาไปข้างหน้าสูงเหนือระดับหางคิ้ว ในขณะที่เท้าขวายื่นไปข้างหลัง หมัดซ้ายชิดคาง เท้าซ้ายอยู่ด้านหลัง ลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็งปล่อยตัวตามสบาย โดยให้น้ำหนักอยู่ที่เท้าซ้าย ระยะห่างของเท้าทั้งสองข้าง ๑ ช่วงตัว สายตาจ้องมองผ่านมือไปยังคู่ต่อสู้ตลอดเวลา พยายามอย่าละสายตา เหลี่ยมขวา หมายถึง การยื่นหมัดซ้ายไปข้างหน้าสูงเหนือระดับหางคิ้ว ในขณะที่เท้าซ้ายยื่นไปข้างหลัง แขนซ้ายขนานกับลำตัว หมัดขวาชิดคาง เท้าขวาอยู่ด้านหลัง ลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็งปล่อยตัวตามสบาย ให้น้ำหนักอยู่ที่เท้าขวา สายตามองผ่านมือไปยังคู่ต่อสู้ตลอดเวลา

 

          การวางตำแหน่งอวัยวะ

     เป็นการวางตำแหน่งของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อให้มีท่าทางที่เป็นมวยไทย หมายถึง การกำหมัด วางเท้า มือ และลำตัว การกำหมัดที่ถูกต้อง คือ แบมือให้นิ้วมือทั้ง ๔ เรียงชิดติดกัน แล้วพับนิ้วทั้ง ๔ นิ้วเข้าหาอุ้งมือ แล้วกดทับด้วยนิ้วหัวแม่มือลงทาบ ในลักษณะเฉียงกับนิ้วชี้และนิ้วกลาง เพื่อให้หมัดที่กำกระชับแน่น โดยไม่เกร็ง การใช้หมัด เท้า เข่า ศอก

 

          ศิลปะการใช้หมัด เท้า เข่า ศอก

     เป็นทักษะพื้นฐานของกีฬามวยไทยที่มีอยู่มากมายหลายแบบ ซึ่งครูมวยต่าง ๆ ได้คิดค้นขึ้นมาใช้ และได้นำมาเขียน หรือบันทึกไว้ เพื่อประโยชน์ ในการเรียนการสอนวิชามวยไทยในปัจจุบัน

 

          การใช้หมัด

     คือ เป็นการใช้หมัดที่ถนัดมุ่งตรงไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงจากหัวไหล่ ลำตัว และเท้ายันพื้นเป็นฐาน โดยน้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าหน้า ใช้แรงส่งจากเท้าหลัง และสะโพก หัวไหล่ ออกไปเต็มที่

     หมัดตัด หมายถึง เป็นการใช้หมัดเหวี่ยงออกไปเต็มที่ ในลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลม บริเวณลำตัว ใบหน้า หรือศีรษะของคู่ต่อสู้ ผู้มีความรู้บางคน เรียกว่า หมัดเหวี่ยง แบ่งออกเป็น หมัดเหวี่ยงสั้น และหมัดเหวี่ยงยาว หมัดเหวี่ยงสั้น หมายถึง การเหวี่ยงวงแคบ หมัดเหวี่ยงยาว หมายถึง การเหวี่ยงวงกว้าง หมัดตวัด หมัดตวัด หมัดตวัด หมายถึง การใช้สันหมัดกดลงบริเวณอวัยวะสำคัญของคู่ต่อสู้ ในลักษณะเหยียดแขนออกไป พร้อมชกตวัดวงแคบ หมัดเสย หมายถึง การใช้หมัดชกเข้าหาคู่ต่อสู้โดยงอศอก เกร็งข้อศอกหงายหมัด แล้วพุ่งหมัดยกขึ้นสู่เป้าหมาย ได้แก่ ปลายคาง ดั้งจมูก หรือใบหน้าคู่ต่อสู้ หมัดเสย

 

          การใช้เท้า

     การใช้เท้าจะแบ่งออกเป็น ๒ ไม้ คือ การเตะ และการถีบ

  • การเตะ หมายถึง การใช้อวัยวะส่วนขาตั้งแต่เอวลงไปจนถึงปลายเท้าเตะตรง หมายถึง การเตะเสยจากพื้นขึ้นไปส่วนบนในลักษณะตั้งฉากกับพื้น
  • เตะตัด หมายถึง การเตะที่ใช้เท้าวาดขึ้นขนานกับพื้น สามารถเตะตัดได้ทั้งส่วนล่างของลำตัว และส่วนบนของอวัยวะ
  • เตะตวัด หรือเตะเฉียง หมายถึง การเตะที่ทิศของการเตะจะเฉียงลงพื้นสู่เป้าหมาย
  • กลับหลังเตะ หมายถึง การหมุนตัวหันหลังให้คู่ต่อสู้ แล้วเหวี่ยงขาที่วางอยู่ด้านหลัง ให้ส้นเท้าปะทะเป้าหมาย
  • การถีบ หมายถึง การใช้ปลายเท้า ฝ่าเท้า หรือส้นเท้าปะทะคู่ต่อสู้ ปลายเท้าปะทะคู่ต่อสู้
  • การถีบตรง หมายถึง ก็ตามชื่อเลย เป็นการถีบออกไปตรง ๆ ให้ปลายเท้า ส้นเท้า หรือฝ่าเท้าปะทะเป้าหมายในส่วนต่าง ๆ ของคู่ต่อสู้ ให้เต็มแรง โดยอาจเหยียดเท้าตรง หรืองอเท้าเข้าถีบก็ได้
  • การถีบข้าง หมายถึง การใช้ปลายเท้าถีบออกไปด้านข้างของลำตัว โดยเอียงศีรษะออกไปห่างจากลำตัว
  • การกลับหลังถีบ หมายถึง การถีบตรงออกไปด้านหลัง อาจเหยียดขาตรง หรืองอขาแล้วเหยียดตรงออกไปยังเป้าหมาย
  • การกระโดดถีบ หมายถึง การสืบเท้าที่ไม่ถนัดออกไป ๑ จังหวะ แล้วลอยตัวใช้เท้าที่ถนัดพุ่งไปยังเป้าหมายของคู่ต่อสู้
  • การถีบจิก หมายถึง การใช้ปลายเท้าที่ถนัดจิกไปบริเวณหน้าท้อง หรือลิ้นปี่ของคู่ต่อสู้ โดยอาศัยแรงส่งจากเท้าที่ไม่ถนัด

 

          การใช้เข่า

     หมายถึง การใช้อวัยวะส่วนที่เป็นข้อต่อระหว่างกระดูกขาส่วนบนกับกระดูกขาส่วนล่าง แล้วงอพับขา กระทุ้งไปยังเป้าหมายของคู่ต่อสู้

  • เข่าตรง หมายถึง เข่าพุ่งตรงไปข้างหน้าเข้าสู่เป้าหมาย
  • เข่าเฉียง หมายถึง เข่าตีเฉียงเข้าสู่เป้าหมายด้านตรงกับเข่าที่พุ่งออกไป
  • เข่าโค้ง หมายถึง การบิดสะโพกให้คว่ำลง พร้อมกับเหวี่ยงขาให้มีรัศมีโค้งจากบนลงล่าง ปะทะเป้าหมาย ให้ปลายเท้าเหยียดเป็นเส้นตรงกับขาและเข่า
  • เข่าโยน หมายถึง การกระโดดโยนเข่าขึ้นไปตรง ๆ คล้าย ๆ เข่าลอย เป้าหมายที่ปลายคาง และหน้าอกของคู่ต่อสู้
  • เข่าลอย หมายถึง การกระโดดขึ้นสูง ทะยานกับเข่าโยน แต่เข่าลอยสู่พื้นสูงกว่า

 

          การใช้ศอก

     การใช้ศอกขั้นพื้นฐานมีลักษณะ ดังนี้

  • ศอกตี หรือเรียกว่า ศอกสับ คือการใช้วิธีการตีศอกจากบนสู่ล่าง โจมตีไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของศัตรู เฉียงซ้ายคล้ายมุมฉาก บางครั้งอาจบิดตัวตี โดยมีแรงส่งจากไหล่ ลำตัว และเท้า
  • ศอกตัด หมายถึง การตีศอกตัดขนานไปสู่เป้าหมาย
  • ศอกงัด หมายถึง การตีศอกจากกลาง งัดขึ้นไปข้างบน ตรงเป็นมุมฉาก
  • ศอกกระทุ้ง หมายถึง การใช้ศอกพุ่งออกไปด้านหลัง ในลักษณะกระทุ้ง แก้ไขสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ประชิดเข้ามาด้านหลัง
  • ศอกกลับ หมายถึง การหมุนตัวตีศอก กลับไปทางด้านหลัง ตามจังหวะที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนตามเท้า

 

     การนำเอาศิลปะแม่ไม้มวยไทยเหล่านี้ไปใช้ให้ได้ผลดีย่อมขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ความชำนาญ และความมีไหวพริบ ในการผสมผสานไม้มวยต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ประเภทของมวยไทย

มวยไทยโบราณ 4 ภาค

มวยไทยโบราณ 4 ภาค

มวยไทยโบราณ 4 ภาค

มวยไทยถือเป็นศิลปะป้องกันตัวของไทย เป็นที่นิยมกันมากขึ้น เพราะ การต่อยมวยถือว่าเป็นการออกกำลังกาย แต่หลายคนคงไม่รู้ว่ามวยไทยโบราณของบ้านเรา มีถึง 4 ภาค ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป เรามาทำความรู้จักมวยไทยโบราณ 4 ภาค กันค่ะ

 

     มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่สามารถนำไปใช้ได้ ทั้งเชิงกีฬา และการต่อสู้จริง ศิลปะประเภทนี้มีมาตั้งแต่โบราณ วันนี้เราเลยจะมาดูกันว่า ศิลปะการต่อสู้โบราณ ทั้ง 4 ภาค จะมีเอกลักษณ์แบบใดบ้าง

 

          ภาคกลาง มวยลพบุรี

     มวยลพบุรี หรือ มวยไทยภาคกลาง โดยมีเอกลักษณ์ คือ การพันข้อเท้า และพันมือมาถึงข้อแขน ซึ่งจะเป็น เอกลักษณ์ที่ชัดเจนของมวยลพบุรี เป็นมวยที่ไม่เน้นความดุดัน ไม่เน้นกำลัง แต่เน้นใช้ควาดคิด ใช้ความฉลาดในการชก มีความเร็วในจังหวะรุก และจังหวะรับ รุกรับคล่องแคล่วว่องไว ต่อยหมัดตรงได้แม่นยำ

     เรียกลักษณะการต่อยมวยแบบนี้ว่า “มวยเกี้ยว” ซึ่งหมายถึง มวยที่ใช้ชั้นเชิงเข้าทำคู่ต่อสู้ โดยใช้กลลวงมากมาย จะมีการเคลื่อนตัวอยู่เสมอ หลอกล่อหลบลีกได้ดี สายตาดี รุกรับ และออกอาวุธ หมัด เท้า เข่า ศอก ได้อย่างรวดเร็ว

 

          ภาคเหนือ มวยท่าเสา

     มวยไทยท่าเสา เป็นสายมวยไทยภาคเหนือ ที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสายมวยไทยท่าเสากำเนิดขึ้นเมื่อใดใครเป็นครูมวยคนแรกแต่จากหลักฐานที่ปรากฏอยู่ทำให้ทราบว่าครูมวยไทยสายท่าเสาที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งคือ ครูเมฆที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องความคล่องแคล่วว่องไว รวดเร็ว เด็ดขาด มีลีลาท่าทางสวยงาม และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้เตะ ถีบ และศอก เป็นที่ลือกระฉ่อนจนนายทองดี เองถึงกับปฎิญาณกับตัวเองว่าจะต้องมาขอเรียนศิลปะมวยไทยกับสำนักท่าเสาให้ได้ และก็ได้มาเป็นลูกศิษย์ของครูเมฆผู้ประสิทธิประสาทวิชามวยไทยให้แก่ นายทองดี ซึ่งได้นำความรู้ที่ได้รับไปผสมผสานกับมวยจีนอีกต่อหนึ่ง เมื่อนายทองดีได้เป็นเจ้าเมืองพระยาพิชัย ก็ได้มาคารวะครูเมฆและแต่งตั้งให้ครูเมฆเป็นกำนันปกครองตำบลท่าอิฐต่อไป ครูเมฆได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่ผู้สืบสกุลต่อมาจนถึงครูเอี่ยม ครูเอี่ยมถ่ายทอดแก่ผู้สืบสกุลคือครูเอม ครูเอมถ่ายทอดแก่ผู้สืบสกุลคือครูอัด  คงเกตุ ซึ่งเมื่อครูอัด คงเกตุ และลูกศิษย์มาชกมวยในกรุงเทพฯ ก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 ได้ใช้ซื่อค่ายมวยว่า เลือดคนดง ครูเอมยังได้ถ่ายทอดวิชามวยไทยให้แก่หลานตาอีก 5 คน รุ่นราวคราวเดียวกับครูอัด ทั้ง 5 คน เป็นนักมวยตระกูล เลี้ยงเชื้อ ซึ่งต่อมา กรมหลวงชุมพรฯ ได้เปลี่ยนให้เป็น เลี้ยงประเสริฐ เป็นบุตรนายสอน นางขำ (ลูกครูเอม) สมพงษ์ แจ้งเร็ว เขียนกล่าวว่า ทั้ง 5 คน เป็นยอดมวยเชิงเตะ มีกลเม็ดเด็ดพรายแพรวพราวทุกกระบวนท่าที่ได้สืบทอดมาจากสำนักท่าเสาของครูเมฆจนมีชื่อเสียงลือลั่นในช่วงเวลานั้น ทั้ง 5 คน ได้แก่

1. ครูโต๊ะ เกิดประมาณ พ.ศ.2440 เป็นบุตรคนที่ 2 ของนายสอน และนางขำ เป็นนักมวยที่มีอาวุธหนักหน่วง และเชิงเตะ เข่า และหมัดรวดเร็ว

2. ครูโพล้ง เกิดปี พ.ศ.2444  มีอาวุธมวยไทยรอบตัว โดยเฉพาะลูกเตะที่ว่องไว และรุนแรง และความสามารถในการถีบอย่างยอดเยี่ยม จนได้รับฉายาว่า มวยตีนลิง ครูโพล้งมีเอกลักษณ์การไหว้ครูร่ายรำตามแบบฉบับของสำนักท่าเสา ในจำนวน 5 คน ครูโพล้ง มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด เมื่อมาชกกรุงเทพ ฯ เคยชนะ นายสร่าง  ลพบุรี และครูบัว  วัดอิ่ม เคยชนะนายสิงห์วัน ประตูเมืองเชียงใหม่ ที่เชียงใหม่ และนายผัน เสือลาย ที่โคราช แต่เคยพลาดท่าแพ้ นายสุวรรณนิวาสวัด ที่กรุงเทพ ฯ ครั้งหนึ่ง เพราะโดนจับขาเอาศอกถองโคนขาจนกล้ามเนื้อพลิก

3. ครูฤทธิ์ เกิดปี พ.ศ.2446 มีฝีมือไม่ยิ่งหย่อนกว่าพี่น้องทั้งหลาย เคยชกชนะหลายครั้งที่กรุงเทพฯ และเคยชกเสมอ บังสะเล็บ ครูมวยคณะศรไขว้ (ลูกศิษย์ครูแสง  อุตรดิตถ์ ผู้สืบทอดสายมวยพระยาพิชัยดาบหัก)

4. ครูแพ เกิดปี พ.ศ.2447 เป็นนักมวยเลื่องชื่อระดับครูโพล้ง เคยปราบ บังสะเล็บ  ศรไขว้ ชนิดที่คู่ต่อสู้บอบช้ำมากที่สุด และชก นายเจียร์  พระตะบอง นักมวยแขกครัวเขมร ถึงแก่ความตายด้วยไม้หนุมานถวายแหวน ทางราชการจึงกำหนดให้มีการสวมนวมแทนคาดเชือก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

5. ครูพลอย เกิดปี พ.ศ.2450  เป็นมวยที่คล่องแคล่วว่องไวในเชิงเตะ ถีบ และหมัด เนื่องจาก ครูโพล้ง เป็นผู้ถ่ายทอดเชิงชกให้ด้วย ครูพลอยถึงถอดแบบการใช้เท้าจากครูโพล้ง ครูพลอยเคยมาชกชนะในกรุงเทพฯ หลายครั้งแต่ก็ได้ถึงแก่กรรมเมื่ออายุเพียง 24 ปีเท่านั้น

     นอกจากครูโพล้ง และพี่น้องได้ร่วมกันสอนเชิงมวยให้แก่ลูกศิษย์หลายคนที่มีชื่อเสียงแล้วยังมีศิษย์สำนักท่าเสาอีกหลายคนคือ นายประพันธ์  เลี้ยงประเสริฐ นายเต่า คำฮ่อ (เชียงใหม่) นายศรี ชัยมงคล ผู้เป็นเพื่อนสนิทของครูพลอย และเป็นผู้ที่ ผล พระประแดง ยอมรับว่าเจ็บตัวมากที่สุดเมื่อได้ชกแพ้ นายศรี อย่างสะบักสะบอมชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตการต่อสู้เลย เพราะนายศรี มีอาวุธหนักหน่วงเกือบทุกอย่าง และรวดเร็ว อีกทั้งยังมีเชิงมวยสูงมากด้วย

     ครูมวยจากสายท่าเสาทั้ง 5 ได้จากไปหมดแล้ว โดยครูพลอย ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังหนุ่ม หลังจากนั้นก็ตามด้วย ครูฤทธิ์  สำหรับครูโต๊ะก่อนถึงแก่กรรมได้บวชจนได้เป็นเจ้าอาวาสวัด คุ้งตะเภา ครูแพ ถึงแก่กรรม เมื่อปี พ.ศ.2520 และครูโพล้ง ถึงแก่กรรม เมื่อปี พ.ศ.2522 มีอายุได้ 78 ปี ก่อนถึงแก่กรรม คณะกรรมการจัดงานพระยาพิชัยดาบหัก ซึ่งจัดให้มีการแข่งขันชกมวยประจำปีจะเชิญ ครูโพล้ง ขึ้นไปไหว้ครูร่ายรำตามแบบฉบับของสำนักมวยท่าเสาให้คนชมทุกปี หลังจากการจากไปของครูโพล้ง มวยไทยสายท่าเสา ได้ลดบทบาทลงไปอย่างมาก ยิ่งครูมวยใน

     ปัจจุบันสอนมวยตามแบบฉบับของสายมวยอื่น ๆ  มวยไทยสายครูเมฆ แห่งสำนักท่าเสาก็ยิ่งถูกลืมเลือนไป แม้แต่ชาวอุตรดิตถ์เองปัจจุบันยังไม่สามารถทราบหรือบอกความแตกต่างของมวยท่าเสากับมวยสายอื่น ๆ ได้เลย

     เอกลักษณ์ของมวยสายท่าเสา การไหว้ครูจะไหว้พระแม่ธรณีก่อนทำพิธีไหว้ครู การไหว้ครูมวยท่าเสาจะไหว้บรมครูก่อนคือ พระอิศวร เพราะถือว่าพระอิศวรเป็นผู้ประสิทธิประสาทวิชาการต่อสู้แบบฉบับมวยท่าเสา การกราบพระรัตนตรัย จะกราบในทิศหรดี

     (ทิศตะวันตกเฉียงใต้) ซึ่งเป็นทิศที่ผีฟ้าไม่ข้าม การนับหน้าไหว้ครูไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นไปตามประเพณีของพราหมณ์ ในการเห็นหน้าโบราณสถาน หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สอดคล้องกับความเชื่อว่าบรมครูของมวยท่าเสามีพระอิศวร และทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ส่องแสงมาสู่โลก และมวลมนุษย์เป็นสัญญาลักษณ์ของวันใหม่และจุดเริ่มต้นที่เป็นมงคล หรือนักมวยก่อนกราบจะหันหน้าเข้าหาดนตรี ปี่ กลอง เพราะถือว่า ดนตรี ปี่ กลอง ได้ไหว้ครูหรือพระอิศวรแล้ว การจดมวยของมวยท่าเสามือซ้ายนำ และสูงกว่ามือขวา เมื่อเปลี่ยนเหลี่ยมมือขวานำและสูงกว่ามือซ้าย เมื่อตั้งมวยได้ถูกต้องและย่างแปดทิศได้คล่องแคล่วว่องไวแล้ว นักมวยจะต้องฝึกท่ามือสี่ทิศพร้อม ๆ กัน กับการจดมวยและย่างแปดทิศ ท่ามือต้องออกด้วยสัญชาตญาณเพื่อให้เกิดการ “หลบหลีก ปัด ป้อง ปิด” ในการป้องกันตัว การคาดเชือกสายมวยท่าเสาต้องเอาเชือกด้านตราสังผีมาลงคาถาอาคมแล้วบิดให้เขม็งเกลียง หลังจากนั้นเอามาขดก้นหอย 4 ขด แล้วเอาด้ายตราสังมาเคียนทำเป็นวง 4 วง รองข้างล่างก้นหอยอีกทีหนึ่ง เพื่อสวมเป็นสนับมือ เมื่อสวมนิ้วมือแล้วก็เอาด้ายตราสังมาเคียนทับอีกทีหนึ่ง จากนั้นเชือกที่คาดจะต้องลงรักและคลุกน้ำมันยาง จากนั้นก็คลุกแก้วบดอีกทีหนึ่งเป็นอันเสร็จพิธีคาดเชือก นักมวยสายท่าเสาจะต้องเสกพริกไทย 7 เม็ด กินทุกวันเพื่อให้อยู่ยงคงกะพันและเสกคาถากระทู้ 7 แบกประจำทิศบูรพา คือ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา 15 จบ ก่อนขึ้นชกต้องเสกหมากหรือว่านเคี้ยวกินด้วยคาถาฝนแสนห่า ประจำทิศอาคเนย์ 8 จบ คือ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ครูอาจเสกแป้งประหน้านักมวยก่อนชกด้วยนะจังงัง มวยท่าเสาอาจจะสูญสิ้นไปหากไม่มีการอนุรักษ์ สืบสาน ตำนานมวย “ลาวแกมไทย ตีนไวเหมือนหมา” เอาไว้ ลาวแกม หมายถึง คนเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งมีคนเมือง คนไทยภาคกลาง และคนลาวอยู่ร่วมกัน โดยคนเมืองอยู่เหนือแม่น้ำน่าน คนไทยอยู่ใต้แม่น้ำ และคนลาวอยู่ทางตะวันออก จึงมีการผสมผสานวัฒนธรรม ประเพณี และภาษาเข้าด้วยกัน ทั้งยังมีการแต่งงานระหว่างกันด้วย ทำให้คนอุตรดิตถ์มีลักษณะ “ลาวแกมไทย”

 

          ภาคใต้ มวยไชยา

     มวยไชยา หรือ มวยใต้ เป็นมวยไทยโบราณที่มีเอกลักษณ์พิเศษ คือ ท่ารำมวย การตั้งท่า ท่าไหว้ครู พันมือคาดเชือก มีความโดดเด่นของกระบวนท่า 7 ด้าน ประกอบด้วยท่าเสือลากหาง ท่าย่างสามขุม ท่าปั้นหมัด ท่าเต้นแร้งเต้นกา ท่าพับแขนพันหมัด ท่าพันหมัดพลิกเหลี่ยม และท่ากระโดดตบศอก

 

          ภาคอีสาน มวยโคราช

     มวยโคราช ถือกำเนิดมาจากจังหวัดนครราชสีมา มีความโด่งดังโดยเฉพาะช่วงสมัยรัชกาลที่ 5-6 มวยไทยโคราชมีเอกลักษณ์ คือ สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ สวมมงคลที่ศีรษะขณะชก การพันหมัดแบบคาดเชือก ตั้งแต่หมัดขึ้นไปจรดข้อศอก เพราะมวยโคราชเป็นมวยต่อยวงกว้าง และใช้หมัดเหวี่ยงควาย การพันเชือกเช่นนี้เพื่อป้องกันการเตะ ต่อยได้ดี การฝึกฝึกจากครูมวย     

     โดยเป็นครูมวยในหมู่บ้านต่อจากนั้น จึงได้รับการฝึกจากครูมวยในเมือง เมื่อเกิดความคล่องแคล่วแล้วทำพิธียกครู แล้วให้ย่างสามขุม และฝึกท่าอยู่กับที่ 5 ท่า ท่าเคลื่อนที่ 5 ท่า ฝึกลูกไม้แก้ทางมวย 11 ท่า ฝึกท่าแม่ไม้สำคัญ ประกอบด้วย ท่าแม่ไม้ครู 5 ท่า และท่าแม่ไม้สำคัญโบราณ 21 ท่า แล้วมีโคลงมวยเป็นคติสอนนักมวยด้วย พร้อมคำแนะนำ เตือนสติไม่ให้เกรงกลัวคู่ต่อสู้ 

     มวยไทยทั้ง 4 ภาคของไทยมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ถือว่าเป็นมวยไทยที่ควรอนุรักษ์ไว้ เพราะเป็นศิลปะการต่อสู้สมัยโบราณที่เป็นจุดเริ่มของมวยในปัจจุบันนี้

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ประเภทของมวยไทย

กระสอบทราย เพื่อนซ้อมคู่ใจนักมวย

ประเภทของมวยไทย

ประเภทของมวยไทย

มวยไทย ( Muay thai ) มีหลายประเภท แต่ถ้าแบ่งตามลักษณะการเข้าต่อสู้ การรุก การรับ และการใช้หมัด เท้า เข่า ศอก พอที่จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ มวยหลัก หรือมวยแข็ง และมวยเกี้ยว หรือมวยอ่อน

 

     มวยหลัก หรือมวยแข็ง หมายถึง มวยไทย ( Muay thai ) ที่มีการต่อสู้แบบรัดกุม สุขุมรอบคอบ ตั้งท่าคุมมวย และจดมวยแบบมั่นคง การจดมวย และการเคลื่อนตัว เคลื่อนเท้า ก้าวย่าง จะเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ดูคล้ายเชื่องช้าไม่คึกคะนอง นักมวยประเภทนี้จะตั้งรับ และรอจังหวะเป็นมวยสุขุมเยือกเย็น มีลำหักลำโค่นดี หรือใช้ศิลปะ มวยไทย ( Muay thai ) ได้หนักหน่วง รุนแรง และแม่นยำทั้งหมดคือ เท้า เข่า ศอก มีความทรหด มานะอดทน และมีความพยายามสูง

     มวยเกี้ยว หรือมวยอ่อน หมายถึง มวยไทย ( Muay thai ) ที่มีวิธีการต่อสู้ที่ใช้ชั้นเชิงแพรวพราวการเข้าทำคู่ต่อสู้จะใช้กลลวงมากมาย มวยเกี้ยวจะเคลื่อนตัวอยู่เสมอไม่หยุดนิ่ง โดยเคลื่อนตัวไปมาทั้งด้านซ้าย และด้านขวาสลับกัน ทำให้คู่ต่อสู้จับทางมวยยาก มวยเกี้ยวจะมีลีลาท่าทางแคล่วคล่องว่องไว หลอกล่อ และหลบหลีกได้ตี มีสายตาดี รุกรับ และออกอาวุธหมัด เท้า เข่า ศอก ได้รวดเร็วฉับพลันกว่า แม้จะไม่รุนแรงเท่ามวยหลักก็ตาม

     นอกจากมวยหลัก และมวยเกี้ยวแล้วยังมีมวยอีกประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะผสมผสานระหว่างมวยหลัก และมวยเกี้ยวคู่กันไป คือ มีทั้งความคล่องแคล่วว่องไว และความรุนแรงในการใช้หมัด เท้าเขา ศอก การเรียกลักษณะของมวยยังมีที่เรียกเป็นอย่างอื่นอีกตามความนิยมของครูมวยแต่ละคน เช่น มวยวงนอก มวยวงใน ซึ่งหมายถึงมวยที่ถนัดอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น มวยวงนอกดี หมายถึงมวยที่ถนัดอยู่ห่างอาวุธเตะ ถีบ ฉาบฉวย หลอกล่อ หาจังหวะเข้าทำแล้วหนีได้อย่างฉับพลัน ใช้ไม้ยาวหรืออาวุธยาวได้ดี มีความแคล่วคล่องว่องไว เฉลียวฉลาดดี แต่เมื่อเข้าวงใน หรือปล้ำตีเข่า และศอกมักจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร

 

มวยไทย ( Muay thai ) มีการไห้คะแนนตามหลักเกณฑ์ดังนี้

- เมื่อนักมวยได้ใช้หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอาวุธ มวยไทย ( Muay thai )  กระทำถูกร่างกาย คู่แข่งขันโดยถูกตามกติกา มีแรงส่ง ถูกวัตถุประสงค์ และคู่ต่อสู้ไม่สามารถที่จะป้องกันได้

- นักมวยที่ใช้อาวุธ มวยไทย ( Muay thai ) กระทำถูกคู่แข่งขัน ได้มากกว่าเป็นผู้ชนะในยกนั้น

- นักมวยที่ใช้อาวุธ มวยไทย ( Muay thai ) กระทำถูกคู่แข่งขันได้หนักหน่วง รุนแรง แจ่มแจ้งกว่า เป็นผู้ชนะในยกนั้น

- นักมวยที่ใช้อาวุธ มวยไทย ( Muay thai ) กระทำถูกคู่แข่ง จนเกิดความบอบช้ำมากกว่า เป็นผู้ชนะในยกนั้น

- นักมวยที่เป็นฝ่ายรุกเข้ากระทำมากกว่าเป็นผู้ชนะในยกนั้น

- นักมวยที่มีชั้นเชิงในการ รุก รับ หลบหลีก ตอบโต้ ตามลักษณะ และศิลปะ มวยไทย ( Muay thai ) ได้ดีกว่าเป็นผู้ชนะในยกนั้น

- นักมวยที่ทำผิกกติกาน้อยกว่าเป็นผู้ชนะในยกนั้น

 

การไม่ได้คะแนน มีดังนี้

- นักมวยที่ใช้อาวุธ มวยไทย ( Muay thai ) กระทำผิดกติกาข้อใดข้อหนึ่ง

- กระทำไปถูกแขน ขา ของคู่แข่งในลักษณะการป้องกันตัว

- กระทำถูกคู่แข่งแต่เบา ไม่มีน้ำหนักส่งจากร่างกาย

- เตะไปแล้วถูกฝ่ายตรงข้ามจับขาเหวี่ยงลงกับพื้น ให้จัดว่าข้างที่เตะได้คะแนน ถ้าหากข้างที่เตะถูกฝ่ายตรงข้ามจับขาได้แล้วแกล้งทิ้งตัวลงกับพื้นถือได้ว่าเป็นการทำผิดกติกาในกรณีนี้ จัดว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้คะแนน

- การเหวี่ยงคู่แข่งขันให้ล้มลงโดยไม่ได้ใช้อาวุธอื่น

- การไห้คะแนนในการแข่งขัน มวยไทย ( Muay thai ) นั้น มีการไห้เป็นตัวเลขครับแม้กระนั้นจะมีการไห้เป็นยก ครับโดยดูจากภาพรวมของการแข่งขันในแต่ละยก

 

มวยไทย ( Muay thai ) มีหลากหลายสาย หลายประเภท และหลายท่ามาก ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจะไม่รู้จัก หรือลืมไปแล้วด้วยซ้ำ และถ้าหากคุณกำลังมองหาสถานที่ฝึก มวยไทย หรืออยากเรียนมวยไทย ก็สามารถติดต่อเรามาได้ “เจริญทอง มวยไทย ( Muay thai )  ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) กับสาขาที่ใกล้ และสะดวกที่สุด ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 สาขา (สาขาข้าวสาร, สาขารัชดา, สาขาศรีนครินทร์) มีเทรนเนอร์คอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดอย่างแน่นอน

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ฝึกมวยไทย ต้องเตรียมอะไรบ้างกันนะ

ที่มาที่ไปแม่ไม้มวยไทย

นักมวยเขาพกอะไรติดตัวบ้าง

นักมวยเขาพกอะไรติดตัวบ้าง

ในอดีตนั้นมวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัวที่สำคัญมาก ทั้งเอาไว้ต่อสู้กับข้าศึก หรือการป้องกันตัวเอง แค่นั้นก็ยังไม่พอ แต่ในสมัยก่อนนักมวยยังต้องพกของสำคัญติดตัว เพราะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ

 

1. มงคล

     มงคลทำด้วยสายสิญจน์ หรือผ้าดิบที่เกจิอาจารย์เป็นผู้เขียนอักขระหัวใจมนต์ คาถาและเลขยันต์ แล้วถักหรือม้วนพันด้วยด้าย หรือด้ายสายสิญจน์ ห่อหุ้มด้วยผ้าซึ่งผ่านพิธีกรรมจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมทำเป็นวงสำหรับสวมศีรษะ โดยรวบเป็นหางยาวไว้ข้างหลัง

     ในอดีตมีการกล่าวถึงการใช้ไสยศาสตร์ในพิธีทำมงคล ดังนั้นการสร้างมงคลแบบที่ยาก และมีอำนาจแบบไสยศาสตร์เร้นลับที่สุด จะเป็นห่วงวงกลมทำมาจาก “งูกินหาง” อาจจะเป็นงูหนึ่งตัวกินหางของมันเองหรืองูสองตัวกินหางซึ่งกันและกันก็ได้ การกินหางของงูเกิดจากอำนาจสะกดจิต หรือพลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของ แล้วนำห่วงกลมที่เกิดจากงูกินหางนั้นไปย่างไฟจนแห้งสนิท จากนั้นนำไปแช่น้ำมนตร์ ซึ่งหุงมาจากน้ำมันมะพร้าวผสมด้วยว่านยาสมุนไพรบางอย่าง แล้วจึงพันไว้ด้วยผ้ายันต์ หรือด้ายสายสิญจน์หุ้มไว้อีกชั้นหนึ่ง เล่ากันว่าพิธีกรรมเร้นลับสำหรับการสร้างมงคลเครื่องผูกศีรษะเหล่านี้ ใช้อำนาจไสยศาสตร์ให้เคลื่อนไหวสำเร็จขึ้นมาทั้งสิ้น ปัจจุบันสูญหายการถ่ายทอดไปหมดแล้ว

     มงคลถือเป็นเครื่องรางให้สิริมงคลและคุ้มกันอันตราย ในอดีตใช้สวมศีรษะในขณะชก บางคนสวมสองอันก็มี เวลาชกมวยหากมงคลหลุดจากศีรษะ ฝ่ายตรงข้ามก็จะหยุดชกเพื่อให้เก็บมงคลมาสวมใหม่ แล้วจึงชกต่อเป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมาจะไม่มีการซ้ำเติมกันในขณะก้มลงเก็บมงคลเป็นอันขาด ส่วนนักรบในอดีตก็จะสวมมงคลออกรบโดยสวมไว้ที่ศีรษะหรือคล้องคอ เวลาไม่ได้ใช้ก็จะเก็บรักษาไว้ในที่สูง เช่น บนหิ้ง บนตู้ หรือใส่ตะกร้าแขวนไว้สูง ๆ ในบริเวณที่เป็นห้องพระ หรือหัวนอน เพื่อบูชาและป้องกันการสูญหาย หรือป้องกันใครเดินข้ามเพราะจะทำให้คาถาอาคมเสื่อมได้

 

2. ประเจียด

     ใช้ผ้าสาลู (ผ้าขาวบางเนื้อดี) หรือผ้าดิบสีขาว หรือสีแดงตัดเป็นสามเหลี่ยมลงเลขยันต์มหาอำนาจ ส่วนใหญ่จัดอยู่ในชุดวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด คุ้มกำลัง ภาษาที่ใช้เขียนมักเป็นอักขระโบราณ เช่น อักษรขอม อักษรเทวนาครี ซึ่งพระครูหรือเกจิอาจารย์จะเป็นผู้เขียน และทำพิธีพุทธาภิเษก เช่นเดียวกับพระเครื่องหรือพระบูชา ม้วนหรือถักพันด้วยด้าย อาจใส่ว่าน ตะกรุด หรือเครื่องรางของขลังชนิดอื่นไว้ข้างในผ้าประเจียดก็ได้ “เป็นเครื่องรางคุ้มกันตัวใช้ผูกติดกับต้นแขนตลอดเวลาการแข่งขันชกมวย”

 

3. ผ้ายันต์

     คือผ้าดิบหรือผ้าเนื้อบางสีขาวหรือสีแดง เขียนอักขระเลขยันต์ และรูปภาพต่าง ๆ โดยเกจิอาจารย์ที่ชาวบ้านเชื่อถือว่ามีคาถาอาคมแก่กล้า วิธีทำคล้ายผ้าประเจียดแต่ผ้ายันต์มักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า “ใช้พกติดตัว หรือพันเป็นผ้าประเจียดก็ได้”

 

4. พระเครื่อง

     ทำด้วยโลหะ ผงปูน ดิน หรืออาจใช้วัตถุหลายชนิดจากแหล่งต่าง ๆ ที่เป็นที่เคารพเชื่อถือของประชาชน นำมารวมกัน บางครั้งอาจใช้เส้นผม เชี่ยนหมาก เศษจีวรของเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงผสมลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความขลังแล้วจึงทำพิธีพุทธาภิเษกลงเลขยันต์ คือมีพิธีกรรมที่รวมการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย การบริกรรมคาถาอาคมต่าง ๆ ในขณะทำพระเครื่องเวลาขึ้นชกมวยมักจะพกติดตัว โดยใช้พันไว้ในมงคล หรือผ้าประเจียด “นักมวยบางคนใช้อมไว้ในปากเวลาขึ้นชก วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมเพราะจะเป็นอันตรายแก่ตัวเองได้”

 

5. ตะกรุด

     ใช้แผ่นโลหะบางรูปสี่เหลี่ยม เช่น ทอง เงิน นาก ทองแดง หรือใบลาน และกระดาษสาลงเลขยันต์ คาถาอาคมเช่นเดียวกับลงผืนผ้าเพื่อทำประเจียด แล้วม้วนให้กลมตรงกลางเว้นช่องว่างสำหรับใช้สายเชือกร้อย “ใช้สำหรับคาดบั้นเอว คล้องคอ หรือคาดไว้ที่ต้นแขน” หากใส่ในมงคลหรือประเจียดมักจะใช้ตะกรุดขนาดเล็ก

 

6. พิสมร

     ทำด้วยแผ่นโลหะหรือใบลานรูปสี่เหลี่ยม ลงเลขยันต์มีที่ร้อยสาย แต่โดยมากไม่ม้วนให้กลมอย่างตะกรุด ซึ่งต้องผ่านพิธีกรรมเช่นเดียวกับตะกรุด

 

7. พิรอด

     ทำด้วยกระดาษสา หรือถักด้วยหวายผ่านพิธีกรรมแล้วลงรักปิดทองเรียกว่า “กำไลพิรอด” ใช้สวมต้นแขน หรือแหวนพิรอดใช้สวมนิ้ว หากเป็นกำไลพิรอดชนิดงู 2 ตัว กลืนหางซึ่งกันและกันจนตายทั้งคู่เช่นเดียวกับการทำมงคล “นับว่าเป็นของวิเศษเพราะหายาก และเชื่อว่ามีอานุภาพมาก”

 

8. ว่าน

     คือพืชที่มีสรรพคุณหลายอย่าง บางชนิดใช้ในการรักษาพยาบาล ใช้รับประทานรักษาโรคบางชนิด ใช้ทารักษาแผล รักษาผิวหนัง บางชนิดห้ามรับประทานเพราะเป็นพิษ “บางชนิดเชื่อว่าทำให้ผิวหนังทนความร้อน หรือหนังเหนียว จึงนิยมนำมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง โดยการปลุกเสกคาถาอาคมเช่นเดียวกับเครื่องรางของขลังชนิดอื่น” ใช้พกติดตัวใส่ในมงคลประเจียด หรือใช้เป็นส่วนผสมในการทำพระเครื่อง บางคนใช้แช่น้ำดื่มก็มี

 

9. คาดเชือก

     การคาดเชือกเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของมวยไทย คือ การคาดเชือกที่มือโดยใช้ด้ายดิบที่จับเป็นไจ(รวมเส้นด้าย) ขนาดโตเท่าดินสอดำ ต่อกันเป็นเชือกยาวประมาณ 20 -25 เมตร ม้วนแยกไว้ 2 กลุ่ม ใช้พันสันหมัดและข้อมือ ความยาวต่างกันตามความต้องการของประเภทนักมวย

     การคาดเชือกจะช่วยให้กระดูกนิ้วมือไม่เคล็ดง่าย และทำให้หมัดแข็ง น้ำหนักหมัดมีความหนักแน่นกว่าหมัดธรรมดา แต่ถ้าพันหนามาก  จะทำให้ชกอืดอาด  บางสำนักครูอาจารย์จะเป็นผู้พันด้ายดิบให้นักมวย พร้อมบริกรรมคาถาพร้อมกันไป  บางแห่งก็จะทำพิธีปลุกเสกลงคาถาอาคมในด้ายดิบ  บางอาจารย์ใช้ด้ายตราสังศพมาใช้พันมือของนักมวย

     คุณลักษณะพิเศษของการคาดเชือก คือ วิธีการคาดสามารถบอกภูมิลำเนาของสำนักมวยได้ว่าเป็นนักมวยมาจากถิ่นใด  และบอกถึงลักษณะการใช้หมัดและการใช้ศอกว่าเป็นอย่างไร เช่น “มวยโคราช” เป็นนักมวยเตะและต่อยวงกว้าง จะคาดหมัดถึงข้อศอกเพื่อป้องกันการเตะ ส่วนมวยลพบุรี เป็นที่เลื่องชื่อว่ามวย “หมัดตรง” ไม่กลัวเตะเพราะรู้เชิงป้องกัน การคาดเชือกจึงเพียงครึ่งแขน ส่วนมวยภาคใต้ “มวยไชยา” ถนัดใช้ศอกและแขน การคาดเชือกจึงเลยข้อมือไม่มากนัก เพื่อกันเคล็ดเท่านั้น เนื่องจากจะใช้ศอกในการกระแทกลำตัว หากบางคนต้องการพันด้ายขนาดยาวเพราะต้องการใช้หมัดบังหน้าด้วย

 

     “เครื่องรางของขลังทั้งหมดนี้ รวมเรียกว่าเครื่องคาด คือ ใช้ผูกหรือคาดที่ศีรษะ แขน เอวเป็นต้น” บางแห่งเคี้ยวหมาก ซึ่งถือเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งเช่นกัน โดยเกจิอาจารย์จะเป็นผู้จัดทำ และลงคาถาอาคมให้นักมวยเคี้ยว เพื่อต่อสู้ศัตรูคนไทยสมัยก่อนมีความเชื่อถือในเรื่องของไสยศาสตร์ เช่น คาถาอาคม ความอยู่ยงคงกระพัน และเรื่องของจิตวิญญาณกันมาก นอกจากเครื่องรางของขลังดังกล่าวแล้ว ถ้าหากต้องการให้คาถาอาคมติดกาย หนังเหนียว มีความอดทนไม่เจ็บปวดก็จะให้เกจิอาจารย์สักอักขระแห่งเครื่องหมายไสยเวทบนผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อความอยู่ยงคงกระพัน เพราะเชื่อว่าศาสตราวุธทั้งหลายไม่สามารถทำอันตรายได้ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้กับศัตรู ก็จะใช้ท่องภาวนาคาถากำกับอีกครั้งตามที่เกจิอาจารย์ได้สั่งสอนไว้ เพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ สร้างสมาธิให้จิตแน่วแน่มั่นคง เวทมนตร์คาถาที่ใช้จึงเป็นในทางคุ้มภัย เมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน เชื่อว่าสามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้ ทั้งเป็นการป้องกันหากคู่ต่อสู้ใช้อาถรรพเวทก็จำเป็นต้องใช้เวทมนตร์คาถาถอนแก้การกระทำยำยี บำบัดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นให้เสื่อมสลายไปในทันทีทันใด

 

     นี่ก็เป็นเครื่องรางของขลังในมวยไทยที่นักมวยมักจะนิยมใช้ทุกครั้งเมื่อต้องขึ้นชก แต่อย่างไรก็ตามมักอยู่ที่ความเชื่อของคน เพราะก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการชกด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันนี้นักมวยทุกคนก็ยังต้องมีเครื่องรางของขลังติดตัว เพราะนักมวยจะเชื่อกันว่าพกติดต่อแล้วรู้สึกปลอดภัย เพราะของขลังที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้นล้วนมาจากเกจิอาจารย์ที่ตนเองนับถือ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ตนเองมีที่พึ่งทางใจ

 

     และถ้าหากคุณกำลังมองหาสถานที่ฝึก มวยไทย หรืออยากเรียนมวยไทย มาฝึกกับเราได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) กับสาขาที่ใกล้และสะดวกที่สุด ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 สาขา (สาขาข้าวสาร, สขารัชดา, สาขาศรีนครินทร์)

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ที่มาที่ไปแม่ไม้มวยไทย

ศาสตราวุธของมวยไทยที่อันตรายที่สุด

กระสอบทราย เพื่อนซ้อมคู่ใจนักมวย

กระสอบทราย เพื่อนซ้อมคู่ใจนักมวย

กระสอบทราย เป็นอุปกรณ์การซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สำคัญอย่างหนึ่ง วัสดุภายนอกทำด้วยผ้าใบหรือหนัง เพื่อป้องกันเจ็บจากการเตะ ต่อย แบ่งออกได้เป็นกระสอบทรายแบบแขวน และ กระสอบทรายตั้งพื้น

 

 

กระสอบทราย ( Sandbag ) คืออะไร ?

กระสอบทราย ( Sandbag ) คือ อุปกรณ์การซ้อมมวย ( Muay ) ที่สามารถทำได้ทั้งต่อย เตะ และการฝึกท่าต่าง ๆ ของมวยไทย และมวยสากล ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อ และยังช่วยเพิ่มศักยภาพ รวมถึงช่วยพัฒนา ความสามารถ ทั้งด้านการ เตะ ต่อย ให้แก่นักมวย ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งกระสอบทราย ก็มีด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังนี้

 

 

1 กระสอบทรายแขวน ( Hanging sandbags )

เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน มีราคาถูก แต่ปัญหาส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของการติดตั้ง ซึ่งมีความยุ่งยากมากกว่า ในการติดตั้งกระสอบทราย แบบแขวน จะต้องทำการติดตั้งอย่างน้อย 3 เมตร ทำให้การติดตั้ง ในพื้นที่ที่มีเพดานไม่สูง ไม่สามารถที่จะทำได้ และก่อนที่จะติดตั้งกระสอบทราย จะต้องยัดทราย หรือเศษผ้า ใส่ในตัวกระสอบก่อน หากเลือกเป็นทรายที่ยัด จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหนัก และตะขอที่จะใช้แขวน เพิ่มเข้ามาอีก เพราะต้องคำนึงถึง ความแข็งแรง ความมั่นคง ที่สามารถรับน้ำหนักได้

 

 

2 กระสอบทรายตั้งพื้น ( Floor standing sandbag )

เริ่มมีความนิยมมากขึ้น ในปัจจุบัน เนื่องจากมีขั้นตอน ในการติดตั้งง่าย ประหยัดเวลา ไม่ต้องยัดของใส่กระสอบ เนื่องจากระสอบทรายตั้งพื้น ส่วนใหญ่จะทำการบุฟองน้ำ และหุ้ม มาให้เรียบร้อยแล้ว สามารถนำวางในพื้นที่ ที่ต้องการใช้ซ้อมได้เลย แต่ควรเผื่อพื้นที่ ไว้เล็กน้อยด้านละ 2 เมตร ( กระสอบทรายแบบตั้งพื้น มีความสูงไม่เกิน 2 เมตร ) และสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

 

 

 

ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากมี กระสอบทราย ( Sandbag ) สักอันไว้ฝึกซ้อมมวย หรือ ออกกำลังกาย ขอแนะนำกระสอบทรายตั้งพื้น ( Floor standing sandbag ) น่าจะเหมาะสม สำหรับยุคปัจจุบัน เพราะเคลื่อนย้ายสะดวก ติดตั้งง่าย ไม่สร้างความเสียหายแก่ตัวบ้าน ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ จากการฝึกสอบ เพราะกระสอบทรายแบบตั้งพื้น จะไม่แข็งจนเกินไป มีการซับแรงในการ เตะต่อยแรง ๆ ด้วยคอสปริง ทำให้ลดอาการบาดเจ็บได้ ช่วยสร้างบรรยากาศ ในการฝึกซ้อม ทำให้รู้สึก เหมือนมีคู่ต่อสู้จริง เป็นการกระตุ้น ให้อยากออกกำลังกาย มากยิ่งขึ้น

 

ถ้าเลือก กระสอบทราย กันได้แล้ว มาดูกันดีกว่าว่า กระสอบทราย ให้ประโยชน์อะไร กับคุณได้บ้าง ?

 

กระสอบทราย ( Sandbag ) ช่วยระบายความโกรธ ระบายความเครียด ใครเจอภาวะเครียดจากการทำงาน หรือ กำลังโกรธใครมาไม่รู้จะระบายยังไง ขอแนะนำให้กลับบ้าน มาสวมนวม ชก เตะ ถีบ กระสอบทราย เพื่อระบายอารมณ์ เมื่อคุณได้ปลดปล่อยพลัง ออกมาอย่างเต็มที่แล้ว ความเครียด ความโกรธ ทั้งหลายก็จะเบาลง

 

กระสอบทราย ( Sandbag ) ช่วยเรียกได้เหงื่อ ได้กล้ามเนื้อ ได้ร่างกายแข็งแรง การชก เตะ ถีบ กระสอบทราย ( Sandbag ) เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง การได้ออกแรงใช้พละกำลัง ทำให้ได้เหงื่อ ได้ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ไขมันรอบเอว ต้นขา ต้นแขน ก็จะหายไปด้วยจาก การออกกำลังกาย ยิ่งหากใช้เวลาอยู่กับมันสัก 1 ชั่วโมง จะเผาพลาญได้ประมาณ 800 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว นอกจากร่างกาย จะแข็งแรงแล้ว การได้ชก เตะ ถีบ กระสอบทราย ยังเป็นการฝึก สมาธิอีกด้วย เพราะเราจะต้องมีจิตใจ จดจ่ออยู่ที่ กระสอบทราย ( Sandbag )

 

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ กระสอบทราย ( Sandbag )  มีดีกว่าที่คิดใช่ไหมละ ไม่ว่าจะกระสอบทรายแขวน ( Hanging sandbags ) หรือ กระสอบทรายตั้งพื้น ( Floor standing sandbag ) ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) และเป็นการออกกำลังกายที่น่าลอง ถ้าพื้นที่ยังว่าง ลองหาซื้อสักอัน จะได้ออกแรง สร้างกล้ามเนื้อกันนะคะ

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

ฝึกมวยไทย ต้องเตรียมอะไรบ้างกันนะ

ฝึกมวยไทย ต้องเตรียมอะไรบ้างกันนะ

กีฬาต่อยมวยนั้น เป็นกีฬา อีกหนึ่งประเภท ที่ได้รับ ความนิยม มากมาย ด้วย ศิลปะ ท่าทาง และ เรื่องเล่า อันยาวนาน ของกีฬาชนิดนี้ ก็ทำ ใครๆ หลายๆ คนให้ความสนใจ และ อยาก ไปฝึกมวยกันทั้งนั้น เราจะมาแนะนำ ว่า ถ้าเริ่มฝึกมวย นั้น ต้องเตรียมอะไรกันบ้างนะ

กีฬาการชกมวย หรือ ต่อยมวยนั้น เป็นที่รู้กันดีว่า มีผู้คนสนใจกัน เป็นจำนวนมาก เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ชาวต่างชาติ หรือ คนไทยเรา ก็ให้ความสนใจกัน เป็นจำนวนมาก เพราะ ด้วย ท่าทาง การ ขยับตัว และ ท่าทาก การต่อสู้ ที่ทั้งเท่ และ สวยงาม แถมยัง มีเรื่องราม หรือ ประวัติ ความเป็นมา ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ กีฬา ประเภทนี้ ทำให้ ผู้คน หลายๆ คน สนใจ และ หลงรัก ในศิลปะ มวยไทย และ มวยไทย ยังถือได้ว่า เป็นกีฬา ประจำชาติ ที่ งดงาน และ อยู่คู่คนไทย มาอย่างยาวนาน ด้วยการต่อสู้ และ การแข่งขัน ที่ดุเดือน ทำให้ผู้คนสนใจ และ ติดตามกันเป็น อย่างมาก มวยไทย ยัง มีการเอาไปทำ ภาพยนตร์ หรือ เกม รวมไปถึง การ์ตูนอนิเมชั่น มากมาย ทำให้ ไม่ว่า จะคนประเทศ อะไรก็ให้ ความสนใจ กับ กีฬา การ ต่อยมวย กันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้คน วัยไหน อายุเท่าไร ต่างพากัน สนใจ และ ทำให้กีฬา มวยไทย อยู่คู่คนไทย มาอย่างยาวนาน

การฝึก ต่อยมวย หรือ ชกมวยนั้น เราต้องเรื่องรู้ ร่างกายของตัวเอง เตรียมร่างกาย ให้พร้อม เพราะ การฝึก แต่ละครั้งนั้น ต้องใช้ พละกำลัง และ ความอดทน สูงมาก การทำกิจกรรม ออกกำลังกาย ต่างๆ ก็ ใช้ความอดทน และ ความสามารถ สูง เช่น วิ่ง กระโดด เตะบอล หรือ กีฬาออกกำลังกาย ประเภทต่างๆ ก็จะเน้น การออกกำลังกาย ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายของเรา เช่น เตะบอล แน่นอน ว่าเราต้อง ใช้เท่า อยู่ตลอดเวลา ในการวิ่ง การเลี้ยงบอล นั้น แปลว่า เราต้อง ขยับตัว และ เท้าอยู่ตลอดเวลา แต่ การออกกำลังกาย หรือ การฝึก มวยนั้น เราต้อง ใช้พละกำลัง แถบจะทุกส่วนของร่างกาย เพื่อ ออกแรง และ ขยับ ตัว อยู่ตลอดเวลา เราต้อง ใช้ร่างกายของเรา ตั้งแต่ ศีรษะ ตลอดจน เท้าของเราเลยทีเดียว เพราะ เราต้อง ออกแรง และ ขยับ ร่างกาย ให้เกิดแรง เพื่อ ที่จะออกหมัด หรือ ลูกเตะ ใส่คู่ต่อสู้ และ ท่าทางการ ต่อสู้ ต่างๆ ที่ต้องใช้ ความ ชำนาญ หรือ ประสบการณ์ ในการฝึกฝน ทั้ง ร่างกาย และจิตใจ แต่ อะไรบ้างละ ที่เราต้องเตรียม ไปเพื่อที่จะ ฝึกมวย เราจะมาบอก อุปกรณ์ ที่จำเป็น ต้องใช้ในการฝึกแต่ละครั้ง ไปดูกัน

            นวม ถือเป็น หัวใจหลักๆ ในการ ซ้อมมวยเลยก็ว่า เพราะ นวมนั้น เป็น อุปกรณ์ ที่จะ ต้อง สวมไปในมือ  หรือ แขนทั้ง สองข้างของเรา เพื่อ ที่จะ ปกป้องมือ ของเรา เอง และ คู่ซ้อม แต่ ที่ยิม หรือ สนามมวย หลายแห่ง อาจจะมี นวม ให้ยืม ให้เช่า กันอยู่แล้ว แต่ เอาเข้าจริงแล้ว ถ้าเรา เริ่มฝึกมวย หรือ อยากฝึก อย่างจริงจัง เราก็ควร มีนวม เป็นของตัวเอาเอง และ ติดตัว ไปทุกครั้ง สำหรับ การ ฝึกซ้อม เพื่อ ปกป้อง มือ ของเรานั้นเอง

            กางเกงมวย กางเกงมวย นั้น ถือได้ว่า เป็นเอกลักษณ์ มากๆ ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขัน การฝึกซ้อม เพราะ กางเกงมวย เป็นการเกง ที่เป็นกางเกง ขาสั่น สามารถ ขยับร่างกาย ได้ สะดวกสบาย และ กางเกงมวยนั้น ถูกออกแบบมา เพื่อให้มีพื้นที่โล่งโปร่ง บริเวณต้นขา และ ขาหนีบ เพื่อ ที่จะขยับ แขน ขา ร่างกาย ของเราได้ สะดวก และ เตะ ถนัดนั้นเอง

            ฟังยาง เป็น อุปกรณ์ ที่จะสามารถ ช่วยปกป้อง ฟันของเรา ได้เป็นอย่างดี เมื่อ เราซ้อมมวยนั้น หรือ แข่งขัน แน่นอนว่า คู่ต่อสู้ หรือ คู่ ซ้อมของเรา มีโอกาส ออกหมัด ใส่ใบหน้าของเรา หรือ บริเวณ ฟัน ของเราได้

ดังนั้น การใส่ ฟันยาง จึงจะช่วยปกป้องแรงกระแทก จาก หมัดคู่ต่อสู้ได้เป็น อย่างดี และ สำคัญมากๆ ในการ ฝึกซ้อม ที่มีคู่ต่อสู้ ซ้อมกับเราด้วย เพื่อ ปกป้อง และ ป้องกันฟังของเรา ไม่ให้ได้รับความเสียหายนั้นเอง

            แองเกิล ในภาษามวย หรือ คนฝึกมวยนั้น จะเรียกกันว่า แองเกิล รูปทรง หรือ หน้าตา นั้น จะคล้ายๆถุงเท้าๆ แต่จะเปิดส้นเท้าและ นิ้วเท้าของเรา แต่ไอเจ้า แองเกิลนั้น ก็ไม่ใช้ สิ่งจำเป็นมากเท่าไร ในการฝึกซ้อม หรือ การแข่งขัน แต่ก็ ไอเจ้าแองเกิล นั้น สามารถ ช่วยซัพพอร์ต ข้อเท้าของได้ ได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่ใช้ อุปกรณ์ สำคัญ หรือ ควรซื้อชิ้นแรก แต่ ถ้าเรา อย่างเซฟตัวเราเอง ก็ขึ้นอยู่ว่าเรา อยากลงทุนมากแค่ไหน กับการซ้อม เท่านั้นเอง

            นี้ก็คือ อุปกรณ์ ที่เราควรมี แต่ก็ยังมีอีก หลายอุปกรณ์ ที่ คนฝึกมวย หรือ คนชกมวยนั้น มีเช่น ผ้าพันมือ สนับแข้ง รวมไปถึง น้ำมันมวย โดยน้ำมันมวยนั้น จะสามารถ นวด เพื่อให้ เกิดการกระตุ้น กล้ามเนื้อ ก่อนการ ฝึกซ้อมได้เป็นอย่างดี และ ยังสามารถ ช่วยให้เรา ตื่นตัว ได้ดีอีกด้วย และ ถึงอย่างไร ถ้าเรา อยากซ้อม เราก็ควร เตรียมใจ ในความอดทน และ ควร ฝึกซ้อมเป็นประจำ เพราะ การซ้อมมวยนั้น เราจะได้ ทั้งสุขภาพที่แข็งแรง ร่างกายที่แข็งแรง แถมเรายัง มีศิลปะ ป้องกันตัว อีกด้วย เพื่อร่างกาย และ สุขภาพที่ดีของเรา ในอนาคตแล้วจะรออะไร

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย เล่นอย่าไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ศิลปะมวยไทยหมัดเท้าเข่าศอก

ที่มาที่ไปแม่ไม้มวยไทย

ที่มาที่ไปแม่ไม้มวยไทย

เราอาจเคยได้ยินคำว่า แม่ไม้มวยไทยมานมนาน แท้จริงแล้วความหมายไม่ได้เรียกไว้ให้ดูเท่ ๆ แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีความหมายในเชิงปฏิบัติ ที่แอบแฝงไปด้วยรหัสอันตราย มาดูที่มาที่ไปของแม่ไม้มวยไทยกันค่ะ

 

     แม่ไม้ในมวยไทย คืออะไร เพราะความหมายของมวยไทยแท้จริงแล้ว คือศิลปะการรุกและรับ เป็นการเลือกใช้ไม้มวยไทย และกลวิธีต่าง ๆ ผสมผสานให้เข้ากัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ไม้มวยไทย ที่ใช้ในมวยไทย นั้นได้แก่ หมัด, เท้า, เข่า และศอก เพราะการใช้หมัดชกคู่ต่อสู้ เรียกว่า "ไม้หมัด" และการใช้เท้าเตะคู่ต่อสู้เรียกว่า "ไม้เตะ" การใช้เท้าถีบ ก็ต้องเรียกว่า "ไม้ถีบ" การใช้เข่าเรียกว่า "ไม้เข่า" การใช้ศอก ก็เรียกว่า "ไม้ศอก" และยังมีการแบ่งตามลักษณะความสั้น-ยาว ของการใช้ไม้มวยไทยอีกด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ไม้สั้น และไม้ยาว เช่น การใช้หมัดเหวี่ยงสั้น, หมัดงัด, ศอกและเข่า เรียกว่า "ไม้สั้น" การใช้เท้าเตะ ใช้เท้าถีบ หมัดเหวี่ยงยาว เรียกว่า "ไม้ยาว" นั่นเอง

     ดังนั้นการเตะ, ถีบ, เข่า และศอก เรียกว่า "แม่ไม้" ส่วนการต่อย หมัดงัด หมัดเหวี่ยงสั้น-ยาว การเตะตรง, เตะตัด, เตะตวัด, เตะเฉียง, เตะกลับหลัง, ถีบตรง, ถีบข้าง, ถีบกลับหลัง, เข่าตรง, เข่าเฉียง, เข่าตัด, เข่าลอย, ศอกตี, ศอกตัด, ศอกกลับหลัง, ศอกพุ่ง เหล่านี้เรียกว่า "ลูกไม้"

 

           ไม้รุก คืออะไร?

     ไม้รุก คือ หลักวิชาการในการใช้ไม้มวยต่าง ๆ มาประกอบกันเพื่อเป็นการรุกโจมตีคู่ต่อสู้ มีทั้งการหลอกล่อ และเข้าสู้กันจริง โดยทั่วไป ไม้นำของไม้รุกจะเป็นไม้ยาว มีความเร็ว รัดกุม มีหลักมั่นคง สามารถใช้ไม้อื่นต่อไปได้ เช่น การถีบตรง, การเตะเฉียง, เตะลิด ส่วนไม้ตามนั้นจะเป็นไม้ยาวหรือไม้สั้นก็ได้

     ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ไม้จังหวะแรกว่าได้ผลดีประการใด ดังนั้นจึงนิยมใช้ไม้มวยแบบสลับบนล่าง หรือซ้ายสลับขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้พะวง ถ้าใช้ไม้รุกเฉพาะส่วน หรือส่วนล่างอย่างเดียว จะง่ายต่อการป้องกันแก้ไข โดยทั่วไป ไม้รุก มีตั้งแต่จังหวะเดียวขึ้นไป จนไม่จำกัดจำนวน แต่นิยมใช้และได้ผลดี รวมไปถึงการฝึกหัดได้ง่าย คือ ไม้รุก 1 จังหวะ, 2 จังหวะ และ 3 จังหวะ

  • ไม้รุก 1 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวยเพียงอย่างเดียว เช่น การชกหมัดตรงขวา, เตะขวา,

โยนเข่าขวา หรือด้านที่ถนัดที่สุด เรียกว่า "ไม้รุกจังหวะเดียว"

  • ไม้รุก 2 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปใช้ไม้มวย 2 จังหวะ โดยในจังหวะที่ 1 เป็นไม้หลอก เพื่อให้คู่ต่อสู้

เสียหลัก แล้วตามไปใช้ไม้จริงในจังหวะที่ 2 ต้องตามกันไปอย่างรวดเร็ว เรียกว่า "ไม้รุก 2 จังหวะ"

  • ไม้รุก 3 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปใช้ไม้มวยจังหวะที่ 1, 2 และ 3 ติดต่อกัน เช่น ต่อยหมัดนำ, หมัด

ตรง  แล้วเตะตาม ถ้าฝึกจนเกิดความชำนาญแล้ว ก็สามารถใช้ไม้สั้น เช่น ศอก, เข่า, หมัดตวัด, หมัดงัด เป็นไม้นำได้เช่นกัน

  • ไม้รุก 4 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปใช้ไม้มวยจังหวะที่ 1, 2 และ 3 ติดต่อกัน และไม้รุกที่ออกไปต่างก็

หวังผลทั้งหมด แล้วแต่โอกาส ส่วนมากจังหวะที่ 1 และ2 เป็นไม้หลอก จังหวะที่ 3 และ 4 เป็นไม้จริง

 

          ไม้รับ คืออะไร?

     ไม้รับ คือ หลักวิชาการในการนำเอาไม้มวยต่าง ๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขการจู่โจมของฝ่ายรุก ไม้มวยชนิดหนึ่ง อาจแก้การจู่โจมของไม้มวยชนิดเดียวกัน หรือต่างชนิดก็ได้ หรือแก้ทีละไม้ เช่น แก้การต่อย, แก้การเตะ, แก้การถีบ, แก้การศอก แต่ในการชกมวยจริง ๆ ไม่ได้ชก หรือเตะเพียงจังหวะเดียว แต่จะรุกเป็นชุด เช่น ต่อยนำ, เตะตาม แล้วเข่าตาม หรือต่อยตามเข่า

     ความหมายรวมไปถึงการทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขการจู่โจม เช่น การถอยออกให้พ้นระยะ เพื่อไม่ให้ถูกอาวุธของคู่ต่อสู้, การหลบหลีก, การปัดป้อง และการตอบโต้ ซึ่งมีการชิงลงมือก่อน การถอยแล้วตอบโต้ การหลบหลีกแล้วตอบโต้

     ไม้รับในที่นี้ จะกล่าวถึงการรับไม้มวยของคู่ต่อสู้ทีละชนิดตามลำดับ เริ่มตั้งแต่รับการต่อย, รับการเตะ,  รับการถีบ, รับการเข่า และรับการศอก โดยอาศัยการถอย, หลบหลีก, ปัดป้อง และตอบโต้ด้วยไม้มวยต่าง ๆ อาทิ

- การหลอกล่อ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้คู่ต่อสู้เข้าใจผิด หรือเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางเราได้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะต่างๆ โดยไม่เคลื่อนที่ไปจากที่เดิม

- หลอกด้วยสายตา คือ มองสูงแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่ต่ำ หรือมองต่ำแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่สูง

- หลอกด้วยศีรษะ คือ การเคลื่อนไหวศีรษะไปมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้หลงทาง

- หลอกล่อด้วยการเคลื่อนไหวลำตัว คือ การอาศัยความอ่อนตัว เช่น การโยกเอวหรือโยกลำตัวไปทางซ้ายและขวา

- การถอยให้พ้นระยะ คือ การถอยให้ห่างจากคู่ต่อสู้ อาจกระโดดเคลื่อนเท้าถอยหลัง หรือก้าวถอยหลัง แต่ต้องให้พ้นระยะไม้มวยของคู่ต่อสู้ ในการถอยเมื่อพ้นระยะแล้ว จะต้องอยู่ในท่าที่พร้อมจะตอบโต้คู่ต่อสู้ทันที

- การโยกตัวหรือการเอนตัวให้พ้นระยะ คือ การโยกตัวหรือเอนตัวออกให้พ้นระยะคู่ต่อสู้

- การหลบหลีก คือ การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อหลบหลีกไม้มวยของคู่ต่อสู้ที่จู่โจมมา อาจใช้วิธีก้มตัวหลบด้านซ้ายและขวา

- การปัดให้เบี่ยงเบนออกไป คือ การใช้มือหรือแขนปัดไม้มวยไปยังเป้าหมายอื่น

- การปัดป้อง คือ การใช้ส่วนต่าง ๆ ที่แข็งแรงของร่างกายปัดป้องอวัยวะที่เป็นจุดอ่อนของร่างกาย เช่น การใช้เข่าปัดป้องท้อง รวมถึงบริเวณลำตัว การใช้ศอกและเข่าบริเวณหน้าอก

- การบังเกาะจับ คือ การบังไม่ให้ไม้มวยคู่ต่อสู้ปะทะกับตัวเรา การบังนั้นจะต้องอาศัยการผ่อนแรงถูกจังหวะและเหมาะสมจึงจะได้ผลดี เมื่อบังเกาะจับได้แล้ว ก็สามารถใช้ไม้มวยตอบโต้ได้ทันที

- การทำให้ล้ม ในมวยไทยมีหลายแบบ แต่ที่ถูกต้องตามกติกาคือ ใช้วิธีการบังเกาะจับแล้วผลักให้ล้ม หรือการกอดรัดแล้วเหวี่ยงให้ล้ม

 

     และหากคุณกำลังมองหาสถานที่ฝึก มวยไทย หรืออยากเรียนมวยไทย มาฝึกกับเราได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) กับสาขาที่ใกล้และสะดวกที่สุด ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 สาขา (สาขาข้าวสาร, สาขาศรีนครินทร์, สาขารัชดา)

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ศาสตราวุธของมวยไทยที่อันตรายที่สุด

เคล็ดลับการเลือกกระสอบทราย

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

เครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณ

การแต่งกาย ของนักรบมวยไทย ในอดีตถือว่ามีความ เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนกับชาติไหน ซึ่งแตกต่างกับการแต่งกาย ของมวยไทยในปัจจุบัน เป็นอย่างมาก วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับเครื่องแต่งตัว ของนักมวยสมัยก่อนกัน

 

 

เครื่องแต่งกายของ นักมวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยก่อนที่นิยม มีดังต่อไปนี้

กางเกง มวยไทย ( Muay Thai )

 

     เครื่องแต่งกาย ที่เป็นส่วนปกปิดร่างกาย ได้แก่ กางเกง ในสมัยก่อนจะไม่มีกางเกง ที่ใช้สวมใส่เฉพาะเวลาขึ้น ชกมวยเท่านั้น ส่วนมากนักมวย จะสวมกางเกงขาสั้น ยาวประมาณแค่เข่า ซึ่งเป็นกางเกงที่ใช้กัน โดยทั่วไป ในชีวิตประจำวัน ตัวกางเกงจะใหญ่ ไม่มีขอบกางเกง ใช้ผ้าขาวม้า ผูกคาดเอวไว้กันหลุด

 

 

ผ้าขาวม้า มวยไทย ( Muay Thai )

 

     เป็นผ้าที่ทอด้วย ด้ายฝ้าย หรือผ้าไหม รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตรยาวประมาณ 1 เมตรครึ่ง ทอเป็นตาหมากรุกบ้าง เป็นลายอื่นบ้าง ผู้ชายไทยส่วนมาก จะมีผ้าขาวม้าใช้ทุกคน ซึ่งเป็นของใช้ ที่ทำขึ้นเองในครอบครัว ใช้สำหรับนุ่ง คาดเอว เช็ดหน้าเช็ดตัว ในการแข่งขันชก มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวยจะใช้ผ้าขาวม้า พันให้หนาคาดทับระหว่างขา ใช้แทนกระจับ และคาดเอว เพื่อให้กางเกงไม่หลุดลุ่ย เวลาขึ้นชกมวย

 

 

 ผ้าพันมือ มวยไทย ( Muay Thai )

 

     เอกลักษณ์ ที่โดดเด่นของ มวยไทย ( Muay Thai ) อีกประการหนึ่งคือ การคาดเชือกที่มือ โดยใช้ด้ายดิบ ที่จับเป็นไจ ( รวมเส้นด้าย ) ขนาดโต เท่าดินสอต่อกัน เป็นเชือกยาว ประมาณ 2025 เมตร ม้วนแยกไว้ 2 กลุ่ม ใช้พันสันหมัด และข้อมือ ความยาวต่างกัน ตามความต้องการ ของประเภทนักมวย บางท้องถิ่นพันรอบแขน จรดข้อศอก สอดด้ายดิบขด เป็นปม เรียกว่า ก้นหอย เรียงบนสันหมัด คล้ายหนามทุเรียน เมื่อพ่นน้ำลง บนหลังหมัด ด้ายที่พันเป็นก้นหอย ก็จะพองแข็ง สร้างความเจ็บปวด ให้คู่ต่อสู้ได้

 

 

การคาดเชือก ของนักมวยไทย  ( Muay Thai ) นั้น จะช่วยให้กระดูกนิ้วมือ ไม่เคล็ดง่าย และทำให้หมัดแข็ง น้ำหนักหมัดมีความ หนักแน่นกว่า หมัดธรรมดา แต่ถ้าพันหนามาก จะทำให้ชกอืดอาด บางสำนักครูอาจารย์ จะเป็นผู้พันด้ายดิบให้นักมวย พร้อมกับบริกรรม คาถาพร้อมกันไป บางแห่งก็จะทำ พิธีปลุกเสก ลงคาถาอาคม ในด้ายดิบ บางอาจารย์ก็ใช้ ด้ายตราสังศพ มาใช้พันมือ ของนักมวย ด้ายดิบที่ใช้คาดหมัด มักจะเก็บไว้ใช้นานปี จึงมีเลือด เศษเนื้อของคู่ต่อสู้ติด เกรอะกรังที่ด้าย ทำให้ด้ายแข็งคม เหมือนกระดาษทราย เป็นอาวุธชั้นดีของ นักมวยไทย ( Muay Thai ) ในสมัยก่อน เลยทีเดียว

 

 

คุณลักษณะพิเศษ อีกอย่างหนึ่งของการ คาดเชือกคือ วิธีการคาดเชือกสามารถ บอกภูมิลำเนา ของสำนักมวย ได้ว่าเป็นนักมวย มาจากถิ่นใด และบอกถึงลักษณะ การใช้หมัด และการใช้ศอกว่าเป็นอย่างไร เช่น มวยโคราช เป็นมวยเตะ และต่อยวงกว้าง จะคาดหมัดถึงข้อศอก เพื่อป้องกันการเตะ ส่วนมวยลพบุรี เป็นที่เลื่องชื่อว่ามวย ( หมัดตรง ) ไม่กลัวเตะ เพราะรู้เชิงป้องกัน การคาดเชือกจึงคาด เพียงครึ่งแขน ส่วนมวยภาคใต้ ( มวยไชยา ) ถนัดใช้ศอก และแขน การคาดเชือกจึงเลย ข้อมือไม่มากนัก เพื่อกันซ้น หรือเคล็ดเท่านั้น เพราะจะใช้ศอกรับ และใช้ศอกในการ กระแทกลำตัว หากบางคนต้องการ พันด้ายขนาดยาว เพราะต้องการ ใช้หมัดบังหน้าด้วย

 

 

เมื่อนักมวยแต่งตัว ด้วยเครื่องรางของขลัง ผ่านพิธีกรรม ด้วยเวทมนตร์ คาถาแล้ว จะต้องระมัดระวังตัว ไม่เดินลอดของต่ำ หรือแตะต้องของ ที่เชื่อว่าจะทำให้ เวทมนตร์ คาถาเสื่อมคลายลง เวลาขึ้นเวทีมวย จะกระโดดข้ามเชือก สังเวียนทุกคน เพราะเชื่อว่าการลอดเชือก ที่มีคนอื่นเคยข้ามแล้วหรือ มีการนำของต่ำ ข้ามผ่านแล้ว เช่นรองเท้า กางเกง ของใช้บางอย่าง อาจจะทำให้ของขลัง และเวทมนตร์ คาถาเสื่อมลง ดังนั้นเรามักจะเห็น กันบ่อยโดยเฉพาะนัก มวยไทย ( Muay Thai ) อาชีพ มักจะระมัดระวัง เรื่องนี้กันมาก

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กว่าจะเป็น…นักมวยอาชีพ

กฎกติกาของเวที หรือ สังเวียน มวย

ศาสตราวุธของมวยไทยที่อันตรายที่สุด

ศาสตราวุธของมวยไทยที่อันตรายที่สุด

ศิลปะการต่อสู้ “มวยไทย” ( Muay Thai ) ที่ใช้เพียงแค่มือเปล่า เท้าเปล่า ก็สามารถเล่นงานคู่ต่อสู้ได้อยู่หมัด มาดูกันว่าศาสตราวุธโจมตีชนิดใดในมวยไทยที่หนักหน่วง รุนแรง และอันตรายมากที่สุด

 

     ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 ( Art of Eight Limbs ) 2 หมัด - 2 ศอก - 2 เข่า - 2 เท้า ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร ก็แค่มือเปล่า เท้าเปล่า แต่รู้หรือไม่ว่า อาวุธทั้ง 8 นี่แหละที่มีความหนักหน่วง รุนแรง และอันตรายแตกต่างกัน มาดูกันว่าอาวุธไหนอันตรายที่สุด

 

อาวุธที่ 1 : หมัด

     ขอเริ่มจาก “หมัด” ซึ่งเป็นอาวุธมวยไทยที่ใช้บ่อยและมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “มวยสากลสมัครเล่น” และ “มวยสากลอาชีพ” เพราะนักมวยไม่สามารถใช้ เท้า เข่า ศอก ได้อย่าง มวยไทย ( Muay Thai ) ดังนั้น นักมวยสากล จำเป็นต้องมีทักษะในการใช้หมัดหลากหลายแบบ โดยหมัดนั้นจะใช้แรงส่งจาก หัวไหล่ สะโพก และ ขา มายังกำปั้น เพื่อหวังโจมตีระยะกลาง

     การปล่อยหมัดที่ทำน้ำหนักได้ดีสุด คือ การใช้ “หมัดตรงหมัดหลัง” นักมวยจะใช้การบิดไหล่ข้างถนัด โน้มไปข้างหลังเล็กน้อย เพื่อทำให้เกิดแรงส่งจากสะโพก ลำตัว หัวไหล่ ที่มากกว่าหมัดตรงธรรมดา ออกไปยังเป้าหมาย แล้วดึงหมัดกลับมาในท่าจดมวยเดิม

     ความอันตรายของการใช้หมัด ถือว่าไม่ได้รุนแรงเท่า ศอก เข่า เท้า เพราะหมัดจะต้องอาศัยกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ได้ใหญ่มาก น้ำหนักและความแรงจึงไม่อาจเทียบเท่ากับส่วนอื่นๆ (อ่านเพิ่มเติม : มวยไทยกับการใช้หมัด, 7 การออกหมัดแบบมวยไทย)

 

อาวุธที่ 2 : ศอก

     อาวุธต่อมา “ศอก” เป็นอาวุธโจมตีที่ใช้พื้นที่น้อย แต่กลับมีอันตรายมากสุด และทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า “ศอก” คือ อาวุธที่อันตรายมากสุดของ มวยไทย ( Muay Thai )

     ทำไม “ศอก” ถึงอันตรายที่สุด นั่นก็เพราะว่า อาวุธศอก มีพื้นผิวสัมผัสน้อย ยิ่งพื้นที่การตีน้อย และรวดเร็ว จึงเกิดค่าความดันที่สูงมาก และศอกยังเป็นบริเวณที่แหลมคม มีความแข็งของกระดูก ทำให้เกิดแผลบริเวณใบหน้าได้ง่ายกว่าอาวุธทุกชนิด

     เมื่อโดนแรงจากปลายศอก เข้าไปกระทบผิวหนังใบหน้า ความดันที่มีค่าสูงจึงส่งผลให้เกิดแผลแตกได้ง่าย และทำให้สมองมึนงงไปจนถึงขั้นสลบ จนสามารถทำให้ชนะน็อคเอาท์ได้ หรือหากเป็นแผลแตกเหนือเบ้าตา จะส่งผลต่อการมองเห็นนักมวยอีกด้วย

 

อาวุธที่ 3 : เข่า

     “เข่า” เป็นอาวุธมวยไทยที่มีความหนักหน่วง เนื่องจากใช้แรงส่งจากสะโพก โดยใช้ส่วนของหัวเข่าด้านหน้า หรือ ด้านข้างหัวเข่า ซึ่งเป็นมุมแหลมและแข็งแรง เข้าปะทะในส่วนนิ่มของร่างกาย เช่น หน้าขา ท้อง ชายโครง ลำตัว หน้าอก หรือแม้แต่ปลายคาง

     ถึงแม้ว่า “เข่า” จะมีความหนักหน่วง มีเหลี่ยมของเข่าที่กระแทกเข้าที่ส่วนลำตัวของร่างกาย แต่เข่าไม่ใช่อาวุธที่อันตรายสุด เพราะส่วนมากแล้วร่างกายของนักมวยไทย ถูกฝึกฝนกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทนทาน พร้อมรับน้ำหนักและแรงกระแทกจากเข่าอยู่แล้ว (อ่านเพิ่มเติม : มวยไทยกับการใช้เข่า)

 

อาวุธที่ 4 : เท้า

     อาวุธสุดท้ายคือ “เท้า” เป็นอาวุธโจมตีระยะไกล และถือเป็นอวัยวะสำคัญสำหรับการชกมวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งในจังหวะรุกและรับ แถมยังมีพลังโจมตีมากพอที่จะทำให้คู่ต่อสู้น็อคเอาท์ได้ทันทีในชั่วพริบตา หากโดนเตะเข้าที่ก้านคอ เนื่องจากบริเวณของต้นคอ เป็นศูนย์รวมระบบประสาทที่เป็นส่วนที่สำคัญ นอกจากเท้าแล้ว มีอีกอย่างที่น่ากลัวคือ “แข้ง” เพราะมีน้ำหนักและความรุนแรง หากใครโดนก็เหมือนถูกท่อนไม้ตีเลยทีเดียว

     อาวุธเท้าในมวยไทย มีความแรงเกิดจากแรงขาและการหมุนของสะโพก สามารถโจมตีได้หลายแบบ นอกเหนือจากเตะก้านคอ ยังใช้เตะตัด เตะเฉียง การถีบ ดังนั้น การเตะที่ดีต้องอาศัยจังหวะ ความเร็ว การทรงตัว การเคลื่อนที่ที่ดี เพื่อให้การเตะนั้นออกมาสมบูรณ์

     คราวนี้ก็รู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า ศาสตราวุธทั้ง 8 ( Art of Eight Limbs ) 2 หมัด - 2 ศอก - 2 เข่า - 2 เท้า อันไหนอันตรายที่สุด รู้แล้วก็ระมัดระวังกันด้วยนะคะ และที่สำคัญถ้าใครฝึกมวยไทยแล้วนั้นยังได้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม เพราะจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อกระชับ การเผาผลาญ จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย คลายเครียดได้ดี เมื่อต้องเผชิญกับสารพัดปัญหามาทั้งวัน ก็เป็นการดีหากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายก็จะช่วยระบายอารมณ์ออกมาได้บ้าง หุ่นที่เฟิร์มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการต่อยมวยจะต้องโยกตัวไปมาบวกทั้งออกแรง ทำให้มีการเผาผลาญพลังงานเกิดขึ้น ถือว่าเป็นข้อดีที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ

     หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ เรียนมวยไทย สามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ “เจริญทอง มวยไทย ยิม” (Jaroenthong Muay Thai) มีทั้งหมด 3 สาขา คือ ข้าวสาร รัชดา และศรีนครินทร์ หรือข่าวสาร สาระที่น่าสนใจที่นี่เลย

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

เคล็ดลับการเลือกกระสอบทราย

มวยไทยให้อะไรเราบ้าง

เคล็ดลับการเลือกกระสอบทราย

เคล็ดลับการเลือกกระสอบทราย

คงมีหลายคนไม่น้อยที่กำลังลังเลว่าควรเลือกกระสอบทรายในการซ้อมมวยแบบไหนดี หรือกระสอบทรายแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา วันนี้เรามีเคล็ดลับการเลือกกระสอบทรายมาให้ทุกคนได้ตัดสินใจดูนะคะว่าอะไรที่เหมาะกับตัวเอง

 

          ข้างในกระสอบทรายมีอะไร

     กระสอบทราย หรือ Sand Bag หรือ Forging Bag ถือว่าเป็นอุปกรณ์การซ้อมมวยที่สำคัญอย่างหนึ่ง วัสดุภายนอกทำด้วยผ้าใบหรือหนัง หรือทั้งผ้าใบและหนังรวมกัน ถ้านำเข้าจากต่างประเทศจะเป็นกระสอบทรายที่ภายในบรรจุพลาสติกสังเคราะห์ เพื่อป้องกันเจ็บจากการเตะและต่อย

     ในอดีต กระสอบทรายที่นักมวยใช้ฝึกซ้อมมวยนั้นใช้ทรายจริง ๆ ใส่เข้าไปในกระสอบ เพราะคนโบราณแข็งแรงในการฝึกฝนมาก แต่ต่อมามีการนำเอาวัสดุอื่น ๆ เข้าประกอบเพื่อความนุ่มนวล อย่างไรก็ตามก็มีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็นทรายผสมขี้เลื่อย ข้อดี คือ มีความนุ่มนวลขึ้นในการแตะและต่อย ข้อเสีย คือ ใช้ไปไม่นานขี้เลื่อยจะขึ้นไปอยู่ด้านบนก็ต้องเอาลงมาปรับแต่งกันใหม่และบ่อยครั้งเกินไป ถ้าเป็นวัสดุอย่างแกลบกับขี้เลื่อย หรือเศษหนังเล็ก ๆ กับขี้เลื่อย ข้อดี คือ นุ่มนวล ข้อเสีย คือ น้ำหนักในการแตะต่อยจะไม่มี แรงสะท้อนกลับของวัสดุจะไม่มี ความสม่ำเสมอของวัสดุภายในก็ไม่มี บางด้านนิ่มบางด้านแข็ง เป็นอันตรายแก่ผู้ฝึกซ้อมได้เพราะผู้ฝึกซ้อมจะไม่อาจทราบได้ว่าฝั่งไหนของกระสอบนิ่มหรือแข็ง ขณะที่แรงแตะหรือต่อยออกไปคงที่ ทำให้มือหรือเท้าซ้นได้เป็นอันตราย ดีไม่ดีชกจริงไม่ได้กัน

     การใส่ขี้เลื่อยอย่างเดียวเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย แต่ข้อเสียอาจจะต้องไปซื้อมาใส่เพราะปัจจุบันขี้เลื่อยมีราคาหายากกว่าในอดีต โดยต้องเป็นขี้เลื่อยชนิดละเอียด เพราะถ้าใส่ชนิดหยาบเศษขี้เลื่อยอาจจะแทงทะลุกระสอบออกมาบาดเอาได้ ข้อเสียของคือขี้เลื่อยเมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็จะแข็งเหมือนปัญหาที่ ยอด ตงเซียม พบเจอ คือจะอัดตัวแน่นแข็งเกินไป วิธีการแก้ไข ต้องเตรียมขี้เลื่อยให้มาเพื่อไว้สลับสำรอง เพราะต้องเอาของเก่าที่แข็งออกมาตากแดดให้แห้ง โดยเกลี่ยให้โดนแดดทั่วกัน ขี้เลื่อยก็จะฟูขึ้นมาดังเดิมและนำมาใช้ใหม่ได้ ระหว่างของเก่าตากแดดก็นำขี้เลื่อยสำรองมาใช้ จะได้ฝึกซ้อมทุกวัน ประโยชน์ของขี้เลื่อยนอกจากใช้ใส่ในกระทรายทรายแล้ว ในอดีตเขายังนำเอาไปทำเป็นเวทีสังเวียนแข่งขันมวยไทยด้วย ใช้รองพื้นเวทีซึ่งเวทีต้องสูงจากพื้นอาคารหรือพื้นดินไม่ต่ำกว่า 4 ฟุต และไม่เกิน 5 ฟุต พื้นเวทีต้องปูด้วยผ้าอย่างอ่อน เสื่อ หรือฟาง แกลบ ขี้เลื่อย ไม้ก๊อกอัด ฯลฯ หนาอย่างน้อย 1 90 ซ ม 3 4 นิ้ว ไม่หนากว่า 5 ซ ม 2 นิ้ว และปูด้วยผ้าใบทับข้างบนอีกชั้นหนึ่ง ขึงให้ตึง

 

          ความแตกต่างระหว่างกระสอบทรายตั้งพื้นกับกระสอบทรายแบบแขวน

      กระสอบทราย จัดว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากคนที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายอย่างกายชกมวย และสำหรับคนที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายที่ไม่ใช่กลางแจ้ง ทำให้นักกีฬาหรือคนที่อยากจะออกกำลังกายได้ออกกำลังกายแบบสบาย ๆ ที่สำคัญในปัจจุบันไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปชกมวยหรือทำการชกกระสอบทรายที่ค่ายมวย เพราะสามารถที่จะติดตั้งกระสอบทรายไว้ที่บ้าน เพื่อออกกำลังกายได้แล้วง่าย ๆ และราคาไม่แพงอีกด้วย โดยเชื่อว่าหลายคนก็มักจะตั้งคำถามหนึ่งคำถามขึ้นมา เมื่อจะเลือกซื้อกระสอบทรายมา 1 กระสอบ ควรเลือกกระสอบทรายตั้งพื้น หรือกระสอบทรายแบบแขวนดี ซึ่งบอกได้เลยว่าทั้งสองอย่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งในแต่ละแบบมีดังต่อไปนี้

          กระสอบทรายแบบแขวน

ข้อดี คือ ราคาถูกกว่ากระสอบทราบตั้งพื้น นิยมมาอย่างยาวนาน

ข้อเสีย คือ ในการติดตั้งนั้นมีความยุ่งยากมาก ซึ่งในการติดตั้งกระสอบทรายแบบแขวนนั้นจะต้องทำการติดตั้งอย่างน้อย 3 เมตร ซึ่งทำให้การติดตั้งในพื้นที่ที่มีเพดานไม่สูงไม่สามารถที่จะทำได้  โดยก่อนที่จะทำการติดตั้งกระสอบทรายนั้นจะต้องทำการยัดทรายหรือเศษผ้าใส่ในตัวกระสอบก่อน  ถ้าเลือกเป็นทรายที่ยัดเข้าไปก็จะทำเกิดปัญหาในเรื่องของน้ำหนัก และตะขอที่จะใช้แขวน เพราะต้องมีความแข็งแรงมั่นคงมาก ๆ ถึงจะสามารถที่จะทำการรับน้ำหนักได้ เท่านั้นยังไม่พอ กระสอบทรายแบบแขวนอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากการฝึกซ้อมโดยใช้ทรายจริง ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้หลายคนจึงหันมาปรับเปลี่ยนด้วยการใช้ผ้าซึ่งเบาและปลอดภัยกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ดีก็ต้องทำการยัดกระสอบก่อนแขวนอยู่ดี ซึ่งไม่ว่าจะยัดด้วยเศษผ้าหรือทราย ใช้งานไปซักระยะ ตัวกระสอบก็จะเกิดการยุบตัวอยู่ดี

          กระสอบทรายตั้งพื้น

ข้อดี คือ มีขั้นตอนในการติดตั้งง่าย เพียงแค่ประกอบและติดตั้งให้ถูกตามคู่มือที่แนบมาและติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการใช้ซ้อม  ซึ่งก็ต้องทำการเผื่อพื้นที่ซักเล็กน้อยเวลาที่กระสอบล้ม แต่ส่วนใหญ่แล้วกระสอบทรายแบบตั้งพื้นสูงไม่เกิน 2 เมตร ล้มรอบด้านก็ด้านละ 2 เมตรเท่านั้น และอีกอย่างคือ ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาในการยัดของกระสอบ เนื่องจากระสอบทรายตั้งพื้นที่ซื้อมาส่วนใหญ่จะทำการบุฟองน้ำ และหุ้มมาให้เรียบร้อยแล้วติดตั้งเสร็จก็ฟิตได้ทันที ที่สำคัญได้ถูกออกแบบมาอย่างดี เพื่อช่วยเรื่องความปลอดภัยในเรื่องของการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม นอกจากนี้แล้วกระสอบทรายตั้งพื้น ยังสามารถที่จะนำไปตั้งตรงไหนของบ้านก็ได้ เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก แถมกระสอบทรายตั้งพื้น ยังสามารถที่จะขายต่อมือ 2 ได้อีกด้วย เพราะมีคนรอซื้อมากมาย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก

     นอกจากนี้แล้วความแตกต่างระหว่างกระสอบทรายตั้งพื้นกับกระสอบทรายแบบแขวน อีกอย่างหนึ่งก็คือ ในเรื่องของการเคลื่อนย้าย หากเป็นกระสอบทรายตั้งพื้นสามารถที่จะทำการเคลื่อนย้ายได้ทันทีไม่ต้องยุ่งยาก ซึ่งมีความแตกต่างกับกระสอบทรายแบบแขวน ที่ในการย้ายนั้นจะต้องทำการเจาะเสา เจาะกำแพง ยึดเหล็กใหม่ทั้งหมด ที่จะส่งผลทำให้เสียเงินในการทำอย่างแน่นอนและข้อดีที่สำคัญที่สุดก็ คือ อารมณ์ร่วมในขณะที่ทำการฝึกซ้อมหรือออกกำลังกาย การฝึกซ้อมด้วยกระสอบทรายตั้งพื้นจะทำให้ความรู้สึกเหมือนซ้อมกับคนจริงที่มีการโยกหัวหลบไปมา แตกต่างจากกระสอบแบบแขวนที่แกว่งด้านล่างเท่านั้น

 

          วิธีเลือกกระสอบทรายสำหรับการใช้งาน

     เมื่อคุณสนใจที่จะเลือกซื้อกระสอบทรายเพื่อเก็บไว้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไว้ใช้ฝึกซ้อมฝีมือ การชกมวยที่บ้าน หรือเป็นการซื้อใช้ภายในยิมและสถานออกกำลังกายต่าง ๆ คุณควรรู้วิธีเลือกกระสอบทรายให้เหมาะสมต่อการใช้งานและความต้องการ ดังต่อไปนี้

1.อุปกรณ์ติดยึดต้องแข็งแรง

     สำหรับอุปกรณ์ติดยึดต่าง ๆ ของกระสอบทรายแบบแขวน ตั้งแต่เหล็กสำหรับยึดผนังหรือโครงเหล็กสำหรับห้อยกระสอบทราย โซ่ห้อยตัวกระสอบทราย รวมไปถึงน็อตยึดต่าง ๆ จะต้องมีความแข็งแรงทั้งหมด เพราะกระสอบทรายในลักษณะนี้ จะต้องสูงประมาณ 3 เมตร เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกต่อการต่อยและเตะได้อย่างตรงจุดมากที่สุด ซึ่งถ้าอุปกรณ์เหล่านี้ไม่มีความแข็งแรง เมื่อใช้งานไปในระยะเวลาหนึ่งอาจหลุดออกจากจุดที่ยึดไว้แล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ใช้งานได้ ดังนั้นถ้าเลือกกระสอบทรายแบบแขวน คุณจะต้องดูอุปกรณ์ติดยึดทั้งหมดให้ดี ควรเป็นเหล็กและน็อตที่มีความแข็งแรง สามารถยึดติดกับผนังหรือโครงเหล็กได้อย่างแน่นหนาที่สุด

2.ฐานต้องมั่นคง

     สำหรับผู้ที่ใช้กระสอบทรายแบบตั้งพื้นต้องเลือกที่ฐานของกระสอบทรายเป็นหลัก ซึ่งฐานจะต้องเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง และมีน้ำหนักที่พอเหมาะ สามารถยึดกระสอบทรายไว้ไม่ให้เคลื่อนที่หรือล้มเมื่อถูกแรงกระแทกได้ง่าย เพราะกระสอบทรายจะต้องเป็นตัวที่รองรับน้ำหนักของการเตะและต่อยได้อย่างสมดุล จึงต้องดูทั้งโครงสร้างของกระสอบทรายและฐานที่จะต้องมีความมั่นคงและแข็งแรงพอสมควร เพื่อป้องกันการแตกหักเสียหายง่ายในอนาคต ซึ่งวัสดุที่ได้มาตรฐานนั้นควรจะต้องเป็นเหล็กเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องเสียหายง่ายจนเกินไป

3.วัสดุได้มาตรฐาน

     วัสดุทำกระสอบทรายที่ไม่ว่าจะเป็นผ้าใบหรือหนัง ควรจะต้องเป็นแบบได้มาตรฐานทั้งหมด มีการตัดเย็บที่ประณีต เพื่อป้องกันไม่ให้แตกและเสียหายได้ง่าย รวมไปถึงวัสดุภายในที่ใช้อัดกระสอบทราย ไม่ว่าจะเป็นเศษผ้า ขี้เลื่อย หรือทรายแท้  ควรจะต้องถูกอัดไว้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อทำให้กระสอบทรายมีความยืดหยุ่นที่ดีและให้การใช้งานที่ปลอดภัย

4.ตัวถ่วงน้ำหนักมีคุณภาพ

     การตรวจสอบน้ำหนักของกระสอบทรายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้าม ก่อนซื้อคุณควรตรวจสอบดูว่าตัวถ่วงน้ำหนักของกระสอบทรายนั้น ๆ ได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งการใช้งานที่ไม่ว่าจะเตะ ต่อย หรือใช้ท่ามวยใด ๆ ในกรณีของกระสอบทรายตั้งพื้นจะต้องไม่ล้มง่ายและจะต้องไม่แข็งจนเกินไป แต่ถ้าเป็นกระสอบทรายแบบแขวนจะต้องไม่แกว่งมากเกินไป ควรจะต้องมีความสมดุลเพื่อให้การปล่อยหมัดหรือการเตะออกไปของผู้ใช้สามารถทำได้อย่างเต็มกำลัง ตรงจุดนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะการสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อจำเป็นจะต้องเลือกใช้กระสอบทรายที่มีคุณภาพและมีตัวถ่วงน้ำหนักที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ถ้าต้องการแบบมาตรฐานดีควรเลือกกระสอบทรายแบบสุญญากาศที่คุณจะสามารถเพิ่มน้ำหนักของตัวถ่วงน้ำหนักได้เองในอนาคต

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

มวยไทยให้อะไรเราบ้าง

กว่าจะเป็นมวยไทย

ออกกำลังกาย ตามนักมวยอาชีพ

ออกกำลังกาย ตามนักมวยอาชีพ

กีฬามวยในประเทศไทยของเรา ถือว่าเป็นกีฬาอันดับต้น ๆ ที่มีคนรู้จักและให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่สุด อาจจะพูดได้ว่า เป็นกีฬาประจำชาติของเราเลยก็ว่าได้ เราจะเห็นว่า เรามีนักมวยอาชีพเก่ง ๆ เยอะแยะมากมาย แต่กว่าที่เขาจะเป็น นักมวยอาชีพเนี่ย เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง

 

หากใครเคยผ่าน หรือมีโอกาสได้ เข้าไปเห็นบรรยากาศ การซ้อมมวย ภายในยิมมวย หรือค่ายมวยต่าง ๆ ก็จะรู้ดีว่า แหล่านักมวยนั้น เขาซ้อมกันอย่าง หนักหน่วงมากเพียงใด เขาจะต้องอดทน ต่อการฝึกซ้อม การควบคุม อาหารการกิน น้ำหนัก เพื่อให้มีร่างกายที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด

 

วันนี้เรามีท่า ที่เหล่านักมวยอาชีพ เขาใช้ในการสสร้างร่างกาย แบบนักมวยมาฝากกัน เริ่มจาก

 

ท่าไหล่ดัน ( Shoulder Presses )

ท่าไหล่ดัน ( Shoulder Presses ) เป็นท่าที่สร้างกล้ามเนื้อ หัวไหล่ได้อย่างดี โดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลัก คือ ดัมเบล ( Dumbbell ) ถ้าหากไม่มีจะใช้ เป็นขวดน้ำก็ได้ แล้วจับให้มั่นจากนั้น ดันขึ้นเหนือหัว ละลง อย่างต่อเนื่อง

 

วิดพื้นแบบตบมือ ( Clap Press – Up )

วิดพื้นแบบตบมือ ( Clap Press – Up ) เป็นวิธีการ ออกกำลังกายที่ง่าย และสามารถทำตอนไหนก็ได้ ท่านี้ไม่ได้เพิ่มแค่ ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ เพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับเรื่องของ Body Balance ที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับนักมวย

 

แพลงค์ ( Plank )

เป็นท่าที่ทำยาก และทรมานที่สุด เพราะต้องอาศัย ความแข็งแรง ของร่างกายหลาย ๆ ส่วน เป็นท่านักมวยทุกคน ให้ความสำคัญ ลองทำควบคู่กับการ Crunches และ Sit Up จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น Plank จะเสริมสร้างความแข็งแรง ของร่างกายส่วนกลาง ให้ทนต่อหมดหนัก ๆ ของคู่ต่อสู้

 

คาร์ดิโอ ( Cardio )

ถ้าอยากมีหุ่นที่ฟิต แบบนักมวย ต้องเริ่มจาก คาร์ดิโอ ( Cardio )  เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ทำโดยการ ซิทอัพ วิ่ง กระโดดเชือก ต้องฝึกแบบการกระโดด ที่หลากหลาย และการฝึกความแข็งแรง ของร่างกายในส่วนต่าง ๆ เช่น การดึงข้อ การบริหารกล้ามเนื้อ หลังแขน การวิดพื้น และการฝึกด้วยลูกบอล เทรนนิ่งในท่าทางต่าง ๆ

 

ฟุ้ตเวิร์ค ( Foot work )

ฟุ้ตเวิร์ค ( Foot work ) ฝึกเพื่อใช้ในการหลบหลีก หมัดของคู่ต่อสู้ ความว่องไวในการ Foot work จะช่วยเพิ่มความสามารถ ในการรับมือ ในการต่อสู้ กับคู่ชกได้อย่างดี

 

ท่าชกเงา ( Shadow Boxing )

ท่าชกเงา ( Shadow Boxing ) เป็นการฝึกชกลม เพื่อให้นักชกฝึกการออกหมัด และท่าทางที่ถูกต้อง การชกลมเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างเทคนิคการชก การรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย และสามารถฝึกที่ไหนก็ได้ ที่ทำให้เราขยับช่วงบนได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น

 

Bag Work

 

( Bag Work ) คือการต่อยกระสอบทราย ที่สามารถฝึก ความแข็งแกร่งของหมัด สายตา และการป้องกัน

 

Skipping

( Skipping ) เป็นการหลบหลีก หมัดของคู่ต่อสู้ อาศัยความว่องไวของ Foot work ทำได้ง่าย ๆ โดย มีเชือกเส้นเดียวกับลานโล่ง ๆ Skipping เป็นสิ่งสำคัญของนักมวย จะขาดไม่ได้ในเวลาซ้อม และยังเป็นท่าที่ใช้รักษาสภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ

 

ท่าวิดพื้น ( Push - Up )

ท่าวิดพื้น ( Push - Up ) เป็นท่าที่ทำยาก สำหรับคนไม่ค่อย ได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายโดย ท่าวิดพื้น ( Push - Up ) จะให้ประโยชน์กับ กล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงเพิ่มแรงผลัก เวลาที่ต้องคลุกวงกับคู่ต่อสู้ จึงเป็นที่นิยมกันในหมู่นักมวย

 

ท่าสควอช ( Squat )

ท่าสควอช ( Squat ) เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายในส่วนล่าง เพราะนักมวยจะต้องมีการยืนที่มั่นคง พร้อมที่ปล่อยหมัดเพื่อรุกผู้ต่อสู้ได้ตลอดเวลา หากทำท่า Squats ร่วมกับท่าบริหารสะโพกส่วนอื่นให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณมีช่วงล่างที่แข็งแรงแน่นอน แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

 

Chin Ups

( Chin Ups ) เป็นการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้ช่วงบนแข็งแรง และสมส่วน จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ช่วงแขน อก ไหล่ ในท่าเดียวกัน แต่ไม่ควรหักโหมเกินไป จนกล้ามเนื้อบาดเจ็บ

 

ท่าเบอร์พี ( Burpees )

ท่าเบอร์พี ( Burpees ) เป็นหัวใจสำคัญ ในการออกกำลังกาย ให้ได้ผล หากใครอยากมีรูปร่างที่สมส่วน  ถ้าทำท่า Burpees อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัว หรือเพิ่มความแข็งแรง ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย

 

บอกกันเลยว่า กว่าจะมาเป็น นักมวยอาชีพนั้น เรียกได้ว่ายากลำบากมาก ต้องมีความอดทน มุ่งมั่น ทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจเลยทีเดียว หากคุณอยากออกกำลังกาย ให้ได้ร่างกายที่แข็งแกร่ง แบบนักมวยอาชีพ ก็ลองดูได้นะ แต่ต้องระวังให้มาก ๆ เพราะอาจจะทำให้เกิด อาการบาดเจ็บได้ ยังไงก็ควรจะอยู่ในการดูแล ของผู้ที่รู้จักวิธีการออกกำลังกาย หรือควรจะให้พอดี กับร่างกายคุณเองนะ

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

มวยไทยให้อะไรเราบ้าง

มวยไทยให้อะไรเราบ้าง

แม้ว่าการชกมวยจะเป็นการทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บจากคู่ต่อสู้ แต่ก็ยังมีหลายคนที่เลือกจะเล่นกีฬาประเภทนี้ เพราะสามารถเป็นศิลปะป้องกันตัวได้ แต่ไม่ใช่เพราะเหตุผลแค่นี้ที่จะทำให้คนหันมาชกมวยแน่ เรามาดูกันค่ะว่ามวยไทยให้อะไรเราบ้าง

 

     อันที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใครก็ได้ แค่ฝึกซ้อมกับกระสอบทรายก็ได้ประโยชน์แบบเดียวกันกับนักกีฬามืออาชีพแล้ว ซึ่งปัจจุบัน “มวยไทย” ( Muay Thai ) กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในโรงยิมและมีหลากหลายประเภท ให้ประโยชน์อีกเยอะมากมาย ทำให้ผ่อนคลาย และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ร่างกายด้วย

1. พัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม

     “มวยไทย” ( Muay Thai) ทำให้คุณได้ทั้งเตะ กระโดด ใช้ฝีเท้าในการหลบหมัด และการชก ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนต้องอาศัยพลังงานและความแข็งแกร่งอย่างมหาศาล เนื่องจากคุณต้องทำซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง

     จงจำไว้ว่ากีฬาชกมวยมีจุดประสงค์ คือ ชกกับคู่ต่อสู้จนกว่าอีกฝ่ายจะน็อค แต่ถ้าไม่น็อคจะมีการนับคะแนนและตัดสินว่าคุณทำได้ดีแค่ไหนเมื่อจบการแข่งขัน ซึ่งหมายความว่า จำนวนหมัดที่เข้าเป้าและการป้องกันนั้น มีความสำคัญทั้งสิ้น

     การชกมวยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อกระชับ นอกจากนี้ “มวยไทย” ( Muay Thai ) ยังเป็นกีฬาที่เน้นร่างกายช่วงบน ร่างกายช่วงล่าง และแกนกลางในเวลาเดียวกัน เป้าหมายของการต่อยมวย คือ ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว

 

2. การเผาผลาญ

     การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training (การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง) เพราะการขึ้นชกใน 1 ยก คือ การใช้ร่างกายไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยก คือ การทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกายแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงานการใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน

     การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยาน จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง สามารถเบิร์นไขมันได้ถึง 13 แคลอรี่ใน 1 นาที

 

3. คลายเครียดได้ดี

     เมื่อต้องเผชิญกับสารพัดปัญหามาทั้งวัน ก็เป็นการดีหากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีนและฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมา ระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย การต่อยมวยจึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพ

 

4. หุ่นที่เฟิร์มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     อยากมีซิกซ์แพคชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพ แล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะการชกมวยจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝัน

 

5. ช่วยในเรื่องสมาธิ ลดความเครียดและความวิตกกังวล

     การออกกำลังกายนั้นสามารถช่วยในเรื่องอารมณ์ได้ดีอยู่แล้วเพราะระหว่างที่เราออกกำลังกายนั้นร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอนโดรฟินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ทำให้เรารู้สึกดีมีความสุขมากขึ้น

     นอกจากนี้สิ่งที่คุณควรรู้ คือ การออกกำลังกายด้วยการซ้อมมวยนั้นเป็นการออกกำลังกายแบบที่เข้มข้นสูงและต่ำสลับกันไป ช่วงที่มีความเข้มข้นสูงนั้นก็คือช่วงที่คุณออกอาวุธได้ปล่อยหมัดหรือได้เตะ ส่วนช่วงที่มีความเข้มข้นต่ำก็คือช่วงที่เราฟุตเวิร์ค เตรียมพร้อมที่จะออกอาวุธนั่นเอง

 

6. ฝึกให้ร่างกายของเรามีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รวดเร็ว

     การซ้อมมวยนั้นเป็นการฝึกให้ร่างกายของเรามีความสัมพันธ์ระหว่างตา สมอง และกล้ามเนื้อส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม การเป็นคนที่มีความแอ็คทีฟ กระฉับกระเฉง นั้นเป็นเพราะการซ้อมมวยจำเป็นจะต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงทุกส่วนของร่างกาย ระหว่างฝึกมวยจะต้องมีสมาธิ ตาจะต้องไว ต้องมีการออกอาวุธที่รวดเร็ว เคลื่อนที่ว่องไว สามารถหลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ดี

 

7. เป็นการฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม

     กีฬามวยเป็นกีฬาที่โหดทรหดมากมาก จึงจำเป็นต้องอาศัยการฝึกร่างกายของเราให้แข็งแกร่งทุกสัดส่วนทั้งช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงล่าง มีช่วงกลางลำตัวที่แข็งแกร่งที่สามารถรับการโจมตีจากการออกอาวุธของคู่ต่อสู้ได้ และมีแขนที่ทรงพลังเพื่อเอาไว้ออกอาวุธที่มีพลังในการโจมตี

 

8. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด

     มวย ถือเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ช่วยให้เรามีปอดที่ใหญ่ขึ้น สามารถกระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดได้ดี เพราะการที่จะทำเช่นนั้นได้เราจะต้องออกกำลังกายให้หัวใจและปอดมีความเครียดในระดับปานกลาง ซึ่งทำให้หัวใจและปอดของคุณทำงานได้ดีขึ้นส่งผลให้ระบบการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

          ท่าพื้นฐานของมวยไทย

1. หมัดตรง

     ท่าที่เรียกได้ว่าง่ายที่สุดของการฝึก เริ่มแรก ให้ยืนปลายเท้าห่างพอประมาณ กำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับอก เก็บศอกแนบลำตัว ตามองตรง ก้าวเท้าซ้ายพร้อมชกหมัดขวาไปด้านหน้าให้แขนขนานไปกับพื้น เปิดส้นเท้าขวาทิ้งน้ำหนักไปทางเท้าซ้าย จากนั้นให้กลับมาอยู่ในท่าเตรียม ทำต่อแต่สลับด้านกันจากซ้ายมาเป็นขวา ทำสลับไปมาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซักประมาณ 5 - 10 นาที

2. ตีเข่า

     เริ่มต้นด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากกับหน้าอก แนบแขนให้ชิดลำตัวเช่นเดิม แล้วจากนั้นให้ยกเข่าขวาขึ้นสูงเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย กลับมาที่ท่าเริ่มต้น แล้วทำทำซ้ำสลับเข่าซ้ายขวา 5 -10 นาที

3. เตะ

     เริ่มด้วยท่าเริ่มต้นเหมือนเดิมคือกำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากที่ระดับหน้าอก จากนั้นก้าวเท้าซ้ายมาข้างหน้าพร้อม ๆ กับการเตะขาขวาขึ้นในลักษณะเหวี่ยง ให้ปลายเท้าชี้มาทางซ้าย บิดตัวเล็กน้อย แล้วกลับมาที่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำสลับซ้ายขวาใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาที

4. ถีบ

     เริ่มจากท่าเริ่มต้น กำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากกับระดับของหน้าอก แนบแขนชิดติดลำตัว ตามองตรงไปข้างหน้า จากนั้นให้งอเข่าเล็กน้อยพร้อมกับเตะขาออกไปข้างหน้า แต่ปลายเท้าต้องตั้งฉากเท่าที่จะทำได้ กลับมาสู่ท่าเริ่มต้น แล้วทำสลับซ้ายขวา ใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาที

5. ศอกตัด

     เริ่มต้นท่าเตรียมด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับอก จากนั้นก้าวเท้าขวาไปด้านขวา ตามด้วยการเหวี่ยงแขนซ้ายให้ข้อศอกตั้งฉากกับหมัดขวา บิดลำตัวนิดหน่อย บิดส้นเท้าซ้าย แล้วกลับมาที่ท่าเตรียม ทำสลับไปมาทั้งซ้ายและขวา ประมาณ 5 -10 นาที

 

     “มวยไทย” เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทย ยากที่จะเลียนแบบได้ เพราะศิลปะนี้เกิดขึ้นตามประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ได้มีการสู้รบกับชาติข้างเคียง เพื่อรักษาแผ่นดินสยามนี้มาโดยตลอด

     แม้ว่ากีฬาเกี่ยวกับการชกมวยไทยจะยอมรับกติกามวยแบบสากลแล้วก็ตาม แต่ในส่วนพื้นฐานจริง ๆ ของความเป็นมวยไทย เรายังรักษาไว้ มั่นคงตราบเท่าทุกวันนี้คือ ยังคงใช้ หมัด เท้า ศอก เข่า อันเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทยอยู่อย่างเหนียวแน่น

     อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใครแค่ฝึกซ้อมกับกระสอบทรายก็ยังได้ประโยชน์แบบเดียวกัน ปัจจุบันมวยไทย (Muaythai) กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในยิม และมีประโยชน์หลายอย่างด้วยเช่นกัน สามารถติดต่อสอบถามเรียนมวยไทย เพื่อสุขภาพ ได้ที่ เจริญทอง มวยไทย ทั้ง 3 สาขา (สาขารัชดา, สาขาข้าวสาร, สาขาศรีนครินทร์)

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

กว่าจะเป็นมวยไทย

เริ่มต่อยมวยยังไงดีนะ

เปิดประวัติ มวยไทย

เปิดประวัติ มวยไทย

มวยไทย นั้นเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ที่คงคู่อยู่กับชาวไทยมาตั้งแต่อดีตกาล แม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ว่าศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้ก็ยังคงดำรงค์อยู่คู่กับชาวไทย และเผยแพร่สู่ต่างประเทศ จนกลายเป็นที่นิยม อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

 

ประวัติศาสตร์มวยไทย ( Muay Thai ) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอพยพ ของประชากรที่อาศัยอยู่ ในมณฑลยูนนาน บนฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง ของประเทศจีน โดยตามตำนานของไทย เชื่อว่ามีผู้คนจำนวนมาก ที่เดินทางออกจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน มาสู่ประเทศไทย เพื่อค้นหาที่ดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ สำหรับการเกษตร อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการโยกย้าย ของพวกเขา ชาวไทยกลุ่มนี้ ได้ถูกโจมตีโดยโจร และสัตว์ นอกจากนี้ ยังมีโรคต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องเผชิญ เพื่อเพิ่มความสามารถ ในการป้องกันร่างกาย และจิตใจ การรับมือกับความทุกข์ยาก ชาวไทยสยาม จึงได้คิดค้นวิธีการต่อสู้

 

แม้ว่าการดูแลรักษา จัดเก็บเอกสาร ตำราทางประวัติศาสตร์ ในยุคนั้น ส่วนใหญ่จะสูญหายไป เมื่อครั้งที่ถูก กองทัพพม่าทำลาย และขับไล่ออกจาก เมืองอยุธยาในสมัย สงครามพม่า - ไทย ( พ.ศ. 2302 - 2303 ) แต่เราก็ยังสามารถพบหลักฐาน และข้อมูลของ เอกสารบางส่วน ได้จากบันทึกของพม่า กัมพูชา และจากชาวยุโรป เมื่อครั้งมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นครั้งแรก รวมถึงจากบันทึกเหตุการณ์ ของล้านนา หรือเมืองเชียงใหม่ในปัจจุบัน

 

สมัยสุโขทัย

 

เมืองหลวงของประเทศไทย ในช่วงนี้ตั้งอยู่ที่เมืองสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 1781 ถึง พ.ศ. 1951 ตามรายการที่บันทึกไว้ในศิลา สุโขทัยมีความขัดแย้งกับหลายเมือง ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมักจะเผชิญหน้ากับข้าศึกจากภูมิภาคต่าง ๆ ดังนั้น ทางเมืองสุโขทัยจึงมีคำสั่ง ให้มีการฝึกฝนในกองทัพ รวมถึงการใช้ดาบ หอก และอาวุธอื่น ๆ เพื่อใช้ในการต่อสู้ นอกจากนี้ การฝึกต่อสู้โดยใช้ร่างกาย มีประโยชน์มาก ในยามบ้านเมืองไม่มีสงคราม ทักษะการต่อสู้ด้วยการใช้หมัด เข่า และศอก ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกซ้อม ของกองทัพสุโขทัย

 

ในยามสงบ การฝึกมวยไทย ( Muay Thai ) จะเป็นกิจกรรมแบบไม่แบ่งชนชั้น โดยบรรดาชายไทยวัยหนุ่ม จะได้รับทักษะการต่อสู้ และป้องกันตัว ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมล่วงหน้า ก่อนเข้ารับราชการทหาร ศูนย์ฝึกซ้อมส่วนใหญ่ จัดขึ้นที่บริเวณรอบเมือง โดยเฉพาะสำนักสมอคร ในแขวงเมืองลพบุรี รวมถึงมีการสอนตามลานวัด โดยมีพระภิกษุเป็นผู้ฝึกสอน

 

ในช่วงเวลานี้ มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับการยกย่อง เป็นศิลปะชั้นสูงทางสังคม และนำมาใช้จริง ในการพัฒนาสมรรถภาพ ทางกายแก่นักรบ การสร้างความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ต่อผู้ปกครองบ้านเมือง พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์แรกของสุโขทัย ทรงเชื่อมั่นในประโยชน์ของมวยไทย จึงส่งราชโอรสสองพระองค์ ไปยังสำนักสมอคร เพื่อเตรียมความพร้อม ในการสืบทอดราชบัลลังก์ ระหว่างปี พ.ศ. 1818 ถึง 1860 พ่อขุนรามคำแหง ทรงนิพนธ์ตำหรับพิชัยสงคราม ที่มีการกล่าวถึงมวยไทย เช่นเดียวกับทักษะการต่อสู้อื่น ๆ

 

 

สมัยกรุงศรีอยุธยา

 

สมัยกรุงศรีอยุธยา อยู้ในช่วงระหว่าง พ.ศ. 1988 ถึง พ.ศ. 2310 ในช่วงนี้มีสงครามจำนวนมาก ระหว่างไทย พม่า และกัมพูชา จึงได้มีการฝึกพัฒนาทักษะ ด้านมวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อการป้องกันตัว อาจารย์ผู้ถ่ายทอด ศิลปะการต่อสู้นี้ให้แก่ชาวไทย ไม่ได้มีจำกัดเฉพาะ ในพระบรมมหาราชวังดังเช่นก่อนหน้านี้ โดยมีสำนักดาบพุทไธสวรรย์ ที่ได้รับความนิยมในสมัยนี้ มีนักเรียนหลายคนเข้ามาเรียนรู้เรื่องระเบียบวินัย พวกเขาฝึกวิชาดาบ และการต่อสู้ระยะประชิด ด้วยดาบหวาย จากการเรียนรู้การต่อสู้ โดยไม่ใช้อาวุธของทหารนี้เอง ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ มวยไทยโบราณ ซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิมของมวยไทยโดยสำนักมวยในยุคนั้น ได้เริ่มถ่ายทอดความรู้นี้ ให้แก่ประชาชน

 

 

สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ( พ.ศ. 2133 - 2147 )

 

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงให้ความสำคัญต่อมวยไทย ( Muay Thai ) อย่างยิ่ง โดยให้การฝึกแก่บรรดาชายหนุ่ม เพื่อเสริมสร้างความสามารถ ด้านมวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งในแง่ของความกล้าหาญ และความเชื่อมั่นในตนเอง พวกเขาได้รับคำสั่ง ให้เรียนรู้การต่อสู้ ด้วยอาวุธทุกชนิด นอกจากนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยังทรงแต่งตั้ง กองเสือป่าแมวมอง ซึ่งเป็นหน่วยรบแบบกองโจร โดยกองทหารเหล่านี้ สามารถกอบกู้ เอกราชของประเทศไทย จากประเทศพม่าได้ในช่วงเวลาดังกล่าว

 

 

สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ( พ.ศ. 2147 - 2233 )

 

ในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่ประเทศไทย มองไปทางไหน ก็มีแต่ความสงบสุข จึงทำให้มีโอกาส ในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และการทหาร แห่งราชอาณาจักร สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงให้การสนับสนุน และส่งเสริมกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมวยไทย ( Muay Thai ) ที่ได้กลายเป็น กีฬาประจำชาติ ในช่วงเวลานี้ ได้มีค่ายมวยเกิดขึ้นหลายแห่ง ซึ่งมีการพัฒนาพื้นที่ ในการฝึกโดยเฉพาะ โดยการสร้างสังเวียนมวย และลานดิน ซึ่งมีเชือกเพียงเส้นเดียวกั้น และมีกฎกติการการแข่งขัน ในบริเวณสี่เหลี่ยมจัตุรัส นักมวยจะใช้ด้ายดิบชุบแป้ง หรือน้ำมันดิน ให้แข็งเพื่อพันข้อมือ วิธีการเช่นนี้จึงได้รับการเรียกกัน ในชื่อคาดเชือก ( การใช้เชือกพัน ) หรือที่รู้จักกัน ในชื่อมวยคาดเชือก ( การต่อสู้กันโดยมีเชือกพัน )

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เพื่อน ๆ ได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ของมวยไทย ( Muay Thai ) แบบเต็มอิ่มกันเลยไหมล่ะคะ รู้กันแบบนี้แล้ว หากเพื่อน ๆ เริ่มสนใจกีฬามวยไทยขึ้นมา อยากจะลุกขึ้นมาออกหมัด เท้า เข่า ศอก กันก็ลองหาข้อมูล หรือค่ายใกล้บ้านเพื่อน ๆ เพื่อหาดูคอร์สที่เหมาะสมกับตัวเพื่อน ๆ เองกันดูนะคะ

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กว่าจะเป็น…นักมวยอาชีพ

กฎกติกาของเวที หรือ สังเวียน มวย

กฎกติกาของเวที หรือ สังเวียน มวย

กฎกติกาของเวที หรือ สังเวียน มวย

การต่อยมวย หรือ กีฬาประเภทมวยนั้น เป็นกีฬา ที่ ต้อง ให้คน สอง คน ต่อสู้กัน เพื่อ นับคะแนน ในการตัดสิน นั้นแปลว่า การที่เราต้อง ต่อสู้กัน จะต้องมี กฎกติกา ที่เข้มงวด ในการแข่งขัน เราจะมาหาความหมายของกฎกติกา เหล่านั้นกัน

 

กฎกติกา กีฬาประเภทมวย มีอะไรบ้าง

 

          กีฬา ทุกชนิดนั้น จะมี กฎกติกา ของแต่ละ กีฬาแบ่งๆ กันไป ไม่ว่าจะเป็น กีฬา ที่ใช้พลังกำลัง หรือ กีฬา ที่ใช้ ความสามารถ ด้านความคิด หรือ รวมไป ถึงกีฬา ประเภท Esport หรือ กีฬาที่แข่ง กันผ่านเกม ก็ล้วนแล้ว จะมี กฎกติกา อยู่ทุกประเภท รวมไปถึง กีฬา ที่ใช้ การต่อสู้ เพื่อ ล้มคู่ต่อสู้ นั่นคือ กีฬา การต่อยมวยนั่นเอง กีฬามวยนั้น จะแบ่ง กฎกติกา ในหลายๆ กฎกติกา ไม่ว่าจะเป็น กฎกติกา เวที สังเวียน กฎกติกา อุปกรณ์ การชกมวย หรือ กฎกติกา นักมวย จะแบ่ง ได้หลากหลาย รูปแบบ ของ กฎกติกา ดังนั้น เราจะมาแยก กฎกติกา ของกีฬามวย ประเภท ต่างๆกัน ดังนี้

 

            กฎกติกา ของสังเวียน หรือ เวทีมวย

  1. ขนาด สังเวียน หรือ เวทีมวย จำเป็นต้อง เป็น ขนาดสี่เหลี่ยม จัตุรัส ขนาดเล็ก ด้าน ละ 20 ฟุต หรือ ( 6 . 10 เมตร ) ขนาดใหญ่ด้านละ 24 ฟุต หรือ ( 7 . 30 เมตร ) และเวที ต้องสูงจากพื้น ประมาณ 3 ฟุต แต่ ห้ามสูง เกิน 4 ฟุต

 

  1. เชือก ของสนามมวย ต้องมี 4 เส้น รอบข้าง ขนาดของเส้น จะต้อง ผ่านศูนย์ไม่น้อยกว่า 1½ นิ้ว  และ ต้องขึงติดกับ เสามุม ทั้ง 4 เสา และ เสามุม ต้องสูง กว่าสังเวียน ประมาณ 16 32 48 และ 60 นิ้ว ไล่ตามลำดับ

 

 

  1. พื้น ของเวที มวย  ต้อง มีความ ปลอดภัย อยู่ในรับดับ มาตรฐาน  ปราศจาก สิ่งกีดขวางใดๆ ทั้งสิ้น และ ต้องยื่นออกไปนอก เชือกอย่างน้อย 20 นิ้ว ต้องปู ด้วยสักหลาด ของยาง หรือ วัสดุ อื่นๆ ที่เหมาะสม

 

  1. มุมของสังเวียน มุมเสาของสังเวียน นั้น ต้อง ตั้งเสาไว้ที่มุม ทั้งสี่ ต้องขนาดเท่ากับเส้นผ่าน ศูนย์ กลาง ประมาณ 5 นิ้ว  สูงขึ้นจาก เวที ประมาณ 60 นิ้ว พร้อม ทั้ง หุ้มนวม ที่ มุมเสาภายในเส้นเชือก ให้เรียบร้อย เพื่อ ที่จะไม่ให้ เกิดอันตรายได้ กับนักมวย มุมแดง นั้น คือมุมที่ใกล้ กับประธานกรรมการควบคุม การแข่งขัน

 

  1. บันได ของเวทีมวย ต้องมี 3 บันได และต้อง กว้าง ไม่น้อยกว่า 3 ฟุต ไว้ที่มุม ตรงข้าม ของเวทีมวย สอง บันไดนั้น เพื่อให้ นักมวย และ พี่เลี้ยงได้ สามารถเดิน ขึ้น ลง ได้ ส่วนอีก บันได ไว้ให้กับผู้ชี้ขาด และ แพทย์ ผู้ดูแล

 

  1. กล่องพลาสติก กล่องพลาสติกที่มุม กลางทั้งสอง มุม ของสังเวียน ให้ติด กล่องพลาสติก มุม ละกล่อง เพื่อให้ กรรมการ หรือ ผู้ ชี้ขาด ทิ้งสำลี หรือ กระดาษ ได้นั้นเอง

 

 

  1. สังเวียนสำรอง หรือ สังเวียนเพิ่มเติม อาจจะต้องใช้สังเวียน 2 สังเวียน ในการแข่งขัน ที่นักกีฬาจำนวนมากเกินไป

 

กฎกติกา ของแต่ละกีฬานั้น จะมีความแตกต่างกันไป อยู่ที่ กีฬาประเภทนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น สนาม หรือ พื้นที่ ทีใช้แข่งขัน มักจะมี กฎกติกา ให้สำหรับการตัดสิน อยู่เสมอ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

 

อินเทรนด์ง่ายๆ ด้วยกีฬามวย

สร้างกล้ามแขน แบบมวยไทย

อินเทรนด์ง่ายๆ ด้วยกีฬามวย

อินเทรนด์ง่ายๆ ด้วยกีฬามวย

 หากคุณเป็นคนที่ชอบอะไรที่กำลังเป็นกระแส ชอบความอินเทรนด์ ไม่เอ้าท์ แล้วละก็ วันนี้เราจะมาพูดถึงกีฬาชนิดหนึ่ง ที่บอกเลยว่า คุณจะเข้าเทรนด์ได้ถ้าได้เล่นกีฬาชนิดนี้ นั่นก็คือ กีฬามวย

 

ความนิยม และกระแสของกีฬามวย

จริงๆ แล้ว เทรนด์สมัยนี้ ที่กำลังเป็นกระแสจริงๆ มันคือ เทรนด์การออกกำลังกาย ทำไมหน่ะหรอ เพราะวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่ เขากำลังให้ความสำคัญ กันกลับมาดูแลตัวเองกันอย่างมากขึ้น ด้วยวิธีการ ที่ถูกต้อง ออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนัก  กระชับสัดส่วน ดูแลหุ่น ดูแลผิวพรรณ ให้ปัง ให้เป๊ะ ด้วยตัวเอง และใช้ความมีวินัย อย่างเคร่งครัด ซึ่งต่างจากการลดน้ำหนัก ในสมัยก่อน เราอาจจะเล่นการดูแลตัวเองของวัยรุ่น ที่ผิดลู่ผิดทาง เช่น การใช้ยาลดน้ำหนัก ที่อวดอ้างสรรพคุณต่างๆ นาๆ ให้หลงเชื่อ เชื่อมากินกันหลายเซ็ท หมดตังค์กันไปไม่รู้เท่าไหร่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือ บางคนลดน้ำหนักได้จริง แต่หุ่นไม่ฟิต บางคนลดน้ำหนักได้จริง แต่มีภาวการณ์คืนตัวของน้ำหนักที่รวดเร็ว หรือที่เรียกกันว่า การโยโย่ และหนักไปกว่านั้น บางคนกลับกินยาลดน้ำหนักไป แบบที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เรียกง่ายๆ ว่า กินไปก็เท่านั้น หรือสุดท้าย จะแบบเคสที่อันตรายที่สุด ก็คือ กินยาลดความอ้วน แล้วร่างไม่ตอบสนอง หรือมีอาการแพ้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ร่างกายทรุมโทรม หรืออาจจะถึงขั้นป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้เลย และก็มีบางคนที่โชคร้ายที่สุด ถึงกับขั้นที่ต้องจบชีวิตลง ด้วยยาเหล่านี้

 

ทำไมกีฬามวย ถึงเข้าเทรนด์

 ก็เพราะว่า ในช่วงที่ผ่านมานี้ มันมีการจัดรายกายใหญ่ รายการหนึ่ง ซึ่งก็คือ การต่อยมวย ชกมวย ของเหล่าซุปเปอร์สตาร์ ดารา นักร้อง ศิลปิน และเซเลปต่างๆ ขึ้น โดยมีชื่อรายการว่า 10fight10 เป็นการชกมวย ต่อยมวยดารา ที่เราเอง ก็เคยเห็นกันแล้วว่า ต่อยกันแบบจริงๆ ต่อยกันแบบไม่ยั้ง และก็ยิ่งสร้างความเซอไพร์เข้าไปอีก เมื่อมีการต่อยมวย ชกมวย 1 คู่ ในรายการนี้ ที่เป็นผู้หญิง และสองสาวนักชกคู่นี้ก็คือ พี่เชียร์ ฆิฆัมพร กับหมอเจี๊ยบ ลลนา เป็นอีกหนุ่งไฮไลท์ ที่สำคัญสำหรับการแข่งขันกีฬมวย ในรายการนี้ และยังเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจหลักๆ ที่ทำให้สาวๆ หรือผู้หญิง วัยรุ่นไทย หันมาสนใจกีฬามวย กันอย่างมากขึ้นแบบเห็นได้ชัด

 

พอพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อว่า คนที่เข้ามาอ่าน ยังไงก็ต้องสนใจกีฬาต่อยมวยอยู่แน่ๆ เพราะนอกจากกีฬาต่อยมวย อย่างที่รู้ๆ กัน ว่าการออกกำลังกาย จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังถือว่าเป็นการได้เข้าเทรนด์การออกกำลังกายแบบเท่ๆ อีกด้วย ซึ่งการที่จะออกกำลังกายแบบเท่ๆ โดยการต่อยมวย หรือชกมวยนั้น เราจะต้องเตรียมตัวอะไรยังไงบ้าง ไปดูกัน

 

เราจะแนะนำวิธีการเตรียมตัว สำหรับมือใหม่ ที่อยากเข้าเทรนด์ กีฬามวย

1. เตรียมตัวเองให้มีความพร้อมแบบสมบูรณ์

การเข้าวงการกีฬามวยนั้น ต้องอาศัย หรือใช้ทักษะหลายอย่าง จริงๆ ถ้าสำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่ ก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมายนัก แต่สำหรับ คนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย อันนี้ อยากจะบอกว่า ก่อนเริ่มเข้าวงการนี้ เราควรเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนสักหน่อย ก็จะดี เพราะว่า วงการกีฬามวย ไม่ว่าจะชกมวย ต่อยมวย หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ มันมีกระบวนการ ในการฝึกฝน ฝึกซ้อม ที่ค่อนข้างจะหนักหน่วงเลยทีเดียว เพราะว่า การต่อยมวย หรือชกมวยนั้น ต้องใช้ความแข็งแรง ความแข็งแกร่ง ของร่างกาย ต้องมีความฟิต อยู่ในระดับที่สามารถทนต่อการต่อสู้ และทนต่อการได้รับบาดเจ็บ จากการฝึกซ้อมได้ หากคุณยังไม่มั่นใจ ก็แนะนำว่าอย่าเพิ่งรีบ หรือ ถ้าคุณไม่เคยออกกำลังกายเลย แต่อยากรีบเข้าวงการ ก็แนะนำว่า ให้ค่อยๆเริ่มทีละนิด ทีละเล็ก ทีละน้อย ไม่งั้น อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บ และหมดสนุกลงได้

และอีกอย่างที่ต้องเตรียมเป็นอันดับแรกๆ คือ เรื่องของ สภาพของจิตใจ กีฬามวย เป็นกีฬาที่ต้องใช้การปะทะ เนื่องมาจาก การที่จะสามารถชนะ คู่ต่อสู้ได้ จะต้องต่อย ต้องชก ต้องเตะ หรือต้องทำอะไรสักอย่างกับคู่ต่อสู้ จะมายืนยิ้มหล่อ แอคท่าสวยๆ นี่บอกเลยว่าไม่ได้ พักก่อน เพราะฉะนั้น การเตรียมความพร้อมทางด้านสภาพของจิตใจ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการเข้าวงการกีฬาชนิดนี้ ถ้าใจยังไม่ถึง ก็อย่าเพิ่งรีบห้าว เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

2.เตรียมหาสสถานที่ สำหรับฝึกซ้อมมวย

การเลือกสถานที่ สำหรับการฝึกฝน ฝึกซ้อมมวยนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเตรียมความพร้อม อันดับแรก เวลาที่เราจะเลือกสถานที่สักที่หนึ่ง เราคงจะต้องเริ่มเลือก ตัดสินใจจาก โลเคชั่น ของสถานที่ ว่าเราจะสามารถมีความสะดวก ในการเดินไปฝึกซ้อมมวยหรือไม่ ก็คงต้องเลือกแบบที่ไม่ไกลจากบ้าน ใกล้ๆ บ้าน สามารถเดินทางไปฝึกซ้อมได้อย่างงสะดวก จะได้ลดอาการความท้อในการเดินทาง เพื่อเราสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเข้าวงการกีฬามวยด้วย และอีกอย่าง คือเรื่องของความสะอาด และมาตรฐานของยิมมวย ยิมมวยที่ดี จะต้องมีอุปกรณ์ในการฝึกซ้อมมวยที่ครบครัน มีการทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ มีอุปกรณ์มากพอที่จะสำหรับให้คุณใช้งาน มีอุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน และมีความปลอดภัย มีเทรนเนอร์ หรือว่าครูมวยที่ดี เก่ง และมีความสามารถ ที่จะช่วยสอน ช่วยเทรนให้เรา สามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ ได้อย่างถูกต้อง และที่สำคัญ ราคาค่าใช้จ่ายในการใช้บริการยิมมวยนั้น ต้องไม่แพง และคุณจะต้องรู้สึกว่า มันมีความคุ้มค่า กับราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งในส่วนนี้ คุณสามารถประเมินได้ด้วยตัวเอง เพราะคำว่า คุ้มค่า ของแต่ละคนนั้น มันอาจจะไม่เท่ากัน

3. เตรียมหาอุปกรณ์ในการฝึกฝน ฝึกซ้อมมวย ส่วนตัวของคุณ

และสุดท้าย ก็คือการเลือกอุปกรณ์ส่วนตัว ที่จะเอาไว้ใช้ในการฝึกฝน ฝึกซ้อม และเล่นกีฬามวยของคุณ ซึ่งเรื่องนี้ คุณจะต้องเลือกอุปกรณ์ที่มีความเหมาะกับตัวคุณเองมากที่สุด เช่น การเลือกฟันยาง ก็จะต้องเลือกขนาดของฟันยาง ที่พอดีกับฟันของคุณ หรือจะเป็นการเลือกนวมสำหรับชกมวย ก็ต้องเลือกให้ขนาดของมัน มีความพอ กับมือของคุณด้วย และรวมไปถึง ชุด หรือเสื้อผ้า ที่ใช้ในการไปฝึกฝน ฝึกซ้อม คุณก็ต้องเลือกให้มันมีความเหมาะสม พอดี ไม่หลวม ไม่คับจนเกินไป ส่วนเรื่องของสีสันนั้น ก็แล้วแต่แฟชั่นในนตัวคุณเลย

 

และนี้ก็เป็นวิธีการเตรียมตัวง่ายๆ สำหรับมือใหม่ ที่อยากจะเข้าวงการกีฬามวย กีฬาที่กำลังเป็นที่นิยม และฮิตในกลุ่มวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่ในตอนนี้ ถ้าไม่อยากเอ้าท์ ก็เข้ามาต่อยมวยกัน Let’s go!

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กว่าจะเป็นมวยไทย

กว่าจะเป็นนักมวยอาชีพ

กว่าจะเป็นมวยไทย

กว่าจะเป็นมวยไทย

"มวย" ถือเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมาตั้งแต่โบราณ สอนกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนสู่ปัจจุบัน แต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะมาเป็นมวยไทยถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เรามาดูกันเถอะว่าที่มาของมวยไทยกำเนิดมาได้ยังไง

 

ประวัติมวยไทยเป็นประวัติศาสตร์อันยาวนานของมวยไทย เริ่มมีและใช้กันในการสงครามสมัยก่อน มีคุณลักษณะของการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยการใช้อวัยวะในส่วนที่สามารถใช้ทำอันตรายคู่ต่อสู้ได้ มาใช้งานอย่างชาญฉลาด และมีศิลปะอย่างสูง  เช่น  หมัด  ศอกแขน  เท้า  แข้ง  และเข่าเป็นต้น  นับเป็นศิลปะประจำชาติ และเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นประการหนึ่งของคนไทย  และได้มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจังในหมู่ทหาร เพราะในสมัยก่อน คนไทยต้องผจญกับศึกสงครามมาโดยตลอด  จึงต้องฝึกฝนไว้ให้เชี่ยวชาญเพื่อใช้ในการต่อสู้  และจัดตั้งสำนักมวยขึ้นเพื่อฝึกสอนให้ลูกหลานมาสืบทอดวิชาต่อจากคนในครอบครัว

 

          ประวัติมวยไทยสมัยกรุงสุโขทัย (ประมาณช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 1781-1918)

     สมัยกรุงสุโขทัย มวยไทยถือเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาของกษัตริย์ เพื่อฝึกให้กษัตริย์เป็นนักรบที่มีความกล้าหาญ มีสมรรถภาพร่างกายที่ดีเยี่ยม ดังข้อความปรากฏตามพงศาวดารว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงส่งเจ้าชายร่วงโอรสองค์ที่สองไปฝึกมวยไทยที่สำนักสมอคอน แขวงเมืองลพบุรี หรือการที่พ่อขุนรามคำแหงทรงนิพนธ์ตำหรับพิชัยสงคราม โดยมีความข้อความบางตอนกล่าวถึงมวยไทย ควบคู่ไปกับการใช้อาวุธอย่างดาบ หอก มีด โล่ หรือธนูอีกด้วย

 

          ประวัติมวยไทย สมัยกรุงศรีอยุธยา (ประมาณช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 1893 – 2310)

     สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยุคนี้บ้านเมืองสงบร่มเย็นและเจริญรุ่งเรือง พระองค์ทรงให้การสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมวยไทยที่นิยมกันจนกลายเป็นมวยอาชีพ และมีค่ายมวยต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย มวยไทยสมัยนี้ชกกันบนลานดิน โดยใช้เชือกเส้นเดียวกั้นบริเวณเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส นักมวยจะใช้ด้ายดิบชุบแป้งหรือน้ำมันดินจนแข็งพันมือ เรียกว่า มวยคาดเชือก นิยมสวมมงคลไว้ที่ศีรษะ และผูกประเจียดไว้ที่ต้นแขนตลอดการแข่งขัน การเปรียบคู่ชกนั้นเอาความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้กำหนดขนาดรูปร่างหรืออายุ โดยมีกติกาง่าย ๆ ว่าชกจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้

 

          ประวัติมวยไทยสมัยกรุงธนบุรี (ประมาณช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 2310 – 2325)

     ตลอดระยะเวลา 14 ปีของกรุงธนบุรี บ้านเมืองอยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังจากพระเจ้าตากสินกอบกู้อิสรภาพคืนมาได้ การฝึกมวยไทยในสมัยนี้จึงฝึกเพื่อราชการทหารและสงครามอย่างแท้จริง การจัดชกมวยในสมัยกรุงธนบุรีนิยมนำนักมวยต่างถิ่นหรือศิษย์ต่างครูมาชกกัน โดยไม่มีกฎกติกาการแข่งขันอย่างเป็นรูปธรรมและไม่มีการกำหนดคะแนน จะทำการชกกันจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้ บนสังเวียนซึ่งเป็นลานดินบริเวณวัด คาดมงคลและนิยมผูกประเจียดเช่นเดิม

 

          ประวัติมวยไทย สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (ประมาณช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 2325 – ปัจจุบัน)

     กีฬามวยไทยได้รับความนิยมมากในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ยุคที่นับว่าเฟื่องฟูที่สุดคือ รัชกาลที่ 5 พระองค์ได้ศึกษาฝึกฝนการชกมวยไทยและโปรดให้จัดการแข่งขันชกมวยหน้าพระที่นั่งโดยคัดเลือกนักมวยฝีมือดีจากภาคต่าง ๆ มาประลองแข่งขัน และพระราชทานแต่งตั้งให้มีบรรดาศักดิ์ ทั้งยังโปรดให้กรมศึกษาธิการ บรรจุการสอนมวยไทยเป็นวิชาบังคับ ในโรงเรียนฝึกหัดครูพลศึกษา มีการชกมวยถวายหน้าพระที่นั่งเป็นประจำจนถึงสมัย รัชกาลที่ 6 ที่วังสวนกุหลาบ ทั้งการต่อสู้ประลองระหว่างนักมวย กับครูมวยชาวไทยด้วยกัน และการต่อสู้ระหว่างนักมวย กับครูมวยต่างชาติ ในการแข่งขันชกมวยในสมัยรัชกาลที่ 6 ระหว่างมวยเลี่ยะผะ (กังฟู) ชาวจีนโพ้นทะเล ชื่อนายจี่ฉ่าง กับ นายยัง หาญทะเล ศิษย์เอกของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีท่าจรดมวยแบบมวยโคราช ซึ่งเน้นการยืดตัวตั้งตระหง่านพร้อมที่จะรุกและรับโดยเน้นการใช้เท้าและหมัดเหวี่ยง และต่อมาได้เป็นแบบอย่างในการฝึกหัดมวยไทยในสถาบันพลศึกษาส่วนใหญ่ สมัย รัชกาลที่ 7 ในยุคแรกการแข่งขันมวยไทยใช้การพันมือด้วยเชือก จนกระทั่งนายแพ เลี้ยงประเสริฐ นักมวยจากท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ ต่อยนายเจียร์ นักมวยเขมร ด้วยหมัดเหวี่ยงควายถึงแก่ความตาย จึงเปลี่ยนมาสวมนวมแทน ต่อมาเริ่มมีการกำหนดกติกาในการชก และมีเวทีมาตรฐานขึ้นแห่งแรกคือเวทีมวยลุมพินีและเวทีมวยราชดำเนินจัดแข่งขันมวยไทยมาจนปัจจุบัน

 

ในการสถาปนาวันมวยไทยได้มีการประชุมระดมความคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่าง ๆ เพื่อพิจารณาบรรพบุรุษไทยตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน นับจากพ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระ สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาพิชัยดาบหัก และนายขนมต้ม

ทั้งนี้ เมื่อศึกษาพระราชประวัติ พระคุณลักษณะ พระเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้านศิลปะมวยไทยของบรรพบุรุษไทยทั้งหมดแล้ว จึงมีมติให้เลือกวันสำคัญวันใดวันหนึ่งของสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือเป็นวันมวยไทย เนื่องด้วยสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ เป็นพระมหากษัตริย์ที่โปรดการชกมวยและได้เสด็จไปทรงชกมวยกับสามัญชน นอกจากนี้แล้วยังทรงคิดท่าแม่ไม้ ไม้กลมวยไทยขึ้นมาเป็นแบบฉบับ ที่รู้จักกันในนาม ตำรามวยไทยพระเจ้าเสือ เป็นมรดกตกทอดสืบมาจนถึงปัจจุบัน จึงได้กำหนดให้ วันเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติเป็น วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ เป็น “วันมวยไทย”

 

          คุณลักษณะของมวยไทย

     มวยไทยใช้อวัยวะ 6 อวัยวะ ในการต่อสู้กับปรปักษ์ ได้แก่ หมัด ศอก แขนท่อนล่าง เท้า แข้ง และเข่า เข้ากระทำกับคู่ต่อสู้ ด้วยการเข้าชก ต่อย เขก โขกทุบ เตะ ถีบ เหน็บ อัด ยัน เหยียบ เหวี่ยง ปัก ทิ่ม เฉือน กระทุ้ง สับ เสียบเฆี่ยน กด ทุ่ม ฟาด มัด รัด หักแขน หักขา หักคอ  ฯลฯ  อวัยวะแต่ละชนิดดังกล่าวมีวิธีใช้ดังนี้

1. หมัดใช้ทิ่มกระแทก กระทุ้ง ซึ่งมีทั้งกระทุ้งขึ้นและกระทุ้งลง  เหวี่ยง ซึ่งมีซึ่งเหวี่ยงสั้นและเหวี่ยงยาวเขก โขก และทุบ

2. ศอกใช้เหวี่ยง ปัก งัด ทิ่ม เฉือน กด และกระทุ้ง

3. แขนท่อนล่าง  ใช้สับ เสียบ ปัด เหวี่ยง และเฆี่ยน

4. เท้า  ใช้ถีบ เหน็บ อัด คือการเตะด้วยปลายโต่ง ยัน เหยียบ เตะ และกระตุกเท้า

5. แข้งใช้เหวี่ยงซึ่งมีทั้งเหวี่ยงสั้นและเหวี่ยงยาว

6. เข่าใช้ยิงโยน ยัด เหวี่ยง กุด และกระตุก

 

      “มวยไทย” เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทย ยากที่จะเลียนแบบได้ เพราะศิลปะนี้เกิดขึ้นตามประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ได้มีการสู้รบกับชาติข้างเคียง เพื่อรักษาแผ่นดินสยามนี้มาโดยตลอด

            แม้ว่ากีฬาเกี่ยวกับการชกมวยไทยจะยอมรับกติกามวยแบบสากลแล้วก็ตาม แต่ในส่วนพื้นฐานจริง ๆ ของความเป็นมวยไทย เรายังรักษาไว้ มั่นคงตราบเท่าทุกวันนี้คือ ยังคงใช้ หมัด เท้า ศอก เข่า อันเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทยอยู่อย่างเหนียวแน่น

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ผู้หญิง กับการต่อยมวย

ต่อย มวยไทย ช่วยบำบัดโรคซึมเศร้า

กว่าจะเป็น…นักมวยอาชีพ

กว่าจะเป็น…นักมวยอาชีพ

กีฬามวยในประเทศไทยของเรา ถือว่าเป็นกีฬาอันดับต้นๆ ที่มีคนรู้จักและให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่สุด อาจจะพูดได้ว่า เป็นกีฬาประจำชาติของเราเลยก็ว่าได้ เราจะเห็นว่า เรามีนักมวยอาชีพเก่งๆ เยอะแยะมากมาย แต่กว่าที่เขาจะเป็นนักมวยอาชีพเนี่ย เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง

หากใครเคยผ่าน หรือมีโอกาสได้เข้าไปเห็นบรรยากาศการซ้อมมวย ภายในยิมมวย หรือค่ายมวยต่างๆ ก็จะรู้ดีว่า แหล่านักมวยนั้น เขาซ้อมกันอย่างหนักหน่วงมากเพียงใด เขาจะต้องอดทนต่อการฝึกซ้อม การควบคุมอาหารการกิน น้ำหนัก เพื่อให้มีร่างกายที่ดีที่สุด แข็งแกร่งที่สุด

วันนี้เรามีท่าที่เหล่านักมวยอาชีพเขาใช้ในการสสร้างร่างกายแบบนักมวยมาฝากกัน เริ่มจาก

Shoulder Presses

Shoulder Presses เป็นท่าที่สร้างกล้ามเนื้อหัวไหล่ได้อย่างดี โดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลัก คือ ดัมเบล (Dumbbell ) ถ้าหากไม่มีจะใช้เป็นขวดน้ำก็ได้ แล้วจับให้มั่นจากนั้นดันขึ้นเหนือหัว ละลง อย่างต่อเนื่อง

Clap Press – Up

Clap Press – Up เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ง่าย และสามารถทำตอนไหนก็ได้ ท่านี้ไม่ได้เพิ่มแค่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับเรื่องของ Body Balance ที่จำเป็นอย่างมากสำหรับนักมวย

Plank

เป็นท่าที่ทำยาก และทรมานที่สุด เพราะต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายหลาย ๆ ส่วน เป็นท่านักมวยทุกคนให้ความสำคัญ ลองทำควบคู่กับการ Crunches และ Sit Up จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น Plank จะเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายส่วนกลาง ให้ทนต่อหมดหนัก ๆ ของคู่ต่อสู้

คาร์ดิโอ ( Cardio ) 

ถ้าอยากมีหุ่นที่ฟิตแบบนักมวย ต้องเริ่มจาก คาร์ดิโอ ( Cardio )  เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ทำโดยการ ซิทอัพ วิ่ง กระโดดเชือก ต้องฝึกแบบการกระโดดที่หลากหลาย และการฝึกความแข็งแรงของร่างกายในส่วนต่าง ๆ เช่น การดึงข้อ การบริหารกล้ามเนื้อหลังแขน การวิดพื้น และการฝึกด้วยลูกบอลเทรนนิ่งในท่าทางต่าง ๆ

Foot work

Foot work ฝึกเพื่อใช้ในการหลบหลีกหมัดคู่ต่อสู้ ความว่องไวในการ Foot work จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับมือในการต่อสู้กับคู่ชกได้อย่างดี

Shadow Boxing

Shadow Boxing เป็นการฝึกชกลม เพื่อให้นักชกฝึกการออกหมัด และท่าทางที่ถูกต้อง การชกลมเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างเทคนิคการชก การรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย และสามารถฝึกที่ไหนก็ได้ ที่ทำให้เราขยับช่วงบนได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น

Bag Work

Bag Work คือการต่อยกระสอบทราย ที่สามารถฝึกความแข็งแกร่งของหมัด สายตา และการป้องกัน

Skipping

Skipping เป็นการหลบหลีกหมัดของคู่ต่อสู้ อาศัยความว่องไวของ Foot work ทำได้ง่าย ๆ โดย มีเชือกเส้นเดียวกับลานโล่ง ๆ Skipping เป็นสิ่งสำคัญของนักมวย จะขาดไม่ได้ในเวลาซ้อม และยังเป็นท่าที่ใช้รักษาสภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ

Push Ups

Push Ups เป็นท่าที่ทำยาก สำหรับคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายโดย Push Ups จะให้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อหลายส่วน รวมถึงเพิ่มแรงผลักเวลาที่ต้องคลุกวงกับคู่ต่อสู้ จึงเป็นที่นิยมกันในหมู่นักมวย

Squats

Squats เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายในส่วนล่าง เพราะนักมวยจะต้องมีการยืนที่มั่นคง พร้อมที่ปล่อยหมัดเพื่อรุกผู้ต่อสู้ได้ตลอดเวลา หากทำท่า Squats ร่วมกับท่าบริหารสะโพกส่วนอื่นให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณมีช่วงล่างที่แข็งแรงแน่นอน แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

Chin Ups

Chin Ups เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้ช่วงบนแข็งแรง และสมส่วน จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ช่วงแขน อก ไหล่ ในท่าเดียวกัน แต่ไม่ควรหักโหมเกินไปจนกล้ามเนื้อบาดเจ็บ

Burpees

Burpees เป็นหัวใจสำคัญในการออกกำลังกายให้ได้ผล หากใครอยากมีรูปร่างที่สมส่วน  ถ้าทำท่า Burpees อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัว หรือเพิ่มความแข็งแรงในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วย

 

บอกเลยว่ากว่าจะมาเป็นนักมวยอาชีพนั้น เรียกได้ว่าต้องอดทน มุ่งมั่น ทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจเลยทีเดียว หากคุณอยากออกกำลังกาย ให้ได้ร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนักมวยอาชีพก็ลองดูได้นะ แต่ต้องระวังให้มากๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ยังไงก็ควรจะอยู่ในการดูแลของผู้ที่รู้จักวิธีการออกกำลังกาย หรือควรจะให้พอดีกับร่างกายคุณเองนะ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างกล้ามแขน แบบมวยไทย

ฟิตหุ่นสวย ด้วยมวยไทย

สร้างกล้ามแขน แบบมวยไทย

สร้างกล้ามแขน แบบมวยไทย

สร้างกล้ามแขน แบบมวยไทย

 

ใคร ๆ ก็อยากมีหุ่นที่ผู้หญิงมองแล้วต้องเหลียวหลัง กล้ามแขนเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้หญิงมากไม่ต่างจากกล้ามหน้าท้อง ยิ่งผู้ชายที่มีกล้ามแขนอ่อน ๆ นะ รับรองว่านอกจากคุณจะดูเป็นผู้ชายที่มีสุขภาพดี แข็งแรง แล้วเนี่ย ยังดูเซ็กซี่อีกต่างหาก วันนี้เราเลยจะมาบอกวิธี สร้างกล้ามแขน แบบมวยไทย (Muay Thai)

 

การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง เพราะการขึ้นชกใน 1 ยกคือการใช้ร่างกายไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยกคือการทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกายแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงานการใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน

 

การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็วและมีพลังมากขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยานจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง

 

ลดน้ำหนักด้วยมวยไทย (Muay Thai) จะช่วยให้คุณได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่ จึงเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่ดี ทั้งเบิร์นไขมันสะสม และก็เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน แค่ครั้งละหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะเฟิร์มขึ้นจนรู้สึกได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว

 

เผาผลาญพลังงานได้รวดเร็ว การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย

 

กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต เป้าหมายของการต่อยมวยคือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว

 

เมื่อพูดถึงสุขภาพ หรือการออกกำลังกาย คนฟังก็อาจจะฟังดูท้อแท้ แต่เหล่านักมวยให้ความสำคัญที่ต้องฟิตร่างกายอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้ความอดทนและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ในทางกลับกัน เราอาจจะไม่ต้องเคร่งเครียดกับกายออกกำลังกาย ฉบับพี่ ๆ นักมวยอาชีพ ทำให้เราทรมานไปกับการลดน้ำหนักจนเกินไปและเสียกำลังใจ

 

เพราะฉะนั้นจะต้องวางแผนเป็นลำดับขั้น เพื่อให้มีแผนในการออกกำลังกายไว้อย่างชัดเจน และนั่นจะทำให้เราอดทน เต็มที่ ไม่ยอมแพ้ ไม่เบื่อ หรือไม่ทิ้งก่อนจะประสบผลสำเร็จ เพื่อช่วยคุณสามารถที่จะลดน้ำหนักแบบนักมวยให้ได้ผลมากที่สุดอีกด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างกล้ามเนื้อ แบบมวยไทย

มวยตับจากคืออะไร

ฟิตหุ่นสวย ด้วยมวยไทย

ฟิตหุ่นสวย ด้วยมวยไทย

ฟิตหุ่นสวย ด้วยมวยไทย

เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง ผู้คนเริ่มสนใจการกินอาหารที่มีประโยชน์และ ออกกำลังกายกันมากขึ้น และสิ่งหนึ่งที่มาแรงคู่กับเทรนด์รักสุขภาพนั่นก็คือ มวยไทย ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และหนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคนก็หันมาลดน้ำหนักด้วยการฝึกมวยไทยกันมากขึ้น เพราะมวยไทยนั้นไม่น่าเบื่อ และช่วยกระชับทุกส่วนของร่างกาย

 

วิทยาศาสตร์การกีฬาของบ้านเราได้พิสูจน์ออกมาแล้วครับว่า การออกกำลังด้วยมวยไทย ไม่ว่าจะเป็นการออกหมัด เข่า ศอก เตะสูง เตะต่ำ ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการฟิตหุ่นให้ดูดี แถมยังมีชื่อเสียงแพร่หลายและเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ของชาวต่างชาติจนบรรดาค่ายมวยต่าง ๆ ก็มีการจัดคลาสสอนมากมาย เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีท่าอะไรบ้างที่จะทำให้หุ่นฟิตสวย ได้รูป น่าพึงพอใจ

 

หมัดตรง

ท่าที่เรียกได้ว่าง่ายที่สุดของการฝึก เริ่มแรก ให้ยืนปลายเท้าห่างพอประมาณ กำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับอก เก็บศอกแนบลำตัว ตามองตรง ก้าวเท้าซ้ายพร้อมชกหมัดขวาไปด้านหน้าให้แขนขนานไปกับพื้น เปิดส้นเท้าขวาทิ้งน้ำหนักไปทางเท้าซ้าย จากนั้นให้กลับมาอยู่ในท่าเตรียม ทำต่อแต่สลับด้านกันจากซ้ายมาเป็นขวา ทำสลับไปมาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซักประมาณ 5 - 10 นาที

 

ศอกตัด

เริ่มต้นท่าเตรียมด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างไว้ที่ระดับอก จากนั้นก้าวเท้าขวาไปด้านขวา ตามด้วยการเหวี่ยงแขนซ้ายให้ข้อศอกตั้งฉากกับหมัดขวา บิดลำตัวนิดหน่อย บิดส้นเท้าซ้าย แล้วกลับมาที่ท่าเตรียม ทำสลับไปมาทั้งซ้ายและขวา ประมาณ 5 -10 นาที

 

ศอกเสย

เริ่มต้นด้วยการยืนหน้าตรง กำหมัดทั้งสองข้างไว้ใต้คาง เก็บแขนให้แนบชิดติดลำตัว จากนั้นให้ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า เปิดส้นเท้าซ้ายพร้อมยกศอกขวาขึ้น แล้วกลับมาสู่ท่าเริ่มต้น ทำสลับไปมาซ้ายขวาเหมือนเดิมครับ ใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาที

 

ถีบ

เริ่มจากท่าเริ่มต้น กำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากกับระดับของหน้าอก แนบแขนชิดติดลำตัว ตามองตรงไปข้างหน้า จากนั้นให้งอเข่าเล็กน้อยพร้อมกับเตะขาออกไปข้างหน้า แต่ปลายเท้าต้องตั้งฉากเท่าที่จะทำได้ กลับมาสู่ท่าเริ่มต้น แล้วทำสลับซ้ายขวา ใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาที

 

ตีเข่า

เริ่มต้นด้วยการกำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากกับหน้าอก แนบแขนให้ชิดลำตัวเช่นเดิม แล้วจากนั้นให้ยกเข่าขวาขึ้นสูงเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย กลับมาที่ท่าเริ่มต้น แล้วทำทำซ้ำสลับเข่าซ้ายขวา 5 -10 นาที

 

เตะ

เริ่มด้วยท่าเริ่มต้นเหมือนเดิมคือกำหมัดทั้งสองข้างให้ตั้งฉากที่ระดับหน้าอก จากนั้นก้าวเท้าซ้ายมาข้างหน้าพร้อมๆ กับการเตะขาขวาขึ้นในลักษณะเหวี่ยง ให้ปลายเท้าชี้มาทางซ้าย บิดตัวเล็กน้อย แล้วกลับมาที่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำสลับซ้ายขวาใช้เวลาประมาณ 5 -10 นาที

 

มวยไทย ไม่เพียงช่วยให้คุณได้หุ่นที่เฟิร์มสวยเพียงเท่านั้น แต่การฝึกมวยไทย ยังทำให้คุณได้ความรู้ด้านการต่อสู้และป้องกันตัวอีกด้วย คุณสามารถใช้ความรู้จากมวยไทย ไปช่วยเหลือผู้อื่นหรือตัวเองเวลาตกอยู่ในอันตรายได้ อีกทั้งมวยไทยยังช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ฝึกอีกด้วย เช่น การสอนมวย การเป็นนักมวยมืออาชีพ หรือเอามาเป็นการแสดงก็ได้เช่นกัน นับว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไทยที่ควรสืบทอดต่อไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

สร้างกล้ามเนื้อ แบบมวยไทย


ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

สร้างกล้ามเนื้อ แบบมวยไทย

สร้างกล้ามเนื้อ แบบมวยไทย

สร้างกล้ามเนื้อ แบบมวยไทย

 

ใคร ๆ ก็อยากมีร่างกายที่แข็งแรงกันทั้งนั้น ซึ่งร่างกายที่แข็งแรงนั้นจะต้องได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งการออกกำลังกายและการกินอาหาร สำหรับใครที่กำลังคิดจะเริ่มสร้างกล้ามเนื้อ เรามีวิธีดี ๆ มาแนะนำทุกคน นั่นก็คือ การสร้างกล้ามเนื้อ  แบบมวยไทย ซึ่งจะมีเทคนิคและวิธีการยังไงนั้นวันนี้เราจะมาบอกอย่างละเอียด

 

มวยไทย คืออะไร

มวยไทย คือกีฬาชนิดหนึ่ง เมื่อนานมาแล้ว มวยไทย นั้นถือเป็นการฝึกฝนชั้นสูงของพวกขุนนางและแม่ทัพ ศิลปะแม่ไม้ มวยไทย สืบต่อกันมาจนถึงลูกหลาน จนกลายเป็นกีฬาที่คนทั่วไปนิยมใช้ในการออกกำลังกายเพื่อ สร้างกล้ามเนื้อ และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

 

วิธีการ สร้างกล้ามเนื้อ แบบมวยไทย

นักมวยเค้ามีวิธีการสร้างกล้ามเนื้อยังไงบ้างนะ ทุกคนเคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า ถ้านักมวยจะต้องต่อสู้กับคนที่ตัวใหญ่กว่าและน้ำหนักเยอะกว่าเค้าจะต้องทำยังไง เคล็ดลับก็คือเค้าจะเพิ่มน้ำหนักให้ถึงเกณฑ์ที่จะสามารถสู้กับคู่ต่อสู้ไหวนั่นเอง เหมือนกับกีฬายกน้ำหนักที่ต้องเพิ่มพละกำลังของตัวเองให้มากขึ้นเพื่อให้พิชิตตัวเอง พิชิตความหนัก และพิชิตคู่ต่อสู่ได้

 

ซึ่งการจะเพิ่มน้ำหนักนั้น แน่นอนว่าจะต้องเพิ่มอาหารที่เป็นโปรตีนและออกกำลังกายอย่างหนัก ซึ่งการออกกำลังกายอย่างหนัก แบบมวยไทย นั้นก็รวมถึงการวิ่ง การยก การลาก การฝึกออกหมัด ฝึกเตะ ฝึกหายใจ เพื่อให้กล้ามเนื้อทุกมัดมีความยืดหยุ่น และเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปด้วย ซึ่งยอมรับว่าการออกกำลังกายแบบ มวยไทย จะเป็นการทำซ้ำเรื่อย ๆ ให้ร่างกายจดจำและอดทนได้มากขึ้น

 

นอกจาก มวยไทย จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยในเรื่องของประสาทสัมผัส เมื่อคน ๆ หนึ่งฝึก มวยไทย ไปได้สักพักแล้วจะเริ่มมีความรู้สึกไวขึ้น ประสาทสัมผัสและรับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดีกว่าคนอื่น และยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังทำให้เลือดสูบฉีดและไหลเวียนดีขึ้น มีความกล้าตัดสินใจอะไรหลาย ๆ หล่างได้ไวและรอบคอบมากกว่าเดิมอีกด้วย

มวยไทย เป็นกีฬาที่คนส่วนใหญ่กลับมาฮิตกันอีกครั้ง เพราะนอกจากคนที่ต้องการจะสร้างกล้ามเนื้อด้วยมวยไทยแล้วเนี่ย ยังมีคนที่ต้องการจะลดน้ำหนักด้วย มวยไทย อีกด้วย ซึ่งเราเห็นด้วยกับการใช้ มวยไทย ในการลดน้ำหนักหรือเพิ่มกล้ามเนื้อนะ

 

เพราะว่ากีฬา มวยไทย นี้สามารถทำให้น้ำหนักของเราลงไปได้อย่างรวดเร็วและยังทำให้ผิวของเราไม่หย่อยคล้อยหรือแตกจากการที่น้ำหนักลดลงเร็ว ๆ ด้วย ส่วนคนที่ต้องการจะ สร้างกล้ามเนื้อ แบบมวยไทย ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีและไวอีกเช่นกัน เพราะกีฬามวยไทย ถือเป็นกีฬาที่ต้องใช้แรงกายและแรงใจมากจริง ๆ เผาผลาญได้หลายแคลเลอรี่อีกด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

ทำความรู้จักกับการออกหมัดมวยไทย

มวยตับจากคืออะไร

มวยตับจากคืออะไร

มวยตับจากคืออะไร

มวย เป็นกีฬา ศิลปะการ่อสู้ยอดฮิตใจสมัยนี้เลยก็ว่าได้ เพราะใคร ๆ ก็รู้จักและเริ่มที่จะฝึกมวย ไม่ว่าจะเป็นการต่อยมวยอาชีพ ออกกำลังกาย หรือฝึกศาสตร์ในการป้องกันตัว มวยนั้นมีประโยชน์มากมาย เรื่องราวและประวัติของมวยนั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กันกับท่าทางและประโยชน์ของมวย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ มวยตับจาก กันดีกว่า

 

มวยตับจาก

มวยตับจาก เป็นกีฬาพื้นบ้านที่เป็นที่นิยมมากในภาคตะวันออก โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี เนื่องจากสมัยก่อนมีการปลูกต้นจากในพื้นที่เยอะ จึงนำมาประยุกต์เข้ากับกีฬามวยไทย แต่ปัจจุบันแทบจะไม่มีมวยตับจากให้เห็นแล้ว ส่วนหนึ่งมาจาก มีการปลูกพืชชนิดนี้น้อยลง

 

วิธีการ ขั้นตอนการของกีฬาชนิดนี้

นำใบจากมาตัด แล้วตากให้แห้ง เวลาเหยียบใบจากที่แห้งก็จะเกิดเสียง หลังจากที่ใบแห้งแล้ว จะนำมามัดร้อยในด้วยก้านไม้ที่เหลามาเป็นอย่างดี มีความยาวประมาณ 3-4 เมตร โดยมัดเรียงให้เต็มก้านไม้ เมื่อร้อยเต็มแล้ว 1 อัน จะเรียกว่า ตับ ซึ่งเป็นที่มาของการเรียก มวยตับจาก ก่อนที่ทำการชก นักมวยจะต้องผูกผ้าปิดตา และจับให้อยู่คนละมุม โดยจะมีกรรมการอยู่กลางเวที 1 คน จากนั้นเมื่อกรรมการให้สัญญาณเริ่มชก นักมวยจะเดินออกจากมุมเพื่อหาคู่ต่อสู้และต่อยกัน โดยจะใช้การฟังเสียงลั่นกรอบแกรบที่ดังมาจากการเดินย่ำเท้าลงบนใบจากแห้งที่ปูไว้ เพื่อจับทิศทางของคู่ต่อสู้ ดังนั้นนักมวยจะต้องมีสมาธิ และมีประสาทการฟังที่ดี

 

กติกา

นักมวยทั้งคู่ ก่อนที่จะขึ้นชกจะต้องสวมใส่นวม ใช้ผ้าปิดตาให้สนิท นวมที่สวมใส่จะเป็นนวยขนาดมาตรฐาน

การต่อย คือใครต่อยเข้าเป้ามากที่สุด ก็จะได้คะแนน และถ้าฝ่ายไหนได้คะแนนมากกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ

ชกทั้งหมด 3 ยก ยกละ 2 นาที

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

แนะนำหนังไทย สายต่อสู้ โดยใช้ มวยไทย

มวยไทยสร้างสมดุลร่างกาย

คุณค่าและความสำคัญของมวยไทย

คุณค่าและความสำคัญของมวยไทย

คุณค่าและความสำคัญของมวยไทย

มวยไทยนั้นเป็นกีฬาที่อยู่คู่กับความเป็นไทยมานาน เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศเลยก็ว่าได้ ยิ่งในทุกวันนี้มวยไทยนั้นเริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ผู้คนให้ความสนใจกับกีฬามวยไทยเยอะขึ้น ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้เผลแพร่ศิลปะการต่อสู้อันทรงคุณค่านี้ให้ต่างชาติได้รู้จักมากขึ้น

 

มวยไทยมีความสำคัญต่ออะไรบ้างนะ

- ต่อบุคคล เพราะคนที่ฝึกมวยไทย จะมีการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สามารถปรับตัวอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

- ต่อชุมชนและสังคม มวยไทยนั้นเป็นกิจกรรมที่สามารรถทำร่วมกันหลาย ๆ คน คือ เมื่อมีการจัดการแข่งขันในโอกาสต่าง ๆ มวยไทยนั้นสามารถฝึกเด็ก เยาวชน เพื่อไปแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย เป็นกิจกรรมการออกกำลังกาย และนันทนาการสร้างความสนุกสนานให้กับผู้เล่น และผู้ชมได้

- ต่อประเทศชาติ ในสมัยก่อนมวยไทยเป็นกีฬาและศิลปะการต่อสู้ที่ชายไทยทุกคนต้องฝึก เพื่อใช้ในการทหาร สำหรับต่อสู้กับศัตรูและปกป้องเอกราช จากนนั้นมวยไทยก็ได้ถูกสืบทอดมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน แล้วในปัจจุบันมวยเป็นกีฬาที่คนสนใจที่จะฝึกมากขึ้น จึงช่วยสร้างรายได้ให้ครูมวยได้ ทำให้ศิลปะการต่อสู้แบบไทยไม่สูญหายไป

- ต่อนานาชาติ เนื่องจากหลาย ๆ ประเทศ ได้หันมาสนใจศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทย และนิยมฝึกซ้อมเพื่อการออกกำลังกาย เพื่อการแสดง และเพื่อการแข่งขัน มีการตั้งชมรม และองค์กรมวยไทยในต่างประเทศกันมากมาย  มีการทำออกมาในรูปแบบของสื่อการเรียนการสอนมวยไทยแบบออนไลน์เยอะขึ้น ทำให้ชาวต่างชาติได้เห็น และเข้าใจในวัฒนธรรมประเพณีของคนไทยมากขึ้น

 

มวยไทยนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะช่วยฝึกให้ร่างกายแข็งแรง ฝึกศิลปะการป้องกันตัว ฝึกสมาธิ ระเบียบวินัย และส่งเสริม อนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีของไทย มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ป้องกันตัวและช่วยเหลือผู้อื่นในยามคับขัน นอกจากนี้มวยไทยยังใช้ทำการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย และนำมาเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองอีกด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

ฝึกพื้นฐานเบื้องต้นของมวยไทย

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้บ้าง

 

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอยู่แล้ว ยิ่งเป็นการออกกำลังกายแบบมวยไทยด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งดีต่อสุขภาพของเราเข้าไปใหญ่เลย เพราะนอกจากการออกกำลังกายแล้วเนี่ย เรายังได้เรื่องของทักษะมวยไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกีฬานี้เลย

 

ทักษะมวยไทย กับการเอาตัวรอด

เอาจริงการมีทักษะมวยไทยสามารถช่วยให้เรารอดพ้นจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตได้ เช่น ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเราก็ยังพอรู้จักการต่อสู้ รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะรอดพ้นจากเหตุฉุกเฉินได้

 

ประสาทสัมผัสดีขึ้น

การฝึกมวยจะช่วยให้ประสาทสัมผัสของเราดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการขยับร่างกาย ความคิด และปฏิกิริยาโต้ตอบ เอาง่าย ๆ คือเราจะสามารถรับรู้ได้ดีกว่าคนอื่น

 

ร่างกายแข็งแรง

แน่นอนว่าการออกกำลังกายทุกชนิดทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นการออกกำลังกายด้วยกีฬามวยไทยด้วยแล้วนั้น จะยิ่งทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้นด้วยการ คาร์ดิโอและบอดี้เวทไปพร้อม ๆ กัน

 

หัวใจและเลือดสูบฉีด

การทำงานของหัวใจจะดีขึ้น เลือดสูบฉีด ผิวพรรณดีขึ้นเพราะร่างกายได้ขับเหงื่อออกมา ไม่ว่าจะคิดจะทำอะไรสมองก็จะแล่นไปซะหมด

 

ทักษะมวยไทย ช่วยอะไรเราได้อีก

  • ฝึกความมีวินัย สำหรับนักมวย การฝึกความมีวินัยถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะการฝึกซ้อมมวยนั้น จำเป็นที่จะต้องฝึกเป็นประจำในทุก ๆ วัน
  • ฝึกความมีไหวพริบ นักมวยควรจะต้องมีไหวพริบ รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไร เมื่อไหร่ละตอนไหน แถมยังมีไหวพริบทางด้านร่างกาย ปฏิกิริยาการตอบโต้คู่ต่อสู้ หรือ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
  • ฝึกความอดทน นอกจากฝึกการมีวินัยในตัวเองแล้วยังฝึกความอดทน อดทนต่อร่างกายและกล้ามเนื้อที่พัฒนาในแต่ละวัน อดทนต่อความล้าและการฝึกซ้อม
  • ช่วยให้กล้าตัดสินใจ การต่อยมวย การขึ้นไปอยู่บนสังเวียนทำให้เราต้องตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยตัวเอง ทำให้ส่งผลต่อชีวิตจริงของเรา ทำให้เรากล้าที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น
  • ทำให้ทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี แน่นอนว่าในขณะที่ชก จะต้องมีแรงกดดันมหาศาล ทั้งจากครูฝึก จากคนดู และจากตัวเอง การเป็นนักมวยจึงจำเป็นที่จะต้องอดทนต่อแรงกดดันเหล่านี้ และจัดการกับมันได้อย่างดี

 

นอกจากนี้การออกกำลังกายด้วยมวยไทย หรือ การฝึกมวยไทย ยังช่วยให้เรามีเหตุผลมากขึ้น เพราะเนื่องจากเราจะต้องใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า นักมวย จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้สติปัญญาของตัวเองบนสังเวียนให้เกิดผลที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เริ่มต่อยมวยยังไงดีนะ

เจริญทองมวยไทย(ข้าวสาร)ไปยังไงดีนะ

เริ่มต่อยมวยยังไงดีนะ

เริ่มต่อยมวยยังไงดีนะ

เริ่มต่อยมวยยังไงดีนะ

มวยเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก นอกจากจะฝึกเพื่อเป็นนักมวยมืออาชีพแล้ว มวยยังเล่นเป็นกีฬาสำหรับคนที่ออกกำลังกายได้อีกด้วย เพราะกีฬามวยนั้นช่วยออกกำลังกายได้ทุกสัดส่วน ช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้ทุกส่วนของร่างกาย นอกจากจะได้ร่างการที่แข็งแรงแล้ว ยังได้ความรู้และเทคนิคในการป้องกันตัวกลับไปอีกด้วย

 

หลายคนคงอยากจะลองเล่นมวยดู แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ต้องทำอะไรบ้าง แล้วมวยเหมาะกับใครบ้าง ง่าย ๆ เลยก็คือ มวยนั้นเหมาะสำหรับทุกคนที่สนใจและอยากออกกำลังกาย เราสามารถฝึกเองที่บ้านจากการดูยูทูป หรือจะสมัครเรียนมวยกับยิมหรือฟิตเนสสักที่ก็ได้

 

ที่ Jaroen Thong Muay Thai Kaosan (เจริญทองมวยไทย ข้าวสาร) ที่นี่มีบริการสอนมวยให้กับทุก ๆ คน เริ่มสอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ต่อให้ไม่รู้จักมวยเลย ก็สามารถมาเรียนมาฝึกที่นี่ได้ เพราะมีครูฝึกที่เก่งและมีประสบการณ์ในการสอนมวยมามากมายคอยช่วยเหลือและถ่ายทอดความรู้ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ถูกต้อง การใช้หมัด ใช้เข่า การวอร์มอัพก่อนเริ่มเล่น คุณครูและพนักงานที่นี่ทุกคนมีความเป็นกันเอง พร้อมช่วยเหลือคุณในเรื่องการต่อยมวย และการออกกำลังกายต่าง ๆ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย & มวยสากล ต่างกันอย่างไร

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

เจริญทองมวยไทย(ข้าวสาร)ไปยังไงดีนะ

เจริญทองมวยไทย(ข้าวสาร)ไปยังไงดีนะ

เจริญทองมวยไทย(ข้าวสาร)ไปยังไงดีนะ

วันนี้เราจะชวนทุกคนมาออกกำลังกันที่เจริญทองมวยไทยข้าวสาร  เพราะที่นี่มีทั้งฟิตเนส  และมวยไทย  เลือกเล่นได้ตามความสนใจได้เลย  การเดินทางนั้นก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

 

ที่ตั้งของยิม

98/3-10 ถนนพระอาทิตย์  แขวงชนะสงคราม  เขตพระนคร  กรุงเทพมหานคร  10200

เบอร์ติดต่อ  02 629 2313

 

นั่งรถสายอะไรได้บ้างนะ

รถประจำทาง : 3 , 6 , 9 , 15 , 19 , 30 , 32 , 33 , 39 , 53 , 64 , 65 , 68 , 82 , 506

 

โดยสารโดยเรือ : ขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าพระอาทิตย์

 

เดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT

เดินทางโดยรถไฟสายสีน้ำเงิน  ลงที่ สถานีบางยี่ขัน  นั่งอะไรก็ได้ไปลงพาต้า  แล้วต่อรถประจำทางสาย 30 

สถานสนามไชย  ต่อรถประจำทาง  หรือวินก็ได้

สถานีสามยอด  ต่อแท็กซี่  หรือวินมาก็ได้  (ไม่แนะนำให้ขึ้นรถประจำทางจากสถานีนี้เพราะหารถยาก) 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

MUAY THAI กีฬาที่ให้มากกว่าแค่ ออกกำลัง

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

ผู้หญิง กับการต่อยมวย

ผู้หญิง กับการต่อยมวย

ผู้หญิงกับการต่อยมวย

 

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าผู้หญิงสมัยนี้ส่วนใหญ่เป็น Working Woman ออกไปทำงานหาเงินใช้เอง บางคนก็หาเลี้ยงครอบครัว บางคนก็เป็น Single Mom นอกจากเรื่องการทำงานและภาระหน้าที่ที่ต้องทำในชีวิตประจำวันแล้วเนี่ย ผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็อย่าละเลยการดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย

 

ทำยังไงให้ การออกกำลังกาย เป็นเรื่องใกล้ตัว

ในยุคปัจจุบันที่มีมิจฉาชีพเต็มเมืองไปหมด เราไม่สามารถไว้ใจใครได้เลยแม้แต่คนขับรถโดยสาร ผู้หญิงอย่างเราต้องลุกขึ้นมาต่อสู้และเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวเบื้องต้น ซึ่งเราขอแนะนำการต่อยมวย นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วเรายังสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

 

ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเราจะต้องทำอย่างไร

โครงสร้างของผู้หญิงมีขนาดเล็กกว่าผู้ชาย การต่อสู้ไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่เราจะใช้ แต่เราต้องใช้ความคิดวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนั้นด้วย การต่อสู้จะใช้สำหรับตอนที่เราตันหรือไม่มีทางที่จะหนีได้แล้วเท่านั้น ซึ่งจะใช้ตอนที่เราเห็นช่องโหว่ของฝ่ายตรงข้ามหรือจุดอับที่เราสามารถวิ่งหนีไปได้ทัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องคำนึงถึงอาวุธของอีกฝ่ายอีกเช่นกัน

 

นอกจากนี้ การต่อยมวยไม่ได้ช่วยในเรื่องของสุขภาพที่แข็งแรงเพียงเท่านั้น ยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะลดความอ้วนหรือทำให้ร่างกายแข็งแรง มีกล้ามเนื้อที่สามารถยืดหยุนได้ดีอีกด้วย การต่อยมวยถือเป็นเรื่องใกล้ตัวมากสำหรับผู้หญิงในยุคนี้ เพราะนอกจากจะทำให้ร่ายกายแข็งแรงและมีไหวพริบในการป้องกับตัวแล้ว ยังช่วยในเรื่องของผิวพรรณและรูปร่างที่ดีขึ้น ประโยชน์ของการต่อยมวยมีด้วยกันดังนี้

 

ประโยชน์ของการต่อยมวย

  • ขับเหงื่อและของเสียในร่างกาย
  • สร้างกล้ามเนื้อ สร้ามภูมิคุ้มกันโรค
  • สามารถเอาทักษะการต่อยมวยไปใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ทำให้ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่ง เพราะร่างกายได้ขับของเสียออกมา
  • กระชับสัดส่วน ทำให้หุ่นดีขึ้นและดูสุขภาพแข็งแรง

 

แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น การออกกำลังกายทุกชนิด โดยเฉพาะมวยไทยนั้นไม่ควรที่จะหักโหมจนเกินไป คุณอาจรู้สึกว่าซ้อมได้เต็ม 100 ในวันแรกของการฝึกฝน แต่เมื่อผ่านไปเป็นในวันที่สองและสาม ความเมื่อยล้าและความเจ็บปวดจะมาเยือน อาจจะทำให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบอีกด้วย

 

แต่ถ้าค่อย ๆ ออกกำลังกายไปทีละนิดฝึกไปทีละหน่อยอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป คุณก็จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่เมื่อไหร่ที่คุณฝืนตัวเอง คุณก็อาจจะได้รับการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายและไม่ได้ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย เล่นอย่าไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

 

ศิลปะมวยไทยกับการเตะของนักมวย

ศิลปะมวยไทยกับการเตะของนักมวย

พูดได้เลยว่า มวยไทย ( Muay Thai ) อาวุธที่ติดเครื่องใช้ทุกสังเวชและขาดไม่ได้เลยคือลูกเตะ ลูกเตะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก สามารถน็อคได้เลยภายในเสี้ยววิเลยก็ว่าได้ วันนี้มาเรียนรู้ถึงลูกเตะมวยไทยกันเถอะ

 

เตะในความหมาย ง่ายๆ เลยก็คือ การใช้เท้า ฟาดไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งทำให้เกิด การกระเด็น กระทบ เป็นทน แต่ในศัพท์ มวยไทย ( Muay Thai ) หมายถึง การใช้เท้าฟาดไปที่ศัตรูทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ และยิ่งคำว่า ลูกเตะต้องใส่ลวดลาย มวยไทย ( Muay Thai )   ลงไปด้วย

 

การเตะก็คือการใช้ขาเหวี่ยงออกไปเป็นแนว ตรง แนวเฉียง แนวขนาน แนวคว่ำ หรือแม้แต่การใช้ส้นเตะ ซึ่งในปัจจุบันนี้ มักจะเรียกว่า “จระเข้ฟาดหาง” ซึ่งหากเรารู้จักใช้ ความได้เปรียบในเกมการต่อสู้จะอยู่ที่เราทันที ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนี้  ให้สังเกตให้ดีๆ เวลาเราต่อสู้กัน คนที่ถนัดหมัด ก็จ้องแต่จะใช้หมัด คนที่ถนัดเข่าก็จ้องแต่จะใช้เข่า คนที่ถนัดศอก ถนัดเตะ ก็จ้องแต่จะใช้สิ่งที่ตัวเองนั้นถนัด

 

การฝึกการเหวี่ยงแข้งในแบบ มวยไทย ( Muay Thai )  การเหวี่ยงแข้งที่ถูกต้อง จะต้องเริ่มที่การยืนให้ทิ้งนำหนักลงบนฝ่าเท้าทั้งสองข้าง เวลาจะเหวี่ยงแข้งข้างไหน ให้เราถ่ายน้ำหนักลงบนขาข้างที่ไม่ได้เหวี่ยงแข้ง โดยหมุนปลายเท้าข้างที่เรายืนตามเวลาเราเหวี่ยงแข้งไป ซึ่งแล้วแต่ความถนัด  บางท่านก็หมุนฝ่าเท้าข้างที่ยืนก่อน จากนั้นก็เหวี่ยงแข้งตาม แต่ที่ถูกต้องจะต้องทำพร้อมๆกันนะค่ะ การเตะนั้นมีหลายข้อบ่งใช้ เช่น เตะขา เตะลำตัว เตะก้านคอ   ซึ่งจุดที่จะเตะนั้นเป็นจุด ชกมวยเป็นอย่างด

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับการเตะขา

 

เมื่อเราฝึกการเตะขา เราก็ควรฝึกให้ได้หลายรูปแบบด้วยกัน คือ การเตะสะบัด การเตะเหวี่ยง และการเตะด้วยตาตุ่ม รวมไปถึงการเตะด้วยส้นเท้า

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับการใช้ลำตัว

 

เราควรงอขาเพื่อให้เป็นเข่าไปด้วย แต่ไม่งอจนเป็นมุมแหลม การเตะขาตรงนั้น ทำให้คู่ต่อสู้สามารถเข้าหาเราได้ง่าย จึงนิยมการเตะแบบงอเข่าเล็กน้อยหรือบางทีก็เตะแบบครึ่งแข้งครึ่งเข่า จะทำให้เข่าที่เรางอเอาไว้นั้น บังหรือกั้นคู่ต่อสู้ของเราไม่ให้เข้ามาชก หรือเข้ามาถึงตัวเราได้ง่าย ที่สำคัญเราควรเอนตัวไปทางด้านหลัง

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับการเตะก้านคอ

 

เป็นลูกที่อันตรายทั้งคนเตะและคนถูกเตะ เนื่องจากว่า ถ้าเตะในแบบไม่ระมัดระวังเมื่อเรายกขาสูง ขาข้างที่เรายืนย่อมเสียหลักหรือเสียศูนย์ได้โดยง่าย หากเราเตะขึ้นไปแล้วเป้าหมายเคลื่อนเข้ามาหาเรา ซึ่งนับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะว่าเรายืนขาเดียว ยิ่งคู่ต่อสู้เป็นมวยมากเรายิ่งเสียเปรียบมาก การเตะก้านคอต้องระวังในเรื่องหลักของการยืนนะค่ะ หลักไม่ดีก็อาจจะโดนส่วนได้

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับการเตะด้วยขาหน้า 

 

ผู้ฝึก มวยไทย ( Muay Thai )  ทุกคน ควรฝึกการเตะด้วยขาหน้า เนื่องจากขาหน้านั้นอยู่ใกล้คู่ต่อสู้มากที่สุด การเตะด้วยขาหน้าจึงเป็นการเตะเพื่อตัดจังหวะของคู่ต่อสู้ได้อย่างดียิ่ง เนื่องจากเป็นการเตะที่รวดเร็วและทำลายจังหวะรุกของคู่ต่อสู้  การเตะด้วยขาหน้านั้น ควรเตะขาเป็นอันดับแรก เพราะคนเราจะเดินก็เดินด้วยขา เมื่อคู่ต่อสู้ขยับชก

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับการเตะแบบจระเข้ฟาดหาง 

 

การเตะแบบจระเข้ฟาดหางนั้น ควรฝึกให้ชำนาญ เพราะจะใช้เมื่อเราเตะผิด แล้วคู่ต่อสู้ถลำเข้ามาหาเรา หรือเราเสียหลักแล้วคู่ต่อสู้ถลำเข้ามา และอีกอย่างหนึ่งก็คือเราวางแผนให้คู่ต่อสู้ชกเราหรือทำอะไรสักอย่างมาที่เรา แล้วเราก็ใช้จะเข้ฟาดหาง ที่เราเตรียมเอาไว้นั้นกลับไปยังคู่ต่อสู้ จระเข้ฟาดหาง  ต้องระวังถึงเวลาหันหลังแล้วฟาด เพียงเสี้ยววิ ก็อาจจะทำให้คู่ต่อสู้เข้ามาถึง ตัวเราได้แล้ว

 

เห็นไหมค่ะว่าลูกเตะของ มวยไทย ( Muay Thai )   เป็นสิ่งที่เราสามารถฝึกได้ และต้องฝึกอย่างชำนาญ อีกด้วย หากใครอยากจะเรียน มวยไทย ( Muay Thai )  เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) เป็นยิมมวยต้นแบบที่นำ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" กับ "วิทยาศาสตร์การกีฬา" และ "ความรู้ด้านโภชนาการ" มาผสมผสานเข้าได้ด้วยกัน เป็นศูนย์กลางผู้นำช่วยลดน้ำหนัก  ก็สามารถติดต่อเรามาได้ตลอดเลยนะคะ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

เลือก กระสอบทราย อย่างไร ให้ต่อย มวยไทย ได้สุดปัง

ต่อย มวยไทย ยังไงให้ได้เปรียบ

ต่อย มวยไทย ยังไงให้ได้เปรียบ

ต่อยมวยไทย เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเสริมสร้างระบบกล้ามเนื้อที่ดี เพราะในการออกหมัด หรือ ชก ในแต่ละครั้ง ใช้กล้ามเนื้อที่ต้องมีความแข็งแรง ถึงจะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้ เราจะต้องเรียนรู้วิธีในการต่อยมวยไทย

 

การต่อยมวยไทย ช่วยเรื่องสร้างกล้ามเนื้อ ?

     สเต็ปที่ 1  ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง 45 – 60 นาที / วัน สามารถเลือกการออกกำลังกาย ได้หลายรูปแบบไม่ซ้ำกัน

1. การปั่นจักยาน 30 นาที

2. วิ่ง 10 กิโลเมตร

3. กระโดดเชือก ( ตามที่กำหนด )

4. ต่อยกระสอบทราย 3 ยก

 

 

     สเต็ปที่ 2 สร้างขีดจำกัดเพิ่มขึ้นให้กับตัวเอง ในที่จะลดน้ำหนักแบบนักมวย ต้องมีการจำนวนครั้งในการซ้อมกระสอบทราย เพิ่มจำนวนยก และ จำนวนรอบในการวิ่ง เพื่อเพิ่มกำลังในการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ดึงเอาพลังงานมาเผาผลาญได้ดี

 

     สเต็ปที่ 3 ควบคุมอาหาร เลี่ยงของทอด ลดการรับประทานอาหารจำพวก แป้ง เพราะจะเป็นตัวการที่จะเพิ่มน้ำหนัก ส่งผลให้การออกกำลังกาย เห็นผลช้า เน้นไปรับประทานประเภทผัก เนื้อสัตว์ ( ต้ม ) ผลไม้ที่มีรสจืด เน้นโปรตีนเนื้อสัตว์ เป็นการซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ

 

     สเต็ปที่ 4 นักมวย ก็ต้องมีเวลาพักผ่อน การนอนหลับให้เพียงพอ เป้นอีกหนึ่งวิธีการในการสร้างกล้ามเนื้อ เมื่อเราออกกำลังกายมาอย่างหนัก การพักผ่อนถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก อย่างน้อย  7 – 8 ชั่วโมง ร่างกายปรับสมดุลในขณะที่เราหลับ พร้อมปฏิบัติตามตารางในการลดน้ำหนักแบบนักมวย ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน อย่าหักโหม เพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนล้า ไม่เกิดผลดีต่อร่างกาย

 

     นักมวยไทย ให้ความสำคัญ เรื่องฟิตร่างกายอยู่ตลอดเวลา จะต้องมีการใช้ความอดทน ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นเรา ไม่จำเป็นต้องเคร่งกับตัวเองมากไป เอาที่เราไหว ร่างกายเราไหวแค่ไหน แต่จะต้อง มีการวางแผนเป็นสเต็ปไว้อย่างชัดเจน เพื่อช่วยให้ลดน้ำหนักแบบนักมวย ให้ได้ผลมากที่สุด

 

 

ฝึกฝนตัวเอง ให้พร้อม สำหรับต่อย มวยไทย 

เชือกกระโดด เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บริหารร่างกายให้ขาแข็งแรงมีความคล่องตัวสูง เชือกกระโดด

 

punching ball ( ลูกบอล ) ใช้สำหรับฝึกฝนการออกหมัด ความไวของสายตา เพราะ punching ball เด้งไปเด้งมาเมื่อถูกหมัด นักมวยจะฝึกต่อยให้เร็ว และควบคุมแรงในการต่อยให้สม่ำเสมอ และฝึกความว่องไวของสายตาในการปล่อยหมัดให้ถูกลูกบอล

 

ผ้าพันมือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันนิ้วมือไม่ให้เคล็ดหรือถลอกเวลาต่อยมวย โดยจะต้องพันมือทุกครั้งก่อนสวมนวม เพื่อชกกระสอบทรายหรือฝึกลงนวม

 

กระจับนักมวย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันอวัยวะส่วนสำคัญของนักมวยไม่ให้ได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากการชกมวย โดยสวมทุกครั้งที่ขึ้นชกมวย

 

ฟันยาง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันฟันและปากไม่ให้ได้รับการบาดเจ็บจากการชกมวย เป็นอุปกรณ์สำคัญที่นักมวยจะต้องสวมให้ชิน โดยสวมทุกครั้งที่ขึ้นชกมวยและซ้อมลงนวม

 

นวม จำเป็นมาก สำหรับนักมวย โดยใช้สวมเมื่อซ้อมลงนวม และสวมเมื่อเวลาแข่งขันบนเวที ขนาดจะต่างกันตามขนาดตัวนักมวยตั้งแต่ 4 - 6 ออนซ์ ซึ่งมีราคาแตกต่างกันไป แบ่งออกเป็นนวมซ้อม นวมที่ใช้ชกแข่งขัน นวมซ้อมจะมีขนาดใหญ่ และนิ่มกว่านวมที่ใช้แข่งขัน

 

แบคชกกระสอบ ฝึกซ้อมชกกระสอบทราย รูปร่างเหมือนนวมทุกอย่างแต่เล็กกว่า ใช้ฝึกออกหมัด ป้องกันนิ้วมือของ นักมวย เวลาซ้อม

 

เป้าล่อ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกซ้อมการออกหมัด เท้า เข่า ศอก ให้เข้าตามจุดที่สำคัญของร่างกายอย่างแม่นยำ แบ่งออกเป็นเป้ามือ เป้าท้อง เป้ายาว สนับแข้ง โดยจะสวมเข้ากับร่างกายของครูฝึกแล้วล่อหลอกให้นักมวยออกหมัด เท้า เข่า ศอก เข้าตามเป้าต่างๆ ที่อยู่บนร่างกายครูฝึก เป้ามือ เป้ายาว เป้าท้อง

 

กระสอบทราย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกซ้อมการออกหมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทุกค่ายต้องมีให้นักมวยใช้ฝึกซ้อมการเตะ เข่า ต่อย และฟันศอก

 

ลูกเหล็ก สำหรับบริหารร่างกาย หรือ ดรัมเบล เป็นอุปกรณ์ที่ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณแผงคอ ขากรรไกร ด้วยการคาบไว้ในปากแล้วยกขึ้นลง ฝึกกำลังแขนด้วยการกำไว้ในมือแล้วฝึกชกลม

 

คานเหล็กสำหรับยกน้ำหนัก  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ขาและแผงอก ให้แข็งแรงด้วยการยกขึ้นลง

 

นาฬิกาจับเวลา เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จับเวลาในการฝึกซ้อมของนักมวย โดยแบ่งเวลาเป็นยก ยกละ 5 นาที เมื่อผ่าน 1 นาที ก็เรียก 1 ผ่าน พอครบ 5 นาทีก็เรียก 1 ยก โดยจะซ้อมกัน 8 - 10 ยกในการฝึกซ้อมแต่ละอย่าง

 

เชือกโหน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกความแข็งแรงของข้อมือ แขน และแผงอก ด้วยการผูกไว้บนขื่อแล้วปีนขึ้นลง ซึ่งจะได้เห็นในการฝึกซ้อมมวยต่อไป

 

กางเกงมวย มีลักษณะเป็นกางเกงสั้นค่อนข้างบานตัดเย็บด้วยผ้ามันสีต่างๆ โดยจะปักชื้อนักมวยและค่ายมวยที่สังกัดบนกางเกงใช้สวมเวลาฝึกซ้อมในค่ายมวยและสวมเวลาแข่งขันชกมวย

 

ปลอกรัดข้อเท้า เป็นอุปกรณ์สำหรับป้องกันข้อเท้าของนักมวยไม่ให้เคล็ดเวลาเตะกระสอบหรือแข่งขันชกมวย ในการแข่งขันนักมวยจะสวมปลอกรักข้อเท้าเสมอเวลาแข่งขันเพื่อป้องกันข้อเท้าเคล็ดอันเกิดจากการเตะคู่แข่งขัน

 

 เครื่องชั่งน้ำหนัก ค่ายมวย หรือ ยิมมวย ทั้ง มวยไทย มวยสากล จำเป็นต้องมีเครื่องชั่งน้ำหนักให้นักมวย ได้ทดสอบน้ำหนักตัวเองอยู่เสมอ เพื่อเตือนตัวเองได้ว่า น้ำหนักเพียงพอต่อการฝึกในแต่บะรุ่น หรือไม่ เป็นประโยชน์ต่อการฝึกซ้อม การแข่งขัน

 

3 ระยะในการฝึก

- ก่อนการฝึกซ้อม

- ระหว่างพักการฝึกซ้อม

- หลังการฝึกซ้อม

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

มวยไทยสร้างสมดุลร่างกาย

ไขมันกระจายแค่ชก มวยไทย ( Muay Thai)

มวยไทย & มวยสากล ต่างกันอย่างไร

มวยไทย & มวยสากล ต่างกันอย่างไร

มวย เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ต้องมีทักษะการต่อสู้ โดยใช้ทุกส่วนของ ร่างกาย แต่มวยที่เรารู้จักกันนั้น มีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือ มวยไทย และมวยสากล เป็นกีฬามวยเหมือนกัน แต่จะมีความต่างกันอย่างไรบ้าง

หลายคนคงมีความสงสัย ว่ามวยไทย และมวยสากล ที่รู้จักกันในบ้านเรานั้น มีการเล่น หรือกฎกติกาที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราเลยมาเทียบความแตกต่างกันให้ดูเลยค่ะ

มวยไทย (
Muay Thai ) เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ( Martial Art ) และเป็นกีฬา ( Sport ) ประจำชาติ เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงในยุคปัจจุบัน เมื่อสมัยก่อนมีการฝึกฝน การต่อสู้ด้วยมือเปล่า เพื่อรบกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการรบระยะประชิดตัว  คนไทยจึงได้ฝึกหัดการ เตะ ถีบคู่ต่อสู้ เพื่อให้เกิดการได้เปรียบ

กีฬามวยไทย เป็นกีฬาที่สามารถใช้ได้ทุกส่วนของอวัยวะของร่างกาย ในการ ต่อสู้ ด้วยมือเปล่า จนได้รับการยอมรับว่าเป็น การต่อสู้ ที่ผสมผสานของศาสตร์ และศิลป์ได้อย่างสวยงาม ในปัจจุบันได้รับการยอมรับไปทั่วโลก มวยไทยเป็นทั้งศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตนเอง ( Self defense ) และเป็นกีฬาสมัครเล่นหรืออาชีพ ( Amateur or professional )

กติกาการแข่งขันมวยไทย
กีฬามวยไทย สามารถใช้ได้ทุกส่วนของอวัยวะของร่างกาย และถือว่าอันตรายมาก ๆ ในปัจจุบัน นักมวย ต้องสวมนวมขนาด 4 ออนซ์ สวมกางเกงขาสั้นสวมกระจับ สวมปลอกรัดเท้าหรือไม่ก็ได้ มวยไทยจะชกด้วยกันทั้งหมด 5 ยก โดยจะขึ้นชก 3 นาที พัก 2 นาที การแข่งขันมีกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวที 1 คน กรรมการในการให้คะแนนข้างเวทีอีก 2 คน ให้คะแนนยกละ 10 คะแนน การแข่งจะแบ่งเป็นรุ่นตามน้ำหนัก
 
การให้คะแนน
- ฝ่ายใดใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก ถูกต้องตามกติกา กระทำคู่ต่อสู้ได้หนักหน่วง บอบช้ำ และรุกมากกว่าเป็นผู้ชนะ
- นักมวย ฝ่ายใด มีชั้นเชิงมวยไทย ในการ รุก รับ หลบ ตอบโต้ ได้ดีกว่าเป็นผู้ชนะ

การฟาวล์
- หากผู้เล่นทำฟาวล์ ( foul ) ต้องตัดคะแนนตามที่ผู้ชี้ขาดสั่งให้ตัดคะแนน
- ถ้าผู้ตัดสินเห็นการฟาล์วอย่างชัดเจน แต่ผู้ชี้ขาดไม่เห็น ผู้ตัดสินสามารถตัดคะแนนตามความเหมาะ พร้อมระว่าทำฟาวล์ด้วยเหตุผลใด


มวยสากล ( Boxing ) หรือที่เรียกในยุคแรกว่า "มวยฝรั่ง" เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมาแต่โบราณ สู้กันด้วยหมัดทั้ง 2 ข้าง โดยเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของทหารในสนามรบ และกลายเป็นเกมกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิกยุคโบราณ ไม่จำกัดน้ำหนัก ไม่สวมที่ป้องกันตัว ใช้เพียงหมด ไม่มีกฎกติกามากนัก แต่นักมวยต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมดทั้งตัว ในปี 2236 เจมส์ ฟิกซ์ ( James Figg ) ผู้ชนะการแข่งขัน จนได้รับให้เป็น ” บิดาแห่งมวยสากล ” ได้กำหนดกฎกติกาขึ้นมา จนมีคนอื่น ๆ ที่ชนะการแข่งขัน แล้วสร้างนวมตามมา และได้พัฒนามาเป็นเกมกีฬาที่กติกาในปัจจุบัน

กติกาการแข่งขันมวยสากล
- จำนวนยกในการแข่งขัน การขึ้นชกจะแบ่งเป็น 12 ยก เวลา 3 นาที หยุดพักระหว่างยก 1 นาที สู้จนครบ 12 ยก แล้วจะรวมคะแนนว่าใครชนะ
-  กรรมการ การแข่งขัน มีกรรมการให้คะแนนชี้ขาด 3 คน กรณีกรรมการ 3 คนให้ชนะ 1 เสมอ 2 จะดูผลคะแนนกรรมการที่ให้เสมอ 2 ยกหลังเท่านั้น ( บางหนกรรมการห้ามบนเวทีก็มีสิทธิ์ให้คะแนนด้วย )
- การตัดสิน สามารถน็อคเอาท์ ( Knockout ) คู่ต่อสู้ได้ เมื่อทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงกับพื้นเวที หรือยืนพับหมดสติอยู่กับเชือก ไม่สามารถที่จะชกต่อ หรือป้องกันตัวได้อีกภายใน ๑๐ วินาที ระหว่างที่กรรมการนับ จะถือว่าชนะทันที
- การให้คะแนน ยกหนึ่งมี 10 คะแนน เมื่อหมดเวลา 1 ยก กรรมการจะให้คะแนน ผู้ที่ชกดีกว่า 10 คะแนน และให้คะแนนผู้เสียเปรียบลดน้อยลงไปตามลำดับความเสียเปรียบในยกนั้น ถ้าชกพอกันจะให้ 10 คะแนนเท่ากัน
- ฟาวล์ ( foul ) หากกรรมการเตือนนักชกคนใดว่าทำฟาวล์ จะถูกหักคะแนน 1 คะแนน โดยจะให้สัญญาณมือแก่กรรมที่ให้คะแนน

มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว แตกต่างจากมวยสากล ที่นอกจากจะใช้หมัดชกคู่ต่อสู้แล้ว ยังใช้เท้า และศอกต่อสู้ได้ แต่มวยสากลจะใช้ได้แค่หมัดอย่างเดียว และจำนวนยกที่ต่างกัน มวยไทยจะชก 5 ยก มวยสากลจะชก 12 ยก แต่ถึงจะมีความต่างกันอย่างไร มวยทั้ง 2 ชนิด ก็ยังเป็นกีฬาที่ช่วยฝึกฝนความอดทน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย


บทความเพิ่มเติม

แนะนำหนังไทย สายต่อสู้ โดยใช้ มวยไทย
ไขมันกระจายแค่ชก มวยไทย ( Muay Thai)
ชกกระสอบทรายทุกวัน ก็ลดน้ำหนักได้

 

ทำความรู้จักกับการออกหมัดมวยไทย

ทำความรู้จักกับการออกหมัดมวยไทย

หลายคนน่าจะเคยเปิดทีวีแล้วเจอมวยไทยบ้าง ไม่ว่าจะ มวยไทย ( Muay Thai ) ช่อง 8 Muay Thai Super Champ หรือช่องอื่น ๆ ให้ได้เห็นและแน่นอน สไตล์การชกของนักมวยแต่ละคน มีรูปแบบไม่เหมือนกัน

 

การปล่อยมัด การใช้ทักษะต่าง ๆ ในการต่อสู้บนสังเวียน มวยไทย ( Muay Thai ) วันนี้ Jaroenthong Muay Thai Gym  มีบทความให้ความรู้เกี่ยวกับการออกหมัด มาให้ได้อ่านกัน ตามมาเลย

 

มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นถือเป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว โดยการใช้ส่วนประกอบต่าง ๆ ของร่างกายได้ผสมผสานเคลื่อนไหวด้วยจังหวะที่ต้องอาศัยความคล่องตัว หรือ อาวุธในการจู่โจมคู่ต่อสู้และป้องกันตัว โดยต่ออาศัยการฝึกหัด ฝึกฝน ศาสตร์ของมวยไทยอย่างถ่องแท้ ลึกซึ้ง ในการใช้อวัยวะในร่างกาย อวัยวะเหล่านั้นจะแบ่งออกเป็น หมัด ศอก เข่า เท้า การใช้อวัยวะเหล่านี้สามารถที่จะเรียนรู้หรือฝึกแยกเป็นหมวดหมู่ได้ ถ้าใช้อวัยวะเหล่านี้จนชำนาญก็คือต้นกำเนิดของศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai )

 

มวยไทย ( Muay Thai ) กับการใช้หมัด

 

หมัดตรง คือการปล่อยหมัดตรง ๆ ขนานออกไปจากไหล่ เป็นแนวตรงพุ่งใส่เป้าหมาย โดยในเชิงมวยแล้ว จะเป็นการชกหมัดนำ และ ปล่อยหมัดตาม ใส่คู่ต่อสู้หรือเป้าหมาย 

 

1.มวยไทย ( Muay Thai ) กับหมัดตรงชกนำ

 

จะเป็นการปล่อยหมัดที่อยู่ด้านหน้าพุ่งไปยังเป้าหมายโดยอาศัยแรงส่งที่มาจากหัวไหล่ ลำตัว ตั้งตรง และเท้ายันพื้นเพื่อเป็นหลักและแรงส่งออกไป ถ้าจดเหลี่ยมขวาหมัดตรงชกนำคือหมัดซ้ายถ้าจดเหลี่ยมซ้าย หมัดตรงชกนำคือหมัดขวา  อาจจะชกออกไปโดยไม่เคลื่อนเท้า หรือ เคลื่อนเท้าไปด้านหน้า ด้านหลัง ข้างซ้ายและข้างขวาก็ได้ส่วนมากเวลาชกไปแล้วน้ำหนักตัวมักจะตกอยู่บนเท้าที่อยู่หน้าเสมอ

 

2.มวยไทย ( Muay Thai ) กับหมัดตรงชกตาม

 

หมัดตรงชกตาม จะเป็นการใช้หมัดอีกข้างของหมัดชกนำ ปล่อยเป็นแนวตรงไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงจากหัวไหล่ ลำตัวและเท้า ส่งแรงไปที่หมัดถ้าจดเหลี่ยมขวา หมัดตรงชกตามคือหมัดขวา ถ้าจดเหลี่ยมซ้ายหมัดตรงชกตามคือหมัดซ้าย เมื่อหมัดตรงชกตามพุ่งออกไป ลำตัว เอวและสะโพกจะบิดคว่ำลงเท้าหลังจะส่งแรงน้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าหน้า อาจจะสืบเท้าไปข้างหน้า ถ้าชกถอยหลังหรือฉากออกข้างชกหมัดตรงชกตามก็ได้ส่วนมากแล้วถ้าเดินหน้าหมัดตรงชกตามจะหนักหน่วงและรุนแรงกว่าหมัดชกนำ

 

3.มวยไทย ( Muay Thai ) กับหมัดขว้าง หรือ หมัดเหวี่ยง

 

การปล่อยหมัดโดยการงอและเกร็งข้อศอกไว้ให้หมัดออกไปเป็นวิธีทางโค้งขนานกับพื้นดินอาจจะคว่ำหมัด หรือ ตั้งหมัดก็ได้ แต่พยายามให้สันหมัดถูกเป้าหมายหมัดเหวี่ยงแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ หมัดเหวี่ยงสั้น หมัดเหวี่ยงยาว หมัดเหวี่ยงกลับ

 

4.มวยไทย ( Muay Thai ) กับหมัดเหวี่ยงสั้น หรือ หมัดขว้างสั้น

 

จะใช้ในตอนที่คู่ต่อสู้อยู่ในจะหวะปิดป้องกัน ได้ดีเมื่อคู่ต่อสู้ปิดป้องกำบังต่างๆ เช่น คู่ต่อสู้ยกมือป้องกันใบหน้าตรงๆ ถ้าชกหมัดตรงก็จะถูกมือและท่อนแขนของคู่ต่อสู้ยกกันไว้ ดังนั้นควรใช้หมัดเหวี่ยงสั้นเพราะหมัดนี้จะโค้งผ่านเลยแขนคู่ต่อสู้เข้าสู่ใบหน้าหรือปลายคางทางข้างซ้ายหรือข้างขวาก็ได้ หมัดเหวี่ยงสั้นอาจจะมีวิธีทางของหมัดไม่ขนานพื้น คือ อาจจะเฉียงขึ้น หรือ เฉียงลงสู้พื้นบ้างก็ได้ตามแต่ความเหมาะสมของสถานการณ์และอาจจะกระทบเป้าหมายโดยคว่ำสันหมัด

 

5.มวยไทย ( Muay Thai ) กับหมัดเหวี่ยงยาว หรือ หมัดขว้างยาว

 

เป็นการชกโดยการเหยียดแขนยาวออกไป เกร็งแขนให้ตึง คว่ำมือ พยายามให้สันหมัดถูกเป้าหมาย โดยเหวี่ยงออกไปเป็นวงกว้างให้วิธีทางขนานกับพื้นดินหมัดเหวี่ยงยาวให้ชกเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปเป้าหมายชก คือ ปลายคาง หน้าและคอ

 

6.มวยไทย ( Muay Thai ) กับหมัดเสย

 

เป็นการกำหมัดให้แน่นและงอข้อศอก เกร็งข้อศอก หงายหมัดขึ้น และปล่อยหมัดจากล่างพุ่งขึ้นวิถีตั้ง ทำมุมฉากกับพื้น การปล่อยหมัดก็จะมี2แบบ คือ หมัดเสยนำ และ เสยหมัดตาม หมัดเสยจะใช้ได้ดีเมื่อเป้าหมายอยู่ใกล้ตัว เช่น การเข้าคลุกวงในแล้วคู่ต่อสู้ก้มต่ำเป้าหมายที่ชก คือ บริเวณคาง ท้อง หน้าอกและหน้า

 

7.มวยไทย ( Muay Thai ) กับหมัดโขก

 

จะเป็นการเหวี่ยงหมัดจากบนลงล่างเป้าหมายบริเวณขมับ หรือ คางหมัดโขกเป็นหมัดที่รุนแรงใช้หมัดตาม เพื่อให้วงเหวี่ยงมีรัศมีกว้างขึ้นเป็นหมัดที่มีทิศทางจากบนลงล่างแบ่งเป็นหมัดโขกวงกว้างกับหมัดโขกวงแคบหมัดนี้เป็นหมัดที่รุนแรงเพราะอาศัยแรงเหวี่ยงของไหล่และแขน

 

ในศิลปะแม่ไม้มวยไทย ต้องอาศัยการฝึกฝนซ้อมอยากหนักหน่วง เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ทักษะ การวิเคราะห์การชก ต่างๆ ซึ่งหากท่านใดสนใจสามาถเข้ามาพูดคุยได้ที่ 98/3-10 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 สอบถามได้ หรือจะติดต่อที่เบอร์ 02 629 2313

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

เลือก กระสอบทราย อย่างไร ให้ต่อย มวยไทย ได้สุดปัง

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

อยากฝึก มวยไทย ฝึกแบบไหนก่อนดี

มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ แต่การฝึกที่ดี ไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับใคร (ยกเว้น นำไปในระบบแข่งขัน) ก็มีอุปกรณ์หลายอย่าง และเทคนิค ที่สามารถนำมาฝึกก่อนได้

หนึ่งในส่วนที่ฉันชอบในการฝึกซ้อม คือการใช้เป้าเตะมาโดยตลอด เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝนทักษะ สร้างคาร์ดิโอ และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างโค้ช และเพื่อนร่วมทีม ความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือ เมื่อคุณทำงานร่วมกับคู่หูที่ไม่รู้วิธีจับเป้าเตะอย่างถูกต้อง คุณอาจมีแชมป์โลกอยู่ตรงหน้า แต่ให้ใส่กับคนที่ไม่รู้วิธีจับเป้าเตะแล้วพวกเขาจะดูเหมือนมือใหม่

ในขณะที่อยู่บนเป้าเตะสิ่งสำคัญ คือต้องร่วมมือกับคู่ของคุณ และพัฒนาจังหวะให้เหมาะสม กับระดับทักษะ และสภาพของพวกเขา สิ่งนี้สามารถสังเกตได้ง่ายเมื่อดูนักสู้ และผู้ฝึกสอนของพวกเขาฝึกซ้อม เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์แก่การเป็นสักขีพยาน โค้ชค่อย ๆ อุ่นเครื่องนักสู้จากนั้นเริ่มเพิ่มความรุนแรง และระดับความยากของรูปแบบ การถือครองเมื่อรอบดำเนินไป การเรียนรู้ที่จะถือเป้าเตะอย่างถูกต้องช่วยให้คุณสามารถพัฒนาทักษะ การฝึกสอนที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคุณ เมื่อระดับความคล่องแคล่วในศิลปะเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ด้านล่างนี้เป็นเคล็ดลับหลายประการที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการจับแผ่นไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1.  ทำให้มันง่าย

หากคุณยังใหม่กับการจับเป้าเตะให้ใช้ชุดป้องกัน และการตีที่เรียบง่าย แม้ว่าคุณจะทำงานร่วมกับคนที่ก้าวหน้ากว่า แต่ก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากรูปแบบการถือครองขั้นสูง ที่คุณไม่รู้จริง ๆ มวยไทยเป็นศิลปะที่เรียบง่าย และการถือเป้าเตะควรสะท้อนให้เห็นว่า การเตะครั้งเดียวจะช่วยคู่ของคุณได้มากกว่าการรวมกันที่ซับซ้อนและยาว เริ่มต้นด้วยสิ่งที่คุณรู้ และค่อยๆเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันเมื่อคุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น

  1. จำลองเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

พึงระลึกไว้เสมอว่า เมื่อถือเป้าเตะ คุณกำลังจำลองบทบาทของคู่ต่อสู้ของคู่หูของคุณ การถือต้องสะท้อนเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ซึ่งปกติจะโจมตีที่ หากคุณกำลังเตะร่างกายให้วางเป้าเตะไว้ข้างซี่โครงของคุณ หากเป็นไม้กระทุ้งเป้าเตะควรอยู่ติดกับใบหน้าของคุณ การถือเป้าเตะไว้ในสถานที่ที่ไม่สมจริง คุณจะต้องฝึกคู่หูของคุณสำหรับเป้าหมายที่ไม่ใช่ของจริง คุณอาจได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน เพียงจำไว้ว่าเมื่อคุณถือมันเป็นหน้าที่ของคุณที่ จะได้รับเป้าเตะในลักษณะของการโจมตีที่กำลังจะมาถึง หากคู่ของคุณเตะไปที่ซี่โครง และเป้าเตะของคุณยื่นออกไปข้างหน้าคุณแสดงว่า คุณกำลังเตะเต็มแรง เอามันไปจากฉันมันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี

  1. ใช้แรง ที่จุดเดิม อย่างต่อเนื่อง

การใช้แรงกดที่จุดสัมผัสเป็นสิ่งสำคัญในการจับเป้าเตะ เพื่อให้แน่ใจว่าคู่ของคุณได้รับการออกกำลังกายที่ดี แต่ยังป้องกันไม่ให้คุณซึ่งเป็นผู้ถือครองได้รับบาดเจ็บ ตัวอย่างเช่นหากคู่ของคุณเหวี่ยงเบ็ด และคุณรับด้วยแขนที่ผ่อนคลายคุณจะต้องบิดข้อศอก และอาจทำให้ไหล่ตึง เมื่อการตีถึงเป้าเตะให้ตึงร่างกายของคุณ และพบกับการตีด้วยกำลัง ที่ถูกกล่าวว่าอย่าไปถึงจุดนัดหยุดงานอนุญาตให้มาหาคุณ การเข้าถึงการตีเป็น วิธีที่แน่นอนว่าจะเตะเข้าที่ซี่โครง หรือชกเข้าที่ใบหน้า โปรดทราบว่าคู่ของคุณมีเป้าหมายเพื่อคุณไม่ใช่เป้าเตะ วิธีที่ดีในการปรับตัวให้ชินกับการถือเป้าเตะ คือเริ่มช้าและเบา คุณให้เริ่มจากการตีเบา ๆ แล้วค่อยๆเพิ่มพลังและความเร็ว ในตอนท้ายของรอบแรกคุณทั้งคู่จะถูกปรับเข้าหากัน และเริ่มบดขยี้กันได้

  1. ทำให้เป็นจริง

ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว โปรดจำไว้เสมอว่า เมื่อถือเป้าเตะ คุณจะต้องสวมบทบาทเป็นฝ่ายตรงข้าม พยายามจำลอง การซ้อมเมื่อถือเป้าเตะ แต่อย่าลืมทำงานในระดับของคู่หูของคุณ เดินไปรอบ ๆ และโจมตีคู่ของคุณในระหว่างระยะ การทำเช่นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ผู้ถือสังเกตช่องเปิด และข้อบกพร่องในเกมของกองหน้าแ ละกองหน้าจะเพิ่มเวลาในการป้องกัน และปฏิกิริยาของเขา การทำแพดเวิร์คเซสชั่น ของจริงจะช่วยในการเพิ่มระดับทักษะสำหรับทั้งสองคนเท่านั้น

  1. อย่าพยายามเป็นโค้ช กับคู่ต่อสู้ของคุณมากเกินไป

เมื่อคู่หูของฉันพยายามที่จะฝึกสอน หรือแก้ไขฉันในทุกการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฉันทำ มันน่าโมโห และเสียเวลาฝึกอย่างมาก ในขณะที่อยู่บนเป้าเตะ คุณควรจะทำงานและปรับปรุงไม่ต้องมีการถกเถียงกันห้านาที เกี่ยวกับตำแหน่งของเท้าซ้ายของฉัน เคล็ดลับและคำแนะนำในการฝึกสอนควรรวดเร็ว และตรงประเด็น ผู้คนจะทำผิดพลาดเมื่อเล่นกีฬาทุกประเภท เพียงแค่พยายามจัดการกับพวกมันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะที่ทำงานบนเป้าเตะ ทุกคนมีสไตล์การเรียนรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ดังนั้นอย่าลืมว่าบางคนจะไม่เข้าใจในทันที หากคู่ของคุณทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ลองแก้ไขสองสามครั้ง หากปัญหายังคงมีอยู่ให้ดำเนินการต่อ และแก้ไขปัญหาในภายหลังในเซสชัน หากคู่ของคุณยังไม่สามารถทำการแก้ไขที่จำเป็นได้ให้แจ้งโค้ชของคุณและให้เขาจัดการกับปัญหา

 

นี่ไม่ใช่เรื่องตลก และมีเหตุผลที่ดี สำหรับมวยไทย แนวคิดนี้ได้มาจากการที่นักสู้ สามารถใช้ทักษะ โดยใช้มือ ข้อศอก เข่า และขา ดังนั้นเป็นเรื่องที่ควรจะทำ

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

แนะนำหนังไทย สายต่อสู้ โดยใช้ มวยไทย
มวยไทย เล่นอย่าไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เลือก กระสอบทราย อย่างไร ให้ต่อย มวยไทย ได้สุดปัง

เลือก กระสอบทราย อย่างไร ให้ต่อย มวยไทย ได้สุดปัง

การต่อยมวย นอกจากจะต้องเรียนรู้วิธีการต่อยแล้ว อุปกรณ์ในการต่อย มวยไทย ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเรามีอุปกรณที่ดี ตรงกับการใช้งานแล้วนั้น ต่อย 100 ครั้ง ย่อมชนะ 100 ( จะเกิดได้ ต้องเกิดจากการฝึกฝน อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง )

 

อุปกรณ์ที่สำคัญในการต่อย มวยไทย ( muay thai ) นั่นคือ กระสอบทราย

 

การติดตั้ง กระสอบทราย สำหรับการฝึกต่อย มวยไทย ( muay thai )

พื้นที่

     ส่วนแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ พื้นที่ในการใช้งาน เพราะกระสอบทรายแต่ละประเภทจะต้องการพื้นที่การใช้งานต่างกันออกไป

ทักษะการใช้งาน ควรจะเลือกซื้อกระสอบทรายให้ตรงกับทักษะความสามารถ

 

      มือใหม่หัดต่อย มวยไทย  ( muay thai )  ควรจะเลือกซื้อกระสอบทรายประเภทตั้งพื้น เพราะกระสอบทรายประเภทนี้ส่วนใหญ่จะฟังก์ชั่นช่วยลดแรงกระแทกในการใช้งานเนื่องจาก มีการบุฟองน้ำ และ หุ้มหนังมาให้ ทำให้เหมาะกับมือใหม่ และมีความปลอดภัยในการใช้งาน มากกว่ากระสอบทรายแบบแขวน ราคา ควรตั้งขีดจำกัดของงบประมาณที่ต้องการไว้ เนื่องจากราคากระสอบทรายแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไปตามฟังก์ชั่นการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

 

เลือกกระสอบทราย ให้เหมาะสมกับการฝึกต่อย มวยไทย ( muay thai )

 

1. กระสอบทรายตั้งพื้น

     กระสอบทรายตั้งพื้น ราคาค่อนข้างสูง บวกกับฟังก์ชั่นการใช้งานครบ อีกทั้งสะดวกสบายมากกว่า กระสอบทรายแบบแขวน ผลิตจากการบุฟองน้ำ และ หุ้มมาให้ประสิทธิภาพเรื่องความปลอดภัยจะสูงกว่า เคลื่อนย้ายง่าย ใช้พื้นที่ไม่มาก และ ในบางยี่ห้อกระสอบทรายก็จะสามารถคืนรูปได้อีกด้วย

 

2. กระสอบทรายแบบแขวน

     กระสอบทรายแบบแขวน มักจะมีราคาถูก และ เป็นที่นิยม แต่ข้อเสีย คือ ความยุ่งยากในการเลือกสถานที่ติดตั้ง โดยต้องเลือกระยะในการติดตั้งอย่างน้อย 3 เมตร หากพื้นที่ติดตั้งมีเพดานไม่สูงมากพอ ก็จะไม่สามารถติดตั้งได้ และ หากใช้งานไปสักระยะ ตัวกระสอบทรายจะเกิดการยุบตัวไม่คืนรูป เนื่องจากต้องยัดเศษผ้า หรือ ทรายเข้าไปในตัวกระสอบทราย

 

     จึงทำให้มีการออกมาขายอุปกรณ์เหล่านี้จำนวนมาก เพราะแบบนี้ จึงทำให้มีการแข่งขันทางด้านการตลาดสูง ทำให้ราคาของกระสอบทรายแบบแขวน และ กระสอบทรายตั้งพื้นมีราคาที่ไม่แตกต่างกันมาก และ มีคุณภาพที่ใกล้ แต่ด้วยคุณสมบัติบางประการทำให้หลายคนเลือกในแบบที่ตัวเองต้องการนำไปใช้มากกว่า 

 

     แบบไหนที่เธอต้องการ เลือกมาสักอย่าง สำหรับต่อยมวย หรือ ใช้สำหรับการฝึกต่อย มวยไทย ( muay thai ) เราควรจะเลือกจากการใช้งาน มากกว่า ความพึงพอใจ เพราะเป็นอีกอุปกรณ์ที่สำคัญมาก หากเราเลือกซื้อมาใช้ผิดวิธี อาจเกิดความผิดพลาดระหว่างการฝึกฝน หรือ การออกกำลังกายได้ ดังนั้น ควรเลือกให้ดีตั้งแต่ก่อนซื้อ ผ่านการอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง หรือ สอบถามผู้เชี่ยวชาญ หรือ เทรนเนอร์ฟิตเนส  และในเรื่องของราคา สำคัญไม่แพ้กัน ราคาแพง ย่อมมีประสิทธิภาพของอุปกรณ์สูงกว่าราคาถูก แต่ไม่ใช่ว่า ซื้อราคาสูงมา แต่กลับไม่ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ซื้อมาทิ้ง มาเป็นราวแขวนผ้า ตากผ้า แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ

 

ทำไมต่อย มวยไทย ( muay thai ) ต้องพันข้อมือ

 

     ไม่ว่าจะเป็น นักมวยมือใหม่ หรือ มืออาชีพ ต้องพันข้อมือกันทั้งนั้น เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ ที่อาจเกิดขึ้นกับจากการต่อยมวย มือเป็นอวัยวะที่สำคัญ ของการฝึกฝนต่อยมวย ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย ( muay thai ) มวยสากล  ที่อาศัยการชก ต่อย เป็นหลัก โดยการพันมือ จะช่วยป้องกันทั้งข้อต่อ และ กระดูก ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย หากมีการชกซ้ำไปซ้ำมา รวมถึงลดโอกาสบาดเจ็บของข้อมือ นิ้ว 

 

 

ผ้าพันมือ ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง กับการฝึกต่อย มวยไทย ( muay thai )

- ช่วยปกป้องข้อมือ นิ้วโป้ง และ สันหมัด

- ช่วยดูดซับเหงื่อ จึงลดกลิ่นอับชื้นที่ไม่พึงประสงค์ในนวม

- ช่วยห่อหุ้มมือให้เต็มนวมต่อยมวย

- ช่วยรองรับแรงกระแทกต่อข้อต่อร่างกาย

- ช่วยยึดข้อต่อ และ กระดูกฝ่ามือ ให้อยู่กับที่ ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย

- ลดการสัมผัสโดยตรง ระหว่างข้อมือ กับ กระสอบทราย

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

สเต็ปลดน้ำหนักด้วยการต่อยมวย

ออกกำลังกายแบบนักมวยอาชีพ ทำเองได้ที่บ้าน

แนะนำหนังไทย สายต่อสู้ โดยใช้ มวยไทย

แนะนำหนังไทย สายต่อสู้ โดยใช้ มวยไทย

หนังมีหลากหลายประเภท ซึ่งหนังต่อสู้ หรือหนังแอคชั่น เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และด้วยเป็นหนังต่อสู้ ก็ต้องมีการใช้อาวุธ ซึ่งอาวุธที่เราจะแนะนำก็คือ มวยไทย

 

หนังเป็นสื่อชนิดนึง ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งถ้าต้องการเติมโจทย์ความตื่นเต้น ให้กับผู้ชมนั้นแล้ว ต้องมีความรวดเร็ว และสมจริง จะสามารถดึงผู้ชมให้อินตามกับหนังที่จะสื่อออกมา การทำหนังให้ตอบโจทย์กับผู้ชมนั้นต้องหาเครื่องมือ หรือวิธีการให้ผู้ชมอิน โดยส่วนใหญ่จะใช้อุปกรณ์เป็นอาวุธ เช่น ปืน ดาบ มีด

เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ชมทั่วไป ไม่เคยจะได้ใช้อาวุธ หรืออุปกรณ์พวกนี้ การเข้าถึงหรือการใช้งาน แทบจะเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าเป็นอาวุธจากทางร่างกาย หลายคนจะเริ่มอินขึ้นมาทันที เพราะด้วยคำว่า ร่างกาย ทุกคนมีอยู่ในตัวเองกันทั้งหมด และสิ่งที่มันจะแตกต่าง หรือเกิดอาวุธนั้นได้ คือ ทักษะ

อาวุธจากทางร่างกาย ที่หลายคนเรียกกันว่า ศิลปะการต่อสู้ มีหลากหลายแขนงมาก ถึงจะหลายแขนงมากสักเพียงใด ก็จะมีศิลปะการต่อสู้ไม่กี่สาย ที่เป็นที่นิยม และยอมรับ นำมาฝึกให้เป็นพื้นฐาน ทุกคนอาจจะเคยเห็น นักกีฬา นักชกมวย หรือ MMA จะเป็นการใช้ทักษะการต่อสู้ทุกอย่าง เชื่อไหมว่า นักชกมวย MMA แทบจะทั้งหมด ได้รับการฝึกฝน มวยไทย กันหมด

 

มวยไทย มีความรวดเร็ว และใช้ทุกส่วนของร่างกาย จึงไม่แปลกที่จะเป็นพื้นฐานสำหรับ นักชกมวย MMA แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร ถ้าเมื่ออยู่ในหนัง ต้องมีความสวยงาม ซึ่งนั้นก็ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก

 

แนะนำหนังต่อสู้ ที่ใช้ มวยไทย ในการนำเสนอ

 

  1. องค์บาก 1 – 3 ภาค

เป็นหนังไทย ในช่วงยุคแรก ของการนำเสนอศิลปะการต่อสู้ และมีคำโปรโมท เล่นจริง เจ็บจริง ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมาก จนทำให้หนังเรื่องนี้ สู่สายตาคนทั่วโลก มีชื่อเสียง คำชมมากมาย

ทำให้นักแสดงนำ ขึ้นเป็นนักแสดงฮอลลีวูด ชื่อ จา พนม (โทนี่ จา)

เนื้อเรื่องย่อ

องค์บาก คือพระพุทธรูป เป็นที่เคารพบูชาของหมู่บ้าน ได้ถูกขโมยตัดเศียรไป หนุ่มบ้านนอกของหมู่บ้าน จึงอาสาออกตามหามาจนถึงกรุงเทพฯ จนได้เจอชายลูกชายผู้ใหญ่บ้านที่ทิ้งท้องนา และกลิ่นโคลนสาปควายบ้านนอก มาร่วมทีมกับ ผู้หญิงคนนึง มาเป็นมิจฉาชีพ ต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเลี้ยงปากท้อง หนุ่มบ้านนอกไม่วายตกเป็นเหยื่อเพราะความซื่อ แต่ด้วยความที่เป็นคนดี และเคยช่วยเหลือชีวิตทั้งสองไว้

ภายหลังเขาจึงได้รับความช่วยเหลือจากทั้งสองในการตามหาองค์บาก พร้อมถูกดึงเข้าสู่การต่อสู้กับเจ้าพ่อมาเฟียอิทธิพลมืดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงต้องต่อสู้ทั้งชีวิตด้วยศิลปะ มวยไทย ตลอดจนการเดินทางตามหาองค์บากเพื่อนำกลับคืนสู่หมู่บ้าน

ภาคที่ 2 – 3 จะเป็นการเล่าเรื่องย้อนไปสมัยโบราณ กล่าวถึงที่มาของ องค์บาก และผู้พิทักษ์

 

  1. ต้มยำกุ้ง 1 – 2 ภาค

นำแสดงโดย จา พนม (โทนี่ จา) ที่สานต่อความยิ่งใหญ่ เล่นใหญ่กว่าที่เคย มีการถ่ายทำถึงประเทศ 2 ประเทศ มีฉากแอคชั่น ทั้งบนบก และน้ำ มีความรวดเร็วจากการใช้พาหนะ โดยใช้ทักษะ มวยไทย ในการนำเสนอ

เนื้อเรื่องย่อ

เป็นการเดินข้ามโลก ของหนุ่มบ้านนอก ที่ชีวิตต้องพลิกผัน จากผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ โดยลักพาตัวช้างพลาย 2 ตัว พ่อลูก ซึ่งเด็กหนุ่มบ้านนอก กับพ่อของเขารักเท่าชีวิต มีความมุ่งหมายอันสูงสุดที่ต้องการมอบให้กับราชวงศ์หลวง แต่ดันถูกนำไปขายในต่างประเทศ ทางเดียวที่จะช่วยเหลือ ช้างอันเป็นที่รักของเขานั้นได้ ต้องเดินข้ามประเทศเพื่อตามหา

แต่ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายอย่างที่คิด ถึงแม้จะได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจไทยในต่างแดน และสาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวก็ตาม ต้องมาพัวพันกับการไล่ลาของแก๊งค์มาเฟีย มีลูกสมุนเต็มไปหมด แถมมีฝีมือด้านทางการต่อสู้

การต่อสู้ในต่างแดน หนุ่มและเพื่อนพ้อง ต้องตามหาและช่วยเหลือ ช้างที่เปรียบได้กับญาติพี่น้อง นำไปสู่บททดสอบ และต่อสู้ จึงต้องใช้ มวยไทย ที่หนักหน่วงรุนแรง

 

  1. ทองดีฟันขาว

เป็นหนังที่ดัดแปลงจากอัตชีวประวัติของ พระยาพิชัยดาบหัก หรือนายทองดีฟันขาว นำแสดงโดยนักมวยไทย ชื่อดัง บัวขาว บัญชาเมฆ และ ศรศิลป์ มณีวรรณ์ เนื้อหาจะอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ และนำผู้ที่มีชื่อในอดีตมาอ้างอิงด้วย

เนื้อเรื่องย่อ

ในสมัยอยุธยาตอนปลาย โรงมวยเปรียบเหมือนสถาบันที่รวมเหล่ายอดนักสู้ไว้ด้วยกัน ภายใต้การดูแล และฝึกสอนของครูมวยที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป

แต่กว่าจะได้รับการยอมรับเป็นศิษย์ของแต่ละสำนักนั้น ก็ต้องมีความอดทน และเก่งกาจไม่แพ้ใคร นายทองดีเป็นหนึ่งในนักสู้ที่เชื่อมั่นในฝีมือของตน จนไม่เคยรู้ว่าการฝึกการต่อสู้นั้นเรื่องจำเป็นแค่ไหน จนกระทั่งได้พบกับความพ่ายแพ้ แบบที่ยากจะยอมรับ การเดินทางเพื่อค้นหาครูมวยในศาสตร์ต่าง ๆ จึงเริ่มขึ้น เพื่อไปสู่จุดที่เขาจะกลายเป็นนักมวยเลื่องชื่อคนสำคัญของอยุธยา

 

  1. ไชยยา

หนังไทยกล่าวถึงปัจจุบัน ในสมัยนั้นจึงมีความสมจริง และเข้าถึงได้ง่าย มีการเล่าถึงสังคมมวยไทย ที่มีความดดำมืดของวงการ การดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย แต่มีอุปสรรคที่มาขว้างกัน กับความฝัน

เนื้อเรื่องย่อ

เด็กหนุ่มเมืองใต้ 3 คน ชายหนุ่มผู้มีเลือดนักสู้พลุ่งพล่าน สายเลือดบริสุทธิ์ผู้สืบทอดมวยไชยา ที่มีชีวิตผูกพันกันมายาวนานตั้งแต่เด็ก ใช้ชีวิตอยู่ในค่ายมวยเพื่อตามหาฝัน

พวกเขาทั้งสามมีความหวัง ที่จะได้โลดแล่นอยู่ในวงการมวย ตำรามวยไชยาที่พ่อของเผ่าทิ้งไว้ให้ เป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนรักทั้งสามคน

เกิดความฮึกเหิม และอยากจะเป็นนักมวยไชยาผู้ยิ่งใหญ่ แต่ในชีวิตจริงเส้นทางที่จะไปสู่ฝันยากลำบาก ทั้งอุปสรรคและความรักกับผู้หญิงคนเดียวกัน เข้ามาแทรกกลางความรักระหว่างเพื่อน

วันหนึ่งที่ค่ายมวย ผู้สืบทอดมวยไชยา อดีตนักมวยชื่อเสียง โด่งดัง และนักพนันหนี้สินท่วมตัว จำเลยแห่งวงการซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีล้มมวยของแชมป์เปี้ยนนาม แกร่งศึก ยอดฝีมือแห่งมวยไชยา ผู้รักศักดิ์ศรีเหนือยิ่งชีวิต การกลับมาครั้งนี้ทำให้เขาได้มีโอกาสถ่ายทอดวิชามวยไชยา ให้กับศิษย์รุ่นสุดท้าย นั่นก็คือลูกชายของเขา ในวิชามวยไชยาทำให้พวกเขาเชื่อมั่นที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า จากบ้านเกิด พวกเขาเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ พร้อมความฝันที่จะได้เป็นแชมป์เปี้ยนมวยไทย และที่กรุงเทพฯ หญิงสาวในอาโกโก้ผู้แสวงหารักแท้ ได้ก้าวเข้ามาสู่ชีวิต การต่อสู้บนสังเวียนผ้าใบ และในสังเวียนความรัก ก็เข้มข้นไม่แพ้การต่อสู้บนสังเวียน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ชกกระสอบทรายทุกวัน ก็ลดน้ำหนักได้

มวยไทย เล่นอย่าไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ต่อย มวยไทย ช่วยบำบัดโรคซึมเศร้า

ต่อย มวยไทย ช่วยบำบัดโรคซึมเศร้า

โรคที่ทุกคนเป็นมากที่สุดในช่วงนี้ยุคเวลานี้ ต้องให้กับ โรค ซึมเศร้า หากเรามีอาการที่ใกล้เคียงหรืออยากจะหลุดพ้นจากตรงนั้น อีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยเยียวยา ก็คือ การ ต่อย มวยไทย ( Muay thai ) ที่สามารถช่วยเราบำบัดโรคนี้ได้ดี

เรามักจะได้ยินคนที่ บอกว่า ตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ตัวเองเป็นคนที่หมดภาวะยินดี ต่างๆ โรคนี้ไม่แสดงอาการทันที แต่มันจะค่อยๆเริ่มแสดงอาการตอน ที่เราอยู่คนเดียวคิด ไปทั่ว คิดไป ได้หลายอย่าง จึงทำให้ ความคิดของเรา ในด้าน ลบ จะทำให้ ตัวของเราเอง หมดภาวะยินดี และกลายเป็นคนชอบอยู่คนเดียว ไม่ค่อยออกไปหาสังคม  แต่มีคนส่วนน้อยที่จะเข้าใจและเรียนรู้การใช้ชีวิตประจำวันกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าได้อย่างถูกต้องการรักษาโรคซึมเศร้า นอกจากจะรักษาด้วยการใช้ยารักษาแล้ว  ทางการแพทย์ยังบอกอีกว่า กิจกรรมหรือ การหาอะไรทำก็ช่วยให้โรคนี้หายได้

วันนี้เราจะหยิบ ยก มวยไทย ( Muay thai ) ที่จะช่วยให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้า กลับมาให้หายเป็นคนที่มี ความมั่นใจในตัวเองได้ด้วย การ ต่อย มวยไทย ( Muay thai ) นี้แหละ

มวยไทย ( Muay thai ) สร้างความมั่นใจให้ กับคนที่มาเล่น

ไม่ว่าเราจะเป็น โรค ซึมเศร้าหรือ ไม่ได้เป็นโรค กการต่อย มวยไทย ( Muay thai ) ก็ถือว่าเป็นการสร้างกำลังใจและความมั่นใจให้กับผู้เรียนได้เสมอ เพราะแต่ละครั้งการที่เรา จะปล่อยหมัด หรืออาวุธไปแต่ละที ก็มีความมั่นใจในตัวเองสูง ดังนั้น หากคนที่บำบัดโรคซึมเศ้ราด้วย การ เรียน มวยไทย ( Muay thai ) ต่อย มวยไทย ( Muay thai ) มันเป็นเรื่อง ที่ดีมากดีสุดๆไปเลย

มวยไทย ( Muay thai ) ช่วยให้พบปะผู้คน

เรื่องหนึ่งที่ให้ความสำคัญมากๆ เกี่ยวกับ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ก็คือ การที่เราไม่ได้ เจอ คนในสังคม ความคิด แลกเปลี่ยน ความรู้กัน นี้ก็เป็นอีก หนึ่ง ปัจจัยที่ทำให้ คนที่เป็น โรคซึมเศร้าอาการ ยิ่งหนักเลื่อยๆ ดังนั้น มวยไทย ( Muay thai ) จึงเป็นอีกกิจกรรมที่ทำให้ เราได้ เจอผู้คน ทั้ง เพื่อน ครูมวย ทำให้ชีวิต ชองเรามี ชีวิต ชีวา มากขึ้น

ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าต้องเอาเหงื่อออกบ้าง

หากจะพูดในมุมง่ายๆ หรือ พูดแบบภาษาชาวบ้านก็คือ ออกจากบ้าน ไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย เถอะ เพราะเหงื่อ เปรียบเสมียบของเสีย ที่หากเราออกกำลังกาย และเหงื่อของเราออก จะทำให้ ร่างกายของ เรารู้สึกดี และก็จะ ขับของเสียออกด้วย ดังนั้น  มวยไทย ( Muay thai ) จึงเป็นกีฬาที่เรียกเหงื่อมากที่สุด ทั้ง มันส์ ทั้งสนุก และก็เหนื่อยมากด้วย อยากให้ทุกคน ไปลอง ใช้บริการดูนะครับ

ฝึกสมาธิด้วย มวยไทย ( Muay thai )

การเรียน มวยไทย ( Muay thai ) เป็นการฝึกสมาธิให้จดจ่ออยู่กับ เป้าหมาย ที่เราจะเจอ ในแต่ละสถานการณ์ ต่างๆ ยิ่งดีต่อผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย เพราะ สมาธิจะนิ่งและจดจ่ออยู่กับ สิ่งที่เราจะปล่อยอาวุธออกไป การทำแบบนี้บ่อยๆ ไม่ใช้แค่ว่าสมาธิจะดี แต่ สายตา ความไว ก็จะมาพร้อมๆกันอีกด้วย

ผู้ป่วยมักจะไม่รู้ตัวเองว่าป่วย แต่คนรอบข้างจะสามารถชว่ย เยียวยาได้ ว่าผู้ป่วยต้องการอะไร และจะรักษาด้วยวิธีการใช้ยา หรือ กิจกรรมเพิ่มความอบอุ่นให้กับเขา

เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับการฝึก การเรียน มวยไทย ( Muay thai ) มีแต่ผลดีใช่ไหมละครับ สำหรับ การเรียน มวยไทย ( Muay thai ) เป็นการฝึกทุกๆ อย่างในร่างกายของเรา ทั้งนี้ หากใครอยากเรียน ก็สามารถ มาติดต่อเราได้ตลอดเลยนะครับ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทย เล่นอย่าไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ไขมันกระจายแค่ชก มวยไทย ( Muay Thai)

ศิลปะมวยไทยหมัดเท้าเข่าศอก

มวยไทย เล่นอย่าไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มวยไทย เล่นอย่าไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การฝึก มวยไทย ( Muay thai )ในบ้านเราอาจเป็นประสบการณ์ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ เพราะภายใต้อากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่มีความชื้น การซ้อม และอาหาร ล้วนมีความแตกต่าง แม้แต่วิธีการสอนก็ยังไม่เหมือนกันวันนี้จะมาตีแผ่การฝึก มวยไทย ( Muay thai ) ที่หลายคนอาจถูกมองข้ามไป

 

ก่อนที่จะเริ่มต้น คุณต้องมั่นใจว่าคุณพร้อมเต็มที่ ไม่เช่นนั้นการ ฝึก มวยไทย ( Muay thai ) ของคุณอาจล้มไม่เป็นท่า

 

เตรียมร่างกายให้พร้อม

     หากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการฝึก มวยไทย ( Muay thai ) อย่างแท้จริง คุณต้องเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมและออกกำลังกายก่อนเสมอ คุณจะได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการวิ่งบนถนน นักมวยไทยจะวิ่งวันละสองรอบ ระยะทางมากกว่า 12 กิโลเมตร โดยปกติการวิ่งในตอนเช้าจะใช้เวลานานกว่าการวิ่งในช่วงบ่าย ดังนั้น คุณต้องเตรียมร่างกายให้ดีก่อนเริ่มวิ่ง

 

เลือกค่ายมวยที่เหมาะสม

     ขณะที่คุณเตรียมตัวและปรับสภาพร่างกาย ให้เริ่มหาค่ายมวยที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง ขั้นตอนนี้จะทำให้คุณได้รู้จักค่ายมวยไทยที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณมีจุดประสงค์ในการเรียนมวยไทยเพื่ออะไรก็ตาม คุณต้องหาค่ายที่สามารถช่วยคุณในเรื่องนั้นได้

 

ปรับตัวเพื่อรับการฝึกซ้อม

     นักมวยไทยมักกระโดดเชือกในช่วงบ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนฝนตก อาจใช้เวลานานถึง 30 นาที ฝึกกระโดดเชือกเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที เพื่อทำให้ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้าของคุณด้านขึ้น แต่ถ้าหากเกิดแผลแล้ว ให้ปิดด้วยผ้าพันแผล นอกจากนี้คุณจะต้องซิตอัพเยอะมาก ผิวหนังที่เต็มไปด้วยเหงื่อ จะไปสัมผัสกับพื้นผิวอันขรุขระและพื้นผ้าใบ หรือเสื่อออกกำลังกาย ถ้าผิวหนังแห้ง ให้ใช้วาสลีนทาเพื่อลดแรงเสียดทาน

 

หาทักษะที่คุณชื่นชอบ

     ค่ายมวยทุกค่ายในประเทศไทยล้วนมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป บางค่ายมีชื่อเสียงในการปล้ำ บางค่ายเก่งเรื่องการเตะ และบางค่ายขึ้นชื่อในการฝึกนักกีฬาอย่างรอบด้าน ควรเปรียบเทียบจุดเด่นของแต่ละค่าย และตัดสินใจจากสิ่งที่คุณอยากซ้อมมากที่สุด และดูว่าค่ายนั้นตอบโจทย์คุณได้หรือไม่

 

เตรียมสิ่งของที่จำเป็น

การฝึก มวยไทย ( Muay thai ) คุณต้องมีของใช้ที่จำเป็น เช่น นวม กางเกงมวย ฟันยาง และสนับแข้ง บ่อยครั้งที่ค่ายจะมีสิ่งของเหล่านี้ให้คุณใช้ แต่คงไม่ดีแน่หากต้องใช้แก้วน้ำและฟันยางร่วมกับคนอื่น

 

อย่าหักโหมเกินไป

     คุณอาจรู้สึกว่าซ้อมได้เต็ม 100 ในวันแรกของการฝึกฝน แต่ในวันที่สองและสาม ความเมื่อยล้าและความเจ็บปวดจะมาเยือน แต่หากคุณเป็นกรณีที่ตรงกันข้าม ก็อย่าหักโหม ขอให้ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าคุณฝืนตัวเอง คุณอาจได้รับบาดเจ็บและไม่ได้ซ้อมอย่างต่อเนื่อง

 

     หากท่านอยากฟิตร่างกายกับ มวยไทย ( Muay thai ) ขอแนะนำ เจริญทองมวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) มีเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิด

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก onefc

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ศิลปะมวยไทยหมัดเท้าเข่าศอก

ชกกระสอบทรายทุกวัน ก็ลดน้ำหนักได้

ไขมันกระจายแค่ชก มวยไทย ( Muay Thai)

ไขมันกระจายแค่ชก มวยไทย ( Muay Thai)

ไขมันกระจายแค่ชก มวยไทย ( Muay Thai)

 

หลายคนมีคำถามว่าชกมวยแต่ละครั้งเบิร์นพลังงานเราไปเท่าไหร่ มวยไทย ( Muay Thai ) แทบจะเป็นกีฬาที่เบิร์นได้สูงที่สุดเลยทีเดียว เพราะการชกมวยแบบครบคอร์สในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งนั้น เบิร์นไปกว่า 1,000 Kcal

 

สุดยอดการเบิร์นยอดฮิตในตอนนี้คงหนีไม่พ้นวิธีออกกำลังกายด้วยการชก มวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งเตะ ต่อย ศอก หมัด บอกเลยว่าทั้งสนุก สะใจ และคลายเครียดได้ดีมากๆ ที่สำคัญเมื่อเล่นเป็นประจำช่วยลดไขมันสะสมได้ดี ร่างกายแข็งแรง รูปร่างดูดี เพียงชก มวยไทย ( Muay Thai )ชั่วโมงเดียวก็เบิร์นกันได้ถึง 500 - 1,000 แคลอรี่เลยทีเดียว

 

มวยไทย ( Muay Thai ) เผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่า

 

การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) เพราะการขึ้นชกใน 1 ยกคือการใช้ร่างกายไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยกคือการทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกายแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงานการใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยานจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้หน้าท้องแบนราบ

 

อยากมีซิกซ์แพ็คชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพแล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะการชกมวยจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ออกกำลังได้ทุกส่วนของร่างกาย

 

เป้าหมายของการต่อยมวยคือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยให้บุคลิกภาพดี

 

การชกมวยทำให้การใช้สมองและร่างกายทำงานสอดประสานกันได้ดีขึ้น กระตุ้นให้การรับรู้ทางร่างกายทำงานดีขึ้น มีความคล่องตัว เพราะต้องใช้การทำงานที่สอดประสานกันระหว่างตาและมือ ทุกครั้งที่ชกกระสอบทรายหรือชกกับเป้าล่อ ต้องใช้สมาธิในการพุ่งเป้าไปที่การเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อให้เกิดการจดจำการเคลื่อนไหว ทั้งจังหวะการขยับเท้าและการออกหมัด ท้าทายการทำงานของกล้ามเนื้อและจิตใจไปพร้อมกัน ทำให้มีความคล่องแคล่ว ว่องไว มั่นใจ บุคลิกก็ดีไปโดยปริยาย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก wongnai

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- สร้างกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง

- ฟิตหุ่น สร้างกล้ามเนื้อ ไปกับ มวยไทย

ศิลปะมวยไทยหมัดเท้าเข่าศอก

ศิลปะมวยไทยหมัดเท้าเข่าศอก

มวยไทย ( Muay thai ) ศิลปะป้องกันตัวที่มีตั้งรุกและรับใช้หมัดเข่าและศอก การรุกและรับของนักมวยนั่นจะขึ้นอยู่กับนักมวยเอง ว่าจะไปไม้ไหนไปสู้ และอาวุธเพื่อเข้าปะทะ วันนี้เราอยากให้ทุกท่านเข้าวงในไปด้วยกัน

 

ศิลปะ มวยไทย ( Muay thai ) ชื่อเสียงดังไปถึงต่างประเทศได้รับความนิยมทั้งไทยและต่างประเทศ นักมวยไทยเองก็เปลี่ยนตัวเองมาเป็นครูฝึกตาม ยิมมวย หรือ เป็นพี่เลี้ยงในค่ายมวย ต่างชาติก็ชอบที่เรียนรู้ถึง ศิลปะป้องกันตัวจนปัจจุบัน นักมวยต่างชาติ ต่อยเก่งกว่าคนไทยแล้ว ศิลปะ มวยไทย ( Muay thai ) มีทั้งรุกและรับ และมีอาวุธที่มากมายในการใช้งานทั้งหมัดเท้าเข่าศอก วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับ การต่อสู้ที่ชาวต่างชาติต้องเรียนรู้และ ครูมวยก็ต้องรู้

 

รุกหรือบุก

รุกหรือการบุก เป็นการเข้าทำแบบเข้าง่ายออกง่ายเข้าโดนต่อยโดน ยังงี้เรียกว่าบุก การบุกหรือรุกต้องอาศัยจังหวะที่แม่นยำห้ามพลาดถ้าพลาดแล้วคนที่โดนน็อคหรือโดนตอบกลับคือเรานั่นเอง โดยการรุก สามารถใช้ได้ทั้ง หมัดเข่าและศอก แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นๆ ก็จะใช้เข่าเพื่อเข้าทำมากกว่าการปล่อยหมัดหรือศอกนั่นเอง

 

รับหรือป้องกัน

ในศิลปะแม่ไม้ มวยไทย ( Muay thai ) สิ่งที่ต้องมีเลยก็คือการป้องกันที่ดี การป้องกันที่ดีคือ การรับที่ตอบกลับไปในตัวเช่น ศัตรู ปล่อยอาวุธมาแล้วเรายกเข่าขึ้นเพื่อป้องกัน ศัตรูก็เตะโดนเข่าของเราได้ทั้งป้องกันและการตอบกลับทำให้ศัตรูที่โดนเข่าของเราเจ็บกลับไปนั่นเอง การป้องกันนั่นมีหลายอย่างป้องกันแล้วตอบกลับ ป้องกันอย่างเดียว หรือ เทคนิคการสวมกอดเพื่อออมแรงก็สามารถทำได้

เราได้รู้ถึงการรุกและรับแล้ว จากนี้ก็ต้องมีการฝึกด้วยการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก  การใช้อาวุธเหล่านี้เราจะใช้ให้เป็นไม่งั้นแล้ว หากเราใช้อาวุธ มวยไทย ( Muay thai ) แบบไม่ได้จังหวะไม่แม่นเราโดนสวนกลับมาแน่ๆ

 

หมัด

การใช้หมัดเป็นการปล่อยอาวุธ แล้วแต่คนที่จะถนัดต้องบอกตรงนี้ไว้ก่อน  นัก มวยไทย ( Muay thai ) เก่งๆ ดังๆก็มีการใช้หมัดเป็นอาวุธหลัก เพื่อตัดกำลังและทำให้คู่ต่อสู้เมาหมัดของเราได้ สามารถปล่อยอาวุธต่อไปคือการเตะ

เท้า

เท้าเป็นอาวุธที่ปล่อยบ่อยๆ พอกับ หมัดเลยศัตรูที่โดนเท้าคือการเตะของเราไป เจ็บมากเหมือนโดนไม้หน้าสามเลยก็ว่าได้เพราะฉะนั้นแล้ว การฟาดเข้าหรือลูกเตะต่างๆ จะเป็นอาวุธหลักที่เอาไว้สู้กันบนเวที

ศอก

สุดยอดแห่งอาวุธที่อันตรายมากที่สุดในวงการ มวยไทย ( Muay thai ) เพราะศอกเป็นอาวุธเหมือนประชิดตัวเมื่อไหร่ หากใส่ศอกได้ทำเลยนะครับ เพราะโอกาศที่น็อคมีสูงมาก ศอกสามารถแก้ทางเข่าได้แต่หมัดไม่สามารถแก้ได้  เพราะฉะนั้นนี้คือความสวยงามของแม้ไม้ มวยไทย ( Muay thai ) ของประเทศไทยเรานั่นเอง เพราะมี แก้ทาง มีแพ้ทาง เพื่อไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร

เป็นไงครับสำหรับศิลปะ มวยไทย ( Muay thai ) ป้องกันตัว หากใครอยากเรียน มวยไทย ( Muay thai ) ก็สามารถติดต่อเรามาได้ตลอดเลยนะครับ เรามีทั้ง ครูมวยที่สอนแบบเทพๆ ให้คุณได้มีประสบการณ์ที่หลากหลาย เพื่อนำไปต่อยอดและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ชกกระสอบทรายทุกวัน ก็ลดน้ำหนักได้

ทริคการพันข้อมือ สำหรับมวยไทย

เรื่องง่ายๆที่นักชกควรรู้! พันข้อมืออย่างไร ไม่ให้เจ็บมือ

ชกกระสอบทรายทุกวัน ก็ลดน้ำหนักได้

ชกกระสอบทรายทุกวัน ก็ลดน้ำหนักได้

มวยไทย เป็นอีกหนึ่งศาสตร์การต่อสู้ และเป็นหนึ่งในกีฬาที่คนไทย หรือรวมไปถึงชาวต่างชาติ นิยมมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันทั้งสิ้น รู้หรือไม่ว่า เพียงแค่การชกกระสอบทรายทุกวัน ก็สามารถลดน้ำหนักได้แน่นอน

 

     รู้หรือไม่ว่า มวยไทย สามารถช่วยคุณลดน้ำหนักได้ โดยการชกกระสอบทรายทุกวัน อุปกรณ์ชั้นดีต่อการช่วยลดน้ำหนักของกีฬามวยไทย แล้วแค่ชกกระสอบทรายทุกวัน สามารถทำให้ลดได้จริงๆ หรือไม่ สามารถติดตามได้ จากบทความในวันนี้กันเลย

 

    สำหรับคนที่กำลังมองหากีฬา ที่สามารถเล่นได้ โดยที่ไม่ต้องออกไปที่สนามกีฬา ไม่ว่าจะเป็นแอโรบิคหรือกีฬาอื่นๆ คงไม่มีกีฬาชนิดไหน จะทำให้คุณน้ำหนักลดได้ดีที่สุด และได้เหงื่ออย่างสุดคุ้มที่สุด เท่ากับ กีฬามวยไทย  อยากเริ่มต้นการลดน้ำหนัก เริ่มต้นได้ไม่ยาก เพียงมองหากระสอบทรายตั้งพื้นไว้ซักตัวหนึ่ง ก็คงหาได้ไม่ยากนัก เอาที่ราคาถูก สะดวกในการติดตั้ง ไม่ต้องเอาไปแขวนที่สูงๆ แค่ประกอบแล้วก็วางเท่านั้น แข็งแรงทนทาน ประหยัดพื้นที่ได้อีกด้วย กระสอบทราย ตั้งพื้น มีน้ำหนักพอสมควร ทำให้ทุกครั้งที่คุณเตะ หรือต่อยไปที่กระสอบทรายตั้งพื้น จะเกิดแรงต้านกลับ คุณก็จะรู้สึกได้เลยว่า มันเหนื่อยกว่าการชกลม เตะลมแน่นอน

 

  วัตถุประสงค์ในการออกกำลังกาย ด้วยการชกกระสอบทราย มี 2 เป้าหมายหลักคือ ลดน้ำหนัก และเพิ่มกล้ามเนื้อนั่นเอง ซึ่งสุขภาพที่ดีขึ้นนั้น มันได้มาแน่นอนอยู่แล้ว และนี่คือวิธีฝึกออกกำลังกายด้วยกระสอบทราย ที่วันนี้ เรานำมาฝากกัน

 

     แบบฝึกเพื่อลดน้ำหนัก การลดน้ำหนักนั้นต้องอาศัยการออกกำลังแบบแอโรบิก คือให้ชีพจรเต้นเกินกว่า 140 ครั้งต่อนาที ร่างกาย ก็จะเริ่มดึงเอาพลังงานที่สะสมจากไขมันมาใช้ ให้สังเกตเอาว่า ถ้าคุณหายใจเข้าออกหนึ่งครั้ง ใช้ประมาณหนึ่งวินาที แล้วก็แสดงว่าร่างกายเริ่มทำการสลายไขมันแล้ว การใช้กระสอบทรายตั้งพื้น เพื่อลดน้ำหนัก ก็ให้คุณออกแรงปานกลาง แต่ควรทำค่อนข้างเร็วและต่อเนื่อง ต้องใช้ให้ครบทุกส่วน คุณอาจใช้อาวุธทีละอย่างนับ 10 แล้วเปลี่ยนข้าง จากนั้นค่อยเปลี่ยนอาวุธ เช่นชกขวา 10 ครั้ง เปลี่ยนข้างทำอีก 10 แล้วเปลี่ยนเป็นเตะขวา 10 ครั้ง แล้วเปลี่ยนข้าง หรือทำให้ครบเลยเช่น ชกขวา, ชกซ้าย, เตะขวา,  เตะซ้าย จะเพิ่มศอก เพิ่มเข่าก็แล้วแต่ ให้ทำเป็นยก ยกละ 3 นาที พัก 1 นาที ทำให้ครบ 10 ยก แรกๆ ก็อาจ 3 ยก 5 ยกก่อนก็ได้ เน้นๆ แรงปานกลาง แต่เร็วและต่อเนื่อง ส่วนการฝึกกล้ามเนื้อนั้นต้องเน้นที่ความแรง แต่ไม่เร็ว ดังนั้นทุกครั้งที่คุณเตะ หรือต่อยกระสอบทรายตั้งพื้น ต้องใช้กำลังอย่างน้อย 80% กระสอบทรายตั้งพื้นมีแรงต้านพอให้กล้ามเนื้อคุณแกร่งขึ้น ต่อยขวา 10 ต่อยซ้าย 10 เตะขวา 10 และเตะซ้าย 10 ครั้ง นับ 1 ยก ทำให้ครบ 10 ยกเช่นกัน ช่วงแรกอาจ 3 หรือ 5 ยกก่อนก็ได้ เพิ่มเข่าเพิ่มศอกได้ ทำเป็นประจำทุกวัน สัปดาห์เดียว ก็สามารถเริ่มเห็นผลแล้วแน่นอน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก monsterpunchthailand

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- ผู้หญิง ได้อะไรจากมวยไทย

- แม่ไม้ในมวยไทย คืออะไร

ทริคการพันข้อมือ สำหรับมวยไทย

ทริคการพันข้อมือ สำหรับมวยไทย

อวัยวะสำคัญที่สุดในการชกมวยคือ ข้อมือ เพราะฉะนั้นการพันข้อมือเป็นสิ่งสำคัญ ป้องกันทั้งข้อต่อและข้อมือ กระดูด ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย รวมไปถึงซัพพอท สันหมัดอีกด้วย

 

เรียกได้ว่า มวยไทย ( Muay thai ) กับคนไทย ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน จนปัจจุบันกลายเป็นกีฬาที่ใครหลายคนเลือกฝึกเพื่อเสริมความแข็งแรงให้ตัวเอง ใช้ป้องกันตัว รวมถึงลดน้ำหนักด้วย แต่ก่อนที่จะชก มวยไทย ( Muay thai ) นั้น การเตรียมตัวให้พร้อมถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมไปถึงการพันข้อมือก่อนใส่นวมด้วย ว่าแล้วกระปุกดอทคอมจึงหยิบวิธีพันข้อมือที่ถูกต้องมาแนะนำกันครับ

 

1. ทำไม มวยไทย ( Muay thai  )นักมวยต้องพันข้อมือ

 

    เหตุผลที่นักมวยทั้งมือใหม่และมืออาชีพต้องพันข้อมือนั้น ก็เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับจากการชกมวย ซึ่งถือว่ามือเป็นอวัยวะที่สำคัญสุด ๆ ของกีฬาประเภทนี้ ที่อาศัยการชกเป็นหลักนั่นเอง โดยการพันมือจะช่วยป้องกันทั้งข้อต่อและกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย หากมีการชกซ้ำไปซ้ำมา รวมถึงซัพพอร์ตข้อมือ นิ้ว และสันหมัดด้วย

 

2. ประเภทของผ้าพันข้อมือของ มวยไทย ( Muay thai )

 

ผ้าพันข้อมือแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

 

  2.1 ผ้าพันมือแบบคอตตอน เป็นผ้าพันมือที่นิยมใช้ในการฝึกซ้อม มีความยืดหยุ่นสูง มาพร้อมกับตีนตุ๊กแก ช่วยให้ไม่หลุดง่าย

 

2.2 ผ้าพันมือแบบเม็กซิกัน ผ้าประเภทนี้จะดูคล้ายกับแบบแรก แต่มีความแตกต่างกันตรงวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งผ้าพันมือแบบเม็กซิกันจะใช้ผ้าทอผสมกับเส้นใยอีลาสติก ที่ให้ความยืดหยุ่นพอสมควร แต่น้อยกว่าแบบแรก

 

    2.3 ผ้าก๊อซ หรือ ผ้าพันแผลที่หลายคนรู้จักกันดี เป็นผ้าที่มักใช้พันข้อมือร่วมกับเทปกาว เพื่อลงแข่งขันชกมวยแบบจริงจังมากกว่าการฝึกซ้อม ทั้งยังเป็นแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งด้วย

 

วิธีพันข้อมือ มวยไทย ( Muay thai ) ของนักมวยที่ถูกต้อง

 

1. เลือกใช้ผ้าพันมือแบบมีห่วงสำหรับสอดนิ้วโป้งและมีตีนตุ๊กแก ซึ่งจะช่วยให้พันข้อมือได้สะดวกยิ่งขึ้น

2. เริ่มจากนำนิ้วโป้งสอดเข้าไปในห่วงของผ้าพันมือให้เรียบร้อย

3. จากนั้นให้พันวนรอบด้านหลังมือ พร้อมดึงผ้าให้ตึง

4. ต่อมาให้พันบริเวณข้อมือสัก 3-4 รอบ ขึ้นอยู่กับความยาวของผ้าพันมือที่เลือกใช้ เพราะยิ่งยาวก็ยิ่งพันได้หลายรอบ ซึ่งช่วยซัพพอร์ตข้อมือได้ดีกว่า

5. แล้วให้ขยับขึ้นมาพันรอบฝ่ามือสัก 3-4 รอบเช่นกัน ซึ่งในการพันแต่ละรอบ ควรดึงผ้าให้ตึงอยู่เสมอ

6. จากนั้นให้พันผ้าเป็นรูปตัว X โดยพันไขว้ขึ้นเข้าไปในช่องระหว่างนิ้วก้อยและนิ้วนาง แล้วพันกลับขึ้นมาทางช่องระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง

7. พันเป็นรูปตัว X เข้าไปในช่องระหว่างนิ้วที่เหลือ ซึ่งก็คือระหว่างนิ้วนางและนิ้วกลาง กับระหว่างนิ้วกลางและนิ้วชี้

8. ดึงผ้าให้ตึง แล้วพันผ้ารอบนิ้วโป้ง 1 รอบ

9. ต่อมาให้พลิกฝ่ามือขึ้นเพื่อพันผ้าสำหรับล็อกนิ้วโป้ง โดยการพันที่ข้อมือและนิ้วโป้งตามภาพ

10. จากนั้นก็พันผ้ารอบฝ่ามืออีก 3-4 รอบ พันให้แน่นเข้าไว้ ส่วนผ้าที่เหลือให้ใช้พันข้อมือสลับกับฝ่ามือจนสุด แล้วปิดทับด้วยตีนตุ๊กแก ก็เป็นอันว่าเสร็จ

 

เมื่อได้ทราบอย่างนี้แล้ว ใครที่อยากลองออกกำลังด้วยการฝึกชกมวยบ้างละก็ ลองใช้วิธีพันข้อมือข้างต้นกันได้เลย บอกเลยว่าช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่มือได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากฟิตร่างกายกับมวยไทย ขอแนะนำ เจริญทองมวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) มีเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิด

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก kapook

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

มาต่อยมวย สร้างหน้าท้องที่แข็งแกร่ง กันเถอะ

ชกมวยสลายหน้าท้องและประโยชน์ของการ ชกมวย

เรื่องง่ายๆที่นักชกควรรู้! พันข้อมืออย่างไร ไม่ให้เจ็บมือ

เรื่องง่ายๆที่นักชกควรรู้! พันข้อมืออย่างไร ไม่ให้เจ็บมือ

     เรียกได้ว่ากีฬาชกมวยกับคนไทย ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน จนปัจจุบันกลายเป็นกีฬาที่ใครหลายคนเลือกฝึกเพื่อเสริมความแข็งแรงให้ตัวเอง แต่ก่อนจะไปออกกำลังกายด้วย มวยไทย ก่อนจะใส่ นวมมวย ต้องใส่ผ้าพันมือ แต่ถ้าผิดพลาดจนได้แผล มันก็ไม่คุ้มเอาเสียเลย

 

ทำไมนักมวยต้องพันข้อมือ ?

     เหตุผลที่นักมวยทั้งมือใหม่และมืออาชีพต้องพันข้อมือนั้น ก็เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับจากการชกมวย ซึ่งถือว่ามือเป็นอวัยวะที่สำคัญสุด ๆ ของกีฬาประเภทนี้ ที่อาศัยการชกเป็นหลักนั่นเอง โดยการพันมือจะช่วยป้องกันทั้งข้อต่อและกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย หากมีการชกซ้ำไปซ้ำมา รวมถึงซัพพอร์ตข้อมือ นิ้ว และสันหมัดด้วย

 

แล้ว “ผ้าพันมือ” มีประโยชน์อะไรบ้าง ?

ช่วยรองรับแรงกระแทกต่อข้อต่อร่างกาย

ช่วยยึดข้อต่อและกระดูกฝ่ามือให้อยู่กับที่ ซึ่งเป็นจุดที่แตกหักได้ง่าย

ช่วยปกป้องข้อมือ นิ้วโป้ง และสันหมัด

ช่วยดูดซับเหงื่อ จึงลดกลิ่นอับชื้นที่ไม่พึงประสงค์ในนวม

ช่วยห่อหุ้มมือให้เต็มนวมต่อยมวย

 

ประเภทของผ้าพันข้อมือ

ผ้าพันมือแบบคอตตอน เป็นผ้าพันมือที่นิยมใช้ในการฝึกซ้อม มีความยืดหยุ่นสูง มาพร้อมกับตีนตุ๊กแก ช่วยให้ไม่หลุดง่าย

 

ผ้าพันมือแบบเม็กซิกัน ผ้าประเภทนี้จะดูคล้ายกับแบบแรก แต่มีความแตกต่างกันตรงวัสดุที่ใช้ในการผลิต ซึ่งผ้าพันมือแบบเม็กซิกันจะใช้ผ้าทอผสมกับเส้นใยอีลาสติก ที่ให้ความยืดหยุ่นพอสมควร แต่น้อยกว่าแบบแรก

 

ผ้าก๊อซ หรือ ผ้าพันแผลที่หลายคนรู้จักกันดี เป็นผ้าที่มักใช้พันข้อมือร่วมกับเทปกาว เพื่อลงแข่งขันชกมวยแบบจริงจังมากกว่าการฝึกซ้อม ทั้งยังเป็นแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งด้วย

 

วิธีพันข้อมือนักมวยที่ถูกต้อง

1. เลือกใช้ผ้าพันมือแบบมีห่วงสำหรับสอดนิ้วโป้งและมีตีนตุ๊กแก ซึ่งจะช่วยให้พันข้อมือได้สะดวกยิ่งขึ้น

2. เริ่มจากนำนิ้วโป้งสอดเข้าไปในห่วงของผ้าพันมือให้เรียบร้อย

3. จากนั้นให้พันวนรอบด้านหลังมือ พร้อมดึงผ้าให้ตึง

4. ต่อมาให้พันบริเวณข้อมือสัก 3-4 รอบ ขึ้นอยู่กับความยาวของผ้าพันมือที่เลือกใช้ เพราะยิ่งยาวก็ยิ่งพันได้หลายรอบ ซึ่งช่วยซัพพอร์ตข้อมือได้ดีกว่า

5. แล้วให้ขยับขึ้นมาพันรอบฝ่ามือสัก 3-4 รอบเช่นกัน ซึ่งในการพันแต่ละรอบ ควรดึงผ้าให้ตึงอยู่เสมอ

6. จากนั้นให้พันผ้าเป็นรูปตัว X โดยพันไขว้ขึ้นเข้าไปในช่องระหว่างนิ้วก้อยและนิ้วนาง แล้วพันกลับขึ้นมาทางช่องระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง

7. พันเป็นรูปตัว X เข้าไปในช่องระหว่างนิ้วที่เหลือ ซึ่งก็คือระหว่างนิ้วนางและนิ้วกลาง กับระหว่างนิ้วกลางและนิ้วชี้          

8. ดึงผ้าให้ตึง แล้วพันผ้ารอบนิ้วโป้ง 1 รอบ

9. ต่อมาให้พลิกฝ่ามือขึ้นเพื่อพันผ้าสำหรับล็อกนิ้วโป้ง โดยการพันที่ข้อมือและนิ้วโป้งตามภาพ

10. จากนั้นก็พันผ้ารอบฝ่ามืออีก 3-4 รอบ พันให้แน่นเข้าไว้ ส่วนผ้าที่เหลือให้ใช้พันข้อมือสลับกับฝ่ามือจนสุด แล้วปิดทับด้วยตีนตุ๊กแก ก็เป็นอันว่าเสร็จ

 

     เมื่อได้ทราบข้อมูลดี ๆ อย่างนี้แล้ว ใครที่อยากลองออกกำลังด้วยการฝึกชกมวยบ้างละก็ ลองใช้วิธีพันข้อมือแบบนี้ดู จะช่วยลดการบาดเจ็บอย่างได้ผลเลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก kapook

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มาต่อยมวย สร้างหน้าท้องที่แข็งแกร่ง กันเถอะ

ชกมวยสลายหน้าท้องและประโยชน์ของการ ชกมวย

ต่อยมวยก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ

มาต่อยมวย สร้างหน้าท้องที่แข็งแกร่ง กันเถอะ

มาต่อยมวย สร้างหน้าท้องที่แข็งแกร่ง กันเถอะ

     หากคุณเบื่อการออกกำลังกายแบบเดิม ๆ แล้วกำลังมองหาการออกกำลังกายแบบใหม่ ๆ ที่ช่วยให้รู้สึกสนุกมากขึ้นกว่าการเต้นแอโรบิกอยู่ หรือวิ่งบนลู่ในยิมรึเปล่า ลองหันมาใส่นวม ขึ้นสังเวียนต่อยมวยดูไหม อาจสนุกกว่าที่คิดนะ

 

    ต่อยมวยเหรอ อาจฟังดูป่าเถื่อน รุนแรง อันตราย ไม่ใช่การออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้หญิงเลย แต่หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลย เพราะเป็นเทรนด์การออกกำลังกายแบบใหม่ ที่ผู้หญิงก็สามารถฝึกความแข็งแรงของร่างกายได้ด้วยการสวมนวม ขึ้นสังเวียนชกกับเทรนเนอร์หุ่นล่ำที่ถือเป้าล่อ หรือกระสอบทราย ไม่ได้ฝึกชกไปขึ้นเวทีมวยที่ไหนให้เจ็บตัว เป็นการออกำลังกายที่สนุกไม่แพ้เต้นแอโรบิคหรือซูมบ้า แถมได้ประโยชน์มากกว่าที่คิดเลยล่ะ

 

1. ชกมวยได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย

     เป้าหมายของการต่อยมวยคือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว และยังสามารถเบิร์นไขมันได้ถึง 13 แคลลอรี่ใน 1 นาที การออกกำลังกายด้วยการชกมวยทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้ตั้งแต่ 200-400 แคลอรี่ในเวลาครึ่งชั่วโมง, ขึ้นสังเวียนชกมวย 30 นาทีเบิร์นได้ 400 แคลลอรี่, ชกกระสอบทราย 30 นาที เบิร์นได้ 200 แคลลอรี่, ชกกับคู่ซ้อม 30 นาทีเผาผลาญได้ 300 แคลลอรี่

 

2. ชกมวยเผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่า

     การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training (การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง) เพราะการขึ้นชกใน 1 ยกคือการใช้ร่างกายไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยกคือการทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกายแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงานการใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยานจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง

 

3. ชกมวยช่วยให้หน้าท้องแบบราบ

     อยากมีซิคแพคชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพแล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะการชกมวยจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝันค่ะ

 

4. ชกมวยช่วยคลายเครียด

     เมื่อต้องเผชิญกับสารพัดปัญหามาทั้งวัน หรือทะเลาะกับแฟน ไม่พอใจเจ้านาย ลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงาน รู้สึกหงุดหงิดจวนระเบิด ก็เป็นการดีหากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีนและฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมาระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย การต่อยมวยจึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงสารเอ็นดอฟีนที่หลั่งออกมาก็ช่วยให้มีความสุขขึ้นด้วย

 

5. ชกมวยช่วยให้บุคลิกสง่างาม

     การชกมวยทำให้การใช้สมองและร่างกายทำงานสอดประสานกันได้ดีขึ้น กระตุ้นให้การรับรู้ทางร่างกายทำงานดีขึ้น มีความคล่องตัว เพราะต้องใช้การทำงานที่สอดประสานกันระหว่างตาและมือ ทุกครั้งที่ชกกระสอบทรายหรือชกกับเป้าล่อ ต้องใช้สมาธิในการพุ่งเป้าไปที่การเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อให้เกิดการจดจำการเคลื่อนไหว ทั้งจังหวะการขยับเท้าและการออกหมัด ท้าทายการทำงานของกล้ามเนื้อและจิตใจไปพร้อมกัน ทำให้มีความคล่องแคล่ว ว่องไว มั่นใจ บุคลิกก็สง่างามไปโดยปริยาย

 

     เริ่มสนใจกันขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะ ประโยชน์ดีกับสาว ๆ ขนาดนี้ ต้องมองหาค่ายมวยไทยแล้ว เราแนะนำ เจริญมวยไทยยิม สามารถเรียนเป็นกรุ๊ปทีมหรือเรียนส่วนตัวได้ พร้อมเทรนเนอร์มืออาชีพ ที่พร้อมจะระเบิดอารมณ์และระเบิดไขมันได้แน่ ๆ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก trueplookpanya

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

มวยไทยสร้างสมดุลร่างกาย

ต่อยมวยก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ

มวยฟิต การออกกำลังกายแนวใหม่ สร้างหุ่นที่ดี

ชกมวยสลายหน้าท้องและประโยชน์ของการ ชกมวย

ชกมวยสลายหน้าท้องและประโยชน์ของการ ชกมวย

การต่อยมวยไม่ใช่แค่กีฬาที่เห็นทีวีทั่วไปแล้วแต่การชกมวย หรือการต่อย มวยไทย ( Muay thai ) เป็นได้ทั้งการออกกำลังกายแนวใหม่ที่กำลังฮิต และตอนนี้สาวๆก็ชอบมากมาดูกันว่าสาวๆจะได้อะไรจากการต่อยมวย

 

ชก มวยไทย ( Muay thai )  ได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย

เป้าหมายของการต่อยมวยคือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว

ชก มวยไทย ( Muay thai )  ช่วยให้หน้าท้องแบบราบ

อยากมีซิกซ์แพ็คชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพแล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะการชกมวยจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้อง ที่สาวๆอยากจะมีก็ไม่ยากเลยครับ

ชก มวยไทย ( Muay thai )  ช่วยคลายเครียดเมื่อต้องเผชิญกับสารพัดปัญหามาทั้งวันไม่พอใจเจ้านาย ลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงาน รู้สึกหงุดหงิดจวนระเบิด ก็เป็นการดีหากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีนและฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมาระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย  มีเท่าไรก็ลงไปเท่านั้น ดีกว่าไปทำร้ายร่างกายหรือ ดื่มสุรานั้นเอง

 

 ชก มวยไทย ( Muay thai ) คือการคาร์ดิโอร่างกายส่วนบน

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอทั่ว ๆ ไปจะเน้นการออกำลังกายช่วงล่าง แต่การชกมวยจำเป็นต้องอาศัยการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนบนมากกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสาว ๆ ที่มองหาการออกกำลังกายแบบผสมผสานหรือ Cross-Training เมื่อเบื่อการวิ่งหรือปั่นจักรยาน หรืออยากคาร์ดิโอแต่ไม่อยากใช้ขามากเกินไป

 

ต่อย มวยไทย ( Muay thai ) ช่วยพัฒนาร่างกายอย่างต่อเนื่อง

การชกมวยไม่มีกฎตายตัวว่าต้องออกหมัดไหนก่อน หรืออับเปอร์คัสจังหวะไหน แต่ต้องเดาทางคู่ชกให้ถูก หาจังหวะในการชกเองทำให้เกิดความท้าทายตลอดเวลา เกิดการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ นั่นก็หมายความว่ากล้ามเนื้อจะถูกปลุกให้ตื่นตัวตลอดเวลา ร่างกายจึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

สุดท้ายนี้หากสาวๆคนใครสนใจ อยากเรียนมวย ต่อยมวย หรือ คอร์สมวย แบบเข้มข้นเปิดประสบการณ์อยากเป็น นักมวย ก็สามารถติดต่อเรามาได้เลยนะครับ เราอยากเปิดประสบการณ์ให้ทุกท่านเอง และจะมีครูพี่เลี้ยงอย่างดีเลย สอนแบบมวยไทยและแม่ไม้ที่ถูกต้องตามหลัก

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

วิธีต่อยมวยไทย เพิ่มผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกาย

มวยไทยสร้างสมดุลร่างกาย

ฝึกพื้นฐานเบื้องต้นของมวยไทย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก trueplookpanya

วิธีต่อยมวยไทย เพิ่มผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกาย

วิธีต่อยมวยไทย เพิ่มผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกาย

     วิธีต่อยมวยไทยที่ถูกต้องจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจหลักพื้นฐานก่อน หลายคนใจร้อนและฝึกแบบฉาบฉวย จึงนำพาไปสู่ ความผิดพลาดได้ ทำให้ไม่สามารถเป็นนักมวยที่เก่งได้

 

มวยไทย คืออะไร

     ศิลปะการต่อสู้มือเปล่าของประเทศไทย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศาสตร์การโจมตีทั้งแปด ซึ่งรวม สองมือ สองเท้า สองศอก และสองเข่า (บางตำราอาจเป็น นวอาวุธ ซึ่งรวมการใช้ศีรษะโจมตี หรือ ทศอาวุธ ซึ่งรวมการใช้บั้นท้ายกระแทกโจมตีด้วย) มวยไทยในสมัยก่อน ต่างจากปัจจุบันมาก ซึ่งมวยไทยสมัยก่อน ใช้ในยามออกศึก และสามารถฆ่ากันได้ง่ายๆ และมีการจับทุ่ม หักแขน หักขา ล๊อค และสมัยก่อนเวลามีงานวัด เขาจะจัดงานชกมวย ขึ้น แต่จะไม่ใส่นวม ส่วนใหญ่เอาเชือดมามัดมือ เรียกกันว่า มวยคาดเชือก 

 

     ซึ่งพื้นฐานที่สำคัญเริ่มตั้งแต่แม่ไม้มวยไทยและกลมวยเพื่อนำไปสู่การมีทักษะในขั้นสูงต่อไป เราได้รวมรวมหลักการที่สำคัญในการฝึกมวยไทยมาให้ได้ฝึกกันดังนี้

การตั้งท่าจดมวย

     การตั้งท่าจดมวย คือ การวางเข่า การวางมือให้ถูกต้องตามหลักการฝึก โดยในการจดมวยนั้นจะต้องทราบเหลี่ยมมวยด้วย เหลี่ยมมวยคือการแสดงการใช้มือและเท้าที่ถนัด ออกมาให้เห็น โดยปกติมวยจะมี 2 เหลี่ยม คือ เหลี่ยมซ้าย และเหลี่ยมขวา

 

    เหลี่ยมซ้าย คือ การยื่นหมัดขวาไปข้างหน้าสูงเหนือระดับหางคิ้ว ในขณะที่เท้าขวายื่นไปข้างหลัง หมัดซ้ายชิดคาง เท้าซ้ายอยู่ด้านหลัง ลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็งและปล่อยตัวตามสบาย โดยให้น้ำหนักอยู่ที่เท้าซ้าย ในขณะที่ระยะห่างของเท้าทั้งสองข้าง 1 ช่วงตัว สายตามองผ่านมือไปยังคู่ต่อสู้ตลอดเวลา

 

     เหลี่ยมขวา คือ การยื่นหมัดซ้ายไปข้างหน้าสูงเหนือระดับหางคิ้ว และเท้าซ้ายยื่นไปข้างหลัง แขนซ้ายขนานกับลำตัว หมัดขวาชิดคาง เท้าขวาอยู่ด้านหลัง ลำตัวเหยียดตรง ไม่เกร็งและปล่อยตัวตามสบาย โดยให้น้ำหนักอยู่ที่เท้าขวา สายตามองผ่านมือไปยังคู่ต่อสู้ตลอดเวลา

 

การวางตำแหน่งอวัยวะ

การวางตำแหน่งของอวัยวะที่ได้จดมวย คือ การกำหมัด วางเท้า มือ และลำตัว

 

     การกำหมัดที่ถูกต้อง คือ แบมือให้นิ้วมือทั้ง 4 เรียงชิดติดกัน แล้วพับนิ้วทั้ง 4 นิ้วเข้าหาอุ้งมือ แล้วกดทับด้วยนิ้วหัวแม่มือลงทาบ ในลักษณะเฉียงกับนิ้วชี้และนิ้วกลาง เพื่อให้หมัดที่กำกระชับแน่น โดยไม่เกร็ง

 

การใช้หมัด เท้า เข่า ศอก

1) การใช้หมัด

     หมัดตรง คือ การใช้หมัดที่ถนัดมุ่งไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงจากหัวไหล่ ลำตัว เอว และเท้ายันพื้น ให้ทุกส่วนประสานกันเพือความรุนแรงโดยน้ำหนักตัวอยู่ที่เท้าหน้า ใช้แรงส่งจากเท้าหลังและสะโพก หัวไหล่ หมัดตรง

 

     หมัดตัด คือ การใช้หมัดเหวี่ยงในลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลม โดยเล็งไปที่ บริเวณลำตัว ใบหน้า หรือศีรษะของคู่ต่อสู้ ผู้รู้บางคนอาจเรียกว่า “หมัดเหวี่ยง” ซึ่งแบ่งออกเป็น หมัดเหวี่ยงสั้นและหมัดเหวี่ยงยาว

 

     หมัดเหวี่ยงสั้น คือ การเหวี่ยงวงแคบ

 

    หมัดเหวี่ยงยาว คือ การเหวี่ยงวงกว้าง

 

     หมัดตวัด คือ การใช้สันหมัดกดลงบริเวณอวัยวะสำคัญของคู่ต่อสู้ ในลักษณะเหยียดแขนออกไป พร้อมชกตวัดวงแคบ

 

     หมัดเสย คือ การใช้หมัดชกเข้าหาคู่ต่อสู้โดยงอศอก เกร็งข้อศอกหงายหมัด แล้วพุ่งหมัดยกขึ้นสู่เป้าหมาย ได้แก่ ปลายคาง ดั้งจมูก หรือใบหน้าคู่ต่อสู้ หมัดเสย

 

2) การใช้เท้า จะแบ่งออกเป็น 2 ไม้ คือ การเตะ และการถีบ

     การเตะ คือ การใช้อวัยวะส่วนขาตั้งแต่เอวลงไปจนถึงปลายเท้า ทั้งนี้การแตะของมวยไทยนิยมใช้หน้าแข้งแตะเพราะเป็นส่วนที่แข็งเปรียบเสมือนการหวดด้วยไม้

 

     เตะตรง คือ การเตะเสยจากพื้นขึ้นไปส่วนบนในลักษณะตั้งฉากกับพื้น

     เตะตัด คือ การเตะที่ใช้เท้าวาดขึ้นขนานกับพื้น สามารถเตะตัดได้ทั้งส่วนล่างของลำตัว และส่วนบนของอวัยวะ

     เตะตวัด หรือเตะเฉียง คือ การเตะที่ทิศของการเตะจะเฉียงลงพื้นสู่เป้าหมาย

     กลับหลังเตะ คือ การหมุนตัวหันหลังให้คู่ต่อสู้ แล้วเหวี่ยงขาที่วางอยู่ด้านหลัง ให้ส้นเท้าปะทะเป้าหมาย

    การถีบ คือ การใช้ปลายเท้า ฝ่าเท้า หรือส้นเท้าปะทะคู่ต่อสู้ ปลายเท้าปะทะคู่ต่อสู้

 

     การถีบตรง คือ การถีบออกไปตรงๆ ให้ปลายเท้า ส้นเท้า หรือฝ่าเท้าปะทะเป้าหมายในส่วนต่างๆ ของคู่ต่อสู้ โดยอาจเหยียดเท้าตรง หรืองอเท้าเข้าถีบก็ได้

 

     การถีบข้าง คือ การใช้ปลายเท้าถีบออกไปด้านข้างของลำตัว โดยเอียงศีรษะออกไปห่างจากลำตัว

    การกลับหลังถีบ คือ การถีบตรงออกไปด้านหลัง อาจเหยียดขาตรง หรืองอขาแล้วเหยียดตรงออกไปยังเป้าหมาย

 

     การกระโดดถีบ คือ การสืบเท้าที่ไม่ถนัดออกไป 1 จังหวะ แล้วลอยตัวใช้เท้าที่ถนัดพุ่งไปยังเป้าหมายของคู่ต่อสู้

     การถีบจิก คือ การใช้ปลายเท้าที่ถนัดจิกไปบริเวณหน้าท้อง หรือลิ้นปี่ของคู่ต่อสู้ โดยอาศัยแรงส่งจากเท้าที่ไม่ถนัด

 

     การออกกำลังกาย ด้วย มวยไทย ที่ถูกวิธี เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อของเราได้รูป และ ลดอาการบาดเจ็บได้ อยากเรียนมวยไทย สามารถสอบถามได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ohlor

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกพื้นฐานเบื้องต้นของมวยไทย

มวยไทยสร้างสมดุลร่างกาย

ต่อยมวยก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ

มวยไทยสร้างสมดุลร่างกาย

มวยไทยสร้างสมดุลร่างกาย

มวยไทย ( Muay thai ) สามารถลดน้ำหนักได้สบายๆ และ มวยไทย ( Muay thai ) ก็สามารถสร้างสมดุลร่างกายได้พอดีเหมือนกัน วันนี้เรามาสร้างสมดุลร่างกายด้วย มวยไทย ( Muay thai ) กันเถอะ

 

สร้างสมดุลให้กับร่างกาย

เพราะเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทุกสัดส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสายตา สมาธิ และปัญญา ทำให้นอกจากจะทำให้ห่างไกลโรคร้ายแล้ว ร่างกายยังมีความสมดุลซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังสร้างกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี รับรองว่าออกกำลังกายด้วยการชกมวย สามารถทำให้ผอมและตอบสนองความไวได้ดี

 

ลดความเครียดลงได้

ยิ่งเราออกกำลังกายมาเท่าไหร่ ร่างกายจะหลังฮอร์โมนเอนโดรฟีนที่ทำให้เรามีความสุข ดังนั้นการชกมวยจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนประเภทนี้ออกมาเต็ม ๆ ยิ่งคุณปล่อยหมัด ก็เปรียบได้ว่าปล่อยความเครียดเพิ่มความสุข

 

ลดน้ำหนักได้

การชกมวยอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าต้องเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา ทำให้ในขณะที่ชกมวยเราจะสามารถเบิร์นไขมันในร่างกายไปได้มากมายเลยทีเดียว ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว นี่ยังไม่นับการวอร์มร่างกายที่ต้องฝึกให้ร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

 

หัวใจแข็งแรง

แน่นอนว่าการออกกำลังกายนั้นช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแน่นอน แต่การชกมวยนั้นจะมีประโยชน์พิเศษต่องที่ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด เพราะต้องเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลต่อการสูบฉีดโลหิตเต็ม ๆ ผลพลอยได้จากการชกมวยก็คือ จะช่วยป้องกันเราให้ห่างไกลจากโรคหัวใจ

แนะนำ

 

หากบ้านเราหหรือค่ายมวยของเรา มีกระสอบทรายเราจะไปทำอะไรกับมันดี

 

ท่าแทงเข่า

เริ่มต้นจากการจับกระสอบทรายไว้ให้มั่น แล้วโน้มขาไปด้านหลัง แล้วกระโดดเข่าลอยไปที่กระสอบทรายทันที ทำสลับซ้าย ขวา การออกกำลังกายในท่านี้นอกจากจะเรียกเหงื่อได้ดีแล้ว ยังเป็นการสร้างกล้ามเนื้อขาทุกส่วนรวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องด้วย 

 

ท่าถีบ

เริ่มต้นจากการตั้งท่าให้มั่น โดยเอาขาที่จะถีบไว้ด้านหลัง เมื่อพร้อมแล้วให้ถีบเท้าออกไปที่บริเวณกลางกระสอบ ทำสลับซ้าย-ขวา ท่านี้เป็นการฝึกกล้ามเนื้อขาโดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่น่อง  

 

ท่าเตะ

เริ่มต้นจากท่าตั้งแบบเดิม ให้เอาขาข้างที่จะเตะไว้ด้านหลัง เมื่อพร้อมแล้วให้ออกแรงเตะ ด้วยการใช้หน้าแข้งไปจนถึงบริเวณข้อเท้า เหยียดขาให้เป็นเส้นตรงเตะไปที่กระสอบทราย การฝึกเตะเป็นท่าจำเป็นพื้นฐานของมวยไทยที่มีประโยชน์มาก เพราะเป็นท่าที่ใช้ในการตัดจังหวะและตอดกำลังคู่ต่อสู้

 

หากใครอยากเรียน มวยไทย ( Muay thai ) หรือ อยากเล่นมวยต่างๆ อยากฝึก ก็สามารถติดต่อเราเข้ามาได้ตลอดเลยนะครับ มวยไทย ( Muay thai ) ไม่ใช่แค่เรื่องการออกกำลังกายอย่างเดียว สมาธิต่างๆ ก็ต้องคู่ไปด้วย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฝึกพื้นฐานเบื้องต้นของมวยไทย

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

วิธีฝึกศอกยังไงให้ฟันแล้วแรง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก timeout

ฝึกพื้นฐานเบื้องต้นของมวยไทย

ฝึกพื้นฐานเบื้องต้นของมวยไทย

     มวยไทยถือเป็นศิลปะการต่อสู้ของไทยซึ่งมีมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ยังถือเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และนั่นทำให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจสำหรับต้องการฝึกพื้นฐานการเล่นมวยไทย จะยากง่ายเพียงใด ไปฝึกตามกันค่ะ

 

     เริ่มแรกทีเดียวเลย ท่านต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจให้ถ่องแท้เสียก่อน เกี่ยวกับสัญชาติญาณเดิม กับการฝึกจนเป็นสัญชาติญาณใหม่   สัญชาติญาณเดิมของคนเราเช่น โกรธ กลัว กล้า ฯลฯ  เมื่อนำสัญชาติญาณนั้นมาใช้เมื่อยามต่อสู้ ย่อมกระทำตามอารมณ์ หรือตามความต้องการ แน่นอนที่สุด ฝ่ายใดมีเรี่ยวแรงมาก ย่อมเป็นฝ่ายชนะ และถึงแม้เป็นฝ่ายชนะก็ย่อมมีความบอบช้ำหรือบาดเจ็บ เนื่องจากการใช้สัญชาติญาณ ควบคู่ไปกับอารมณ์โดยขาดสติอย่างสิ้นเชิง

 

     การฝึกฝนจนเป็นสัญชาติญาณใหม่นั้น หมายถึงการปฏิวัติความเคยชินต่างๆ  เช่นการเดินธรรมดาของคนเรานั้น ขากับแขน(ข้างเดียวกับขา)จะไปคนละทางกัน  การเตะของคนเราก็เหมือนกัน ขากับแขน(ข้างเดียวกับขาที่เตะ) จะไปคนละทิศเลย  นี่คือสัญชาติญาณดั้งเดิม   แต่การฝึกมวยไทยนั้น  ต้องฝึกการเดินให้ขากับแขน (ข้างเดียวกับขา)ไปพร้อมกัน  ต้องฝึกการเตะให้ขากับแขน(ข้างเดียวกับขา)ไปทางเดียวกัน ดังนี้เป็นต้น

 

     ผู้ที่เริ่มฝึกมวยไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจอันนี้ให้ถ่องแท้  หลังจากนั้นจึงทำการฝึกฝนการบริหารกล้ามเนื้อต่างๆ เพื่อเป็นพื้นฐานในการฝึกแม่ไม่หรือท่าครูต่อไป

 

     ร่างกายของคนเรานั้น ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆมากมาย แต่อวัยวะที่ใช้เป็นอวัยวะนั้นก็เห็นจะมีแต่ ท่อนแขน ฝ่ามือ นิ้วมือ หมัด เล็บ ศอก ไหล่ ส้นมือ สันมือ หลังมือ เข่า แข้ง หลังเท้า ฝ่าเท้า ปลายโต่ง ปลายเท้า ส้นเท้า ตาตุ่ม สันเท้า และในบางกรณี ยังสามารถใช้ศีรษะกระแทก หรือใช้ฟันกัดได้อีกด้วย

 

ท่อนแขน    หมายถึงแขนท่อนล่างตั้งแต่ใต้ศอกลงไปถึงข้อมือ ใช้ฟัน สับ กด ปัด เปิด หนีบ

ฝ่ามือ    หมายถึงด้านในที่มีลายมือ ใช้ผลัก ปัด ตบ กระแทก กด รัด บีบ

นิ้วมือ    หมายถึงนิ้วมือทั้งห้านิ้ว ใช้ทิ่ม ควัก จับ กด จิก บีบ

หมัด    หมายถึงการรวมนิ้วมือทั้งห้านิ้วด้วยการกำมือ ใช้ต่อย ทุบ กระทุ้ง กระแทก เขก โขก กด เหวี่ยง ดัน

ศอก    หมายถึงการงอแขนให้เป็นมุม ใช้กด กระแทก งัด แทง ปัก ฟัน สับ เฉือน เหวี่ยง รับ วาง

สันมือ   หมายถึงด้านข้างของฝ่ามือ ทางด้านโคนนิ้วก้อยจนถึงข้อมือ ใช้สับ ฟัน กระแทก ปัด

ส้นมือ    หมายถึงบริเวณข้อมือด้านในที่มีลายมือ ใช้ผลัก กระแทก

หลังมือ    มือทางด้านที่ไม่มีลายมือ ใช้ตบ ปัด เปิด

เข่า   หมายถึงการทบขาท่อนบนกับท่อนล่างจนกลายเป็นมุมแหลม ใช้กด กระแทก กระทุ้ง ยัด โยน เหวี่ยง รับ

แข้ง   หมายถึงตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นไปจนถึงใต้เข่า ใช้เหวี่ยง ฟาด(เตะ)

หลังเท้า    หมายถึงตั้งแต่ข้อเท้าลงไปทางด้านเล็บเท้า ใช้พร้อมกันกับการเหวี่ยงแข้ง สะบัดแข้ง

ฝ่าเท้า   หมายถึงบริเวณส่วนที่ใช้ยืน ใช้ยืน ถีบ ยัน เหยียบ รับ

ปลายโต่ง    หมายถึงบริเวณส่วนด้านใต้ฝ่าเท้าใกล้นิ้วเท้า ใช้ฉัด ถีบ ยัน กระแทก เตะ

ปลายเท้า    หมายถึงบริเวณปลายหัวนิ้วเท้า ใช้เหน็บ จิก ครูด

ส้นเท้า    หมายถึงบริเวณด้านล่างร้อยหวาย ไปจนถึงด้านใต้ที่ใช้ยืน ใช้ปัก ถีบ เตะ เหยียบ ยัน กระตุก เหวี่ยง กด

ตาตุ่ม   หมายถึงบริเวณก่อนถึงส้นเท้าด้านร้อยหวาย ใช้ปัด เตะ

สันเท้า    หมายถึงบริเวณด้านข้างตั้งแต่ข้อนิ้วก้อยเท้าจนถึงส้น ใช้กระแทก ยัน กด

ศีรษะ    หมายถึงกระโหลกบริเวณด้านข้างด้านบนตรงกับใบหู ใช้กระแทก โขก กด

ฟัน    หมายถึงส่วนที่ใช้กัด เคี้ยว ใช้กัด

เล็บ   (ทั้งเล็บมือและเล็บเท้า) ใช้จิก ครูด ทิ่ม

ไหล่   หมายถึงบริเวณหัวไหล่ ใช้ดัน กระแทก(คาง)

สะโพก  หมายถึงบริเวณกระดูกเชิงกราน ใช้กระแทก หนุน (เหวี่ยง) ทับ

 

     ทีนี้มวยไทยนั้นไม่ว่าจะเป็นมวยแบบใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นคือพื้นฐาน ทราบพื้นฐานอย่างนี้แล้ว อย่าลืม มาฝึกร่างกายให้ฟิตได้ที่ เจริญทอง มวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) เลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก samkhum

อ่านบทความเพิ่มเติม

ต่อยมวยก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ

มวยฟิต การออกกำลังกายแนวใหม่ สร้างหุ่นที่ดี

วิถี นักมวย แค่หมัดหนัก ยังไม่พอ

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

ครูมวยไทยในประวัติศาสตร์

สมคำล่ำลือครูมวยไทย ( Muay thai ) ในประวัติศาตร์ของไทยเรา การต่อยมวยมีมานานมากแล้วทั้งมวยวัด มวยตับจากมวยต่างๆ ที่เราเคยได้ยินล้วนมีครูมวยหมด วันนี้เรามาดูจัก ครูมวยไทยในประวัติศาตร์กัน

 

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) กษัตริย์แห่ง มวยไทย ( Muay thai )

 

สมัยอยุธยา สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ หรือพระเจ้าเสือ โปรดการชกมวยเป็นอย่างมาก เคยทรงปลอมพระองค์มาชกมวยกับชาวบ้านและชนะนักมวยฝีมือดีของเมืองวิเศษไชยชาญอีกทั้งชนะนักมวยเอกถึง 3 คน เมื่อพระมหากษัตริย์โปรดการชกมวยไทยเช่นนี้ ทำให้มีการฝึก มวยไทย ( Muay thai ) กันอย่างแพร่หลายในราชสำนัก ขยายไปสู่บ้านและวัด โดยเฉพาะวัด ถือเป็นแหล่งประสิทธิ์ประสาทวิชามวยไทยเป็นอย่างดีรวมถึงขยายวงกว้างไปสู่สามัญชนมาก แม้ท่านจะทรงสวรรคตแต่มวยไทยตำรับพระเจ้าเสืออันแข็งแกร่งยังได้รับการถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ฝึกฝนจนถึงทุกวันนี้ 

 

นายขนมต้ม

 

ในตอนเด็กนั้นๆ นายขนมต้มเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในวัด ด้วยสาเหตุที่ว่าพ่อและแม่ถูกพม่าสังหารจนถึงแก่ชีวิตทั้งสองคน จนเมื่อพม่าตีกรุงศรีอยุธยานายขนมต้มกลายเป็นหนึ่งในเชลยศึกที่ถูกกวาดต้อนไปยังประเทศพม่า กษัตริย์แห่งพม่าได้ทรงจัดงานสมโภชเจดีย์ชเวดากองและทรงโปรดให้มีการแข่งขันชกมวยระหว่างชาวสยามและชาวพม่า สุกี้พะนายกองคัดนายขนมต้มขึ้นชกและสามารถชกชนะนักมวยพม่าถึง 10 คนโดยมิยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว จนพระเจ้ามังระปูบำเหน็จแต่งตั้งให้เป็นข้ารับใช้ในกรุงอังวะแต่นายขนมต้มปฏิเสธและขอให้ปลดปล่อยตนและเชลยคนไทยทั้งหมดเป็นอิสระเพื่อกลับบ้านเกิด

 

นายทองดีฟันขาว

 

นายทองดีฟันขาว คืออีกหนึ่งครูมวยสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ เดิมชื่อ จ้อย เป็นเด็กชายที่มีนิสัยกล้าหาญ อดทน ชอบชกมวยเป็นชีวิตจิตใจ ต่อมาได้ศึกษาวิชาหมัดมวยกับครูเที่ยงที่บ้านท่าเสา  แต่เพราะไม่เคี้ยวหมากพลูเหมือนคนสมัยนั้นครูเที่ยงจึงเรียกว่า “นายทองดีฟันขาว”  นายทองดีเดินทางไปเรียนการต่อสู้จากหลายๆที่ ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย มวยจีน หรือเชิงดาบ จนความสามารถเลื่องลือ ภายหลังถวายตัวเป็นทหารคนสนิทของพระเจ้ากรุงธนบุรีและได้รับสมญานามว่า “พระยาพิชัย”

 

นายทองดีฟันขาว หรือ พระยาพิชัยดาบหักได้สร้างมรดกอันควรแก่การยกย่องสืบทอดมาถึงปัจจุบันนอกจากจะเป็นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ความรักชาติแล้ว ยังสร้าง “มวยพระยาพิชัย” ที่มีจุดเด่นคือเป็นทั้งมวยอ่อนและมวยแข็ง รุกรับตามแต่สถานการณ์ การออกไม้จะรวดเร็ว รุนแรง เผด็จศึกอย่างรวดเร็วเมื่อมีโอกาส 

 

สุดยอดมากทั้ง3ท่าน จริงๆเราก็เคยได้ยินมาแล้วเหมือนกัน ตั้งแต่เด็กๆแล้ว ทั้งนายขนมต้ม ทองดีที่นำไปทำเป็นภาพยนตร์ที่เราได้ดูกัน มวยไทย ( Muay thai ) สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน หากจะปล่อยให้มันหมดไปก็คงไม่ใช่  ทั้งนี้เราต้องขอบขอบคุณ ครูมวยในประวัติศาสตร์ อีกด้วยที่ทำให้ไทยมีศิลปะจนถึงทุกวันนี้

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook

วิธีฝึกศอกยังไงให้ฟันแล้วแรง

วิธีฝึกศอกยังไงให้ฟันแล้วแรง

ศอกได้ขึ้นชื่อว่า อาวุธที่อันตายที่สุดพูดในทาง มวยไทย ( Muay thai ) ก็เปรียบได้เลยกับมีด ได้เลยถ้าใครคมกว่าฟันทีเดียวยังไงก็ต้องเย็บแน่ๆ วันนี้มาดูกัน ว่าทำยังไงให้ศอกของเราคมเหมือนกับดาบที่เล่าลือ

 

มวยไทย ( Muay thai ขึ้นชื่อว่าศิลปะ ยังไงก็ต้องมีท่าทางป้องกันตัวสวยๆ งามๆ แต่ สวยงามอย่างเดียวไม่ได้ต้อง รุนแรงด้วย เพื่อป้องกันอันตราย  และที่อันตรายที่เรา เห็นๆ กันเลยก็คือ ศอก ของ มวยไทย ( Muay thai

 

ศอกอย่างไรให้แรง

ศอกกับหมัดต้อง ไปด้วยกันได้ เช่นเดียวกับการต่อยให้แรง เพราะการฟันศอกให้แรงนั้นไม่ได้ขึ้นกับความแข็งแรงอย่างเดียว แต่ขึ้นกับประสานตั้งแต่การบิดเอว การใช้ปลายเท้าส่งแรง ทำให้เกิด Momentum ที่ดี และจนไปถึงการเลือกตำแหน่งข้อศอกในการจู่โจมคู่ต่อสู้

 

มวยไทย ( Muay thai )  ศอกตี โดยใช้วิธีการตีศอกจากบนสู่ล่าง เฉียงซ้ายคล้ายมุมฉาก บางครั้งอาจบิดตัวตี โดยมีแรงส่งจากไหล่ ลำตัว และเท้า

 

ศอกตัด การตีศอกตัดขนานไปสู่เป้าหมาย

ศอกงัด การตีศอกจากกลาง งัดขึ้นไปข้างบน ตรงเป็นมุมฉาก

ศอกกระทุ้ง การใช้ศอกพุ่งออกไปด้านหลัง ในลักษณะกระทุ้ง แก้ไขสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ประชิดเข้ามาด้านหลัง

ศอกกลับ การหมุนตัวตีศอก กลับไปทางด้านหลัง ตามจังหวะที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนตามเท้า

ศอกคู่  การตีศอกด้วยแขนสองข้าง

 

ฝึกการออกแรงในระยะสั้น

ในการแข่งมวยไทยส่วนใหญ่จะเหมือนว่านักมวยแทบไม่ได้ใช้ระยะในการง้างศอกเลย เพราะการจู่โจมต้องทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่จะทำอย่างนี้ได้ นักมวยจะต้องสามารถออกแรงในระยะสั้นได้ 

 

เล็งให้ดี แม้จะโดนต่อยสวนมา

พยายามเลือกตรงปลายข้อศอกที่แหลมและแคบในการสัมผัสเป้าหมาย เพราะมันจะทำให้ความรุนแรงเข้มข้นขึ้นในพื้นที่สัมผัสที่แคบ และให้ต้นแขนเป็นเหมือนฐานจรวดในการส่งแรงไปที่เป้าหมาย หากคุณไม่มีต้นแขนเป็นฐานแล้วพลังโจมตีคุณจะเบาบางอย่างมาก  หรือพูดง่ายๆว่า เล็งที่ จุดออ่นคู่ต่อสู้เช่น หัว หรือ เบ้าตา หัวคิ้วนั้นเอง

 

 ศอกแต่ละประเภทหากมีความแรง และมีการประสานกันตั้งแต่การบิดเอว การใช้ปลายเท้าส่งแรง รวมถึงการเลือกตำแหน่งของข้อศอกได้ดี จะทำให้ได้เปรียบในการจู่โจมคู่

 

อยาก เรียน มวยไทย ( Muay thai )   เพราะสกิล พวกนี้สามารถใช้ได้ในชีวิตจริง เพื่อป้องกันตัวของตัวเอง หากท่านใดกำลังมองหา ยิมมวยไทย ( Muay thai ) สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามได้ตลอดเลยนะครับ  “เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ต่อยมวยก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ

มวยฟิต การออกกำลังกายแนวใหม่ สร้างหุ่นที่ดี

ออกกำลังกายอยู่บ้านก็ได้ประโยชน์เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ohlor.

ต่อยมวยก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ

ต่อยมวยก็ช่วยลดน้ำหนักได้นะ

     เราเชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักตั้งคำถามกับตัวเองว่าเทรนด์การออกกำลังกายที่กำลังมาแรงในปัจจุบันอย่างการต่อยมวยจะช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ? และเพื่อเป็นการตอบคำถามคาใจของใครหลายคน วันนี้เราจึงถือโอกาสขอนำข้อเท็จจริงว่าด้วยเรื่องของการต่อยมวยและการลดน้ำหนักมาให้ทุกคนได้ทราบกัน

 

     จริงๆ แล้วการต่อยมวยนับได้ว่าเป็นหนึ่งวิธีในการออกกำลังกายแบบ HIIT หรือ High Intensity Interval Training ซึ่งการออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าวจะมีความเข้มข้นในการฝึกค่อนข้างสูง โดยจะเริ่มจากการที่ผู้ฝึกออกแรงอย่างต่อเนื่อง แล้วหยุดพักซักระยะ ก่อนที่จะกลับมาใช้แรงอย่างหนักอีกหนึ่งครั้ง และทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เป็นเวลาทั้งหมด 60-90 นาที ด้วยแนวทางการฝึกที่มีความเข้มข้นค่อนสูง

 

ไม่เบิร์นตอนออกแต่เบิร์นหลังออก

     เนื่องจาก HIIT เป็นการออกกำลังกายแบบหนักสลับกับเบา ดังนั้นขั้นตอนการเบิร์นไขมันจึงแตกต่างจากการออกกำลังกายแบบ Cardio อย่าง วิ่งหรือปั่นจักรยาน ที่ร่างกายจะดึงไขมันมาใช้ในขณะออกกำลังกายเลย ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่ดึงไขมันทั้งหมดมาใช้เป็นพลังงานในขณะชกมวย แต่จุดเด่นของการเผาผลาญไขมันหลังการต่อยมวยอยู่ที่การเบิร์นหลังออกกำลังกาย ซึ่งสามารถเบิร์นได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 48 ชั่วโมง หรือหากคิดเป็นแคลอรี่ก็ราวๆ 800 - 1,200 Kcal

 

ควรทิ้งช่วงเวลาให้ร่างกายได้พักผ่อนก่อน

     สืบเนื่องจากปัจจัยที่การต่อยมวยลดน้ำหนักเป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง ดังนั้นร่างกายจึงต้องการใช้เวลาซักระยะหนึ่งเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพราะหากเราไปชกมวยทุกวันโดยไม่ปล่อยให้ร่างกายได้พักฟื้น แทนที่ผู้ชกจะได้ประโยชน์จากการลดน้ำหนัก ร่างกายอาจจะได้รับความเครียดหรืออาการบาดเจ็บมาเป็นของแถม

 

ลดความเครียด เพิ่มความผ่อนคลาย

 

     เพราะในทุกครั้งที่ออกกำลังกาย ร่างกายจะโฟกัสเฉพาะกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า จนทำให้ผู้ออกกำลังกายลืมนึกถึงความเครียดและความกังวลทั้งหมด และเมื่อชกมวยเสร็จแล้ว แน่นอนว่าผู้ชกจะสัมผัสได้ถึงความเมื่อยล้า จนทำให้สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มตลอดทั้งคืน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก posttoday

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- ออกกำลังกายอยู่บ้านก็ได้ประโยชน์เช่นกัน

- MUAY THAI กีฬาที่ให้มากกว่าแค่ ออกกำลัง

- วิถี นักมวย แค่หมัดหนัก ยังไม่พอ

มวยฟิต การออกกำลังกายแนวใหม่ สร้างหุ่นที่ดี

มวยฟิต การออกกำลังกายแนวใหม่ สร้างหุ่นที่ดี

     ในปัจจุบันการออกกำลังกายนั้นมักมีหลายรูปแบบ อย่างยุคนี้ สาว ๆ ได้หันมาสนใจกีฬา มวยไทย เพิ่มมากขึ้น แต่มวยไทยนั้น คงไม่ใช่แค่มีมวยไทยอีกต่อไป เพราะมวยไทยได้มีการผสมผสานร่วมกับ ฟิตเนสด้วย การออกกำลังกายรูปแบบใหม่จึงน่าสนใจขึ้นมาทันที

 

    มวยฟิต ซึ่งหมายถึง มวยไทย และ ฟิตเนส ส่วนลักษณะของมวยฟิต ถือเป็นการออกกำลังกายที่เป็นได้ทั้งกีฬา และศิลปะการต่อสู้ โดยจัดอยู่ในการออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ หรือการออกกำลังกายให้เลือดสูบฉีดและเกิดการเผาผลาญพลังงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป โดยจุดเด่นของมวยฟิตที่มีความแตกต่างจากกีฬามวยไทยทั่ว ๆ ไป คือ จะเป็นการออกกำลังกายโดยไม่ใช้อุปกรณ์ เช่น กระสอบทราย เข้ามาช่วย นั่นเอง

 

   ในส่วนของ มวยฟิต จะเน้นเรื่องการใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายในการเล่น อาทิ หมัด ศอก เข่า เท้า เป็นหลัก โดยจะมีครูฝึกหรือเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เล่นออกท่าทางต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และไม่เกิดอาการบาดเจ็บตามมา

 

   ขั้นตอนการออกกำลังกายในรูปแบบ มวยฟิต จะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนใหญ่ ๆ คือ การบริหารกล้ามเนื้อส่วนบน คือ ตั้งแต่ส่วนเอวไล่ขึ้นมา จนถึงข้อศอก และการบริหารกล้ามเนื้อส่วนล่าง ได้แก่ ขา เข่า ข้อเท้า

 

   โดยผู้เล่นจำเป็นจะต้องเรียนรู้แต่ละท่าจนเข้าใจ จากนั้นจึงสามารถนำท่าต่าง ๆ มาฝึกเป็นสเต็ปอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาตั้งแต่ 30 – 60 นาที ก็จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้แก่ ข้อมือ แขน ขา และข้อเท้า และช่วยกระชับสัดส่วนที่ต้องการได้ เช่น ต้นแขน ต้นขา เพราะการออกกำลังกายในรูปแบบนี้ สามารถเผาผลาญแคลอรีได้ถึง 800 แคลอรีต่อชั่วโมง

 

   นอกจากนั้น ยังช่วยในด้านการฝึกสมาธิ เพราะขณะที่เตะ ต่อย หรือออกหมัด เท่ากับเป็นการฝึกประสานความสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและสมอง

 

   อีกทั้ง มวยฟิต จะใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหมัด เข่า ศอก ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ฝึกการประสานงานของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ฝึกสมาธิ และช่วยกระชับสัดส่วนที่ต้องการได้ โดยเฉพาะต้นแขน ต้นขา จึงทำให้ผู้เล่นได้ประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างในเวลาเดียวกัน รู้อย่างนี้แล้ว อยากออกกำลังกายด้วย มวยไทย กันแล้วใช่ไหม มาฝึกร่างกายให้ฟิตได้ที่ เจริญทอง มวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) เลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mthai

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- MUAY THAI กีฬาที่ให้มากกว่าแค่ ออกกำลัง

- มวยไทย ช่วยฝึกทักษะอะไรบ้าง

- ฟิตแอนด์เฟิร์ม “มวยไทย” เทรนด์การป้องกันตัวของผู้หญิงยุคใหม่

ออกกำลังกายอยู่บ้านก็ได้ประโยชน์เช่นกัน

ออกกำลังกายอยู่บ้านก็ได้ประโยชน์เช่นกัน

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ทั้งยิม มวยไทย ( Muay Thai ) ก็ต้องถูกปิดไปก่อนเพราะโควิด-19 ระบาดหนักอยู่ตอนนี้ แต่เราไม่นิ่งนอนใจกับสายออกกำลังกาย วันนี้สกิลออกกำลังกายที่บ้านได้ประโยชน์เหมือนกัน

 

หลายๆคนเสพติด ฟิตเนส ( Fitness ) การเข้า ยิบมวย ต่างๆ  มากเพราะวาเป็นสถานที่ออกกำลังกาย แอร์เย็นมีเครื่องฟอกอากาศรู้สึกปลอดภัยกว่าไปวิ่ง ที่สวนอีก แต่วันนี้หากเราจำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้านยับยั้งโควิด สายออกกำลังกายอย่างเราก็จะไม่แนะนำให้ออกกำลังกาย ออกบ้าน สามารถออกกำลังกาย ในบ้านได้ด้วยท่าไหนบ้าง

หากเราเป็นคนที่อยากฝึก มวยไทย ( Muay Thai )  หรือ อยากออกำลังกาย อยู่บ้านต้องทำยังไงบ้าง

 

ยืดกล้ามเนื้อ
 
          เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ทั้งสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการทำงานหนักอีกด้วย ลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการใช้งานที่หนักเกินไปได้ อีกทั้งยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ แค่รู้วิธีการยืดกล้ามเนื้อที่ถูกต้องก็ทำได้แล้ว ซึ่งประโยชน์ของท่านี้ เป็นขั้นตอนต้นๆ ก่อนออกกำลังกายอย่างอื่นเลยล่ะ

 

กระโดดเชือก
 
          เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายสุดเบสิกอย่างการกระโดดเชือก สำหรับหลายคนก็คงจะเคยเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถึงจะดูง่าย ๆ แต่ได้ผลดีไม่แพ้กับการออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ ที่นอกจากจะช่วยให้เหงื่อออกได้แล้วก็ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย เพิ่มความไวให้ร่างกาย อย่างที่ มวยไทย ( Muay Thai ) ชอบกระโดดเชือกนั่นเอง

 

จ๊อกกิ้งอยู่กับที่ ได้ทักษะเดียวกับ ฟิตเวิร์ค
 
          หากไม่สะดวกที่จะออกกำลังกายนอกบ้าน แต่ก็อยากจะจ๊อกกิ้งละก็ ลองใช้วิธีวิ่งอยู่กับที่สิ การออกกำลังกายด้วยการวิ่งอยู่กับที่นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้ตื่นตัวกระฉับกระเฉงแล้ว ก็ยังถือเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ได้ผลดีทั้งต่อหัวใจอีกด้วย และถ้าอยากเพิ่มความท้าทายให้ตัวเองก็เพียงยกเข่าให้สูงขึ้นก็จะทำให้ร่างกายได้ออกกำลังกายมากขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

 

ดู Youtube แล้วออกกำลังกายตาม

ในยุคที่ เทคโนโลยีทั่วถึงแล้ว การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญ อยากออกกำลังกายแบบไหน ละ ฟิตเนส ( Fitness ) หรือ แบบ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็มีให้ดู และสามารถทำตามได้เลย เพียงแค่นี้การ ออกกำลังกายอยู่บ้านก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากแล้ว

 

จริงๆการออกกำลังกายมีหลากหลายการออกมากยิ่งถ้า ฝึก มวยไทย ( Muay Thai ) อยู่บ้านก็ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าจะทำให้มันง่าย เราก็แค่ประยุคให้เข้ากับสถานที่มีอะไรที่คิดว่าเหมาะสมก็ใช้ออกไปก่อนก็ได้  ไม่อย่างงั้นแล้ว สายออกกำลังกาย ก็จะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ออกนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม สุขภาพต้องมาก่อนนะครับ

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

MUAY THAI กีฬาที่ให้มากกว่าแค่ ออกกำลัง

มวยไทยกับลูกเตะ

มวยไทย ช่วยฝึกอะไรคุณได้บ้าง?

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก health.kapook

แม่ไม้ในมวยไทย คืออะไร

แม่ไม้ในมวยไทย คืออะไร

เราอาจเคยได้ยินคำว่า แม่ไม้มวยไทย มานมนาน แท้จริงแล้วความหมายไม่ได้เรียกไว้ให้ดูเท่ๆ แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีความหมายในเชิงปฏิบัติ ที่แอบแฝงไปด้วยรหัสอันตราย ความหมายที่ว่านั้น คืออะไรกัน?

 

     แม่ไม้ ในมวยไทย คืออะไร เพราะความหมายของมวยไทย แท้จริงแล้ว คือศิลปะการรุกและรับ เป็นการเลือกใช้ไม้มวยไทย และกลวิธีต่างๆ ผสมผสานให้เข้ากัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ไม้มวยไทย ที่ใช้ในมวยไทย นั้นได้แก่ หมัด, เท้า, เข่า และศอก เพราะการใช้หมัดชกคู่ต่อสู้ เรียกว่า "ไม้หมัด" และการใช้เท้าเตะคู่ต่อสู้เรียกว่า "ไม้เตะ" การใช้เท้าถีบ ก็ต้องเรียกว่า "ไม้ถีบ" การใช้เข่าเรียกว่า "ไม้เข่า" การใช้ศอก ก็เรียกว่า "ไม้ศอก" และยังมีการแบ่งตามลักษณะความสั้น - ยาว ของการใช้ไม้มวยไทย อีกด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ไม้สั้น และไม้ยาว เช่น การใช้หมัดเหวี่ยงสั้น, หมัดงัด, ศอกและเข่า เรียกว่า "ไม้สั้น" การใช้เท้าเตะ ใช้เท้าถีบ หมัดเหวี่ยงยาว เรียกว่า "ไม้ยาว" นั่นเอง

 

     ดังนั้นการเตะ, ถีบ, เข่า และศอก เรียกว่า "แม่ไม้" ส่วนการต่อย หมัดงัด หมัดเหวี่ยงสั้น - ยาว การเตะตรง, เตะตัด, เตะตวัด, เตะเฉียง, เตะกลับหลัง, ถีบตรง, ถีบข้าง, ถีบกลับหลัง, เข่าตรง, เข่าเฉียง, เข่าตัด, เข่าลอย, ศอกตี, ศอกตัด, ศอกกลับหลัง, ศอกพุ่ง เหล่านี้เรียกว่า "ลูกไม้"

 

ไม้รุก คืออะไร?

     ไม้รุก คือ หลักวิชาการในการใช้ไม้มวยต่างๆ มาประกอบกันเพื่อเป็นการรุกโจมตีคู่ต่อสู้ มีทั้งการหลอกล่อ และเข้าสู้กันจริง โดยทั่วไป ไม้นำของไม้รุกจะเป็นไม้ยาว มีความเร็ว รัดกุม มีหลักมั่นคง สามารถใช้ไม้อื่นต่อไปได้ เช่น การถีบตรง, การเตะเฉียง, เตะลิด ส่วนไม้ตามนั้นจะเป็นไม้ยาวหรือไม้สั้นก็ได้

 

     ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ไม้จังหวะแรกว่าได้ผลดีประการใด ดังนั้นจึงนิยมใช้ไม้มวยแบบสลับบนล่าง หรือซ้ายสลับขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้พะวง ถ้าใช้ไม้รุกเฉพาะส่วน หรือส่วนล่างอย่างเดียว จะง่ายต่อการป้องกันแก้ไข โดยทั่วไป ไม้รุก มีตั้งแต่จังหวะเดียวขึ้นไป จนไม่จำกัดจำนวน แต่นิยมใช้และได้ผลดี รวมไปถึงการฝึกหัดได้ง่าย คือ ไม้รุก 1 จังหวะ, 2 จังหวะ และ 3 จังหวะ

 

     ไม้รุก 1 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวยเพียงอย่างเดียว เช่น การชกหมัดตรงขวา, เตะขวา, โยนเข่าขวา หรือด้านที่ถนัดที่สุด เรียกว่า "ไม้รุกจังหวะเดียว"

 

     ไม้รุก 2 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปใช้ไม้มวย 2 จังหวะ โดยในจังหวะที่ 1 เป็นไม้หลอก เพื่อให้คู่ต่อสู้เสียหลัก แล้วตามไปใช้ไม้จริงในจังหวะที่ 2 ต้องตามกันไปอย่างรวดเร็ว เรียกว่า "ไม้รุก 2 จังหวะ"

 

     ไม้รุก 3 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปใช้ไม้มวยจังหวะที่ 1, 2 และ 3 ติดต่อกัน เช่น ต่อยหมัดนำ, หมัดตรง  แล้วเตะตาม ถ้าฝึกจนเกิดความชำนาญแล้ว ก็สามารถใช้ไม้สั้น เช่น ศอก, เข่า, หมัดตวัด, หมัดงัด เป็นไม้นำได้เช่นกัน

 

     ไม้รุก 4 จังหวะ คือ การรุกเข้าไปใช้ไม้มวยจังหวะที่ 1, 2 และ 3 ติดต่อกัน และไม้รุกที่ออกไปต่างก็หวังผลทั้งหมด แล้วแต่โอกาส ส่วนมากจังหวะที่ 1 และ2 เป็นไม้หลอก จังหวะที่ 3 และ 4 เป็นไม้จริง

 

ไม้รับ คืออะไร?

     ไม้รับ คือ หลักวิชาการในการนำเอาไม้มวยต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขการจู่โจมของฝ่ายรุก ไม้มวยชนิดหนึ่ง อาจแก้การจู่โจมของไม้มวยชนิดเดียวกัน หรือต่างชนิดก็ได้ หรือแก้ทีละไม้ เช่น แก้การต่อย, แก้การเตะ, แก้การถีบ, แก้การศอก แต่ในการชกมวยจริงๆ ไม่ได้ชก หรือเตะเพียงจังหวะเดียว แต่จะรุกเป็นชุด เช่น ต่อยนำ, เตะตาม แล้วเข่าตาม หรือต่อยตามเข่า

 

     ความหมายรวมไปถึงการทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขการจู่โจม เช่น การถอยออกให้พ้นระยะ เพื่อไม่ให้ถูกอาวุธของคู่ต่อสู้, การหลบหลีก, การปัดป้อง และการตอบโต้ ซึ่งมีการชิงลงมือก่อน การถอยแล้วตอบโต้ การหลบหลีกแล้วตอบโต้

 

     ไม้รับในที่นี้ จะกล่าวถึงการรับไม้มวยของคู่ต่อสู้ทีละชนิดตามลำดับ เริ่มตั้งแต่รับการต่อย, รับการเตะ,  รับการถีบ, รับการเข่า และรับการศอก โดยอาศัยการถอย, หลบหลีก, ปัดป้อง และตอบโต้ด้วยไม้มวยต่างๆ อาทิ

 

- การหลอกล่อ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้คู่ต่อสู้เข้าใจผิด หรือเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางเราได้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะต่างๆ โดยไม่เคลื่อนที่ไปจากที่เดิม

- หลอกด้วยสายตา คือ มองสูงแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่ต่ำ หรือมองต่ำแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่สูง

- หลอกด้วยศีรษะ คือ การเคลื่อนไหวศีรษะไปมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้หลงทาง

- หลอกล่อด้วยการเคลื่อนไหวลำตัว คือ การอาศัยความอ่อนตัว เช่น การโยกเอวหรือโยกลำตัวไปทางซ้ายและขวา

- การถอยให้พ้นระยะ คือ การถอยให้ห่างจากคู่ต่อสู้ อาจกระโดดเคลื่อนเท้าถอยหลัง หรือก้าวถอยหลัง แต่ต้องให้พ้นระยะไม้มวยของคู่ต่อสู้ ในการถอยเมื่อพ้นระยะแล้ว จะต้องอยู่ในท่าที่พร้อมจะตอบโต้คู่ต่อสู้ทันที

- การโยกตัวหรือการเอนตัวให้พ้นระยะ คือ การโยกตัวหรือเอนตัวออกให้พ้นระยะคู่ต่อสู้

- การหลบหลีก คือ การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อหลบหลีกไม้มวยของคู่ต่อสู้ที่จู่โจมมา อาจใช้วิธีก้มตัวหลบด้านซ้ายและขวา

- การปัดให้เบี่ยงเบนออกไป คือ การใช้มือหรือแขนปัดไม้มวยไปยังเป้าหมายอื่น

- การปัดป้อง คือ การใช้ส่วนต่างๆ ที่แข็งแรงของร่างกายปัดป้องอวัยวะที่เป็นจุดอ่อนของร่างกาย เช่น การใช้เข่าปัดป้องท้อง รวมถึงบริเวณลำตัว การใช้ศอกและเข่าบริเวณหน้าอก

- การบังเกาะจับ คือ การบังไม่ให้ไม้มวยคู่ต่อสู้ปะทะกับตัวเรา การบังนั้นจะต้องอาศัยการผ่อนแรงถูกจังหวะและเหมาะสมจึงจะได้ผลดี เมื่อบังเกาะจับได้แล้ว ก็สามารถใช้ไม้มวยตอบโต้ได้ทันที

- การทำให้ล้ม ในมวยไทยมีหลายแบบ แต่ที่ถูกต้องตามกติกาคือ ใช้วิธีการบังเกาะจับแล้วผลักให้ล้ม หรือการกอดรัดแล้วเหวี่ยงให้ล้ม

 

     และหากคุณกำลังมองหาสถานที่ฝึก มวยไทย หรืออยากเรียนมวยไทย มาฝึกกับเราได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) กับสาขาที่ใกล้และสะดวกที่สุด ได้เลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ohlor

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- ผู้หญิง ได้อะไรจากมวยไทย

- ต่อย มวยไทย ยังไงให้ลดความอ้วนได้

MUAY THAI กีฬาที่ให้มากกว่าแค่ ออกกำลัง

MUAY THAI กีฬาที่ให้มากกว่าแค่ ออกกำลัง

สายแข็งที่ชื่นชอบการต่อยมวย ซึ่งทำให้ มวยไทย (Muay Thai) ไม่ได้เป็นกีฬาที่ฮิตเฉพาะในบ้านเรา แต่ในเมืองนอกเขาก็อินกันมาก และ มวยไทย (Muay Thai) ก็ไม่ใช่แค่กีฬาในกระแส แต่ยังมีอะไรดีๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ มาก่อน

 

1st Benefit: ช่วยลดความนอยด์

อย่าคิดว่าการใช้กำลังจะยิ่งทำให้นอยด์ เพราะความจริงแล้วกีฬาประเภทนี้กลับทำให้เรามีสมาธิและสติมากขึ้นต่างหาก เพราะทุกครั้งที่คุณยืนอยู่หน้าคู่ต่อสู้ คุณจะต้องโฟกัสกับทุกการเคลื่อนไหว นั่นทำให้คุณไม่มีเวลาที่จะได้คิดวิตกกังวลอะไรทั้งนั้น มวยไทย (Muay Thai) ช่วยให้เรียนรู้ที่จะจัดการกับความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ดีขึ้น คุณเพียงต้องใช้ความพยายามในการฝึกฝน และคุณก็จะสามารถโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดี

 

2nd Benefit: เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ

หลายคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าการต่อยมวยนั้นจำกัดอยู่ที่การใช้แค่หมัดและเท้า แต่สำหรับ มวยไทย  (Muay Thai) แล้วทุกอย่างจะต้องประสานกันหมด ทั้งข้อศอก คาง และเข่า เวลาที่เราเคลื่อนตัว จู่โจม และป้องกันการรุกจากทิศทางต่างๆ นั่นจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานอยู่ตลอด และพลังงานก็จะพุ่งไปทั่วตัว โดยการเตะจะเน้นที่ส่วนของลำตัว สะโพก และก้น ส่วนการต่อยโดยใช้ข้อศอกและกำปั้น จะได้ส่วนของแขนและข้อมือ และยิ่งถ้าทำได้ถูกท่า ก็จะช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้มากขึ้นด้วย

 

3rd Benefit: อัพรอยยักในสมอง

แน่นอนว่าคงไม่ใช่แค่คุณคนเดียวแน่ที่เป็นฝ่ายจู่โจม เพราะฉะนั้นคุณจะต้องรู้จักที่จะหลบหลีก ก้มหลบหมัดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในการตั้งรับนั้น คุณอาจจะต้องมีการออกหมัด ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาบล็อก หรือแม้แต่การโต้ตอบกลับด้วยหมัดขวาตรง ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องทำด้วยสปีดที่เร็ว ปฏิกิริยาการโต้ตอบจะช่วยฝึกการทำงานที่สอดประสานระหว่างสมองและกล้ามเนื้อให้ทำงานได้ดีขึ้น จนในที่สุดคุณจะสามารถกลายเป็นคนที่มีปฏิกิริยาตอบโต้ได้เร็วในสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน

 

4th Benefit: สร้างความมั่นใจ

มันไม่ใช่ว่าการที่คุณเรียนรู้ที่จะแตะต่อยเป็นแล้วจะทำให้คุณมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น แต่ “มวยไทย” จะทำให้คุณได้รู้จักศักยภาพของตัวเอง รู้ว่าร่างกายของคุณสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด และนี่แหละคือสิ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความภูมิใจให้กับตัวคุณเอง “การที่ได้เรียนรู้วิธีการป้องกันตัวเองจะทำให้คุณรู้สึกทึ่งกับร่างกาย” ในขณะที่หลายคนอาจจะปลื้มปริ่มกับรูปภาพเซลฟี่บนโซเชียลที่ผ่านการแต่งมากว่าสิบแอพฯ แต่ “มวยไทย” จะสอนให้คุณรู้คุณค่าที่เป็นตัวตนของคุณจริงๆ

 

5th Benefit: ฝึกสกิลการวางแผนที่รวดเร็ว

การจู่โจมในแต่ละครั้งมันมากกว่าแค่การแตะ หรือต่อยออกไปเท่านั้น มันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เราต้องอาศัยการวางแผนที่ดี เราต้องรูว่าควรจะออกหมัดจังหวะไหน ด้วยน้ำหนักเท่าไหร่ หรือตอนไหนที่ควรหลบหลีก กำลังเป็นสิ่งสำคัญ แต่พลังสมองในการวางแผน วางกลยุทธนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้ามได้ เพราะเราต้องคิดล่วงหน้าไปก่อนคู่ต่อสู้ ทักษะความออกสเต็ปของเท้าก็ต้องใช้การฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน

 

เห็นไหมว่า มวยไทย (Muay Thai)  ไม่ใช่แค่เป็นกีฬาที่ใช้แต่กำลัง แต่ยังได้ฝึกสมองและพัฒนาสกิลต่างๆ ได้อีกด้วย เย็นนี้ไปลองกันซักคลาสไหมที่ เจริญทอง มวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym )

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก paolohospital

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

มวยไทยกับลูกเตะ

สเต็ปลดน้ำหนักด้วยการต่อยมวย

มวยไทย ช่วยฝึกอะไรคุณได้บ้าง?

มวยไทย ช่วยฝึกอะไรคุณได้บ้าง?

แท้จริงแล้วการออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง และยังเป็นการฝึกทักษะบางอย่างทางอ้อมอีกด้วยการต่อยมวยนั้นนอกจากทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกและท้าทายแล้ว แต่ยังจะช่วยฝึกทักษะด้านต่างๆเพิ่มขึ้น

 

 มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยฝึกทักษะด้านต่างๆดังต่อไปนี้

 

1. มีวินัย

        การฝึกซ้อมของ มวยไทย ( Muay Thai ) ก็จะทำซ้ำๆกันทุกวันในเวลาที่แน่นอนด้วยความตั้งใจ และร่างกายพร้อมที่จะซ้อม นี่คือสิ่งที่เป็นการฝึกวินัยให้กับตัวเอง ต้องทำงานทุกวันโดยไม่มีคนมาคอยสั่ง มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถสร้างเสริมวินัยได้เป็นอย่างดี หรือกีฬาประเภทอื่นๆ สามารถสร้างวินัยให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี เช่น รู้จักการแบ่งเวลาในการฝึกซ้อม มีความตรงต่อเวลา ฯลฯ เพราะถ้าหากว่าเราไม่มีวินัยในตัวเองก็จะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ แต่ มวยไทย ( Muay Thai ) จะสอนระบบในการจัดการของตัวเองโดยอัตโนมัติทำให้เรามีวินัยไปในตัว

 

2. ฉลาดมีไหวพริบ

        มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา จะเห็นได้จากหลายการแข่งขันที่ผู้ชนะจะต้องมีหมดทั้งสามอย่างนี้ควบคู่กันไป มวยไทย ( Muay Thai ) จะสามารถปลูกฝังให้มีวิธีคิดที่จะสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก

 

3. อดทน

        กีฬาประเภทนี้ถ้าขาดความอดทนแล้ว จะไม่สามารถเล่นได้เลย โดยเฉพาะเรื่องของการฝึกซ้อม ที่วันหนึ่งๆต้องซ้อมหนักมาก เพราะกีฬานี้ต้องการร่างกายในแบบที่พร้อมถึงขีดสุด หากขาดการฟิตซ้อมนั่นก็หมายถึงการเป็นนักมวยต้องมีความอดทนในการฝึกซ้อม สิ่งที่จะได้จาก มวยไทย ( Muay Thai ) นั่นคืออดทนเป็นอันดับแรก หรือไม่ว่าจะเป็นเพียงการฝึกซ้อมเพื่อป้องกันตัว เพื่อการออกกำลังกายก็ตาม ล้วนแต่ต้องใช้ความอดทนเท่านั้น จึงจะประสบความสำเร็จในด้านกีฬามวยแม้กระทั่งกีฬาประเภทต่างๆ ก็ต้องใช้ความอดทนมาก่อนเหมือนกัน

 

4. กล้าตัดสินใจ

        ก่อนชกนั้นเราอาจจะวางแผนการชกไว้อย่างหนึ่ง แต่เมื่อขึ้นชกจริง เราอาจชกไม่ได้อย่างแผนที่วางไว้เนื่องจากคู่ต่อสู้ของเราอาจเตรียมรับมือไว้แล้ว ทำให้เราต้องตัดสินใจที่จะเปลี่ยนรูปแบบการชกทันที ฉะนั้นการกล้าที่จะตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ มวยไทย ( Muay Thai )  เพื่อที่เราจะมีโอกาสชนะคู่ต่อสู้

 

5. ทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี

        เมื่อขึ้นเวทีสังเวียนจริง นักมวยต้องช่วยเหลือตนเอง ไม่สามารถที่จะพึ่งพิงพี่เลี้ยงได้อีกต่อไป บนเวทีมีคู่ต่อสู้ประจันหน้าอยู่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนแรงกดดันที่นักมวยต้องแบกรับอยู่ตลอดเวลา นักมวยต้องทำงาน คือชกมวยตามแผนที่ตนวางไว้ภายใต้แรงกดดันนี้ นอกจากนี้ยังมีเสียงเชียร์ทั้งจากฝ่ายที่สนับสนุน และฝ่ายที่อยากให้แพ้ การที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันทั้งภายในจิตใจของตนเอง และภายนอกนี้ ช่วยสร้างให้นักมวยมีความแข็งแกร่งและสามารถเผชิญหน้ากับแรงกดดันได้ดี

 

6. กล้าเสี่ยง

        นักมวยไม่ได้ชกคนเดียว ต้องชกกับคู่ต่อสู้ และมีเวลากำหนดไว้แน่นอน ดังนั้นหากนักมวยไม่กล้าชกออกไปตามทิศทางที่ได้วางแผนเอาไว้ ก็เท่ากับว่า เป็นฝ่ายรับอย่างเดียว ไม่มีทางชนะได้แน่นอน ในการที่จะชกมวย จะมีอยู่บางช่วงเวลาที่เราต้องเสี่ยงว่าจะต่อยหมัดหนัก หรือว่าจะแย็บเบิกทาง เหมือนกับที่เวลาจะติดต่อประสานงาน ซื้อขาย หรือทำสิ่งต่างๆกับใครเมื่อหมดหนทางแล้ว เราจะประนีประนอมต่อหรือว่าจะแรงใส่เลย ก็เป็นการเสี่ยงอย่างหนึ่ง

 

7. สุขุมเยือกเย็น

        เมื่อขึ้นไปบนเวทีแล้วสิ่งที่จะช่วยเราให้เอาชนะได้ คือ ความสุขุมเยือกเย็นที่จะตัดสินใจวิเคราะห์ว่าคู่ต่อสู้จะทำอะไร แล้วเราควรจะทำอะไร เพื่อให้ได้วิธีที่ถูกต้องรัดกุมที่สุด จึงต้องมีความสุขุมเยือกเย็นเป็นอย่างมาก

 

8. เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์

        หากใช้แต่อารมณ์มากกว่า ก็จะทำให้ไม่สามารถควบคุมเกมที่วางเอาไว้ได้ เมื่อไม่สามารถควบคุมได้โอกาสก็ตกไปเป็นของคู่แข่ง เมื่อโอกาสเป็นของคู่แข่ง ก็มีสิทธิ์ที่จะพ่ายแพ้ไม่ว่าจะซ้อมมามากเพียงใดก็ตาม

 

9. จิตใจดี

        มวยไทย ( Muay Thai ) นั้นเป็นกีฬาที่ต้องปะทะกันโดยตรง ฉะนั้นการเป็นคนที่มีน้ำใจ ไม่ดูถูก หรือเหยียดหยามผู้แพ้เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องยอมรับให้เกียรติคู่แข่ง กีฬามีแพ้ชนะ ไม่มีใครจะชนะตลอดเวลา สำคัญคือยอมรับความผิดหวัง และชื่นชมให้แก่ผู้ที่ชนะเราในวันนั้นได้และให้คิดว่าในวันหน้ายังมีโอกาส

 

10. เป็นมืออาชีพ

        การเป็นมืออาชีพ คือ การแข่งขันด้วยความเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง นักมวยต้องขยันฝึกซ้อม ทุ่มเทให้กับการแข่งขัน และแม้ว่าจะแพ้ หรือชนะก็ต้องยอมรับในผลที่จะเกิดขึ้น นักมวยต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตนเอง อย่างนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นนักมวยที่มีความเป็นมืออาชีพได้

 

11. ขยัน

        เราต้องอดทนซ้อมเพื่อไม่ให้ร่างกายเราอ่อนแอ ดังนั้นการนำเอามาใช้นอกสนามมวย ก็จะมีประโยชน์มากเพราะต้องมีความขยัน และอดทนกับงานที่เราทำ เพื่ออนาคตที่เราตั้งเป้าไว้ ถึงแม้ว่าเราจะเก่งในด้านการบริหารเวลา และมีความอดทนแล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องขยันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น ต่อให้เรามีประสบการณ์มากเท่าไหร่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแค่ไหน ถ้าเราไม่มีความขยัน ทุกอย่างที่เราเก่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย

 

        การต่อยมวยนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังสามารถช่วยพัฒนาศักยภาพ และทักษะให้คุณมากขนาดนี้ ส่วนใครที่อยากพัฒนาตัวตนจากการต่อยมวยก็อย่ารอช้า  เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) เป็นยิมมวยต้นแบบที่นำ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" กับ "วิทยาศาสตร์การกีฬา" และ "ความรู้ด้านโภชนาการ" มาผสมผสานเข้าได้ด้วยกัน เป็นศูนย์กลางผู้นำช่วยลดน้ำหนัก ศิลปวัฒนธรรมมวยไทย และเชี่ยวชารด้านโภชนาการ นับว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ได้นำมารวมเป็นหนึ่ง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก jobtopgun

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

คุณสมบัติของ นักมวยไทย

รู้ไว้ไม่เสียหาย กติกาในการแข่งขันมวยไทย

วิถี นักมวย แค่หมัดหนัก ยังไม่พอ

วิถี นักมวย แค่หมัดหนัก ยังไม่พอ

     กระแสกีฬามวย กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ทำให้ผู้คนต่างหันมาออกกำลังกายแบบ ชกมวย กันเยอะขึ้น ทว่าวิถีของนักมวยบนผืนผ้าใบ คนที่หมัดหนักที่สุด อาจไม่ได้เป็นผู้ชนะเสมอไปก็ได้

 

เส้นทางกว่าจะมาเป็น ‘นักมวย’

     มีเทรนเนอร์ดี สิ่งแรกคือการเคลื่อนไหวพื้นฐาน ที่เทรนเนอร์จะสอนท่าเบื้องต้น ทั้งการเคลื่อนไหว การป้องกัน การยืนตำแหน่งยามอยู่บนเวที รวมถึงความแคล่วคล่องว่องไว

 

     สภาพความฟิต มองดูภายนอกคุณอาจเป็นนักกีฬาที่ดูดี แต่หากความฟิตไม่ถึง ทุกอย่างเป็นอันจบ การฝึกซ้อมด้วยการออกกำลังกาย อาทิ กระโดดเชือก วิ่ง ลุก-นั่ง คือแนวทางที่จะทำให้คุณไม่หมดแรงง่ายๆบนเวที

 

     ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ คือแนวทางที่ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ โยคะ คือวิธีการที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง แต่ความจริงแล้วมันสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นและฝึกสมาธิไปในตัวด้วย

 

     ควบคุมอาหาร หากคุณเป็นนักมวยที่เตรียมขึ้นชก อาหารประเภทโปรตีนคือสิ่งที่ร่างกายต้องการมากที่สุด อาทิ ปลา ไก่ ไข่ เนย ถั่ว รวมถึงผักผลไม้ และไขมันที่เหมาะสมกับร่างกายอาทิ อะโวคาโด

 

     ยกระดับการออกกำลัง อีกหนึ่งขั้นของการฝึกความอึดและอดทด การจะเป็นนักมวยที่ดี อย่าลืมว่าตลอดการชก ขาของคุณต้องเคลื่อนไหวอยู่บนเวทีตลอดเวลา ฉะนั้นจำเป็นต้องยกระดับการออกกำลังเพื่อเพื่อความอดทน

 

     ฝึกฝนจิตใจ กีฬามวย ไม่ใช่แค่การต่อสู้ด้วยพละกำลังเท่านั้น แต่มันยังวัดถึงความสามารถด้านกระบวนความคิด การตัดสินใจในสถานการณ์เฉพาะหน้าเพียงเสี้ยววินาที นักมวยระดับโลกหลายคน อาทิ มูฮัมหมัด อาลี ,ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ หรือกระทั่งสมรักษ์ คำสิงห์ มีความพิเศษเหล่านี้ ที่นำพาพวกเขาไปสู่ชัยชนะได้

 

4 ปัจจัยหลัก ‘นักมวย’ เมื่อขึ้นชกบนเวที

 

     การป้องกัน หากไม่มีการป้องกันตัวที่ดีหรือประมาทเกินไป ก็อาจถูกน็อคได้ง่ายๆ สิ่งสำคัญคือต้องพยามตั้งการ์ดป้องกันให้ได้ตลอดเวลาเมื่ออยู่บนเวที

 

    ความเร็ว แม้ว่าน้ำหนักหมัดของคุณจะหนักแค่ไหน แต่หากไม่มีความเร็วหรือช้ากว่าคู่แข่งเพียงแค่หนึ่งสเต็ป คุณก็ไม่มีทางที่จะปล่อยหมัดใส่คู่แข่งได้เลย

 

     น้ำหนักหมัด การมีหมัดที่หนักบางทีก็ไม่จำเป็นเสมอไป ต้องหาจังหวะในการชก คืออีกหนึ่งแนวทางที่จะทำให้คุณเผด็จศึกคู่ชก เพราะบางทีแค่หมัดเดียวเน้นๆก็เพียงพอแล้ว

 

     ทั้งหมดนี้คือเส้นทางสู่ความสำเร็จ ที่ใช้ได้ในทุกๆวงการ โดยเฉพาะวงการมวย หากสนใจกีฬาออกกำลังกายประเภทนี้ มาฝึกกับเราได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) กับสาขาที่ใกล้และสะดวกที่สุด ได้เลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook

อ่านบทความที่น่าสนใจ

- ต่อยให้หลับ ฉบับ นักมวยไทย

- อาวุธโจมตีของมวยไทยอันไหนอันตรายที่สุด

สเต็ปลดน้ำหนักด้วยการต่อยมวย

สเต็ปลดน้ำหนักด้วยการต่อยมวย

เดี๋ยวนี้การต่อยมวย ไม่ใช่แค่ กีฬาอย่างเดียวแล้ว การต่อยมวยเทรนด์ตอนนี้คือ ออกกำลังกายแล้ว วันนี้เราจะมาบอกถึงสเต็ปลดน้ำหนักด้วย มวยไทย ( Muay thai ) กันว่ามีอะไรที่หน้าสนใจบ้าง

 

เล่น มวยไทย ( Muay thai ) แล้วได้อะไรบ้างและคำนึงถึงอะไร

 

มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย

     เป้าหมายของการต่อยมวยคือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว 

 

เผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่า

 

การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยานจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง

 

การออกกำลังกายด้วยการ มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่จำเป็นต้องมีคู่ซ้อม สามารถต่อยลม ชกอากาศออกหมัดได้อย่างอิสระ โดยชกตามจังหวะและรูปแบบต่างๆ ที่ครูฝึกแนะนำ รวมทั้งการใช้ศอก การเตะ ทำให้ได้รู้จักกับท่าทางและลีลาของ มวยไทย ไปด้วยในตัว ซึ่งหากคุณได้ออกกำลังกายด้วยการ ต่อยมวย ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า คุณจะได้ใช้ร่างกายเกือบทุกส่วน เบิร์นไขมันได้กระจายเลยที

 

ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น และอดทนต่อความเหนื่อย

มวยไทย ( Muay Thai ) หลักๆ เลยเราต้องอดทนต่อความเหนื่อยล้า แต่เอาเท่าที่ไหว วันนี้ เล่น 20 นาทีพรุ่งนี้เล่น 25 นาทีเป็นขั้นตอนไป ไม่งั้นเราก็จะไม่ไหว ร่างกายเจ็บอีก ดังนั้นการที่เราจะลดน้ำหนักนั้น ต้องอาศัยหลายปัจจัยในการ เล่นมวยไทย ไม่ใช่ว่า อยู่ดีๆ จะเล่น ไม่ได้นะครับต้องศึกษาให้ดี  ทำอย่างไรก็ได้ให้ร่างกายเวลาออกกำลังกายเจ็บน้อยที่สุด

 

เป็นไงกันบ้าง กับบทความ เกี่ยวกับ มวยไทย พวกเรา สามารถทำตามนี้ได้เลย น้ำไปใช้ได้เลยนะครับ เพราะการ เล่นมวยไทย ให้อะไรเรามากกว่าที่เราคิดไว้เยอะ ไม่ใช้แค่เรียนร็ ศิลปะอย่างเดียว  ครูฝึกก็สามารถถามได้ตลอดเลยว่าทำแบบนี้ถูกไหม ไม่ต้องกลัวนะครับ

 

อยาก เรียน มวยไทย (Muay thai) ก็ต้องมีจังหวะในการเริ่มต้นทั้งการวิ่ง การเดิน  เพราสกิล พวกนี้สามารถใช้ได้ในชีวิตจริง เพื่อป้องกันตัวของตัวเอง หากท่าใดกำลังมอง หา ยิบ มวยไทย (Muay thai) สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามได้ตลอดเลยนะครับ  เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฟิตแอนด์เฟิร์ม “มวยไทย” เทรนด์การป้องกันตัวของผู้หญิงยุคใหม่

มวยไทย ช่วยฝึกทักษะอะไรบ้าง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก   jobtopgun

ผู้หญิง ได้อะไรจากมวยไทย

ผู้หญิง ได้อะไรจากมวยไทย

ผู้หญิง กับ มวยไทย คุณรู้ไหมว่าอะไรที่คุณจะได้รับจากการฝึกมวยไทย? ทุกสิ่งที่คุณต้องการจากการออกกำลังกาย เพื่อ หุ่นที่ดี สุขภาพที่ดี ร่างกายที่ดี เชื่อหรือไม่ว่า มวยไทย สามารถสร้างให้คุณได้?

 

     กีฬา มวยไทย เป็นกีฬาที่เห็นได้ชัดถึงความดุดัน แข็งแรง ที่เหล่าผู้ชายนิยมชมชอบกัน แต่ก็มีผู้หญิงอยู่มิใช่น้อย ที่หันมาเอาดีด้าน มวยไทย ฝึก มวยไทย จนสามารถชกล้มผู้ชาย แมนๆ ทั้งแท่ง ได้แบบตัวต่อตัวมาแล้วก็มี ผู้หญิงในยุคปัจจุบันบางส่วนมองเห็นข้อดีของการฝึก มวยไทย ตรงจุดนี้ จึงนิยมหันมาฝึก มวยไทย กัน บ้างก็เพื่อสุขภาพของตน บ้างก็เอาไว้ป้องกันตัว เพราะสิ่งที่คุณจะได้จากการฝึก มวยไทย ล้วนแล้วแต่คุณจะได้รับแบบ 3 in 1 ทั้งสิ้น

 

การต่อยมวย 

     อาจจะดูเป็นกีฬาแรงๆ สำหรับคนแมนๆ เขาเล่นกัน แต่ลองมาออกหมัด, เท้า, เข่า, ศอก ดูก่อน แล้วคุณจะรู้ว่าการต่อยมวยหรือ มวยไทย เหมาะกับผู้หญิงมากกว่าที่คิด แล้วผู้หญิงนี่แหละ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนมวย เพราะนอกจาก มวยไทย จะเป็นศิลปะชั้นเลิศในการป้องกันตัวแล้ว ยังเป็นกีฬาที่สนุก ช่วยลดความเครียด ช่วยเสริมบุคลิกที่ดี สร้างความมั่นใจ ช่วยลดน้ำหนัก ทำให้รูปร่างของสาวๆ สวยกระชับ และเพิ่มความสดใส อ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณได้อีกด้วย

 

10 ครั้งก็เห็นผล

     การฝึก มวยไทย จะช่วยให้คุณได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่ จึงเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่ดี ทั้งช่วยเบิร์นไขมันสะสม และก็เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พร้อมกัน แค่ครั้งละหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงแค่ 10 ครั้ง หุ่นคุณก็จะเฟิร์มขึ้น จนรู้สึกได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เวลาที่คุณออกแรงเตะ, ต่อย ครูฝึกจะสอนให้เปล่งเสียงออกมาเต็มที่ ซึ่งตรงนี้ นอกจากจะช่วยเรื่องระบบการหายใจแล้ว ยังจะทำให้คุณได้ปลดปล่อยความเครียดได้อีกด้วย

 

ฝึก มวยไทย ใช้แคลอรี่มากแค่ไหน

     เรื่องตัวเลขมักสำคัญกับผู้หญิงเสมอ เรารับประกันได้ว่า มวยไทย เป็นการเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการออกกำลังเกือบทุกชนิด แม้กระทั่ง โยคะ, พิลาทิส ข้อแตกต่างที่สำคัญอีกข้อคือการที่การออกกำลังกายด้วย มวยไทย จะได้ใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนพร้อมๆ กัน การเตะหนึ่งครั้ง จะได้ทั้งกล้ามเนื้อไหล่ กล้ามท้องด้านข้าง ไปจนถึงกล้ามเนื้อขา เรียกว่าได้ทั้งตัว ถือเป็นวิธีที่เหมาะสมในการลดน้ำหนัก โดยสองชั่วโมงสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 2,000 แคลอรี่ เลยทีเดียว

 

ดื้อ สวย ดุ

     ต้องทำความเข้าใจกันก่อน ว่าการฝึก มวยไทย ที่เราพูดถึงนี้ ก็คือการฝึกชก, เตะ และท่าทางต่างๆ ของมวยมาประยุกต์เป็นท่าออกกำลังกายเฉยๆ ดังนั้น นอกจากคุณจะได้เบิร์นแล้ว คุณยังได้ฝีไม้ลายมือในการป้องกันตัวติดไปด้วย ถ้าคุณเข้าคลาสเรียนในยิมกับเทรนเนอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านมวยจริงๆ คุณก็จะได้ฝึกพื้นฐานตั้งแต่การยืน, เดิน ไปจนถึงการใช้หมัด, เท้า, เข่า, ศอก แบบครบสูตร จากนั้น ก็จะได้ฝึกกับเป้าและกระสอบทราย และเมื่อคุณคุ้นชินกับท่าทางแล้ว ก็จะมีการสอนให้ว่า หากอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่ปลอดภัย จะมีวิธีการป้องกันตัวอย่างไรได้บ้างด้วย ถือเป็นผลพลอยได้ที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้หญิงเลยทีเดียว

 

     เพราะเหตุนี้ มวยไทย จึงเหมาะสำหรับผู้หญิงมากๆ และหากคุณกำลังมองหาสถานที่ฝึก มวยไทย หรืออยากเรียนมวยไทย มาฝึกกับเราได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) กับสาขาที่ใกล้และสะดวกที่สุด ได้เลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก healthandtrend

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- มวยไทย ช่วยฝึกทักษะอะไรบ้าง

- ต่อย มวยไทย ยังไงให้ลดความอ้วนได้

การไหว้ครูของมวยไทย

การไหว้ครูของมวยไทย

     การไหว้ครูถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ของ มวยไทย ( Muay Thai )  ทั้งนี้ผู้ที่จะได้รับการฝึกฝนให้เป็นนัก มวยไทย ( Muay Thai ) จะต้องมีการขึ้นครู  ซึ่งเปรียบเสมือนพิธีการมอบตนเองอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของครู

 

     การไหว้ครู คือ เป็นการร่ายรำในกีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เพื่อแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณและความเคารพต่อครู มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน เช่นเดียวกับวิชาการหลายแขนงของไทย ที่มักทำการไหว้ครูก่อนและให้มีเครื่องแต่งกาย การสวมมงคลขณะทำการร่ายรำไหว้ครูบนสังเวียน เนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์

 

     ท่าที่นิยมทำการไหว้ครูมากที่สุดคือ พรหมสี่หน้า, หงส์เหิน, ยูงฟ้อนหาง, สอดสร้อยมาลา, พระรามแผลงศร, พยัคฆ์ตามกวาง, เสือลากหาง, สาวน้อยประแป้ง, ลับหอกโมกขศักดิ์ และกวางเหลียวหลัง ฯลฯ

 

     การรำไหว้ครูเริ่มจากนั่ง กราบเบญจางคประดิษฐ์ คุกเข่าถวายบังคม ขึ้นพรหมนั่ง-ยืน ท่ารำ มวยไทย ( Muay Thai ) อาจมีการเดินแปลง ย่างสามขุม การรูดเชือก การบริกรรมคาถา เพื่อสำรวจ ทักทายหรือข่มขวัญซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละค่าย หรือสำนัก โดยมีการบรรเลงดนตรีให้จังหวะในการต่อสู้ซึ่งใช้ "เพลงสะหระหม่าแขก" ใช้ในการไหว้ครู "เพลงบุหลันชกมวย" และ "เพลงเชิด" ใช้ในการต่อสู้ ส่วนเครื่องดนตรีไทยที่ใช้บรรเลงประกอบด้วย ปี่ชวา, กลองแขก และฉิ่ง

         

 

การที่ครูจะรับผู้หนึ่งผู้ใดเป็นศิษย์นั้น ผู้เป็นศิษย์จะต้องให้สัตย์ปฏิญาณต่อครู ให้ศิษย์รับสัตย์ปฏิญาณ 4 ข้อ คือ

1) จะบำรุงร่างกายให้สะอาด แข็งแรง และดำรงชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์

2) จะไม่รังแกผู้อ่อนแอ ร่วมรักสามัคคี และช่วยเหลือกันเมื่อช่วยได้

3) จะบำเพ็ญกรณีเพื่อประโยชน์ผู้อื่น และรักชาติ

4) จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์อันไม่สงบ

 

สาเหตุที่มีการไหว้ครูก่อนแข่ง

 - เพื่อเป็นการอบอุ่นร่างกาย

- เพื่อเป็นการปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ตน

- เพื่อบอกกล่าวบางอย่าง

- เพื่อเป็นการสำรวจพื้นที่ในเบื้องต้น

 

     การไหว้ครูสื่อความหมายให้เห็นคุณค่าด้านวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย มีคุณประโยชน์มากมายทางด้านจิตใจของนัก มวยไทย ( Muay Thai )และผู้ชม มวยไทย ( Muay Thai ) ดังนี้

 

1) ปลูกฝังนิสัยให้เป็น มวยไทย ( Muay Thai ) คือ รู้จักรัก เคารพครูอาจารย์ บิดามารดา ผู้ให้กำเนิด มวยไทย ( Muay Thai )

2) ปลูกฝังจิตสำนึกให้ตระหนักในคุณค่าของศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) เกิดความรักและหวงแหนที่จะอนุรักษ์ให้คงไว้สืบไป

3) เป็นกิจกรรมเผยแพร่เอกลักษณ์ และศิลปวัฒนธรรมประจำชาติได้อย่างสง่างาม สมศักดิ์ศรี

 

                                                                                                ขอขอบคุณข้อมูลจาก medium

 

อ่านบทความอื่นที่น่าสนใจ

คุณสมบัติของ นักมวยไทย

ศอก อาวุธเด็ดสุดอันตรายของ มวยไทย

 

 

คุณสมบัติของ นักมวยไทย

คุณสมบัติของ นักมวยไทย

นักมวยนั้น กว่าจะเป็นต้องมี การฝึก มวยไทย ( Muay thai) ให้คุ้นชิน วันนี้เราจะมาบอกถึงการเป็นนักมวยไทยและคุณสมบัติของคนที่จะเริ่มเล่น มวยไทย นั้นเอง หากเราไม่เตรียมตัวเราก็จะไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

 

การเป็นนักมวยนั้น เราไม่ได้เป็นกันง่ายๆ มวยไทย ( Muay thai) เป็นกีฬาที่ต้องมี สุภาพบุรุษ และ ให้ความเคารพ ซึ่งกันและกัน หากเรา อยากเป็น นัก มวยไทย ( Muay thai)

เมื่อพูดถึงประโยชน์ของการออกกำลัง เรามักจะได้คำตอบว่า การออกกำลังกายทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง และมีความฟิต เพราะเมื่อเราออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง สามารถป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง หรือโรคอื่นๆได้

 

มีวินัย

        การฝึกซ้อมของกีฬามวยก็จะทำซ้ำๆกันทุกวันในเวลาที่แน่นอนด้วยความตั้งใจ และร่างกายพร้อมที่จะซ้อม นี่คือสิ่งที่เป็นการฝึกวินัยให้กับตัวเอง ต้องทำงานทุกวันโดยไม่มีคนมาคอยสั่ง กีฬามวยสามารถสร้างเสริมวินัยได้เป็นอย่างดี กีฬามวยหรือกีฬาประเภทอื่นๆ สามารถสร้างวินัยให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี

 

ฉลาดมีไหวพริบ

        กีฬา มวยไทย ( Muay thai) เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา จะเห็นได้จากหลายการแข่งขันที่ผู้ชนะจะต้องมีหมดทั้งสามอย่างนี้ควบคู่กันไป กีฬามวยจะสามารถปลูกฝังให้มีวิธีคิดที่จะสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก

 

อดทน

กีฬาประเภทนี้ถ้าขาดความอดทนแล้ว จะไม่สามารถเล่นได้เลย โดยเฉพาะเรื่องของการฝึกซ้อม ที่วันหนึ่งๆต้องซ้อมหนักมาก เพราะกีฬานี้ต้องการร่างกายในแบบที่พร้อมถึงขีดสุด หากขาดการฟิตซ้อมนั่นก็หมายถึงการเป็นนักมวยต้องมีความอดทนในการฝึกซ้อม

 

กล้าตัดสินใจ

        ก่อนชกนั้นเราอาจจะวางแผนการชกไว้อย่างหนึ่ง แต่เมื่อขึ้นชกจริง เราอาจชกไม่ได้อย่างแผนที่วางไว้เนื่องจากคู่ต่อสู้ของเราอาจเตรียมรับมือไว้แล้ว ทำให้เราต้องตัดสินใจที่จะเปลี่ยนรูปแบบการชกทันที ฉะนั้นการกล้าที่จะตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ มวยไทย ( Muay thai)

กล้าเสี่ยง

        นักมวยไม่ได้ชกคนเดียว ต้องชกกับคู่ต่อสู้ และมีเวลากำหนดไว้แน่นอน ดังนั้นหากนักมวยไม่กล้าชกออกไปตามทิศทางที่ได้วางแผนเอาไว้ ก็เท่ากับว่า เป็นฝ่ายรับอย่างเดียว ไม่มีทางชนะได้แน่นอน ดังนั้นจึงต้องกล้าเสี่ยง ผลออกมาเป็นอย่างไร ก็ถือว่าเรามี คุณสมบัติในข้อนี้แล้ว

 

 เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์

       มวยไทย ( Muay thai) หากใช้แต่อารมณ์มากกว่า ก็จะทำให้ไม่สามารถควบคุมเกมที่วางเอาไว้ได้ เมื่อไม่สามารถควบคุมได้โอกาสก็ตกไปเป็นของคู่แข่ง เมื่อโอกาสเป็นของคู่แข่ง ก็มีสิทธิ์ที่จะพ่ายแพ้ไม่ว่าจะซ้อมมามากเพียงใดก็ตาม

 

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นะครับที่ทุกคน จะต้องเป็นนักมวยกันได้ เราต้องมี ข้อคิดต่างๆ และมีการอดทนต่อการ โดนแรงกดดันต่างๆ หากใครที่ต้องการเป็นนักมวยหรือ อยากจะฝึกก็ต้องยอมรับเรื่องพวกนนี้นนะครับผม  

 การฝึกฝนจะสำเร็จเห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น ต้องมีวินัยในการฝึก ไม่เช่นนั้นการฝึกของเราจะก็จะล้มเหลวไม่มีประสิทธิภาพ นำมาใช้ก็ไม่ได้ สนใจอยากฝึกมวยไทย เจริญทองมวยไทย (Jaroenthong Muay Thai Gym)

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฟิตแอนด์เฟิร์ม “มวยไทย” เทรนด์การป้องกันตัวของผู้หญิงยุคใหม่

มวยไทย ช่วยฝึกทักษะอะไรบ้าง

ขอขอคุณข้อมูลจาก jobtopgun

มวยไทย ช่วยฝึกทักษะอะไรบ้าง

มวยไทย ช่วยฝึกทักษะอะไรบ้าง

เมื่อใดที่ได้ต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) มักจะทำให้รู้สึกสนุกและท้าทาย แต่รู้ไหมว่าเรายังได้อะไรอีกหลายอย่างจาก มวยไทย มาดูกันว่า มวยไทย ช่วยฝึกทักษะอะไรเพิ่มเติมให้กับเราโดยที่ไม่รู้ตัวบ้าง

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ฝึกให้มีวินัย

     สำหรับนักมวย นักกีฬามวยไทย การฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) จะทำซ้ำๆ กันทุกวัน ในเวลาที่แน่นอน ซึ่งเป็นการฝึกวินัยให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี รู้จักการแบ่งเวลาในการฝึกซ้อม มีความตรงต่อเวลา เมื่อมีวินัยในตัวเองแล้ว ความสำเร็จก็รออยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

 

 

2. มวยไทย ( Muay Thai ) ฝึกความมีไหวพริบ

     มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะในหลายๆ ด้านประกอบเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา โดยสามารถสังเกตได้จากการแข่งขันที่นักมวยจะต้องมี 3 สิ่งนี้ควบคู่กันไป และ มวยไทย ( Muay Thai ) ยังเป็นถือกีฬาที่ทำให้เรารู้จักคิด แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี

 

 

3. มวยไทย ( Muay Thai ) ฝึกความอดทน

     กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความอดทน อดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกาย อดทนและมีวินัยในการฝึกซ้อม ยิ่งหากเป็นนักมวยแล้วจะต้องหมั่นฝึกซ้อม แถมยังต้องซ้อมหนักมากด้วยซ้ำ เพื่อต้องการให้ร่างกายพร้อมถึงขีดสุด ถึงแม้จะเป็นเพียงการฝึกซ้อมเพื่อป้องกันตัว เพื่อการออกกำลังกายก็ตาม ล้วนแต่ต้องใช้ความอดทนด้วยกันทั้งนั้น

 

 

4. มวยไทย ( Muay Thai ) ทำให้กล้าตัดสินใจ

     มวยไทย ( Muay Thai ) แม้จะวางแผนก่อนชกไว้ดียังไง แต่เมื่อขึ้นชกจริงก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากคู่ต่อสู้อาจเตรียมรับมือไว้แล้ว ทำให้เราต้องคิดอยู่ตลอดเวลา และต้องตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการชกใหม่ ทำให้การต่อยมวยทำให้เรากลายเป็นคนที่กล้าจะตัดสินใจ

 

 

5. มวยไทย ( Muay Thai ) ทำให้ทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี

     มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่นักมวยต้องช่วยเหลือตนเอง ต้องต่อสู้ประจันหน้าอยู่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนมีแรงกดดันที่ต้องคอยแบกรับ ไหนจะแรงกดดันจากเสียงเชียร์ทั้งจากฝ่ายที่สนับสนุน และฝ่ายที่อยากให้แพ้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยสร้างให้นักมวยมีความแข็งแกร่งและสามารถเผชิญหน้ากับแรงกดดันได้ดี

 

 

6. มวยไทย ( Muay Thai ) ทำให้กล้าเสี่ยง

     มวยไทย ( Muay Thai ) กีฬาของนักสู้ บางครั้งเราก็ต้องกล้าที่จะปล่อยหมัด กล้าชกออกไปเพื่อสู้กับคู่ต่อสู้ ต้องเสี่ยงว่าจะต่อยหมัดหนัก หรือจะต่อยแบบใด ต้องรู้จักมีรุก มีรับ สลับกันไป หากเป็นฝ่ายรับอย่างเดียวไม่มีทางชนะได้แน่นอน

 

 

7. มวยไทย ( Muay Thai ) ฝึกความสุขุมเยือกเย็น

     เหมือนจะย้อนแย้ง เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) ดูเป็นกีฬาที่ดุดัน ใช้พละกำลัง แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่จะช่วยเราให้เอาชนะได้ คือ ความสุขุมเยือกเย็น ในการตัดสินใจและวิเคราะห์ว่าคู่ต่อสู้จะทำอะไร แล้วเราควรจะทำอะไร เพื่อให้ได้วิธีรับมือคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุด

 

 

8. มวยไทย ( Muay Thai ) ฝึกให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

     มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นกีฬาที่ต้องมีการปะทะกันโดยตรงทั้งร่างกาย และอารมณ์ หากต่อยมวยแล้วใช้แต่อารมณ์มากกว่าเหตุผล จะไม่สามารถคุมเกมที่วางเอาไว้ได้ และจะทำให้โอกาสตกไปเป็นของคู่แข่ง แต่หากเรามีน้ำใจนักกีฬา รู้จักให้เกียรติคู่แข่ง รู้แพ้รู้ชนะ ไม่ดูถูกหรือเหยียดหยามคู่ต่อสู้ ให้อภัย ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ จะสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้อย่างอยู่มัด

 

     การออกกำลังกายด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความฟิต แถมยังช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ได้แข่งขันกับตัวเอง และได้ฝึกทักษะบางอย่างทางอ้อมอีกด้วย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก jobtopgun

 

อ่านบทความที่น่าสนใจ

- ศอก อาวุธเด็ดสุดอันตรายของ มวยไทย

- ออกกำลังกายแบบนักมวยอาชีพ ทำเองได้ที่บ้าน

ฟิตแอนด์เฟิร์ม “มวยไทย” เทรนด์การป้องกันตัวของผู้หญิงยุคใหม่

ฟิตแอนด์เฟิร์ม “มวยไทย” เทรนด์การป้องกันตัวของผู้หญิงยุคใหม่

     เรียกว่าในยุคสมัยนี้ ผู้คนหันมาดูแลใส่สุขภาพ ทั้งในรูปแบบการเลือกทานอาหาร การออกกำลังกายทำให้เทรนด์รักสุขภาพต่างๆ กำลังเป็นกระแสนิยมกันอย่างแพร่หลาย หนึ่งในนั้นคือศิลปะการต่อสู้มวยไทย แต่ผู้หญิงกับการชกมวยมันเข้ากันได้หรอ ไปตามอ่านกันค่ะ

 

     ผู้หญิงสมัยนี้ก็หันมาสนใจเรียนรู้ ด้วยประโยชน์ของมวยไทยที่ช่วยกระชับรูปร่าง หุ่นเฟิร์ม ซึ่งปัจจุบันนั้นท่วงท่าแม่ไม้มวยไทยนั้นได้ถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับการออกกำลังกาย ทำให้กีฬาชนิดนี้ ได้รับความนิยมทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว นำมาซึ่งยิมมวยไทย ที่เพิ่มมากขึ้น ตอบโจทย์ยุคสังคมปัจจุบันที่อันตรายแฝงอยู่ในแทบทุกที่ ทำให้ผลลัพธ์ของการเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่ใช้หมัด ศอก แขนท่อนล่าง ต่างๆ จึงมีลักษณะผสมผสานด้านการต่อสู้เพื่อใช้ป้องกันตัว และเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม

 

หลักการชกมวยไทย

     การชกมวยไทยที่ดี มีหลักสำคัญ คือ มีการป้องกัน ด้วยการยืน มั่นคง เข้มแข็ง สูงเด่น การตั้งแขนป้องกัน (การการ์ดมวย) และการเก็บคาง เปรียบเสมือนป้อมปราการ เท้าหน้า จรดชี้ไปข้างหน้าวางน้ำหนักครึ่งฝ่าเท้า เท้าหลัง วางทแยงเฉียงกว้างกว่าหัวไหล่วางน้ำหนักเศษหนึ่งส่วนสี่ไว้ที่อุ้งนิ้วหัวแม่โป้ง ขยับก้าวด้วยการลากเท้าหลังตามพร้อมที่จะหลอกล่อ ขยับเข้า ออก ตั้งรับและโจมตีตอบโต้ แขนหน้ายกกำขึ้นอย่างน้อยเสมอไหล่ หรือจรดสันแก้ม แขนหลังยกกำขึ้นจรดแก้ม ศอกทั้งสองข้างไม่กางออกและไม่แนบชิด ก้มหน้าเก็บคาง ตาเขม็งมองไปตรงหว่างอกของคู่ต้อสู้ พร้อมที่จะเห็นการเคลื่อนไหวทุกส่วน เพื่อที่จะรุก รับ หรือตอบโต้ด้วยแม่ไม้ ลูกไม้และการแจกลูกต่างๆ มีการเคลื่อนไหวที่องอาจมีจังหวะ มีการล่อหลอกและขู่ขวัญที่มีการเปรียบเทียบว่า “ประดุจพญาราชสีห์ และพญาคชสีห์” อาวุธมวยที่ออกไป ต้องมีเป้าหมายและจุดประสงค์แน่นอน (แต่มักซ้อนกลลวงไว้) มีการต่อสู้ระยะไกล (วงนอก) และระยะประชิด (วงใน) และมีทีเด็ดทีขาดในการพิชิตคู่ต่อสู้[ต้องการและแม่ไม้มวยไทย เป็นท่าต่อสู้ของวิชามวยไทยที่สำคัญที่สุด

 

ประวัติศาสตร์ของมวยไทย

     ปัจจุบันมีการดัดแปลงมวยไทยมาใช้ในกองทัพโดยเรียกว่า “เลิศฤทธิ์” โดยมีการใช้นวมขึ้นเพื่อป้องกันการอันตรายที่เกิดขึ้น

 

     มวยไทยถือว่าเป็นศิลปะการป้องกันตัวและศิลปะการต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธของไทย ที่มีมาแต่ช้านานตั้งแต่สมัยโบราณ และได้ถูกพัฒนามาเป็นกีฬาในรูปแบบมวยไทย ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก aroundonline

กระสอบทราย อุปกรณ์ซ้อม มวยไทย ที่ควรมี

กระสอบทราย อุปกรณ์ซ้อม มวยไทย ที่ควรมี

การซ้อมมวยไทย หากไม่มีคู่ซ้อมสามารถใช้ กระสอบทรายแทนได้ เพราะเป็นอุปกรณ์คู่ใจในการซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) ที่สำคัญอย่างหนึ่ง วัสดุภายนอกทำด้วยผ้าใบหรือหนัง เพื่อป้องกันเจ็บจากการเตะ ต่อย

 

     ตามยิมมวยในสมัยก่อน มักจะมี “กระสอบทรายแบบแขวน” ซึ่งเป็นนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีราคาถูก แต่ปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการติดตั้ง ซึ่งมีความยุ่งยากมากกว่า

 

     ในการติดตั้ง “กระสอบทรายแบบแขวน” จะต้องทำการติดตั้งอย่างน้อย 3 เมตร ทำให้การติดตั้งในพื้นที่ที่มีเพดานไม่สูง ไม่สามารถที่จะทำได้ และก่อนที่จะติดตั้งกระสอบทรายจะต้องยัดทรายหรือเศษผ้าใส่ในตัวกระสอบก่อน หากเลือกเป็นทรายจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหนักและตะขอที่จะใช้แขวน เพราะต้องคำนึงถึงความแข็งแรง ความมั่นคง ที่สามารถรับน้ำหนักได้

 

     แต่ในปัจจุบันมีการใช้ “กระสอบทรายตั้งพื้น” ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากมีขั้นตอนในการติดตั้งง่าย ประหยัดเวลา ไม่ต้องยัดของใส่กระสอบ เนื่องจากระสอบทรายตั้งพื้นส่วนใหญ่จะทำการบุฟองน้ำและหุ้มมาให้เรียบร้อยแล้ว สามารถนำวางในพื้นที่ที่ต้องการใช้ซ้อมได้เลย แต่ควรเผื่อพื้นที่ไว้เล็กน้อยด้านละ 2 เมตร (กระสอบทรายแบบตั้งพื้น มีความสูงไม่เกิน 2 เมตร) และสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

 

     หากอยากมี “กระสอบทราย” สักอันไว้ฝึกซ้อมมวย หรือ ออกกำลังกาย ขอแนะนำกระสอบทรายตั้งพื้น น่าจะเหมาะสมสำหรับยุคปัจจุบันมากกว่า เพราะเคลื่อนย้ายสะดวก ติดตั้งง่าย ไม่สร้างความเสียหายแก่ตัวบ้าน

 

     ข้อดีอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการติดตั้งและเคลื่อนย้ายของ “กระสอบทรายแบบตั้งพื้น” คือ ไม่แข็งจนเกินไป มีการซับแรงในการเตะต่อยแรงๆ ด้วยคอสปริง ทำให้ลดอาการบาดเจ็บได้ ช่วยสร้างบรรยากาศในการฝึกซ้อม ทำให้รู้สึกเหมือนมีคู่ต่อสู้จริง เป็นการกระตุ้นให้อยากออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น

 

ประโยชน์ของ “กระสอบทราย” อะไรกับคุณได้บ้าง

1. ช่วยระบายความโกรธ ระบายความเครียด ใครเจอภาวะเครียดจากการทำงาน หรือ กำลังโกรธใครมาไม่รู้จะระบายยังไง ขอแนะนำให้กลับบ้านมาสวมนวม ชก เตะ ถีบ กระสอบทราย เพื่อระบายอารมณ์ เมื่อคุณได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่แล้ว ความเครียด ความโกรธทั้งหลายก็จะเบาลง

 

2. ช่วยเรียกเหงื่อ ได้กล้ามเนื้อ ได้ร่างกายแข็งแรง เพราะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง การได้ออกแรงใช้พละกำลัง ทำให้ได้เหงื่อ ได้ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ไขมันรอบเอว ต้นขา ต้นแขน ก็จะหายไปด้วยจากการออกกำลังกาย

 

     เป็นอย่างไรบ้างคะ กระสอบทราย มีดีกว่าที่คิดใช่ไหมละ ไม่ว่าจะกระสอบทรายแบบแขวน หรือ แบบตั้งพื้น ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการฝึกซ้อม มวยไทย ( Muay Thai ) และเป็นการออกกำลังกายที่น่าลอง ยังไงก็ลองฝึกซ้อมกันดูนะคะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก monsterpunchthailand

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- อยากเป็นนักมวย หลักต้องดี ขาต้องแข็ง

- ต่อย มวยไทย ยังไงให้ลดความอ้วนได้

ศอก อาวุธเด็ดสุดอันตรายของ มวยไทย

ศอก อาวุธเด็ดสุดอันตรายของ มวยไทย

การใช้ศอก เป็นหนึ่งในอาวุธ มวยไทย ( Muay thai ) ที่มีความอันตราย หากโดนเข้าอย่างจังอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เราจึงอยากพาไปรู้จักกันอาวุธเด็ดแสนอันตรายนี้กันว่าทำไมถึงอันตรายที่สุด

 

     อาวุธ “ศอก” เป็นอาวุธโจมตีที่ใช้พื้นที่น้อย แต่กลับมีอันตรายมากสุด และทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า “ศอก” คือ อาวุธที่อันตรายมากสุดของ มวยไทย ( Muay Thai )

 

     ทำไม “ศอก” ถึงอันตรายที่สุด นั่นก็เพราะว่า อาวุธศอก มีพื้นผิวสัมผัสน้อย ยิ่งพื้นที่การตีน้อย และรวดเร็ว จึงเกิดค่าความดันที่สูงมาก และศอกยังเป็นบริเวณที่แหลมคม มีความแข็งของกระดูก ทำให้เกิดแผลบริเวณใบหน้าได้ง่ายกว่าอาวุธทุกชนิด

 

     เมื่อโดนแรงจากปลายศอก เข้าไปกระทบผิวหนังใบหน้า ความดันที่มีค่าสูงจึงส่งผลให้เกิดแผลแตกได้ง่าย และทำให้สมองมึนงงไปจนถึงขั้นสลบ จนสามารถทำให้ชนะน็อคเอาท์ได้ หรือหากเป็นแผลแตกเหนือเบ้าตา จะส่งผลต่อการมองเห็นนักมวยอีกด้วย

 

     ประเภทของการตีศอก ฟันศอก แบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท ซึ่งแต่ละท่าควรเลือกใช้ให้เหมาะสม ถูกต้องตามสถานการณ์ โดยนักมวยที่เก่งๆ จะสามารถผสมผสานท่าได้อย่างสวยงามและมีชั้นเชิง

 

1. ศอกตี : ศอกที่มีวิถีทางการตีจากบนลงล่าง อาจจะเป็นมุมฉากหรือมุมเฉียงน้อยกว่ามุมฉากก็ได้ บางครั้งอาจบิดตัวตี โดยมีแรงส่งจากไหล่ ลำตัว และเท้า ซึ่งศอกตีแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ศอกตีด้วยศอกหน้า หรือ ศอกนำ และศอกตีด้วยศอกหลัง หรือ ศอกตาม บางท้องถิ่นเรียกว่าศอกสับหรือศอกฟัน เพราะมีวิธีทางมาจากด้านบนลงสู่ด้านล่าง

 

2. ศอกตัด : ศอกที่มีวิถีทางการใช้ตัดผ่านหน้า ขนานกับพื้นจากซ้ายไปขวาหรือจากขวาไปซ้ายไปสู่เป้าหมาย ซึ่งเป้าหมาย คือ ปลายคาง หน้าอก ลิ้นปี่ ใบหน้า

 

3. ศอกงัด : ศอกที่ตั้งขึ้นในท่าการ์ด เวลาใช้ย่อตัวลงพร้อมด้วยทั้งงัดศอกขึ้นในแนวดิ่งในผ่านลำตัวถึงหน้า เป็นการตีศอกจากกลางงัดขึ้นไปข้างบนตรงเป็นมุมฉาก

 

4. ศอกกระทุ้ง : เป็นการใช้ศอกพุ่งออกไปด้านหลัง ในลักษณะกระทุ้ง มักใช้แก้ไขสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ประชิดเข้ามาด้านหลัง

 

5. ศอกกลับ : ศอกที่ตีโดยการหมุนตัวตีกลับไปทางด้านหลัง ตามจังหวะที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนตามเท้า แทนที่จะผ่านหน้าตัวเองเหมือนศอกตีและศอกตัด เปลี่ยนเป็นตีออกไปด้านหลัง เป้าหมายที่ คาง ใบหน้า

 

6. ศอกคู่ : เป็นการตีศอกด้วยแขนสองข้าง

 

     ศอกแต่ละประเภทหากมีความแรง และมีการประสานกันตั้งแต่การบิดเอว การใช้ปลายเท้าส่งแรง รวมถึงการเลือกตำแหน่งของข้อศอกได้ดี จะทำให้ได้เปรียบในการจู่โจมคู่ต่อสู้ สนใจฝึกศิลปะป้องกันตัวด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนเพิ่มเติมได้ที่ เจริญทองมวยไทย ( Jaroenthong Muay Thai Gym )

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก jubtadu

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- อาวุธโจมตีของมวยไทยอันไหนอันตรายที่สุด

- ต่อยให้หลับ ฉบับ นักมวยไทย

ต่อย มวยไทย ยังไงให้ลดความอ้วนได้

ต่อย มวยไทย ยังไงให้ลดความอ้วนได้

พูดถึง มวยไทย ( Muay Thai ) คงจะนึกถึงความบ้าระห่ำใช้พละกำลังอย่างดุเดือดกันใช่ไหมคะ ด้วยเหตุนี้ทำให้ มวยไทย ( Muay Thai ) ถูกนำมาใช้ในการออกกำลังกายจนสามารถลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี

 

     มวยไทย ( Muay Thai )  ไม่ใช่แค่ผู้ชายเท่านั้น แต่ผู้หญิงก็สามารถต่อยมวยได้ ซึ่งในปัจจุบัน มวยไทย ( Muay Thai )  ถูกนำมาประยุกต์ใช้เข้ากับการออกกำลังกายจนได้รับความนิยม แถมยังทำให้คนได้รู้จักกับศิลปะแม่ไม้มวยไทยกันมากขึ้นอีกด้วย ไม่เว้นแม้แต่ดารา นักแสดง ที่เลือกดูแลรูปร่างด้วย มวยไทย ( Muay Thai )

 

     การนำ มวยไทย ( Muay Thai )  มาผนวกเข้ากับการออกกำลังกายนั้น สามารถช่วยให้หุ่นเฟิร์มและลดน้ำหนักได้เร็วกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ เนื่องจากการออกอาวุธของ มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่ว่าจะหมัด เท้า เข่า ศอก ต้องอาศัยแรง พละกำลัง หรือแม้แต่การบิดตัวระหว่างชกอย่างถูกวิธี ก็มีผลต่อการเผาผลาญไขมันด้วยกันทั้งนั้น

 

     คนที่ใช้ มวยไทย ( Muay Thai ) ในการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วยลดความอ้วนได้จริง แถมหุ่นยังฟิตแอนด์เฟิร์มอีกด้วย เพียงแค่ฝึกมวยไทยแค่วันละ 1 ชั่วโมงครึ่งก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้กว่า 1,000 กิโลแคลอรี หากเปรียบเทียบกับกีฬาชนิดอื่นๆ มวยไทยถือว่าเผาผลาญพลังงานได้มากเลยทีเดียว

 

     หลายคนอาจจะมองไม่ออกว่า มวยไทย ( Muay Thai ) จะช่วยลดได้อย่างไร มาเริ่มจากการออกหมัดกันดีกว่าค่ะ เริ่มจาก หมัดตรง’ สามารถช่วยกระชับต้นแขน ลดไขมันบริเวณท้องแขนได้ ‘หมัดฮุค’ การบิดลำตัวซ้าย-ขวาเล็กน้อย สามารถช่วยกระชับสัดส่วนช่วงลำตัว ทำให้รูปร่างเรียวขึ้น ‘หมัดอัปเปอร์คัต’ เป็นหมัดต่อยขึ้นข้างบน จึงช่วยสร้างกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้าจากการพับแขนและสร้างกล้ามเนื้อหัวไหล่จากการยกแขนได้ ส่วนการเตะมวย ถ้าออกแรงเตะเยอะและเร็ว จะยิ่งช่วยสลายไขมัน ทำให้ขาเล็กลง กระชับขา สะโพก ลดเซลลูไลท์ได้ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ว การออกกำลังกายด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) แทบจะเป็นการออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกายเลยก็ว่าได้

 

     การออกกำลังกายด้วย มวยไทย ( Muay Thai ) นอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว ยังช่วยให้มีไหวพริบที่ดีขึ้น มีความอดทน กล้าหาญ และนำไปใช้เป็นศิลปะป้องกันตัวได้ในอนาคต หากใครสนใจเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) สามารถมาเรียนได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม (Jaroenthong Muay Thai Gym) จะมาเดี่ยว มากลุ่มเราก็รับสอน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก goodlifeupdate

อ่านบทความเพิ่มเติม

- อาวุธโจมตีของมวยไทยอันไหนอันตรายที่สุด

- รู้ไว้ไม่เสียหาย กติกาในการแข่งขันมวยไทย

ต่อยให้หลับ ฉบับ นักมวยไทย

ต่อยให้หลับ ฉบับ นักมวยไทย

หมัดเป็นอาวุธต้นๆเลยก็ว่าได้ ที่เป็นขั้นพื้นฐาน นัก มวยไทย ( Muay thai ) แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับหมัดเท่าไร ดังนั้นวันนี้ หมัดใครจะโดนและต่อยอย่างไรให้หลับ แบบนักมวยเรามาสอนกัน

ก่อนเราจะต่อยคู่ต่อสู้เราหลับนั้นจะต้องรู้จักอะไรก่อน

จุดออ่นของคู่ต่อสู้ ว่าอยู่ตรงไหน ถึงแม้เราจะมองยากแต่ถ้าเรารู้แล้ว ถ้าหลายคนเข้าใจผิดว่าวิธีต่อยคนให้หลับคือการต่อยหนักๆอย่างเดียวเท่านั้น

 

เรียนรู้จุดอ่อนที่จะทำให้น็อค

โดยทั่วไปแล้วจุดอ่อนของร่างกายมนุษย์ที่นิยมใช้ในการต่อสู้แบบ มวยไทย ( Muay thai ) คือคาง คอ กกหู ท้ายทอย ลิ้นปี่ ข้อเท้า หรือข้อต่อต่างๆ แต่ที่จริงแล้วมันมีอีกหลายจุดในตำแหน่งของร่างกายที่ผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ใช้กันในชีวิตจริง เพราะในทางปฏิบัติแล้วไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเล่นกล้ามโตเพียงใด ความใหญ่โตของกล้ามเหล่านั้นมันไม่ได้ป้องกันจุดอ่อนหลายๆจุดที่กล่าวมา

 

รู้จักการต่อยให้เป็นและแรง

 โดยต่อยเป็นแนวเส้นตรงเหมือนหอกทิ่มไปเพื่อความเข้มข้นของแรงหมัด และส่งแรงให้สุด รวมถึงเอากระดูกตรงต้นข้อนิ้วชี้ชนคู่ต่อสู้   เพราะส่วนนิ้วชี้เป็นส่วนที่แข็งที่สุด โดยการเล็งเป้า ควรเล็งที่จุดอ่อนของคู่ต่อสู่ ไม่ใช่ส่วนที่แข็ง เพราะแม้ว่าคุณจะต่อยแรง แต่ถ้าโดนจุดแข็งของคู่ต่อสู้  ก็ทำให้เจ็บได้

 

เรียนรู้วิธีต่อยให้เร็ว

แม้ว่าคุณจะรู้วิธีต่อยให้แรงและรู้จุดอ่อนของคู่ต่อสู้อย่างดี แต่หากคุณต่อยไม่เร็วพอและไม่โดนเป้าหมายแล้ว สิ่งที่คุณฝึกมาก็จะเสียเปล่า ดังนั้นคุณต้องรู้วิธีที่จะต่อยให้เร็วเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้คุณหลบได้ทัน

 

จับจังหวะ แบบ มวยไทย ( Muay thai )

 หลายๆครั้งที่เกิดการน็อคเอาท์ขึ้น มันเกิดจากการชกแบบสวนกลับ (Counter) ซึ่งจะก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างมาก หากคุณเรียนรู้วิธีจับจังหวะที่ดี รวมถึงการใช้เชิงมวยหลอกล่อคู่ต่อสู้ก็จะทำให้คุณสามารถใช้วิธีต่อยคนให้หลับได้ในที่สุด

 

เรียนรู้การออกอาวุธ

คนส่วนใหญ่นิยมจะสู้ด้วยหมัดอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้วการออกอาวุธท่าอื่นๆ เช่นการใช้ศอก เข่า เท้า ก็สามารถน็อดคู่ต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน และที่สำคัญคือในบางสถานการณ์คุณจะไม่ออกจะออกหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เรียนรู้ชั้นเชิงมวย

จะช่วยให้คุณเข้าหาและหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้อย่างเหนือชั้นทำให้คุณสามารถใช้วิธีต่อยคนให้หลับได้ในที่สุด จำไว้ว่าหากคุณมุทะลุจะเอาแต่น็อคคู่ต่อสู้ในหมัดแรก นั่นคงไม่ทำให้คุณประสบความสำเร็จแน่ๆ ในทางปฏิบัติแล้วคุณจะต้องมีชั้นเชิงที่จะน็อคคู่ต่อสู้อย่างง่ายๆ

 

การต่อยให้หลับ แบบ มวยไทย ( Muay thai ) นั้นจะต้องมีความอดทนสูง จากการฝึกซ้อมหนักอย่างจริงจัง หากเรามีการ ออ่นซ้อมนั้นก็จะส่งผลบนสนามจริง  การปล่อยหมัดแบบนี้ สามารถใช้ได้ในชีวิตจริงๆ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าอันตรายจะเกิดกับเราตอนไหน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ohlor

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฟุตเวิร์คในตำนานของเส้นทาง มวยไทย

ศิลปะการรุกและรับ ตามแบบฉบับมวยไทย

ออกกำลังกายแบบนักมวยอาชีพ ทำเองได้ที่บ้าน

ออกกำลังกายแบบนักมวยอาชีพ ทำเองได้ที่บ้าน

คาร์ดิโอแบบหนักหน่วง

     หากจะเริ่มออกกำลังกายให้ฟิตแบบนักมวย ควรต้องเริ่มจากการคาร์ดิโอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเสียก่อน ซึ่งการคาร์ดิโอนี้ทำได้ตั้งแต่การ ซิทอัพ / วิ่ง / กระโดดเชือก นั้นเป็นเพราะช่วยฝึกความแข็งแรงของร่างกายในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การดึงข้อ, การบริหารกล้ามเนื้อหลังแขน, การวิดพื้น และการฝึกด้วยลูกบอลเทรนนิ่งในท่าทางต่างๆ

 

Footwork

     แน่นอนว่าไม่มีนักมวยคนไหนที่ไม่รู้จักการ Footwork เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการหลบหลีกหมัดของคู่ต่อสู้ ความว่องไวในการ Footwork จึงเป็นการช่วยเพิ่มความสามารถในการรับมือและต่อสู้กับคู่ชกได้อย่างดีทีเดียว

 

Shadow Boxing

     เรียกว่า การฝึกชกลม เพื่อเป็นการฝึกออกหมัดและท่าทางที่ถูกต้อง ข้อดีของการชกลมนั้นจะรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย

 

Bag Work

    เป็นการต่อยกระสอบทรายที่ถือเป็นการฝึกความแข็งแกร่งของหมัด น้ำหนักหมัด สายตาและความแม่นยำ รวมถึงการป้องกันด้วย

 

Plank

     เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายแต่ทำได้ยากมาก ใครที่เคยลอง Plank จะทราบดีว่าเป็นท่าที่ทรมานที่สุด เพราะเราต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายหลายส่วน เพราะมันจะช่วยสร้างความแข็งแกร่ง บึกบึน ของร่างกายหากใคร ใจแข็ง ทำได้ ถือว่าคุณนั้นสุดยอดเลย

 

     เราทุกคนรู้ดีว่า การลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบหนักๆ นั้นต้องอาศัยทั้งความอดทนและมีวินัยในกับการฝึกอย่างมาก แต่เราเชื่อว่า คุณทำได้อย่างแน่นอน เพราะถ้าคุณไม่ลงมือทำ ก็ไม่เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลง คุณรู้ขนาดนี้แล้ว ผลลัพธ์เปลี่ยนขนาดนี้แล้ว สิ่งเหล่านี้เท่ากับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ในการที่คุณต้องทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ในการฝึกฝนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ แล้วถึงวันที่เปลี่ยนนั้น คุณย่อมภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเองอย่างแน่นอน หากใครอยากเรียนมวยไทยที่ “เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) เป็นค่ายมวยที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งให้คุณได้มาลองเรียนรู้กับเทรนเนอร์ได้นะ ใครสนใจสามารถสอบถามเข้ามาได้นะคะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ignitefightclub

รู้ไว้ไม่เสียหาย กติกาในการแข่งขันมวยไทย

รู้ไว้ไม่เสียหาย กติกาในการแข่งขันมวยไทย

มวยไทย ( Muay Thai ) ศิลปะการต่อสู้ที่มีความโดดเด่น ใช้ร่างกายเป็นอาวุธ ซึ่งปัจจุบันมีการจัดรายการแข่งขันและได้รับความสนใจ วันนี้เรามาทำความเข้าใจกติกาในการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น กันสักหน่อยดีกว่า

 

กติกาในการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น มีหลักเกณฑ์ในการให้คะแนนและการตัดสิน ดังนี้

1. การให้คะแนนการชก

     1.1 การชกที่ได้คะแนน ในแต่ละยก ผู้ตัดสินจะคิดคะแนนให้แก่นักมวยแต่ละคน ตามจำนวนของการชกที่ถูกต้องตามแบบฉบับ มวยไทย ( Muay Thai )

     1.2 การชกที่ไม่ได้คะแนน มีดังนี้

     - การชกที่ละเมิดกติกาข้อใดข้อหนึ่ง

     - ชกถูกแขน ขา ของคู่แข่งขัน ในลักษณะที่คู่แข่งกระทำเพื่อป้องกันตนเองจากอาวุธของคู่แข่งขัน

     - การปล่อยอาวุธที่ไม่มีน้ำหนักหรือแรงส่งจากร่างกาย

 

2. ชนิดของการตัดสิน

     2.1 ชนะโดยน็อคเอาท์ (Win by Knock Out) ถ้าผู้เข้าแข่งขัน “ล้ม” และไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้ภายใน 10 วินาที ให้ผู้เข้าแข่งขันเป็นผู้ชนะน็อคเอาท์

     2.2 ชนะโดยคะแนน (Win by Points) เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการตัดสินเสียงข้างมากจากผู้ตัดสินเป็นผู้ชนะ ถ้าผู้แข่งขันทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บหรือถูกนับสิบพร้อมกัน และไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้ ผู้ตัดสินต้องรวมคะแนนที่ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนได้จนถึงเวลาที่การแข่งขันได้หยุดลง ซึ่งผู้เข้าแข่งขันที่ได้คะแนนมากกว่าเป็นผู้ชนะ

     2.3 ชนะโดยผู้ชี้ขาดสั่งยุติการแข่งขัน (Win by Referee stopping contest)

     - ฝีมืออ่อนกว่ามาก (Out-classed) เมื่อผู้ชี้ขาดเห็นว่า ผู้แข่งขันคนหนึ่งฝีมืออ่อนกว่ามาก หรือถูกชกมากไป ต้องยุติการแข่งขันและให้คู่แข่งขันเป็นผู้ชนะ

     - บาดเจ็บ (Injury) ถ้าผู้ชี้ขาดเห็นว่า ผู้แข่งขันคนหนึ่งมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์พอที่จะแข่งขันต่อไปได้ เนื่องจากได้รับการบาดเจ็บจากการชก หรือ ด้วยเหตุทางร่างกายอื่นๆ ต้องยุติการแข่งขันและให้ผู้แข่งขันเป็นผู้ชนะ ทั้งนี้เป็นสิทธิ์ของผู้ชี้ขาดที่อาจจะหารือกับแพทย์ ซึ่งเมื่อหารือกับแพทย์แล้ว ผู้ชี้ขาดต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

     2.4 ชนะโดยถอนตัว (Win by retirement) ถ้าผู้เข้าแข่งขันถอนตัวจากการแข่งขันด้วยความสมัครใจ เนื่องมาจากอาการบาดเจ็บหรือเหตุอื่น หรือไม่สามารถแข่งต่อไปทันที หลังจากการหยุดพักระหว่างยก ให้คู่เข้าแข่งขันเป็นผู้ชนะ

 

3. การให้คะแนน

     3.1 แต่ละยกมี 20 คะแนน เมื่อสิ้นสุดลงแต่ละยกผู้เข้าแข่งขันที่ดีกว่า มีทักษะมากกว่า จะได้ 20 คะแนน และคู่เข้าแข่งขันจะได้ลดลงไป ถ้าผู้เข้าแข่งขันทั้งสองชกดีเท่ากัน ให้คะแนนคนละ 20 คะแนน

     3.2 คิดคะแนนให้เป็นไปตามเกณฑ์การให้คะแนน คือ 1 คะแนน สำหรับอาวุธที่กระทำถูกต้อง 1 อาวุธ

     3.3 เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง ถ้าได้ให้คะแนนแต่ละยกตามเกณฑ์ข้อ 1 และ 2 แล้วผู้ตัดสินพบว่า คะแนนของผู้เข้าแข่งขันทั้งสองฝ่ายเท่ากัน จะต้องพิจารณาตัดสินผลการแข่งขันให้แก่ผู้แข่งขัน

     - ผู้แข่งขันที่เป็นฝ่ายรุกมากที่สุด หากเป็นฝ่ายรุกเท่ากันให้พิจารณาผู้ที่มีแบบในการชกดีกว่า

     - ผู้แข่งขันที่มีการป้องกันตัวดีกว่า จากการปัดป้อง ปิด จับ รั้ง การหลบหลีกและอื่นๆ สามารถป้องกันอาวุธต่างๆของคู่ต่อสู้จนคู่ต่อสู้ทำอะไรไม่ได้

     3.4 ในการแข่งขันทุกครั้งจะต้องมีการประกาศผู้ชนะ

 

4. การแต่งกาย

     4.1 ต้องสวมกางเกงขาสั้นเพียงครึ่งโคนขา สีแดงหรือสีน้ำเงินตามมุมของตนเอง ไม่ปักโฆษณาเกินกว่า 10 ตารางเซนติเมตร และต้องสวมเสื้อไม่มีแขน สีเสื้ออาจเป็นสีเดียวกับกางเกงก็ได้

     4.2 ไม่สวมรองเท้า เล็บเท้าต้องตัดสั้น ต้องใช้สนับแข้ง สนับศอก สวมที่ศอกและขาทั้งสองข้างตลอดการแข่งขัน และต้องเป็นสนับแข้ง สนับศอกที่คณะกรรมการสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยรับรองเท่านั้น ห้ามใช้ผ้าพันรัดโดยเด็ดขาด

     4.3 สวมมงคลที่ศีรษะเฉพาะเวลาที่ร่ายรำไหว้ครูก่อนทำการแข่งขันเท่านั้น และจะผูกผ้าประเจียดที่โคนแขนข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้างก็ได้ ส่วนเครื่องรางอื่นๆ อนุญาตให้ผูกเอว แต่ต้องหุ้มให้มิดชิดไม่ให้เกิดอันตรายขณะแข่งขัน

     4.4 ต้องสวมกระจับ ที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน เมื่อถูกตีด้วยเข่าหรืออาวุธในการต่อสู้อย่างอื่นจะทำให้บริเวณอวัยวะเพศไม่เกิดอันตราย

     4.5 ต้องใส่สนับฟัน เพื่อป้องกันกระแทกกับส่วนใดส่วนหนึ่งของอวัยวะภายในปาก ผู้แข่งขันที่เจตนาคายสนับฟันระหว่างการแข่งขันจะถูกเตือน หากทำอีกจะถูกตัดคะแนนหรือปรับเป็นผู้แพ้

     ถ้าสนับฟันหลุดออกจากปาก ให้ผู้ชี้ขาดยุติการแข่งขัน โดยนำผู้แข่งขันไปที่มุม ล้างสนับฟันให้สะอาดแล้วใส่คืนกลับเข้าที่ใหม่ ในระหว่างนั้นห้ามพี่เลี้ยงพูดกับผู้เข้าแข่งขันและห้ามให้ดื่มน้ำ

     4.6 ต้องสวมนวม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บบริเวณมือ ซึ่งนวมที่ใช้แข่งขัน ผู้แข่งขันต้องสวมนวมสีแดงหรือสีน้ำเงินให้ตรงกับมุมของตนเอง

     คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะจัดไว้ให้ ไม่อนุญาตให้ผู้แข่งขันใช้นวมของตนเอง และนวมที่ใช้ต้องผ่านการรับรองจากคณะกรรมการบริหารของสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย

     นักมวยน้ำหนักไม่เกินรุ่นเวลเตอร์เวท ใช้นวมขนาด 10 ออนซ์ (284 กรัม) นักมวยน้ำหนักตั้งแต่รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท ใช้นวมขนาด 12 ออนซ์ (340 กรัม)

     4.7 ต้องสวมเครื่องป้องกันศีรษะ เครื่องป้องกันลำตัว ข้อเท้าและข้อศอก ที่คณะกรรมการเตรียมไว้ให้เท่านั้น

     การละเมิดเกี่ยวกับเครื่องแต่งกาย ผู้ชี้ขาดจะไม่อนุญาตให้ผู้แข่งขันที่แต่งกายไม่ถูกต้องเข้าร่วมทำการแข่งขัน ในกรณีที่นวมหรือเครื่องแต่งกายของผู้แข่งขันไม่เรียบร้อยในขณะแข่งขัน ผู้ชี้ขาดจะหยุดการแข่งขันเพื่อจัดให้เรียบร้อย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก kmsaard

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- อาวุธโจมตีของมวยไทยอันไหนอันตรายที่สุด

- คุณจะได้อะไรจาก มวยไทย

ฟุตเวิร์คในตำนานของเส้นทาง มวยไทย

ฟุตเวิร์คในตำนานของเส้นทาง มวยไทย

การเป็นนักมวยหรือการเรียน มวยไทย (Muay thai) นั้นเรื่องแรกที่สำคัญเลยก็คือจังหวะของเท้า หรือเรียก อีกอย่างว่า ฟุตเวิร์คนั้นเอง แล้วฟุตเวิร์คมีความสำคัญต่อ นักมวยอย่างไร มาดูกัน

 

ฟุตเวิร์ค เราเคยได้ยินมานานมากแล้ว สำหรับในวงการนักมวย ไม่เพียงแต่จะช่วยควบคุมจังหวะ ออกอาวุธ  หรือ การขยับตัวในการหลบหลีกหมัดของ อีกฝ่าย และรู้หรือไม่ เป็นสิ่งที่ช่วย ล่อความสนใจให้คู่ต่อสู้ มึนงงและ สายตาย จดจ่ออยู่กับ เท้าเราอีกด้วย เพราะ เราขยับอยู่ตลอดเวลา

 

เคลื่อนไหวสั้นๆแต่เร็วและยืดหยุ่น เพื่อล่อคู่ต่อสู้ มวยไทย (Muay thai)

 

เช่นเดียวกับมวยจีนโดยเฉพาะ Wing Chun (หย่งชุน) ที่เน้นการเคลื่อนไหวเล็กๆ การใช้ฟุตเวิร์คแบบมวยสากลจะเน้นการเคลื่อนไหวสั้นๆแต่เร็วและยืดหยุ่น ทั้งนี้เพื่อให้คุณรุกและหลบคู่ต่อสู้ได้หลากหลายรูปแบบ เพราะหากคุณเคลื่อนไหวยาวๆคู่ต่อสู้จะเดาทางคุณได้ง่ายและคุณจะไม่สามารถมี Balance ที่ดีจากการเคลื่อนไหวยาวๆอีกด้วย

กระโดดเชือก (Jump Rope)

การฝึก มวยไทย (Muay thai) อันดับต้นๆ ก็คือให้กระโดดเชือกโดย ห้ามกระโดดสูงเกินไป เพราะการกระโดดเชือกจะทำให้ร่างกายคุณเรียนรู้จังหวะการเคลื่อนไหวได้อย่างดี ซึ่งหากคุณกระโดดเชือกเข้าขั้นมืออาชีพแล้ว เพียงคุณกระโดดสูงจากพื้นแค่ไม่กี่ centimetre คุณก็สามารถให้เชือกผ่านไปได้

 นอกจากนี้การกระโดดเชือกยังช่วยเสริมกล้ามเนื้อแขนและไหล่ ซึ่งช่วยให้คุณใช้วิธีต่อยให้แรงได้ดีขึ้น ผู้คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่าเป็นนักมวยจะทำได้แค่การเคลื่อนไหวที่รุนแรง แต่ที่จริงการเคลื่อนไหวแบบละเอียดอ่อนเป็นสิ่งที่สำคัญมากกับนักมวย

 

 ยืดหลังตรง

เพราะการยืดหลังตรงตั้งฉากกับพื้นจะทำให้คุณมี  Balance ที่ดี และทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวหลบคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วอีกด้วย อย่างไรก็ดี เราไม่ได้หมายถึงให้ยืดตัวตรงตลอด ในเวลาที่คุณเป็นฝ่ายตั้งรับ การเก็บตัวและตั้งการ์ดเป็นสิ่งที่คุณควรจะทำ

 

ห้ามใช้ส้นเท้าในการเคลื่อนไหว

การใช้ส้นจะทำให้คุณมี Balance ที่แย่ และง่ายต่อการถูกชกให้ล้ม คุณควรใช้ปลายเท้าในการส่งแรงเคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆ โดย มวยไทย (Muay thai) ส่วนใหญ่จะใช้ปลายเท้า เพื่อให้ความเร็วของอาวุธนั้นออกได้ไว

 

เคลื่อนเป็นวงกลมและเท้าด้านหนึ่งอยู่ด้านหน้า

คุณควรเคลื่อนฟุตเวิร์คเป็นวงกลมโดยให้เท้าหนึ่งอยู่ด้านหน้า เพราะการที่มีเท้าด้านหนึ่งอยู่ด้านหล้าและหลังจะทำให้คุณออกแรงหมัดได้แรงและมี Balance ที่ดีกว่า หากคุณเคลื่อนไหวโดยใช้เท้าเป็นแนวระนาบเดียวกันมันจะทำให้คุณไม่มีแรงออกหมัดและโดนชกล้มง่ายๆในเวลาเดียวกัน

 

จังหวะคือตัวชี้เป็นชี้ตายของฟุตเวิร์ค

เช่นเดียวกับดนตรี โน้ตเพี้ยนไม่สำคัญเท่าจังหวะเพี้ยน ดังนั้นนักมวยที่ดีมักจะต้องเคลื่อนไหวตลอดเพื่อให้เกิดจังหวะ ที่ดีมากกว่าการหาตำแหน่งที่เขาจะเดินไปใน Ring ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตุว่านักมวยเก่งๆหลายคนมักมีพรสวรรค์ทางด้านการเล่นดนตรีและการเต้น ในสนามรบคุณไม่มีทางรู้ว่าคุณอยู่ตรงไหนจะปลอดภัยที่สุด แต่หากคุณไม่เคลื่อนไหวแล้วล่ะก็ คุณตายแน่นอน

 

อยาก เรียน มวยไทย (Muay thai) ก็ต้องมีจังหวะในการเริ่มต้นทั้งการวิ่ง การเดิน  เพราสกิล พวกนี้สามารถใช้ได้ในชีวิตจริง เพื่อป้องกันตัวของตัวเอง หากท่าใดกำลังมอง หา ยิบ มวยไทย (Muay thai) สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามได้ตลอดเลยนะครับ  เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

หลักต้องดีขาต้องแข็ง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ohlor

ศิลปะการรุกและรับ ตามแบบฉบับมวยไทย

ศิลปะการรุกและรับ ตามแบบฉบับมวยไทย

ศิลปะการรุกและรับตามแบบฉบับ มวยไทย ( Muay Thai ) เป็นการเลือกใช้ไม้มวยไทยและกลวิธีต่างๆ มาผสมผสานกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

     “ไม้มวยไทย” ที่ใช้ในการชก มวยไทย ( Muay Thai )  ได้แก่ หมัด เท้า เข่า และศอก ซึ่ง การใช้หมัดชกคู่ต่อสู้ เรียกว่า “ไม้หมัด” การใช้เท้าเตะคู่ต่อสู้เรียกว่า “ไม้เตะ” การใช้เท้าถีบเรียกว่า “ไม้ถีบ” การใช้เข่าเรียกว่า “ไม้เข่า” การใช้ศอกเรียกว่า “ไม้ศอก” และยังมีการแบ่งตามลักษณะความสั้น-ยาวของการใช้ไม้มวยไทย โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ไม้สั้น และ ไม้ยาว อีกด้วย

 

ศิลปะการรุก

     ไม้รุก คือ การใช้ไม้มวยต่างๆ มาประกอบกัน เพื่อการโจมตีคู่ต่อสู้ มีทั้งการหลอกล่อและเข้าสู้กันจริง โดยทั่วไปไม้นำของไม้รุกจะเป็นไม้ยาว มีความรวดเร็ว รัดกุม มีหลักมั่นคง และสามารถใช้ไม้อื่นต่อไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ไม้จังหวะแรกว่าได้ผลดีหรือไม่ จึงนิยมใช้ไม้มวยแบบสลับบนล่าง หรือ ซ้ายสลับขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้พะวง ถ้าใช้ไม้รุกเฉพาะส่วน หรือ ส่วนล่างอย่างเดียว จะง่ายต่อการป้องกันแก้ไข

 

     โดยทั่วไปไม้รุก มีตั้งแต่ 1 จังหวะจนไม่จำกัดจำนวน แต่ที่นิยมใช้และได้ผลดี รวมทั้งฝึกหัดได้ง่าย คือ ไม้รุก 1 จังหวะ, 2 จังหวะ และ 3 จังหวะ

 

- ไม้รุก 1 จังหวะ : การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวยเพียงอย่างเดียว เช่น การชกหมัดตรงขวา เตะขวา โยนเข่าขวาหรือด้านที่ถนัดที่สุด

 

- ไม้รุก 2 จังหวะ : การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวย 2 จังหวะ โดยจังหวะที่ 1 เป็นไม้หลอก เพื่อให้คู่ต่อสู้เสียหลัก แล้วตามด้วยใช้ไม้จริงในจังหวะที่ 2 แต่ต้องตามกันไปอย่างรวดเร็ว

 

- ไม้รุก 3 จังหวะ : การรุกเข้าไปแล้วใช้ไม้มวยจังหวะที่ 1,2 และ 3 ติดต่อกัน เช่น ต่อยหมัดนำ หมัดตรง แล้วเตะตาม หากฝึกจนเกิดความชำนาญจะสามารถใช้ไม้สั้น เช่น ศอก เข่า หมัดตวัด หมัดงัด เป็นไม้นำได้เช่นกัน

 

ศิลปะการรับ

      ไม้รับ คือ การนำเอาไม้มวยต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขการจู่โจมของฝ่ายรุก ไม้มวยชนิดหนึ่งอาจแก้การจู่โจมของไม้มวยชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดได้ หรือแก้ทีละไม้ เช่น แก้การต่อย แก้การเตะ แก้การถีบ แก้การศอก แต่ในการชกมวยจริงๆ ไม่ได้ชกหรือเตะเพียงจังหวะเดียว แต่จะรุกเป็นชุด จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขการจู่โจม เช่น การถอยออกให้พ้นระยะ เพื่อไม่ให้ถูกอาวุธของคู่ต่อสู้ การหลบหลีก การปัดป้อง และการตอบโต้ ซึ่งมีทั้งการชิงลงมือก่อน การถอยแล้วตอบโต้ การหลบหลีกแล้วตอบโต้

 

1. การหลอกล่อ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้คู่ต่อสู้เข้าใจผิด หรือเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางได้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะต่างๆ โดยไม่เคลื่อนที่ไปจากที่เดิม แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ

- หลอกด้วยสายตา : มองสูงแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่ต่ำ หรือ มองต่ำแต่ใช้ไม้มวยไปสู่เป้าหมายที่สูง

- หลอกด้วยศีรษะ : การเคลื่อนไหวศีรษะไปมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อให้คู่ต่อสู้หลงทาง

- หลอกล่อด้วยการเคลื่อนไหวลำตัว : การอาศัยความอ่อนตัว เช่น การโยกเอวหรือโยกลำตัวไปทางซ้ายและขวา

 

2. การถอยให้พ้นระยะ คือ การถอยให้ห่างจากคู่ต่อสู้ อาจกระโดดเคลื่อนเท้าถอยหลัง หรือก้าวถอยหลัง แต่ต้องให้พ้นระยะไม้มวยของคู่ต่อสู้ ในการถอยเมื่อพ้นระยะแล้ว จะต้องอยู่ในท่าที่พร้อมจะตอบโต้คู่ต่อสู้ทันที

 

3. การโยกตัวหรือการเอนตัวให้พ้นระยะ คือ การโยกตัวหรือเอนตัวออกให้พ้นระยะคู่ต่อสู้

 

4. การหลบหลีก คือ การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อหลบหลีกไม้มวยของคู่ต่อสู้ที่จู่โจมมา อาจใช้วิธีก้มตัวหลบด้านซ้ายและขวา

 

5. การปัดให้เบี่ยงเบนออกไป คือ การใช้มือหรือแขนปัดไม้มวยไปยังเป้าหมายอื่น

 

6. การปัดป้อง คือ การใช้ส่วนต่างๆ ที่แข็งแรงของร่างกายปัดป้องอวัยวะที่เป็นจุดอ่อนของร่างกาย เช่น การใช้เข่าปัดป้องท้อง รวมถึงบริเวณลำตัว การใช้ศอกและเข่าบริเวณหน้าอก

 

7. การบังเกาะจับ คือ การบังไม่ให้ไม้มวยคู่ต่อสู้ปะทะกับตัวเรา การบังนั้นจะต้องอาศัยการผ่อนแรงถูกจังหวะและเหมาะสมจึงจะได้ผลดี เมื่อบังเกาะจับได้แล้ว ก็สามารถใช้ไม้มวยตอบโต้ได้ทันที

 

8. การทำให้ล้ม ในมวยไทยมีหลายแบบ แต่ที่ถูกต้องตามกติกาคือ ใช้วิธีการบังเกาะจับแล้วผลักให้ล้ม หรือการกอดรัดแล้วเหวี่ยงให้ล้ม

 

     และนี่คือ ศิลปะการรุก (ไม้รุก) และศิลปะการรับ (ไม้รับ) ที่น่าสนใจของ มวยไทย ( Muay Thai ) เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่จริงๆ แล้วต้องอาศัยความชำนาญจากการหมั่นฝึกซ้อม เพื่อให้เลือกใช้ไม้มวยไทยและกลวิธีต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ohlor

อ่านบทความน่าสนใจ :

- อาวุธโจมตีของมวยไทยอันไหนอันตรายที่สุด

- เทคนิค ฝึกสายตาให้ไวเหมือนนักมวย

“ชกมวย” ท่าง่ายๆ แต่เรียกเหงื่อได้มากมาย

“ชกมวย” ท่าง่ายๆ แต่เรียกเหงื่อได้มากมาย

     การออกกำลังกายด้วยการชกมวยนี้ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้เราได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนที่สำคัญ ใครกำลังลดน้ำหนักอยู่ แนะนำว่าชกมวยนี่แหละเป็นตัวเลือกที่ดีทั้งได้เบิร์นไขมัน และบิ้วต์กล้ามเนื้อไปพร้อมๆ กัน แต่จะชกอย่างไร มาเรียนรู้ทิปง่ายๆ ก่อนไปเข้าคลาสจริงจังกันเถอะ

 

ประโยชน์ต่อร่างกาย : การชกมวยเป็นการออกกำลังทั้งร่างกาย เป็นการช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างไม่ต้องสงสัย คุณจะได้บริหารร่างกายตั้งแต่หน้าท้อง แขน ขา และหลัง ในคราวเดียว

 

 ประโยชน์ต่อจิตใจ : การชกมวยเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียด และความรู้สึกด้านลบในใจให้ออกมาจากการลงนวมในแต่หมัด  แถมยังเป็นการฝึกการทำงานของแขนและสายตาให้สัมพันธ์กันอีกด้วย

 

ท่าที่ 1  Double Jab

     เริ่มจากยืนเอียงซ้าย 45 องศา ยื่นเท้าซ้ายมาด้านหน้า ตั้งการ์ดกำหมัดอยู่สูงประมาณคอ จากนั้นออกหมัดซ้ายเป็นแนวตรง เบิ้ล 2 ครั้ง พร้อมทั้งก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย และตามด้วยหมัดขวาเป็นแนวตรง // ทำสลับทั้งซ้ายและขวา เซทละ 20 วินาที เป็นจำนวน 5 เซท
 

ท่าที่ 2  Jab Hook

     ยืนเอียงซ้าย 45 องศา ยื่นเท้าซ้ายมาด้านหน้า ตั้งการ์ดกำหมัดอยู่สูงประมาณคอ จากนั้นออกหมัดซ้ายเป็นแนวตรง และตามด้วยหมัดขวาข้างลำตัว เซทละ 20 วินาที เป็นจำนวน 5 เซท

 

ท่าที่ 3  Squat Upper Cut

     ยืนเอียงซ้าย 45 องศา ยื่นเท้าซ้ายมาด้านหน้า ตั้งการ์ดกำหมัดอยู่สูงประมาณคอ ย่อตัวลงให้สุด จากนั้นลุกขึ้นพร้อมออกหมัดเสย ทำสลับซ้ายและขวา เซทละ 20 วินาที เป็นจำนวน 5 เซท

 

ท่าที่ 4 Sitting Punches

     นั่งลงกับพื้น พร้อม ชันเข่าขึ้น เกร็งลำตัว เอียงไปทางด้านหลังเล็กน้อยเป็นรูปตัว V จากนั้นออกหมัดซ้าย – ขวาเป็นแนวตรง เซทละ 20 วินาที เป็นจำนวน 5 เซท

 

     หากเพิ่งเริ่มต้นฝึก ให้ทำท่าตามครูฝึกและเรียนรู้ท่าไปทีละนิด จดจำวิธีการ ท่าทางแล้วไปฝึกต่อที่บ้าน และอย่าแปลกใจหากสองสามอาทิตย์แรกคุณจะมีร่องรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำ นั่นเป็นเครื่องยืนยันว่าคุณได้ใช้กล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ในการเริ่มฝึกชกมวยครั้งนี้ของคุณ

 

     ใครที่อ่านแล้วรู้สึกฮึกเหิมในใจและอยากจะใส่นวมเตะต่อยออกกำลังกายบ้าง ขอเชิญที่ เจริญทอง มวยไทยยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym )

 

  ขอขอบคุณข้อมูลจาก amarintv

มวยไทย การออกกำลังกายแบบใหม่ที่ได้รับความนิยม

มวยไทย การออกกำลังกายแบบใหม่ที่ได้รับความนิยม

การออกกำลังกายด้วยการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) ได้รับความนิยมมากขึ้น สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความอดทน และสร้างการทรงตัวให้ดีขึ้นได้ สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัยได้พัฒนาสมรรถภาพร่างกายของตนเอง

 

     ใครที่กำลังหากิจกรรมออกกำลังกายแบบน่าสนใจ และได้พัฒนาสมรรถภาพร่างกาย ขอแนะนำการออกกำลังกายด้วยการ ต่อยมวย แบบ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ได้นำเอาศิลปะการต่อสู้มวยไทยมาปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยกลายเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม สามารถช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมัน รวมทั้งเพิ่มความแข็งแรง ความอดทน และการทรงตัวของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น  

 

     การออกกำลังกายด้วยการ มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่จำเป็นต้องมีคู่ซ้อม สามารถต่อยลม ชกอากาศออกหมัดได้อย่างอิสระ โดยชกตามจังหวะและรูปแบบต่างๆ ที่ครูฝึกแนะนำ รวมทั้งการใช้ศอก การเตะ ทำให้ได้รู้จักกับท่าทางและลีลาของ มวยไทย ไปด้วยในตัว ซึ่งหากคุณได้ออกกำลังกายด้วยการ ต่อยมวย ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า คุณจะได้ใช้ร่างกายเกือบทุกส่วน เบิร์นไขมันได้กระจายเลยทีเดียว

 

     มวยไทย ( Muay Thai ) ไม่เหมือนกับการออกกำลังประเภทอื่น เพราะการ ต่อยมวย จะเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาทีแต่มีความเนื่อง การเคลื่อนไหวเน้นหนักเป็นจังหวะสั้นๆ เหมือนการออกกำลังกายแบบ HIIT ( High-Intensity Interval Training ) ที่ออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงเวลาสั้นๆ นั่นเอง ทำให้การต่อยมวยช่วยเพิ่มความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ ได้พัฒนาพลังกล้ามเนื้อส่วนบนและล่าง โดยเฉพาะเวลาที่ขยับแขนและไหล่ จะเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายด้านบน และในขณะที่ใช้ขาเตะ จะเป็นการพัฒนากล้ามเนื้อลำตัว กล้ามเนื้อขา และกล้ามเนื้อหลัง ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้อัตราการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นไปด้วย ทำให้มีพละกำลัง มีแรงมากขึ้น

 

     สำหรับมือใหม่ที่อยากเรียน มวยไทย ( Muay Thai ) ควรเริ่มต้นจากการชกมวยแบบเบาๆ ไม่หนักมาก ไม่รุนแรงมาก เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวได้แล้ว จึงค่อยๆ เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นตามที่ร่างกายทนไหว เพื่อพัฒนาพัฒนาสมรรถภาพร่างกายของตนเองใหแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ไม่ควรหักโหม หรือ เคลื่อนไหวร่างกายแบบฉับไวจนเกินไป เพราะอาจทำให้บาดเจ็บบริเวณ หลัง เข่า สะโพก และไหล่ ได้

 

     เห็นไหมคะว่า การออกกำลังกายด้วยการต่อย มวยไทย ( Muay Thai ) น่าลองแค่ไหน ใครอยากพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ อยากลองต่อยมวยเรามีที่ดีๆ อย่าง “เจริญทอง มวยไทย ยิม” ( Jaroenthong Muay Thai Gym ) ให้คุณได้มาลองกัน จะมาเดี่ยว หรือ มาเป็นกลุ่ม เราก็พร้อมให้บริการ เข้ามาตอนไหน คลาสจะเริ่มทันที แล้วเจอกันนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก fitalika

อ่านบทความเพิ่มเติม :

- รู้หรือไม่? การออกหมัด มวยไทย มีกี่แบบ

- มวยไทยหุ่นสวย ป้องกันตัวได้

- คุณจะได้อะไรจาก มวยไทย

หลักต้องดีขาต้องแข็ง

หลักต้องดีขาต้องแข็ง

การที่เราจะเป็นนักมวย เราต้องมีหลักที่ดีเพื่อการทรงตัวเป็นอันดับแรก ถ้าเราไม่มีก็จะเสียหลักพลาดท่าได้นั้นเองวันนี้เราจะมาสอนท่าออกำลังกายที่ทำให้ขาแข็งแรงและสมดุลดีมาก

 

ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ

นอกจากปรับเปลี่่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารแล้ว ควรออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อควบคู่กัน การออกกำลังกายฝึกกล้ามเนื้อ (Strength Training) คือการออกกำลังกายเสริมสร้างการทรงตัวที่สำคัญ

 

วิดพื้น  

วางมือทั้งสองข้างบนพื้นไม่ให้ล้ำหน้าหัวไหล่ ยืดแขนจนสุด เหยียดขาให้ตรงโดยหัวเข่าไม่แตะพื้น จากนั้นงอข้อศอกให้หน้าอกลดต่ำลง ห่างจากพื้นประมาณ 2 นิ้ว แล้วดันตัวขึ้นมาจากพื้น

 

กระโดดเชือก การกระโดดเชือกจำให้ขาได้ใช้เยอะมาก ทำให้เรามีกล้ามเนื้อที่ขานั้นเอง

 

เดิน ต้องเดินเป็นระยะที่เรากำหนดไว้ แต่ไม่ต้องถึงออ่นล้าเลยก็ได้

 

วิ่ง ต้องเป็นวิ่งที่ใช้ความเร็วเท่านั้นจะทำให้ขานั้นแกร่งเกรง และมีกล้ามขานั้นเอง

 

กำหนดระยะเวลาในการออกกำลังกาย

ลองคิดสิว่าเรามีหรือสามารถหาเวลาบริหารขาอย่างสม่ำเสมอได้มากแค่ไหนในแต่ละสัปดาห์ ระยะเวลาในการออกกำลังกายที่เรามีจะช่วยให้เราเลือกท่าออกกำลังกายสำหรับบริหารขาที่ได้ผลกับตนเองมากที่สุด

 

ตัดสินใจว่าต้องใช้อุปกรณ์ในการออกกำลังกายหรือไม่. ก่อนที่จะเริ่มวางแผนออกกำลังกายเพื่อบริหารขา ลองคิดดูก่อนว่าเราต้องใช้ลู่วิ่งหรือเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ ที่ยิมหรือไม่ หรือเราจะเน้นออกกำลังกายอย่างง่ายๆ ที่บ้าน

 

คิดว่าอยากให้ขามีความแข็งแรงถึงระดับไหน.

 ถ้าเราเป็นนักกีฬาที่พยายามเสริมสร้างกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง การออกกำลังกายของเราก็อาจหนักกว่าและมีแรงกระแทกสูงกว่าการออกกำลังกายของคนทั่วไป ถ้าเราต้องการทำให้กล้ามเนื้อขาแน่น แข็งแรง

 

ทำท่าบริหารร่างกายให้ถูกต้อง. 

เราต้องทำท่าบริหารร่างกายให้ถูกต้องเพราะจะทำให้การออกกำลังกายได้ผลดี พยายามทำหลังให้ตรงและอย่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อขามากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

 

การออกำลังกายแบบทำให้ขานั้นแข็งแรง ก็จะทำให้เรามีหลักที่ดี ดังนั้น อยากเป็นนักมวยต้องมีหลักที่ดีนะครับ

 

หากท่านใดกำลังมองหา สถานที่เล่นมวยต่อยมวย หรืออยากเรียนมวยจริง ๆ เราขอแนะนำjaroenthongmuaythaikhaosan  อยู่แถวถนนข้าวสาร มาได้ทุกวันนะครับ ให้เราเปิดประสบการณ์เป็นนักมวยของคุณ

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก th.wikihow

กระจับอุปกรณ์ป้องกันสำคัญ

กระจับอุปกรณ์ป้องกันสำคัญ

ดูจากในทีวีอาจจะไม่เจ็บหรือจุก แต่รู้สึกได้เลยว่า ต้องล้มตัวแน่ๆ นักมวย ลูกเตะ ส่วนใหญ่จะไม่มีจากล่างขึ้นบนตรงๆเพราะจะโดนกล่องดวงใจกระจับเลยเป็นเครื่องรางสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องมีทุกคน

 

ซึ่งด้วยกติกา มวยไทย ( Muay Thai ) การแต่งกายของนักมวยนั้น หนึ่งในนั้นที่ทุกคนต้องใส่ก็คือ กระจับ เพราะป้องกันอันตรายจากเข่าและลูกเตะที่อาจไม่ได้ตั้งใจโดนกล่องดวงใจ

 

กระจับ (กระจับนักมวย)  คืออุปกรณ์ป้องกันตัวอย่างหนึ่งในกีฬาชกมวยหรือรวมถึงศิลปะต่อสู้ชนิดอื่น ที่นักมวยจะต้องสวมใส่เพื่อให้เกิดความกระชับและป้องกันแรงกระแทกที่จะเกิดบริเวณอวัยวะเพศ เนื่องจากในกีฬาประเภทนี้มีความเสี่ยงที่จะพลาดพลั้งทำให้บาดเจ็บบริเวณท้องน้อยและช่วงขาหนีบได้ง่าย แม้จะมีกติกากำหนดห้ามไว้แล้วก็ตาม เช่น กีฬามวยมีกติกาห้ามชกใต้เข็มขัด เป็นต้น

 

กระจับนักมวยมีการออกแบบในหลายลักษณะเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ในอดีตนั้นรูปร่างกระจับเป็นที่รู้จักกันจะเป็นแบบที่ใช้สำหรับนักมวยไทย เป็นแบบดั้งเดิมคือมีลักษณะเป็นแค่ถ้วยกระเปาะ ทำจากโลหะขนาดพอเหมาะสำหรับปกปิดด้านหน้าของอวัยวะเพศชายและถุงอัณฑะเท่านั้น

 

และใช้เชือกผูกร้อยให้แน่นกับเอวและง่ามขา โดยนักมวยจะผูกกระจับไว้นอกกางเกงชั้นในก่อนจะสวมกางเกงมวยอีกชั้นหนึ่ง ขณะที่กระจับในการแข่งขันสากลแทนที่จะร้อยเชือกแบบเดิมก็มีการนำเอากระเปาะ ดังกล่าวไปสวมเข้ากับกางเกงสปอตเตอร์

 

ปัจจุบันกระจับได้ถูกออกแบบให้เหมาะสมสำหรับนักกีฬามากขึ้น โดยมีการผลิตออกมาเป็นการเฉพาะให้เหมาะสมกับสรีรร่างกายและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการบาดเจ็บได้สูงสุด เช่น กระจับในกีฬามวยสากลจะออกแบบให้ครอบคลุมได้ทั่วทั้งบริเวณท้องน้อย

 

มักทำจากแผ่นโฟมพลาสติกหุ้มด้วยหนังเพื่อให้มีการดูดซับแรงกระแทกได้ดีขึ้นต่างจากโลหะ และติดแถบยางยืดในตัวแบบกางเกงสปอตเตอร์ทำให้ใส่ขณะฝึกซ้อมได้ง่าย ทำให้ใส่ทับกางเกงมวยไว้ภายนอกได้ นอกจากนี้ยังมีการผลิตกระจับเฉพาะสำหรับนักกีฬาเพศหญิงด้วย

 

ประโยชน์ด้านความปลอดภัย

 

เนื่องจากบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ของทั้งเพศชายและเพศหญิงมีความเปราะบางต่อแรงกระแทกและบริเวณนี้ยังมีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดมาเลี้ยงมากทำให้เกิดความเจ็บปวดได้อย่างรุนแรง จึงมีความจำเป็นต้องหาอุปกรณ์ที่เป็นเกราะป้องกันมาใช้ในกีฬาที่ต้องปะทะร่างกายกัน

 

 ในกีฬาชกมวยการโดนต่อยถูกไข่ด้วยหมัดแม้จะใส่นวมก็อาจทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โดยแรงชกอาจทำให้อัณฑะแตก องคชาติหักกระจับจึงช่วยเป็นเกราะป้องกันแรงกระแทกโดยตรง นอกจากนี้ผลจากการครอบรัดอวัยวะเพศอย่างแน่นหนาจะช่วยป้องกันการขาดเลือดจากการบิดหมุนของอัณะฑะ

 

รู้แบบนี้แล้วการใส่กระจับนั้น ปลอดภัยที่สุด ผู้ชายคงจะเข้าใจได้ เพราะช่วยลดอันตรายได้จริงๆ นอกจากสังเวียนที่เราจะต้องใช้งานในการชกต่อย  เรื่องบนเตียงเราก็ต้องชกต่อยเหมือนกันนะครับ ดังนั้นรักษาไว้เถอะครับ

 

หากท่านใดกำลังมองหา สถานที่เล่นมวยต่อยมวย หรืออยากเรียนมวยจริง ๆ เราขอแนะนำjaroenthongmuaythaikhaosan  อยู่แถวถนนข้าวสาร มาได้ทุกวันนะครับ ให้เราเปิดประสบการณ์เป็นนักมวยของคุณ

ด้วยความปราถนาดีจาก  jaroenthongmuaythai

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก muaythaiinstitute

ออกกำลังกายแบบนักมวยได้ที่บ้าน

ออกกำลังกายแบบนักมวยได้ที่บ้าน

นักลดน้ำหนักสมัยนี้มองเห็นว่าการที่เราออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์และรู้ถึงสุขภาพที่แข็งแรงและคนหันมาสนใจลดน้ำหนักสไตล์มวยก็มาขึ้นเพราะว่าได้ทุกส่วนของร่างกายวันนี้เรามีวิธีมาบอกกัน

 

     การออกกำลังกายแบบนักมวยจึงมีความหนักหน่วงมากกว่าการออกกำลังกายแบบปกติ ถ้าคุณอยากจะมีร่างกายที่ฟิตปั๋งแบบนักมวยมืออาชีพลองทำตามเทคนิคที่เรานำฝากคุณในวันนี้ดู รับรองว่าคุณจะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งของร่างกายคุณเสมือนว่าเป็นนักมวยมือาชีพอย่างแน่นอน

 

คาร์ดิโอแบบหนักหน่วง


หากจะเริ่มออกกำลังกายให้ฟิตแบบนักมวย ควรต้องเริ่มจากการคาร์ดิโอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเสียก่อน ซึ่งการคาร์ดิโอนี้ทำได้ตั้งแต่การ ซิทอัพ / วิ่ง / กระโดดเชือก ซึ่งไม่ใช่การกระโดดเชือกแบบทั่วๆ ไปแต่เป็นการฝึกที่มีรูปแบบการกระโดดที่หลากหลาย และการฝึกความแข็งแรงของร่างกายในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การดึงข้อ, การบริหารกล้ามเนื้อหลังแขน, การวิดพื้น และการฝึกด้วยลูกบอลเทรนนิ่งในท่าทางต่างๆ

 

Footwork

 

แน่นอนว่าไม่มีนักมวยคนไหนที่ไม่รู้จักการ Footwork เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการหลบหลีกหมัดของคู่ต่อสู้ ความว่องไวในการ Footwork จึงเป็นการช่วยเพิ่มความสามารถในการรับมือและต่อสู้กับคู่ชกได้อย่างดีทีเดียว

 

Shadow Boxing 

 

หรือการฝึกชกลม เพื่อเป็นการฝึกออกหมัดและท่าทางที่ถูกต้อง ซึ่งนักมวยคนดังอย่าง แมนนี่ ปาเกียว เคยบอกว่า การฝึกชกลมเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างเทคนิคการชก รวมไปถึงการรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย และที่สำคัญ Shadow Boxing สามารถฝึกที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าจะให้เห็นผลเร็วมากที่สุดแนะนำให้ไปฝึกบริเวณชายหาดหรือบ่อทราย เพราะทรายจะช่วยยึดลำตัวช่วงล่างไว้ ทำให้เราสามารถขยับช่วงบนได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น

 

Bag Work 


หรือการต่อยกระสอบทรายที่ถือเป็นการฝึกความแข็งแกร่งของหมัด น้ำหนักหมัด สายตาและความแม่นยำ รวมถึงการป้องกันด้วย แต่ถ้าเราไม่มีกระสอบทรายให้แนะนำต่อย เตียงหรือ ปอกหมอน ถ้าให้ดีต้องต้นกล้วยครับ

 

Plank

 

นับว่าเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายแต่ทำได้ยากมาก ใครที่เคยลอง Plank จะทราบดีว่าเป็นท่าที่ทรมานที่สุด เพราะเราต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายหลายส่วน ซึ่งท่า Plank เป็นการออกกำลังกายพื้นฐานที่นักมวยทุกคนให้ความสำคัญ เพราะมันจะช่วยสร้างความแข็งแกร่ง บึกบึน ของร่างกายส่วนกลางให้ทนทานต่อหมัดของคู่ต่อสู้ที่จะโจมตีเราบริเวณลำตัว

 

     การออกกำลังกายแบบนักมวยในฉบับที่บ้านนั้นจะได้เห็นได้ว่าใช้พลังงานสูง และจำกัดเพื่อนที่ที่ออกมากเลยทีเดียว แต่หากท่านใดกำลังมองหา สถานที่เล่นมวยต่อยมวย หรืออยากเรียนมวยจริง ๆ เราขอแนะนำjaroenthongmuaythaikhaosan  อยู่แถวถนนข้าวสาร มาได้ทุกวันนะครับ ให้เราเปิดประสบการณ์เป็นนักมวยของคุณ

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  ignitefightclub

อาวุธโจมตีของมวยไทยอันไหนอันตรายที่สุด

อาวุธโจมตีของมวยไทยอันไหนอันตรายที่สุด

ศิลปะการต่อสู้ “มวยไทย” ( Muay Thai ) ที่ใช้เพียงแค่มือเปล่า เท้าเปล่า ก็สามารถเล่นงานคู่ต่อสู้ได้อยู่หมัด มาดูกันว่า อาวุธโจมตีชนิดใดในมวยไทยที่หนักหน่วง รุนแรง และอันตรายมากที่สุด

 

     ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 ( Art of Eight Limbs ) 2 หมัด - 2 ศอก - 2 เข่า - 2 เท้า ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร ก็แค่มือเปล่า เท้าเปล่า แต่รู้หรือไม่ว่า อาวุธทั้ง 8 นี่แหละที่มีความหนักหน่วง รุนแรง และอันตรายแตกต่างกัน มาดูกันว่าอาวุธไหนอันตรายที่สุด

 

อาวุธที่ 1 : หมัด

     ขอเริ่มจาก “หมัด” ซึ่งเป็นอาวุธมวยไทยที่ใช้บ่อยและมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “มวยสากลสมัครเล่น” และ “มวยสากลอาชีพ” เพราะนักมวยไม่สามารถใช้ เท้า เข่า ศอก ได้อย่าง มวยไทย ( Muay Thai ) ดังนั้น นักมวยสากล จำเป็นต้องมีทักษะในการใช้หมัดหลากหลายแบบ โดยหมัดนั้นจะใช้แรงส่งจาก หัวไหล่ สะโพก และ ขา มายังกำปั้น เพื่อหวังโจมตีระยะกลาง

 

     การปล่อยหมัดที่ทำน้ำหนักได้ดีสุด คือ การใช้ หมัดตรงหมัดหลังนักมวยจะใช้การบิดไหล่ข้างถนัด โน้มไปข้างหลังเล็กน้อย เพื่อทำให้เกิดแรงส่งจากสะโพก ลำตัว หัวไหล่ ที่มากกว่าหมัดตรงธรรมดา ออกไปยังเป้าหมาย แล้วดึงหมัดกลับมาในท่าจดมวยเดิม

 

     ความอันตรายของการใช้หมัด ถือว่าไม่ได้รุนแรงเท่า ศอก เข่า เท้า เพราะหมัดจะต้องอาศัยกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ได้ใหญ่มาก น้ำหนักและความแรงจึงไม่อาจเทียบเท่ากับส่วนอื่นๆ (อ่านเพิ่มเติม : มวยไทยกับการใช้หมัด, 7 การออกหมัดแบบมวยไทย)

 

อาวุธที่ 2 : ศอก

     อาวุธต่อมา “ศอก” เป็นอาวุธโจมตีที่ใช้พื้นที่น้อย แต่กลับมีอันตรายมากสุด และทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ศอกคือ อาวุธที่อันตรายมากสุดของ มวยไทย ( Muay Thai )

 

     ทำไม “ศอก” ถึงอันตรายที่สุด นั่นก็เพราะว่า อาวุธศอก มีพื้นผิวสัมผัสน้อย ยิ่งพื้นที่การตีน้อย และรวดเร็ว จึงเกิดค่าความดันที่สูงมาก และศอกยังเป็นบริเวณที่แหลมคม มีความแข็งของกระดูก ทำให้เกิดแผลบริเวณใบหน้าได้ง่ายกว่าอาวุธทุกชนิด

 

     เมื่อโดนแรงจากปลายศอก เข้าไปกระทบผิวหนังใบหน้า ความดันที่มีค่าสูงจึงส่งผลให้เกิดแผลแตกได้ง่าย และทำให้สมองมึนงงไปจนถึงขั้นสลบ จนสามารถทำให้ชนะน็อคเอาท์ได้ หรือหากเป็นแผลแตกเหนือเบ้าตา จะส่งผลต่อการมองเห็นนักมวยอีกด้วย

 

อาวุธที่ 3 : เข่า

     เข่า” เป็นอาวุธมวยไทยที่มีความหนักหน่วง เนื่องจากใช้แรงส่งจากสะโพก โดยใช้ส่วนของหัวเข่าด้านหน้า หรือ ด้านข้างหัวเข่า ซึ่งเป็นมุมแหลมและแข็งแรง เข้าปะทะในส่วนนิ่มของร่างกาย เช่น หน้าขา ท้อง ชายโครง ลำตัว หน้าอก หรือแม้แต่ปลายคาง

 

     ถึงแม้ว่า “เข่า” จะมีความหนักหน่วง มีเหลี่ยมของเข่าที่กระแทกเข้าที่ส่วนลำตัวของร่างกาย แต่เข่าไม่ใช่อาวุธที่อันตรายสุด เพราะส่วนมากแล้วร่างกายของนักมวยไทย ถูกฝึกฝนกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทนทาน พร้อมรับน้ำหนักและแรงกระแทกจากเข่าอยู่แล้ว (อ่านเพิ่มเติม : มวยไทยกับการใช้เข่า)

 

อาวุธที่ 4 : เท้า

     อาวุธสุดท้ายคือ “เท้า” เป็นอาวุธโจมตีระยะไกล และถือเป็นอวัยวะสำคัญสำหรับการชกมวยไทย ( Muay Thai ) ทั้งในจังหวะรุกและรับ แถมยังมีพลังโจมตีมากพอที่จะทำให้คู่ต่อสู้น็อคเอาท์ได้ทันทีในชั่วพริบตาหากโดนเตะเข้าที่ก้านคอ เนื่องจากบริเวณของต้นคอ เป็นศูนย์รวมระบบประสาทที่เป็นส่วนที่สำคัญ นอกจากเท้าแล้ว มีอีกอย่างที่น่ากลัวคือ “แข้ง” เพราะมีน้ำหนักและความรุนแรง หากใครโดนก็เหมือนถูกท่อนไม้ตีเลยทีเดียว

 

     อาวุธเท้าในมวยไทย มีความแรงเกิดจากแรงขาและการหมุนของสะโพก สามารถโจมตีได้หลายแบบ นอกเหนือจากเตะก้านคอ ยังใช้เตะตัด เตะเฉียง การถีบ ดังนั้น การเตะที่ดีต้องอาศัยจังหวะ ความเร็ว การทรงตัว การเคลื่อนที่ที่ดี เพื่อให้การเตะนั้นออกมาสมบูรณ์

 

     คราวนี้ก็รู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8 ( Art of Eight Limbs ) 2 หมัด - 2 ศอก - 2 เข่า - 2 เท้า อันไหนอันตรายที่สุด รู้แล้วก็ระมัดระวังกันด้วยนะคะ หากใครสนใจอยากลองเรียนมวยไทย สามารถมาเรียนที่ เจริญทอง มวยไทย ยิม ( Jaroenthong Muay Thai Gym)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mainstand

มวยไทย สุดยอดการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก

มวยไทย สุดยอดการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก

การ ลดน้ำหนักด้วยมวยไทย ถือว่าเป็นการฝึกศิลปะการป้องกันตัวแและเป็นศิลปะการต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธของไทยที่มีมาช้านานตั้งแต่สมัยโบราณกาล และได้ถูกพัฒนามาเป็นกีฬาในรูปแบบมวยไทยอาชีพ แต่ด้วยในสมัยก่อนวงการมวยถูกจำกัดโดยผู้ชมเฉพาะกลุ่ม และมีภาพลักษณ์ไปในทางการพนันและผู้มีอิทธิพล เลยทำให้คนทั่วไปเข้าถึงกีฬาชนิดนี้ได้ยาก

 

ลดน้ำหนักด้วยมวยไทย ( Muay Thai )

     มวยไทย ( Muay Thai ) จะช่วยให้คุณได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่ จึงเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่ดี ทั้งเบิร์นไขมันสะสม และก็เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน แค่ครั้งละหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะเฟิร์มขึ้นจนรู้สึกได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว

 

เผาผลาญพลังงานได้รวดเร็ว

     การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย

 

กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต

    เป้าหมายของการต่อยมวยคือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว

 

หน้าท้องแบบราบ

     อยากมีซิกซ์แพ็คชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพแล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) จำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝันค่ะ

 

จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนัก คือทุกครั้งที่เราขยับร่างกาย เท่ากับเราออกกำลังกาย นั่นหมายถึงการเผาผลาญพลังงาน ขยับมากก็เผาผลาญมาก เมื่อเผาผลาญมากก็หมายถึงพลังงานที่จะใช้ก็มากขึ้นตามตัว จึงเป็นหลักการที่จะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ แต่ในการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้เราลดไขมันได้โดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่จะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และการสูญเสียน้ำร่วมด้วย ดังนั้น เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ เราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง และทานให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการจะดีที่สุด

 

เราไม่ควรทรมานไปกับการลดน้ำหนักจนเกินไป แค่อดทน เต็มที่ ไม่ยอมแพ้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถที่จะมีหุ่นสวยแบบได้ผลชัดเจนมากที่สุด การลดน้ำหนักด้วยมวยไทยที่ได้ผลนั้น ต้องฝึกในสถานที่ที่มีอุปกรณ์ และการดูแลเป็นอย่างดี ฝึกกับผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามเรียนมวยไทย เพื่อสุขภาพ และสาระบทความดีๆ ได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม (Jaroenthong Muay Thai Gym)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก lovefitt

เทคนิค ฝึกสายตาให้ไวเหมือนนักมวย

เทคนิค ฝึกสายตาให้ไวเหมือนนักมวย

มวยไทย (Muay Thai) มีทั้งการใช้หมัด เข่า ศอก ใช้สมาธิกับตัวก็เหนื่อยแล้ว ไหนจะต้องระแวดระวังคู่ชก หรือคู่ต่อสู้อีก ดังนั้น นักมวยจะต้องมีทักษะ ไหวพริบในหลายๆ ด้าน รวมไปถึง “การมีสายตาที่ว่องไว” เพื่อให้สามารถมองเห็นหมัดหรือการเคลื่อนไหวของคู่ชก คู่ต่อสู้ ได้อย่างทันท่วงที

 

วิธีการฝึกที่ช่วยให้สายตาไว มองการเคลื่อนไหวได้เร็วๆ

     สำหรับมวยไทย (Muay Thai) ของเรา มีวิธีการฝึกสายตา ซึ่งแต่ก่อนไม่มีเครื่องมือ จึงใช้วิธีเหล่านี้...

1. วิธีการฟันน้ำ

     วิธีการฟันน้ำ เป็นการฝึกสายตาไม่ให้กระพริบตา เวลาที่น้ำกระเด็นใส่หน้าขณะฟันน้ำ วิธีนี้จะทำให้สายตานิ่ง ไม่กระพริบ หากในการต่อยจริง แม้จะโดนหมัดก็ไม่มีการหลับตา

 

2. ฝึกต่อยลูกมะนาว

     เนื่องจากในอดีตไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ จึงใช้ลูกมะนาวมาฝึก โดยการผูกลูกมะนาวหลายๆ ลูกไว้ แล้วต่อยแรงๆ จะฝึกสายตาได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญร่างกายจะเป็นการฝึกหลบในตัวด้วย ฝึกบ่อยๆ ก็สามารถโยกหลบหมัดได้อย่างสบาย ร่างกายท่อนบนจะสามารถหลบหลีกได้เอง

 

     นอกจากการฝึกการหลับสายตาแล้ว การใช่หมัดก็เป็นสิ่งหนึ่งสำคัญมากๆ เป็นอันดับต้น ๆ  ซึ่งมวยไทย (Muay Thai ) กับการใช้หมัด มีดังนี้

  • หมัดตรงชกนำ 

     หมัดตรงชกนำ หมายถึง การชกหมัดที่อยู่ด้านหน้าพุ่งไปยังเป้าหมาย โดยอาศัยแรงจากไหล่ ลำตัว ตั้งตรง และเท้ายันพื้น เพื่อเป็นหลักและแรงส่งออกไป ถ้าจดเหลี่ยมขวาหมัดตรงชกนำคือหมัดซ้าย ถ้าจดเหลี่ยมซ้าย หมัดตรงชกนำคือหมัดขวา อาจจะชกออกไปโดยไม่เคลื่อนเท้า หรือ เคลื่อนเท้าไปด้านหน้า ด้านหลัง ข้างซ้ายและข้างขวาก็ได้ แต่ส่วนมากเวลาชกไปแล้วน้ำหนักตัวมักจะตกอยู่บนเท้าที่อยู่หน้าเสมอ

  • หมัดเสย 

     หมัดเสย หมายถึง หมัดที่ชกโดยการงอข้อศอก เกร็งข้อศอก หงายหมัดขึ้น วิธีทางของหมัดจะออกจากด้านล่างสู่ด้านบนทำมุมฉากกับพื้น หมัดเสยมีสองลักษณะ คือ หมัดเสยนำ และ เสยหมัดตาม หมัดเสยจะใช้ได้ดีเมื่อเป้าหมายอยู่ใกล้ตัว เช่น การเข้าคลุกวงในแล้วคู่ต่อสู้ก้มต่ำเป้าหมายที่ชก คือ บริเวณคาง ท้อง หน้าอกและหน้า

  • หมัดโขก 

     หมัดโขก เป็นหมัดเหวี่ยงจากบนลงล่างเป้าหมายบริเวณขมับ หรือ คางหมัดโขกเป็นหมัดที่รุนแรงใช้หมัดตาม เพื่อให้วงเหวี่ยงมีรัศมีกว้างขึ้นเป็นหมัดที่มีทิศทางจากบนลงล่าง แบ่งเป็น หมัดโขกวงกว้าง กับ หมัดโขกวงแคบ หมัดนี้เป็นหมัดที่รุนแรงเพราะอาศัยแรงเหวี่ยงของไหล่และแขน

  • หมัดเหวี่ยง หรือ หมัดขว้าง

     หมัดเหวี่ยง หรือ หมัดขว้าง หมายถึง การชกโดยการงอและเกร็งข้อศอกไว้ให้หมัดออกไปเป็นวิธีทางโค้งขนานกับพื้นดิน อาจจะคว่ำหมัด หรือ ตั้งหมัดก็ได้ แต่พยายามให้สันหมัดถูกเป้าหมายหมัดเหวี่ยงแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ หมัดเหวี่ยงสั้น หมัดเหวี่ยงยาว และหมัดเหวี่ยงกลับ

 

     การฝึกฝนจะสำเร็จเห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น ต้องมีวินัยในการฝึก ไม่เช่นนั้นการฝึกของเราจะก็จะล้มเหลวไม่มีประสิทธิภาพ นำมาใช้ก็ไม่ได้ สนใจอยากฝึกมวยไทย เจริญทองมวยไทย (Jaroenthong Muay Thai Gym)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก siamebook

อุปกรณ์ฝึกมวย

อุปกรณ์ฝึกมวย

หลังจากเราเรียนรู้ทั้งการออกหมัด ออกอาวุธไปแล้วการรำก่อนขึ้นชกมวย การแต่งการต่างๆ มวยมีกี่สายเป็นต้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักอุปกรณ์มวยว่ามีหน้าทีช่วยอะไรป้องกันอะไรและที่ใช้ในการฝึกซ้อมจะมีอะไรบ้างไป

 

มวยไทย (Muay Thai) คือศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว (Martial Art) และเป็นกีฬา (Sport) ประจำชาติไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณมวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ร้ายกาจ รุนแรง มหัศจรรย์ แตกต่างจากศิลปะการต่อสู้ของชนชาติอื่นใด เพราะมวยไทยเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธธรรมชาติ ใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นอาวุธได้หลากหลายชนิดมากกว่า เช่น หมัด ศอก เข่า เท้า เข้าทำอันตรายคู่ต่อสู้ โดยปราศจากการใช้อาวุธวัตถุใดๆ จากภายนอก ศิลปะมวยไทย

นอกจากมวยไทย ผู้เล่นหรือผู้ฝึกจะมีประสิทธิภาพได้แล้ว ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเลยคือ อุปกรณ์การฝึกมวยนั้นเอง

 

อุปกรณ์การฝึกซ้อมสมัยปัจจุบัน

อุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายและฝึกซ้อมมวยไทยที่จำเป็นต้องมีประจำค่ายมวย ซึ่งอุปกรณ์ต่อไปนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ค่ายมวยทุกค่ายมวยจะต้องมีประจำไว้ในค่ายมวย เพื่อใช้บริหาร และป้องกันอันตรายที่จะเกิด

 

เชือกกระโดด เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บริหารร่างกายให้ขาแข็งแรงมีความคล่องตัวสูง เชือกกระโดด

 

ลูกบอลสำหรับฝึกต่อยหมัด หรือ punching ball เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกฝนการออกหมัดและความไวของสายตา เพราะ punching ball นั้นจะเด้งไปเด้งมาเมื่อถูกหมัด นักมวยจะฝึกต่อยให้เร็วและควบคุมแรงในการต่อยให้สม่ำเสมอ และฝึกความว่องไวของสายตาในการปล่อยหมัดให้ถูกลูกบอล

 

 ผ้าพันมือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันนิ้วมือไม่ให้เคล็ดหรือถลอกเวลาต่อยมวย โดยจะต้องพันมือทุกครั้งก่อนสวมนวม เพื่อชกกระสอบทรายหรือฝึกลงนวม

 

กระจับนักมวย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันอวัยวะส่วนสำคัญของนักมวยไม่ให้ได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากการชกมวย โดยสวมทุกครั้งที่ขึ้นชกมวย

 

ฟันยาง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันฟันและปากไม่ให้ได้รับการบาดเจ็บจากการชกมวย เป็นอุปกรณ์สำคัญที่นักมวยจะต้องสวมให้ชิน โดยสวมทุกครั้งที่ขึ้นชกมวยและซ้อมลงนวม

 

นวม เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกซ้อมและแข่งขัน นวมเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับนักมวยและค่ายมวย โดยใช้สวมเมื่อซ้อมลงนวมและสวมเมื่อเวลาแข่งขันบนเวที นวมมีหลายขนาดตามขนาดตัวนักมวยตั้งแต่ 4-6 ออนซ์ ซึ่งมีราคาแตกต่างกันไป แบ่งออกเป็นนวมซ้อมและนวมที่ใช้ชกแข่งขัน ซึ่งนวมซ้อมจะมีขนาดใหญ่และนิ่มกว่านวมที่ใช้แข่งขัน

 

แบคชกกระสอบ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกซ้อมชกกระสอบทราย รูปร่างเหมือนนวมทุกอย่างแต่เล็กกว่า ใช้ฝึกออกหมัดและป้องกันนิ้วมือของนักมวยเวลาซ้อมชกกระสอบไม่ให้เคล็ดหรือถลอก

เป้าล่อ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกซ้อมการออกหมัด เท้า เข่า ศอก ให้เข้าตามจุดที่สำคัญของร่างกายอย่างแม่นยำ แบ่งออกเป็นเป้ามือ เป้าท้อง เป้ายาว สนับแข้ง โดยจะสวมเข้ากับร่างกายของครูฝึกแล้วล่อหลอกให้นักมวยออกหมัด เท้า เข่า ศอก เข้าตามเป้าต่างๆ ที่อยู่บนร่างกายครูฝึก เป้ามือ เป้ายาว เป้าท้อง 

 

กระสอบทราย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกซ้อมการออกหมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทุกค่ายต้องมีให้นักมวยใช้ฝึกซ้อมการเตะ เข่า ต่อย และฟันศอก

 

ลูกเหล็ก สำหรับบริหารร่างกาย หรือ ดรัมเบล เป็นอุปกรณ์ที่ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณแผงคอ ขากรรไกร ด้วยการคาบไว้ในปากแล้วยกขึ้นลง ฝึกกำลังแขนด้วยการกำไว้ในมือแล้วฝึกชกลม

 

คานเหล็กสำหรับยกน้ำหนัก  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ขาและแผงอก ให้แข็งแรงด้วยการยกขึ้นลง

 

เชือกโหน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกความแข็งแรงของข้อมือ แขน และแผงอก ด้วยการผูกไว้บนขื่อแล้วปีนขึ้นลง ซึ่งจะได้เห็นในการฝึกซ้อมมวยต่อไป 

 

 นาฬิกาจับเวลา เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จับเวลาในการฝึกซ้อมของนักมวย โดยแบ่งเวลาเป็นยก ยกละ 5 นาที เมื่อผ่าน 1 นาที ก็เรียก 1 ผ่าน พอครบ 5 นาทีก็เรียก 1 ยก โดยจะซ้อมกัน 8-10 ยกในการฝึกซ้อมแต่ละอย่าง

กางเกงมวย มีลักษณะเป็นกางเกงสั้นค่อนข้างบานตัดเย็บด้วยผ้ามันสีต่างๆ โดยจะปักชื้อนักมวยและค่ายมวยที่สังกัดบนกางเกงใช้สวมเวลาฝึกซ้อมในค่ายมวยและสวมเวลาแข่งขันชกมวย 

ปลอกรัดข้อเท้า เป็นอุปกรณ์สำหรับป้องกันข้อเท้าของนักมวยไม่ให้เคล็ดเวลาเตะกระสอบหรือแข่งขันชกมวย ในการแข่งขันนักมวยจะสวมปลอกรักข้อเท้าเสมอเวลาแข่งขันเพื่อป้องกันข้อเท้าเคล็ดอันเกิดจากการเตะคู่แข่งขัน 

 เครื่องชั่งน้ำหนัก เป็นอุปกรณ์สำหรับชักน้ำหนักนักมวย ในสถานที่ฝึกซ้อมมวยมีความจำเป็นต้องมีเครื่องชั่งน้ำหนักให้นักมวย ได้ทดสอบน้ำหนักตัวเองอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ทราบว่าตนเองมีน้ำหนักเท่าใด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการฝึกซ้อมและแข่งขัน การทดสอบน้ำหนักของร่างกายจะทดสอบ 3 ระยะคือ ก่อนการฝึกซ้อม หลังการฝึกซ้อม และระหว่างพักการฝึกซ้อม

 

     ทั้งหมดที่กล่าวมาคืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการฝึกซ้อมมวย แม้ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอย่างก็สามารถฝึกซ้อมมวยได้ แต่การมีอุปกรณ์ครบจะทำให้นักมวยสามารถพัฒนาขีดความสามารถทางร่างกายของตนได้ดีขึ้น และส่งผลดีต่อการชกมวย ด้วยความปราถนาดีจาก jaroenthongmuaythaikhaosan

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sitesgoogle

กีฬาบำบัดรักษา “โรคหอบหืด” ด้วยมวยไทย

กีฬาบำบัดรักษา “โรคหอบหืด” ด้วยมวยไทย

“โรคหอบหืด” หรือ “โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้”  เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่พบบ่อยในเด็กและมีแนวโน้มจะพบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 2–4 ต่อปี โรคหอบหืดนั้นเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีสาเหตุจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ส่งผลให้หายใจลำบาก หอบ และเหนื่อยง่าย นั่นเองค่ะ

 

หากผู้ป่วยโรคหอบหืดอยากมีสุขภาพที่ดีขึ้น ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย แต่ก็มีการออกกำลังกายหลากหลายชนิดที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่สุด  ลองมาดูวิธีออกกำลังกายที่เรานำมาฝากกันค่ะ

 

การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคหอบหืด

แอโรบิค      นอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมัน ยังช่วยให้ปอดขยาย สามารถรับออกซิเจนได้มากขึ้น

ว่ายน้ำ        ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ

โยคะ          ทำให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นและยังช่วยฝึกการหายใจ

มวยไทย      ช่วยปรับระบบการหายใจและทำให้ร่างกายยืดหยุ่นได้ดี ทำให้ปอดแข็งแรง

วิ่ง              ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ และยังเพิ่มไขมันดีในร่างกายด้วย

ปั่นจักรยาน  ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ ระบบภูมิต้านทานแข็งแรง ต้านโรคได้มากขึ้น

 

มวยไทย ช่วยบำบัดโรคหอบหืดได้จริงหรือ ?

หลายๆ คนรู้จัก มวยไทย เป็นอย่างดีเพราะว่า มวยเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยทั้งความแข็งแกร่งและทรงพลัง แต่การออกกำลังกายทุกประเภทนั้น  ตัวคุณเองควรเล่นเท่าที่ตัวเองไหวด้วยเช่นกันอย่าหักโหมมากเกินไปนะคะ มวยไทยไม่ได้ช่วยแค่ผลดีต่อร่างกายเท่านั้นที่สำคัญยังมีส่วยช่วยให้คลายเครียดอีกด้ว เนื่องจากอะดรีนาลีนและฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมาระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่ออารมณ์และจิตใจ มวยไทย จึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพ รวมถึงโรคหอบหืดด้วยเช่นกันค่ะ

 

     หลายคนคงจะสงสัยว่าการออกกำลังกายด้วย มวยไทยจะหนักเกินไปสำหรับคนที่เป็นหอบหืด แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะปัจจุบันมวยกลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในยิม ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกลัวเรื่องความปลอดภัยเพราะอยู่ในความดูแลของเทรนเนอร์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ถ้าไม่เริ่มออกกำลังกาย เมื่อเวลาผ่านไปก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง การทำงานของปอดก็จะแย่ลงตามลงไปด้วยนะคะ  สามารถติดต่อสอบถามเรียนมวยไทย เพื่อสุขภาพ และสาระบทความดีๆ คลิกที่นี่เลย  

 

 

ด้วยความปรารถนา ดีจาก Jaroenthong Muay Thai Gym

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก HONESTDOCS

คุณจะได้อะไรจาก มวยไทย

คุณจะได้อะไรจาก มวยไทย

อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใคร แค่ฝึกซ้อมกับกระสอบทรายก็ได้ประโยชน์แบบเดียวกัน ปัจจุบัน “มวยไทย” ( Muay Thai ) กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในโรงยิมและมีหลากหลายประเภท ให้ประโยชน์อีกเยอะมากมาย ทำให้ผ่อนคลาย และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ร่างกายด้วย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามวยไทยช่วยอะไรได้อีกบ้าง

 

1. พัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายโดยรวม

     มวยไทย” ( Muay Thai) ทำให้คุณได้ทั้งเตะ กระโดด ใช้ฝีเท้าในการหลบหมัด และการชก ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนต้องอาศัยพลังงานและความแข็งแกร่งอย่างมหาศาล เนื่องจากคุณต้องทำซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง

 

     จงจำไว้ว่ากีฬาชกมวยมีจุดประสงค์ คือ ชกกับคู่ต่อสู้จนกว่าอีกฝ่ายจะน็อค แต่ถ้าไม่น็อคจะมีการนับคะแนนและตัดสินว่าคุณทำได้ดีแค่ไหนเมื่อจบการแข่งขัน ซึ่งหมายความว่า จำนวนหมัดที่เข้าเป้าและการป้องกันนั้น มีความสำคัญทั้งสิ้น

 

     การชกมวยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อกระชับ นอกจากนี้ “มวยไทย” ( Muay Thai ) ยังเป็นกีฬาที่เน้นร่างกายช่วงบน ร่างกายช่วงล่าง และแกนกลางในเวลาเดียวกัน เป้าหมายของการต่อยมวย คือ ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว

 

2. การเผาผลาญ

     การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training (การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง) เพราะการขึ้นชกใน 1 ยก คือ การใช้ร่างกายไปถึงระดับสูงสุด และการพักระหว่างยก คือ การทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้เร็วขึ้น เป็นทั้งการออกกำลังกายแบบที่ผสมผสานเผาผลาญพลังงานการใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนเข้าด้วยกัน

 

     การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยาน จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง สามารถเบิร์นไขมันได้ถึง 13 แคลลอรีใน 1 นาที

 

3. คลายเครียดได้ดี

     เมื่อต้องเผชิญกับสารพัดปัญหามาทั้งวัน ก็เป็นการดีหากได้ขึ้นสังเวียนต่อยใครสักคน หรือชกกระสอบทรายระบายอารมณ์ออกมาบ้าง อะดรีนาลีนและฮอร์โมนต่าง ๆ ที่หลั่งออกมา ระหว่างการใช้แรงจะส่งผลในทางที่ดีต่อร่างกาย การต่อยมวยจึงเป็นการระบายความเครียดที่ได้ผลและดีต่อสุขภาพ

 

4. หุ่นที่เฟิร์มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     อยากมีซิกซ์แพคชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพแล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะการชกมวยจำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝัน

 

      อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับใครแค่ฝึกซ้อมกับกระสอบทรายก็ยังได้ประโยชน์แบบเดียวกัน ปัจจุบันมวยไทย (Muaythai) กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเล่นได้ในยิม และมีประโยชน์หลายอย่างด้วยเช่นกัน สามารถติดต่อสอบถามเรียนมวยไทย เพื่อสุขภาพ ได้ที่ เจริญทอง มวยไทย ทั้ง 3 สาขา (สาขารัชดา, สาขาข้าวสาร, สาขาศรีนครินทร์)

“มวยไทย” หุ่นสวย ป้องกันตัวได้

“มวยไทย” หุ่นสวย ป้องกันตัวได้

เรากำลังพูดถึงเทรนด์การออกกำลังกายใหม่ ที่ผู้หญิงก็สามารถฝึกความแข็งแรงของร่างกายได้ด้วยการสวมนวม ขึ้นสังเวียนชกกับเทรนเนอร์หุ่นล่ำที่ถือเป้าล่อ หรือกระสอบทราย ”การฝึกมวยไทย” ที่เราพูดถึงนี้ก็คือ การฝึกชก เตะ และท่าทางต่าง ๆ ของมวยมาประยุกต์เป็นท่าออกกำลังกายเฉย ๆ ดังนั้น นอกจากคุณจะได้เบิร์นแล้ว คุณยังได้ฝีไม้ลายมือในการป้องกันตัวติดไปด้วย แถมได้ประโยชน์สุดเริ่ดมากกว่าที่คิด มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

 

1. มวยไทย ( Muay Thai ) ได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย

     เป้าหมายของการต่อยมวยคือให้ทุกส่วนของร่างกายได้ใช้งาน นอกเหนือไปจากการกระตุ้นความแข็งแรงของร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว การชกมวยยังช่วยเพิ่มการฝึกทักษะที่เกี่ยวข้องอย่าง การทรงตัว ปฏิกิริยาตอบโต้และความคล่องตัว มวยไทย ( Muay Thai ) จะช่วยให้คุณได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่ จึงเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่ดี ทั้งเบิร์นไขมันสะสม และก็เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน แค่ครั้งละหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะเฟิร์มขึ้นจนรู้สึกได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว

 

2. เผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่า

     การชกมวยอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายแบบ High-intensity Interval Training ( การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ) การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยให้สร้างความแข็งแรง ความรวดเร็ว มีพลังมากขึ้น และกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อนำมาเทียบกับการวิ่งหรือปั่นจักรยานจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า แต่ใช้เวลาน้อยลง

 

3. มวยไทยช่วยให้หน้าท้องแบบราบ

     อยากมีซิกซ์แพ็คชัด ๆ ลองเลิกซิทอัพแล้วหันมาต่อยมวยดูสิ เพราะ มวยไทย ( Muay Thai ) จำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวสูงมาก ต้องบิดสะโพกเพื่อเพิ่มแรงส่งให้ออกหมัดได้หนักขึ้น และเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการนอนซิทอัพกับพื้น เมื่อแกนกลางลำตัวแข็งแรง และเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น กล้ามท้องก็ไม่ไกลเกินฝันค่ะ

 

     เราอาจจะไม่ต้องเคร่งเครียดกับกายออกกำลังกาย ฉบับพี่ๆ นักมวยอาชีพ ที่ทำให้เราทรมานไปกับการลดน้ำหนักจนเกินไป แค่อดทน เต็มที่ ไม่ยอมแพ้ ไม่เบื่อ หรือไม่ทิ้งก่อนจะบรรลุเป้าหมาย เพื่อช่วยให้คุณสามารถที่จะมีหุ่นสวยแบบได้ผลชัดเจนมากที่สุด สามารถติดต่อสอบถามเรียนมวยไทย เพื่อสุขภาพ และสาระบทความดีๆ ได้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม (Jaroenthong Muay Thai Gym)

   

ขอขอบคุณข้อมูลจาก kapook

สเต็ปการรีดน้ำหนักฉบับ นักมวย

สเต็ปการรีดน้ำหนักฉบับ นักมวย

สำหรับใครที่กำลังมองหาการลดน้ำหนักคุณมาถูกลิ้งก์แล้ว หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า “การรีดน้ำหนักตัวในแบบของนักมวย นั้นเร็วและเห็นผลได้ชัด” แน่นอนว่านักมวยต้องอาศัยระเบียบและวินัยอย่างมากในการที่จะรีดน้ำหนักลงให้เร็วเพื่อเตรียมพร้อมขึ้นสังเวียนและเพิ่มความฟิตให้กับร่างกาย วันนี้ Jaroenthong Muay Thai มีข้อมูลดีๆมากฝากกัน ถึงใครหลายๆคนที่อย่างฟิตเหมือนนัก มวยไทย หลายๆคน
 

     ในการลดน้ำหนัก บางคนอาจจะมองเห็นภาพการไปวิ่งบนลู่ใน ฟิตเนส ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การเต้นแอโรบิคยามเย็น แต่ในฉบับ นักมวยนั้นไม่ใช่แค่นั้น ในการชกมวยนั้นจำเป็นต้องใช้ทุกสัดส่วนของร่างกาย ดังนั้น การออกกำลังกายให้ได้ผลเร็ว และรีดน้ำหนักต้องใช้ทุกส่วนของร่างกายด้วย ดีกว่าไปนั้นต้องมีความสนุกสนาน ตั้งใจ ระเบียบวินัยด้วย

 

นักมวย จัดการสิ่งนี้เป็นสิ่งแรก

     เนื่องจากนักมวยค่อนข้างที่จะมีความกังวลและซีเรียสกับการคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ของการแข่งขันในเวทีเพราะแต่ละเวทีนั้นก็มีการจำกัดน้ำหนักตัวเป็นรุ่นๆ ดังนั้นนักมวยจำเป็นต้องการที่จะควบคุมน้ำหนักให้เป็นการไปรุ่นชกของตนเอง ด้วยวิธีการลดน้ำหนักที่สามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็วและได้ผลจริงอีกด้วย โดยนักมวยนั้นมีสเต็ปการออกกำลังกาย ดังนี้

 

     สเต็ปที่ 1  เริ่มที่การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง  ให้ได้อย่างน้อย 45 – 60 นาทีต่อวัน สามารถที่จะเลือกการออกกำลังกายหลายๆแบบได้ไม่ซ้ำกัน  เช่นการปั่นจักยาน 30นาที หรือวิ่ง 10 กิโลเมตร กระโดดเชือกในตอนเช้า ต่อยกระสอบทรายหรือล่อเป้าอย่างน้อย 3 ยกอย่างต่อเนื่องในช่วงเย็น

 

     สเต็ปที่ 2 การควบคุมอาหาร หลักสำคัญที่จะช่วยลดน้ำนักอย่างได้ผลเร็วและเห็นผลที่สุด แค่คุณลดการรับประทานอาหารประเภทแป้ง เช่น ข้าว ขนมปัง หรือเส้นต่างๆ เพราะแป้งเหล่านั้นเป็นตัวการที่จะเพิ่มน้ำหนักอย่างดีเลย นอกจากนี้อาหารประเภทของทอดด้วยน้ำมันทั้งหลาย จะทำให้การออกกำลังกายนั้นเห็นผลช้ากว่าที่เราต้องการหรืออาจจะไม่เห็นผลเลยหากทานในประมาณที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด ควรเน้นไปที่การเลือกรับประทานประเภทผักหรือเนื้อสัตว์ต้มเป็นหลัก ลดแป้ง  ให้เน้นผักผลไม้ ที่มีรสจืด เน้นโปรตีนเนื้อสัตว์ นมลดจืด พร่องมันเนยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอ และสิ่งสำคัญควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยให้ร่างกายของคุณชะล้างเกลือส่วนเกินที่ก่อให้เกิดการกักเก็บน้ำออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

     สเต็ปที่ 3 สร้างขีดจำกัดเพิ่มขึ้นให้กับตัวเอง ในที่จะลดน้ำหนักแบบนักมวยนั้นจะต้องมีการเพิ่มจำนวนยกในการล่อเป้า จำนวนครั้งในการซ้อมกระสอบทราย หรือจำนวนรอบในการวิ่ง เพื่อเพิ่มอัตราที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย และยังสามารถดึงเอาพลังงานมาเผาผลาญได้สูงขึ้นอีกด้วย

 

     สเต็ปที่ 4 การพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อเราออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วงแล้วในการพักผ่อนถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และควรที่จะพักผ่อนให้ถึง 7 – 8 ชั่วโมง เนื่องจากร่างกายของเรานั้นจะมีการปรับสมดุลในขณะที่เราหลับ และปฏิบัติตามตารางในการลดน้ำหนักแบบนักมวยให้เข้ากับชีวิตประจำวัน อย่าหักโหมจนเกินไปและออกกำลังกายหนักจนเกินไปเพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนล้าจนไม่สามารถลดน้ำหนักแบบนักมวยต่อได้และจะมีผลกระทบมากกว่าผลดี

 

     เมื่อพูดถึงสุขภาพ ออกกำลังกาย ก็อาจจะฟังดูท้อแท้ แต่เหล่านักมวยให้ความสำคัญที่ต้องฟิตร่างกายอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้ความอดทนและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ในทางกลับกัน เราอาจจะไม่ต้องเคร่งเครียดกับกายออกกำลังกาย ฉบับพี่ๆนักมวยอาชีพ ทำให้เราทรมานไปกับการลดน้ำหนักจนเกินไป เสียกำลังใจ ฉะนั้นจะต้องวางแผนเป็นสเต็ปๆของการออกกำลังกายไว้อย่างชัดเจน อดทน เต็มที่ ไม่ยอมแพ้ ไม่เบื่อ หรือไม่ทิ้งก่อนจะประสบผลสำเร็จ เพื่อช่วยคุณสามารถที่จะลดน้ำหนักแบบนักมวยให้ได้ผลมากที่สุด
 

     สามารถติดต่อสอบถามเรียนมวยไทย เพื่อสุขภาพ สาระบทความดีๆ คลิกที่นี่เลย
 

     ด้วยความปรารถนา ดีจาก Jaroenthong Muay Thai Gym

มวยไทย แต่ละสมัย ต่างกันอย่างไร

มวยไทย แต่ละสมัย ต่างกันอย่างไร

ขึ้นชื่อว่า มวยไทย ( Muaythai )  แน่นอนว่าต้องเป็นศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การต่อสู้ป้องกันตัว ที่มีตำนานและความเป็นมาของชนชาติไทยมาตั้งแต่โบราณ คนโบราณกล่าวว่าศิลปะ แม่ไม้ มวยไทย ถูกขนานนาม ว่าเป็น “ ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9 ” วันนี้ทีมงาน Jaroenthong Muay Thai มีบทความดีๆ มีสาระมาฝากกัน

     ต่อกันที่ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 9 นั่นหมายถึงการต่อสู้โดยใช้อาวุธบนร่างกายทั้ง 9 ส่วนคือ หมัดทั้ง 2 ข้าง, ศอกทั้ง 2 ข้าง, เข่าทั้ง 2 ข้าง, เท้า 2 ข้างและหัว 1 หัว ซึ่งในปัจจุบัน กติกามวยไทย ได้มีการตัดการใช้หัว ในการต่อสู้ออก จึงกลายเป็นศาสตร์อาวุธทั้ง 8 จากที่เกริ่นไปคร่าวๆ ว่ามวยไทยเรานั้น ล้วนมีเรื่องราวและเอกลักษณ์มากมาย วันนี้เราจะมาแบ่งยุคสมัยของมวยไทยเรา ให้ได้รู้ถึงความแตกต่าง ที่เหมือนกัน อย่างไรดังนี้

 

มวยไทย : สมัยกรุงสุโขทัย

     ในยุคสมัยของกรุงสุโขทัย ศิลปะ แม่ไม้ มวยไทย ถือเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาของกษัตริย์ เพื่อฝึกให้กษัตริย์เป็นนักรบที่มีความกล้าหาญ มีสมรรถภาพร่างกายที่ดีเยี่ยม ดังความปรากฏตามพงศาวดารว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงส่งเจ้าชายร่วงโอรสองค์ที่สองไปฝึกมวยไทยที่สำนักสมอคอน แขวงเมืองลพบุรี หรือการที่พ่อขุนรามคำแหงทรงนิพนธ์ตำหรับพิชัยสงคราม โดยมีความข้อความบางตอนกล่าวถึงมวยไทย และการใช้อาวุธอย่างดาบ หอก มีด โล่ ธนู

 

มวยไทย : สมัยกรุงศรีอยุธยา

     สมัยกรุงศรีอยุธยาเริ่มประมาณ พ.ศ.1988 - 2310 รวมระยะเวลา 417 ปี ในระหว่างนั้นบ้างก็มีศึกกับประเทศใกล้เคียง ทำให้เหล่าชายฉกรรจ์สมัยกรุงศรี ต้องฝึกฝนความชำนาญในการต่อสู้ด้วยอาวุธและศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่า หรือ มวยไทย ที่เราเข้าใจกันทั่วไป

     ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พระมหากษัตริย์ทรงโปรดให้มีกรมมวยหลวงขึ้น โดยให้คัดเลือกเอาชายฉกรรจ์ที่มีฝีมือในการชกมวยไทยเข้าต่อสู้กันหน้าพระที่นั่ง แล้วคัดเลือกผู้มีฝีมือเลิศไว้เป็นทหารสนิท และทหารรักษาพระองค์ เรียกว่า "ทหารเลือก" สังกัดกรมมวยหลวง มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย ภายในพระราชวังหรือตามเสด็จในงานต่าง ๆ รวมถึงเป็นครูฝึกมวยไทยให้ทหารและพระราชโอรส

     ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.2147 - 2233) “มวยไทย” เป็นที่นิยมกันอย่างมากจนกลายเป็นอาชีพ มีค่ายมวยเกิดขึ้น ซึ่งมวยไทยสมัยนี้ชกกันบนลานดิน ใช้เชือกเส้นเดียวกั้นบริเวณเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส นักมวยจะใช้ด้ายดิบชุบแป้งหรือน้ำมันดินจนแข็งพันมือ เรียกว่า มวยคาดเชือก นิยมสวมมงคลไว้ที่ศีรษะ และผูกประเจียดไว้ที่ต้นแขนตลอดการแข่งขัน การเปรียบคู่ชกด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้กำหนดขนาดรูปร่างหรืออายุ โดยมีกติกาง่าย ๆ ว่าชกจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยอมแพ้

 

มวยไทย : สมัยกรุงธนบุรี

     บ้านเมืองอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูประเทศหลังจากการกู้อิสรภาพคืนมาได้ การฝึกมวยไทยในสมัยนี้เป็นการฝึกเพื่อการสงครามและการฝึกทหารอย่างแท้จริง การจัดชกมวยในสมัยกรุงธนบุรี นิยมจัดนักมวยต่างถิ่น หรือลูกศิษย์ต่างครูชกกัน โดยไม่มีกฎกติกาการแข่งขันอย่างชัดเจน ไม่มีคะแนน ทำการชกจนกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะยอมแพ้ สังเวียนนั้นเป็นลานดิน และในยุคนี้มีนักมวยฝีมือดีมากมายเกิดขึ้น

 

มวยไทย : สมัยกรุงรัตนโกสินทร์

     ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ช่วงรัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 5 กษัตริย์ไทยทรงโปรดการกีฬา เช่น กระบี่กระบอง มวยไทย เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดกีฬามวยไทยเป็นอย่างมาก พระองค์มีความชำนาญในกีฬามวยไทย จึงจัดให้มีการแข่งขันชกมวยขึ้น และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มี มวยหลวง ตามหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่ฝึกสอน จัดการแข่งขัน และควบคุมการแข่งขันมวยไทย ในปี พ.ศ.2430 รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ตั้งกรมศึกษาธิการขึ้น ให้มวยไทยเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตรของโรงเรียนครูฝึกหัดพลศึกษา และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในสมัยนี้เป็นที่ยอมรับว่า คือ ยุคทองของ มวยไทย

     ในสมัยอยุธยาตอนปลาย มวยไทยได้มีการฝึกฝนกันไปตามสำนักต่าง ๆ มีเวทีมวยที่จัดให้มีการแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งการชกในสมัยนี้ยังมีการคาดเชือกกันอยู่ จนในตอนหลังนวมได้เข้ามาแพร่หลายในไทย การชกกันในสมัยหลัง ๆ จึงสวมนวมชกกันอย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

 

      เป็นยังไงบ้างครับ กับมวยแต่ละยุคสมัย จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะยุคสมัยไหน “มวยไทย” นั้นเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่มีเอกลักษณ์ของชาติไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เป็นมรดกทางภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรม ที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ด้วยคุณค่าควรแก่การรักษาไว้ให้คงอยู่ต่อไป หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ เรียนมวยไทย สามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ “เจริญทอง มวยไทย ยิม” (Jaroenthong Muay Thai) มีทั้งหมด 3 สาขา คือ ข้าวสาร รัชดา และศรีนครินทร์ หรือข่าวสาร สาระที่น่าสนใจที่นี่เลย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก educatepark

5 ท่ามวยโบราณ ในบท “หลวงสรศักดิ์” จากละคร เรื่องบุพเพสันนิวาส นะออเจ้า

5 ท่ามวยโบราณ ในบท “หลวงสรศักดิ์” จากละคร เรื่องบุพเพสันนิวาส นะออเจ้า

ต้องยกให้กับกระแส จากภาพยนตร์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ละครที่ได้รับความนิยมในฉากของ นักแสดงอย่าง ก๊อต จิรายุ ที่ได้รับบทเป็น หลวงสรศักดิ์ในละครที่ แสดงในฉากชกมวยต่างๆ ที่เป็นที่ตาร้อนบรรดาสาวๆ

 

     ซึ่งบอกได้เลยว่าเรทติ้งละคร เรื่องบุพเพสันนิวาสไม่ได้เพียงแต่ ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ยังแฝงไปด้วยความรู้เกร็ดของประวัติศาสตร์เรา รวมไปถึงฉากที่เกี่ยวกับมวยไทยโบราณ ที่ในเรื่องมีตัวละครชื่อ หลวงสรศักดิ์ ซึ่ง ก็คือพระเจ้าเสือที่เราเคยได้ พูดถึงไปในบทความก่อนๆ เนื่องจากตามประวัติศาสตร์นั้น ซึ่งเป็นผู้ที่คิดค้นท่ามวยไทย ที่เรายังคงเห็นและสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน และวันนี้ทางทีมงาน Jaroenthong ได้เก็บข้อมูล หลวงสรศักดิ์ หรือพระเจ้าเสือ จากในละครถึงท่ามวยไทยโบราณว่ามีท่าอะไรบ้าง ทำอย่างไร ไว้ในบทความนี้แล้ว  

 

ท่าดับชวาลา

     เมื่อคู่ต่อสู้ เดินตรงเข้ามาและปล่อยหมัดซ้ายตรงๆ เราที่เป็นฝ่ายรับให้ฝ่ายรับให้ก้าวเท้าขวาเฉียงแขยงออกมานอกวง ให้ได้ระดับเดียวกับหมัดตรง ทิ้งน้ำหนักตัวบนเท้าขวา ใช้แขนขวาปัด กดแขนซ้ายของฝ่ายรุกให้เบนลงต่ำ พร้อมรีบชกด้วยหมัดซ้ายตรงที่บริเวณเบ้าตา ในทางกลับกัน ถ้าเราเป็นฝ่ายรุกให้ชกด้วยหมัดขวา และทำตรงกันข้าม ถือเป็นท่ามวยแก้หมัดตรงของฝ่ายตรงข้าม

 

นาคขนดหาง

     ท่านี้จะเป็นการใช้บริเณส่วนขาเราฟ้าดเข้าที่ก้านคอของคู่ต่อสู้และกดลงมาโดยใช้แรงเยอะที่สุด ต้องบอกได้เลยว่าใครที่โดนหมัดนี้เข้าไป น๊อคล่วงไปกองทุกราย และไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาโต้ตอบได้ทันทีอย่างแน่นอน อาจจะฟังดูไม่คุ้นหู คุ้นตากับท่านี้ซักเท่าไหร่ เนื่องจากที่นี้ไม่ได้เป็นที่หยิบยกขึ้นมาใช้บ่อยนัก แต่ต้องบอกเลยว่าทางละคร บุพเพสันนิวาส ที่ได้หยิบท่านี้ขึ้นมาให้นักแสดงได้โชว์ลีลาท่ามวนท่านี้ ยอดเยี่ยมจริงๆ กับท่า “นาคขนดหาง” ให้ได้รับชมกัน

 

หนุมานถวายแหวน

     ท่านี้จะเป็นการใช้เชิงมวย และการแก้ทางมวยมือขวา ถ้าใครที่ได้ดูฉากในละครจะเห็นว่าท่านี้ก็พิษร้ายแรงใช้เล่นทำเอาคู่ต่อสู้เจ็บช้ำเลือดช้ำหนองกันเลยทีเดียว  เนื่องจากฝ่ายรับจะก้าวเท้ามาด้านข้าง พร้อมใช้หมัดซ้ายปัดหมัดขวาของฝ่ายรุก จากนั้นย่อตัวลงหลบหมัดตรงของคู่ต่อสู้ แล้วสวนกลับด้วยหมัดทั้งสอง เสยเข้าที่คางอย่างจัง ใครโดนเข้าไป มีน็อคกลางอากาศแน่

 

หักงวงไอยรา

     ท่านี้จะเป็นการใช้ศอกในการแก้ทางมวยและตัดกำลังขาคู่ต่อสู้ได้อย่างดี เนื่องจากมวยไทยจะมีการใช้ขาในการเตะอยู่หลายท่า ดังนั้นท่า หักงวงไอยรา จึงใช้ตัดกำลังขาของคู้ต่อสู้ ด้วยการใช้ศอกกระทุ้งที่โคนขา(อาจจะยากในการที่จะหาจังหวะ)  เพราะเมื่อคู่ต่อสู้ยกแขนเตะกวาดที่ชายโครงแล้ว ฝ่ายรับจะต้องก้าวเข้าหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว พร้อมหันหน้าไปตามทิศทางที่ฝ่ายตรงข้ามรุกเตะเข้ามา ให้กระแทกศอกอัดบริเวณโคนขา พร้อมใช้แขนจับล็อกที่หน่อง ยกให้ขาขึ้นสูง เพื่อให้เสียหลักป้องกัน

 

ยอเขาพระสุเมรุ

    ท่านี้ใช้ตั้งรับหมัดตรง หากคู่ต่อสู้นั้นเป็นมวยซ้าย ให้ก้มศีรษะลงให้หมัดของอีกฝ่ายผ่านศีรษะไป พร้อมกับสืบเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วใช้ความรวดเร็วและจังหวะปล่อยหมัดเสยปลายคางฝ่ายตรงข้ามทันที

 

     ท่ามวยที่ได้กล่าวไปข้างต้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของท่าแม่ไม้มวยไทยฉบับโบราณ และในฉบับมวยโบราณต่างๆ มีหลากหลายที่ยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมาให้ได้เห็นกัน ให้ได้ศึกษา หากใครที่เริ่มชอบและติดใจ กับศิลปแขนงนี้ Jaroenthong muay thai gym มีคลาสมวย พร้อมสอนศิลปะมวยไทยที่มีความสนุกและไม่น่าเบื่อให้คุณได้มาสัมผัสบรรยากาศกัน แล้วพบกันนะคะ  

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก undubzapp

มวยไทยมาจากไหน กันแน่

มวยไทยมาจากไหน

“ Muay thai ” มวยไทย ไม่มีปรากฏในสมัยใด มีเพียงตำนานที่กล่าวขานมาว่า เป็นศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว ตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัย เพื่อใช้ในการปกป้องอาณาจักรของไทยเรานั้นแหละ การต่อสู้ด้วยหมัด เท้า ศอก ศีรษะ แขน ขา ได้ถูกคิดค้นและกลั่นออกมาจากมันสมองบรรพชนชาวไทย จนมวยไทยนั้นเป็นศาสตร์ที่มีหลักสูตรเฉพาะตัว เช่นเดียวกับศิลปะศาสตร์ด้านอื่นๆ มวยไทยไม่ได้นิยมชมชอบเพียงแต่ในประเทศไทย ยังได้รับความสนใจจากนานาชาติอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศโซนยุโรปและทั่วโลก ซึ่งเป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

         

     กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงร่วมมือกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย และหน่วยงานภาพต่างๆได้มีการ ผลักดันให้มีการสถาปนา "วันมวยไทย” โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ กำหนดให้วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ของทุกๆปี จะจัดให้เป็นวันมวยไทย ซึ่งเป็นวันที่ตรงกันวันเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ (สมเด็จพระเจ้าเสือ) ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่มีพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์ และเป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียว ที่เสด็จออกไปชกมวยกับสามัญชน ตามบันทึกในพงศาวดาร (ฉบับพระราชหัตเลขา พ.ศ.๒๕๔๒) ที่กล่าวว่า

  

   พระเจ้าเสือ ทรงแต่งกายแบบชาวบ้าน เสด็จทางน้ำพร้อมเรือตามเสด็จ ไปขึ้นที่ตำบลตลาดกรวด ช่วงนั้นกำลังมีงานมหรสพและมีผู้คนไปเที่ยวชมงาน และมีการละเล่นมากมายหลายอย่าง และพระองค์ได้เสด็จไปยังสนามมวยและให้นายสนามจัดหาคู่ชกให้ โดยให้คนประกาศกับประชาชนทราบว่า พระองค์เป็นนักมวยจากเมืองกรุง ถึงทำให้ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก เพราะสมัยนั้นนักมวยในเมืองกรุงศรีอยุธยามีชื่อเสียงมาก นายสนามจึงได้จัดนักมวยที่มีฝีมือเท่าที่มีอยู่ มาเป็นคู่ชก กับ พระเจ้าเสือ ถึง 3 คนซึ่งแต่ละคนเป็นนักมวยที่มีฝีมือดี  แต่ด้วยพระปรีชาสามารถและความชำนาญในศิลปะมวยไทย ที่พระองค์ได้ทรงฝึกหัดและศึกษาจากสำนักมวยหลายสำนัก จึงทำให้พระองค์สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้ง ๓ คนได้ และได้รับรางวัลเป็นเงินหนึ่งบาท ส่วนผู้แพ้ได้สองสลึง ซึ่งพระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยกับการได้ชกมวยในคราวนั้นไม่น้อย

 

     จากการที่พระเจ้าเสือทรงพระปรีชาสามารถเกี่ยวกับมวยไทย จึงทรงคิดท่าแม่ไม้ ไม้กลมวยไทยขึ้นมาเป็นแบบเฉพาะพระองค์ เรียกว่า "มวยไทยตำรับพระเจ้าเสือ” จากที่ได้มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยรัชการที่ ๕ ซึ่งเป็นตำรามวยตำรับพระเจ้าเสือที่เก่าแก่ที่สุด เป็นมรดกทางภูมิปัญญาจากบรรพชนที่ได้รับการถ่ายทอดมาสู่ชนรุ่นหลัง และสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

 

     ในความเป็นไทย ระหว่างศิลปะการต่อสู้ และ การป้องกันตัว ที่เรียกว่ามวยไทย ไม่ได้จำกัดอยู่เพียง ในการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังคงมีนัยแฝงอยู่มากมาย เนื่องจากมีที่มารากเหง้าของชนเผ่าไทยและในฐานะ “มวยไทย”ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ เป็นทั้งวิถีชีวิต สังคม และจิตวิญญาณความเป็นไทย ที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอกราช เอกลักษณ์  ตลอดจนเพื่อรณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้ชนรุ่นหลังรำลึกถึงความเป็นมาของภูมิปัญญาแห่งชนชาติ ที่ได้รังสรรค์ “มวยไทย”ไว้เป็นมรดกการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์

 

     ในสมัยนี้หากต้องการจะชมศิลปะมวยไทยเหล่านี้ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยช่องทางหลากหลาย เช่นไลน์ ยูทูป หรือบนทีวีมีก็มีให้ชมหลากหลายช่องและหากอยากสัมผัสบรรยากาศจริง ก็ยังสามารถมาดูได้ที่ยิมมวย jaroenthong muay thai gym Khaosan ในเวที muay thai super champ หรือทางช่อง 8 ของเรานั้นเอง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

รู้หรือไม่ ทำไมต้องรำมวยก่อนชก

รู้หรือไม่ ทำไมต้องรำมวยก่อนชก

รู้ไหมทำไมถึงต้องมีการรำไหว้ครู แล้วทำไมต้องมีท่าทางต่างๆ ต้องบอกก่อนเลยว่า การทำความเคารพก็เป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามของคนไทยมาดั่งเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นการรำไหว้ครูที่เป็นจารีตประเพณีสำคัญในการแสดงความเคารพและยังเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งผู้เรียนฝึกฝนจะต้องมีการขึ้นครู เป็นสิ่งแรกด้วยเช่นกัน

     พูดง่ายๆว่าเป็นการฝากตัวเป็นศิษย์-อาจารย์ อยู่ในโอวาทย์ ของครูบาอาจารย์ แสดงถึงความความนอบน้อม ยอมรับเพื่อที่จะเรียนรู้ความกล้าหาญ และการเตรียมพร้อมในการที่จะฝึกฝนไปในขั้นต่อๆไป นักมวยจะต้องมีครู และต้องเคารพและเทิดทูนครู เพราะว่าการที่ครูยินยอมที่จะรับผู้ใครเป็นศิษย์นั้น ในอดีตกาลนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะในสมัยนั้นครูที่เป็นมวย มีฝีมือไม่ได้มีอยู่มากมาย และในการสอนไม่ได้คิดค่าบริการสอน แต่หากใครที่ต้องการจะเรียนจะต้องฝากเนื้อฝากตัวกับครู คอยปรนนิบัติอยู่เป็นเวลานาน จนกว่าจะได้รับการถ่ายทอดวิชาจนครบถ้วน เพราะสาเหตุครูมวยกับศิษย์ในสมัยก่อนนั้นจึงมีความสนิทใจราวกับพ่อกับลูก

     การไหว้ครูก่อนที่จะมีการแข่งขันมวยไทยเป็นข้อแตกต่างจากกีฬาอื่นๆ โดยเฉพาะ "คิกบ็อกซิง" (kick boxing) ที่ได้มีการลอกเลียนแบบการชกมวยของไทย แทบจะเหมือนกันทุกอย่างเพียงแต่ไม่ให้ใช้ศอกในการชกบนสนามและไม่มีการไหว้ครูก่อนเริ่ม ดังนั้น ในการรำไหว้ครูจึงถือเป็นจุดเด่น และเอกลักษณ์ของกีฬามวยไทยอย่างแท้จริง

 

ยศ เรืองสา ได้กล่าวถึงข้อควรปฏิบัติของผู้ฝึกมวย ในหนังสือ ตำรามวยไทยตำรับพระเจ้าเสือว่า นักมวยมีข้อพึงปฏิบัติดังนี้

 ๑) จงทำตนเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน

๒) จงสุภาพต่อคนทั่วไป

๓) จงเป็นผู้มีสันติธรรมไม่พาลเกเร

๔) จงเป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น

๕) ต้องเป็นผู้มีมานะบากบั่น ไม่ย่อท้อต่อทุกสิ่ง

๖) จงเป็นผู้เสียสละต่อหมู่ชน เมื่อประเทศชาติต้องการ

๗) จงสร้างแก่นแท้ของจิตใจให้แกร่งกร้าวเยี่ยงเหล็กเพชร

๘) จงเป็นผู้เห็นธรรมในหลักพระพุทธศาสนา และมีศีลธรรมประจำใจ

๙) ต้องเป็นคนตรงต่อเวลา รักชื่อเสียงและค่ายคณะของตน

๑๐) ต้องออกกำลังกายอยู่เสมอเป็นประจำ

๑๑) ต้องไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้ในทางผิดกติกา และศีลธรรม

๑๒) ต้องเคารพกฎหมายของบ้านเมือง

นอกเหนือจากการขึ้นครูก็จะมีการครอบครู นั้นหมายถึง การที่ศิษย์ได้ศึกษาศิลปะมวยไทยจนหมดสิ้นแล้ว และสามารถถ่ายทอดวิชาให้แก่ผู้อื่นได้ ก็จะทำพิธีครอบครูให้ 

 

ประโยชน์จากการร่ายรำไหว้ครู

การไหว้ครูสื่อความหมายให้เห็นคุณค่าด้านวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย มีคุณประโยชน์มากมายทางด้านจิตใจของนักมวยและผู้ชมมวย  ดังนี้

 

๑) ปลูกฝังนิสัยให้เป็นมวย คือ รู้จักรัก เคารพครูอาจารย์ บิดามารดา ผู้ให้กำเนิดมวยไทย

๒) ปลูกฝังจิตสำนึกให้ตระหนักในคุณค่าของศิลปะมวยไทย เกิดความรักและหวงแหนที่จะอนุรักษ์ให้คงไว้สืบไป

๓) เป็นกิจกรรมเผยแพร่เอกลักษณ์ และศิลปวัฒนธรรมประจำชาติได้อย่างสง่างาม สมศักดิ์ศรี

โดยหัวใจหลักๆของการร่ายรำไหว้ครู คือ การระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ที่ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชา และระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปกป้องคุ้มครองรักษาให้รอดพ้นจากภัยอันตราย ส่วนการร่ายรำถือเป็นการแสดงถึงความฮึกเหิม ไม่เกรงกลัวคู่ต่อสู้ และเป็นการอบอุ่นร่างกาย ยืดเส้นยืดสายไปด้วยในตัว รวมทั้งได้ดูชั้นเชิงคู่ต่อสู้ ดูสถานที่ในการหลบหลีก ขณะเข้าโรมรันพันตูกับคู่ต่อสู้

 

การร่ายรำไหว้ครู 

 

ท่ายืน ไหว้ทิศขวา

ยืนขึ้นย่างสามขุม หมุนไปทิศเบื้องขวา ไหว้ทิศเบื้องขวา ร่ายรำท่านกยูงรำแพน ปฏิบัติตามนี้ ๓ ครั้ง

ท่ายืน ไหว้ทิศซ้าย

ยืนขึ้นย่างสามขุม หมุนไปทิศเบื้องซ้าย ไหว้ทิศเบื้องซ้าย ร่ายรำท่าหงส์เหิน ปฏิบัติตามนี้ ๓ ครั้ง

ท่ายืน ไหว้ด้านหน้า-หลัง

ยืนขึ้นย่างสามขุม หมุนไปทางขวาจนไปถึงด้านหลัง ไหว้ทิศเบื้องหลัง พยักหน้า ๓ ครั้ง ทำท่าดูดัสกร ร่ายรำท่าพยัคฆ์ด้อมกวาง หมุนไปทางขวา ก้าวเท้าชิด ไหว้ทิศเบื้องหน้า

 

ในการไหว้ครูนั้นนับเป็นศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่มีความงดงามและเอกลักษณ์ของไทยและขาดไม่ได้เลยนั่นคือการแสดงความเคารพครูบาอาจารย์ ในปัจจุบันอาจจะหาดูได้ไม่ยากในทีวี ไม่ว่าจะเป็นช่องมวยไทย 7 สี แต่หากเป็นการแสดงและการสืบสานวัฒนธรรมเหล่านี้ก็ อาจจะหาดูได้น้อยแล้ว กลับกันที่ชาวต่างชาติกลับให้ความสำคัญกับมวยไทยของเราอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่มีการออกอาวุธที่คม สวยงาม ยังถือเป็นการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อให้ดูดีและยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ศิลปวัฒนธรรมของไทยอย่างมวยไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก และทั่วโลกต่างให้การยอมรับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สารานุกรมไทย

ท่าออกกำลังกายสไตล์นักมวย

ท่าออกกำลังกายสไตล์นักมวย

แน่นอนว่าการออกกำลังกายของหนุ่มๆ ต้องมีเป้าหมายที่จะหุ่นฟิตเฟริ์ม และเอาเจ้าไขมันส่วนเกินที่ติดตามเราตัวอยู่ตลอดเวลาออกไปจากชีวิต และอยากที่จะเห็นรูปร่างของตัวเองถอดเสื้อหุ่นปังๆ ในกระจกเวลาแทนที่จะมานั่งดูพุงห้อยย้อยลงพื้น

 

     ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเราด้วย เพราะหากเราคิด 10 ลงมือทำ 1 แน่นอนมันเกิดได้ขึ้นหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ อย่ารอที่จะเริ่มทำอะไรให้กับตัวเอง วันนี้ทาง Jaroenthong GYM ได้นำเอาเทคนิคต่างๆ เบิร์นไขมัน กล้ามสวย สาวๆ ต้องกรี๊ดอย่างแน่นอน โดยสามารถทำได้เองที่บ้านแถมประหยัดค่าใช้จ่ายไปอีกด้วย

 

Shoulder Presses

 

     ในการแข่งขันกีฬามวยนั้น หัวไหล่ที่แข็งแรง นั้นเป็นปัจจัยสำคัญ ในการชกเนื่องจากว่ากล้ามเนื้อมัดนั้นเป้นส่วนสำคัญที่ใช้ในการใช้ปล่อยหมัดออกไปและยังช่วยเป็นการ์ดป้องกันจากการโจมตีของคู่ต่อสู้

     ดังนั้นในท่า Shoulder Presses จะเป็นท่าเคล็ดลับในการสร้างกล้ามเนื้อของหัวไหล่อย่างดี โดยอุปกรณ์ที่ใช้เป็นหลักก็คือ ดัมเบล แต่ถ้าหากไม่มีจริง ๆ สามารถใช้ขวด จับให้มั่นคงจากนั้นดันพื้น และลง อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับท่าบริหารร่างกายส่วนบนอื่นก็จะทำให้คุณมีหัวไหล่ที่สวยงามราวและแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

 

Clap Press-Up

 

     อีกหนึ่งวิธีออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย ๆ แต่ใช้ได้ผลจริง และยังทำได้บ่อยครั้งตามใจต้องการอีกด้วย นั่นคือ Clap Press-Up โดยวิธีการก็แสนง่าย เพียงคุณใช้กำลังของมวลกล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบนออกมาให้หนัก ท่านี้ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มความเข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่มันยังช่วยมันยังช่วยปรับสัดส่วนของ Body Balance ซึ่งเป็นสิ่งที่นักมวยจำเป็นสำหรับนักมวยทุกคนด้วย

 

Plank

 

     เป็นหนึ่งในท่าที่ดูธรรมดาๆแต่ต้องบอกว่าหินมากกับการที่จะทำให้แกร่ง นับเป็นที่ทรมานที่สุดเนื่องจากต้องอาศัยความแข็งแร็งของกล้ามเนื้อแทบจะทุกส่วนเพื่อที่จะสามารถทำท่า Plank ให้แกร่งและนาน อย่างไรก็ตามในการออกกำลังกายต้องออกอย่างเหมาะสม และคู่ไปกับท่า Crunches และ Sit Up จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้ให้กลับร่างกายและช่วยให้หมัดหนักขึ้นอีกด้วย

 

Skipping

 

     ในการชกมวยนอกจากการชกแล้วก็ยังคงอาศัยความเร็วเพื่อนที่จะหลบหลีกหมัดของคู่ต่อสู้ที่ปล่อยออกมาดังนั้นความว่องไวของ Foot work การที่จะเพิ่มขีดความสามารถตรงจุดนี้สามารถทำได้โดยการเล่นท่าSkipping ใช้เพียงเชือก และที่โล่ง เท่านั้นคุณก็สามารถทำได้แล้ว Skipping ก็เป็นปัจจัยหลักของท่าฝึกฝนการเป็นมวยอาชีพที่ใช้ แถมยังเป็นทำที่ใช้รักษาสภาพร่างกายให้พร้อมอยู่เสมออีกด้วย

 

Push Ups

 

     ในส่วนของท่านี้ ค่อนข้างที่จะยากสำหรับคนที่ไม่เคยหรือไม่ค่อยได้ออกกำลัง “ Push Ups ” น่าจะเป็นอุปสรรคในช่วงแรก เพียงแค่คุณตั้งใจและพร้อมที่จะเปลี่ยนตัววเอง ท่าง่ายๆท่านี้คง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอาจจะเริ่มจาก ทำที่ละน้อยๆครั้ง แล้ว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะท่านี้ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อหลายส่วน หัวไหล่ แผงอก จะเป็นที่นิยมของนักมวยทุกคน ถ้าหากมีเวลาว่าง เราก็ควรที่จะPush Ups เป็นประจำทุกวัน

 

Sit-Ups

 

     ท่าเบสิคที่หลายไคนน่าจะรู้จักดี แต่พื้นฐานของท่านี้ที่เป็นหัวใจหลักของความเข็งแรงของนักมวยระดับโลกหลายๆคน เป็นการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อท้องส่วนกลาง และมันจะสร้างความมั่นใจของนักมวยที่จะไม่ต้องค่อยพะวงกับการลดการ์ดลงป้องกันลำตัว และเพิ่มโอกาสเดินหน้าแลกหมดแบบไม่กลัว

 

Squats

 

     ท่านี้เสริมความแกร่งในช่วงล่วง ซึ่งสำคัญมากกับการเคลื่อนไหวและความมั่นคงกับการยืน นักมวยที่ดีจะต้องมีการยืนที่มั่นคง เพื่อเข้าวงในใช้เทคนิคต่างๆ ในการจัดการคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา ในการ Squats จะช่วยเพิ่มความเข็งแรงและว่องไว และยังเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนต้นขาด้านหน้า-หลัง

การใช้ Squats และออกกำลังกายที่ใช้ส่วนสะโพกอื่นๆอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณช่วงล่างที่มั่นคงและแข็งแรงไม่แพ้ใครแน่นอน

 

Shadow Boxing

 

     Shadow Boxing  เรียกง่ายๆเป็นการเคลื่อนไหวตลอดเวลา นับเป็นการสร้างเทคนิคการชกที่ดีที่สุดในการฝึกซ้อม รวมไปถึงการรักษาน้ำหนักความความฟิตของร่างกาย ในการทำ Shadow Boxing เรานั้นสามารถทำได้ในทุกสถานที่ แต่จะมีสถานที่นึงที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ “ในบ่อทรายหรือชายหาด ”  เนื่องจากเทคนิคนี้นักมวยได้เริ่มเรียนรู้เทคนิค จากการที่ดูนักฟุตบอลที่เล่นตามชายหาด ซึ่งทรายจะช่วยยึดเหนี่ยวช่วงล่างของลำตัวเราไว้ ทำให้ขยับลำตัวช่วงบนของเราได้อย่างอิสระระหว่างที่ทำอยู่ ดังนั้นมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เทคนิคและการชกได้ดียิ่งขึ้น

 

Chin Ups

     

     ที่ขาดไม่ได้ไม่ได้เลยในการฟิตร่างกายช่วงบน หากท่านใดต้องการจะมีร่างกายช่วงบนที่แข็งแรงและสมส่วน  เน้นไปที่การเล่นท่า Chin up เพราะท่านี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ ช่วงแขน อก และหัวไหล่ ในท่าเดียว

 

     จะสังเกตได้ว่า ที่บ้านของเหล่านักมวยมักจะมีบาร์ที่สามารถยึด ไม่ว่าจะ ประตูบ้าน หรือ แทนบาร์สำหรับโหน เพื่อที่จะบริการกล้านเนื้อส่วนนั้นเป็นกิจวัตรของชีวิต เราไม่จำเป็นต้องไปเร่งรีบที่จะทำให้หนักขึ้นอย่างรวดเร็วควรเริ่มจากจำนวนครั้งที่ทำไหวก็พอ หากเป็นไปได้หาคนคอยเซฟในการยกตัวในช่วงแรกก็จะดีกว่าการหักโหมมากเกินไป อาจจะทำให้อันตรายถึงขั้น กล้ามเนื้อฉีกขาดหรือเกิดอาการบาดเจ็บ ซึ่งมันส่งผลให้เราเสียโอกาสต่างๆในการออกกำลังกาย

 

Burpees

 

     ท่าที่ขึ้นชื่อเรื่องความ ยากและเหนื่อยแทบขาดใจ และ Burpee ยังคงเป็นท่าที่ยากที่สุดใน 10 ท่าที่กล่าวมา แต่ท่านี้ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นหัวใจ และเป็นเห็นผลดีที่สุดของการออกกำลังกาย เป็นการเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่ส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกายหากใครที่อยากจะมีรูปร่างที่สมส่วนอลองท่านี้เลย “Burpee” ต้องออกให้ถูกต้อง ลองดูท่าที่ถูกต้องในวิดีโอที่ถูกต้องใน Youtube ได้เลย ไม่ยากอย่างที่คิด

 

     คงไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยในทันที การเริ่มต้นนั้นเป็นสิ่งสำคัญ วินัย ความอดทน สร้างpassion ให้กับตัวเอง  sixpack ของคุณก็จะผุดขึ้นมาในไม่ช้า อย่าลืมที่จะดูแลตัวเองและสุขภาพด้วยนะครับ

ออกกำลังกายในร่ม หนีฝน หนีฟ้า มีอะไรบ้าง

ออกกำลังกายในร่ม หนีฝน หนีฟ้า มีอะไรบ้าง

เชื่อว่าสำหรับใครหลาย ๆ คนที่มีความชื่นชอบรักในการออกกำลังกายแต่แน่นอนว่าอุปสรรคไม่มาสามารถเลือกที่เกิดได้ อย่างในช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้น ฤดูฝน ทำให้เราไม่สามารถออกไปเล่นกิจกรรมกลางแจ้งได้เพราะฝนตกอาจจะเกิดความไม่สะดวกทั้งด้านการเดินทาง รถติด เชื้อโรคที่มากับฝนทำให้ไม่สบายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำกิจกรรมตอนเล่นกีฬาอีกด้วย วันนี้เรามีกีฬาที่สามารถเล่นได้ในฤดูฝน เราไปดูกันว่ามีกีฬาอะไรบ้าง

 

ซ้อมชกมวย

     ซ้อมชกมวย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหมือนเป็นการออกกำลังกายและมีความมันส์ สนุกสนาน และเผาผลาญแคลอลี่ได้ดีมากในเวลาเดียวกัน เนื่องจากว่า มวยเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่เรียกเหงื่อได้อย่างมากเพราะใช้ร่างกายเกือบทุกส่วนทั้งแขน ขา ลำตัว จึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ดี ส่วนเรื่องสถานที่ส่วนใหญ่ค่ายมวยจะอยู่ในร่ม เรื่องฝนจึงไม่เป็นปัญหากับกีฬาประเภทนี้ เอาความอึดอัดและความเครียดจากที่ทำงานไประบายอารมณ์โดยการชก เตะ ต่อย ให้หายเครียดกับงานกันดีกว่า

 

แบดมินตัน

     แบดมินตันเป็นกีฬาที่ต้องใช้สมรรถภาพร่างกายที่ดี ทั้งด้านความแข็งแรง ความอดทน การทำงานสัมพันธ์กันของประสาทกับระบบกล้ามเนื้อ พลังความยืดหยุ่นของอวัยวะต่าง ๆ ความคล่องตัว ฯลฯ ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างนี้จึงจำเป็นว่าคนที่จะสามารถเล่นแบดมินตันได้ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง อวัยวะทุกส่วนได้รับการพัฒนาอยู่เสมอโดยเฉพาะข้อมูล ขา แขน และสายตา กีฬาประเภทนี้ต้องอาศัยความฉลาดและไหวพริบสูงจึงสนุกมากเมื่อได้เล่นกับคู่แข่งที่มีชั้นเชิงพอ ๆ กัน แค่เลือกคอร์ตในร่มก็สนุกกับการแข่งขันชิงไหวพริบกับเพื่อนในแก๊งได้แล้ว

 

เต้นซุมบ้า

     การออกกำลังกายเต้นซุมบ้า คือ การออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ผสมผสานท่าเต้นสไตล์ลาตินอเมริกา เวลาเต้นจึงเหมือนกับการที่เราได้ระบำหน้าท้อง แอโรบิก และฮิปฮ็อปไปด้วยกัน แถมเสียงเพลงลาตินที่เร้าอารมณ์ยังทำให้เราอยากเต้นซุมบ้าเป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนานและถ้าได้เต้นซุมบ้าไปกับเพื่อน ๆ ยิ่งทำให้เพลิดเพลินไปด้วย ทำให้เราออกกำลังกายได้นานขึ้นแบบไม่รู้สึกเบื่อหน่ายและยังสามารถเผาผลาญไขมันได้ดี

 

ฟุตซอลในร่ม

     การเล่นฟุตซอลในร่มถ้าเราลองเปลี่ยนมาเล่นในร่มก็สนุกไม่แพ้กัน แถมยังไม่เปียกฝนเมื่อฝนตกอีกด้วย ไปเสียเหงื่อกับแก๊งเพื่อนได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไรกันดีกว่า

 

     การออกกำลังกายนั้นดีต่อสุขภาพ ไม่จำเป็นว่าเราต้องออกกำลังกายกลางแจ้งเพียงอย่างเดียว ในสถานการณ์หน้าฝนแบบนี้กีฬาในร่มก็สร้างประโยชน์ได้ไม่แพ้กันอย่าลืมดูแลสุขภาพกันได้นะคะ

 

ปีนหน้าผาจำลอง

     ปีนหน้าผาจำลอง คือ การท้าทายความแข็งแรงและจิตใจเพราะต้องจับ เกาะ ยึดเหนี่ยวและโหนตัวไปบนหน้าผาที่ทั้งสูงและเสียว  นอกจากจะได้เหงื่อแล้วได้ความตื่นเต้นและไหวพริบมากขึ้น คนที่ชอบความท้าทายเลือกหน้าผาจำลองในยิมหรือศูนย์กิจกรรมไปประลองกับแก๊งเพื่อนดูก็ได้ รับลองว่าทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก

 

ขอขอบคุณข้อมูล generail

How to ออกกำลัง ให้ได้ผลดีกับสุขภาพ

How to ออกกำลัง ให้ได้ผลดีกับสุขภาพ

บทบาทของ พี่เลี้ยง ตามกติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai )


 

ในขณะการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวยทุกคน จำเป็นต้องมี พี่เลี้ยง คอยดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ ให้กับ นักมวย โดยพี่เลี้ยง จะมีบทบาทตาม กติกาการแข่งขัน มวยไทย ( Muay Thai ) อย่างไรบ้าง มาติดตามกันครับ


 

กีฬา มวยไทย ( Muay Thai ) นักมวย ที่จะต้องทำการแข่งขันได้ จำเป็นต้องมี ผู้ฝึกสอน และสังกัดค่ายมวย โดยบทบาทของ ผู้ฝึกสอนมวยไทย แน่นอน ก็คือ การถ่ายทอดวิชาความรู้ของ มวยไทย ( Muay Thai ) ในทุกรูปแบบให้กับลูกศิษย์ หรือนักมวยผู้นั้น ซึ่งบทบาทของ ผู้ฝึกสอน ไม่ได้มีแค่ก่อนการแข่งขัน แต่อย่างมีบทบาทสำคัญต่อการแพ้ชนะของนักมวยในส่วนหนึ่งได้อีกด้วย


 

ในการแข่งขันมวยไทย ( Muay Thai ) ผู้ฝึกสอนนักมวย จะถูกเปลี่ยนบทบาทเป็น "พี่เลี้ยง" ซึ่งจะมีบทบาท และข้อปฏิบัติตามกติกา ดังต่อไปนี้


 

1. พี่เลี้ยง จะแนะนำ ช่วยเหลือหรือส่งเสริมผู้แข่งขันของตนในระหว่างการชกกำลังดำเนินอยู่ไม่ได้ ถ้าพี่เลี้ยงละเมิดกติกา อาจถูกตำหนิโทษ หรือให้ออกจากหน้าที่นักมวยของเขา อาจถูกผู้ชี้ขาดเตือน ตำหนิโทษ หรือให้ออกจากการแข่งขัน อันเนื่องมาจาก การทำผิดของพี่เลี้ยง


 

2. พี่เลี้ยงจะยอมแพ้แทนผู้แข่งขันของตนเช่นโยนฟองน้ำหรือผ้าเช็ดตัวเข้าไปในสังเวียนไม่ได้


 

3. ในระหว่างการชกพี่เลี้ยง จะต้องอยู่ในที่นั่งของตน ก่อนเริ่มการแข่งขันในแต่ละยกให้พี่เลี้ยงนำผ้าเช็ดตัวขวดน้ำ ฯลฯ ออกไปจากขอบสังเวียน


 

4. ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่มุมระหว่างพักยก พี่เลี้ยงต้องตรวจดูเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ของนักมวยของตนให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย พร้อมแข่งขันก่อนสัญญาณของยกต่อไปจะดังขึ้น และถ้ามีเหตุที่นอกเหนือความสามารถพี่เลี้ยงจะต้องรีบแจ้งให้ผู้ชี้ขาดทราบทันที ถ้าพี่เลี้ยงละเมิดกติกาอาจถูกตำหนิโทษหรือให้ออกจากหน้าที่ นักมวยของเขาอาจถูกผู้ชี้ขาดเตือนหรือตำหนิโทษได้


 

5. การให้น้ำนักมวย พี่เลี้ยงจะต้องไม่ให้น้ำนักมวยของตน จนเปียกชุ่มและต้องไม่ทำให้พื้นเวทีเปียกลื่น จนอาจเป็นอันตรายกับคู่แข่งขัน


 

6. พี่เลี้ยง ต้องสวมเสื้อแสดงสัญลักษณ์คณะนักมวยของตนให้สุภาพเรียบร้อย


 

7. ห้ามพี่เลี้ยงใช้วาจาไม่สุภาพ หรือทำร้ายนักมวยของตน ระหว่างการแข่งขัน และภายหลังการแข่งขัน


 

8. ถ้าเป็นการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์เปี้ยน หรือป้องกันตำแหน่ง ให้มีพี่เลี้ยงได้ฝ่ายละ 3 คน แต่ในการพักระหว่างยก พี่เลี้ยงจะเข้าไปในสังเวียนได้ เพียง 2 คนเท่านั้น


 

9. ในการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์เปี้ยน หรือป้องกันตำแหน่งประธานผู้ตัดสินจะต้องจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้ชี้ขาดผู้ตัดสิน ผู้จัดการ และพี่เลี้ยงนักมวย เพื่อเน้นให้ทุกคนทราบว่า การไม่ปฏิบัติตามกติกานี้อาจไม่เพียงถูกตัดคะแนนเท่านั้น แต่ยังอาจถูกตัดสินให้แพ้หรือให้ออกจากการแข่งขัน


 

จากบทบาททั้งหมดเหล่านี้ พี่เลี้ยง หรือผู้ฝึกสอน ถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญอย่างมาก ในการดูแลความเรียบร้อยของนักมวยในเรื่องต่าง ๆ เช่น คอยนวดกล้ามเนื้อ ซับหน้า ซับเลือด ให้น้ำดื่ม พร้อมกับวางแผนแนะนำกลยุทธที่ใช้ในการต่อสู้ ให้กับนักมวยต่อสู้กับคู่แข่งขันได้


 


 

อ่านบทความเพิ่มเติม

กติกา การจำแนกรุ่น มวยไทย ( Muay Thai )

รีดไขมัน ลดน้ำหนัก สไตล์ มวยไทย ( Muay Thai )


 

พี่เลี้ยง, พี่เลี้ยงนักมวย, หน้าที่พี่เลี้ยง, การแข่งขัน, แข่งขันมวยไทย, นักมวย, มวย, มวยไทย, Muay, Muay Thai, boxing, Thai boxing, เรียนมวย, ต่อยมวย, ชกมวย, ยิมมวย, ฝึกมวย, ข้าวสาร, มวยไทยข้าวสาร, ยิมมวยไทย


 


 


 

A PHP Error was encountered

Severity: Core Warning

Message: PHP Startup: Unable to load dynamic library 'i360.so' (tried: /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so (libhs_runtime.so.5: cannot open shared object file: No such file or directory), /usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so (/usr/local/php74/lib/php/extensions/no-debug-non-zts-20190902/i360.so.so: cannot open shared object file: No such file or directory))

Filename: Unknown

Line Number: 0

Backtrace: